M1,558 reviews207 followersFollowFollowAugust 7, 2016เล่มสุดท้าย ที่ไม่อยากให้เป็นเล่มสุดท้ายเลย ฮืออเล่มนี้แทบจะเปลี่ยนไปจากเล่มแรกเลย คล้ายๆ HP ตรงที่ยิ่งโต เรื่องก็จะยิ่งเยอะ เพียงแต่ของเฟรินไปไม่ถึงปีสุดท้ายด้วยซ้ำ เพราะเกิดสงครามขึ้นมาก่อน เริ่มฉากคือการหนีของเฟรินที่ถูกตามล่ามาจากการพยากรณ์ของแหวนแห่งปราชญ์ในเล่ม 3 หนีกันหัวซุกหัวซุนทีเดียว แถมมีหมากเกียรติยศให้ได้ลุ้นตั้ง 2 เกมใหญ่ๆ อย่างกะคู่ชิงแชมป์ เฉือนกันไม่ลงเลยทีเดียว สนุกมากกกกในภาคนี้จะได้ย้อนเวลากลับไปดูความหลังรุ่นพ่อแม่ของตัวละครกันด้วย ชอบวิลเลี่ยมมากๆ ฉลาดพูดจริงจัง แถมลุ้นเอามากกับเกมหมากรุกที่สู้กับเอวิเดส แหม่.. อารมณ์ค้างมากกก น่าติดตามสุดๆ จริงๆ ได้เห็นความรักที่เฟรินให้แม่ตัวเอง (โดยที่แม่ก็ไม่รู้ว่านางคือลูก) แล้วก็พบปมของว่าที่คิงนักรบบาโร รักรันทดจริ๊งงง เล่มนี้จะออกดราม่าค่อนข้างเยอะไม่ว่าจะเป็นปมของตัวละครแต่ละตัวที่มีหน้าที่ค้ำคอกันหมด แต่หัวใจมันไพล่ไปอีกทาง ทำเอาคนอ่านหัวใจปวดหนึบกันเลยทีเดียว แต่จะมาก็ท้ายๆ เรื่องหลังจากเฟรินกับคาโลแยกกันไปแล้ว อย่างว่าอ่ะนะ คนนึงเป็นเจ้าชายลูกคิงนักรบ อีกคนเป็นเจ้าหญิงแดนปีศาจ ต้องห้ำหั่นกันเป็นธรรมดา และถึงแม้ว่าจะจบดี แต่ก็มีจุดที่น้ำตาไหลได้อยู่ หัวใจบีบรัดก็บ่อยครั้ง ได้เห็นถึงความรักของพ่อ-ลูก รักของคู่รัก รักของเพื่อน แถมจำแนกเป็นแอบรัก รักเค้าข้างเดียว รักแต่บอกไม่ได้ รักแต่รักกันไม่ได้ รักแต่ต้องฝืนไม่รัก ฯลฯ เยอะดีนะผู้เขียนผูกปมได้ค่อนข้างดีสำหรับตัวละครแต่ละตัว ซึ่งก่อให้เกิดเป็นลักษณะนิสัยเฉพาะของตัวละครนั้นๆ และพอได้อ่านถึงปม เบื้องหลังเบื้องลึกของตัวละครแล้วจึงเข้าใจว่าทำไมถึงมีพฤติกรรมอย่างที่แสดงออกมา สิ่งที่ประทับใจคือ คาแรกเตอร์ตัวละครไม่เปลี่ยนไป แม้ว่าจะเจอเรื่องร้าย หรือเหตุการณ์แย่ๆ เข้ามา ตัวละครก็ยังคงความเป็นตัวละครนั้นๆ ได้อย่างดี เช่นเวลาที่ตัวละครทำอะไรซักอย่าง คนอ่านก็ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงว่าทำไมทำอย่างนั้น กลับรู้สึกว่า "เออ สมกับเป็นเฟริน" "สมกับเป็นคิล" "โอ๊ยยย คาโลทำแบบนี้อีกแล้ววว" อะไรประมาณนี้ ซึ่งทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าได้รู้จักตัวละครจริงๆ และรู้จักกันมากขึ้นนอกจากนี้ยังบาลานซ์อารมณ์ของหนังสือได้ดี ไม่ใช่บทจะหนักก็หนักมันซะทั้งเรื่อง แต่สลับไปมาระหว่างหนัก แทรกความตลกขบขันโดยมีพื้นจากนิสัยของตัวละครเป็นตัวสร้างความสนุกสนาน และยังแฝงความหวานลงไปในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครได้อีก เรื่องของความรัก เรื่องนี้ไม่ได้เน้นแค่คู่พระ-นาง ที่แสดงความรักกันออกหน้าออกตา แต่นอกจากนานๆ ทีจะหวาน แรบบิทยังจุดประกายให้ผู้อ่านคิดต่อถึง "ความน่าจะเป็น" ของคู่อื่นๆ ว่าคนนี้อาจจะแอบรักคนนี้ สองคนนี้น่าจะรักกัน ซึ่งทั้งหมดก็แล้วแต่ผู้อ่านจะคิดประมวลออกมาจากการกระทำของตัวละครในเรื่อง ทำให้อรรถรสของผู้อ่านได้ไม่เหมือนกันสุดท้ายตลอดเรื่องก็ยังแทรกเนื้อหาที่สามารถสอนใจได้ตลอด จบซีรียส์นี้บางปมผู้เขียนก็เฉลยให้ผู้อ่านรู้บางจุดเพิ่มเติม แต่บางปมผู้เขียนก็ว่าอยากจะปล่อยไว้เพื่อให้ผู้อ่านไปจินตนาการต่อกันเอง... ฮือออออกราบล่ะค่ะ ช่วยมีผลงานออกมาอีกเถอะนะเค้าคิดถึงเฟรินและคาโลboy-i-wish-they-exist cannot-put-down favorite-boys ...more
Wanrada | 丽达46 reviews21 followersFollowFollowApril 12, 2021✿ 3 stars - มันจะมีบาง quote ที่เราจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ แต่นึกไม่ออกจริงๆ ว่าเคยเห็นหรืออ่านมาจากไหน สรุปพอกลับมาอ่านถึงรู้ เอ้า ชั้นเอามาจากบารามอสหรือนี่ สำหรับวรรณกรรมเยาวชนถือว่าบารามอสมีความคมคายเลยทีเดียว โดยเฉพาะเล่ม 3 และ 4 หลายประโยคที่ผู้เขียนจงใจทิ้งไว้พออ่านตอนโตขึ้นแล้วนี่ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปเลยปล. เพิ่งไปเจอมาว่าคิล inspired มาจากคิรัวร์ ถึงว่าตอนอ่านนี่รู้สึกเอ๊ะหลายรอบมาก 55555 ตัวละครโปรดทั้งสองของชั้น
THEOENG125 reviews14 followersFollowFollowOctober 26, 2016เมื่อก่อนเคยชอบเล่มสามมากที่สุด แต่โตมาเรากลับชอบเล่มนี้มากกว่าแฮะ เนื่องจากตอนอ่านครั้งแรกเด็กมาก ไม่เข้าใจ มันดูลึกลับซับซ้อนวกวนไปหมด พอมาอ่านตอนนี้ชอบเลย แล้วในอนาคตถ้าเราหยิบกลับมาอ่านซ้ำ น่าจะตกตะกอนประเด็นใหม่ขึ้นมาได้อีกแน่ๆ แบบว่า อ่านตอนเด็กกับตอนโต จะเจอสิ่งที่ไม่เหมือนกันเลยในหนังสือเล่มเดียวกัน เหมือนต้มซุปกระดูกหมูเลยเนาะ ยิ่งเคี่ยวทิ้งไว้นาน ยิ่งหวาน ยิ่งอร่อย 5555 "..การปกครอง ย่อมต้องสละส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่ ต้องสละบางสิ่งเพื่อรักษาส่วนรวม และอาจต้องสละใครบางคน เพื่อบางอย่าง... เมื่อไม่เข้าใจหัวใจการปกครอง ท่านก็เป็นได้เพียงแค่นักรบ.. มิใช่กษัตริย์" เล่มนี้ต่างกับเล่มแรกแบบคนละโยชน์ จากการ์ตูนๆกลายเป็นหนัก เหมือนค่อยๆโตขึ้นพร้อมตัวละคร สงครามกันตั้งแต่ต้นเล่ม ปมซับซ้อนวุ่นวายไปหมดแต่เราชอบมากกกก หน้าที่กับความรัก สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ หลายจุดในหนังสืออ่านแล้วกระทบใจมาก ทุกประโยคมีนัยยะซ่อนจนเราต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมาเพื่อจะจับว่าอีคนพูดมันจะสื่ออะไร จะเชือดเฉือนกันไปถึงไหน ตอนดู GOT บางแวบยังนึกถึงเจ้าพวกนี้เลย (รู้ว่าเทียบไม่ได้หรอกแต่มันนึกถึง) ฝีปากพวกเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินนี่ เหลือเกินจริงๆ"หมาสามตัวที่ไม่เจียมกะลาหัว กล้าไปเห่าหอนถึงในถิ่นเดมอส ไม่รู้ซะบ้างว่าอำนาจท่านจ้าวกว้างใหญ่ดั่งผืนฟ้า ยิ่งใหญ่ดั่งขุนเขา" "จริงท่าน ลมปากเดียวนั่นมีหรือจะพัดภูเขาสูงที่ไหนให้เคลื่อนได้.." จุดแข็งเรื่องนี้อีกอย่างคือคาแรกเตอร์ตัวละครที่มันชัดมาก ตั้งแต่เล่มแรกยันเล่มท้ายทุกตัวคงนิสัยตัวเองได้ไม่มีหลุด มีการเผยปูมหลังที่ทำให้เราค่อยๆมองเห็นว่าเขามีนิสัยแบบนี้ได้ยังไง แทบจะรู้เลยว่าในสถานการณ์นี้ อีคนนี้ต้องทำแบบนี้แหงๆ จนเกิดความรู้สึกเข้าใจและผูกพันเหมือนเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เรารู้จักจริงๆ ตัวละครประกอบอื่นก็ดี โดยเฉพาะวิลเลี่ยมที่เพิ่งมาโผล่เล่มนี้ แถมออกโคตรน้อย แต่แย่งซีนชนะขาดลอยมาก แรบบิททำให้คนจดจำเขาได้ขนาดนี้ในจำนวนไม่กี่หน้าเท่านั้น "อำนาจที่แสวงหาจากภายนอก ไม่เคยเป็นนิรันดร เพราะมีเพียงชัยชนะเหนือใจตนเองเท่านั้น ที่เป็นนิรันดร.." มีคิงริชาร์ดอีกคนที่เราอ่านละแบบ แม่เจ้าว้อยยยย คนๆนี้มันจะเผ็ชชชชอะไรขนาดนี้ ทั้งฝีมือและฝีปาก ทำเจ้าชายโรเวนที่ว่าแน่เงิบไปเลย 5555ซีรี่ส์นี้เราหยิบมาอ่านเรื่อยๆได้ไม่เคยเบื่อ มันครบทุกรสชาติเท่าที่หนังสือเรื่องนึงจะให้ได้ สนุกที่ได้เริ่มต้นเดินทางไปกับพวกเขา ใจหายตอนอ่านจบเหมือนกำลังจะจากกับเพื่อนรัก รู้สึกเศร้าและรู้สึกอบอุ่นไปพร้อมๆกัน แถมคุณแรบบิทก็ดันไม่ยอมจบบริบูรณ์ให้ไปคิดต่อกันเอาเองอีก มันเลยรู้สึกว่าเรื่องนี้มีชีวิต ตัวละครยังดำเนินเรื่องต่อไปเมื่อเราปิดหนังสือ ถ้าคิดถึง เราก็แค่หยิบมาอ่านใหม่ (และแน่นอน มีฟิคชั่นเกิดจากเรื่องนี้เป็นพันๆหมื่นๆเรื่อง เพราะคุณแรบบิทจบปลายเปิดไว้เนี่ยแหละ 5555)พูดถึงข้อเสียมันก็มีเยอะนะ นอกจากพล็อตโฮล บทบรรยายไม่ค่อยละเอียด ความไม่สมเหตุสมผลบางอย่างแบบอ่านๆไปรุสึกเห้ย!!! นี่คนแต่งมันขี้เกียจรึไงวะ ทำไมขมวดปมเอาง่ายๆยังงี้ วางมาเกือบจะดีแต่ดันไปไม่สุด แต่!!! มันก็มีข้อดีของมัน ข้อดีที่หักลบไอ้พวกนี้ไปได้ สิ่งที่มันประทับใจคือนอกจากบทพูดที่ดูฉลาดแล้ว ก็น่าจะเพราะสารที่คนแต่งต้องการจะสื่อกับคนอ่าน ข้อคิด