Jump to ratings and reviews
Rate this book

ปาก

Rate this book
การปะทะคารมสุดเจ็บแสบ
คำพูดอันแสดงความหมายเฉพาะวงสังคมที่มีทั้งร้ายและดี
เปิดเผยและปิดบังตัวตนที่จริงแท้ของแต่ละคน
ออกมาจาก “ปาก” ที่มีทั้งสร้างสรรค์และทำลายล้าง
เป็นอุทาหรณ์ที่จะได้รับจากเรื่องนี้

385 pages, Paperback

First published January 1, 1987

51 people are currently reading
804 people want to read

About the author

ว.วินิจฉัยกุล เป็นหนึ่งในนามปากกาของ รองศาสตราจารย์ ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์นวนิยายชาวไทย นามปากกาที่เป็นที่รู้จักอื่นๆ ได้แก่ แก้วเก้า, รักร้อย, ปารมิตา, วัสสิกา และ อักษรานีย์

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
66 (39%)
4 stars
36 (21%)
3 stars
24 (14%)
2 stars
16 (9%)
1 star
26 (15%)
Displaying 1 - 7 of 7 reviews
Profile Image for RMN.
219 reviews17 followers
August 6, 2016
คำนำสำนักพิมพ์

ไม่ว่าจะ "ปากปราศรัยใจเชือดคอ" "ปากว่าตาขยิบ" หรือ "ปากหวานก้นเปรี้ยว" ต่างล้วนสัมพันธ์กับใจ เป็นการสัมพันธ์ในเชิงลบ เป็นการสัมพันธ์ที่ล้วนมีคำว่า "แต่" พูดดีแต่ใจคิดร้าย, พูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างหนึ่ง, พูดจาอ่อนหวานแต่ไม่จริงใจ ทุกคำพูดต่างฉาบเคลือบตัวตนของแต่ละคนดุจเช่นขนมหวาน หากแต่ไม่ฉุกคิดสักนิดว่า เมื่อรสแห่งความหวานหมดสิ้น อาจย้อนเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณ แต่กระนั้นก็ดี เราก็ยังคงชมชื่นแม้จะรู้ว่าภายใต้น้ำตาลฉาบเคลือบนั้น จะเป็นหอกแหลมพุ่งซัดทิ่มแทงเมื่อหันหลังให้

ต่างจากจนปากร้ายใจดี อาจพูดไม่ไพเราเสนาะโสต แต่เปี่ยมด้วยความจริงใจ ใจคิดอย่างไรก็พูดออกไปอย่างนั้น เราไม่นิยม เราไม่ชมชื่น เหมือนกับยาขมถ้วยหนึ่งที่คอยหลีกเลี่ยง

คำแต่ละคำที่ออกจาก "ปาก" ของแต่ละคนที่สุดแล้วเป็นเพียงแค่ลมเล็ดลอดออกมาแล้วจางหายไป แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือเจ้าของถ้อยคำจะให้คนรักหรือชังสุดแล้วแต่ผู้ใดจะคิดได้มากกว่ากัน

สามารถทดลองอ่านได้ตามลิงค์นี้เลยค่ะ Preview ปาก

ความรู้สึกหลังอ่าน

ไม่รู้จะอธิบายเนื้อเรื่องยังไงดี เอาเป็นว่าเป็นเรื่องของแวดวงในสำนักงานทนายความแห่งนึง นางเอกเป็นเด็กใหม่ของออฟฟิศนี้ ทำงานมาได้ประมาณ 3 เดือนอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย ติดอยู่เพียงเรื่องเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด ก็คือการพูดคุยกันภายในออฟฟิศที่ออกจะ หยาบคาย + หยาบโลนพูดกันแต่เรื่องใต้สะดือกันอย่างไม่อายทั้งชาย-หญิง เพื่อนร่วมงานของเธอเป็นคนรุ่นใหม่มีดีกรีกันทุกคน แถมบางคนก็มีพ่อแม่ที่เป็นที่นับหน้าถือตาในจังหวัด จนเธออดคิดไม่ได้ว่าช่องว่างที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากวัยที่ต่างกัน แต่เป็นช่องว่างที่เกิดจากการอบรมเลี้ยงดูต่างหาก

ต้องบอกว่าครั้งแรกที่ได้ลองอ่าน Preview ของเรื่องนี้ ก็ทำให้เรารู้สึกอย่างอ่านเรื่องนี้ขึ้นมาทันทีเลย
เมื่อได้มาอยู่ในมือก็ไม่รั้งรอที่จะอ่านเป็นเล่มแรก จากในจำนวนหนังสือที่สั่งมาเกือบ 10 เล่มเมื่อปลายปีก่อน พออ่านจบแล้วก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังค่ะ ^^ เรื่องนี้เขียนขึ้นเมื่อปี 2530 กลับมาอ่านตอนนี้ก็ยังไม่ตกยุคค่ะ
เนื้อหาเข้มข้น...คำพูดคำจาของตัวละครสมกับชื่อเรื่อง "ปาก" จริงๆ ค่ะ ^^


Profile Image for punch.
7 reviews
November 16, 2017
ชอบพัฒนาการของนางเอกมาก จากคนไม่ประสีประสากลายเป็นผู้หญิงเก่งอย่างแท้จริง
Profile Image for Kungfu.
16 reviews
June 26, 2016
สมกับชื่อเรื่อง
Profile Image for Doco.
116 reviews12 followers
January 11, 2018
อ่านได้เพลินๆ เนื้อเรื่องมีเรื่องให้ชวนติดตามทั้งเรื่อง โครงเรื่องทันสมัยถึงแม้จะเขียนมานานแล้ว
July 6, 2021
นิยายเรื่อง “ปาก” ตีพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกตั้งแต่ปี 2530 ในภาพรวมนั้น สามารถหยิบเอามาอ่านได้ไม่ตกยุคตกสมัย เนื้อหาไม่ได้เน้นความรัก ความใคร่เท่าไหร่ แต่เน้นเล่าเรื่องการใช้ปากของแต่ละคน ทุกคนมีปากเหมือนกัน แต่จะใช้ปากนำพาชีวิตยังไงมันก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและสังคมที่ตัวเองอยู่ คำโบราณที่ว่าไว้ “พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วพาตัวเสียหาย” ยังคงเป็นจริงอยู่เสมอ

