Jump to ratings and reviews
Rate this book

ข้างหลังภาพ

Rate this book
“ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจว่า ฉันมีคนที่ฉันรัก”

นวนิยายยอดนิยมในดวงใจผู้อ่านของศรีบูรพา (กุหลาบ สายประดิษฐ์) ซาบซึ้งตรึงตรามานานถึง 88 ปีแล้ว เรื่องรักต่างวัยต่างชนชั้นในต่างแดน ระหว่าง ‘คุณหญิงกีรติ’ กับหนุ่มนักศึกษานาม ‘นพพร’ ก่อกำเนิดขึ้นท่ามกลางธรรมชาติงดงามแสนบริสุทธิ์ในประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะกลายมาเป็นภาพวาด ‘มิตาเกะ’ ของขวัญวันวิวาห์ที่มีบางสิ่งซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ จีน และญี่ปุ่น ได้รับคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นหนังสืออ่านประกอบวิชาภาษาไทยระดับมัธยม และได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์มาทุกยุค หลายเวอร์ชั่น รวมถึงดัดแปลงเป็นละครเวทีและมิวสิคัล เปิดแสดงทั้งในไทยและต่างประเทศ

“ความรักของเธอเกิดที่นั่น และก็ตายที่นั่น แต่ของอีกคนหนึ่งยังรุ่งโรจน์อยู่ในร่างที่กำลังจะแตกดับ”

280 pages, Hardcover

First published January 1, 1936

72 people are currently reading
2000 people want to read

About the author

ศรีบูรพา

22 books24 followers

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
374 (40%)
4 stars
300 (32%)
3 stars
183 (19%)
2 stars
48 (5%)
1 star
15 (1%)
Displaying 1 - 30 of 107 reviews
Profile Image for Alwynne.
940 reviews1,595 followers
November 7, 2024
Originally serialised then published as a novel in 1938, Siburapha’s small-scale, domestic tragedy was far more moving than I’d initially anticipated. It unfolds through flashbacks seen from the perspective of successful, Thai professional Nopporn. He lives quietly in Bangkok with his wife but his study contains a mysterious watercolour, a modest, amateur picture out of keeping with the rest of his upmarket art collection. It depicts a scene from well-known, Japanese tourist spot Mount Mitake but for Nopporn it’s a coded reminder of first love. In his early twenties, like many Thai men from his background, Nopporn went to study in Japan, a move designed to improve future employment prospects. During Nopporn’s stay, he was asked to act as a guide for his father’s friend Chao Khun coming to Tokyo for an extended honeymoon with new bride, beautiful, charming, and much younger, Kirati. But then Chao Khun’s numerous business associates dominate his spare time, throwing Kirati and Nopporn together. Nopporn became increasingly obsessed with her but their chaste variation on an affair – adultery was considered an unforgiveable act - abruptly ended when Kirati returned to Bangkok with her husband. Their contact fades away but they’re destined to meet again years later and in vastly different circumstances.

Siburapha (Kulap Saipradit) produced his classic novel in a period of transition, he started out as a journalist and a writer of commercial romances. Later Siburapha’s increasingly radical, anti-authoritarian affiliations were expressed through overtly-political pieces, influenced by authors like Dostoevsky. Nopporn and Kirati’s story echoes aspects of a particularly prominent Thai subgenre, a brand of bittersweet romance revolving around social barriers that come between lovers. It was a deliberate choice of framework, Siburapha needed money, but he strayed from the standard formula, inserting elements of social and cultural commentary about gender and class in Thai society. Kirati’s a descendent of the Chao Nai, Thai aristocracy that’s now in rapid decline. Born in the early 1900s, she’s had a sheltered upbringing, tutored by an English governess, kept at home in relative isolation. Kirati was trained to see herself as an object, a thing of beauty whose sole purpose was to marry well. Her failure to attract the "right" partner led her to accept a proposal from Chao Khun, despite her lack of interest in him as a person. But Nopporn’s been educated to become wealthy, to marry someone suitable, and direct his energies at developing his career. As their story unfolds, Kirati and Nopporn’s different options and choices, the nature of their future relationship, constructs a subtle but damning critique of Thailand’s upper-class and its emerging middle-class - particularly when it comes to men and women’s respective roles. It’s much narrower in scope, and markedly different in style, but Siburapha’s lovers caught up in questions of duty versus desire sometimes reminded me of Edith Wharton’s central characters particularly in books like The Custom of the Country. Although Siburapha also mixes in traces of Buddhist philosophy with references to notions of fate versus free will. Uneven overall, not helped by the translation which felt quite clunky and pedestrian at various points but still a compelling, illuminating read.

Rating: 3/3.5
Profile Image for Matthew Ted.
1,007 reviews1,036 followers
March 26, 2025
3.5. A moving little novel. When I went to Thailand a few years ago I looked desperately for something by a Thai author to take and read with me and found nothing. Now, Behind the Painting has been translated and published in English by Penguin Classics (I cannot work out whether this is for the first time or not); it is supposedly considered the apex of the Thai literary canon, and has been republished over forty times.

It is a short, moving novel about unrequited love. Though I enjoyed my reading of it quite a bit, I have found that since finishing it, it's wandered a little from my mind. So perhaps it hasn't made a lasting impression, though I certainly thought highly of it as I was reading it. A colleague at work has read it, and now another colleague is going to pick it up, so it's generated a kind of staggered book club in that regard.
Profile Image for top..
510 reviews116 followers
June 3, 2019
อีกหนึ่งคุณประโยชน์ของวรรณกรรมที่สามารถนำผู้อ่านเข้าไปเหยียบเยือนโลกซึ่งห่างไกลจากชีวิตประจำวัน สู่ทัศนียภาพของฤดูร้อนอันสดชื่นในชนบทชานเมืองนครโตเกียว เพลิดเพลินพินิจบทสนทนางดงามคมคายราวการโต้ตอบของเหล่ากวี กระทั่งการได้คิดคำนึงถึงทัศนะด้านความรัก ความปรารถนาและการดำรงซึ่งเกียรติ ตลอดจนกฎธรรมชาติที่มิอาจอยู่เหนือกฎเกณฑ์ทางสังคมทั้งปวง

ยังคงจะเป็นหนังสือที่นำกลับมาคุยกันได้ไม่รู้หน่าย ถือเป็นมธุรสอันผาสุกทางการอ่านโดยแท้
Profile Image for Satang Cottoncandy.
156 reviews55 followers
February 6, 2025
"ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน
แต่ฉันก็อิ่มใจว่า ฉันมีคนที่ฉันรัก"

