この本を盗む者は

by Nowaki Fukamidori, 深緑 野分

「ああ、読まなければよかった! これだから本は嫌いなのに!」
書物の蒐集家を曾祖父に持つ高校生の深冬。父は巨大な書庫「御倉館」の管理人を務めるが、深冬は本が好きではない。ある日、御倉館から蔵書が盗まれ、父の代わりに館を訪れていた深冬は残されたメッセージを目にする。
“この本を盗む者は、魔術的現実主義の旗に追われる”
本の呪いが発動し、街は侵食されるように物語の世界に姿を変えていく。泥棒を捕まえない限り世界が元に戻らないと知った深冬は、探偵が銃を手に陰謀に挑む話や、銀色の巨大な獣を巡る話など、様々な本の世界を冒険していく。やがて彼女自身にも変化が訪れて――。

「呪われて、読む。そして書く――私たちは!」
森見登美彦氏 推薦!

Genres: Fantasy, Japanese Literature, Light Novel

344 pages, Hardcover

First published October 8, 2020

Reviews

[Kamons · Rating 3 out of 5]

สนุกน้อยจนผิดคาดแฮะ คือจะบอกว่าอ่านได้เรื่อยๆ ก็เกินจริงไปหน่อยเพราะอยากหยิบวางเรื่อยๆ มากกว่า

แนวแฟนตาซี แบ่งเป็น 5 ตอนจบ เนื้อเรื่องคือตามหาหนังสือที่ถูกขโมยไป โดยมีมิฟุยุเป็นตัวเอก แล้วเด็กสาวแปลกประหลาดคนนึงชื่อมาชิโระคอยช่วย ซึ่งก็งงว่าหนังสือเล่มนั้นหาย แต่เอาหนังสือมาให้มิฟุยุอ่านได้ยังไง? แล้วพออ่านหนังสือ (เล่มที่หายไปนั่นแหละ) เมืองที่มิฟุยุอยู่ก็จะมีเซ็ตติ้งแบบโลกในนิยายที่หายไป มิฟุยุก็ต้องไปหาหนังสือเพื่อให้เมืองกลับมาเหมือนเดิม ฟังเรื่องย่อเหมือนจะสนุกแต่มันไม่สนุก บอกไม่ถูกอยากวางตั้งแต่บทแรก พอบทแรกก็ไม่สนุกแล้ว ก็ไม่จูงใจให้อ่านบทต่อไปเลย


พอมาถึงบทเฉลย ความรู้สึกแบบอยากปาหมอนใส่หนังสืออ่ะค่ะ

สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องนี้คือปกฉบับภาษาไทยค่ะ

[Siwabhorn Anothaisintawee · Rating 3 out of 5]

ที่ใจกลางเมืองโยมุนางะ เมืองที่แวดล้อมไปด้วยร้านหนังสือหลายหลายประเภท เป็นที่ตั้งของมิคุระคัง แหล่งเก็บหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในเมือง สถานที่แห่งนี้เปิดให้ผู้คนในเมืองสามารถเข้ามาเยี่ยมชม หยิบยืมหนังสือไปอ่านได้ แต่วันหนึ่งหนังสือหายากภายในมิคุระคังหายสาปสูญไป ทำให้สถานที่แห่งนี้ถูกปิดตายตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา พร้อมคำสาปที่ว่าหากใครบังอาจขโมยหนังสือไปจากมิคุระคังอีก จะต้องพบกับคำสาปที่ยากจะแก้ได้

วันเวลาผ่านไป มิฟุยุ ทายาทสายตรงของตระกูลมิคุระ เกิดจับพลัดจับผลูต้องมาดูแลมิคุระคังชั่วคราว ขณะที่เธอปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นหนังสือเกอดหายไปจากมิคุระคังอีก ทำให้มิฟุยะ และมาชิโระ เพื่อนลึกลับของเธอต้องร่วมมือกันตามจับขโมย และนำหนังสือกลับมาให้ได้ โดยเข้าไปผจญภัยในโลกของหนังสือ ก่อนที่คำสาปจะสัมฤทธิ์ผล

สำหรับคนรักหนังสือน่าจะถูกใจหนังสือเล่มนี้ เพราะตัวเอกเป็นคนในตระกูลผู้ดูแลคลังหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ได้เข้าไปโลดแล่นในหนังสือที่ตัวเองอ่าน เพื่อไขปริศนาว่าใครที่เป็นคนขโมยหนังสือของตอนนั้นๆ