ประเด็นหนักพวกเกือบๆปรัชญาศาสนา เค้าก็กล้าเอามาสอดไส้ไว้ในหน้าหนังสือที่ดูสไตล์วัยรุ่นเฮฮาได้อย่างลงตัว ยากนะ ไม่เคยเจอเรื่องไหนเหมือนเรื่องนี้เลย แม้แต่วรรณกรรมเยาวชนดังๆอย่าง Harry, Percy ก็ให้ความรู้สึกแบบตอนอ่านเรื่องนี้ไม่ได้แอบหวังลมๆแล้งๆ ว่าสักวันจะมีคนเอาไปแปลขายเมืองนอก จะว่าอวยก็ได้ แต่มันควรค่าแก่การเผยแพร่ ไม่อยากให้หยุดแค่ในประเทศไทย อยากให้ดังไกลไปถึงหนัง ซีรี่ส์ อนิเมชั่น ยังงั้นเลย (จริงๆบรรยากาศในเรื่องมันก็มีกลิ่นอายตะวันตกอยู่)เรื่องนี้มันสนุกไม่น้อยไปกว่าพวกที่ฟาดฟันกันอยู่บนชาร์ต NYT Bestseller เลยล่ะ
Rosy94 reviews7 followersFollowFollowSeptember 18, 2015เล่มนี้ถือเป็นเล่มสุดท้ายของหนังสือชุดหัวขโขมยแห่งบารามอสซึ่งถือว่าเป็นเล่มจบที่อลังการมากในเล่มนี้สงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจได้เกิดขึ้น นักเรียนทุกคนในโรงเรียนพระราชาต่างก็ต้องเข้าร่วมทำสงครามปัญหาจึงเกิดกับเฟรินเนื่องจากตนเองถือเป็นลูกครึ่งปีศาจ จึงทำให้เป็นที่ต้องการพระราชาทั้งหลาย เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจต่อรองกับราชาปีศาจถือเป็นหนังสือที่แต่งได้ดีมาก เล่มนี้เราจะเห็นได้ว่าแม้ตัวละครทุกตัวจะเป็นเหมือนพี่น้องกันเมื่ออยู่ในโรงเรียนพระราชา แต่ในยามศึกสงครามทุกคนต่างก็ต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประชาชนและประเทศของตนเอง ผู้แต่งสามารถทำให้เราเข้าใจถึงจิตใจของตัวละครได้ดี เพราะในภาคนี้เราจะได้รู้ถึงเรื่องราวในอดีตของตัวละครหลายคน ทำให้เรารู้สึกว่าการกระทำของทุกคนเกิดความสมเหตุสมผล นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้สอนให้เรารู้จักกับคำว่าหน้าที่กับความรัก เพราะบางครั้งเราไม่อาจเลือกทั้งสองสิ่งนี้ได้ และการกระทำทุกอย่างย่อมมีผลลัพธ์ตามมาสิ่งที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกเศร้าเมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้มีอยู่สองอย่างหนึ่งคือ เนื้อเรื่อง จำได้ว่าครั้งแรกๆที่อ่านหนังสือเล่มนี้ เราจะร้องไห้ทุกครั้ง อ่านกี่รอบๆน้ำตาก็จะซึมๆตลอด และสองคือเราไม่อยากให้หนังสือเล่มนี้ต้องจบเลยแม้ว่าเล่มสุดท้ายนี้จะหนามากเมื่อเทียบกับเล่มอื่น แต่ผู้แต่งสามารถดำเนินเนื้อเรื่องได้ดี จึงอ่านได้อย่างไหลลื่น และไม่รู้สึกสะดุดหรืออืดอ่านจบแล้วใจนึงก็อย่างให้มีภาคต่อๆไป แต่อีกใจนึงก็คิดว่าการจบแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว แต่รู้สึกจะเอนเอียงไปทางภาคใหม่เสียมากกว่า 55+favorites fun-read make-me-cry-a-lot ...more
Ploy Blackomojii3 reviewsFollowFollowOctober 21, 2018เล่มนี้เป็นเล่มที่อ่านนานที่สุด มันหนาสุดและไม่อยากให้มันถึงหน้าสุดท้ายด้วย นิยายเรื่องนี้อ่านแล้วเครียดขึ้นทุกเล่มเลย ภาคแหวนแห่งปราชญ์นี่อ่านแล้วความดันขึ้นนิดๆ เจอเล่มนี้เข้าไปแทบจะร้องไห้ (อ่านตอนยังเด็กๆก็งี้ จิตใจเปราะบาง) ตอนนี้ก็ยังรู้สึกผูกพันกับหนังสือทั้ง 4 เล่มนี้มาก ซื้อเล่มมงกุฎแห่งใจตั้งแต่ยังพิมพ์ว่าผมคาโลเป็นสีทอง5555 สุดท้ายก็ติดจนต้องตามอ่านทันทีที่ตีพิมพ์ แรบบิททำตอนจบได้ดีกว่านิยายทั่วไปตรงท่ีมันไม่จบบริบูรณ์ คนอ่านยังจินตนาการต่อได้ ปมหลายปมก็ยังไม่ถูกแก้แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องแก้เพราะมันไม่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องหลัก เรียกได้ว่าเป็นนิยายที่รักรองจากแฮร์รี่พอตเตอร์เลย
Piyatida Tepphitak1 review1 followerFollowFollowWant to readDecember 29, 2013http://www.goodreads.com/book/show/13...#
Poybity5 reviews1 followerFollowFollowApril 26, 2015หนังสือชุดนี้...หยิบขึ้นมาอ่านกี่รอบก็รู้สึกว่ามันไม่จบ อยากอ่านอีกเรื่อยๆ พออ่านถึงหน้าสุดท้ายจะรู้สึกเหงา เหมือนขาดอะไรไปรักตัวละครทุกตัว
Lalita T.vongs8 reviewsFollowFollowApril 30, 2018ถ้าจะหาคำมาบรรยายเล่มนี้ซึ่งถือเป็นบทสรุปของเรื่องแล้วล่ะก็ สำหรับเรามันคือคำว่า สมบูร์ณแบบ มีทั้งแอคชั่น คอมเมดี้ (ถึงจะน้อยถ้าเทียบกับภาคแรกๆ) โรแมนติก เรียกได้ครบเครื่องทุกอย่าง แต่ที่พีคสุดน่าจะเป็นดราม่าต่างๆที่ค่อยๆปล่อยออกมาเมื่อเงื่อนงำเกือบทั้งหมดได้รับการคลี่คลาย อ่านไปก็รู้สึกนอยด์ไป เห็นใจตัวละครแต่ละตัวไป สิ่งที่เราชอบที่สุดเกี่ยวกับภาค 4 คือการเนื้อเรื่องที่เป็นตัวของตัวเองและพัฒนาของตัวละครทุกตัวที่แตกต่างจากแรงบรร���าลใจเดิมของผู้เขียนโดยสิ้นเชิง ทำให้รู้กว่านี้แหละวรรณกรรมที่ควรค่าแก่การอ่านมาก ยังจำได้เลยว่าพออ่านมาถึงหน้าสุดท้ายตาก็เริ่มพร่า ก็เหมือนกับแฟนหนังสือหลายๆคนที่ไม่อยากให้จบเลย แต่พอมานึกดูก็คิดว่าจบแบบนี้แหละดีแล้ว จะถือว่าจบแบบ happy ending ก็น่าจะได้ถึงแม้จะไมไ่ด้มีฟีลแบบ happy ever after เพราะเป็นการจบที่สรุปปรเด็นหลักหลายๆอย่างแต่ก็ยังเรื่องให้คิดต่อ เพราะทุกวันนี้เราก็ยังนึกถึงหัวขโมยแห่งบารามอสอยู่เรื่อยๆ และก็คงจะไม่มีวันลืมด้วย thai-lit