เห็นประโยคด้านบนมานาน เป็นท่อนจำจากหนังสือเรื่องข้างหลังภาพเลยแหละ พออ่านจบเพิ่งรู้ว่ามันเป็นท่อนสุดท้ายของเรื่อง ซึ่งประทับใจเราที่อ่านมาทั้งเรื่องมาก ชอบที่จบด้วยข้อความข้างบนอันนั้น

ข้างหลังภาพเล่าด้วยมุมมองของนพพรซึ่งถือเป็นพระเอกของเรื่อง เราไม่ขอเล่าเรื่องย่อว่ามันเกี่ยวกับอะไรเพราะคนที่อ่านคงรู้คร่าวๆ แล้วเนื่องจากหนังสือมันดังมาก เราได้เห็นคุณหญิงกีรติผ่านมุมมองของนพพรและจากจดหมายที่เขียนตอบกับนพพรเท่านั้น แต่เราดันรู้สึกว่า "ข้างหลังภาพ" เป็นเรื่องของคุณหญิงโดยแท้

เราชอบที่บทนำของข้างหลังภาพคือตอนจบของเรื่องราวของนพพรกับคุณหญิงกีรติ อะไรหลายๆ อย่างสื่อไปถึงว่าผู้หญิงและผู้ชายในภาพนั้นคือคุณหญิงกีรติกับนพพร และภาพนั้นเป็นภาพที่คุณหญิงวาดให้นพพรเป็นของขวัญ เรารู้สึกชอบชื่อ "ข้างหลังภาพ" มาก คือศรีบูรพาเก่งอะ มันสรุปทุกมวลอารมณ์และทุกความหมายอยู่ในชื่อเรื่อง

เหตุการณ์ในเรื่องส่วนใหญ่เกิดที่ญี่ปุ่น เป็นช่วงที่คุณหญิงกับสามีไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่น นพพรที่ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นตอนนั้นเลยได้ช่วยอำนวยความสะดวก ช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ทำให้นพพรได้ใช้เวลาอยู่กับคุณหญิงกีรติเรื่อยๆ เริ่มจากความนับถือ สนใจใคร่รู้ จนกลายมาเป็นความรู้สึกรักอันร้อนแรง แต่รักภรรยาของคนอื่นอะ555

เรารู้สึกว่าเขาเขียนการพูดถึงความรักของนพพรในวัย 22 ได้ดี และเขียนวิธีวางตัวของคุณหญิงกีรติวัย 35 ได้ดี ด้วยวัยของนพพร เพิ่งรู้จักรักครั้งแรก การแสดงออกแบบนั้นจึงไม่แปลก และด้วยวัยของคุณหญิงกีรติ ถูกเลี้ยงมาอย่างดี รู้สถานะของตัวเองและกรอบของศีลธรรม จึงวางตัวได้ดีสมกับเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง เพราะถึงแม้นพพรจะพร่ำเพ้อบอกรักไปกี่ครั้ง คุณหญิงก็ไม่เคยตอบคำว่ารักกลับมาเลย ช่วงที่อยู่ญี่ปุ่นอะเราก็มีแอบคิดว่าวัยแตกเนื้อหนุ่มของนพพรทำให้นพพรคิดไปเองด้วยมั้ยเรื่องความรู้สึกของคุณหญิง แต่ตอนที่มั่นใจมากๆ ว่าคุณหญิงก็รักนพพรคือตอนที่ลากันก่อนคุณหญิงกลับไทยนั่นแหละ ไม่มีคำว่ารักเลยแต่แค่ประโยคเดียวจากคุณหญิงตอนนั้นคือมั่นใจแล้วว่ารัก

สำหรับเรา คุณหญิงกีรติน่านับถือมาก แต่งงานกับคนแก่อายุ 50 เพราะถูกบีบไว้ในขนบจนไม่ได้เห็นโลกกว้าง พออายุมากเข้าพ่อก็กลัวขึ้นคาน จึงขอร้องให้ลูกแต่งงาน และคุณหญิงคิดว่าการแต่งงานจะทำให้ได้เห็นโลกกว้าง มีความผาสุกในชีวิตก็พอ ไม่ต้องมีความรักในชีวิตคู่ก็ได้ คุณหญิงไม่ได้หวังว่าตัวเองจะรักใครได้แล้ว แต่ความรักก็เกิดขึ้นจนได้ แต่ด้วยสถานะของตัวเองทำให้คุณหญิงควบคุมตัวเองได้ดีมาก ตักเตือนการกระทำของนพพรเสมอ บอกให้สนใจการเรียนและอนาคตของตัวเอง ไม่ได้ตัดขาดการสื่อสารกับนพพรไป วางตัวเหมือนเพื่อนที่นพพรสามารถเล่าอะไรให้ฟังก็ได้เสมอ จนกระทั่งสามีตายและไม่กี่ปีหลังจากนั้นนพพรกลับประเทศไทย

เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน ช่วยไม่ได้ นพพรค่อยๆ คลายความรักที่มีต่อคุณหญิง จากรักจนทรมานรวดร้าวในอก กลายมาเป็นนับถือเป็นมิตรที่ดี กลับไทยมาเจอคุณหญิงที่ไม่มีพันธะไม่มีสถานะที่ต้องรักษาศีลธรรมอะไรแล้ว แต่นพพรก็เหมือนจะไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น ตั้งใจทำงาน แสวงหาความมั่นคงในชีวิต แต่งงานกับคู่หมั้นที่พ่อแม่เลือกให้โดยไม่ได้รัก คือแกก็ดูไม่ออกเลยน้อว่าคุณหญิงรักแก และคุณหญิงก็น่านับถือตั้งแต่ต้นจนจบ อวยพรให้ชีวิตการแต่งงานของนพพรแม้ตัวเองจะใจสลายก็ตาม

นพพรไม่เคยได้รับคำว่ารักที่ต้องการจากคุณหญิงกีรติเลย คำตอบของคำถามที่ว่าคุณหญิงรักผมมั้ยมันอยู่ตอนจบของเรื่อง ไอ้ข้อความที่เราเขียนไว้ข้างบนอะ คุณหญิงไม่ได้บอกว่ารักใคร แต่ทุกอย่างทำให้รู้ว่านพพรคือคนที่คุณหญิงรัก เราชอบที่ในท้ายที่สุด คุณหญิงที่เคยบอกว่าไม่เคยรักใคร ชีวิตต้องการความผา��ุกก็พอ สุดท้ายได้รู้จักกับความรัก แม้จะอาภัพเหมือนดังที่คุณหญิงพูดถึงตัวเองมาตลอด แต่ก็ดีจริงๆ ที่คุณหญิงได้รักใครสักคน