ปกฝีมือคุณ sasi สวยน่ารักมาก

3 บทแรกดำเนินเรื่องเอื่อยเฉื่อย เรื่องที่ตัวเอกเข้าไปผจญภัยก็เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาใหม่แบบงงๆ ทำให้ไม่อินเลย มาสนุกเอาบทที่ 4 (บทสุดท้ายแล้วอีผี) ที่ปมเริ่มขมวดเข้าไคลแม็กซ์ และคลี่คลายสู่ตอนจบ

ปล. เกือบถอดใจตั้งแต่บทที่ 1 ละ

Goodreads ให้ 3.3 เราให้ 3

[moomooread · Rating 3 out of 5]

ชอบตอนต้นนะ เพราะยังไม่รู้อะไรมาก การท่องไปในโลกของเรื่องเล่าที่ซ้อนเรื่องเล่าอีกทีเลยค่อนข้างสนุก แต่พอกลางๆ เริ่มเอื่อย ไม่เฉลยสักที ค่อยๆ ปล่อยคำใบ้ทีละ 1% งี้ แถมผู้เขียนชอบพรรณนามากก ตอนแรกไม่ได้รู้สึกว่าเยอะนะ แต่พอมันเป็นเรื่องเล่าที่ซ้อนเรื่องเล่า แล้วต้องมาเล่า setting ตัวละคร ทุกสิ่งอย่าง มันเลยดูเยอะไปหมด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่อธิบายนั้นทำให้เราจินตนาการถึงโลกที่ผู้เขียนอยากสื่อออกมาได้ชัดเจนมาก จนบางทีรู้สึกว่าชัดเจนเกิน แทบไม่ต้องจินตนาการถึงอะไรเลย บรรยายให้หมดแล้ว ส่วนตอนจบที่เฉลยก็สนุกดี คาดไม่ถึงว่าเรื่องมันมาถึงตรงนี้ได้ไง (แหม คุณพี่หักมุมแบบหักพวงมาลัยไปมา ใครเขาจะไปเดาทางได้ 100%) ถึงจะดูอิหยังวะไปบ้างแต่ก็อ่านละเพลินดี

[Meaw T. · Rating 3 out of 5]

ยายแก่หวงหนังสือคนนึงอธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้คนที่ขโมยหนังสือจากหอสมุดตัวเองไปเจอคำสาปติดอยู่ในหนังสือเล่มนั้น

เนี่ยอ่ะค่ะคอนเซปหลักของเรื่องนี้ มีแค่นี้เลย... แล้วตัวเอกสาวของเรา(หลานยายแก่)ก็ต้องติดในหนังสือด้วยในฐานะผู้สืบทอดตระกูลคอยตามจับหัวขโมย คือมันเหมือนจะสนุกนะแต่มันอิหยังวะเป็นจุดๆ ปนๆกับแฟนตาซีเกินไปจนเดาไรไม่ถูกแต่ก็ไม่ได้อ่านลื่นไหลแบบแฟนตาซีหลายๆเรื่องอ่ะ แถมมันยังจบแบบเอ๊า สรุปเอางี้เลยหรอพี่ แก้ปมทั้งเรื่องง่ายๆงี้เลยหรอ ไม่ไหวๆให้3ดาว

[Jenn Odd · Rating 4 out of 5]

**Light Fantasy With Interesting Twist**

The story of of a girl being sucked into books to find a thief is why I picked up this novel. I thought the whole book would be about that, and it sort of is but sorry of isn't.

The first three chapters feel episodic (a very Japanese story telling troupe) with Mifuu going into a new book each time to catch the thief. So there wasn't much to motivate me to keep reading. But after chapter three, things got a lot more interesting and I found myself storming through the novel to a satisfying ending.

[Kritsada Kitpetcharat · Rating 2 out of 5]

เมืองต้องมนตร์ คนขโมยหนังสือ, ฟุกะมิโดริ โนวากิ

เคยกะเอาไว้ว่าเดือนนี้น่าจะอ่านนิยายได้สักสองเล่มหนา ๆ ไป ๆ มา ๆ ปัญหาก็เกิด เพราะเจอนิยายที่ซื้อมาอ่านไปได้สักพักก็พบว่ามัน “ไม่สนุกเลยเว่ยย” อยู่หลายเกมหนึ่งในนั้นคือ ‘เมืองต้องมนตร์ คนขโมยหนังสือ’ ที่ใช้เวลากล้ำกลืนฝืนทนไปกับมันพักใหญ่ ถามตัวนิยายในใจอยู่บ่อยครั้งว่า “มันสนุกตรงไหนวะเนี่ย?”

