Allukah46 reviewsFollowFollowFebruary 10, 2018รีวิวรวบยอดเล่ม 1-6LOST เรื่องราวของเด็กสาวกำพร้าที่เดินทางไปยังดินแดนอื่นด้วยพลังลึกลับโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ หรือความบังเอิญใด แต่เป็นเพราะความเกี่ยวพันมากมายที่โยงยาวกลับไปครั้นอดีตกาล จะรีวิวแบบไม่เจาะลึกตัวพล็อตมากนัก อยากจะพูดถึงการสร้างตัวละคร แนวคิดและทัศนคติที่แฝงอยู่ในเรื่องมากกว่า ซึ่งการันตีว่ามีสปอยเล็กน้อยแน่นอนในฐานะที่เคยอ่านเซวีน่า นิยายเรื่องแรกของกัลฐิดามาเกิน 10 ปีแล้ว จึงอยากจะลองอ่านซีรีส์ล่าสุดของนักเขียนคนนี้ดูอีกสักครั้ง หลังจากที่เคยลองอ่านเดรกเกอร์ แต่ขัดใจกับนางเอกเลยดรอปเรื่องนั้นลงกองดองไปก่อน เมื่อเริ่มอ่าน LOST ก็พบว่าสไตล์ รายละเอียด แทบไม่แตกต่างจากเซวีน่า เช่นเดียวกับแนวคิดสุขนิยมสมบูรณ์แบบที่ผู้เขียนเคยพูดว่าตั้งใจให้เข้มข้นขึ้น บีบคั้นขึ้นเพื่อความสมจริง แต่เรากลับสัมผัสถึงความเรียลนั้นได้น้อยกว่าที่ควรจริงอยู่ที่ผู้เขียนสร้างโลกได้อลังการ กอปรด้วยดีเทลส์หลากหลาย เพราะอยากให้เรื่องออกมาดูเรียล แต่ความเรียลไม่ได้ขึ้นกับโลกที่สร้างออกมาเพียงอย่างเดียว ยังไม่นับว่าผู้เขียนหยิบยกรายละเอียดหลายๆ อย่างจากงานเดิมของตัวเองมารีไซเคิลซ้ำๆ นักอ่านที่เคยอ่านหรือติดตามงานของกัลฐิดาจะทราบทันที ว่ามีจุดที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันอย่างไร ทั้งในแง่ของตัวละคร สิ่งของ ความคิด จุดสตาร์ท จุดเชื่อม หรือแม้กระทั่งการคลี่คลายปมต่างๆอเล็กซ์ นางเอกจอมขี้เหนียวของเรื่อง ทะเล้น ตรงไปตรงมา มีนิสัยพูดกับตัวเองตลอดเวลาทั้งๆ ที่ปกติคนเราสามารถคิดในใจก็ได้ ตอนแรกยังเก่งสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ตอนหลังจะทรงพลังที่สุดเสมอ ส่วนพระเอกจะต้องมีบุคลิกเงียบขรึม ดูเย็นชาตลอดเวลา แต่เมื่อมีความรักก็จะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างไม่น่าเชื่อ เช่นเดียวกับกลุ่มผองเพื่อน บุคคลรอบตัวคู่พระนาง ที่เหมือนจะหลุดคาแรกเตอร์กันไปเสียหมด (แต่เดิมที่มีคาแรกเตอร์คล้ายกันอยู่แล้ว แยกไม่ออกว่าใครเป็นใครเวลาพูด) จากคนที่เคยเรียบร้อยสุขุม นิ่งเป็นน้ำ ก็กลายเป็นคนขี้โวยวาย รุนแรง ควบคุมตัวเองไม่ได้ ชวนให้คิดว่า หากตัวละครไม่มีความรัก อาจจะส่งผลดีกับเนื้อเรื่องและตัวเขาเองมากกว่าทั้งที่เรื่องวนเวียนกับการปกครองเมือง อาณาจักร แต่กลับขาดแคลนตัวละครวัยผู้ใหญ่ และคนชรา ซึ่งถึงจะมีบทบาทแทรกแซมอยู่บ้าง ก็ไม่เคยโดดเด่นเกินหน้าเกินตาเหล่าตัวเอกและกลุ่มเพื่อนผู้เยาว์วัย