FUTURE - ปัญญาอนาคต

by ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา

REINVENTING YOURSELF
IN A CHAOTIC WORLD
สร้างตัวตนขึ้นมาใหม่
ในโลกแห่งความวุ่นวายโกลาหล
________________________

หนังสือเล่มนี้มุ่งไปที่การเปลี่ยนแปลงตน
การสร้างตนเองขึ้นมาใหม่ของผู้อ่าน
ในโลกยุคที่รัฐบาลไม่มีบริการหลังการขาย
การงานไม่ใช่สิ่งหาง่าย
และประชาชนต้องเอาตัวรอดให้ได้
ในสถานการณ์เลวร้ายที่กำลังจะมาถึง
หนังสือเล่มนี้มิใช่สูตรสำเร็จหรือเคล็ดลับที่จะทำให้
ท่านเปลี่ยนชีวิตได้ในเวลาอันสั้น มั่งคั่งในเวลาชั่วข้ามคืน
หรือมีความสุขยืนยาวโดยไม่ลงมือทำ
ฉลาดล้ำโดยไม่ต้องศึกษา
หรือพบทางออกจากปัญหา โดยหันไปหาวิธีการเก่าๆ
หนังสือเล่มนี้ชักชวนท่านผู้อ่านให้เดินทางร่วมกันไปสู่อนาคต
ด้วยการศึกษาประสบการณ์จากทั่วโลก
แล้วลงมือปฏิบัติอย่างมุ่งมั่น
โดยไม่หวั่นต่อเสียงวิพากษ์ ไม่พึ่งพาอาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์
แต่ขบคิด สร้างสรรค์ สร้างความแตกต่าง และสร้างคุณค่า
เพื่อให้ปัจเจกชนธรรมดาสามารถกำหนดอนาคตของตนได้
ในยุควุ่นวายโกลาหล
หนังสือเล่มนี้วางสารบัญที่ละบท
ให้ผู้อ่านค่อยๆ ทบทวนตนเองในทางหลักการ
และเล่ากรณีศึกษาของผู้ที่ผ่านการทำงานจริงมาก่อน
โดยพาผู้อ่านเดินทางย้อนเวลาไปมา
เพื่อทบทวนประวัติศาสตร์และสร้างปัญญาสู่อนาคต

Genres: Nonfiction, Self Help, Philosophy, Business

270 pages, Paperback

Published October 1, 2016

About the author

ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา เกิดที่จันทบุรี เรียนจบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาเริ่มต้นเข้าสู่วงการสิ่งพิมพ์ด้วยการเป็นนักข่าว เคยเป็นผู้สื่อข่าวที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์ หนังสือพิมพ์ Asia Times และบรรณาธิการเซ็กชั่น Business ของนิตยสาร GM เคยทำนิตยสาร Open แล้วปิดตัวลง ต่อมาได้ทำสำนักพิมพ์ Openbooks นอกจากเป็นนักเขียนแล้ว ยังเป็นบรรณาธิการหนังสือเช่น Open House 1, 2, 3 (พ.ศ. 2545) อิสตรีฮีโรติก (พ.ศ. 2545) แฟนฉัน (พ.ศ. 2546) รวมทั้งเคยเป็นพิธีกรรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

Reviews

[Mook Woramon · Rating 4 out of 5]

หนังสือกระตุ้นให้เราตื่นตัวเพื่อรับมือกับอนาคต โลกที่ยุ่งเหยิง เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด
ผู้ที่จะอยู่รอดได้ ไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุดหรือแข็งแกร่งที่สุด แต่คือคนที่ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด
แต่เนื่องจากเราอ่านปัญญาอดีตมาก่อนเลยรู้สึกชอบปัญญาอดีตมากกว่า เล่มนี้ค่อนข้างสะเปะสะปะไปนิด
ถ้าอ่านคู่กันจะดีมาก เป็นหนังสือแนะนำแต่ไม่สั่งสอน ก่อนจะทำการใหญ่ เราควรที่จะรู้จักและจัดการตนเองเสียก่อน

[Suphanat Boonyiamyien · Rating 3 out of 5]

ถือเป็นบทความที่ดีนะ รวมบันทึกการเดินทางกับหนังสือดีๆที่ผู้เขียนเคยอ่านเข้าด้วยกัน แต่รู้สึกว่าพอพิมพ์ด้วยกะดาษดีๆกับแทรกด้วยภาพสวยๆกลับทำให้หนังสือราคาแพงไปหน่อยเมื่อเทียบกับเนื้อหาที่เราคาดหวังว่าจะต้องเข้มข้นมากกว่านี้ เลยไม่รู้ว่าการเพิ่มมูลค่าของหนังสือด้วยการเลือกวัสดุและการจัดเรียงที่มีศิลปะ จะกลับทำให้คุณค่าลดลงไปเมื่อเอาราคามาจับหรือเปล่า แต่คิดว่าถ้าไม่ได้ซื้อมาแต่หยิบยืมคนอื่นมาอ่านก็อาจจะทำให้ไม่รู้สึกเช่นนั้น (นี่คงเป็นรีวิวที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับเนื้อหาในหนังสือเท่าไหร่แฮะ... -_-')>

