Jump to ratings and reviews
Rate this book

少年探偵 #8

怪奇四十面相

Rate this book
江戸川乱歩の代表作明智小五郎シリーズ。

獄中の二十面相は世間で自分が二十面相と呼ばれているのを不満に持ち、自分は少なくともその二倍の顔を持っているから、これからは四十面相と呼ぶことを求める新聞広告を出す。
そして、四十面相は新聞広告で脱獄宣言と新たな犯行予告を提示する・・・

著者
江戸川 乱歩(えどがわ らんぽ、旧字体:江戶川 亂步、男性、1894年(明治27年)10月21日 - 1965年(昭和40年)7月28日)は、大正から昭和期にかけて主に推理小説を得意とした小説家・推理作家である。また、戦後は推理小説専門の評論家としても健筆を揮った。実際に探偵として、岩井三郎探偵事務所(ミリオン資料サービス)に勤務していた経歴を持つ。
本名は平井 太郎(ひらい たろう)。日本推理作家協会初代理事長。位階は正五位。勲等は勲三等。
ペンネーム(江戸川乱歩)はアメリカの作家、エドガー・アラン・ポーに由来する。(出典:Wikipedia)

ebook

First published January 1, 1952

1 person is currently reading
23 people want to read

About the author

Edogawa Rampo

915 books1,050 followers
Hirai Tarō (平井 太郎), better known by the pseudonym Rampo Edogawa ( 江戸川 乱歩), sometimes romanized as "Ranpo Edogawa", was a Japanese author and critic who played a major role in the development of Japanese mystery fiction.

