Taweepong Santipattanakul115 reviews2 followersFollowFollowMay 19, 2025เรื่องประมาณนี้ครับ มีไอ้หนุ่มคนหนึ่งที่บื่องาน เบื่อคน เบื่อโลก เบื่อแม่งทุกอย่าง ถ้ามีความสุขมากไปจะเริ่มกลายเป็น "แมลงสาบ" โดนตบตายไม่ก็โดนไล่ทุบทั้งวัน เลยต้องทำตัวเศร้าเบื่อโลกไม่งั้นก็จะมีหนวดและปีกงอกออกมา ถามว่าอยากมีความสุขไหม โคตรอยากมีเลย แต่ก็ไม่อยากกลายร่างด้วยไง เก็ทปะ ... ทุกคนครับเล่มนี้สนุกเป็นบ้า2025 favorites
Attasit Sittidumrong157 reviews16 followersFollowFollowNovember 11, 2024ชัดเจนมากว่านิยายเรื่องนี้ได้รับอิทธิพลจากเรื่องสั้นในตำนานของคาฟก้าอย่าง "เมตามอร์โฟซิส" ทั้งการเปิดเรื่องที่ให้ vibe แบบเดียวกัน หรือการใช้แมลงสาบเป็นสัตว์ที่ตัวเอกกลายร่างไปเป็น ในแง่นี้ จึงอาจพูดได้ว่า "แมลงสาบในเมืองสลด" คือ "เมตามอร์โฟซิส" เวอร์ชั่นไทยในทศวรรษที่สามของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด พูดอีกแบบก็คือถ้าตัวเอกใน "เมตามอร์โฟซิส" ของคาฟก้าสามารถกลับชาติมาเกิดใหม่เป็นคนไทยในยุคสมัยนี้ ตัวเอกดังกล่าวก็คงจะมีชีวิตโลดแล่นอยู่ใน "แมลงสาบในเมืองสลด" อย่างไรก็ตาม แม้อาจดูเหมือนจะเล่าเรื่องในลักษณะที่คล้ายกัน แต่"แมลงสาบในเมืองสลด" ก็นำเสนอประเด็นที่แตกต่างจาก "เมตามอร์โฟซิส" เพราะในขณะที่เรื่องหลังให้ความสำคัญกับความขัดแย้งระหว่างตัวเอกผู้กลายเป็นแมลงสาบกับสังคมรอบข้าง ตั้งแต่สังคมทุนนิยมที่ตัวเขาทำงานอยู่ ไล่ไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับครอบครัวและการต่อสู้ภายในระหว่างความเป็นมนุษย์กับร่างกายที่เป็นแมลงสาบ ความขัดแย้งดังกล่าวกลับไม่ใช่เรื่องสำคัญใน "แมลงสาบในเมืองสลด" เพราะการกลายเป็นแมลงสาบของตัวเอกในเรื่องนี้ไม่ใช่การกลายอย่างถาวรหากแต่เป็นการเปลี่ยนร่างสลับไปมาระหว่างมนุษย์กับแมลงสาบ หัวใจสำคัญของ "แมลงสาบในเมืองสลด" จึงไม่ใช่เรื่องของการต่อสู้ภายในอย่างไร้ทางออกของตัวเอกที่สะท้อนการวิพากษ์สังคมสมัยใหม่และทุนนิยมตามแบบที่คาฟก้าทำ แต่คือความพยายามรักษาความเป็นมนุษย์ไม่ให้เผลอกลายไปเป็นแมลงสาบ การรักษาความเป็นมนุษย์ซึ่ง--ตามที่นิยายบรรยาย--คือการตัดขาดความสุขและรับเอาแต่ความทุกข์ ยิ่งทุกข์มากเท่าไหร่ ตัวเอกก็จะยิ่งมีสติ ตระหนักรู้ถึงความเป็นมนุษย์ของตน ขณะที่ยิ่งมีความสุข ตัวเอกก็จะยิ่งหลงลืมความเป็นมนุษย์และกลายร่างเป็นแมลงสาบ ในแง่นี้ ความเป็นมนุษย์จึงเป็นเรื่องของการทนทุกข์ สิ่งที่นิยามมนุษย์คือความทุกข์ ส่วนความสุขคือการลืมความทุกข์ (ซึ่งทำให้ลืมความเป็นมนุษย์ไปด้วย) เรื่องราวของตัวเอกใน "แมลงสาบในเมืองสลด" จึงเป็นเรื่องราวของ self-alienation ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองไม่มีความสุข ซึ่งก็คือการที่ตนเองทำลายตัวเอง ตัวเอกใน "แมลงสาบในเมืองสลด" จึงเป็นมนุษย์ที่ต้องทำลายตนเองเพื่อรักษาตนเอง หรือก็คือมนุษย์ที่ทำให้ตนเองกลายเป็นสิ่งที่พย็องชอลฮัน นักปรัชญาชาวเกาหลีเรียกว่าชีวิตที่เปลือยเปล่า (bare life) นั่นคือชีวิตที่ปราศจากความสุข ความหมาย เป้าหมายและเจตจำนงค์ใดๆ (แม้แต่เจตจำนงค์ที่จะหยุดชีวิตหรือฆ่าตนเอง) นอกจากเพียงแค่ร่างกายที่เป็นร่างทางกายภาพเท่านั้น เพียงแต่ในขณะที่ชีวิตเปลือยเปล่าตามที่ฮันบรรยายอาจคือชีวิตที่ไปด้วยกันได้กับทุนนิยมและสังคมสมัยตอนปลาย ชีวิตเปลือยเปล่าของตัวเอกใน "แมลงสาบในเมืองสลด" กลับต้องตกงาน เพราะไม่สามารถหาพื้นที่ให้กับตนเองได้แม้แต่ในระบบทุนนิยม ราวกับจะบอกเล่าชะตากรรมของสังคมไทย (อันเป็นเมืองสลดในเรื่อง) ว่านอกจากจะเป็นสังคมที่สามารถทำให้ชีวิตของบางคนกลายเป็นชีวิตที่เปลือยเปล่าแล้ว สังคมไทยยังเป็นสังคมทุนนิยมสมัยใหม่แบบปลอมๆที่ไม่ได้ "ทุนนิยม" และ "สมัยใหม่" จริง จนทำให้ชีวิตเเปลือยเปล่าซึ่งคือรูปแบบของชีวิตที่เหมาะสมกับสังคมทุนนิยมสมัยใหม่ตอนปลาย กลายเป็นชีวิตที่ผิดที่ผิดทางและยิ่งเปล่าเปลือยมากขึ้นไปอีก นิยายสั้นมาก ร้อยหน้านิดๆ แอบเสียดายว่าสั้นไปหน่อย เหมือนตัดจบ ถ้ายาวกว่านี้อีกหน่อย เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอกและตัวละครอื่นๆ น่าจะดีกว่านี้literature
Bighead_Monster338 reviewsFollowFollowDecember 11, 2024ชายคนหนึ่งกลายร่างเป็น #แมลงสาบในเมืองสลด ภายใต้บรรยากาศความโดดเดี่ยวแปลกแยกและเป็นอื่น ที่ซึ่งสอดคล้องกับยุคปัจจุบัน เรื่องเล่าของชะตากรรมอันไม่น่าอภิรมย์ที่เกิดจากความชิงชังในตน ประเด็นความทุกข์สุขของชีวิตมนุษย์อัดแน่นในวรรณกรรมสั้น ๆ ที่ดี มีมิติ เล่มเล็ก ๆ แต่อ่านแล้วดูดพลังชีวิตเหลือเกิน .ชายหนุ่มชื่อ พายัพ ผู้ที่จะต้องเทิร์นร่างกลายเป็นแมลงสาบในทุกครั้งที่รู้สึกว่ากำลังมีความสุข พายัพอับอายจึงต้องปกปิดว่าตัวเองนั้นกลายร่างจนต้องกลายเป็นคนอมทุกข์ อะไรที่เคยทำได้ดีก็กลายเป็นไม่เอาแล้ว กระทบหลายด้าน ต้องเลิกกับแฟนสาว ต้องออกจากงาน แปลกแยกจากผู้คนในสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเผลอกลายร่างเขาก็เริ่มค่อย ๆ เรียนรู้ในแง่มุมนั้น