��ุณหญิงกีรติงดงามเท่าไร ภาษาในเรื่องก็งดงามเท่านั้น แม้เป็นหนังสือที่เขียนมานาน แต่ภาษาอ่านเข้าใจง่ายและงดงามมาก มีข้อความที่เราชอบเยอะเลย ยิ่งบทบรรยายที่นพพรพูดถึงคุณหญิงกีรติหรือบรรยายความรู้สึกที่มีต่อคุณหญิง เขียนได้เห็นภาพและงดงามมาก และด้วยช่วงที่อยู่ญี่ปุ่นจะมีการบรรยายถึงธรรมชาติ วิวทิวทัศน์ใดๆ คือสวยมาก ทำให้เข้าใจได้ว่าบรรยากาศแบบนั้น ต่างบ้านต่างเมือง เหมาะกับการตกหลุมรักใครสักคนจริงๆ นั่นแหละ

เราชอบที่เขียนถึงมุมมองของนพพรในฐานะนักเรียนนอก เขียนได้ดี ชอบที่เขียนคุณหญิงกีรติให้มีจิตใจที่โหยหาอิสระ อยากเรียนรู้อยากออกไปเจอโลกที่ไม่ได้อยู่ในกรอบเดิมๆ

อ่านจบแล้วแอบคิดว่าคุณหญิงกีรติคงไม่บอกว่าตัวเองอาภัพถ้าได้เกิดเป็นผู้ชาย คงจะสามารถปล่อยใจให้อิสระเสรีและออกไปเจอโลกกว้างได้ด้วยตัวเอง และแอบคิดถึงนิยายทะลุมิติ ข้ามเวลา อยากให้คุณหญิงได้ใช้ชีวิตในยุค 2020s คุณหญิงคงเป็นคนเก่งคนสวย ประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง และน่านับถือมากแน่ๆ แต่นั่นแหละ เรื่องของคุณหญิงในหนังสือเล่มนี้มันผิดที่ผิดทางผิดเวลาผิดยุคสมัยไปหมด ไม่โทษนพพรหรือคุณหญิง อีกใจหนึ่งก็จินตนาการไปว่าถ้าศรีบูรพามีชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบันแล้วเขียนให้นพพรกับคุณหญิงข้ามเวลามา หรือย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้ เรื่องราวแบบนั้นที่ศรีบูรพาเขียนจะเป็นแบบไหนนะ เขาเขียนเก่งมากเลย ไม่ใช่แค่ภาษา แต่จังหวะ การจัดเรียงเรื่องราว มันจับหัวใจคนอ่านนะ
Profile Image for Wanrada | 丽达.
46 reviews21 followers
July 4, 2021
4 stars - ผิดคาดมาก ไม่คิดว่าจะชอบขนาดนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนังสือที่มีแนวคิดทันสมัยมาก ถ้าเทียบกับปี พ.ศ. ที่ถูกตีพิมพ์เป็นฉบับแรก สิ่งที่เราชอบมากที่สุดของข้างหลังภาพก็คงจะเป็นความนุ่มละมุนในภาษาและบทสนทนาของตัวละคร ที่คิดว่าหนังสือพีเรียดในสมัยนี้ก็ยังให้อารมณ์ไม่เหมือนอยู่ดี เหนือสิ่งอื่นใดคือความหมายเชิงลึกที่แฝงในแต่ละคำพูดของตัวละคร ถ้าผู้อ่านตีความออกมาคนละแบบจะเหมือนการดูหนังคนละม้วนกันเลยทีเดียว
Profile Image for angel.
217 reviews162 followers
November 14, 2025
”You derive pleasure from situations that happen, and when one situation has passed, you forget it completely, and move on to new situations and new pleasures. That's the way it goes, constantly changing. My life is confused and blurred. Sometimes I think of happiness, it's true, but not in any clear or definite way. It's like a dream floating above my head.
Sometimes I manage to catch hold of it. Other times it slips through my grasp.”


this was okay in a soft, melancholic way. the story stayed quiet and small for me, not bad. it’s just gently forgettable.
Profile Image for ManyMilds.
62 reviews10 followers
March 9, 2020
เป็นหนึ่งเล่มที่ทรงคุณค่า อาจจะมีความรวดเร็วรวบรัดไปบ้างแต่ก็คือว่ากระชับดี ความละเอียดละออในการบรรยายความรู้สึกและบทสนทนาอันละเมียดระหว่างคุณหญิงกับนพพรทำเอาเราน้ำตาไหลไม่หยุดในตอนจบ เป็นการปิดฉากที่อยากจะลุกขึ้นปรบมือยาวๆให้เลยล่ะ ฮุกหมัดเด็ดเข้าเป้า เฉลยทุกความรู้สึกที่คุณหญิงมีต่อนพพรได้หมดจด
Profile Image for Pim Witaksabud.
4 reviews1 follower
April 9, 2014
ถึงภาษาจะโบราณเพราะมันเป็นงานเขียนที่เก่าแล้ว แต่วางไม่ลงจริงๆ มันคลาสิกจริงๆ บอกไม่ถูก รู้แต่ว่าดีจริงๆ ครั้งแรกกับการอ่านผลงานของศรีบูรพา แนะนำจริงๆ :)
Profile Image for YuzuChu.
289 reviews15 followers
September 7, 2025
จงคิดถึงฉันเถิด คนดี คิดถึงแต่น้อย ๆ และนานเท่าใดก็ได้


กลายเป็นว่าฉันชอบประโยคเปิดเรื่องมากกกกก 'ข้าพเจ้าผู้รู้ดีว่าข้างหลังภาพนั้นมีชีวิต และเป็นชีวิตที่ตรึงตราอยู่บนดวงใจของข้าพเจ้า' แบบ เออ ทำไมต้องข้างหลังภาพวะ ซ่อนไรไว้ ปรากฏว่าอ๋อ เป็นข้างหลังแบบเบื้องหลัง เรื่องราวในภาพนั้น ล้ำมากกกก