ความรู้สึกตอนอ่านไปด้วยช่วง 1 ใน 3 รู้สึกเหมือนโดนเรื่องย่อหลอกเลย ด้วยการที่มันเล่าแค่ว่ามันเป็นเรื่องของ ‘มิฟุยุ’ เด็กสาวทายาทตกระกลู ‘มิคุระ’ ผู้ครอบครองคลังหนังสือขนาดใหญ่ ‘มิคุระคัง’ สมบัติของเมือง ‘โยมุนางะ’ ที่ต้องออกไปตามหาหนังสือที่ถูกขโมยไป และตามจับคนร้ายให้ได้ก่อนคำสาปแห่ง ‘มิคุระคัง’ ที่เป็นดั่งระบบรักษาความปลอดภัยจะทำให้เมืองโยมุนางะไม่เหมือนเดิมไปตลอดกาล

ฟังดูเหมือนว่ามันจะเป็นนิยายแนวสืบสวนสอบสวน แต่ไม่ใช่เลยยย เรื่องกว่า 3 ใน 4 ของเล่มเต็มไปด้วยการผจญภัยของมิฟุยุกับ ‘มาชิโระ’ เด็กสาวที่กลายร่างเป็นสุนัขสีขาวขนฟู่ฟ่องได้ เพื่อออกตามหาหัวขโมยหนังสือในเมืองโยมุนางะ ที่ถูกคำสาปของมิคุระคังแปรเปลี่ยนให้เมืองกลายเป็นโลกของหนังสือแนว ‘สัจนิยมมหัศจรรย์’ ไม่ว่าจะโลกของนิทานเกี่ยวกับชายผู้มากับสายฝนที่ตกลงมาเป็นไข่มุก โลกฟิล์มนัวร์นักสืบแนวฮาร์ดบอยด์ที่หนังสือกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โลกแนวสตีมพังค์ที่ผู้คนต้องอาศัยพลังจากการปฏิกูลของอสุรกายสีเงินขนาดยักษ์ เนื้อหาส่วนใหญ่จึงกลายเป็นเรื่องราวการผจญภัยในกลิ่นอาย 'สตูดิโอจิบลิ' เข้ม ๆ เสียมากกว่า

แค่โลกสัจนิยมมหัศจรรย์เรื่องแรกเราก็แทบจอดแล้ว รู้สึกต่อไม่ติดเลย แถมตัวละครในเรื่องมันก็มีความผู้หญิ๊งงง ผู้หญิง~ จนบางที่ก็รำคาญ ตลอดเวลาที่อ่านต้องเสียเวลามานั่งจินตนาการว่าได้โลกบ้า ๆ บอ ๆ เช่น โลกที่มีฝนตกลงมาเป็นไข่มุก โลกที่มีดวงจันทร์เป็นนัยน์ตาของแมวตัวยักษ์ ของผู้��ต่งมันมีรูปร่างหน้าตาแบบไหนกันนะ? แถมเรื่องราวที่ถูกของหนังสือที่สอดแทรกเข้าก็ยังทำให้เราเต็มไปด้วยความกังขาว่าแล้วมันจะไป��ชื่อมโยงกับเส้นเรื่องหลักยังไงกันนะ?

แต่ถึงแม้เราจะไม่ชอบช่วงครึ่งแรกของหนังสือมาก ๆ ๆ ๆ แต่คำตอบของ “ความไม่ชอบ” ก็มาถูกคลี่คลายทั้งหมดในเครื่องหลัง ด้วยความดึงดันและดื้อดึงของผู้แต่งที่ต้องการจะบอกว่าก็ฉันอยากจะเขียนแบบนี้ ก็เรื่อง ’สัจนิยมมหัศจรรย์’ มันเป็นแบบนี้ไง มันไม่ต้องมีแบบแผน มันไม่ต้องคิดล่วงหน้าว่าเรื่องราวและตัวละครที่ร่วมเดินทางกับผู้อ่านตลอดทั้งเล่มมาจะลงเอยยังไง ขอแค่มันสามารถสื่อสารความรู้สึกไปถึงผู้อ่านที่มีประสบการณ์ร่วมและเข้าใจมันได้ก็เพียงพอแล้วแม้ว่าการผจญภัยมันจะน่าเหลือเชื่อสักแค่ไหนก็ตาม

กลายเป็นว่าเราชอบช่วงท้าย ๆ ของเล่มในบทเฉลยมาก มีหลาย ๆ หลายบทสนทนาที่โดนใจ เราชอบประโยคสั้น ๆ ที่ไม่สำคัญสักเท่าไหร่มาก มันเป็นบทพูดที่ในทำนองที่ว่า “การมีความฝันว่าอยากจะเป็น ‘นักเขียน’ มันก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องที่น่าขันเลยนี่นา คนเรามันจะมีความฝันกันไม่ได้เชียวหรือ?” จากการไถอ่านแบบแทบโยนลงกองดองไปกลางทางเสียหลายรอบ ดูเหมือนว่าความดื้อดึงของตัวผู้แต่งจะซื้อใจเราได้ในท้ายที่สุดไปเสียอย่างนั้นแฮะ

