プラチナデータ [Platina Data]

by Keigo Higashino, 東野 圭吾

凶手，竟然是我自己？！

傍晚六点十二分，数学天才蓼科早树和哥哥被杀死在七层的房间里。整栋大楼的走廊、电梯都装有监控器，24小时有人查看，却没有发现任何可疑的人。七层只有蓼科兄妹二人。楼层的门禁，并未遭到破坏。现场留下的枪属于此前犯下数起案件的NF13。而蓼科早树身上的毛发却属于另一个人——我？！

《嫌疑人X的献身》之后，推理天王东野圭吾的烧脑巨献。拥有值得反复思考的深度，远远超越“推理小说”范畴。从一个灵魂到另一个灵魂，是自我救赎，也是对人性的深层读写。

Genres: Japanese Literature, Fiction, Mystery, Thriller, Science Fiction, Japan, Crime

493 pages, Paperback Bunko

First published January 1, 2010

About the author

Associated Names:
* Keigo Higashino
* 東野 圭吾 (Japanese)
* 東野圭吾 (Traditional Chinese)
* ฮิงาชิโนะ เคโงะ (Thai)


Keigo Higashino (東野 圭吾) is one of the most popular and biggest selling fiction authors in Japan—as well known as James Patterson, Dean Koontz or Tom Clancy are in the USA.

Born in Osaka, he started writing novels while still working as an engineer at Nippon Denso Co.　(presently DENSO). He won the Edogawa Rampo Prize, which is awarded annually to the finest mystery work, in 1985 for the novel Hōkago (After School) at age 27. Subsequently, he quit his job and started a career as a writer in Tokyo.

In 1999, he won the Mystery Writers of Japan Inc award for the novel Himitsu (The Secret), which was translated into English by Kerim Yasar and published by Vertical under the title of Naoko in 2004. In 2006, he won the 134th Naoki Prize for Yōgisha X no Kenshin. His novels had been nominated five times before winning with this novel.

The Devotion of Suspect X was the second highest selling book in all of Japan— fiction or nonfiction—the year it was published, with over 800,000 copies sold. It won the prestigious Naoki Prize for Best Novel— the Japanese equivalent of the National Book Award and the Man Booker Prize. Made into a motion picture in Japan, The Devotion of Suspect X spent 4 weeks at the top of the box office and was the third highest‐grossing film of the year.

Higashino’s novels have more movie and TV series adaptations than Tom Clancy or Robert Ludlum, and as many as Michael Crichton.

Reviews

[Thanawat · Rating 4 out of 5]

สนุกมาก เป็น sci-fi + suspense ที่เจ๋งมาก นอกจากนี้ยังบีบคั้นอารมณ์ด้วยดราม่าของเรื่องที่ยากจะจินตนาการถึง

นิยายสืบสวนสอบสวน ฝีมือระดับเทพของเคโงะเล่มนี้ แม้จะหนาเกือบสี่ร้อยหน้า แต่ก็เล่นงานคนอ่านซะอยู่หมัด อ่านจบในรวดเดียว

การตรวจดีเอ็นเอเพื่อการพิสูจน์บุคคลตามวิธีการปัจจุบัน ต้องอาศัยตัวอย่าง อย่างน้อยสองชุด นำมาถอดรหัสออกมาเป็นรหัสดีเอ็นเอ แล้วนำมาเทียบกัน ถ้าเหมือนกันก็บอกได้ว่าเป็นตัวอย่างที่มาจากแหล่งเดียวกัน

เรื่องเปิดขึ้นด้วยการ introduce เทคโนโลยีระดับเทพ ที่สามารถถอดรหัสดีเอ็นเอออกมาเป็นรูปพรรณสันฐาน ในระดับที่ระบุรูปร่างหน้าตารวมทั้งนิสัยใจคอได้ แถมยิ่งถ้ามี pool ของดีเอ็นเอในประชากรทั่วไปอยู่มาก จะสามารถบอกได้ถึงขั้นว่าดีเอ็นเอที่ได้มาเป็นของใคร ญาติพี่น้องคือใคร โดยไม่ต้องเอาดีเอ็นเอของคนๆ นั้นมาเปรียบเทียบเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันไปไกลกว่าเทคโนโลยีปัจจุบัน (เท่าที่เปิดเผยต่อสาธารณชน)

แน่นอนว่ามันมีประโยชน์มากในการตามหาอาชญากร และตัวเอกของเรื่องก็คิดเช่นนั้น ในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีนี้

“Not found”
เทคโนโลยีระดับเทพ แต่ปรากฏว่าดันมีช่องว่าง ที่ค้นหาอาชญากรจำนวนหนึ่งไม่เจอ จึงเป็นที่มาของเรื่อง ประกอบกับพี่น้องอัจฉริยะ “ผู้สร้าง” เทคโนโลยีนี้ ถูกฆ่าตายพร้อมๆ กัน เลยต้องอาศัยฝีมือสืบสวนสอบสวนจากตำรวจอีกคนควบคู่ไปด้วย

ดราม่ามันมาบังเกิด เพราะเมื่อใช้เทคโนโลยีถอดรหัสดีเอ็นเอเสร็จ รูปที่ถ่ายทอดออกมาดันเป็นตัวเอกซะนี่ แต่ช่วงเวลาที่เกิดฆาตกรรม ตัวเอกกำลัง “หลับ” เพราะเป็นช่วงเวลาที่ “อีกบุคลิกหนึ่ง” กำลัง “ตื่น” อยู่

เคโงะบิวด์ให้คนอ่านเกิดความสงสัยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่า “อีกบุคลิกหนึ่ง” อาจจะเป็นฆาตกรซะเองก็ได้