การจะคงร่างรักษาความเป็นมนุษย์(ให้ไม่กลายเป็นแมลงสาบ)คือต้องตัดขาดจากความสุขเอาไว้ เพราะความเป็นมนุษย์คือเรื่องของการทนทุกข์(ให้ได้ให้ไหว) การลืมทุกข์ก็อาจทำให้ลืมความเป็นมนุษย์ไปด้วย เขาจึงทำตัวไม่รู้สึกรู้สา ฝึกให้ตัวเองมีความทุกข์เอาไว้ เล่มสลับบทไปทั้งมุมมองของพายัพ มุมของฟูจินแฟนสาวผู้สมเพชในตัวเขา มุมมองของคุณแม่วัยชรา ได้แต่นั่งบนรถเข็นมองลูก ๆ ที่ผลัดเปลี่ยนมาดูแลตนในบ้านหลังเดิม เขียนได้น่าติดตามอ่านได้ต่อเนื่อง ด้วยสำนวนเข้าใจง่ายแต่ศัพท์แสงกลับแพรวพราว ใช้คำไม่ค่อยซ้ำ ทำให้ตื่นตาไปกับแต่ละย่อหน้า สำนวนก็ให้แง่คิด ดำเนินเรื่องเร็วภายใต้ความอึดอัด อ่านจบยังรู้สึกว่าสั้นไป(ราวกับเสพติดความทุกข์ในเล่มเสียอย่างนั้น) แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งในตัวเองและสังคมรอบด้าน ฉายภาพคนแพ้ในสังคมระบบทุนนิยม(เสียดสีชัดเจน)ภายใต้เมืองที่ชื่อเมืองสลด ทำให้ชีวิตของบางคนกลายเป็นชีวิตที่ว่างเปล่าไร้เป้าหมาย วรรณกรรมร่วมสมัยที่บอกเล่าเรื่องราวคนที่มีภาวะสิ้นยินดี เหนื่อยหน่ายกับการรวมกลุ่มของผู้คน การเข้าสังคมสร้างปฏิสัมพันธ์ ฉายภาพของคนที่พบเจอความกดดันในชีวิตภายใต้สังคมหนักหนา ยังผลไปสู่ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ผ่านความอุปมาในการกลายร่างเป็นแมลงสาบ สิ่งที่หลายคนขยะแขยงแหนงหน่ายภาพรวมที่เล่าแม้จะระทมขม แต่ก็คือความจริง เป็นมนุษย์ก็ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธบาดแผลในใจหรือความล้มเหลวใด ท้ายที่สุดคือการแสดงให้เห็นว่าคนเราจะเป็นอย่างไรพบเจออะไร แต่กระนั้นจงมีชีวิตอยู่ต่อไปและใช้ชีวิตนั้น ให้ตระหนักถึงการใช้ชีวิตธรรมดา ๆ ไปได้ในทุกวันโดนไม่ต้องกดดันตัวเองมากนักในสังคมยุคนี้วรรคที่ชอบ- มีชีวิต��ยู่ต่อไปเถอะนะ มีความสุขไปเถอะ ชีวิตเป็นของเรา นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ผมทำได้ เพื่อตัวเอง เพื่อส่วนที่เหลืออยู่ จะเป็นอะไรก็ตาม คนหรือสัตว์ เรื่องดีดีหรือหายนะ จะสมบูรณ์หรือไม่ อย่างไรชีวิตก็คือชีวิต
nisemono偽者211 reviews23 followersFollowFollowDecember 11, 2025เป็นไงครับ kafka murakami เจอน้าอ้อมแก้ว outsmart ใส่ซะแล้ว lol งานดูเป็นแนวทดลองสุดๆ น่าจะกระดกเหล้าไปร่างฉบับร่างไปแหงๆ อะไรก็ได้อะงานนี้ จะจับอะไรก็จับสนุกดีเหมือนกันนะ element คือโคตรจะมุราคามิ ไหนจะเรียกชีวิตทึมๆของชายแทร่ 1 คน ความ magic realism แบบพอหอมปากหอมคอ ถูก pick up มาแบบ moderate ฟีลเหมือนอ่าน after dark มากๆproperties