คือให้ 4 เพราะถึงแม้เรื่องจะสั้นแต่เขาเก่งตรงทิ้งทุกอย่างให้คนอ่านได้คิดได้นั่งเหม่ออะ ฉันอ่านจบก็นิ่งไปเหมือนกัน อ่านเวอร์ชั่นครบรอบ 120 ปี ปกสวยมากกกก เข้าใจเลยว่าทำไมนพพรหลงคุณหญิงกีรติขนาดนั้น ชีสวยนะ ลูกสวยมากจ่ะ สวยกว่าพี่น้องทุกคน555 คือเพิ่งรู้ว่าฉากลูกสวยมากจ่ะในละครในหนัง ต้นฉบับเหมือนจะเป็นพ่อที่พูดคำนี้มากกว่า แอบเสียดายเลยที่ในหนังเปลี่ยนเป็นแม่แทน ฉันรู้สึกว่าถ้าใส่พ่อมาพูดอะไรทำนองนี้เหมือนต้นฉบับ มันจะสื่อได้ดีอะว่าผู้ชายคนนี้รักลูกสาวคนโตมาก หวงมากจนเผลอจำกัดอิสรภาพของเธอไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ

ฉันไม่รู้ว่าคุณหญิงกีรติคิดยังไงนะ แต่ฉากที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คาร์แรคเตอร์ของนพพรที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน จากผู้ชายติดคน ช่างจ้อ สนทนาพาทีโต้ตอบรู้แกวกันกับคุณหญิงอย่างสนิทสนม ดันกลายเป็นผู้ใหญ่น่าเบื่อคนหนึ่งที่เวลาจะพูดจะจาอะไรก็ระวังปาก ความไร้เดียงสาและตรงไปตรงมามันหายไป เติบโตขึ้นไปในทิศทางที่เราไม่คาดฝัน จนฉันไม่รู้ว่าลึกๆ ใจจริงแล้วผู้หญิงคนนี้ก็คงรู้สึกผิดหวังไม่เบา

คุณหญิงแกก็บ่นเสียดายอยู่บ่อยครั้งอะเนอะ คนดีของเธอเปลี่ยนไปซะขนาดนี้...

เนื่องจากเวอร์ชั่นที่อ่านเขารวมบทวิจารณ์เรื่องนี้มาให้ด้วย พออ่านจบเลยเหมือนถูกโยนโจทย์ว่าโยงการเมืองกับเรื่องนี้ซิ อะ เอ่อ อ่า ถ้าต้องโยงกับการเมืองหล่ะก้อ555 จะว่าไงดี ทุนนิยมบังคับให้เราทำงานมั้ง นพพรดูทรงแล้วบ้านน่าจะมีกะตังค์ ส่งลูกไปเรียนญี่ปุ่นได้ แต่พี่แกก็จะบรรยายบ่นๆ อยู่บ้างว่าตัองประหยัด ขัดสนหน่อย ๆ บ้านช่องก็ไม่ได้กลับ แถมตำแหน่งก็ไม่มี คิดว่าครอบครัวคงลงทุนกับลูกคนโตอย่างเขาเพื่ออนาคตแหละ ให้มารับราชการ เป็นใหญ่เป็นโต

ฉันชอบที่คุณหญิงกีรติแกจะพูดถึงอนาคตเสมอเลยอะ เป็นอนาคตที่ห่วงใยนพพรมาก ๆ ต้องเรียนหนังสือ โฟกัสกับการเรียนนะ จะเป็นกำลังใจให้เสมอ ถ้ามีพี่สาวแล้วเขาบอกสนับสนุนเธอที่สุดฉันไม่ยอมนะ ฉันเองก็เอาใจช่วยเป็รเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน ยิ่งจดหมายที่โต้ตอบกันคือเอ็นดูมาก ถึงรักนี้จะไม่ได้เกิดในเชิงฉันท์ชู้สาว แต่ความห่วงใยที่สองคนนี้มีให้กันมันคือของจริงอะ 🥹 ฉันอยากได้คุณหญิงเป็นพี่สาว แงงง สมมุติว่าถ้าไปเรียนต่างเมืองแล้วมีจดหมายแบบนี้จากพี่สาวส่งมาทุกเดือนทุกปี นี่คงแบบใจฟูสุด ๆ

มีท่อนนึงคุณหญิงเขียนว่า 'ฉันคนหนึ่งที่จะคอยเอาใจจดจ่ออยู่กับความสำเร็จของเธอ เป็นหนึ่งและไม่เป็นรองใคร' คือโห ใจฟูตามอะ

ก็เลยแอบคิดว่าพอถึงจุดหนึ่ง คนเราก็ต้องละทิ้งความรักเพื่อความอยู่รอด ก็แค่มีสิ่งอื่นให้โฟกัสมากกว่า เรียนรู้แล้วว่ารักมันกินไม่ได้ นพพรเคยพูดเองแท้ ๆ ว่าตัวเองใช้หัวใจนำทาง รักก็บอกว่ารัก ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณหญิงแต่งกับผัวแก่โดยไร้รัก แต่กลับกลายเป็นว่าพอเขาเรียนจบ ตัวเองก็ดันยอมตกลงแต่งงานกับคนที่พ่อหามาให้หมั้นหมายแบบง่าย ๆ ด้วยความคิดที่ว่าอยู่ไปเดี๋ยวก็รักกันเอง

เขา...กลายเป็นคุณหญิงกีรติไปซะแล้ว

ในขณะที่คุณหญิงกีรติพอผัวตายปุ๊บ ก็รวยจากสมบัติที่ผัวแบ่งให้ แถมเป็นเจ้าอีกต่างหาก เขาก็มีเวลามาเหม่อมองฟ้า ชื่นชมความงามของธรรมชาติ ในขณะที่นพพรก็คิดแค่เรื่องเรียน เรื่องงาน อนาคต ด้วยบริบทหน้าที่หญิงชายที่ต่างกันในตอนนั้น ความรักที่สองคนนี้มองหาเลยดูจะถูกคนแต่ผิดเวลาไปหน่อย คุณหญิงมีพร้อมทุกอย่างแล้ว หาแต่ความรักและความผาสุข ในขณะที่นพพรแบกความหวังของครอบครัวและบ้านเมืองเอาไว้ เขามีอนาคตที่วาดฝันไว้รออยู่ พอเวลาล่วงเลยผ่านไป ฉันก็เลยเข้าใจเขามาก ๆ ว่าทำไมรักนั้นถึงจืดจางไป ทั้งที่ครั้งหนึ่งมันเคยเร่าร้อนและฝังใจขนาดนั้นแท้ ๆ

