Jump to ratings and reviews
Rate this book

ถ้าอยู่ได้นานกว่านี้มีอะไรอยากทำบ้างไหมครับ

Rate this book
เรียนรู้คุณค่าชีวิตที่คุณทำหล่นหายผ่านการตัดสินใจของผู้ป่วยระยะสุดท้าย เวลาชีวิตที่เหลืออยู่จะเป็นผู้เล่าให้คุณฟังหมอแผนกอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยาที่ทำงานในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ที่ทำได้แค่เยียวยาจิตใจถ่วงเวลาชีวิตที่เหลือไปเรื่อย ๆ ด้วยเรื่องราวที่ได้เรียนรู้จากคนไข้ การตัดสินใจต่อชีวิตที่เหลือที่แตกต่างกัน จึงนำเรื่องเหล่านั้นมาจดบันทึก ส่วนหนึ่งก็เพื่vศึกษาพฤติกรรมคนไข้ อีกส่วนเป็นการทำความเข้าใจกับคุณค่าของชีวิตอีกครั้งคนไข้มีความแตกต่างกัน ทั้งช่วงวัย ทั้งหน้าที่การงาน การมองความตายและเวลาที่เหลือก็แตกต่างกัน บ้างสิ้นหวัง บ้างมีหวัง บ้างเฉยเมย ซึ่งความแตกต่างนี้ทำให้มีเรื่องที่น่าสนใจและน่าขบคิดเกี่ยวกับชีวิตอีกมากมาย ชีวิตมีวินาทีที่เปลี่ยนชีวิต มีช่วงเวลาที่เป็นบทเรียนของคนอื่น เป็นบทเรียนถ้าเลือกได้ก็อยากรู้ก่อนเกิดกับตัวเอง เรียนรู้คุณค่าของเวลา ใช้เวลากับชีวิต เห็นความสำคัญกับผู้คนรอบข้างมากขึ้น มาเรียนรู้ชีวิตผ่านช่วงเวลาสุดท้ายของผู้อื่น ก่อนที่เราจะเสียดายเมื่อถึงเวลาสุดท้ายของตัวเราเองให้เวลาชีวิตที่เหลืออยู่ของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายเป็นผู้เล่าให้เราฟังเถอะนะ

328 pages, Paperback

Published September 1, 2023

5 people are currently reading
20 people want to read

About the author

김범석

4 books

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
7 (30%)
4 stars
12 (52%)
3 stars
4 (17%)
2 stars
0 (0%)
1 star
0 (0%)
Displaying 1 - 4 of 4 reviews
Profile Image for Mook Woramon.
897 reviews200 followers
August 21, 2025
เมื่อเวลาชีวิตมีจำกัด จึงได้ตระหนักถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่

เรื่องเล่าจากคุณหมอคิม อายุรแพทย์โรคมะเร็งที่เกาหลีใต้
ไม่ใช่เรื่องวิชาการ แต่เป็นเรื่องที่พบเจอในแต่ละวัน สิ่งที่ได้เรียนรู้จากผู้ป่วยและความหมายของชีวิต

ฉันว่าการเป็นอายุรแพทย์โรคมะเร็งต้องจิตแข็งพอสมควร มันไม่ใช่ไข้หวัดที่จะหายได้ในเวลาอันสั้น แต่การเป็นมะเร็งมันคือการเดินทางร่วมกันอันยาวนานระหว่างผู้ป่วย ครอบครัว และแพทย์ เป็นเรื่องที่อ่อนไหว มีอารมณ์ความรู้สึกมาเกี่ยวข้องเยอะ

ในเรื่องเล่าของคุณหมอคิม เราเจอวิธีการรับมือหลากหลายรูปแบบกับข่าวร้าย บางคนเศร้า บางคนโกรธ บางคนปล่อยวาง ตาม stage of grief
คุณหมอเองก็ได้เรียนรู้จากผู้ป่วย ทั้งในเรื่องวิธีการรักษา และการรับมือกับความตาย