[Bighead_Monster · Rating 3 out of 5]

เมื่อชะตากรรมชาวเมืองขึ้นอยู่กับหนังสือที่ถูกขโมยไป พวกเขาจึงต้องตามหาคนร้าย ด้วยคำสาปที่ว่าหากมีหนังสือหายไปทุกคนต้องติดอยู่ในแหล่งเก็บหนังสือตลอดกาล #เมืองต้องมนตร์คนขโมยหนังสือ พล็อตน่าสนใจ ปกสวยน่าอ่าน แต่อ่านไปก็เวอร์วังอลังล้น ๆ กว่าที่คิด ผจญภัยสืบสวนแฟนตาซีฟุ้งฝันโทนสัจนิยมมหัศจรรย์
.
เรื่องราวของตระกูลมิคุระ ผู้ดูแลคลังหนังสือที่ชื่อมิคุระคัง ซึ่งเปรียบเสมือนใจกลางเป็นดุจดั่งวาล์วนิรภัยของเมืองโยมุนางะ แต่เมื่อก่อนเคยมีหนังสือหายากในมิคุระคังหายไป ทำให้มิคุระคังถูกปิดตายไว้พร้อมกับคำสาปที่ว่า หากมีใครขโมยหนังสือหรือหนังสือหายไปจากมิคุระคังอีก เมืองนี้จะล่มสลาย

จนเวลาล่วงเลยมาถึงทายาทรุ่นล่าสุดอย่าง มิฟุยุ ที่ดูแลหนังสือในมิคุระคังก็ดันมาหายไปอีกครั้ง สันนิษฐานว่าถูกขโมย ทำให้มิฟุยะและเพื่อนต้องพากันออกไปสืบสาวตามจับโจรขโมยและนำหนังสือกลับคืน โดยพวกเธอต้องเข้าไปผจญภัยในโลกในหนังสือหลายเล่มแก้ปริศนา ก่อนที่คำสาปจะกลืนกินเมืองอย่างถาวร

เป็นแนวสืบสวนผสมผสานแนวแฟนตาซี-ผจญภัย ด้วยการท่องไปในโลกหนังสือเป็นเรื่องเล่าที่ซ้อนเรื่องเล่าอีกที โดย มิฟุยุ ตัวเอกเด็กสาวที่ไม่ได้ชอบอ่านหนังสือ กับมาชิโระ เด็กสาวที่กลายร่างเป็นหมาสีขาวได้ ทั้งคู่ต้องออกตามหาขโมยในเมืองที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นโลกของหนังสือ บนแนวสัจนิยมมหัศจรรย์ ?

สัจนิยมมหัศจรรย์ในเรื่องนี้คือเซตติ้งเมือง-เนื้อเรื่องจะมีความเหนือจินตนาการ คาดเดาไม่ได้ อะไรจะเป็นก็เป็นไปได้อย่างเช่น เมืองที่ฝนตกลงมาเป็นไข่มุก โลกที่มีนัยน์ตาแมวยักษ์เป็นดวงจันทร์ หนังสือกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ฯลฯ คิดว่าน่าจะแปลยากแต่ก็ถือว่าแปลดี แปลละเอียดเมื่อมองดูเนื้อเรื่องต้นฉบับ (มีคำผิด1ตัว)

การดำเนินเรื่องจะชูโรงไปที่การผจญภัยให้เราเข้าไปค้นหาโลกใบใหม่กับตัวละคร แต่จังหวะการเดินเรื่องกลับค่อยเป็นค่อยไปเกินไปหน่อย ด้วยความที่เป็นการเล่าเรื่องซ้อนในเรื่อง โดยต้องเล่าภายในนิยายเล่มที่เข้าไปสืบอีกที การดำเนินเรื่องแต่ละครั้งจึงต้องเล่าเซตติ้ง-ตัวละครใหม่หมด ข้อมูลจึงดูมีความล้น ๆ ทำให้ต่อติดยาก

พล็อตหลัก ๆ หากมองดูก็มีการเล่นประเด็นครอบครัวและมิตรภาพด้วย แต่ก็จืดจางไม่ประทับใจเพราะเน้นไปที่สืบสวนสลับไปกับการผจญภัยในโลกแฟนตาซี เจอสิ่งที่ไม่คาดคิดไปเรื่อย ๆ ทำให้จับประเด็นไม่ได้เท่าไหร่ จึงต้องอ่านแบบเปิดจิตปล่อยใจไปตามเรื่องราว ที่เรารู้คือดำเนินเรื่องมายาวนาน บทจะเฉลยก็เฉลยเสียอย่างนั้น