อัจฉริยะเก่งกาจเหนือผู้อื่นในทุกด้าน รูปงามไร้ที่ติ ไม่มีข้อบกพร่องให้ครหา คนสูงวัยมีบทบาทเพียงแค่คนรับใช้ ตัวประกอบไร้ความสำคัญ พ่อแม่ และตัวร้ายที่สร้างขึ้นให้ตายเท่านั้นทางฝั่งของตัวโกง มักเป็นเหรียญที่มีด้านเดียว มีแต่สีดำสนิทตรงข้ามกับฝั่งตัวเอกที่เป็นสีขาวล้วน ไม่มีคุณงามความดี หรือลักษณะอื่นที่ทำให้คนอ่านชื่นชอบ เมื่อเข้าสู่ด้านมืดก็จะชั่วถาวร กลับตัวกลับใจไม่ได้ เกิดมาเพื่อเป็นคนเลว บ้าอำนาจ โลภโมโทสัน และตายไปเพื่อบรรลุเป้าของเรื่องเท่านั้นภาคเดียวของ LOST ที่รู้สึกว่าฉีกแนวจากสไตล์เดิมของนักเขียนที่สุดแล้ว คือเล่ม 3 หยดน้ำตาของเหล็ก ที่ตัวละครหลักเคยผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมาก่อน และคิดจะกระทำการปิตุฆาต มีการปูเรื่อง ย้อนความ และบิลด์อารมณ์เจ็บปวดดราม่าได้ดี กระทั่งช่วงสุดท้ายหลังฉากต่อสู้แสนอลังการ เราคาดหวังว่าหยดน้ำตาของเหล็ก จะทุกข์ทรมานจริงๆ ดั่งที่ผู้เขียนอ้างไว้ แต่เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดไคลแมกซ์ ตัวละครที่สมควรตายกลับถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ ทำให้ทุกอย่างที่สร้างขึ้นมาแต่แรกนั้นพังทลายลง อีกภาคที่เนื้อหาคล้ายๆ กันคือเล่ม 5 ที่มีตัวละครหลักตัวนึงตาย แต่ก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ยิ่งบ่งชัดว่าผู้เขียนไม่อาจละทิ้งแนวคิดสุขนิยมได้ตั้งแต่เรื่องเซวีน่า นักเขียนมักให้ความสำคัญกับการเสียสละ ซึ่งเป็นเรื่องที่สมควรแก่การยกย่อง แต่การเสียสละจะมีประโยชน์อะไร หากมันไม่ใช่การเสียสละอย่างแท้จริง ในเมื่อตัวละครที่สละตนเองเพื่อส่วนรวม สามารถหวนฟื้นจากความตายได้เพียงไม่นาน ทำให้คุณค่าของฉากกินใจนั้นลดน้อยลง และหมดความหมายไปโดยปริยาย การกล่าวว่าตัวละครตัวนี้ เป็นบุคคลน่าสงสาร โชคร้าย ลำบากยากเข็ญ แต่หากผู้เขียนไม่แสดงให้เห็นมากพอ ก็ยากที่จะโน้มน้าวให้คนอ่านเห็นใจ หรืออินร่วมไปกับตัวละครนั้นได้เลยอีกจุดที่ต้องเอ่ยถึง คือหลังจากเล่ม 4 ที่เพื่อนพระเอก ครีส ร่วมมือกับนักบวชสาวคู่ของตัวเอง ถอนมนต์ดำออกจากเทเนล่า ตัวร้ายหลักของซีรีส์มาตั้งแต่ต้น ครีสได้รับการสถาปนาขึ้นครองเมืองต่อไป มีฉากที่ผู้เขียนบรรยายถึงความไม่ชอบพอใจของประชาชนต่อเจ้าเมืองคนใหม่ และสนับสนุนเทเนล่าอย่างชัดเจนก่อนหน้านี้ แต่จากนั้นผู้เขียนก็เขี่ยประเด็นนี้ทิ้ง ทั้งที่ตอนแรกอารัมภบทมาเกินครึ่งเล่ม ไม่มีฉากว่าครีสต้องรับมือกับแรงกดดันยังไงจากทั้งสภาทั้งประชาชน ในหลักความจริงแล้วพลเมืองคงจะต้องไม่พอใจเจ้าเมืองคนใหม่ อาจถึงขั้นเกลียดและต่อต้านครีส