Mook Woramon897 reviews200 followersFollowFollowAugust 21, 2025เมื่อเวลาชีวิตมีจำกัด จึงได้ตระหนักถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่เรื่องเล่าจากคุณหมอคิม อายุรแพทย์โรคมะเร็งที่เกาหลีใต้ไม่ใช่เรื่องวิชาการ แต่เป็นเรื่องที่พบเจอในแต่ละวัน สิ่งที่ได้เรียนรู้จากผู้ป่วยและความหมายของชีวิตฉันว่าการเป็นอายุรแพทย์โรคมะเร็งต้องจิตแข็งพอสมควร มันไม่ใช่ไข้หวัดที่จะหายได้ในเวลาอันสั้น แต่การเป็นมะเร็งมันคือการเดินทางร่วมกันอันยาวนานระหว่างผู้ป่วย ครอบครัว และแพทย์ เป็นเรื่องที่อ่อนไหว มีอารมณ์ความรู้สึกมาเกี่ยวข้องเยอะในเรื่องเล่าของคุณหมอคิม เราเจอวิธีการรับมือหลากหลายรูปแบบกับข่าวร้าย บางคนเศร้า บางคนโกรธ บางคนปล่อยวาง ตาม stage of griefคุณหมอเองก็ได้เรียนรู้จากผู้ป่วย ทั้งในเรื่องวิธีการรักษา และการรับมือกับความตายจะเรียกว่าโชคดีได้มั้ยนะที่คนที่ทำงานใกล้ชิดกับความตายทุกวัน ย่อมมีโอกาสได้พินิจพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของชีวิตมากกว่าคนทั่วไปปกติทุกวันนี้แค่เอาตัวรอดไปวัน ๆ ยังลำบากเลย ความตายเลยเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวแต่การอ่านเล่มนี้ก็ชวนให้เราคิด สมมุติเราเป็นมะเร็ง เราเตรียมตัวพร้อมหรือยัง มีประกันสุขภาพมั้ย มีเงินสำรองฉุกเฉินมั้ย มีเรื่องอะไรที่สามารถทำได้แล้วยังไม่ได้ทำบ้างมั้ยหรือถ้าวาระสุดท้ายมาถึงเราวางแผนมันไว้อย่างไรนี่แหละนะปัญหาของคนชอบคิดไปเรื่อย เอกมโน โทจินตนาการ 😅😅
Tanan234 reviews47 followersFollowFollowJuly 23, 2024ดี หลากหลายเรื่องราวที่ชวนให้คิดถึงการมีชีวิตอยู่ จำได้ว่าตัวเองไฮไลต์ไว้หลายจุดเลยแต่จำไม่ได้แล้วว่าไฮไลต์อะไรไปบ้าง สรุปจำไม่ได้แล้ว เจริญจริง ๆ 555
ppsk ᙏ̤̫268 reviews8 followersFollowFollowReadApril 4, 2024จัดว่า worth-reading❣️ เป็นหนังสือดีที่อ่านได้ทุกเพศทุกวัย นี่ว่าการเขียนแบบจบบทสั้น ๆ เป็นเรื่อง ๆ มีทั้ง fact และความคิดของผู้เขียนอยู่ด้วยกันมันทำให้อ่านง่ายมาก ถึงเนื้อหาจะเกี่ยวกับมะเร็ง ความตาย ชีวิต ก็ไม่ได้ทำให้อ่านละรู้สึกหนักเลย ยิ่งนี่เป็นนศพ.ด้วย เลยทำให้รู้สึกเหมือนมีอาจารย์แพทย์หรือรุ่นพี่มาเล่าประสบการณ์ มุมมองอาชีพนี้ และมุมมองชีวิตให้ฟัง P.S. Finishing this book right after seeing ’หลานม่า‘ the movie on the same day just hits differently.fav2024
buay41 reviews6 followersFollowFollowApril 14, 2024ตอนแรกคิดว่าเป็น comfort book แต่ไม่ใช่แฮะ แต่เป็นความเรียงบันทึกประสบการณ์ นักเขียนเป็นหมอเฉพาะทางโรคมะเร็ง เนื้อหาจะเป็นเรื่องราวของคนไข้และการตัดสินใจ(เป็นส่วนใหญ่) สาธารณสุขเกาหลี และระบบในโรงพยาบาล ส่วนที่ชอบในเล่มนี้คือเห็นชีวิตหลายแบบของผู้ป่วย รวมถึงทัศนคติ การตัดสินใจ และการใช้ชีวิตตอนไม่กี่เดือนสุดท้ายก่อนเสียนักเขียนจะออกความเห็นส่วนตัวผสมลงไปในงานเขียนด้วย มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับผู้ป่วย มีทั้งการบ่น ตัดพ้อ (และวิจารณ์ระบบสาธารณสุขเกาหลี) ทำให้เห็นมุมมองของหมอคนหนึ่งที่บางทีก็ดูมีความเข้าใจคนไข้ บางทีก็รู้สึกว่าเย็นชาและรักษาระยะห่าง แต่นักเขียนก็บอกไว้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ก็เข้าใจได้แหละ ชอบครึ่งเล่มแรกมากกว่าครึ่งหลัง มีกลิ่น conservative เล็กน้อย ที่ไม่ชอบคือนักเขียนชอบเปรียบเทียบเปรียบเปรยเลยรู้สึกว่าเวิ่นเว้อเกินไปนิดown own-nonfiction own-nonfiction-memoir