เล่มนี้สำหรับคนชอบหนังสือก็อาจจะถูกใจตั้งแต่แรกเห็นด้วยหลายสิ่งอย่าง หน้าปกที่สวยสะคราญโฉมมาก และพล็อตที่มีทั้งคลังหนังสือขนาดใหญ่เป็นตัวชูโรง การเข้าไปในโลกหนังสือ การไขปริศนาหาขโมย แต่เมื่อมองภาพรวมแล้วเนื้อหาทั้งหมดไม่ค่อยเบลนไปด้วยกันเท่าไหร่จึงทำให้อ่านไม่ติดหัวติดมือเท่าไหร่นัก

วรรคที่ชอบ

- ที่ใดมีหนังสือ ที่นั่นย่อมดึงดูดนักสะสมหนังสือชั่วดีปะปนกันไป

[Kono · Rating 3 out of 5]

3.5 ☆

The book wants to be read like a movie, with different visual effects which are distracting. The characters aren't fleshed out properly either, there's not one character we fully get to know - except for the mean grandmother who is the last character we wish to know better - and it feels like the whole story could have been half in length if not for all the "book excerpts". In addition, the content of these excerpts has barely to do anything with the main story, they're just distracting, almost boring. It was hard to jump back and forth from the main storyline to the story of these "short stories" (even if Mifuyu was later placed in them). It feels like the author wanted to write in many different genres, couldn't decide which one to pick, and smashed all of them together. Not to mention the logic of the events is a tad hard to follow and everything is either spelled out for the reader or not explained at all just when it's so late and we don't care about it anymore (e.g. Mashiro's and Hirune's identity, how the whole curse came to be, what role Mifuyu's father played in the whole story - a big one at that and we barely read about him throughout the whole book). The idea of the book is really good with much much potential but the pace is off and I think it could have been executed way better overall. E.g. I would have loved to read more about the city itself or its habitants (who were just useless bystanders in the different short stories forced into the main one), or why exactly Mifuyu hates reading. I would have loved to learn more about the shrine too and its connection to everything, the curse itself, not to mention what happened how, and why - and not just in the last 25% of the book. However, the last 10-15% did make up for it all to some extent, so I'm gonna settle on 3.5 ☆.

[阿近 · Rating 4 out of 5]

　　因為是跟書本有關的故事，在書店裡看到很快就決定買下來了。《竊取本書者將會⋯》敘述家中有傳承三代藏書館的高中女生御倉深冬，某一天意外跌入書中世界，且不僅是御倉館所在的範圍，甚至整個城鎮的讀長町都化為故事的世界，不知所措的深冬與一位白髮狗耳少女真白一起在書中展開大冒險，漸漸掌握會掉入故事世界的規則。原來是已故祖母珠樹為了防範有外人竊取書籍而下的詛咒，御倉館的書在深冬沒注意的情況下被外人拿走，因此觸發了詛咒。屢次被捲進故事的風波，甚至發現原本找到小偷就會恢復正常的現實世界也開始變得不對勁，不知不覺走向非得要解決這種詭異情況的態勢。

　　《竊取本書者將會⋯》某種程度滿足我想在書中世界遨遊冒險的想法，依照各章節來看，深冬和真白闖蕩的故事依序應該是魔幻寫實小說、冷硬派推理小說、蒸氣龐克小說，最後一個深冬獨自被遺留在鎮上，沒有半點人煙的故事，我不太確定是什麼類型的小說，算是反烏托邦還是末日故事呢？由於上述小說類型其實我也沒怎麼接觸過，加上是抱持著兩位少女在故事裡冒險並有所成長的心態去看，讀得算是滿開心的。深綠野分不僅將不同類型小說的環境敘述得活靈活現，也將深冬在化身為故事世界的讀長町冒險，從滿頭霧水到試圖掌握狀況的心態描寫得栩栩如生。

　　很喜歡也很嚮往作者筆下居民們深愛著書籍，亦因此逐漸建立起書香小鎮美名的讀長町，街上有各式各樣書籍相關產業的店家。感覺就像童話故事一樣美好。深冬、真白生死與共的摯友情誼描寫非常溫暖動人。一邊讀一邊猜測御倉館有這麼神奇的魔法背後成因，還有真白的真實身份。本來我以為真白是晝寢姑姑的化身，因為姪女不喜歡看書，為了讓她重拾閱讀故事的樂趣，才設法用計讓她落入故事世界，體會到想要一頁接一頁往下翻，迫不及待地瞭解後續情��的激動之情。