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
2 (15%)
4 stars
2 (15%)
3 stars
8 (61%)
2 stars
1 (7%)
1 star
0 (0%)
Displaying 1 - 6 of 6 reviews
Profile Image for ณัฐพันธุ์ บุญเลิศ.
Author 5 books11 followers
May 17, 2020
ชอบอ่านงานของเอโดงาวะ รัมโป งานเขียนของรัมโปมีเสน่ห์ชวนพิศวงไปกับเรื่องราวความหมกมุ่น ตัณหาวิปริต จิตวิปลาสของมนุษย์ งานของรัมโปวางรากฐานให้แก่แวดวงนิยายสยองขวัญ ฆาตกรรม สืบสวนของญี่ปุ่น งานของรัมโปแม้จะมีเนื้อหาที่ดาร์คสยิว แต่กลับอ่านง่ายด้วยลีลาการเล่าเรื่องแบบมีลูกล่อลูกชน ชวนให้ผู้อ่านลุ้นด้วยใจระทึกว่าเหตุการณ์จะสวิงสวายลงในบั้นปลายอย่างไร
.
งานของรัมโปอาจแบ่งได้เป็น 3 หมวดใหญ่ ๆ 1. เรื่องสั้น-นิยายที่มีเนื้อหาเป็นเอกเทศจบในเล่มในตอน เข้าทำนองหนังชุด standalone 2. ชุดคดีปริศนาของยอดนักสืบอาเคจิ โคโกโร่ ซึ่งมีตั้งแต่นิยาย-เรื่องสั้น อาเคจิ โคโกโร่ เป็นนักสืบเพชรน้ำเอกแห่งแวดวงวรรณกรรมญี่ปุ่น เคียงคู่มากับคินดะอิจิ โคสุเกะ ทว่าคดีของอาเคจิ จะกระเดียดไปทางแฟนตาซีมากกว่า มีความตลกร้ายยียวนที่ไม่เน้นความสมจริง แต่พึ่งพิงรายละเอียดตัวละคร และพฤติกรรมแซบสยิว และบรรยากาศประหลาดล้ำเหลือ 3. คือชุดเจ้าหนูนักสืบไขคดีพิศวง (ชื่อภาษาญี่ปุ่น Shōnen tantei dan ภาษาอังกฤษ The Boy Detectives Club) ตีพิมพ์ครั้งแรกในเป็นตอน ๆ ลงในนิตยสารรายเดือนสำหรับเด็กผู้ชาย Shōnen Kurabu ตั้งแต่ปี 1936 เป็นเรื่องการผจญภัยของเด็กชายโคบายาชิ หนูน้อยสมองเพชร หัวหน้าชมรมนักสืบเยาวชน การรวมกลุ่มชองเด็กชายผู้รักการผจญภัยร่วมไขคดีปริศนา ด้วยความฉลาดหลักแหลมทำให้โคบายาชิกลายมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของยอดนักสืบอาเคจิ (ที่ crossover มาเป็นตัวละครในเรื่องด้วย) โดยซีรีส์ชุดนี้มีศัตรูหลักคือ จอมโจรยี่สิบหน้า บุรุษลึกลับผู้เป็นอัจฉริยะด้านการปลอมตัวคู่ปรับคนสำคัญของนักสืบหนุ่ม และเจ้าหนู ซีรีส์ชุดนี้มีทั้งหมด 26 เล่ม ถ่ายทอดการต่อสู้ระหว่างฝั่งนักสืบ และจอมโจร แต่ผู้อ่านสามารถอ่านแยกแบบไม่เรียงลำดับได้ เพราะแต่ละเล่มก็จะมีเส้นเรื่องหลักในตัวมันเอง (มีแปลไทยทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกกับสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) 6 เล่ม โดยใช้ชื่อว่า "ชุดแก๊งค์จิ๋วเจาะคดี" ปัจจุบันสนพ. JClass-สำนักพิมพ์เจคลาส นำมาแปลต่ออีก 5 เล่ม และมีแผนจะนำ 6 เล่มแรกมาตีพิมพ์ใหม่ พร้อมกับเล่มที่เหลือ (อ้างอิงจากคำนำในเล่ม)
.
หนังสือเรื่อง "จอมโจรสี่สิบหน้ากับปริศนาหัวกะโหลก" เป็นนิยายเล่มที่ 8 ในชุดเจ้าหนูนักสืบไขคดีพิศวง โดยเรื่องจะเริ่มจากเหตุการณ์ตอนท้ายจากเล่มก่อนที่ว่าจอมโจรยี่สิบหน้าถูกจับเข้าคุก ก่อนที่มันจะใช้กลเม็ดเด็ดพรายประกาศออกสื่อว่าจะแหกคุกออกมา พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นจอมโจรสี่สิบหน้า ยกกำลังให้รู้ว่ากูยิ่งใหญ่เกินกว่าจะมีแค่ยี่สิบหน้า!? ยัง ยังไม่พอ มันยังประกาศอีกว่าจะก่อปฏิบัติการลับที่เกี่ยวข้องกับ "หัวกะโหลกทองคำ" อีก.... นี่จึงเป็นงานหนักของนักสืบโคโกโร่ และหนูน้อยโคบายาชิ ที่จะต้องยับยั้งแผนการชั่วร้ายให้จงได้ ทั้งแผนแหกคุกสุดอหังการ์ รวมถึงไขปริศนาเรื่องหัวกะโหลกทองคำให้ได้ก่อนที่จอมวายร้ายจะจัดการสำเร็จ