จะเรียกว่าโชคดีได้มั้ยนะที่คนที่ทำงานใกล้ชิดกับความตายทุกวัน ย่อมมีโอกาสได้พินิจพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของชีวิตมากกว่าคนทั่วไป
ปกติทุกวันนี้แค่เอาตัวรอดไปวัน ๆ ยังลำบากเลย ความตายเลยเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว

แต่การอ่านเล่มนี้ก็ชวนให้เราคิด สมมุติเราเป็นมะเร็ง เราเตรียมตัวพร้อมหรือยัง มีประกันสุขภาพมั้ย มีเงินสำรองฉุกเฉินมั้ย มีเรื่องอะไรที่สามารถทำได้แล้วยังไม่ได้ทำบ้างมั้ยหรือถ้าวาระสุดท้ายมาถึงเราวางแผนมันไว้อย่างไร
นี่แหละนะปัญหาของคนชอบคิดไปเรื่อย เอกมโน โทจินตนาการ 😅😅
Profile Image for Tanan.
234 reviews47 followers
July 23, 2024
ดี หลากหลายเรื่องราวที่ชวนให้คิดถึงการมีชีวิตอยู่ จำได้ว่าตัวเองไฮไลต์ไว้หลายจุดเลย
แต่จำไม่ได้แล้วว่าไฮไลต์อะไรไปบ้าง สรุปจำไม่ได้แล้ว เจริญจริง ๆ 555
Profile Image for ppsk ᙏ̤̫.
268 reviews8 followers
Read
April 4, 2024
จัดว่า worth-reading❣️ เป็นหนังสือดีที่อ่านได้ทุกเพศทุกวัย นี่ว่าการเขียนแบบจบบทสั้น ๆ เป็นเรื่อง ๆ มีทั้ง fact และความคิดของผู้เขียนอยู่ด้วยกันมันทำให้อ่านง่ายมาก ถึงเนื้อหาจะเกี่ยวกับมะเร็ง ความตาย ชีวิต ก็ไม่ได้ทำให้อ่านละรู้สึกหนักเลย ยิ่งนี่เป็นนศพ.ด้วย เลยทำให้รู้สึกเหมือนมีอาจารย์แพทย์หรือรุ่นพี่มาเล่าประสบการณ์ มุมมองอาชีพนี้ และมุมมองชีวิตให้ฟัง


P.S. Finishing this book right after seeing ’หลานม่า‘ the movie on the same day just hits differently.
Profile Image for buay.
41 reviews6 followers
April 14, 2024
ตอนแรกคิดว่าเป็น comfort book แต่ไม่ใช่แฮะ แต่เป็นความเรียงบันทึกประสบการณ์ นักเขียนเป็นหมอเฉพาะทางโรคมะเร็ง เนื้อหาจะเป็นเรื่องราวของคนไข้และการตัดสินใจ(เป็นส่วนใหญ่) สาธารณสุขเกาหลี และระบบในโรงพยาบาล

ส่วนที่ชอบในเล่มนี้คือเห็นชีวิตหลายแบบของผู้ป่วย รวมถึงทัศนคติ การตัดสินใจ และการใช้ชีวิตตอนไม่กี่เดือนสุดท้ายก่อนเสีย

นักเขียนจะออกความเห็นส่วนตัวผสมลงไปในงานเขียนด้วย มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับผู้ป่วย มีทั้งการบ่น ตัดพ้อ (และวิจารณ์ระบบสาธารณสุขเกาหลี) ทำให้เห็นมุมมองของหมอคนหนึ่งที่บางทีก็ดูมีความเข้าใจคนไข้ บางทีก็รู้สึกว่าเย็นชาและรักษาระยะห่าง แต่นักเขียนก็บอกไว้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ก็เข้าใจได้แหละ ชอบครึ่งเล่มแรกมากกว่าครึ่งหลัง มีกลิ่น conservative เล็กน้อย

ที่ไม่ชอบคือนักเขียนชอบเปรียบเทียบเปรียบเปรยเลยรู้สึกว่าเวิ่นเว้อเกินไปนิด
Displaying 1 - 4 of 4 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.