บทของเมรัย เมรัยเป็นหญิงสาวอายุไม่มาก ได้พบหมออุรสก็รู้สึกชอบ แต่เมื่อรู้ว่าหมออุรสไม่ได้มีนิสัยเหมือนหน้าฉากที่แสดงให้คนอื่นเห็น เมรัยก็ค่อยๆ ถอนความรู้สึกชอบจนสุดท้ายแม้แต่หน้าของหมออุรสก็ไม่อยากเห็น เมรัยค่อยๆ เรียนรู้เนื้อแท้ของผู้ชายคนนี้ด้วยตัวเอง ไม่มีอคติใดๆ มีแต่ความเมตตาให้ เราชอบบทแบบนี้มาก นางเอกไม่โง่ ฉลาดด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีใครมาสอน เราว่าตรงนี้ดีมาก

ส่วนบทของหมออุรส ปูมาตั้งแต่ต้นเรื่อง เลยเข้าใจว่าเป็นตัวเอกแน่ๆ พอเนื้อเรื่องดำเนินไป รู้สึกว่าหมอคนนี้น่าเกลียดมากๆ อ่านจนเกือบจะจบ กลัวมากว่าหมออุรสจะลงเอยกับเมรัย ซึ่งสรุปไม่ได้ลงเอยกัน ดีใจและสะใจมากๆ หมออุรสใช้ปากลดคุณค่าของคนอื่นโดยเฉพาะผู้หญิงที่ทอดสะพานให้ อีกทั้งยังช่างเลือก ปฏิเสธกระทั่งผู้หญิงที่มีพ่อแม่เป็นโรคเบาหวาน เพราะกลัวว่าจะได้กรรมพันธุ์ไม่ดีตกทอดมาถึงลูก สุดท้ายแต่งงานกับรอย ผู้หญิงที่มีพ่อและตาป่วยเป็นโรคจิตเวช บทสรุปนี้สมควรกับคนอย่างหมออุรสแล้ว อ่านแล้วถึงใจค่ะ

สำหรับเรา เรื่องนี้ #แนะนำอ่าน ค่ะ สนุกค่ะ เรามีโอกาสได้ดูปาก ที่ผลิตโดยช่อง GMM บ้าง ดูแบบข้ามๆ บทดัดแปลงค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะฝีปากของรอยที่เพิ่มความจัดจ้าน การด่าที่เข้ากับเข้ายุคสมัย แต่เราชอบฉบับนิยายมากกว่า ในละคร เรารู้สึกว่าบรรยากาศเสียงเงียบ (Dead air) เยอะไปหน่อย บทของรอยที่ปรับให้จัดจ้านเวลาตัดเป็นคลิปมาโฆษณาก็ชวนให้ติดตาม แต่พอดูทั้งเรื่องมันเกินจริง (overact) ไปหน่อย และที่ไม่ชอบที่สุดคือตอนที่แทรกพวกคำสอน ดูล้าสมัยมาก เพราะฉะนั้น ถ้าใครสนใจเราแนะนำให้อ่านนิยายดีกว่าค่ะ

หลังจากอ่านนิยายของอาจารย์วินิตามาหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะมีบางอย่างไม่ถูกใจเรา เช่น ฉากความรัก ฉากจบอะไรพวกนี้ แต่สำหรับปาก เราถูกใจไปทุกอย่างค่ะ เราชอบทั้งบทของเมรัย ผู้หญิงที่มีสติและรู้จักรักตัวเอง บทของหมออุรสที่ผิวเผินดูจะเป็นชายในฝัน แต่เนื้อในกลับเป็นคนที่ชอบเหยียดคนอื่น ฉากจบของตัวละครแต่ละตัวก็เป็นอะไรที่เหมาะสม ไม่ฝืนใจนักอ่านเลย

นิยายเรื่องนี้ #เชียร์ ค่ะ นิยายเรื่องปาก ก็ว่าด้วยปากของคน ทุกคนก็มีหนึ่งปากเท่ากัน เพียงแต่ใครจะใช้ปากพูดอะไรออกมา บางคนอย่างคุณนายพเยียใช้ปากฉอเลาะจนสร้างเนื้อสร้างตัวได้ บางคนอย่างศจีก็ใช้ปากพูดทุกอย่างที่คิดที่รู้สึกโดยไม่สนใจใครนอกจากตัวเอง บางคนอย่างตรูตาก็ใช้ปากยกยอเพื่อหาประโยชน์ให้มากที่สุดไม่เว้นแม้แต่เพื่อน บางคนอย่างหมออุรสที่มองตัวเองว่าสูงส่งแต่ใช้ปากกดคนอื่นให้ดูด้อยค่า บางคนอย่างรอยที่ใช้ปากสนองความสะใจของตัวเอง ไม่พอใจใครก็ใช้ปากพูดให้เขาเจ็บช้ำ และสุดท้ายเมรัยแม้ประสบการณ์ชีวิตยังน้อยแต่ก็เรียนรู้ว่าบางครั้งการหุบปากไม่พูดก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน 😊😊

This entire review has been hidden because of spoilers.
Displaying 1 - 7 of 7 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.