[Nilphat Phatdone · Rating 4 out of 5]

เป็นการย่อความคิดบางส่วน ของวิธีใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21
สั้นไปหน่อย แต่สัมผัสได้ถึงความพยายามเขียนของพี่แกมาก

[Suneeporn Owapakorn · Rating 3 out of 5]

โปรยหน้าปกว่า " ถ้าปีนี้มีเวลาอ่านหนังสือเล่มเดียว ให้อ่านเล่มนี้ "
อ่านจบ รู้สึกว่า " ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก " แต่เป็นหนังสือที่ดีเล่ม1
แต่ที่ชอบ กลับเป็น " กระดาษ " มันทำให้หนังสือ ขึ้นชั้นหนังสือ(ดู) ดี (ขึ้นอีก)
กระดาษละมุมละไมจนมือสัมผัสได้ ดูสวย มีราคา เรียบง่ายแต่ทันสมัย
ปัจจุบันนี้ หนังสือดีๆ ใช้กระดาษห่วยๆ เพื่อsave cost
แต่ถ้าราคาจะแพงขึ้นดีนิด แต่ได้สัมผัสกระดาษเนียนๆ
ความรู้สึก อยากอ่านจาก e-book เพราะราคาถูกกว่า อาจมีจำกัด แค่กลุ่มคน price sensitive
ไม่ใช่หนอนหนังสือ ที่มีหนังสือ เป็นของสะสม

[Saki Rook a Bead · Rating 4 out of 5]