　　沒想到真相跟我想的完全不一樣。而且看到步夢筆記本記載的真相還有點為珠樹的執念感到毛骨悚然。讀到結局，儘管我很能理解珠樹祖母不希望私人書籍被外人碰觸後有汙損的想法，但讓我有點害怕對書本執著到某種程度，就會變成像珠樹一樣走火入魔，只想圍繞在書的世界，不去理解外面的世界；為了完好自己的理想鄉，將城鎮的其他人拖下水也在所不惜。

　　但深冬事件落幕後所採取的行動讓我感覺到她仰賴著自己與身邊夥伴的力量，打破祖母的魔咒，擺脫她的言靈控制，也藉此重新建立起自己與周遭人事物和諧相處的關係：她與書本的關係、她與街坊鄰居的關係、她與幻想朋友的關係。每一段關係於她都有一定的份量，但不會偏重到將自己整個人生奉獻上去，也改變御倉館的營運規則，漸進式開放外人借閱，讓��棟凝滯多年、彷彿封閉在靜止時光的藏書館，因為書本與人群的流動重新鮮活了起來，恢復了藏書館與背後歷史蘊含的生命力。我也喜歡深冬最後仿照父親的故事，藉由閱讀與動筆寫作，找回屬於自己的夥伴。兩人相擁而笑的重逢畫面真的令人非常感動。

[Yanisa Lertsirimunkong · Rating 3 out of 5]

เรื่องย่อโอเค คำโปรยโอเค ปกดีงาม แต่เนื้อหาไม่ค่อยสนุกเท่าไร ไม่รู้เป็นเพราะคาดหวังเกินไปหรืออะไร
เนื้อเรื่องแบ่งออกเป็นห้าบท สามบทแรกเนือยมาก บทที่สี่เริ่มสนุก แต่พอบทที่ห้าก็กลับมาเนือยอีกรอบ
ปมของตัวละครเดาได้ตั้งแต่แรก ๆ เลยไม่ค่อยอะไรเท่าไรตอนเฉลย ปมของมิคุระคังก็พอจะเดาได้ลาง ๆ จากคำโปรย
ตัวละครหลักอย่างมิฟุยุเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ไม่อยากอ่านต่อและอยากเลิกอ่านไปเลย แต่เพราะต่อคิวรอยืมมานานมากเป็นเดือน ๆ เลยอยากอ่านให้จบ เพราะไม่อยากตัดสินหนังสือเล่มไหนก่อนอ่านจบ แต่พออ่านจนจบก็รู้สึกว่าถ้าเลิกอ่านไปตั้งแต่แรก ๆ อาจจะดีกว่า เพราะค่อนข้างผิดหวังกับเรื่องนี้พอสมควร
มิฟุยุเป็นเด็กมอสี่ที่นิสัยค่อนข้างเด็ก เอาแต่ใจตัวเองและชอบตัดสินคนอื่น ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นสักเท่าไร แอบคาดหวังว่าจะเห็นพัฒนาการของตัวละครตัวนี้ระหว่างเรื่อง แต่ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องก็ไม่ได้เห็นว่าตัวละครนี้จะเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าไร ยังคงมีนิสัยและมายเซ็ตแบบเดิม
ที่ว้าวก็คือวิธีการเล่าเรื่องแบบเรื่องซ้อนเรื่องซ้อนเรื่อง เพราะมันทำให้ควบคุมการดำเนินเรื่องยาก ซึ่งคนเขียนก็ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เสียเวลาไปกับการแนะนำตัวละครและเซ็ตติ้งมากเกินไปหน่อยทำให้ไม่ค่อยอิน พอถึงจุดที่เริ่มเข้าใจเซ็ตติ้งก็ตัดจบทำให้รู้สึกไม่อิ่ม และค้างคา

[BubblegumG · Rating 4 out of 5]

เป็นนิยายสืบสวนแนวแฟนตาซีแบบจิบลิ ฟุ้ง ๆ เพ้อฝันนิด ๆ เอเลเมนท์ในเรื่องแปลก ๆ แหวก ๆ หน่อย ตัวหนังสือบรรยายเหมือนอยากให้เรารู้สึกว่าเรากำลังดูหนัง ซึ่งตรงนี้บางคนอาจชอบ หรือไม่ชอบไปเลย เพราะคำบรรยายมันจะเยอะมาก ส่วนทางเราเฉย ๆ ตอนอ่านไม่ได้ว้าวหรือบ่นว่าไม่สนุกอะไร ตัวนิยายปูเรื่องมาดีมาก กว่าจะหาหัวขโมยหนังสือได้ในแต่ละบทมันอยากเย็นแสนเข็ญ และยากขึ้นทุกบท ทำให้เราคิดว่า ลาสบอสของบทสุดท้าย ไคลแมกซ์ต้องยาก ต้องแก้ยาก เอาชนะยากแน่ แต่อยู่ดี ๆ ก็ดันปราบได้แบบรอบเดียวจบไม่ลุ้นเลย ด้าน pacing ทำออกมาดีไม่ช้าหรือเร็วเกินไป สรุปแล้วอ่านก็ได้ไม่อ่านก็ได้ค่ะเล่มนี้ ถ้าใครมีอยู่ใน reading list เล่มนี้ไม่ต้องลัดคิวค่ะ เพราะมันยังไม่ได้สนุกที่จะต้องลัดคิวขึ้นมาอ่านเลย รออ่านตามคิวของตัวเองเอาดีกว่าค่ะ

