Kin510 reviews164 followersFollowFollowMay 12, 2018ในยุคที่เราอยากหาความเป็นผู้นำในตัวคนนู้นคนนี้ โดยเฉพาะตัวของเด็กๆ หนังสือเล่มนี้มีข้อดีมากอย่างหนึ่ง คือชี้ให้เราเห็นว่าคุณสมบัติของความเป็นผู้นำที่ดีมันซับซ้อนกว่าการพยายามออกคำสั่ง แบ่งงานให้คนอื่น แสดงตัวว่าเป็นหัวหน้า ยิ่งถ้าเราเชื่อเหมือนผู้เขียนด้วยว่า การเป็นผู้นำไม่ใช่คุณสมบัติติดตัวแต่กำเนิด แต่เป็นทักษะที่ฝึกฝนได้ ผู้นำที่ดีจึงไม่ใช่และไม่ควรเป็นคนที่สักแต่พูดให้คนอื่นฟัง เป็นคนที่มีบารมีและคนอื่นต้องคอยเดินตาม กลับกัน ผู้นำที่ดีควรเปิดกว้าง ตั้งใจฟัง ทำให้ดู และอยู่เพื่อคนอื่น สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เราควรมองหาในตัวเด็ก ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นได้ในระยะเวลาสั้นๆ และไม่ได้จบลงเมื่อใครคนนึงได้รับการเลือกให้เป็นหัวหน้า พูดอีกอย่าง สิ่งที่เราเป็นประโยชน์ต่อสังคมจริงๆ ไม่ใช่ 'ความเป็นผู้นำ' ห้วนๆ ที่สักแต่จะนำ ออกคำสั่ง และมีความเด็ดขาดในทุกมิติของชีวิต แต่เป็นความเป็นผู้นำ 'ที่เข้าท่า' คือหมายถึงการมองเห็น nuance ของงานและชีวิตของผู้ร่วมงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้คนรอบข้างอยากอยู่ด้วย
SrisurangAuthor 15 books153 followersFollowFollowApril 7, 2017ชอบมุมมองของผู้เขียนหลายอย่าง ตั้งแต่การตั้งต้นว่าจะเป็นหัวหน้าชนิดที่ดีที่สุด คือถ่อมตัว เห็นข้อด้อยของตัวเอง พร้อมจะพัฒนาตัวเองแม้ว่าจะอยู่สถานะสูงแล้ว และพร้อมรับผิดชอบแทนลูกน้องที่ทำพลาด คือตระหนักว่า ลูกน้องพลาดก็คือตัวเองพลาดด้วย คนแบบนี้จะหาได้น้อยการทำงานอย่างตั้งใจ เอาจริง ทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่สมัยเรียน คือมีความเพียรชั้นเลิศ ขยันมาก และไม่ยกตนข่มใคร เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองตลอด คิดว่าคนเขียนเป็นตัวเอย่างของบุคคลที่เก่ง ดี น่ายกย่องจริงๆ เรื่องประจำวันก็บอกเคล็ดลับด้วย เช่น ใครพูดอะไร ก็จด หรือใส่อีเมล์ไว้จะได้ไม่ลืมทักทายคนอื่นเสมอ หงุดหงิดก็หาไรทำเพื่อคลาย ถามลูกน้องว่ามีปัญหาอะไรมั้ยตลอด ฯลฯมันเริ่มแบบธรรมดาๆ แต่คนที่เป็นอย่างเขาได้นั้น ไม่ธรรมดาเลยขยันมาก เพียรมาก ช่างสังเกต จับตามองแล้วทำตามคนที่เป็นตัวอย่างที่ดี ท้าทายตัวเองเสมอๆ ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง มองเห็นความสามารถของคนอื่นและส่งเสริม จัดการกับคนแย่ๆ ได้อย่างสุภาพ เหมาะสม เด็ดขาดได้ถ้าจำเป็น วิเคราะห์แล้วคนแบบนี้หายากจริงๆ แหละ ถ้าทำตามอย่างที่เขาเขียนได้ก็คงจะดี (แต่ข้อสำคัญมันอยู่ที่ว่า การพัฒนาตัวเองให้ได้ตามบุคคลตัวอย่างนั้นมันทำไม่ได้ง่ายๆ น่ะสิ)how-to japanese-book