เรียกร้องให้เปลี่ยนระบอบต่างๆ น่าแปลกที่เมืองแห่งความรู้ สามารถแลกเปลี่ยนความคิดอิสระ มีแนวโน้มที่จะเกิดความต้องการล้มล้างระบอบปกครองแบบศักดินา กลับไม่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ทั้งที่ก็มีข่าวพฤติกรรมฉาวโฉ่ของเจ้าเมืองคนล่าสุดหลุดรั่วออกมา แต่กลับสามารถครองเมืองต่อไปได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เข้าใจว่าปมหลักไม่ใช่ประเด็นการเมือง แต่อย่างน้อยผู้เขียนก็ควรจะแทรกรายละเอียดเหล่านั้น เพื่อสื่อให้เห็นถึงความยากลำบากในการปกครองเมืองด้วย ไม่ใช่เกริ่นขึ้นมาแล้วตัดจบง่ายๆ อย่างที่กระทำและอีกทัศนคติหนึ่งที่ค่อนข้างขัดใจ คือ sexism หรือการกดขี่ทางเพศอย่างชัดเจน ถึงผู้เขียนจะกล่าวว่าในโลกของลิบาเนีย ผู้ชายนั้นเป็นใหญ่ แต่เราไม่ชอบการ “ทำเรื่องผิดให้เป็นถูก” ของเรื่องนี้มาก มีหลายต่อหลายฉากที่แสดงออกชัดเจน เรื่อยมาตั้งแต่ภาค 4, 5, 6 ที่ตัวละครชายเด่นๆ สามารถบังคับผู้หญิงให้ตกเป็นของตนได้ โดยไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด เพราะตัวเองมีอำนาจเหนือผู้หญิงคนนั้น รวมถึงคนทั้งเมืองอยู่แล้ว บางฉากเกิดขึ้นในตอนที่ผู้หญิงหมดสติอยู่ ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมพร้อมใจจากอีกคน ซึ่งนั่นไม่ต่างจากการบังคับข่มขืนแม้แต่น้อยมีการพยายามยัดเยียดข้อเสียให้บางตัวละครในฝั่งพระนาง เช่นนิสัยเจ้าชู้และนอนกับหญิงสาวไม่เลือกหน้า แต่เมื่อข้อติเหล่านั้นไม่ส่งผลลบต่อเนื้อเรื่องจึงไม่อาจนับได้ว่าเป็นข้อเสียจริงๆ อีกทั้งจากที่อ่าน ผู้เขียนก็ไม่ได้มีเจตนาจะใส่ให้เป็นจุดตำหนิ แต่ต้องการเพิ่มมูลค่าความเป็นที่ต้องการของตัวละครชายเสียมากกว่า ในฐานะนักอ่านคนหนึ่ง กลับรู้สึกว่าผู้ชายที่มีลักษณะดังกล่าวไม่ใช่ผู้ชายที่น่าพึงประสงค์ แต่บางคนอาจจะชื่นชอบและรั��ได้กับการถูกละเมิดทางเพศ ในเมื่อผู้ชายกลุ่มนั้นมาจากตระกูลใหญ่ และจะขึ้นครองเมืองดำรงตำแหน่งสูงสุดในภายภาคหน้ามีสองสามป���ะโยคที่เพื่อนพระเอกพูดทำนองว่า “ความรักกับความเกลียดอยู่ใกล้กันนิดเดียว บางทีมันอาจเป็นสิ่งเดียวกัน” กับ “เพราะรัก...จึงต้องได้มาครอบครอง แม้จะต้องโดนเกลียดก็ตาม” เห็นชัดว่าผู้เขียนพยายาม justified หรือบิดเบือนความผิด ให้เป็นเรื่องถูกต้องและชอบธรรม ด้วยการอ้างถึง “ความรัก” แต่หากมองในแง่ของความจริง หากหญิงโชคร้ายไม่ได้ชอบพอกับผู้ชายคนนั้นก่อนหน้านั้นล่ะ นั่นก็ไม่แตกต่างจากคดีข่มขืนที่เห็นบนพาดหัวข่าวทุกวันเลย การที่ผู้ชายหล่อเหลา ร่ำรวย และเป็นที่ต้องการของหญิงสาวทั้งโลก ไม่ได้แปลว่าผู้ชายคนนั้น