.
ด้วยความที่ปกติงานของรัมโปจะมีความไหลลื่นในการเล่าอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว พอเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่เน้นเจาะกลุ่มผู้อ่านเยาวชน การดำเนินเรื่องยิ่งรวดเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว รัมโปไม่เสียเวลาในการก่อร่างสร้างบรรยากาศ พรรณนาอะไรที่ไม่จำเป็น หากแต่มุ่งทะลุไปข้างหน้าไม่ยั้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยความที่แรกเริ่มนิยายชุดนี้ถูกเขียนลงในนิตยสารรายเดือน จึงทำให้ความยาวในแต่ละตอนมีขนาดสั้นกระชับ และแทบทุกตอนจะต้องเกิดเหตุการณ์ใหม่ ๆ หรือปริศนาทิ้งท้ายยั่วให้นักอ่านรุ่นเยาว์อยากอ่านต่อไปเรื่อย ๆ
.
อย่างไรก็ดีเรากลับพบว่าความยาวของเรื่อง เมื่อเป็นฉบับรวมเล่ม กลับค่อนข้างยาว และเยิ่นเย้อไปพอสมควร (ข้อมูลจากคำนำบอกว่านิยายเล่มนี้ใช้เวลาตีพิมพ์ในนิตยสารตั้งแต่มกราคม ถึงธันวาคมปี 1952) รัมโปเหมาะกับเรื่องสั้น เพราะเขาสามารถกำหนดทิศทาง และขยี้ประเด็นได้โดยไม่หลุดออกนอกกรอบจนเกินไป ในขณะที่พอเป็นเรื่องยาว เหมือนเขาต้องพยายามคิดหาเหตุการณ์ใหม่ ๆ โยนใส่ตลอดเวลาจนบางทีพออ่านไปก็รู้สึกได้ถึงความฟุ่มเฟื่อยของเนื้อหาที่ไม่จำเป็น ชนิดพออ่านจบก็สงสัยว่านี่กูอ่านหนังสือเล่มเดียวกับที่เปิดอ่านตอนแรกรึเปล่าวะ
.
แต่อย่างไรก็ดี รัมโปมีวิธีการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งสามารถตรึงคนเขียนไว้กับเรื่องได้ นั้นคือการพูดโต้ตอบหรือเย้าแหย่ผู้อ่าน นอกจากวิธีการเล่าเรื่องแบบบุคคลที่ 3 แบบที่นิยายทั่วไปใช้กัน (ที่ผู้เขียนจะบรรยายให้คนอ่านทราบเหตุการณ์ในฐานะคนนอก) รัมโปยังเล่นสนุกโต้ตอบกับคนอ่านอยู่เป็นระยะ เช่น "มาถึงตรงนี้แล้ว คงจะสงสัยล่ะสิว่าเจ้าหนูโคบายาชิจะหาทางแก้ปริศนายังไง ซึ่งต้องบอกเลยว่ามันเป็นกลวิธีที่แม้แต่อาเคจิก็คาดไม่ถึงทีเดียว" การเล่าแบบนี้ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนผู้เขียนกำลังสนทนาอยู่กับตัวเอง คอยดึงความสนใจให้จดจ่อ ลุ้นไปกับเรื่องได้ หรือในบางขณะก็ยั่วเย้าให้คนอ่านอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวต่อด้วยการเกริ่นถึงเหตุการณ์ในอนาคตแพล่มพรายไว้ เช่น "การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้เกิดเรื่องพลิกพลันเกินคาดอันเป็นสาเหตุให้ xxx ต้องประสบเหตุการณ์น่าเศร้า ซึ่งเราจะได้รู้กันในไม่ช้า"
.
ด้วยความที่นิยายเล่มนี้เจาะกลุ่มผู้อ่านเยาวชน การดำเนินเรื่อง รวมถึงทริคระหว่างตัวเอกกับคนร้ายจึงไม่เน้นความสมจริง แต่เปิดพื้นที่ให้จินตนาการความช่างคิดอย่างเต็มที่ ซึ่งกลายเป็นดาบสองคม ในแง่ดีคือมันชวนเพลิดเพลินสุดแสนแฟนตาซีแบบ "คิดได้ไงเนี้ย!" แต่ในแง่ร้าย ถ้าคุณไม่ยอมปรับคลื่นความถี่ทางสมองก่อนอ่าน คงรู้สึกได้ว่านิยายมันช่างเลอะเทอะ มั่วมึน ประหนึ่งรัมโปดมสายระเหยขณะจรดปากกาแต่ง หลายต่อหลายเหตุการณ์เข้าขั้นโม้แหลกลาญชนิดศรีธนญชัยยังต้องขอกราบกราน
