ดินสอ สีไม้1,070 reviews178 followersFollowFollowFebruary 22, 2018หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีจริงๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งค้นพบว่าดีน่าเสียดาย (ที่เราอาจจะคิดไปเองว่า)สำนักพิมพ์ผีเสื้อมีภาพลักษณ์เป็นสำนักพิมพ์สำหรับเด็กและผู้ใหญ่กระโดดข้ามช่วงวัยคาบเกี่ยวอย่างวัยรุ่นไปทั้งๆ ที่หนังสือเล่มนี้เหมาะกับเด็กวัยรุ่นอันเป็นวัยที่แสวงหาตัวเอง ค้นหาคุณค่าในตัวเอง ค้นหาคำตอบของความดี ฯลฯซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ผู้เขียนเฝ้าถามและตอบตัวเองในบันทึกเล่มนี้เช่นเดียวกันกับวัยรุ่นคนอื่นๆ อีกมากมายแม้จะฟังดูชวนเครียด แต่หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านสนุกค่ะผู้ใหญ่อย่างเรา อ่านไปแล้วก็ยังขบคิดไปตามที่น้องเขียนด้วยอยากแนะนำให้อ่าน และแนะนำเป็นพิเศษสำหรับวัยรุ่นค่ะ2018 thai
Guts153 reviews27 followersFollowFollowApril 8, 2016"จนกว่า เด็กปิดตา จะโต" เป็นหนังสือที่ทุกๆคนควรได้อ่านเพื่อให้เข้าใจว่าชีวิตของคนตาบอดเป็นอย่างไร เนื่องจากเป็นบันทึกชีวิตประจำวันของผู้พิการทางสายตา เราจึงได้เห็นชีวิตของคนกลุ่มนี้ที่ไม่เหมือนกับสื่อกระแสหลักชอบนำเสนอให้รู้สึกประทับใจ หรือถูกนำไปเป็นวัตถุให้กำลังใจที่เรียกกันว่า inspiration porn หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ความเป็นคนของผู้เขียน มาก่อนความพิการทางสายตา เราจะได้เห็นแง่มุมชีวิตต่างๆที่ไม่ต่างจากชีวิตของคนที่มองเห็นได้ มีความทุกข์จากความขัดแย้งระหว่างคนในบ้าน ความกดดันจากการเรียนการสอบ การดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีความแตกต่างอยู่ ว่าคนที่มองไม่เห็นมีการใช้ชีวิต หรือเจอปัญหายังไง หรือแก้ปัญหาสิ่งเหล่านี้ยังไงบ้าง และทำให้เราเข้าใจว่าสังคมไทยตอนนี้นั้นยังมีความไม่เท่าเทียมเกิดขึ้นและทำให้ผู้พิการทางสายตาต้องประสบปัญหาการใช้ชีวิตอยู่ คุณสโรชาเขียนได้ดีมาก อ่านได้โดยไม่รู้สึกว่าเบื่อเลย มีอยู่หลายครั้งที่ข้อความที่เธอเขียนสวยงามและน่าประทับใจจนทำให้เราต้องหยุดพักและใช้เวลาซึมซับไปกับมัน รูปภาพประกอบที่เธอวาดเองนั้นเมื่อเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากอ่านประสบการณ์การวาดรูปของคุณสโรชา ว่าตอนวาดมีวิธีการอย่างไร ฝึกฝนอย่างไร และรู้สึกอย่างไรกับการวาด น่าเสียดายที่ส่วนตัวคิดว่าราคาต่อเล่มยังสูงเกินไป หากทางสำนักพิมพ์สามารถพิมพ์หนังสือเล่มนี้ในรูปแบบที่ราคาสามารถเข้าถึงได้มากกว่านี้ น่าจะมีประโยชน์ เพราะ ณ ปัจจุบันนี้หลายๆคนยังไม่ทราบเลยว่าผู้พิการทางสายตาสามารถใช้คอมพิวเตอร์และใช้บริการ social network ต่างๆได้แล้ว อยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้วงการหนังสือไทยกล้าพิมพ์ สนับสนุน หรือขวนขวายตามหานักเขียนที่มาจากกลุ่มที่หลากหลาย และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้พิการทางสายตาคนอื่นๆได้เขียนหนังสือเล่าประสบการณ์ของตัวเองออกมา หรือเล่าเรื่องราวที่ตัวเองอยากเล่า