เป็นเรื่องที่เข้าใจทั้ง 2 ฝ่ายเลย เข้าใจคุณหญิงที่วางตัวดีมาก ๆๆๆ เออเนอะ เด็กมันมาหลงคนมีผัว จะให้เล่นด้วยก็บ้าหรือเปล่า ชีเตือนสตินพพรตลอดเลย แต่ก็พยายามเก็บความในใจที่ว่าตัวเองก็หลงรักคนดีคนนี้เอาไว้เหมือนกัน เวลาเขียนจดหมายชีบอกตลอดว่าจะคอยอวยพรให้กับการเรียนของเขา ฉันชอบคาร์แรคเตอร์ผู้หญิงคนนี้มากเลย เข้าใจนพพรที่รักแล้วก็พุ่งชนเต็มที่ แต่พอเวลาล่วงเลยผ่านไปก็ค่อย ๆ ตัดใจ มองเห็นเป็นพี่สาวที่แสนดีคนหนึ่งแทนเหมือนกัน

ยิ่งซีนกลับมาเจอกันอีกครั้ง คุณหญิงแกใส่ชุดสวยตัวที่นพพรได้เห็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นมาต้อนรับอะ แต่คราวนี้ชีมาคนเดียว ไร้พันธะ ใบ้หนักมากว่าถ้าอยากสานสัมพันธ์อยู่ก็ยินดี เธอรอมาตลอดจริง ๆ แต่พอได้เห็นแววตาที่เปลี่ยนไป คำพูดที่ห่างเหิน ถ้อยคำบรรยายที่ไม่เข้าใจว่าคุณหญิงกีรติใส่ชุดตัวนี้มาทำไม อิซีนนี้คือแบบ ซี้ดดดดดมาก

คงเพราะนพพรแกต้องการความชัดเจนด้วยแหละ เอาจริงถ้าคุณหญิงบอกว่ารักสักครั้ง เดาได้เลยว่าพอผัวตายปุ๊บ นพพรน่าจะไม่ปล่อยคุณหญิงให้หลุดมืออะ ว่ายน้ำได้คงว่ายไปหาละดูทรง555 นพพรแกก็ไม่ได้รังเกียจอายุคุณหญิงเลยเหอะ สี่สิบก็มองว่ายังสวย แค่น้อยใจที่เขาไม่บอกรักเลยพยายามหลอกตัวเองแหละ ดูออก

จะว่าไปก็แอบเสียดายบทที่บอกฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจว่าฉันมีคนที่ฉันรัก รู้สึกว่าตอนท้ายมาแบบ อยากให้มันเป็นซีนสวย ๆ ชวนตราตรึงมากกว่านี้ด้วยความคิดฟุ้งเฟ้อของนพพรอ่า

ส่งท้าย ถ้าให้พูดแบบหลอนๆ ก็...ตราบเท่าที่ภาพนั้นยังแขวนอยู่บนผนัง สัมผัสจากรอยจูบ ลำธาร ภูผา เสียงหัวเราะ ข้อเท้า รอยยิ้ม และความรักของคุณหญิง จะตามหลอกหลอนนพพรตลอดไปตราบเท่าที่เขายังมีลมหายใจนั่นแหละ นพพรในตอนนี้จะค่อย ๆ เข้าใจทุกความคิดและการกระทำของกีรติไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ปี และต้องทนอยู่กับการระลึกถึงรักนั้นไปตลอดชีวิตแน่ ๆ
Profile Image for Máiréad.
529 reviews23 followers
August 17, 2025
This book surprised me so much! It was such an interesting read with a different take on a story that I have seen portrayed in some form or another many times. It was so beautiful yet so tragic and heartbreaking.

It's a story about such passionate, all consuming love where you feel like you will die if you are ever parted from them, that life cannot go on without them in it. But it's also a story of selflessness and maturity when you can't always act on these strong feelings of love and instead have to accept and be realistic about your surroundings and your situation, putting someone else's life and future before your own happiness because you love them that much and want the best for them.

I was so caught up in the feelings of both of our main characters. I sympathised and related so much to Napporn, and yet also admired and empathised with Kirati, understanding her position and how hopeless it was, I felt both of their pain seeping through the pages, crying out about how unfair the whole situation was, yet Siburapha did all of this in only 120 pages. He made me feel like I've known these characters my whole life and have gone through so much with both of them, making tears fall from eyes by the end of the book.

The story touched on the topic of women's rights and their "role" in society quite a bit. One of our main characters whole life has been centred around finding a husband and getting married. She is a beautiful woman, but because of this beauty she has been sheltered, and thus remained unmarried until the age of thirty-five, when she became desperate, feeling that if she didn't get married, what else was she going to do with her life, that there would be nothing else for her. I also liked the honesty of the book regarding Thai society, our main charcters goal in life being to help Thai society progress and became a great nation which he believes it can be. With these topics in mind, I am very curious about the author himself and his life and would like to find out more about him.

A truly beautiful book that I will not forget anytime soon. Thai literature is becoming one of my favourites and I cannot wait to read even more of them.
Profile Image for Monaliz Juang.
640 reviews
April 25, 2018
คำพูดของคุณหญิงกีรติยังตราตรึงในหัวใจ
บางครั้งความรักก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้อยู่ร่วมกัน แต่อย่างน้อยก็ยังมีความทรงจำอันงดงามถูกเก็บไว้ภายในใจ ประหนึ่งภาพวาดมิตาเกะ ที่มีเพียงคุณหญิงและนพพรรู้ว่าภาพนั้นมีค่าและสวยงามเพียงใด ในขณะที่สายตาของผู้อื่นอาจจะเป็นเพียงแค่ภาพธรรมดา

ตอนจบบางคนอาจจะบอกว่านพพรหมดรักคุณหญิงแล้ว แต่ส่วนตัวกลับมองว่า นพพรยังรักคุณหญิงกีรติเสมอ ถูกเก็บเอาไว้ภายในใจส่วนลึก ด้วยความที่ตัดใจจากรักไปแล้ว ว่าไม่อาจสมหวัง ความรักจึงไม่ใช่การครอบครองเพราะเชื่อว่าเป็นความรักเพียงฝ่ายเดียว รักจึงแปรเปลี่ยนเป็นการยอมรับความเป็นจริง เหลือเพียงเคยรักและเก็บมันเอาไว้ เพราะนพพรก็ไม่ได้รักคนที่แต่งงานด้วยเลย เมื่อนพพรได้รู้ความจริงว่าไม่ได้เป็นเพียงรักแค่ข้างเดียว ก็สายเกินไปเสียแล้ว สายไปสำหรับทุกอย่าง ภาพมิตาเกะจึงเป็นความรัก ความทรงจำของนพพรที่มีเพียงเขาที่รู้ว่ามันมีความหมายมากแค่ไหน