.
ยกตัวอย่างฉากสองฉากที่ทำเราอึ้ง
ในขณะที่หนูน้อยโคบายาชิกำลังวิ่งไล่กวดจอมโจรสี่สิบหน้าเลี้ยวเข้ามาในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง จู่ ๆ จอมโจรก็หายตัวไปอย่างปริศนา หนูน้อยไม่พบร่องรอยวายร้ายที่ตามล่า จึงต้องล้มเลิกการตามหาไปในที่สุด แต่ใครจะรู้ว่าจริง ๆ จอมโจรซ่อนกายอยู่ตรงหน้าเขา ด้วยการสวมชุดคลุมพิเศษที่ออกแบบมาให้เหมือนตู้ไปรษณีย์ แล้วยืนอำพรางตัวอยู่ข้างหน้านั้นเอง (แม่ง ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริง ๆ)
.
หรืออีกฉากนึงที่จอมโจรหนีการตามล่าของตำรวจขึ้นไปบนหอคอย ในขณะที่กำลังจนมุมบนดาดฟ้า จอมวายร้ายก็หาทางหนีด้วยการโดดเกาะบอลลูนโฆษณา แล้วลอยหนีไปในท้องฟ้ายามรัตติกาล อีห่าาา ถ้าคิดว่านี่หักมุมแล้ว ยัง ยัง ไม่จบ จริง ๆ ที่เห็นว่าจอมโจรลอยหนีไป คือหุ่นจำลองที่นางพกไว้ล่อตำรวจ ในขณะที่ตัวจริงก็ยังหลบอยู่ในตึกนี่แหละ เรียกว่าแผนการเบี่ยงเบนความสนใจระดับมหากาฬจริง ๆ
.
เรียกได้ว่าหนังสือชุดนี้ทำให้ หนังโม้หลอกเด็กอย่าง Spy Kids กลายเป็นหนังสารคดีสมจริงไปเลยทีเดียว ใครที่คิดว่าชอบสองฉากนี้ รับอะไรพวกนี้ได้ ยินดีด้วยหนังสือเล่มนี้เหมาะกับคุณแน่นอน
.
และแน่นอนด้วยควา���เป็นหนังสือเด็ก มันจึงไม่มีความรุนแรง และความวิปลาสบาดจิตยั่วเพศอันเป็นลายเซ็นของรัมโป แม้แต่ในฉากที่ตัวร้ายสามารถฆ่าตัวละค��เอกได้ แต่ก็ไม่ยอมทำบาปเช่นนั้นเด็ดขาด ด้วยยึดว่าอุดมการณ์ตัวเองคือการขโมยของ ไม่ใช่การฆ่าคน (ซึ่งถ้าเป็นนิยายผู้ใหญ่ของรัมโป หรือนิยายคินดะอิจิ เด็กอาจถูกฆ่าปาดคอเสียบประจานทางสามแพร่งไปแล้ว) พ่อแม่ผู้ปกครองจึงสามารถซื้อให้ลูกน้อยของท่านอ่านได้โดยสบายใจ ปลอดสารพิษมอมเมายั่วยุความรุนแรง
.
คุณจะชอบนิยายเล่มนี้ ถ้าคุณชอบ: โคนัน ตอนที่มีชมรมนักสืบเยาวชน, โคนัน ตอนที่มีจอมโจรคิดส์, คุณเป็นผู้ปกครองที่กำลังมองหานิยายสืบสวนสนุก ๆ ให้ลูกวัยประถมอ่าน, จงหลีกเลี่ยงหนังสือเล่มนี้ ถ้าคุณต้องการอ่านนิยายนักสืบที่มีเนื้อหาจริงจัง ทริคสมจริง การกระทำตัวละครมีตรรกะรองรับ สมองคุณจะพังพาบให้กับนิยายชุดนี้
.
สำหรับเรา ก็อ่านได้เพลิน ๆ แต่ก็ไม่รู้สึกกระเหี้ยนกระหือรืออยากหาเล่มใหม่มาอ่านต่อ แต่ถ้าไม่มีไรเหลือให้อ่านแล้ว ก็ไม่เลวร้ายที่จะเอามาอ่านฆ่าเวลา
Profile Image for J.
217 reviews25 followers
October 30, 2021
ทุกๆครั้งที่อ่านงานเขียนของ Edogawa Rampo จบ อย่างแรกที่เข้ามาในหัวคือ 'อ่านง่ายมาก' เป็นนิยายสืบสวนที่ไม่เน้นภาษาสละสลวย แต่เน้นความสั้น กระชับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย คนอ่านคิดตามได้ง่าย และถ้ามองลึกกว่านี้ นี่คือนิยายสืบสวนที่วางเค้าโครงเรื่องและเขียนขึ้นเมื่อปี 1952 (อ้างอิงจากใน Goodread)