Clairdenoon1,952 reviews391 followersFollowFollowSeptember 28, 2023บันทึกการอ่าน#51วิธีคิดของหัวหน้าที่ลูกน้องอยากทำงานด้วย#อิวาตะ มัตสึโอะ อดีตซีอีโอของStarbucks Coffee Japan-"เป็นลุงที่ดูธรรมดาสุดๆ"คือประโยคที่ผู้เขียนได้ยินคนพูดถึงตัวเอง -ภายใต้ความลุงธรรมดา~ผู้เขียนจบUCLA,เป็นCEO,เคยเป็นประธานบริษัทที่มีชื่อในตลาดหลักทรัพย์(เดอะบอดี้ช็อป,สตาร์บัคส์ และทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนั้นฯลฯ)ตั้งแต่อายุ40ต้นๆ ซึ่งกว่าจะมีประวัติการทำงานที่ดูสวยหรูแบบนี้ชีวิตการทำงานนั้นไม่ได้ราบรื่นเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ ผ่านบททดสอบและอุปสรรคมามากมาย ผู้เขียนจึงนำประสบการณ์ จิตวิทยา เคล็ดลับ วิธีคิดของหัวหน้าในการบริหารคน บริหารงานมาแชร์ พร้อมคำแนะนำต่างๆ---ตอนอ่านก็แบบ อืมมม ญี่ปุ้น ญี่ปุ่น~เป็นสไตล์คนญี่ปุ่น ที่อ่อนน้อมถ่อมตน และจริงจัง มุ่งมั่น โดยส่วนตัวคือชอบนะได้เห็นมุมมองของคนระดับหัวหน้าว่ามองผู้ใต้บังคับบัญชาแบบไหน การกระทำต่างๆมันมีหลักการที่ผ่านการคิดมาแล้ว มันมีอะไรที่ซับซ้อนกว่าที่เห็น และการเป็นหัวหน้าหรือภาวะผู้นำที่ลูกน้องรักใคร่เชื่อฟังอยากทำงานด้วยมันสามารถฝึกฝนกันได้ ไม่ต้องเพอร์เฟคเปี่ยมล้นด้วยบารมี แต่ต้องมีความอ่อนน้อมและempathy เป็นสำคัญ--ผู้เขียนบอกว่าหัวหน้าแบ่งเป็น5ระดับ หากอยากเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องอยากทำงานด้วย ควรพยายามเป็นหัวหน้าระดับที่ 5:ที่ อ่อนน้อมถ่อมตน ถนอมน้ำใจ เข้าใจความรู้สึกของคนที่กำลังเป็นทุกข์ เวลาจะทำอะไรต้องคำนึงถึงความรู้สึกคนอื่นก่อนและดีกับทุกคนให้ได้ก็พอแล้ว --หัวหน้าระดับที่5 ไม่จำเป็นต้องมีเสน่ห์หรือบารมีตรงกันข้ามพวกเขาเป็นหัวหน้าที่อ่อนน้อมถ่อมตนอย่างมาก ถ้างานไปได้สวยพวกเขาจะบอกว่า"เพราะโชคช่วย"หรือไม่ก็"เพราะลูกน้องทุกคนตั้งใจกันเต็มที่"แต่ถ้างานไม่ราบรื่นพวกเขาก็จะบอกว่า"ทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของผม"--- ไม่ต้องคิดว่าเรานี้แหละที่เหมาะจะเป็นหัวหน้าไม่ต้องจงใจแสดงออกให้คนอื่นเห็นว่าเราเหมาะสมขอเพียงพยายามขัดเกลาตัวเองไปเรื่อยๆตั้งใจอย่างไม่ย่อท้อและพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นแล้วคนรอบข้างจะสนับสนุนให้คุณได้เป็นหัวหน้าเอง---อำนาจมาพร้อมกับความรับผิดชอบ คนที่เอาชนะสิ่งยั่วยวน อันหอมหวานเท่านั้นที่จะคว้าตำแหน่งมาไว้ในมือได้ --หัวหน้าที่ดีไม่ได้มีอยู่แบบเดียว หัวหน้าที่ไม่มีเสน่ห์หรือบารมีก็สามารถเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องชื่นชมได้ คนเรา ไม่ได้เป็นหัวหน้าได้เพราะพยายามจะเป็นหัวหน้าแต่เป็นหัวหน้าได้เพราะคนรอบข้างสนับสนุน--การทำสิ่งที่ทำได้ในทันทีจะช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้น-- ถ้าเรื่องนั้นเป็นความท้าทายที่น่าจะมีประโยชน์ให้ลองทำดู ถ้ามีเรื่องที่ลังเลว่าควรจะทำหรือไม่คำตอบคือจงลองทำดูต้องกล้าที่จะทำเรื่องท้าทายอย่างมีสติ-- หัวหน้าต้องมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอว่าในระยะยาวแล้วจะดีขึ้นเวลาอยู่ต่อหน้าลูกน้องต้องยึดมั่นในความรู้สึกที่ว่าแม้จะมีโอกาสแค่ 