สำหรับคุณหญิงกีรติเองแม้จะเจ็บปวดเสียใจ แต่ครั้งหนึ่งก็ได้พบรักที่เธอเฝ้ารอคอย และได้บอกกับคนที่เธอรักเป็นครั้งสุดท้าย อย่างที่เคยอยากบอกมาตลอด
This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for Teechutha Netcharussaeng.
212 reviews7 followers
August 5, 2020

ข้างหลังภาพเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนได้ละมุนมาก ๆ อ่านแล้วเห็นภาพสมัยก่อน ยุคประมาณพ.ศ. 2480 ด้วยภาษาที่เก่าขนาดนี้ เรากลับไม่มองว่าเป็นอุปสรรคในการอ่านเลย เราคิดว่ามันทำให้หนังสือมีเสน่ห์มากขึ้นซะอีก เป็นความคลาสสิกนึงที่ทำให้หนังสือเล่มนี้มีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้ การบรรยายภาพต่าง ๆ ในหนังสือมันชวนให้เรามองดูธรรมชาติด้วยมุมมองที่ละเมียดละไมมากขึ้น โดยเฉพาะฉากหลังอย่างญี่ปุ่น บรรยายออกมาได้สวยงามเหมือนได้อยู่ในสถานที่นั้นจริง ๆ



สวยงามสมกับเป็นหนังสือคลาสสิกไทยเล่มหนึ่งในดวงใจหลาย ๆ คน
Profile Image for Uminaka16.
421 reviews45 followers
December 22, 2017
ภาษาเก่าแต่อ่านเพลิน ชื่นชมการวางตัววางใจของคุณหญิงกีรติ รู้สึกช็อคเล็กๆ กับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของนพพร (ไทม์ไลน์ในนิยายไม่เร็ว แต่ในนิยายตัดฉับเลยรู้สึกปรับใจตามไม่ทัน)

จบไม่สวย แต่ดีงามตามความเป็นจริง
Profile Image for Kamons.
1,281 reviews69 followers
September 3, 2025
ข้างหลังภาพ ฉบับ 120 ปี ศรีบูรพา ส่วนที่ชอบที่สุดคือหน้าปก มันชวนให้อ่าน���ีจริง ๆ งามทั้งคุณหญิงกีรติและนพพร (ฉบับ 100 ปีก็สวยเช่นเดียวกัน)
ที่ชอบต่อมาคือ ความงามทางภาษาที่นิยายยุคนี้ยังไงก็เลียนแบบไม่ได้

ส่วนเนื้อหา เราชอบในความกระชับของเรื่อง ไม่ยืดเยื้อดี ของดีไม่จำเป็นต้องยาวมากก็ดีได้

ส่วนความเห็นต่อเนื้อเรื่องและตัวละคร จริง ๆ มี 2 ส่วน ความใฝ่ดีในตัวบอกว่านี่คือสิ่งที่ถูกและควร ต่อหน้าที่ จริยธรรม คุณหญิงกี���ติวางตัวได้ถูกและเหมาะสมอย่างยิ่งแล้ว โลกมันจะสงบสุขแหละถ้าคนทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ใช่ถูกใจ

ส่วนจริตเบื้องต่ำของฉันก็บอกว่า เออ คนเราอย่าไปเล่นตัวนัก แล้วอย่าได้อ้อมค้อมเกินไป บางทีอีกฝ่ายก็ซื่อเกิ๊น
Profile Image for Matthew.
242 reviews67 followers
January 1, 2025
It’s been a long old time since a book has made me cry, but this one’s final sentence got me. There is a quiet beauty here beneath the old fashioned language. It certainly captures one’s 20s very well, with so much of this resonating with my own experiences. Lovely.
Profile Image for Pairash Pleanmalai.
400 reviews31 followers
August 11, 2019
ละเมียดละไมไปกับสำนวนของผู้แต่ง อ่านอย่างช้าๆ เพราะนิยายสั้นมาก แต่แฝงความหมายในรูปประโยค
สมกับเป็นนิยายที่ดังมาก
Profile Image for Kat Sira.
153 reviews9 followers
June 2, 2023
ข้างหลังภาพ เป็นหนังสือที่ดังมาก ดังจนเราโดนสปอยเนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบมาเป็นสิบๆปีแล้ว

เนื้อหาของหนังสือมีแค่ 158 หน้า สั้น แต่ทรงพลังมาก ภาษาละมุม ถ่ายทอดถึงความรู้สึกของตัวนพพรและของคุณหญิงได้อย่างสวยงาม

เพราะความที่หนังสือมีแค่ไม่กี่หน้า ทำให้ต่างคนอ่านตีความถึงความรักของนพพรได้ต่างกัน บางคนก็ว่านพพรหมดรักคุณหญิงแล้ว บางคนก็ว่าเขายังรักคุณหญิงอยู่ สำหรับเรา ตอนเด็กเราอ่าน เราก็ตีความอย่างหนึ่ง แต่เมื่อได้เห็นความรักมาพอสมควรแล้ว ก็ตีความเป็นอีกอย่างหนึ่ง… ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ ไม่ว่าจะยังรัก หรือหมดรัก สำหรับเรา แค่ได้รู้จักคำว่ารัก ก็ถือว่าโชคดีแล้ว

นพพรและคุณหญิงเป็นรักเดียวของกันและกัน

ประทับใจในการวางตัวของคุณหญิงมากๆเลยค่ะ เธองดงามตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ แม้จะรักมากแต่ก็ไม่เคยทำอะไรให้เสื่อมเสีย