จะมีสิทธิ์กระทำตามอำเภอใจกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องย่อมดำเนินไปตามแนวคิดสุขนิยม สุดท้ายสาวๆ ทุกผู้คนที่ถูกกระทำจนไม่น่าให้อภัย ก็ลงเอยด้วยการอยู่ครองคู่อย่างมีความสุขชั่วลูกหลานจากที่เคยเห็นสนพ. โฆษณา ว่า LOST คือนิยายวรรณกรรมเยาวชน มีเป้าหมายหลักคือกลุ่มเด็กไปจนถึงวัยรุ่น ไม่ใช่นิยายเฉพาะกลุ่มที่กำหนดอายุนักอ่าน ดังนั้นผู้เขียนยิ่งควรระมัดระวังว่าควรจะใส่ค่านิยมแบบไหนปลูกฝังเยาวชน ที่ยังไม่อาจแยกแยะผิดชอบชั่วดี สิ่งใดที่ควรเอาอย่างไม่เอาอย่างได้ มีสื่อและนวนิยายจำนวนมากที่เซตติ้งในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่ และรุนแรงโหดร้ายกว่านี้มาก แต่เมื่อผู้ชมได้เสพสื่อนั้นเข้าไป กลับพบว่ามันน่าเศร้าและหดหู่ ไม่ใช่ความรู้สึกชวนฟิน หรือน่าโหยหาทั้งสิ้นหากต้องเลือกว่าชอบตัวละคนไหนมากที่สุด ก็คงจะเป็นอิลกากับวาซาเรีย คู่นี้จะเป็นผู้เป็นคนหน่อย มีสติเวลาคับขันมากที่สุดแล้วในเรื่อง อาจเพราะไม่มีเรื่องความรักมาแทรกแซงทำให้เสียสมาธิ แต่ละคนเลยทำหน้าที่ของตนเองไปได้อย่างดีเยี่ยมไม่ขาดตกที่จริงแล้ว ผู้เขียนมีองค์ประกอบที่เลิศเลออยู่ในมือมากมาย ที่อาจสอนให้เยาวชนเติบโตขึ้นในทางที่ดีได้ แต่เวลาเดียวกัน ก็มีการใส่แนวคิดหลายอย่างที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกขัดข้อง ไม่ถูกทำนองคลองธรรมสมกับประเภทนิยายเด็กเท่าไหร่ กลายเป็นว่าฉุดระดับความดีงามของตัวเรื่องลงอย่างน่าเสียดาย เมื่ออ่านจบแล้วจึงเกิดความรู้สึกก้ำกึ่ง และขัดแย้งในใจตลอดเวลา เพราะยังคงติดใจกับค่านิยมเหล่านั้นอยู่นั่นเองreview-list
Kanokkan157 reviews16 followersFollowFollowMarch 28, 2016จบแล้วเล่มแรก รู้สึกรำคาญอเล็กซ์ นางหน้าเงินอ่ะ 55555 เอะอะอะไรก็เรียกร้องให้คนช่วย แต่หลังๆ ค่อยช่วยตัวเองบ้างถือว่ามีการพัฒนา ส่วนลูม...ข้ามไปเถอะ ไวเซอร์คนอื่นยังเด่นกว่าเลย อย่างครีสกะอิลกา วาซาเรียงี้ พริสกับดิสก้าบทน้อยไปหน่อย
Friend reader14 reviewsFollowFollowMay 5, 2020ตามสไตล์ของนักเขียนคนนี้ เล่าเรื่องของเด็กสาวที่หลุดไปในโลกคู่ขนานที่ล้าหลังกว่าปัจจุบัน แต่มีวิทยาการวิเศษที่อัศจรรย์กว่าอย่างเวทมนตร์ อัญมณี และเทพเจ้า อ่านเพลินๆ มาติดตามไปกับพัฒนาการของตัวละครในเรื่องนี้กัน
Jirawan Jantanakorn100 reviews7 followersFollowFollowFebruary 18, 2017ขัดใจนิสัยพระเอก แต่ขัดใจนิสัยนางเอกยิ่งกว่าแต่เนื้อเรื่องสนุกคะ เนื้อเรื่องเราชอบมาก แม้นิสัยตัวละครจะขัดใจก็ตามนางเอกจู่ๆก็กลายเป็นแม่มด มีปีศาจต้องปราบแนวโลกต่างมิติ