[Wasin Waeosri · Rating 4 out of 5]

เรื่องราวของ "มิคุระคัง" คลังหนังสือต้องคำสาปประจำเมืองกับมิฟุยุ หลานของผู้ก่อตั้งมิคุระคังที่ตกกระไดพลอยโจนต้องมาแก้คำสาปกับการผจญภัยหลากหลายแนว หลากรสชาติซ้อนอยู่ในเล่มเดียวกัน

ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านนิยายสั้นหลายๆ เรื่อง หลากหลายแนวทั้งแฟนตาซี สอบสวน ฟิล์มนัว แนวปริศนาปนๆ กัน แต่เส้นเรื่องหลักแน่นมาก ไม่หลุดเลยแม้จะโดดไปเส้นเรื่องย่อย มีความแฟนตาซีสูงมาก อ่านแล้วคิดว่าน่าทำเป็นอนิเมะจะได้เห็นภาพได้เต็มที่มากขึ้น อ่านเพลินๆ ดีครับ

[Parisa S · Rating 2 out of 5]

สำหรับเรื่องนี้จะออกแนวแฟนตาซีและคำสาป หนังสือแบ่งเป็น5บท บทแรกถือว่าเล่าเรื่องได้ดี แต่พอเริ่มบท2-3จะเริ่มน่าเบื่อ เพราะเรื่องจะไม่ค่อยมีเหตุผล เหมือนอยากใส่อะไรก็ใส่ พอมาบทหลังๆเหมือนนักเขียนเริ่มตัน นักเขียนพยายามยัดอะไรมาให้เยอะมากเพื่อให้เรื่องมันไปต่อ แต่ตรงนี้เลยทำให้พล็อตมันล่ม ยิ่งตอนจบคือ...

[P · Rating 2 out of 5]

ระหว่างการอ่านเล่มนี้ทำให้รู้ได้อย่างหนึ่ง คือไม่ชอบอ่านแฟนตาซีญี่ปุ่นเลย เพราะเท่าที่เคยอ่านมามันจะมีความฟุ้งอยู่มากกกกกก สไตล์จิบลิ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่อินกับจิบลิ แต่เรื่องนี้ทนอ่านไม่ไหว อ่านได้ถึงตอน3ก็ข้ามมาตอนจบเลย รู้สึกว่าเรื่องมันไม่ค่อยกลมไปด้วยกันทำไร ความแฟนตาซีมันก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลอยู่บ้างแหละ แต่เรื่องนี้คือช่องโหว่เยอะเกินไป มันดูไม่ค่อยปะติดปะต่อ ต้องใช้พลังงานในการอ่านมาก

[T. · Rating 2 out of 5]

เหมือนเป็นนิยายที่มาย้ำเตือนว่าเรากับนิยายแฟนตาซีญี่ปุ่นน่าจะไปกันไม่รอดจริงๆ 5555555 เป็นนิยายที่อ่านแล้วไม่ชวนอ่านต่อเลย จริงๆเซ็ตติ้งน่าสนใจมาก แต่การดำเนินเรื่องค่อนข้างลอยๆ บวกกับตัวละครหลักที่ท่องอยู่ตกเวลาว่าเกลียดหนังสือๆ มันเลยไม่ได้มีอะไรจรรโลงใจเท่าไหร่ ถ้าเอาไปทำเป็นมังงะหรืออนิเมที่เล่าด้วยภาพน่าจะเวิร์คกว่านี้

[Pakapak Sankhasundara · Rating 3 out of 5]

ชั้นบอกความรู้สึกตอนอ่านจบไม่ถูกว่าจะรักหรือจะเกลียดดี

[BowEiyaEita · Rating 4 out of 5]

เล่าเรื่องแบบหนังสือซ้อนหนังสือ อ่านแรกๆงงเล็กน้อย เบื่อนิดๆ แต่ก็อยากรู้ตอนต่อไป ช่วงครึ่งเล่มหลังเริ่มสนุก เรื่องพลิกไปมา อ่านจบก็ยังมีงงบ้าง แต่ชื่นชมนักเขียนเขียนเก่ง

[Alistair · Rating 4 out of 5]