Natcha Sittichaikan54 reviews1 followerFollowFollowApril 1, 2019เล่มนี้เป็นเล่มที่ดีที่สุดในแง่คำสอนและปรัชญา มีการแทรกแนวคิดอะไรหลายอย่าง และทำให้เรารู้จักตัวละครหลายๆ ตัวได้มากขึ้น คนทุกคนมีด้านมืดด้านสว่าง จุดอ่อนจุดแข็ง หน้าที่ของคำว่ากษัตริย์ คืออ่านแล้วรู้สึกเหมือนบรรลุ (เว่อร์ไปมั้ย 5555) เราชอบตัวละครวิลเลี่ยมมาก คือยอมรับเลยว่าเฮียแกคือจอมปราชญ์จริงๆ คือเล่มนี้มันรวมอะไรหลายอย่างเยอะมาก เล่าได้ไม่หมด แต่มันดีจริงๆ เสียดายอย่างเดียวคือตอนจบ เป็นแบบปลายเปิดให้คนอ่านคิดต่อกันเอง แต่เป็นการคิดต่อที่เราเดาได้แหละว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้ เราว่าน่าจะมีตอนพิเศษเพิ่มอีกซักหน่อย คือยังอ่านไม่จุใจ อยากอ่านอีกกก เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่แนะนำว่านักอ่านแนวแฟนตาซีทุกคนต้องอ่าน! มันคือตำนาน! และเป็นต้นแบบนิยายแนวแฟนตาซีของนักเขียนไทยอีกหลายๆ เรื่อง คือควรค่าแก่หาซื้อเก็บไว้ประดับตู้มากๆ!
Sarfanee D.47 reviews3 followersFollowFollowAugust 18, 2022“ปีศาจกับวีรบุรุษ สมรภูมิสร้างปีศาจ สงครามสร้างวีรบุรุษแล้วปีศาจกับวีรบุรุษ จะแตกต่างกันที่ตรงไหน” 3.5 เล่มนี้สงครามทั้งเรื่อง การเมืองเยอะกว่าเล่มที่ผ่านมา พัฒนาการความสัมพันธ์ของตัวละครก็เลยถูกลดไป ก็เลยแอบเบื่อไปบ้าง แต่ชอบที่นักเขียนให้เราตั้งคำถามพร้อมๆกับตัวละคร ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพวกเขา ข้อคิดเยอะ อยากให้เด็กๆได้อ่านfantasy series thai-lit
Jirawan Jantanakorn100 reviews7 followersFollowFollowSeptember 23, 2017แอบเสียใจที่เป็นเล่มจบเพราะไม่อยากให้จบ ฮือๆๆๆๆๆๆๆเล่มนี้ไล่ล่ากันมันสุดๆ พระเอกน่าหมันไส้!!! เราชอบคาโล แต่เมนเราคือขอทานแห่งทริสทอร์คนนั้นนะ!!!ดิฉันนี้เกรี้ยวกราดเลยคะมีย้อนอดีตไปเจอแม่นางเอกด้วย ยิ่งอ่านยิ่งสงสารนางเอกแต่ก็จบดี จบสวยคะ ตอนจบพระเอกมาลากกลับไปเรียนต่อ (ฮา)
Nuunaa Aiemanong23 reviewsFollowFollowSeptember 15, 2018เราโดนเวทกาลเวลาย้อนกลับไปอ่านอีกครั้ง รอบ ที่ 3#นิยายยุค90
Benzin Boonwarutaraya9 reviews1 followerFollowFollowDecember 15, 2020เคยอ่านตอนเด็กๆ ก็ประทับอีกแบบนึง พอมาอ่านตอนโตมันก็สนุกไปอีกแบบ มีอะไรให้คิดเยอะขึ้น ชอบตัวละครเปลี่ยนไปจากเก่า ชอบเล่ม 3,4 ดีอะ ตอนเด็กๆชอบ 1,2 สุด
P15 reviewsFollowFollowAugust 2, 2025กลับมาอ่านรอบที่ 4 ห่างจากครั้งล่าสุดประมาณ 10 ปี ก็ยังชอบมากกกกกก แนวคิดดีมากแบบคิดได้ไง ภาษาสวยมากก ชอบการเล่นคำเลือกใช้คำในเรื่องมาก ยังเป็นเรื่องที่ชอบมากๆขึ้นหิ้งเหมือนเดิม