What do you think?
Rate this book
พบกันเพื่อจบ จาก และฝากลา
นานมาแล้วที่สึนามิกวาดกลืนทุกชีวิตไปทั้งชีวิตของผู้ที่หายไป และชีวิตของผู้ที่ยังอยู่ฝันร้ายหลอกหลอนจากอดีตนำพาชายหนุ่มไปยังเกาะที่มีร้านซื้อขายความฝันหน้าสุสานคว้าตัวเขากลับเข้าไปในความทรงจำรกร้างที่เคยจมลงท้องทะเลพร้อมคลื่นยักษ์ในปี 2547การระลึกถึงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำได้สำหรับผู้ที่ดำรงอยู่เฉพาะในความทรงจำเท่านั้น
237 pages, Paperback
Published March 28, 2024
1 person is currently reading
22 people want to read
Ratings & Reviews
Friends & Following
Create a free account to discover what your friends think of this book!
Community Reviews
Displaying 1 - 5 of 5 reviews
October 26, 2024
คลื่นสึนามิกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ ณ ที่ตรงนั้นหรือแม้แต่ผู้ที่อยู่ห่างไกล มีทั้งผู้รอดชีวิต ผู้สูญเสีย ผู้สูญหาย ทั้งสูญหายไปในเกลียวคลื่นทั้งสูญหายไปในห้วงอดีต ฝันร้ายพาห้วงอดีตปี 2547 กลับมาคอยหลอกหลอนนบนอบทุกครั้งที่เขาหลับตาลง จนวันหนึ่งเขาได้พบร้านขายความฝันหน้าสุสานที่พาเขาดำดิ่งกลับไปยังความทรงจำในคลื่นสึนามิที่ตามหลอกหลอนเขามาในความฝัน
‘การระลึกถึงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำได้สำหรับผู้ที่ดำรงอยู่เฉพาะในความทรงจำเท่านั้น’
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่รู้สึกว่าไม่ได้เห็นคนนำเอาเหตุการณ์สึนามิปี 2547 มาเขียนถึงในแง่ของนิยายที่สะท้อนถึงผู้สูญเสียเลย เราอาจได้ยินผ่านสื่อ ผ่านข่าว แต่ไม่เคยได้อ่านผ่านตัวหนังสือที่สะท้อนออกมาถึงความรู้สึก ความสูญเสียที่ต้องพบเจอ ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด แต่สิ่งที่หนังสือเล่มนี้ทำได้ดีคือการแสดงมุมมองและความรู้สึกของผู้สูญเสียออกมา โดยที่ผู้อ่านอย่างเราเป็นได้แค่ผู้มองแต่สามารถเข้าใจความสูญเสียและบาดแผลในใจที่ยังคงหลงเหลืออยู่แม้ช่วงเวลานั้นจะผ่านมานานมากเพียงใดก็ตามได้
ความฝันของนบนอบและปีแสงถ้าหากตีความในมุมมองของเราอาจตีความได้ว่าอาจเป็นสัยยะของภาวะ PTSD เหตุการณ์ที่สร้างความบอบช้ำให้กับทั้งคู่ผ่านเหตุการณ์ที่เชื่อมต่อกันที่นักเขียนได้ใส่มาในหนังสือ เพราะหลังจากได้อ่านทั้งบทจบและบทจากแล้ว มันเป็นบทที่นอกจากเล่าเหตุการณ์ในอดีตแล้วมันยังบอกถึงสาเหตุว่าทำไมฝันร้ายจึงเกิดขึ้น ฝันร้ายมาจากไหน และในบทฝากลาก็เป็นเหมือนการฟื้นฟูสภาพจิตใจของทั้งนบนอบและปีแสง