สนุกมาก
ทั้งการใช้เรื่องของดีเอ็นเอ ร่วมกับเรื่องสองบุคลิก มาเป็นแกนตรึงคนอ่านเอาไว้ ร่วมกับการผูกโยง เบื้องลึกเบื้องหลังสุดซับซ้อนตามสไตล์ ทำให้เปิดอ่านรวดเดียวจนจบ ยิ่งตอนเฉลยราวๆ สามสิบหน้าสุดท้ายยิ่งสนุก

นอกจากนี้ยังใส่ประเด็นทางสังคมอันแสนเจ็บปวดเอาไว้ในส่วนที่เรียกว่า “platinum data” ที่ทำให้เห็นว่าข้อมูลหรือความเป็นส่วนตัว (privacy) จะถูกคุมเข้มหรือถูกเปิดเผยได้เพียงใดนั้น มันขึ้นอยู่กับว่าเป็นข้อมูลของใคร ความไม่เท่าเทียมแม้ในความเป็นส่วนตัว มันขึ้นอยู่กับว่า “รัฐ” มองว่าเจ้าของข้อมูลเป็นใคร

ต้องบอกว่าส่วนตัว รู้สึกว่าบางส่วนของเรื่อง ใน concept เรื่องการทำนายตัวอาชญากร คล้ายกับหนังเรื่อง The minority report แต่ส่วนอื่นๆ นั้นจัดเต็มตามแบบฉบับเคโงะ

[nananatte · Rating 5 out of 5]

กรีดร้องค่ะ สนุกมากกกกก เริ่มอ่าน 4 ทุ่ม ถึงตี3ครึ่ง ไม่ต้องหลับต้องนอนกันล่ะค่ะ

รหัสลับพันธุกรรมฆาตกร เป็นนิยายไซไฟแอ็คชั่นธริลเลอร์ เป็นไซไฟเล่มที่อ่านง่ายที่สุดแล้วของคุณเคโงะ เทียบกับรักในโลกพิศวง มนุษย์ตุ๊กตาแล้ว

เล่มนี้คือเข้าใจง่ายมาก ลำดับเรื่องติดตามง่าย ไม่มีจังหวะที่เรารู้สึกโง่ระหว่างอ่านเลยค่ะ... คือไม่ต้องเปิดโหมดปล่อยเบลอศัพท์ยากเวลาอ่านเลย อ่านสบายๆ

ตอนอ่าน 60 หน้าแรกก็ตกใจว่า คุณเคโงะอธิบายเรื่องซับซ้อนอย่างพันธุกรรมกับการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาลมาให้เราเข้าใจง่ายๆ แบบนี้เลยได้ไงกันนะ?

ใจนึงก็คิดว่า เราไม่ใช่แฟนไซไฟ สายแอ็คชั่นก็ไม่ค่อยอ่านด้วย เล่มนี้มันคงมีจังหวะเบื่อบ้างล่ะ... โอยยย ไม่จ้ะๆๆๆ เล่มนี้นี่คือเทียบชั้นแอ็คชั่นธริลเลอร์เล่มโปรดตลอดกาลของเราอย่าง 'แผนอำพราง'​ ของ อะกิมิตซึ ทาคากิได้สบายเลย

อ่านจนจบก็จะรู้สึกเหมือนเอา digital fotress ของแดน บราวน์มายำรวมกับ 'แผนอำพราง'​ อ่านแล้วลุ้นมาก แต่มีช่วงสโลว์ดาวน์มาตัดอารมณ์คุกรุ่นได้แบบกำลังพอดี

สงสารพระเอกที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุน ทำไมอยู่ดีๆ ตัวเองก็กลายมาเป็นผู้ต้องสงสัย ต้องหนีๆๆๆ พร้อมกับสืบ 2 เรื่องไปพร้อมกัน

ชอบที่คุณเคโงะหยิบเรื่องคนมีหลายบุคลิกมาใช้ได้อย่างเท่และเก๋มาก เป็นการใช้ประโยชน์ของโรคนี้ในรูปแบบที่เราไม่เคยอ่านเจอจากเรื่องอื่น

เดาคนร้ายถูก 555 แต่ก็ไม่ได้้เดายากอะไร ชอบที่เรื่องนี้มีการพลิกกลับไปกลับมาว่าเชื่อใจใครได้ เชื่อใจใครไม่ได้กันแน่

โอยยย ดีอ่ะ อ่านจบแล้วปลื้มปริ่มใจมากๆ ค่ะ อ่านเถอะ!

[Như Goo · Rating 4 out of 5]

Một tác phẩm kết hợp giữa khoa học và trinh thám tuyệt vời. So với những quyển của sensei gần đây quyển này ổn phết.
Để đây update chi tiết sau nhooo!👌🏻

[aynsrtn · Rating 5 out of 5]

“Di zaman mana pun, yang namanya status sosial akan selalu ada. Manusia tidak akan pernah setara.” (p.465)

Membaca buku Keigo selalu meninggalkan efek getir, satir, sarkas, dan sedih. Demikian pun dengan buku ini. Disajikan melalui dua sudut pandang yaitu Kagura Ryuhei, seorang Kepala Analis Institut Riset Analisis Khusus (IRAK), dengan Asama Reiji, seorang polisi dari Divisi Penyidikan, aku sebagai pembaca diajak menguak misteri pembunuhan yang ternyata jauh lebih dalam dan besar hingga tahap konspirasi suatu negara.

Melihat buku ini rilis pertama kali di Jepang pada tahun 2010, artinya sudah 15 tahun, tetapi topiknya masih sangat relevan (bahkan menurutku pada tahun 2010 ini terlalu visioner dan progresif, sangat maju pada masanya). Membahas tentang data, bagaimana pros dan cons data DNA kepada masyarakat, uji etik negara yang memakai data rakyatnya tanpa seizin yang bersangkutan, hingga efek domino bagaimana jika kecanggihan pelacakan tindak kejahatan dengan informasi DNA ini akan merugikan orang-orang “besar” tertentu.

Jika mengharapkan buku ini hanya berisi kasus pembunuhan, pencarian pelaku, lalu ada detektif yang canggih menguak misteri, alibi, dan motif, kemudian sang pelaku dijebloskan ke penjara, maka simpanlah harapan itu. Buku ini malah lebih kental science fiction, mental health issues, dan political issues-nya daripada thriller-mystery. Satir-sarkas kepada kebijakan negara begitu kuat disampaikan. Di negara maju seperti Jepang saja masih begitu (mungkin pada masa itu), apalagi negara ber-flower.

Boleh dibilang buku ini menurutku adalah buku Keigo paling “romantis” bahkan dibandingkan The Devotion of Suspect X - Kesetiaan Mr. X. Romantis sedih gitu. Ada satu tokoh dan adegan yang mungkin bagi sebagian orang menganggap bahwa itu tidak penting, hanya sekadar biar ada bumbu romansanya, tetapi menurutku justru tokoh dan adegan itu adalah turning point bagi sang Kagura Ryuhei.

You’re gonna live forever in me dari John Mayer adalah ost untuk tangisanku membaca halaman 472.

Dinamika Ryuhei-Asama mengingatkanku pada Yukawa-Kusanagi. Bickering-nya, saling sinis, tapi pas kerjasama petjah banget. Momen ketika Asama yang gaptek diajari dari jarak jauh oleh Ryuhei untuk mengoperasikan komputer sungguh bikin aku ketawa sekaligus geleng-geleng. Saling ledek dapet banget. Bakal seru banget sih kalau mereka jadi partner di kemudian hari (tapi ini bukan series sih).

Akhir kata, ini bukanlah buku thriller-mystery dengan tipe who/how/why-dunnit seperti kebanyakan buku dengan genre tersebut, Platina Data lebih kepada sci-fic satir-sarkas kepada para penguasa yang tidak berpihak kepada rakyat. Untuk soal twist, nggak kaget banget sih dengan pelakunya, tapi sedikit kaget di bagian terkuaknya sebuah rahasia di sudut pandang Ryu dan Asama di akhir buku ini.

5⭐ for sure untuk karya Keigo.

[Huong · Rating 4 out of 5]

Củm ơn chế Như Goo rất nhiều, vì đã giới thiệu cuốn sách hay thế này.♡
Đọc mà thik j đâu á.

[Mook Woramon · Rating 4 out of 5]

อาจารย์เคโงะเล่นประเด็นวิทยาศาสตร์กับปัญหาสังคมอีกแล้ว คิดได้ไงเนี่ย

แก่นเรื่องหลักเป็นเรื่องการเก็บข้อมูล DNA ของทุกคนไว้ส่วนกลาง เพื่อไว้สืบหาฆาตกรเมื่อเกิดคดีฆาตกรรม ฟังดูเฉยๆนะ เพราะเป็นเรื่องคุ้นหูคุ้นตาอยู่บ้างแล้ว แต่ชอบรายละเอียดเล็กๆ ที่สอดแทรกไว้ในเรื่อง เป็นเรื่องที่เราไม่เคยคิด แต่พออ่านแล้วก็ว้าววว
- สิทธิส่วนบุคคลมีจุดแบ่งอยู่ตรงไหนถ้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ขนาดนี้
- จะปกป้องข้อมูลไม่ให้ใช้ในทางที่ผิดได้อย่างไร
- การลดหย่อนภาษีให้คนมาเก็บตัวอย่าง DNA คล้ายๆวิธีแจกเงินบ้านเราเลยแฮะ
- อภิสิทธิ์ชน ที่รอดพ้นจากการตรวจสอบของระบบ

แก่นเรื่องอาจดูธรรมดา แต่การดำเนินเรื่องสนุก ชวนติดตาม ไม่มีช่วงไหนเอื่อยเลย มีประเด็นให้สงสัยได้ตลอด แถมให้ตัวเอกเป็นโรคหลายบุคลิกมาดำเนินเรื่อง สนุกไปอีก แถมตอนจบแม้จะฮึดฮัดขัดใจที่เป็นแบบนี้ แต่พอคิดถึงโลกความเป็นจริงแล้ว มันก็เป็นแบบนี้แหละ

เล่มนี้ไม่ควรพลาด

[Faizah Lentera · Rating 4 out of 5]

Kagura Ryuhei adalah orang penting di balik sistem DNA Jepang. Jepang menggunakan DNA untuk menangkap pelaku kriminal berdasarkan database yang telah terkumpul. Namun, sistem ini belum sempurna dan menyebabkan Kagura menjadi buronan polisi.

Gokil sih Platina Data!! Buku ini terasa sangat dekat dan familiar di kondisi dalam negeri sekarang walau latar Platina Data ada di Jepang. Buku yang pertama rilis 15 tahun lalu masih relevan hingga saat ini. Tema besar dari Platina Data adalah teknologi dapat menjadi ancaman bagi manusia itu sendiri sebagai penciptanya.

Platina Data mengingatkan kita kembali bahwa:
1. Manusia masih jauh lebih sempurna daripada mesin.
2. Oligarki anjing.

Anda pikir rakyat bisa apa? Mau melakukan unjuk rasa atau orasi pun, para elite pemerintahan yang berkuasa tetap saja terus meloloskan rancangan undang-undang sesuka mereka. Bukankah itu yang terjadi selama ini? Tidak ada hubungannya dengan penolakan rakyat. Lagi pula sengawur apa pun rancangan undang-undang yang diloloskan, toh rakyat sendiri cuma marah-marah di awal dan setelah langsung beradaptasi dengan keadaan.