Chanita Sripaiboon54 reviewsFollowFollowMay 9, 2021อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่พล็อตคล้ายกับเรื่องอื่นๆของพี่กัล คือ หลุดไปต่างโลกต่างมิติ ต้องพยายามกอบกู้โลกที่กำลังจะพังทลาย ล่มสลาย ฯลฯ ตัวละคร พระเอก-นางเอก ตัวประกอบในเรื่อง ก็รู้สึกเป็นโทนแบบเดิมๆ ความแตกต่างอยู่ที่รายละเอียดของแต่ละโลกเราชอบการเปิดเรื่องตอนที่ยังอยู่ในโลกเก่าของอเล็กซ์นะ สกิลหลายๆอย่างที่อเล็กซ์ได้ใช้ตอนทำงานก็ได้หยิบมาใช้ความชอบและความรอบรู้ของอเล็กซ์ดูไกลเกินอายุไปมาก ทั้งๆที่ได้เรียนแค่ชั้นมัธยมต้น รู้อะไรหลายๆอย่างมากจริงๆสำหรับเล่มนี้ที่เป็นเล่มที่เพิ่งเริ่มต้นเรื่องราวเหมือนเป็นสนามฝึกซ้อมเก็บเวลของอเล็กซ์ก็ดูไม่ค่อยมีอะไรมาก การทิ้งปมก็เป็นแบบฉบับพี่กัลโลกลิบาเนียที่นางเอกหลุดไป ค่านิยมชายเป็นใหญ่แรงมาก มีเรื่องของชนชั้นวรรณะ แต่ชนชั้นที่ต่ำสุดอย่างทาสก็ยังมีความสุขของตัวเองดี ดีจังเลยเนอะ มันก็ไม่ได้ดูทาสขนาดนั้น ดูมีอิสระเสรีบ้าง เป็นโลกที่ดูสงบสุขมากๆเรื่องของชายเป็นใหญ่ อ่านแล้วหงุดหงิด แต่ก็พยายามเตือนตัวเองตลอดว่าสังคมในโลกนั้นมันเป็นแบบนั้น มีอเล็กซ์ที่หลุดจากโลกเราที่ทุกคนเท่าเทียม แต่กลับไม่มีความหงุดหงิดในเรื่องนี้เท่าไร คิดว่าคงเพราะต้องจำยอมกับวัฒนธรรม/สังคมที่ตัวเองหลุดเข้าไป
Sun&moon/หมึกดำ12 reviews1 followerFollowFollowApril 18, 2017 ต้องยอมรับว่าอ่านงานของกัลฐิดาไม่รอดเท่าไหร่ เซวีน่าที่ว่าดีนักหนาก็ยังอ่านไม่จบเล่ม 2 เสียที ชุดเดรเกอร์ก็ไม่จบเล่ม 1 แต่เราก็ยังให้โอกาสกัลฐิดาเรื่อยมา เลยเลือกซื้อเล่มหนึ่งขอวชุดนี้มาอ่านดู ต้องขอออกปากเลยว่าสนุกมากนะ เอาจริงๆ ถึงเรื่องจะใหม่ ข้อมูลใหม่เพียบ ตัวละครก็เยอะเป็นพะเรอเกวียนแต่เราอาศัยจดใส่สมุดโน๊ตข้างตัวถึงชื่ออาณาจักรและตัวละครเด่นๆ จำเป็นๆ เอาไว้ก็ตามได้ทันและจำได้ในเวลาไม่นาน ถือว่ากัลฐิดาทำได้ดีเลยกับชุดนี้นะคะ แต่ขอติหน่อยกับบทพูดของนางเอก ทำไมเธอถึงพูดมาก พูดเยอะขนาดนั้น และก็พูดคนเดียวเยอะด้วย นี่ก็ขมวดคิ้วหลายครั้งมากที่อ่านบทพูดของนาง บางทีไม่มีเว้นบ้างเลย ให้บทพูดนางมาทีห้าหกบรรทัดแล้วค่อยปิดเครื่องหมายคำพูด เราก็เอ้อ! นี่ไม่หายใจหายคอกันเลยเหรออเล็กซ์!!! ส่วนไอ้นิสัยขี้งกของนางเนี่ยเรารับได้นะ คนมันจนน่ะ ต้องสู้ชีวิต หาทองได้ก็หาไว้ก่อน กอบโกยค่ะ แต่รำคาญที่นางพูดมากไปนิด แต่อย่างอื่นเราชอบหมดเลย ทั้งโลกลิบาเนีย ตัวละครอื่นๆ ในโลกนี้ดี โอเคเลยค่ะ อ่านเล่มหนึ่งจบก็ออกไปซื้อเล่ม 2-3 ตุนไว้เลย คาดว่าจะอ่านจบเร็วๆ นี้-Sun&Moon/หมึกดำ-