Tiabtawan Limjittrakorn121 reviews33 followersFollowFollowMarch 8, 2016ที่คนเคยบอกว่าพอเราเสียประสาทสัมผัสไปอย่างนึง เราจะได้ความสามารถเพิ่มในประสาทสัมผัสส่วนอื่น น้องพลอยได้พลังในการสังเกตความรู้สึกคนรอบข้างไป จนกลายเป็นบันทึกเล่มนี้ ที่บันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องเอง เพื่อน ครอบครัว อย่างละเอียด สวยงาม ไม่ฟูมฟาย ในบันทึกไม่มีสักประโยคที่โทษโชคชะตาที่ทำให้เธอมองไม่เห็น และส่วนที่ชอบที่สุดของหนังสือเล่มนี้คือ ทุกวันท้ายบันทึกจะมี "ประโยคคิดเอง" ที่เขียนทิ้งไว้ แต่ละอันดีมาก เป็นประโยคที่สรุปความคิดบางอย่างในวันนั้นได้เฉียบคมเกินเด็กน้องพลอย สโรชา เป็นเด็กพิการดวงตา ที่เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ระหว่างการเรียนที่อักษร จุฬาฯ อยากให้ลองเปิดตาอ่านเรื่องของเด็กปิดตาคนนี้ดูกัน
Look A Breathe117 reviews7 followersFollowFollowAugust 1, 2022#387 จนกว่าเด็กปิดตาจะโตรูปภาพนี้ หนังสือที่ผลิตโดยสำนักพิมพ์ผีเสื้อ“จะล้มเลิกหรือพยายามต่อไปผู้ตัดสินใจ คือ เรา”(หน้า ๓๔๖)“บันทึกนี้ ชีวิต สโรชาสนุกกว่า คือมอง มาด้วยใจเราเห็นว่า สุขไหน สุขของใครเพียงมองใหม่ มองโลก ให้สวยงาม” เราดองหนังสือเล่มนี้ไว้ในกองนานมาก เพราะเราคิดว่า คงเป็นหนังสือแนวปรัชญาและชีวิตตามสไตล์ผีเสื้ออีก ซึ่งเรารู้สึกว่า พอสักที ช่วงนี้ ชีวิตเราอ่านพวกนักปราชญ์จนเอียนเลย“หากเป็นนักปราชญ์รอราษฎรกล่าวขานไม่ต้องให้ใครมาไขลานทำตามม่านเป็นปราชญ์อยู่ร่ำไปชีวิตจริงไม่ได้เป็นปราชญ์ไซร้เป็นเพียงได้ลมปากตามพาทีชีวิตเดินตามครรลองที่คนกล่าวมีนั้นเป็นปราชญ์แค่วาจา”รูปภาพนี้ แอบบี้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วสุขใจจังจนต้องเอียงคอด้วยความคิดที่ว่าทำไม ผมเป็นหมีที่เก่งขนาดนี้ (เกี่ยวไหมอะ) แต่พอเราอ่าน เรื่องราวกลับไม่ใช่เป็นแบบนี้นี่นะ หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกเรื่องราวของคุณพลอย สโรชา สนุก และดีกว่าที่คิด คือ เหมือนกับเราเดินเข้าไปในชีวิตของคุณสโรชาเลย“ทุกคนพร้อมไหมที่จะบันทึกเรื่องราวของตัวเองลงสมุดดูบ้าง”รูปภาพนี้ บันทึกชีวิตประจำวัน บันทึกเล่มนี้เป็นการบันทึกเรื่องราวของคุณพลอยว่า แต่ละวันเรียนอะไรบ้าง เจอเหตุการณ์อะไร ใช้ชีวิตแบบไหน ในแต่ละวัน และเธอมีความรู้สึกอย่างไรต่อเหตุการณ์นั้น เธอพยายามแค่ไหนในการทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จ อย่างเช่น เธอพยายามที่เลิกเขียนคำว่า “แบบ” เพราะครูสอนเธอในขณะที่เธอฝึกหัดเป็นบรรณาธิการ เป็นต้น เมื่อเราอ่านจบในบันทึกของแต่ละวัน จะมีประโยคที่จบท้ายบันทึกในแต่ละวัน ซึ่งเป็นข้อคิดที่ได้รับในแต่ละวันว่า คุณพลอยได้ข้อคิดอะไรจากเหตุการณ์เหล่านี้ นั้นก็คือ ประโยคคิดเอง อย่างเช่น ความผิดไม่อาจแก้ไขด้วยการกล่าวโทษ (หน้า ๓๐๗) เป็นต้น และหลังจากประโยคคิดเอง เป็นถ้อยคำไม่เข้าท่า ที่คุณสโรชาคิดว่า คนเราไม่น่าทำเรื่องพวกนี้เลย หรือไม่น่าคิดอะไรแบบนี้เลย อย่างเช่น ฉันมันไร้ค่า (หน้า ๒๙๓) เพราะทุกคนถ้ามัวแต่โทษตัวเองว่า ไร้ค่า แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ก็มีแต่เราทุกข์ใจตัวเองเท่านั้นรูปภาพนี้ ดอกไม้ที่ค่อยๆโผล่ขึ้นมา และสุดท้ายก็จะปิดเรื่องราวบันทึกของคุณสโรชา แต่สำหรับเรากลับคิดว่า แค่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตเท่านั้น เพราะชีวิตของคุณสโรชาคงจะดำเนินต่อไปในความสวยงามและมองโลกตามความจริงอีกต่อไป เกร็ดเล็กผสมน้อยรูปภาพนี้ หลายทางในสุขเดียว ทุกเหตุการณ์พิสูจน์การมองโลกในแง่ดีและการมองโลกตามความเป็นจริงของคุณสโรชาว่า ถึงแม้น้องเขามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น น้องเขาค่อยๆคิดและแก้ไขปัญหาให้ได้ น้องเขาไม่ได้บอกนะว่า ทางแก้ไขปัญหาของน้องเขาถูกต้องหรือได้ผลดีมากจริงๆหรือเปล่า แต่สำหรับคนอ่านอย่างเรา ทางแก้ไขดีสุดในวันนั้นและเวลานั้นล่ะ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทำให้เราคิดได้ด้วยว่า เราควรต้องนำทางเหล่านี้ไปปรับใช้กับความคิดเรารูปภาพนี้ หลังปกหนังสือจนกว่าเด็กปิดตาจะโต“จงฟังหัวใจตัวเอง และพบทางออกที่ดีสุด”Look A Breathe
Klin กลินท์230 reviews15 followersFollowFollowReadMay 18, 2020ฉันโชคดีที่มีชีวิตขณะปิดตา, น.359I จนกว่า I เด็กปิดตา I จะโต สุดสายตาของ “พลอย สโรชา กิตติสิริพันธุ์” ซึ่งเธออยู่ระหว่างการหาคำตอบและกำลังบันทึกให้กับชีวิตเช่นเดียวกันตั้งแต่วันศุกร์ 1 พฤศจิกายน 2556 ถึงวันพฤหัสบดี 17 กันยายน 2558เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่แล้ว ข้าพเจ้าพบเจอกับหนังสือเล่มนี้ ณ ร้านหนังสืออิสระแห่งหนึ่ง ปกหลังเขียนไว้ว่า ผลงานของนักเขียนผู้ดวงตาพิการ ข้าพเจ้ายิ้มเล็ก ๆ และนี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่จะได้อ่านหนังสือจากนักเขียนผู้ดวงตาพิการ จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ? แต่ดวงใจตนเองนั้นตื่นเต้นเล็ก ๆ “ฉันเขียนทุกอย่างที่อยากเขียนแต่ละวันเอาไว้ในบันทึกหมดแล้ว ในฐานะเด็กและผู้ดวงตาพิการคนหนึ่ง หากบันทึกเล่มนี้จะทำให้โลกแห่งผู้ใหญ่กับเด็ก ผู้ปกติกับผู้พิการ ขยายกว้างออกอีกสักนิด เชื่อมต่อกลมกลืนกันอีกสักหน่อย แม้เพียงเศษเสี้ยวแห่งความรู้สึก หรือเพียงชั่วขณะหนึ่งแห่งกาลเวลา สำหรับฉันถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์และนับว่าน่ายินดีเหลือเกินแล้ว” ในคำนำผู้เขียน, น.23งานชิ้นนี้ I จนกว่า I เด็กปิดตา I จะโต เป็นการเขียนบันทึกชีวิตประจำวันไล่เรียงไปเรื่อย ๆ ตามที่ได้มีการบันทึกไว้ ทำให้ข้าพเจ้านึกย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้วถึงสมุดบันทึกของตนเองและการแลกอ่านสมุดบันทึกกับเพื่อนเพื่อดูว่าในแต่ละวันที่เรามีการบันทึกในวันเดียวกันนั้นแต่ละคนทำอะไร มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง คิดต่อสิ่งต่าง ๆ แบบไหน รู้สึกอย่างไร และมีสิ่งใด ๆ ที่ตรงกันบ้าง นั่งหัวเราะ อมยิ้มไปพร้อม ๆ กัน และนี่เหมือนได้แลกอ่านสมุดบันทึกกับพลอยI จนกว่า I เด็กปิดตา I จะโต อาจจะทำให้ใครบางคนซึ่งได้เติบโตกันมานั้นได้กลับไปทบทวน ๆ กับบางสิ่งบางอย่างของเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ผ่านบันทึกประจำวันของพลอย ซึ่งอาจจะมีเรื่องที่คิดตรงกันหรือไม่ตรงกัน แม้ว่าบางเรื่องนั้นบางคนอาจจะลืมเลือนหรือได้ผ่านสิ่งนั้นมาแล้ว หรือบางคนยังคงอยู่ในวังวนของสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นอยู่เช่นเดิมก็ตามแต่ สำหรับข้าพเจ้าเหมือนได้ย้อนกลับไปในวันที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน รวมทั้งกับบางสิ่งบางเรื่องนั้นได้เลิกตั้งคำถามมานานแสนนานเพราะได้พบกับคำตอบของตนเองเรียบร้อยแล้ว ประโยคคิดเอง : “เรา คือ ผู้ให้ความหมายแห่งชีวิตเราเอง” ,น.212ถ้อยคำไม่เข้าท่า : “เดี๋ยวก่อน” ,น.119อ่านหมายเลข 11 ลองหาอ่านดูครับ #จนกว่าเด็กปิดตาจะโต #พลอย #สโรชากิตติสิริพันธุ์ #ณอ่านTheReader ณ อ่าน The Reader- The Klin Library
Eva5 reviewsFollowFollowFebruary 28, 2020น่ารัก อบอุ่น เข้าใจผู้พิการดวงตามากขึ้น และเข้าใจว่าทำไมถึงไม่ควรใช้คำว่าตาบอด
nisnaan Reader40 reviews12 followersFollowFollowNovember 27, 2019พลอยเป็นเด็กมองโลกในแง่ดีโดยแท้จริง เราเป็นครูที่รณรงค์ให้นักเรียนจดบันทึกอยู่แล้ว และยิ่งได้อ่านความคิด การดำเนินไปของชีวิตในแต่ละวัน บวกกับการแสดงความคิดเห็นหรือทัศนะต่อมิติต่างๆของเหตุการณ์ในชีวิตที่พลอยพบเจอ ยิ่งทำให้รู้สึกดีกับการเขียนบันทึกมากขึ้นไปอีกช่วงแรกของบันทึกจะดำเนินไปอย่างเนิบช้า พอเริ่มกลางเล่มมุมมองการตีความเหตุการณ์ต่างๆของพลอยค่อยๆชัดขึ้นชัดขึ้นจนเราอดทึ่งกับวิธีที่พ่อแม่เลี้ยงพลอยมาไม่ได้ พลอยจ๋า ถ้าน้องอ่านคอนเม้นท์นี้อยู่ พี่อยากบอกพลอยว่าน้องเก่งมาก พี่สัมผัสได้ว่าน้องเลี่ยงที่จะไม่เขียนให้ใครก็ตามที่น้องพูดถึงเสื่อมเสีย น้องไม่ลงรายละเอียดนอกจากเพียงถอดบทเรียนที่น้องเจอมาบอกต่อ และไม่ว่าน้องจะเจออะไรข้างหน้า พลอยจะผ่านไปได้ ตัวพลอยและตัวหนังสือของน้องจะอยู่เป็นพลังให้คนเปิดตาที่ล้มข้างหลังแน่นอน ♥️