What do you think?
Rate this book
วงศาวิทยาปรัชญาการเมืองว่าด้วยการต่อต้านฉันทามติ
365 pages, Paperback
Published January 1, 2011
1 person is currently reading
12 people want to read
Ratings & Reviews
Friends & Following
Create a free account to discover what your friends think of this book!
Community Reviews
Displaying 1 - 2 of 2 reviews
July 14, 2017
หนังสือแนว critical theory ที่ดีที่สุด
February 19, 2016
เป็นหนังสือที่อ่านยาก ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษาปรัชญาการเมืองเป็นอย่างยิ่ง แต่ถึงอย่างไร ประเด็นที่หนังสือเล่มนี้นำเสนอนับว่ามีความน่าสนใจ และเปิดพรมแดนความรู้ได้อย่างกว้างขวาง
หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 6 บท (ไม่รวมบทนำ) ประเด็นที่มีร่วมกันคือการต่อต้านฉันทามติ ผ่านการวิวาทะของนักคิดร่วมสมัย ซึ่งเป็นลักษณะงานเขียนที่หาได้ไม่ง่ายนักในวงวิชาการไทย
บทที่ 1 นั้นว่าด้วยความไร้น้ำยาของประชาธิปไตยแบบดำริตริตรอง (Deliberative Democracy) ซึ่งเป็นการวิวาทะกันระหว่าง ชองตาล มูฟฟ์ ที่วิพากษณ์แนวคิดประชาธิปไตยของ จอห์น รอลส์ กับ เจอเกนส์ ฮาร์เบอร์มาส โดยมูฟฟ์ได้เสนอเสรีประชาธิปไตยผ่านแนวคิดที่เรียกว่า "ภาวะปรปักษ์แห่งพหุนิยม" (Agonistic Pluralism) ซึ่งเน้นให้ดำรงความขัดแย้งไว้ในสังคม บทนี้อ่านง่ายและทำความเข้าใจได้ง่าย เผยให้เห็นถึงประชาธิปไตยอีกรูปแบบที่เราไม่ค่อยจะคิดกันสักเท่าไหร่
บทที่ 2 ว่าด้วยแนวคิดชีวิตที่เปลือยเปล่า (naked life) ของ จอร์โจ อากัมเบน ที่ตั้งคำถามต่อความหมายของประชาชนในรัฐชาติ, การสร้างพื้นที่ความเป็นการเมืองให้กับตัวแสดงทางการเมือง ซึ่งเผยให้เห็นถึงความน่ากลัวของการดำรงชีวิตอยู่ในรัฐชาติ ที่ชีวิตของเราเป็นชีวิตที่สามารถถูกกำหนดโดยรัฐได้ว่าสมควรมีชีวิตอยู่หรือไม่
บทที่ 3 อธิบายแนวคิดของ อาแลง บาดียู ที่กล่าวถึงเรื่องการแตกแยกของสภานการณ์ (situation) และการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ (event) ผ่านแนวคิดทฤษฏีเรื่องเซ็ต บทนี้เป็นบทที่อ่านยากมากถึงมากที่สุด เนื่องจากใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์มาอธิบาย แต่อ่านสนุกที่สุดเช่นกัน เน้นความเป็นการเมืองที่แยกออกจากการเมืองที่เราเข้าใจกันทั่ว ๆ ไป วิเคราะห์ทุนนิยมประชาธิปไตยในแบบฉบับของบาดียู
บทที่ 4 ว่าด้วยแนวคิดของ ชีลล์ เดอเลิซ เกี่ยวกับความไร้แก่นสาร, การสลายเส้นแบ่งของรัฐชาติ และการเป็นเครื่องจักรสงคราม บทนี้อ่านยากอีกแล้ว เพราะคอนเซปท์ของเดอเลิซไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แถมยัง Radical สุด ๆ
บทที่ 5 ว่าด้วยเรื่องมโนทัศน์ Demokratos (demos+kratos) ซึ่งผู้เขียนนำเสนอประชาธิปไตยรูปแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากประชาธิปไตยแบบ Democracy หรือประชาธิปไตยที่เราเข้าใจกันอยู่ทุกวันนี้ เผยให้เห็นความบกพร่อง ความไม่เท่าเทียมภายใต้ความเท่าเทียมของ Democracy ผ่านมโนทัศน์สำคัญของ ฌาคส์ ร็องซีแยร์ ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่า demos และ kratos
บทที่ 6 คือการพูดถึงความเป็นไปได้ของมโนทัศน์ Demokratos ที่จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาในวงวิชาการหลังอาณานิคมศึกษา