1% แต่เราต้องทำได้อย่างแน่นอนไม่ต้องเป็นห่วงเลย--พูดอะไรไปให้เขียน นึกอะไรได้ให้เขียน--ต้องไม่กลัวที่จะกลับคำ ~ ตัวเราก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบทำไมถึง กล้าไปเคี่ยวเข็ญคนอื่นให้เขาทำอย่างที่ต้องการ-- จะขายอะไรเราต้องหัดมองในมุมของลูกค้าด้วย ~ อย่ายึดตัวเองเป็นหลักแต่คนคิดและต่อรองด้วยมุมมองของอีกฝ่ายด้วยเสมอไม่ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายซื้อหรือฝ่ายขายก็ตาม---จงเชื่อในตนเองแล้วพยายามต่อไป--- เวลาสับสนว่าเราอยู่ที่นี่เพื่ออะไรให้หวนกลับไประลึกถึงจุดเริ่มต้นที่เป็นต้นกำเนิดของการก่อตั้งกิจการขึ้นมาเสมอ---คนเป็นหัวหน้าต้องเตรียมใจที่จะถูกเกลียด~ เรื่องบางเรื่องนั้นต่อให้ต้องทำให้ใครโกรธหรือเกลียดเราก็ต้องตัดสินใจลงไปอยู่ดีจึงควรเตรียมใจไว้ล่วงหน้าว่าจะต้องเจอกับเรื่องทำนองนี้--- แนวคิดของสตาร์บัคคือเป็นบ้านหลังที่ 3 ของลูกค้า ซึ่งไม่ใช่บ้านหรือที่ทำงานแต่เป็นแหล่งพักพิงที่ให้ความรู้สึกสบายทางกายและใจ (1บ้าน-2ที่ทำงาน-3สตาบัค)---หลักการตั้งเป้าหมายหรือภารกิจด้วย--แนวคิ��แบบตัวเม่น(Hedgehog Concept)ของIsaiah Berlin เปรียบเทียบ หมาจิ้งจอกรอบรู้หลายเรื่อง เม่นรู้เพียงเรื่องเดียวแต่เป็นเรื่องใหญ่ๆเปรียบเหมือนคน 2 กลุ่มโดยที่กลุ่มหมาจิ้งจอกเป็นพวกที่มีเป้าหมายหลายอย่างในเวลาเดียวกันและมองโลกซับซ้อนแต่ไม่เคยบูรณาการและไม่มีวิสัยทัศน์ที่เป็นเอกภาพส่วนตัวเม่นคือพวกที่ทำเรื่องซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่ายด้วยความคิดที่เป็นระบบโดยวงกลม3วง :วงที่1- สิ่งที่รัก ที่มุ่งมั่นใฝ่ฝันอยากทำเป็นที่สุด//วงที่ 2 -สิ่งที่ถนัด ทำได้ดีกว่าใคร//วงที่ 3 -สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นซึ่งทำกำไรให้มากที่สุด===จุดที่เราควรทุ่มเทให้หรือภารกิจขององค์กร ก็คือจุดที่วงกลมทั้ง 3 มาซ้อนทับกัน เป็นการกำหนดภารกิจหรือเป้าหมายและกลยุทธ์ของตนบนพื้นฐานของความเข้าใจตนเองอย่าลึกซึ้ง-- หากตั้งเป้าหมายแค่ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีคนที่มีคุณสมบัติ"แค่ทำได้ดี"นั้นก็คงเพียงพอกับความต้องการ แต่เราควรตั้งเป้าหมายให้สูงกว่านั้นด้วยการมุ่งสู่การเป็นคนดี((อันนี้ใช้ได้กับในหลายๆอาชีพ))-- การจะบรรลุเป้าหมายใหญ่ได้นั้น ต้องเริ่มต้นด้วยการจัดการกับเป้าหมายเล็กเสียก่อนอย่าเพิ่งพยายามทำเป้าหมายใหญ่ๆให้สำเร็จในทันที-- เราทุกคนต่างก็มีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่าๆกันแต่บางคนนั้นก็ทำตัวเฉยชาในขณะที่บางคนทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็วสาเหตุก็เพราะคนเรามีวิธีคิดว่าจะใช้เวลาอย่างไรไม่ให้สูญเปล่าแตกต่างกันไปนั่นเอง-- ก่อนที่จะตักเตือนให้เอ่ยชมและแสดงออกว่าคุณเข้าใจเขาเสียก่อนจากนั้นค่อยบอกว่า"ต้องการให้ทำอะไร"อย่างระมัดระวัง-- ตัวเราเองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบทำไมถึงกล้าไปเคี่ยวเข็ญคนอื่นให้เขาทำอย่างที่ต้องการ ไม่มีใครในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบและมนุษย์ก็ไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น บางครั้งคนเราก็แสดงความอ่อนแอออกมาสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้น--- อย่าทำอะไรให้คนอื่นสงสัยในคุณธรรมไม่นินทาหรือพูดจาโอ้อวดการนินทาอาจกลายเป็นการลดทอนคุณค่าตัวเองได้-- อย่าเป็นเหมือนมีดโกนที่ใช้แล้วทิ้ง แต่ให้เป็นเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าที่ใบมีดรับคมได้ด้วยตัวเองเก็บเกี่ยวสิ่งรอบตัวมาเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ขัดเกลาตัวเอง --- ยิ่งตำแหน่งสูงขึ้นมากเท่าไหร่นิสัยหรือคุณธรรมก็ยิ่งมีความสำคัญกว่าทักษะมากขึ้นเท่านั้น--- เมื่อเวลาผ่านไปเราจะตีความหนังสือเล่มเดิมต่างออกไปเวลาเจอหนังสือเล่มไหนที่คิดว่าน่าจะดีให้รีบซื้อทันทีการได้เจอหนังสือดีๆเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญในชีวิตข้อคิดที่ชอบและจดไว้:🔥-- อย่าจดแค่สิ่งที่ต้องทำแต่ให้เขียนผลลัพธ์ที่ได้ลงไปด้วย-- ต้องคิดอยู่เสมอว่าตัวเองยังไม่ดีพร้อมเพราะฉะนั้นจึงต้องพยายามให้มากขึ้นการคิดแบบนี้จะทำให้เราไม่หยุดพัฒนาตัวเอง-- ถ้าเราลงมือทำไม่ว่าอย่างไรก็จะมีคนมองเห็นอย่างแน่นอนถ้าเราตั้งใจจริงคนรอบข้างก็จะช่วยผลักดันเราขึ้นไปเอง--ถ้าเราตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถก็จะไม่มีประสบการณ์ไหนที่ไร้ค่า--ลองเชื่อในตัวเองและเชื่อมั่นว่าเราทำได้ดู ความเชื่อมั่นในตัวเองจะช่วยให้เราฝ่าฟันอุปสรรคไปได้จงเชื่อในตนเองและพยายามต่อไป ~ถ้าทุ่มเทจนสุดตัวพระเจ้าจะไม่ใจร้ายกับคุณ ผมอยากให้คุณเชื่อว่าเราทำได้(ไลฟ์โค้ชท่านหนึ่งมากๆ😆)ปล.มีอีกเล่มที่น่าสนใจของผู้เขียนที่อยากตามไปอ่าน: 51 วิธีคิดของลูกน้องที่หัวหน้าอยากสนับสนุน จุดที่สนใจคือเนื้อหาปกหลังบรรทัดสุดท้าย~พัฒนาตนเองด้วยการอ่านนิยายรัก ...เกิดความสนใจขึ้นมาเลยเดี๋ยวไปตามอ่านค่ะ😊
Dương Quý16 reviewsFollowFollowDecember 15, 2019Một quyển nhẹ nhàng. Đầy đủ kiến thức từ phương tây và phương đông. Cảm ơn tác giả đã có những ý đẹp động viên. Điều mình tâm đắc đó là rèn rũa hàng ngày và cách đọc và học của tác giả. Cựu ceo của starbucks và the body shop.
Praew36 reviews1 followerFollowFollowReadAugust 12, 2020Whether you are a manager or not, you have to read.51 points of view that will make you grow up.
Kunlonewolf90 reviews4 followersFollowFollowMay 9, 2022ตามชื่อเรื่องเลย วิธีคิดของหัวหน้าที่ลูกน้องอยากทำงานด้วย ดีมากเลย บอกคุณลักษณะของหัวหน้าในเเบบที่ควรจะเป็น ได้อะไรหลายอย่างเเละนำมาใช้ได้จริง คือหัวหน้าในอุดมคติชัดๆ มีอีกเล่มด้วย วิธีคิดของลูกน้อง เเต่ส่วนใหญ่เล่มนั้นผมรู้อยู้เเล้ว เลยไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เเต่เล่มนี้ ถือว่าดีเลยครับ