มันว้าวนะ

ทั้งโครงเรื่อง ทั้งการดำเนินเรื่องหรือภาษาที่ใช้ ไม่มีตรงไหนที่ติดขัดหรืออ่านแล้วรู้สึกทะแม่งเลยแม้แต่น้อย ชอบตรงที่เราได้อ่าน 'เนื้อ' มากกว่า 'น้ำ' ได้อ่านเนื้อเรื่องจริงๆ เข้าถึงจุดแต่ละจุดจริงๆ ไม่ใช่ภาษาที่ด้นมาเพื่อความสวยงาม อ้อมแล้วอ้อมอีก อ้อมจนตามไม่ทัน อ้อมจนงงไปหมดเหมือนนิยายสืบสวนบางเรื่องหรือบางเล่ม

สำหรับ 'จอมโจรสี่สิบหน้ากับปริศนาหัวกะโหลก' เล่มนี้ เนื้อเรื่องอาจไม่ได้สนุก หวือหวาหรือมีจุดพีคมากนัก (เลยให้ 3 ดาว) แต่การหลอกล่อและความสลับซับซ้อนของเนื้อเรื่อง ก็ทำให้เราจนปัญญาที่จะคิดให้ออกว่า 'ใครกันแน่คือจอมโจรสี่สิบหน้า' และสารภาพตรงนี้ว่านี่ก็เดาไว้ (และมั่นใจว่าต้องใช้แน่ๆ) แต่สุดท้าย...ก็เดาผิดจนได้

ซีรีส์ 'เจ้าหนูนักสืบไขคดีพิศวง'
เป็นซีรีส์นิยายสืบสวนอีกซีรีส์ที่ยังไงก็ต้องอ่านและต้องอ่านให้ครบทุกเล่ม
(รวมถึงงานเขียนเล่มอื่นๆและซีรีส์อื่นๆของรัมโปะด้วย)
Profile Image for KunPunnawat.
95 reviews2 followers
February 12, 2020
มารอบนี้จะออกแนว Indiana Jones ตามล่าหาสมบัติ
ความยากคดีไมไ่ด้ซับซ้อนอะไร อ่านง่าย สบาย สนุก
Profile Image for Angel 一匹狼.
997 reviews63 followers
January 26, 2018
Another of Edogawa's "Boy Detectives Club" books, "怪奇四十面相" is, sadly, one of his poorest efforts, a novel that feels like an assignment instead of a work of love.

We, again, have the 'very scary' 20-faces guy as the big bad enemy of the story. In the best moment of the whole novel, he succeeds again in a daring escape from prison. This start is fun, full of energy and all of Edogawa's trademarks and seems to tease a very enjoyable story to come.

However, after that we get the constant tiki-taka between 'The Fiend with Twenty Faces' and Kobayashi-kun, one trying to outwit the other. In other cases this has offered some amazing moments and shown the incredible imagination of Edogawa, but here it feels old and stale, as if he just couldn't wait to get to the end and finish with the story. It still offers a couple of surprising plot developments, but in general, it is a weak effort, with little mystery or excitement.

Edogawa could, and did, better.

6/10

(Original Japanese Version)
Profile Image for Le.
202 reviews2 followers
September 10, 2021
比二十面相算起来是一个更完整的故事。
Profile Image for Iggyizzy2000.
195 reviews10 followers
July 27, 2018
เนื่องจากเนื้อหามีไม่มากอะไรเพียง 200 หน้า
ขอพูดถึงคร่าวๆว่าเรื่องนี้ก็ยังดำเนินเรื่องรวดเร็ว
แบ่งเป็น 3 ฉับ
ฉับแรกการหลบหนีก็จะใส่ทริกการหลบหนีของตัวร้าย
ฉับสองการไล่ล่าอันนี้เป็นการชิงไหวชิงพริบกันระหว่างทีมนักสืบ กับ เจ้าจอมโจร
ฉับสุดท้ายถึงเป็นการมุดถ้ำเพื่อหาปริศนาลึกลับ
ที่ใช้คำว่าฉับเพราะเนื้อเรื่องกระโดดไปข้างหน้าอย่างเร็วมาก
ทริคในเรื่องออกจะเป็นการ์ตูนไปหน่อยจึงไม่เหมาะกับนักอ่านนิยายนักสืบสายเข้มข้น
อ่านช่วงแรกๆนึกถึงการ์ตูนมากๆ
ช่วงกลางเริ่มเข้มข้นตามด้วยช่วงสุดท้ายที่ต้องพลิกหน้าไปมาเพราะงงกับทริคที่ใช้ระหว่างพวกพระเอกกับพวกตัวร้าย
Displaying 1 - 6 of 6 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.