[Nguyet Minh · Rating 4 out of 5]

Màu trinh thám trong “Dữ liệu bạch kim” của Keigo khá giống trinh thám kiểu Mỹ. Ở đây, yếu tố tâm lý nhân vật không còn được mổ xẻ nhiều, thay vào đó yếu tố hành động. Trạng thái tức thời của các nhân vật đi đôi với những hành động cụ thể kéo tiết tấu truyện nhanh hơn, tính hiện đại và tính công nghệ được phát huy nhiều hơn. Chính vì vậy, ta bắt gặp một màu sắc rất mới lạ so với các tác phẩm khác của Keigo.

Những vụ án giết người liền nhau, việc truy tìm dấu vết hung thủ được triển khai bằng hệ thống DNA. Đó là một bước tiến cho các cuộc điều tra trong tương lai khi mà tỉ lệ bỏ sót tội phạm có khả năng là 0%. Nhưng đó cũng đồng nghĩa với việc quyền riêng tư của con người trong bảo mật DNA bị xâm phạm khi mà chính quyền âm thầm thu thập DNA của công dân từ các bệnh viện. Tội phạm, thậm chí người nhà của tội phạm cũng bị ảnh hưởng ít nhiều. Bởi vì kết quả phân tích của Viện nghiên cứu phân tích đặc biệt đáng tin cậy, “việc điều tra dựa vào hệ thống DNA đã giúp bắt giữ vài tội phạm, ngoại hình hay tính cách của hung thủ hoàn toàn trùng khớp với thông tin mà hệ thống đưa ra, không có ngoại lệ nào.”

Vụ án NF13 ( Not Found 13 ) do Asama phụ trách cứ vừa kín lại vừa mở. Những nghi ngờ của anh hoàn toàn có cơ sở nhưng nguyên nhân cốt lõi thì vô cùng mờ mịt, thậm chí bị xoay vòng tại chỗ. Vụ ám sát anh em nhà Tateshina vô tình mở ra quá nhiều bí mật không ngờ. Kagura Ryuhei - một nhân viên phân tích thuộc viện nghiên cứu chính là sợi chỉ xuyên suốt của vụ án đặc biệt này. Theo dõi để thấy rằng, muốn phá án, ngoài chuyên môn, ngoài dữ liệu, ta còn đòi hỏi cả những bí mật của cơ quan điều tra phải được chia sẻ công bằng và thành thật, nếu không, mọi thứ sẽ lạc hướng. Tệ hơn nữa là sự hy sinh, trả giá trong đội ngũ điều tra ấy sẽ phải xảy đến.

Truyện còn mở ra một lĩnh vực ta bắt gặp nhiều gần đây trong xã hội hiện đại, đó là chứng đa nhân cách. Không diễn giải triệt để lắm về biểu hiện của nó như Sidney Sheldon từng làm như trong “Hãy kể giấc mơ của em”, nhưng cũng đủ để hiểu chứng đa nhân cách đã hủy hoại tinh thần và điều khiển con người nguy hiểm đến thế nào! “Ảo giác”, “xung điện”, “thuốc hoán đổi” là những từ ngữ ta bắt gặp thường xuyên khi theo dõi cuộc điều tra. Và ta cũng sẽ thấy công cuộc nghiên cứu của một số nhà khoa học là vô cùng điên rồ và vị kỷ. Chất điên rồ ấy đi đôi với tài năng nhưng cũng là thứ vũ khí nguy hiểm tiềm ẩn, dễ biến họ thành kẻ dị biệt và hủy diệt trong vỏ bọc lỗi lạc, đam mê cống hiến.

Truyện không mới lạ trong một đại dương tiểu thuyết trinh thám khắp đó đây nhưng độc đáo và mới lạ so với chính Keigo. Chất Keigo dường như cũng đang được đa nhân cách hoá. Thế nên, ta vẫn thấy sự thông minh, đa tài, khéo léo xoay chuyển qua mỗi tác phẩm.

[Thuỷ Sún · Rating 4 out of 5]

"Dữ liệu bạch kim" lấy bối cảnh một tương lai không xa, khi Nhật Bản phát triển thành công công nghệ điều tra bằng DNA. Công nghệ này đã bộc lộ rõ hiệu quả của nó khi mà giúp giảm tỉ lệ tố cáo nghi phạm sai xuống 0%, đồng thời tăng tỉ lệ bắt đúng tội phạm lên con số 100% đẹp đẽ.

Asama Reiji, vị cảnh sát khi nhìn thấy khả năng của công nghệ này đã ngay lập tức có quan ngại về tính hợp pháp và ảnh hưởng của nó đến cuộc sống của người dân. Do rằng mẫu DNA điều tra là được lấy một cách bất hợp pháp.

Tuy nhiên Kagura, người có nhân cách thứ hai là Ryu và là người phát triển công nghệ DNA này lại rất tin tưởng vào những gì anh ta đang làm. Đồng thời chính anh cũng khẳng định rằng công nghệ này sẽ sớm hợp pháp, và Asama không có gì phải lo.

Cho đến một ngày Kagura phải chạy trốn khỏi cảnh sát vì chính cái hệ thống anh làm ra kia là thứ đã tố cáo anh. Mang tội danh giết người, Kagura đã tự mình làm rõ chân tướng để minh oan cho bản thân. Sự thật đằng sau hệ thống điều tra DNA và Dữ liệu bạch kim là Mogul.

Not Found 13 Minakami đã thần thánh hoá DNA lên, xem nó như là một thước đo chuẩn mực của con người. Kagura trước đây cũng có thể coi một phần là giống như cô được, vì anh cũng từng tôn thờ DNA, xem nó như chìa khoá để mở cửa tiến vào một con người, điều tra và giải mã họ. Lý tưởng này một phần có thể coi là đúng. Vì DNA có quyết định rất nhiều điểm về một con người như là giới tính, ngoại hình,… tuy nhiên có một thứ nó không thể quyết định, Minakami cũng đã mù quáng mà bỏ qua. Đó chính là bản chất và số phận của con người. Thứ mà chỉ có hành động và việc làm của bản thân người đó mới có thể quyết định. Chính Kagura lúc về cuối phim mới nhận ra được điều đó, khi nhìn qua Ryu và anh. Cùng một cơ thể, cùng một DNA nhưng bản chất và số phận của cả hai thì hoàn toàn đối lập.