為了看書而從不入睡的晝寢，看盡了一切書後深深地入睡。

[Eye_Candy · Rating 3 out of 5]

ไม่ได้สร้างอิมแพ็คอะไรขนาดนั้น ตัวละครบางตัวก็แปลกเกิน แต่บางตัวละครก็น่ารักดี

[Masaka PST · Rating 2 out of 5]

เนือย เอื่อยมาก คำโปรยบอกแนะนำให่อ่านกัน ทำไมถึงเป็นงั้นได้... กว่าจะอ่านจบ ไม่ได้อยากแนะนำให้อ่าน - -

[Octopuscrew · Rating 2 out of 5]

ไม่ถูกจริต ถ้าอ่านตอนที่อายุพอๆ กับตัวเอกในเรื่อง (วัยรุ่น) อาจจะอินก็ได้

[BK · Rating 4 out of 5]

3.5 stars

[NB23 · Rating 2 out of 5]

ปกน่ารักมากกก วาดโดยคุณศศิ
เล่มนี้ได้จากกลุ่มเช่าหนังสือ อ่านคำโปรยแล้วน่าสนใจเลยตัดสินใจเช่ามา หนังสือหนากว่าที่คาดคิดไว้มากๆ ประมาณเกือบ500 หน้า
หนังสือเล่มนี้เป็นนิยาย แนวสัจนิยมมหัศจรรย์ คืออยู่ในโลกความเป็นจริง แต่มีองค์ประกอบที่เป็นสิ่งวิเศษเหนือธรรมชาติอยู่ด้วย บวกความแฟนตาชี สืบสวน เราขอบวกเรื่องครอบครัวฟิลกู้ดไปด้วยละกัน

พลอตน่าสนใจและน่าสนุกมาก แต่ละตอนนางเอกต้องเข้าไปในโลกแห่งหนังสือและจับโจรให้ได้เพื่อกลับโลกจริง แต่ช่วง 3 บทแรก ค่อนข้างน่าเบื่อ เหนื่อยมาก กว่าจะจบ มีความบรรยายโวหารโดยไม่จำเป็นเยอะมาก ตอนละร้อยหน้าได้ บรรยายได้ดี เห็นภาพเหมือนอยู่ในโลกนิทานด้วยเลย น่าสนใจ และลื่นไหล แต่ไม่จำเป็น เพราะมันเป็นเรื่องในนิทานที่ไม่ได้เกี่ยวกับเส้นเรื่องหลัก เพิ่งมาเริ่มสนุกน่าติดตามใน 2 ตอนสุดท้าย ที่เริ่มเฉลยปมที่ขมวดไว้
ถือว่าจบได้เซอร์ไพรส์ได้อย่างคาดไม่ถึง ผูกเรื่องได้ดีมาก เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว คำสาป ร้านหนังสือ เห็นการเจริญเติบโตของนางเอก

ติดใจอีกอย่างคือ ใส่เนื้อหาซ้ำมาทำไมตั้งเกือบ 2 หน้า เข้าใจใน
จุดประสงค์ แต่มันเยอะไป

[Erika · Rating 3 out of 5]

2021/8/25
本の世界に入り込んでしまう、というシチュエーションは本好きには嬉しい。
この物語も、まさにそうだった。
マジカルリアリズム、ディストピアなハードボイルド、スチームパンク…
けれど、物語のまとめ方が、私には物足りなかった。
もっと驚きが欲しいというか。
「2021年本屋大賞ノミネート」という言葉に、期待を高め過ぎたかもしれない。

悪くはなかったし、ジブリっぽい雰囲気で想像しながら読むのは面白かったけれど、読み終わった後に「凄い！！！！！！！！」とはならない。
ただ「普通に面白かったけど、もう一回読みたいとは思わない」で、星３つ。

2023/8/30
以前読んだ事を忘れて、また図書館から取り寄せてしまった。
パラパラ見ても全く何も思い出せない。
内容としては面白そうなのに....漫画版（「この本を盗む者は　（１） (角川コミックス・エース)」）があるらしいのでそっちを読んでみようと思う。

[Arito Sato · Rating 4 out of 5]

ミステリーファンタジーかな？
本を盗まれると、主人公も街も本の物語の世界に変貌してしまう。
この本自体がファンタジーで、読者はこの本の中に引き込まれているのに、本の中の主人公に成り代わった読者はさらに本の世界に引き込まれる！
とてもおもしろい体験をしました！おもしろい！

-- for einglish
Mystery fantasy?
When a book is stolen, both the protagonist and the city are transformed into the world of the book's story.
The book itself is a fantasy, and the reader is drawn into the book, but the reader who takes the place of the main character in the book is drawn even further into the world of the book!
A very interesting experience! Interesting!

Powered by DeepL