แปลกใจว่าทำไมผู้ชายถึงเขียนหนังสือรักได้โรแมนติกขนาดนี้นะ ถ้ามีโอกาสก็อยากที่จะนั่งคุยกับคุณศรีบูรพามากๆเลยค่ะ อยากรู้จักว่าตัวจริงจะโรแมนติกเหมือนปลายปากกาไหมนะ
Profile Image for THEERADON SAKPETCH.
28 reviews3 followers
October 21, 2020
หนังสือเล่าพรรณนาได้อย่างน่าสนใจยิ่ง เนื้อเรื่องเรียบง่ายระหว่างคนสองคนแต่กลับถ่ายทอดมุมมองความรักที่ contrast ตัดกันอย่างน่าประหลาดใจ อ่านไปช่วงแรกรู้สึกธรรมดาออกแนวหงุดหงิดในความเยิ่นเย้อแต่ก็เห็นพัฒนาการ มีตอนจบเป็นหมัดเด็ดที่สวยงาม
Profile Image for Ronia.
43 reviews
December 3, 2025
a new favorite, encompasses a certain kind of moral nerve and dread calcifies in my chest now that I am done… a reminder to see beauty in almost everything and look at everything in its smallest detail.
236 reviews4 followers
September 5, 2021
The great virtue of *Behind the Painting* is author's deep understanding and depiction of how puppy love can fade over time (in the case of Noppadol), and how societal/moral obligations can prevent one from reciprocating (in the case of Kirati). Kirati in particular is masterfully drawn, and Noppadol almost as well, although I did find myself wishing that Siburapha had cut some of his effusiveness. While the novel tells us something about the development of Thai literature at the time, there's little that's specifically Thai about it beyond Noppadol's arranged marriage and perhaps the lack of status/class consciousness that informs the relationship between Noppadol, who is from the upper middle class, and Kirati, who is minor nobility. -- The three "other stories" are from later in Siburapha's career, and their value lies less in literary merit (which is genuine but modest) and more in their didactic nature: by this point he was allowing his passion for social justice to dictate his literary style and content. They would, however, make for excellent readings in textbooks for middle schoolers. Of interest primarily to those curious about the development of twentieth-century Thai literature; worthwhile but hardly essential reading for anyone else. 3 1/2 stars.
Profile Image for littlelin.
22 reviews
February 11, 2023
เรื่องราวความรักต่างวัยระหว่างคุณหญิงกีรติและนพพร ขึ้นชื่อว่ารักต่างวัยสิ่งที่จะแตกต่างกันก็คงจะเป็นมุมมองในการมองโลกนี่แหล่ะ นพพรก็จะมองโลกแบบเด็กๆ เพิ่งจะหัดรัก ในขณะที่คุณหญิงมองโลกโดยยึดหลักความเป็นจริง สำหรับเรารู้สึกว่านพพรรักแบบทิ้งขว้าง ไม่เห็นค่าของความรักสักเท่าไหร่;-; อะไรที่เหมือนจะรู้แต่ก็ไม่รู้นั่นถือเป็นเรื่องที่เรารู้สึกขัดใจในตัวของตัวละครตัวนี้ สิ่งที่ชอบที่สุดคือภาษาที่ใช้ ค่อนข้างสละสลวยเลยทีดี ถึงจะเป็นภาษาที่เก่าแต่ก็เข้าใจได้ ไม่ติดขัดอะไร

ขอยกให้เป็นอีกหนึ่งในหนังสือเล่มโปรดในใจ:-)
Profile Image for Melanie Hughes.
52 reviews5 followers
July 5, 2009
In reading Smyth's translation of BTP, I enjoyed getting to read the chapters that Susan Fulop Kepner didn't cover. However, I think I like Susan's translation better. It may be a matter of British vs. American English. I'll do a closer analysis in the future. I do however like all of the photos and biographical information about Siburapha.
Profile Image for May Sa.
115 reviews1 follower
December 1, 2023
ตอนหลังกลับมาจากญี่ปุ่นคุณหญิงส่งสัญญาณให้นพพรเยอะมากจนเรารู้สึกได้เลยนะแต่นพพรกลับไม่รู้อะไรเลย เพราะได้เมินเฉยต่อความรู้สึกที่รักคุณหญิงในเชิงนั้นไปแล้ว สงสารคุณหญิงอย่างสุดซึ้ง แบกอะไรไว้หลายอย่างมาก
This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for Cody.
265 reviews
May 13, 2010
What I learned from this book: I hate wussy men.
Profile Image for punch.
7 reviews
May 30, 2017
ชอบเวลานพพรพร่ำเพ้อถึงมรว. ทั้งคลุ้งคลั้งเป็นชายหนุ่มที่ตกอยู่ในห้วงรัก ถึงจะตอนจบจะเศร้าแต่ก็เป็นไปตามความเป็นจริง
Profile Image for Chawika Kpb.
35 reviews
June 12, 2020
เป็นหนังสือนอกเวลาที่โรงเรียน
ความสุขในการอ่านเรื่องนี้คือการซึมซับภาษาที่คนเขียนใช้ ภาษาที่บรรยาย ภาษาพูด มันสวยงาม ละเมียดละไม มีเสน่ห์สุดๆ
Profile Image for Novferlabie.
2 reviews
November 6, 2025
"ความรักของผมเกิดขึ้นที่นั่น"
"ความรักของเรา นพพร"
"ความรักของเธอเกิดที่นั่น และก็ตายที่นั่น แต่ของอีกคนหนึ่งยังรุ่งโรจน์อยู่ในร่างที่กำลังจะแตกดับ"



"ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน
แต่ฉันก็อิ่มใจว่า ฉันมีคนที่ฉันรัก"


เป็���ประโยคที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายทั้งอึดอัด เศร้าโศก และเต็มไปด้วยความรักที่มีให้เขามาตลอด เราได้อ่านแค่ตอนที่คุณหญิงกีรติแต่งตัวเพื่อจะได้พบกับนพพรเป็นครั้งสุดท้ายเราก็แทบจะร้องไห้แล้ว เจอประโยคดังกล่าวเราน้ำตาคลอ เต็มไปด้วยความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งทั้งหมด ถึงวันสุดท้ายจะต้องจากลาก็ขอให้ได้พูดความในใจ พูดไม่ได้ก็ขอให้ได้ถ่ายทอดมันโดยการเขียน คุณหญิงตั้งใจและตั้งตารอที่จะได้พบกับนพพรเสมอเลย ตอนไปรับนพพรก็แต่งตัวเหมือนที่ได้ไปญี่ปุ่นแล้วเจอนพพรครั้งแรก คุณหญิงจำรายละเอียดได้หมด จำได้ยันความรู้สึก บรรยากาศในช่วงเวลานั้นอย่างดี ถ่ายทอดมันโดยการวาดบนกระดาษด้วยสีน้ำ เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายก่อนจะจากกันอย่างไม่มีวันหวนกลับ ของขวัญแต่งงานของนพพรกับภรรยาของเขา มันยิ่งทำให้ผู้อ่านอย่างเรารู้สึกอึดอัดใจ เหมือนมีบางอย่างอยู่ในใจแล้วไม่เคยได้พูดออกไปก็เลยร้องไห้แทน