[Ethan · Rating 4 out of 5]

I really enjoyed the setting of a character with two personalities, one being pro-technology and one being pro-humanism. The main theme that the law is not equal between regular people and government officials in almost every society agonizingly mirrors the reality. The only part I found ridiculous is that the Mogul secret program doesn't seem to be anything fancy as Higashino described it to be. It could have been just one SQL query such as: SELECT dna FROM dnas WHERE platinum = True

[bubblemustard · Rating 4 out of 5]

แอบคิดว่าเล่มนี้อ.เคโงะไม่น่าจะเน้นสืบสวน ปม หรือการเฉลยตัวคนร้ายเท่าไหร่ เหมือนไปเน้นให้เห็นถึงผลที่จะตามมาจากการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของประชาชน ที่ท้ายที่สุดแล้วไอ้ระบบพวกนี้มันเอื้อให้คนภายในกันเองทั้งนั้น อ่านแล้วขนลุก 😖 อีกอย่างที่ชอบคืออ.ใช้ความเป็นผู้ป่วยโรคหลายบุคลิกมาเล่นได้แบบไม่เหมือนกับที่เคยอ่านมาจากหนังสือเล่มไหนเลย

แต่ถึงจะบอกข้างต้นว่าเล่มนี้ดูไม่เน้นสืบสวน แต่ตลอดเนื้อเรื่องก็สนุกมากๆ ลุ้นทุกจังหวะ แต่ติดใจตอนจบนิดนีง ดูเป็นละครคุณธรรมไปหน่อย 5555555555555

[Yusa · Rating 4 out of 5]

Hãy tưởng tượng một ngày mọi người dân đều phải cung cấp ADN của mình cho cảnh sát để phục vụ cho quá trình điều tra tội phạm. Câu chuyện lấy bối cảnh Nhật Bản thời hiện đại, nhà toán học thiên tài Tateshina Saki đã tạo ra một chương trình cho phép phân tích và đối chiếu DNA của tội phạm nhờ chương trình này việc điều tra và phá án của cảnh sát được nâng lên một tầm cao mới. Tuy nhiên, một vụ án liên hoàn đã diễn ra điều đặc biệt là DNA của hung thủ lại không thể được xác định bởi chương trình giám định DNA và nó được đặt cho cái tên là NF13 hay NOT FOUND 13. Vậy rốt cuộc NF13 là ai và đằng sau những vụ án liên hoàn đó có sự nhúng tay của những ai? Và cái tên "Dữ liệu bạch kim" có ý nghĩa gì? Các bạn hãy đọc thử để tự trải nghiệm nhé.
Một số yếu tố xuất hiện trong tác phẩm:
- Hội chứng đa nhân cách
- Xung điện và siêu xung điện
- Thuốc hoán đổi
- Chuyện được kể qua gốc nhìn của nhiều nhân vật
- Truy đuổi
- Có một Twist tiết lộ hung thủ
- Và cuối cùng là một cái theo mình là happy ending
Vậy là mình đã review sương sương tác phẩm "Dữ liệu bạch kim" của Tác giả Keigo Higashino rồi!! Cảm ơn các bạn đã dành thời gian để đọc bài review này nhé. Bye!!
Đánh giá: 4/5
Dịch thuật: 3/5
Lỗi đánh máy: Lỗi tên nhân vật nhưng không đáng kể chủ yếu ở những chương đầu

[Makmild · Rating 4 out of 5]

ดีๆ สนุกใช้ได้ เหมือนอ่าน psyco-pass เวอร์ชั่นนิยาย แต่ไม่ไกลตัวขนาดนั้น

สิ่งที่เคโงะทำได้ดีคือการอธิบายเรื่องยากๆ ว่าการเก็บ big data แม่งยากขนาดไหนและการจะเอามาใช้ยากกว่านั้นอีก และการที่จะเอามาใช้ทำยังไงถึงจะสมเหตุสมผล

คำถามเรื่อง security or privacy ก็ยังคงเป็นคำถามที่มีคำตอบได้หลากหลาย แต่ลองมาฟังการอธิบายจากเคโงะในเล่มนี้ดูค่ะ สนุกมาก คิดภาพตามได้เป็นฉากๆ

หน้าปกเนี่ย เอาโองุริ ชุนมาเป็นต้นแบบคากุระสินะ 55555 นับว่าใช้ได้ แต่ชุนน่าจะเป็นตำรวจอาซามะมากกว่า ส่วนตาหนุ่มคากุระน่าจะเป็นซาโต้ ทาเครุค่ะ (เกี่ยวกับเนื้อหานิยายตรงไหน ตอบ)

[Henzi · Rating 4 out of 5]

Pemerintah membuat sistem DNA terpadu yang mengharuskan setiap rakyat menyetor data mereka ke pusat. Ke depannya, data berikut akan memudahkan mereka dalam melakukan investigasi terhadap kasus-kasus kriminal. Pencocokan DNA yang dilakukan secara manual akan dieliminasi berkat sistem canggih ini.

Ada dua fitur besar pada sistem ini, yaitu profiling dan pencarian DNA. Profiling adalah pengumpulan informasi mendetail tentang seseorang melalui observasi karakteristik atau perilaku. Pencarian orang dapat dilakukan setelahnya dengan menyandingkan ciri-ciri dan data kolektif masyarakat yang sudah terdaftar di database.