เราชอบที่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกให้เราพยายามลืมอดีต อดีตเป็นส่วนหนึ่งของปัจจุบันและอนาคตของชีวิตมนุษย์ การลืมอดีตจึงเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไม่ได้เลย แต่หนังสือเล่มนี้สอนให้เราปล่อยอดีตไป ไม่ได้ปล่อยในความหมายของการลืมอดีตแล้วฝังกลบมันไว้ไม่ให้เล็ดรอดออกมา แต่ปล่อยในความหมายของการปล่อยวาง ละทิ้ง ทิ้งไว้ ไม่ว่าจะปล่อยวางเพราะเราทำใจยอมรับได้ หรือละทิ้งเพราะมันจำเป็นต่อการก้าวไปข้างหน้า หรือทิ้งไว้ในใจเรา ไม่ว่าจะทิ้งไว้ในใจให้เจ็บระบม ยอมรับ เป็นความทรงจำดีหรือเป็นความทรงจำเหลือทิ้ง แต่แค่ปล่อยมันไปกับจิตใจของเราเท่านั้น ปล่อยให้มันเป็นตามจังหวะของคลื่น ไม่ใช่จังหวะคลื่นทะเล แต่เป็นจังหวะคลื่นชีวิตตัวเราเอง
‘บางทีการปล่อยมันไปก็คือปล่อยให้มันคงอยู่’
‘การระลึกถึงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำได้สำหรับผู้ที่ดำรงอยู่เฉพาะในความทรงจำเท่านั้น’
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่รู้สึกว่าไม่ได้เห็นคนนำเอาเหตุการณ์สึนามิปี 2547 มาเขียนถึงในแง่ของนิยายที่สะท้อนถึงผู้สูญเสียเลย เราอาจได้ยินผ่านสื่อ ผ่านข่าว แต่ไม่เคยได้อ่านผ่านตัวหนังสือที่สะท้อนออกมาถึงความรู้สึก ความสูญเสียที่ต้องพบเจอ ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด แต่สิ่งที่หนังสือเล่มนี้ทำได้ดีคือการแสดงมุมมองและความรู้สึกของผู้สูญเสียออกมา โดยที่ผู้อ่านอย่างเราเป็นได้แค่ผู้มองแต่สามารถเข้าใจความสูญเสียและบาดแผลในใจที่ยังคงหลงเหลืออยู่แม้ช่วงเวลานั้นจะผ่านมานานมากเพียงใดก็ตามได้
ความฝันของนบนอบและปีแสงถ้าหากตีความในมุมมองของเราอาจตีความได้ว่าอาจเป็นสัยยะของภาวะ PTSD เหตุการณ์ที่สร้างความบอบช้ำให้กับทั้งคู่ผ่านเหตุการณ์ที่เชื่อมต่อกันที่นักเขียนได้ใส่มาในหนังสือ เพราะหลังจากได้อ่านทั้งบทจบและบทจากแล้ว มันเป็นบทที่นอกจากเล่าเหตุการณ์ในอดีตแล้วมันยังบอกถึงสาเหตุว่าทำไมฝันร้ายจึงเกิดขึ้น ฝันร้ายมาจากไหน และในบทฝากลาก็เป็นเหมือนการฟื้นฟูสภาพจิตใจของทั้งนบนอบและปีแสง
เราชอบที่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกให้เราพยายามลืมอดีต อดีตเป็นส่วนหนึ่งของปัจจุบันและอนาคตของชีวิตมนุษย์ การลืมอดีตจึงเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไม่ได้เลย แต่หนังสือเล่มนี้สอนให้เราปล่อยอดีตไป ไม่ได้ปล่อยในความหมายของการลืมอดีตแล้วฝังกลบมันไว้ไม่ให้เล็ดรอดออกมา แต่ปล่อยในความหมายของการปล่อยวาง ละทิ้ง ทิ้งไว้ ไม่ว่าจะปล่อยวางเพราะเราทำใจยอมรับได้ หรือละทิ้งเพราะมันจำเป็นต่อการก้าวไปข้างหน้า หรือทิ้งไว้ในใจเรา ไม่ว่าจะทิ้งไว้ในใจให้เจ็บระบม ยอมรับ เป็นความทรงจำดีหรือเป็นความทรงจำเหลือทิ้ง แต่แค่ปล่อยมันไปกับจิตใจของเราเท่านั้น ปล่อยให้มันเป็นตามจังหวะของคลื่น ไม่ใช่จังหวะคลื่นทะเล แต่เป็นจังหวะคลื่นชีวิตตัวเราเอง
‘บางทีการปล่อยมันไปก็คือปล่อยให้มันคงอยู่’
This entire review has been hidden because of spoilers.