คุณหญิงกีรติวางตัวดีมาก ๆ เอาแต่บอกเรื่องอายุตนเองว่าไม่เหมาะสมแก่การมีความสุข แก่ไปสำหรับหลาย ๆ เรื่อง มันยิ่งเศร้าอะ สำหรับเราคุณหญิงอายุน้อยเกินไปมาก อยากให้ได้ไปเที่ยวเยอะ ๆ ได้ใช้วิตที่อิสระจนสามารถเรียกได้ว่าเป็นความผาสุขในชีวิต ไม่อยากให้รู้สึกโดดเดี่ยวไม่ได้รับความรักจนถึงวันที่สิ้นลมหายใจเลยถึงแม้จะได้พบเจอคนที่ตนรักจริงๆก่อนตายก็เถอะ เป็นคนที่รักในเวลาที่ไม่สมควรเลย เวลาไม่ตรงกัน เกิดชาติหน้าชาติใจขอให้คุณหญิงไม่ต้องพบเจอความโศกเช่นนี้อีก ขอให้เวลาตรงกันเสียที คุณหญิงแสดงออกมาในหลายครั้งหลายคราวว่ามีความรู้สึกเช่นไรแค่ไม่สามารถพูดออกไปได้เมื่อทุกครั้งที่นพพรถามว่ารักผมบ้างไหม ตอนก่อนจะจากลามันเต็มไปด้วยความรู้โหยหาอาวรณ์ และมารู้สึกใจหายเมื่อในขณะที่อีกฝ่ายความรู้สึกค่อยๆมอดลงเหมือนไฟกำลังจะดับแต่ความรู้ของอีกคนยังมีอยู่จวบจนหมดลมหายใจ อึดอัดจนร้องไห้ อีกฝ่ายไม่รู้และไม่เคยคิดอะไรเลย


ชอบที่เรื่องเริ่มด้วยการพูดถึงภาพ ๆ หนึ่ง ที่ดูไม่ได้งดงามที่จะเอ่ยปากชม เป็นเหมือนภาพธรรมดาไม่ได้มีคุณค่าอะไร แต่ถ้าลองมองข้างหลังภาพที่ไม่ใช่เป็นด้านหลังของภาพ ติดกับผนังแล้วนั้น ภาพ ๆ หนึ่งมีอะไรมากกว่าที่เราคิดและได้เห็น ภาพมันสามารถบอกได้หมื่นความรู้สึก ล้านความหมาย มันมีความทรงจำอยู่ในนั้น เพียงแต่ว่ามันจะเป็นความทรงจำของใคร แล้วเป็นเรื่องอะไร เท่านั้น
เปิดมาเป็นตัวละครที่เรายังไม่รู้จัก ถามถึงภาพ ๆ หนึ่ง พออ่านจนจบเราถึงเข้าใจความเป็นมาของภาพนี้ได้ชัดเจน เราได้ย้อนกลับไปอ่านตอนแรกอีกครั้งด้วยมันยิ่งชัดมากขึ้น


วรรณศิลป์เรื่องนี้คือดีมาก ๆ พรรณนาได้เห็นภาพ เหมือนสัมผัสกับบรรยากาศเหล่านั้นจริง ๆ สัมผัสกับความรู้สึกของทุกตัวละครได้ ถึงตอนจบมันอาจจะเร็วไปสักหน่อย อยากให้ยืดมากกว่านี้สักนิดแต่กล้าพูดเลยว่าประทับใจมากยากที่จะลืม รายละเอียดเรื่องนี้เยอะมาก ใครรู้สึกอย่างไร รู้ได้จากการกระทำ นั่งคิดว่าถ้าทั้งสองได้เจอกันอีกจะเป็นอย่างไร เสียดายทุกอย่าง เสียใจที่ต้องจบเช่นนี้ รักคุณหญิงกีรติมาก ๆ บอกให้เขาสนใจชีวิตหน้าที่การงานตนเองไป ตอนเขียนบอกเขาคงจะเจ็บปวดหัวใจมากเลยสินะ ขอให้คุณหญิงกีรติเกิดมาในที่ที่มีอิสระ สังคมที่ไม่ตีกรอบและให้คุณค่าเราด้วยการแต่งการ ชีวิตผู้หญิงไม่ได้ตัดสินคุณค่าด้วยอายุ หน้าตา และสถานะ คุณหญิงเก่งและสวยที่สุดแม้จะไม่มีคู่ครองก็ตาม
Profile Image for Kate.
53 reviews
October 18, 2025
3.5
I like the way this depicted falling in love with gentle walks and stimulating conversation. The way that the love was depicted in such an idyllic setting in Tokyo, with the glory of moonlight walks or autumn leaves in the countryside, compared to the tragedy of the ending made it feel like the love story was trapped in the painting and never actually occurred. It was so heart breaking at the end that Mom Ratchawong Kirati as the older woman was holding on so previously to their love and Nopporn as the younger career man so easily had become indifferent.
I found interesting the commentary on love in general, that some are lucky or unlucky to find it, that contentment without love is completely reasonable, and that marriage can be an advantageous decision at that time even without love.
Beautifully written and impactful for such a small book, I think I just didn’t give it a higher rating because Nopporn’s character became so frustrating and heartbreaking but I guess that’s on men!

“‘Can’t you see how lovely the fresh green colour of the leaves is in the pale sunlight? They’re like velvet. And all those young chocolate-coloured aubergines. Don’t they make you feel like they’re friends, of your own age? And beyond those, don’t the tall vegetables with slender leaves blowing in the gentle breeze make your spirits soar with them?’” 16

“People believe that love is the mother of happiness. But the way I see it, that’s not always true. Love can bring bitterness and all kinds of terrible things into our lives. But for those who do love, their hearts are engulfed in a wonderful sweetness which lasts for ever.” 41

“…why should I stay in the same place? I wanted contact with the outside world. I needed a change in my life. I needed something different from what I had been doing for thirty-four years” 63

This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for Purnima Ghogar R..
29 reviews
September 14, 2025
I finished this novella in a single day — my first work of Thai literature in translation — and I was taken by it. This novel follows a young Thai student who meets and falls in love with a woman from the nobility, a relationship complicated by social class, duty and the expectations of marriage.

What I loved most was the emotional depth — the way it explores social class, facades, pretense, societal expectations in marriage and beauty, and big questions about love and happiness. There were so many nuggets of wisdom in the writing that I found myself pausing to reread certain lines just to let them sink in.

The title is clever: the story begins with the protagonist looking at a painting given by the woman he admires, and it ends with her giving him the painting as a remembrance of their relationship. The painting becomes both a metaphor and a character — something to be read, interpreted, and valued, much like the women of high Thai society who were constantly subjected to aesthetic, moral, and social scrutiny.

I thought it was beautifully written, well-paced and full of quiet revelations about the kinds of suppression experienced in high Thai society — things we may know of but only truly understand through stories like this. Highly recommend if you enjoy thoughtful, bittersweet love stories that linger long after you’ve turned the last page.
Displaying 1 - 30 of 107 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.