Seperti biasa, membaca Keigo Higashino artinya wajib tahu struktur kepolisian. Ada kepala divisi Nasu, kepala subdivisi Kiba, Asama yang melapor langsung ke Kiba, serta Tokura sebagai rekan Asama. Ada juga Hodaka dan Tashiro sebagai penanggung jawab bagian forensik. Ini semua baru tim Kepolisian Metropolitan, belum lagi di distrik-distrik lain. Syukurnya, ini gak seribet di buku-buku Keigo lainnya.

Pembangunan sistem DNA dilakukan oleh Institut Riset Analisis Khusus (IRAK) yang dikepalai oleh Shiga Takeshi sebagai direktur dan Kagura Ryuhei sebagai kepala analis. Developer programnya adalah Tateshina Saki (teknisnya) dan Tateshina Kosaku sebagai pendampingnya; mereka berdua menempati departemen Neurologi yang juga adalah tempat kerjanya. Ada juga Professor Minakami Yojiro sebagai psikoanalisis, yang menangani masalah Kagura & Tateshina bersaudara.

Diawali dengan penyelidikan suatu kasus pembunuhan, pelaku dengan mudahnya terlacak. Namun, IRAK belum diumumkan secara resmi di publik. Oleh sebab itu, para kepolisian mesti 'memalsukan' kesaksian di publik seolah-olah pemecahan kasusnya dilakukan dengan metode konvensional, bukan dengan sistem DNA. Asama tidak setuju dengan rekayasa ini.

Di lain kasus, mulai ditemukan kejanggalan. Profiling yang dilakukan oleh sistem tidak match. Mereka berasumsi belum semua orang mendaftarkan DNA-nya ke pemerintah. Sampel ini mereka namakan sebagai NF13–alias Not Found ke-13.

Kagura mempunyai masa lalu suram yang memengaruhi well being-nya saat ini. Dia mesti berobat secara rutin ke Minakami agar kondisinya tidak memburuk. Di tengah gencaran penyelidikan & fisiknya, tiba-tiba ia menjadi tersangka pembunuhan. Yang celakanya lagi, ada bukti yang memberatkannya berkat sistem tersebut. Dia menyelamatkan diri sebelum masuk ke pusaran jebakan maut.

Aksi kejar-kejaran mengingatkanku pada Tragedi Pedang Keadilan. Perbedaannya, di TPK mengejar pelaku untuk mendapatkan keadilan; sementara di buku ini 'menjauh' untuk membuktikan keadilan. Di sisi lain, Asama & tim dikeluarkan dalam tugas karena Badan Kepolisian Nasional ingin merahasiakan ini; kasusnya jadi eksklusif & tidak boleh banyak pihak yang terlibat.

Di tengah dilema, Asama memilih untuk tidak menuruti aturan pusat. Dalam cerita Keigo, selalu ada polisi 'membangkang' yang saking penasarannya sama kasus yang dipegangnya. Dia menyelidiki diam-diam, mencari tahu siapa NF13 dan apa kaitannya dengan kasus Kagura yang satunya.

Lantas apa itu Platina Data yang sesungguhnya? Masih berkaitan dengan sistem. Akan tidak seru kalau dibahas secara teknis mendetail, tapi pada dasarnya ia adalah database, tapi yang membedakan adalah...

Sama seperti TPK, Platina Data mengandung kritik. Sepanjang membaca, aku tidak hanya dibuat gusar oleh siapa & mengapa, tapi juga tertarik dengan pembahasan para elite pemerintahan yang sembarang meloloskan rancangan undang-undang tanpa melibatkan rakyat. Terdengar mirip ya dengan yang terjadi di negeri tercinta ini.

"Memangnya Anda pikir rakyat bisa apa? Mau melakukan unjuk rasa atau orasi pun, para elite pemerintahan yang berkuasa tetap saja terus meloloskan rancangan undang-undang sesuka mereka. Bukankah itu yang terjadi selama ini? Tidak ada hubungannya dengan penolakan rakyat. Lagi pula sengawur apa pun rancangan undang-undang yang diloloskan, toh rakyat sendiri cuma marah-marah di awal dan setelah itu langsung beradaptasi dengan keadaan."

"Memangnya berapa banyak gerakan oposisi di masa lalu yang berhasil membuat negara mengubah kebijakannya? Pengelolaan negara atas DNA warganya sudah menjadi tren global. Tidak akan bisa dihentikan siapa pun. Saya tidak mau menyia-nyiakan hidup hanya untuk hal yang percuma seperti itu.”

Saya suka dengan ending-nya. Mau ngasih satu quote lagi, tapi takut ketebak. Ya sudahlah. Bagus, meskipun gak sebagus buku-buku Keigo yang telah dibaca sebelumnya.

[Mook · Rating 4 out of 5]

3.75/5 round up to ⭐⭐⭐⭐
พล็อตน่าสนใจเพราะตัวเอกเป็นคนสองบุคลิก พอเป็นอีกคนจะจำความทรงจำตอนนั้นไม่ได้เลย สนุกตรงที่ไว้ใจตัวละครตัวไหนไม่ได้สักคนนี่แหละ แต่ละคนลึกลับมาก บรรยากาศจะหม่น ๆ สไตล์เขียนแนวคุณพ่อเคโงะเหมือนเดิม ไม่พลาดที่จะใส่จุดที่บีบและขยี้หัวใจลงไปทุกงาน 👍🏻 แม้จะเป็น sci-fi แต่อ่านไม่ยากเลยค่ะ

[เมื่อฉันรีวิวหนังสือ · Rating 5 out of 5]

plot น่าสนใจมาก ชอบการที่เขียนให้พระเอกเป็นคนหลายบุคลิก ปมในเรื่องก็มีเยอะมาก อ่านได้เรื่อยๆ เพลินๆ เลย ส่วนตัวชอบตอนจบมาก อ่านแล้วมันแบบจี๊ดเลย ถึงจะเป็นเรื่องที่เขียนมานานแล้วแต่เนื้อเรื่องก็ยังมีความเป็นปัจจุบันอยู่เลย หรือถ้าจะให้พูดให้ถูกก็คือแม้ว่าโลกจะหมุนไปไกลแค่ไหน แต่จิตใจต่ำช้าของคนก็ยังเหมือนเดิม

[Fabish Caruri · Rating 4 out of 5]

Hay tuy chưa hoàn hảo. Một bản nâng cấp của Biến thân, có đôi nét của Trại súc vật.