June 17, 2025
ช่วงแรกๆ มึนหน่อย แบบอะไรคือแมงกะพรุน ชื่อตัวละครช่วงแรกพามึนสับสนกับชื่อแมว5555 แต่ช่วงหลังๆ ชอบค่ะ ไว้อ่านอีกรอบอาจจะมารีวิวละเอียดๆ อีกทีค่ะ
April 14, 2024
คลื่นยักษ์สึนามิพัดพาชีวิตและความฝันของนบนอบ เขาจึงตัดสินใจละทิ้งทะเลและไม่หันหลังกลับไปอีก ทว่ากลับเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เขาต้องกลับไปเผชิญหน้ากับความจริงภายใต้ท้องทะเล สิ่งสำคัญคือนบนอบได้เจอกับบาร์หน้าสุสานที่สามารถซื้อขายความฝัน แมงกะพรุน เด็กชาย คุณลุง คลื่นยักษ์ สิ่งประกอบสร้างในฝันของเขาอาจจะต้องจบลงเสียที
ตัวหนังสือระหว่างบรรทัดนำพาไปสู่โลกใบนั้น โลกของเกาะกลางทะเลที่มีฝนตกตลอดวัน โลกที่มีอดีตอันโหดร้ายถูกทับถมไว้ท่ามกลางผืนทราย โลกที่ม
ตัวหนังสือระหว่างบรรทัดนำพาไปสู่โลกใบนั้น โลกของเกาะกลางทะเลที่มีฝนตกตลอดวัน โลกที่มีอดีตอันโหดร้ายถูกทับถมไว้ท่ามกลางผืนทราย โลกที่ม
July 6, 2025
หยิบเล่มนี้มาอ่านเพราะเจอรีวิวในทวิตเตอร์ ด้วยความอยากอ่านงานของนักเขียนไทยและชอบที่เซตติ้งของเรื่องมีการอ้างอิงของเหตุการณ์จริง จึงตัดสินใจอ่านเล่มนี้
รู้สึกไม่ผิดหวังและได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆมาก เริ่มต้นด้วยความอึมครึมของตัวละครหลัก ที่เราคิดว่าเราเข้าใจความเจ็บปวดของเขาแล้ว แต่ก็ต้องมาหักมุมตอนที่รู้ว่าฝันร้ายที่เจอไม่ใช่ประสบการณ์ของนบนอบเอง แต่เกิดจากการซื้อความฝันนี้มา
ชอบที่นักเขียนเอาความแฟนตาซีเข้ามาผสมด้วย คอนเสปการซื้อขายความฝันทำให้เรื่องมีความสนุกขึ้น น่าติดตามและลุ้นตามไปด้วย
เราเคยอ่านงานของนักเขียนไทยมาไม่เยอะ และเพิ่งเคยอ่านผลงานของคุณสลิล ช่วงแรกเหมือนช่วงเวลาแห่งการปรับตัว ไม่คุ้นเคยกับสำนวนและการอุปมาอุปไมยในบางส่วน แต่เมื่อผ่านจุดนึงมาก็ไม่สามารถวางเล่มนี้ได้เลย อ่านจนจบรวดเดียว คุณนักเขียนเก่งมากๆ ภาษาในเรื่องสละสลวย การบรรยายที่ทำให้เรารู้สึกร่วมไปด้วย ทำให้เราได้ตกตะกอนในหลายๆเรื่องที่เราไม่เคยคิดมาก่อน รู้ตัวอีกทีก็อ่านจนจบเล่มไปแล้ว โดยสรุปคือชอบงานเล่มนี้มากค่ะ💗
สุดท้ายนี้ ขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์สึนามิปี2547 ทุกคนด้วยนะคะ
รู้สึกไม่ผิดหวังและได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆมาก เริ่มต้นด้วยความอึมครึมของตัวละครหลัก ที่เราคิดว่าเราเข้าใจความเจ็บปวดของเขาแล้ว แต่ก็ต้องมาหักมุมตอนที่รู้ว่าฝันร้ายที่เจอไม่ใช่ประสบการณ์ของนบนอบเอง แต่เกิดจากการซื้อความฝันนี้มา
ชอบที่นักเขียนเอาความแฟนตาซีเข้ามาผสมด้วย คอนเสปการซื้อขายความฝันทำให้เรื่องมีความสนุกขึ้น น่าติดตามและลุ้นตามไปด้วย
เราเคยอ่านงานของนักเขียนไทยมาไม่เยอะ และเพิ่งเคยอ่านผลงานของคุณสลิล ช่วงแรกเหมือนช่วงเวลาแห่งการปรับตัว ไม่คุ้นเคยกับสำนวนและการอุปมาอุปไมยในบางส่วน แต่เมื่อผ่านจุดนึงมาก็ไม่สามารถวางเล่มนี้ได้เลย อ่านจนจบรวดเดียว คุณนักเขียนเก่งมากๆ ภาษาในเรื่องสละสลวย การบรรยายที่ทำให้เรารู้สึกร่วมไปด้วย ทำให้เราได้ตกตะกอนในหลายๆเรื่องที่เราไม่เคยคิดมาก่อน รู้ตัวอีกทีก็อ่านจนจบเล่มไปแล้ว โดยสรุปคือชอบงานเล่มนี้มากค่ะ💗
สุดท้ายนี้ ขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์สึนามิปี2547 ทุกคนด้วยนะคะ
This entire review has been hidden because of spoilers.
July 29, 2025
Has to be one of the best books I have ever read in my life. During the reading, I was thinking that there has been a few novel about post-tsunami disaster or even movies that talk about how people live through their life after the disaster. This book is the first one that is not a documentary. It is a magical realism story. And I believe to understand and live with traumas like Tsunami, Thai society needs a story like this.
As a short-novel, it has all the elements that I can call a “good” book. The setting is there; the plot is there; the twist is there. I gasped multiple times from how everything continued on. It really was an experience to read.
What a beautiful reading :)
As a short-novel, it has all the elements that I can call a “good” book. The setting is there; the plot is there; the twist is there. I gasped multiple times from how everything continued on. It really was an experience to read.
What a beautiful reading :)
Displaying 1 - 5 of 5 reviews