โดยรวมแล้วหนังสือเล่มนี้ต้องปืนหอคอยงาช้างขึ้นไปอ่านอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานงานวิชาการมาบ้างแล้ว แต่จุดยืนของหนังสือเล่มนี้คือการต่อต้านฉันทามติอย่างถึงที่สุด ทำให้บางคนที่รักประชาธิปไตย (แบบทุกวันนี้) อาจจะไม่อินสักเท่าไหร่
หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 6 บท (ไม่รวมบทนำ) ประเด็นที่มีร่วมกันคือการต่อต้านฉันทามติ ผ่านการวิวาทะของนักคิดร่วมสมัย ซึ่งเป็นลักษณะงานเขียนที่หาได้ไม่ง่ายนักในวงวิชาการไทย
บทที่ 1 นั้นว่าด้วยความไร้น้ำยาของประชาธิปไตยแบบดำริตริตรอง (Deliberative Democracy) ซึ่งเป็นการวิวาทะกันระหว่าง ชองตาล มูฟฟ์ ที่วิพากษณ์แนวคิดประชาธิปไตยของ จอห์น รอลส์ กับ เจอเกนส์ ฮาร์เบอร์มาส โดยมูฟฟ์ได้เสนอเสรีประชาธิปไตยผ่านแนวคิดที่เรียกว่า "ภาวะปรปักษ์แห่งพหุนิยม" (Agonistic Pluralism) ซึ่งเน้นให้ดำรงความขัดแย้งไว้ในสังคม บทนี้อ่านง่ายและทำความเข้าใจได้ง่าย เผยให้เห็นถึงประชาธิปไตยอีกรูปแบบที่เราไม่ค่อยจะคิดกันสักเท่าไหร่
บทที่ 2 ว่าด้วยแนวคิดชีวิตที่เปลือยเปล่า (naked life) ของ จอร์โจ อากัมเบน ที่ตั้งคำถามต่อความหมายของประชาชนในรัฐชาติ, การสร้างพื้นที่ความเป็นการเมืองให้กับตัวแสดงทางการเมือง ซึ่งเผยให้เห็นถึงความน่ากลัวของการดำรงชีวิตอยู่ในรัฐชาติ ที่ชีวิตของเราเป็นชีวิตที่สามารถถูกกำหนดโดยรัฐได้ว่าสมควรมีชีวิตอยู่หรือไม่
บทที่ 3 อธิบายแนวคิดของ อาแลง บาดียู ที่กล่าวถึงเรื่องการแตกแยกของสภานการณ์ (situation) และการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ (event) ผ่านแนวคิดทฤษฏีเรื่องเซ็ต บทนี้เป็นบทที่อ่านยากมากถึงมากที่สุด เนื่องจากใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์มาอธิบาย แต่อ่านสนุกที่สุดเช่นกัน เน้นความเป็นการเมืองที่แยกออกจากการเมืองที่เราเข้าใจกันทั่ว ๆ ไป วิเคราะห์ทุนนิยมประชาธิปไตยในแบบฉบับของบาดียู
บทที่ 4 ว่าด้วยแนวคิดของ ชีลล์ เดอเลิซ เกี่ยวกับความไร้แก่นสาร, การสลายเส้นแบ่งของรัฐชาติ และการเป็นเครื่องจักรสงคราม บทนี้อ่านยากอีกแล้ว เพราะคอนเซปท์ของเดอเลิซไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แถมยัง Radical สุด ๆ
บทที่ 5 ว่าด้วยเรื่องมโนทัศน์ Demokratos (demos+kratos) ซึ่งผู้เขียนนำเสนอประชาธิปไตยรูปแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากประชาธิปไตยแบบ Democracy หรือประชาธิปไตยที่เราเข้าใจกันอยู่ทุกวันนี้ เผยให้เห็นความบกพร่อง ความไม่เท่าเทียมภายใต้ความเท่าเทียมของ Democracy ผ่านมโนทัศน์สำคัญของ ฌาคส์ ร็องซีแยร์ ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่า demos และ kratos
บทที่ 6 คือการพูดถึงความเป็นไปได้ของมโนทัศน์ Demokratos ที่จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาในวงวิชาการหลังอาณานิคมศึกษา
โดยรวมแล้วหนังสือเล่มนี้ต้องปืนหอคอยงาช้างขึ้นไปอ่านอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานงานวิชาการมาบ้างแล้ว แต่จุดยืนของหนังสือเล่มนี้คือการต่อต้านฉันทามติอย่างถึงที่สุด ทำให้บางคนที่รักประชาธิปไตย (แบบทุกวันนี้) อาจจะไม่อินสักเท่าไหร่
Displaying 1 - 2 of 2 reviews