Bí mật quốc gia có vẻ được bảo vệ chưa đến mức cẩn mật như nó cần có. Dịch giả non tay, dùng từ vựng một số chỗ không chính xác.

[Siwabhorn Anothaisintawee · Rating 5 out of 5]

คากุระ ชายผู้ป่วยเป็นโรคหลายบุคลิก ต้องเจอปัญหาหนัก เมื่อ DNA ดันไปตรงกับหลักฐานที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุฆาตกรรม เขาต้องสืบหาฆาตกรตัวจริง เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ได้ คดีนี้ไม่ใช่คดีธรรมดา เพราะเกี่ยวของกับหลายหน่วยงาน ทำให้ไว้ใจใครไม่ได้ แม้แต่ตัวเขาเอง

โดยเนื้อเรื่องแล้วสนุกมาก ตัวละครไม่เยอะไป ทำให้ไม่งง ตอนท้ายๆ เข้มข้นตามสไตล์อ.เคโงะ จนต้องฝืนตาอ่านกลางดึกจนจบ แต่ยอมรับว่าอ่านได้หนืดเพราะแพ้ขนาด font ของสนพ.นี้ ที่เล็กกว่าเจ้าอื่นประมาณ 0.5-1 point ทำให้อ่านลำบากไปหน่อย 😥

Goodreads ให้ 3.8 เราให้ 5

[nur'aini tri wahyuni · Rating 3 out of 5]

bintang 4 kalau endingnya ga ngeselin 🙄

pace awal slow karena memang ada banyak hal yg harus diperkenalkan dulu sebelum masuk konflik utama, tapi begitu tabir terbuka jadi sat set soalnya tokoh utama juga ngejer waktu. plot twist nya well ga terlalu mengejutkan, apalagi pilihan endingnya yg sangat mendekati keputusan manusia "nyata".

cuma capek aja bacanya pas ngenalis sistem dan program DNA nya, plus ending nya yg "ganggu" bikin jengkel aja walaupun di dunia nyata ya kemungkinan besar seperti itu..

[Minh Trang · Rating 4 out of 5]

Bữa mình có đọc được review của 1 bạn, bạn nói cuốn này bác Keigo viết giống như trinh thám Mỹ, cụ thể là giống với Sidney Sheldon. Mà trong truyện của cụ Sheldon thì như nào nhỉ, cứ ai có nhiều thông tin hữu ích nhất, có được sự tin tưởng của nhân vật chính nhất, thì chắc cú đó chính là hung thủ, là trùm cuối xấu xa 🤣

Khi đọc về vụ lấy mẫu ADN toàn dân, mình đã thoáng có ý nghĩ "nếu như vậy thì đâu còn gì để bảo vệ được cho giới cầm quyền, họ lại tự đẩy bản thân vào tình huống bất lợi vậy sao?". Nhưng hóa ra họ đã sớm có sự chuẩn bị cho mình rồi, chính là "dữ liệu bạch kim". Hmm, lại thêm một điểm giống trinh thám Mỹ rồi nè, vì động cơ liên quan tới chính trị, tới những kẻ bất chấp thủ đoạn để bảo vệ cho địa vị của mình.

Nhìn chung thì Dữ liệu bạch kim hơi lạ hơn những cuốn sách khác của Keigo tiên sinh, nhưng vẫn là một câu chuyện khá thú vị.
-----
Btw, bạn nào muốn mua sách đẹp với giá hợp lý thì ghé page mình xem nha :")
facebook.com/hieusachcuaGaby ❤

[oreoreads · Rating 5 out of 5]

⭐ 4.5

SUKA SAMA IDE CERITA YANG KALI INI BUKAN CUMA PEMBUNUHAN BIASA, MELAINKAN MENYANGKUT TEKNOLOGI BESERTA INSTANSI PEMERINTAH!!!

100 halaman pertama itu masih kaya pengenalan sama tokoh2nya. Setelah 100 halaman itu, baru mulai konflik yang sebenarnya, Kagura si ilmuan DNA yang jadi tersangka kasus pembunuhan. Diceritakan dari POV Kagura dan POV Asama si polisi. Walaupun ada banyak kasus pembunuhan di dalam cerita ini, tapi ada 1 cerita yang jadi fokus utama dan kunci dari terjadinya semua ini. Bukan cuma mystery, teknologi, thriller, tapi ada juga psychologicalnya di novel ini.

Yang aku suka:
1. Seru kejar2an antara polisi sama Kagura
2. Kondisi mental Kagura yang menarik, sehingga muncul tokoh yang ❤️‍🩹😭🫶🏻💔
3. Asama si polisi yang keras kepala pengen ngelakuin penyelidikan sendiri
4. KAGET TERNYATA DALANGNYA SI DIA? PADAHAL AKU UDH CURIGA SAMA 1 ORANG ITU (yg ternyata salah), TAPI GA NYANGKA KALO TERNYATA PEMBUNUH ASLINYA ITU DIA!
5. Endingnya sgt 😭💔😭💔

[Dinur A. · Rating 4 out of 5]

Dari segi premis, ini buku Higashino-sensei fav gue sejauh ini, meskipun Kagura dan Asama bukan MC terkuat dari semua buku beliau yang udah gue baca. Social commentary yang solid dan ahead of its time, bahkan semakin relevan per hari ini. Buat kasusnya sendiri, ga bikin tercengang, tapi tetep seru dengan semua elemen yg digodok; kepribadian ganda, sains, dan politik.

[Cao Đức Hiếu · Rating 5 out of 5]

Bản thân đang là cán bộ làm dữ liệu dân cư nên đọc cuốn này thấy khá là gần gũi, tất nhiên là mức độ chi tiết của thông tin cá nhân trên thực tế không thể so với trong truyện được. Có tâm lý, có giật gân, có tình cảm, có thủ đoạn, có đầy đủ những điểm đáng khen của một cuốn trinh thám hay.

[Nattapan · Rating 4 out of 5]

A​ good​ creative​ writing​ that​ leave​s​ you​ with​ something​ to​ think​ about.​

[Book Beforebed_ · Rating 4 out of 5]

เป็นสืบสวนแนวไซไฟที่เราไม่ถนัดเท่าไหร่ มีงงๆอยู่บ้าง แต่ก็พออ่านได้ แต่โดยรวมก็สนุกดี บางจุดพอเดาได้ แต่เฉลยก็พีคจัด

[Cyn · Rating 1 out of 5]

dnf at 220ish

buku ini punya banyak potensi. aku tertarik sejak baca blurbnya, blm banyak buku misteri berpadu sama teknologi (yg kutau). penyelidikan pake teknologi DNA, keren bgt sih. sayangnya menurutku lambat bgt. masa' per 200 halaman baru keluar kasus utamanya, keburu habis sabarku 🤣

akan kucamkan keselnya baca Platina Data, kayak ketemu pegawe pem3rint4h. ditunda-tunda, ngulur-ulur, muter-muter, dibawa berkelilinggg 🫣🏳

[too lazy to read · Rating 4 out of 5]

เล่มนี้เอาไป 4.5 ดาว อ่านจบแล้วแบบอมกกกก คือสนุกน้าา แบบลุ้น แต่ที่ให้เท่านี้เพราะไม่ได้สุดขนาดวางไม่ลงไรงี้ เป็นเล่มที่เรียกว่า ควรค่อย ๆ ย่อย55555 เพราะหนึ่งเลยมันใส่ความวิทยาศาสตร์ที่มันไกลตัวเรา (โอเคมันคือเรื่องข้อมูลและ DNA ที่ฟังแบบนี้ดูใกล้ตัวสุด ๆ เพราะทุกคนมี55555 แต่ ๆ ใครบ้างที่จะสนใจศึกษาเรื่องราวของมันจริง ๆ ) เลยแบบพอยิ่งเอามาแต่งนิยายสืบสวนที่โดยปกติก็ต้องคิดตามอยู่แล้ว เลยทำให้แอบอ่านยากขึ้นมานิดนึง แต่ส่วนตัวเอนจอยมาก เพราะชอบแนววิทย์ ร่างกาย ธรรมชาติไรงี้อยู่แล้วเลยอิน5555 ใครกำลังจะอ่านเล่มนี้แนะนำให้อ่านแบบค่อย ๆ 55 จะได้ไม่รู้สึก Information overloaded จนเกินไป นอกจากเรื่องวิทย์ ๆ แบบนั้น เคโงะก็ได้ใส่โรคทางจิตเข้าไปให้ตัวละครหลัก ซึ่งทำให้เรื่องสนุกและน่าติดตามขึ้นก็จริง แต่สำหรับเรามันแอบหลอนตามนีสนึงง (สงสัยอินจัดด55555) อ้อ แล้วก็ที่ชอบอีกอย่างคือเล่มนี้แบบมีความเสียดสีรัฐบาล (ญี่ปุ่น) และผู้มีอำนาจ ชนชั้นต่าง ๆ ซึ่งอ่านในช่วงที่ไทยก็กำลังเจอสถานการณ์คล้าย ๆ กัน (ประมาณวิจารณ์ พูดไม่ได้ ทุกอย่างมีลำดับชั้นกัน บลา ๆ ) ทำให้ยิ่งอิน สรุปคือเล่มนี้อ่านแล้วออกไปทางตึง ๆ นะ5555 หลายอย่างเลย แต่สนุกมั่กกก ตัวละครมีเสน่ห์เฉพาะตัวทุกตัวและที่สำคัญหักมุมในแง่ที่ว่าตอนเฉลยเป็นเล่มที่เอ๋อไปเลยยยย555555 สรุปคือใครอยากอ่านเล่มนี้ แนะนำเลยยน้าาา แต่ค่อย ๆ อ่านอย่าอ่านรวดเดียว อิอิ

[gibizkit · Rating 5 out of 5]

สนุกมากค่ะ ตัวละครมีมิติดีมาก เพิ่งเคยอ่านนิยายที่เป็นบุคคลสองบุคคิก และเรื่องเศร้าแต่สวยงามที่สุดคือ ทาเทชินะ ซากิ

[readwithsyll · Rating 4 out of 5]

4 stars.

menceritakan dunia dimana teknologi semakin canggih dimana ada teknologi DNA yang bisa analisis DNA secara spesifik dan menggambarkan fisik dari DNA tersebut.

tentunya memudahkan pemecahan kasus-kasus, hingga 1 kasus serial killer yang anehnya tidak berhasil dilacak bahkan setelah memakan banyak korban.

overall a fun and fast-paced read! plotnya cepat, bahasanya juga gampang dimengerti walaupun science fiction, dan tentunya ada plot twistnya. overall puas setelah bacanya :)

[Tan Clare · Rating 4 out of 5]

“如果说，作品只是数据，那到底是什么创造出这些数据，才是最重要的事。”
pg 273

书中主角神乐通过案件后，终于了解自己精心设计的DNA采集数据系统，不只可以利用在对大众有利，但也同时引发出了可怖的社会弊端后。任何东西都不过是个器具，创造、运用此器具的心态，才是关键。