“นี่คือ ลักษณะสำคัญ
ของการจะทรงตัวอยู่ได้ในโลกสมัยใหม่
ไม่ว่าสินค้านั้นจะเป็นอะไร
เล็กหรือใหญ่
ถ้านำพาตัวเองไปจนถึงจุดสูงสุดได้
สินค้านั้นจะมีที่ยืนเสมอ”
.
หนังสือเล่มนี้แบ่งเนื้อหาออกเป็นลักษณะของการประสบความสำเร็จต่าง ๆ ได้แก่ รู้จักตัว จัดการตน ยืนบนจุดแข็ง แสวงหาจิตวิญญาณ ประสานสร้างตนใหม่ มั่นในทิศทาง สร้างสรรค์อัตลักษณ์ นักออกแบบอนาคต เล็กและงดงาม โดยในแต่ละบทจะเล่าถึงประสบการณ์ของบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จในลักษณะนั้น เช่น ประสานสร้างตนใหม่ ยกตัวอย่างเลโอนาร์โด ดา วินชี ซึ่งในช่วงแรก ๆ มีผลงานในด้านศิลปะ ต่อมาเมื่อย้ายไปอยู่ในอีกเมืองที่เจ้าเมืองสนใจสิ่งประดิษฐ์ก็เปลี่ยนแนว ทิ้งตัวตนเก่า และใช้ปัญญาทางวิศวกรรมในการสร้างสิ่งประดิษฐ์
.
แม้จะชื่อ Future แต่เนื้อหาในเล่มแทบทั้งเล่มเป็นการเล่าถึงบุคคลในอดีต ซึ่งเป็นการมองและศึกษาในลักษณะที่ว่า บุคคลเหล่านั้นทำอะไร และอนาคตของเขาที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ทบทวนประวัติศาสตร์และสร้างปัญญาไปสู่อนาคต ผู้เขียนเล่าเรื่องได้อย่างสนุกสนาน เนื้อหาไม่หนักจนเกินไป แต่แฝงด้วยแนวคิด วิเคราะห์สังคมปัจจุบันและกระตุ้นให้ผู้อ่านสำรวจตัวเองไปด้วยพร้อมกัน
.
คุณภิญโญกล่าวไว้ว่า
.......“การคิดใหม่และการกำหนดอนาคตใหม่ เราจำต้องละวางความล้มเหลว กระทั่งความสำเร็จในอดีต จำเป็นต้องสำรวจตัวตนของเราอย่างเคร่งครัด จำเป็นต้องฟังเสียงสะท้อนจากรอบด้าน สร้างความแข็งแกร่งขึ้นมาใหม่ให้ถูกต้องตรงกับโลกที่เปลี่ยนไป และเราจำเป็นที่จะต้องมีความมุ่งมั่น เพ่งความสนใจไปที่เป้าหมายหนึ่งใดโดยไม่ไขว้เขว
.......ทัศนคติที่ถูกต้อง วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน การลงมือทำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้ผิดพลาดล้มเหลวก็ไม่ย่อท้อเปลี่ยนใจ ดังเช่นบทเพลงแห่งการเดินทัพทางไกล คือ วิธีใหม่ที่จะพาเราไปสู่อนาคต
.......อนาคตที่กำหนดได้ แม้ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุดของชีวิต” (หน้า 39)
.
หนุ่มผู้มีวิสัยทัศน์ ขอเรียกว่า Mr.T เป็นคนแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้กับซากิ โดยรีวิวให้ฟังคร่าว ๆ (แต่ไม่ยอมส่งรีวิวมาให้เพจเรา) ซากิซื้อหนังสือเล่มนี้ให้ตัวเองในช่วงที่ผิดหวังจากการสอบ โดยคิดว่า อาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองได้บ้าง .... ผลก็คือ สร้างได้ค่ะ หนังสือเล่มนี้เป็นแนวจิตวิทยา แต่ไม่ใช่แบบ How to ที่จะบอกว่าคุณต้องทำอย่างงั้นอย่างงี้แล้วจะประสบความสำเร็จ แต่เป็นการยกเอาลักษณะของคนที่ประสบความสำเร็จขึ้นมา และเป็นหน้าที่ของผู้อ่านเองที่จะคิดตรึกตรองถึงตัวเองว่า แล้วเรา... จะทำอะไรต่อไป ตอนที่อ่านจบ รู้สึกสับสนเล็กน้อย เพราะกำลังคิดว่า แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งซากิคิดว่า การที่เราได้คิด นั่นล่ะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ
.
ติดใจงานเขียนของคุณภิญโญ และจะลองหาเรื่องอื่นมาอ่านต่อค่ะ
.
ในส่วนของรูปแบบ นอกจากการเล่าเรื่องแล้ว มีการแทรกข้อความ คำคมของบุคคลสำคัญเป็นระยะ ๆ เช่น
“Study without desire spoils the memory, and it retains nothing that it takes in
- Leonardo da vinci”
ซึ่งข้อความที่คัดเลือกมา น่าสนใจมาก ๆ การเขียนใช้พื้นที่ว่างเยอะ ซึ่งในตอนแรกแอบรู้สึกเปลืองกระดาษ แต่พออ่านไปแล้วคิดว่าเป็นการออกแบบให้ผู้อ่านได้เว้นระยะในการคิดก่อนที่จะอ่านต่อในส่วนต่อไปซึ่งเหมาะกับเนื้อหาหนังสือที่มุ่งเน้นให้ผู้อ่านคิดตาม และมีรูปภาพประกอบเป็นระยะ ๆ
.
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนทำงาน คนที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจ หรือคนที่มีแรงบันดาลใจอยู่แล้วก็อ่านได้ ซึ่งคิดว่าผลของการอ่านจะต่างกัน เช่น สำหรับคนหมดแรงใจก็จะสร้างแรงบันดาลใจได้ สำหรับคนที่มีแรงอยู่แล้วก็อาจจะทวีแรงบันดาลใจขึ้นไปหรือมีแนวคิดที่กว้างขวางยิ่งขึ้น
.
Mr.T บอกกับซากิว่า หลักของหนังสือเล่มนี้คือ ความว่าง ว่างจากอดีตที่สำเร็จหรือล้มเหลว ว่างจากความกังวลในอนาคต เมื่อเกิดความว่างก็จะสามารถสร้างสรรค์อนาคตที่สุดยอดได้ (Mr.T รีวิวได้ดีมาก)
.
ส่วนซากิมองเห็น “ความกล้าหาญ” อยู่ในหนังสือเล่มนี้ กล่าวคือ กล้าหาญที่จะแสวงหาจิตวิญญาณ สร้างตนใหม่ มีความมั่นใจในการสร้างสิ่งที่แหวกแนวหรือเป็นเอกลักษณ์ ซากิคิดว่าคนเราส่วนใหญ่ก็คงจะเคยสำรวจตัวเอง รู้จุดเด่น จุดด้อยของตนเอง แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าหา���ที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หรือดำเนินชีวิตแบบที่ตนคิดว่าเหมาะสม (แต่อาจขัดกับความคาดหวังของครอบครัวหรือสังคม)
.
แนะนำให้ลองอ่��นกันดูนะคะ
.
ราคา 395 บาท ยังคงรู้สึกว่าแพงอยู่ดี แม้ว่าจะเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาดี ดังนั้นมีวิธีแก้ง่าย ๆ ค่ะ เมื่อคุณได้ซื้อหนังสือเล่มนี้มาแล้ว อ่านจบแล้วก็ส่งต่อให้ครอบครัว เพื่อน หรือคนที่คุณรักอ่านต่อค่ะ หรือจะส่งต่อให้ห้องสมุดเพื่อเปิดโอกาสให้สาธารณชนได้อ่านก็จะดีมากเลย หนังสือดี ควรแบ่งกันอ่านค่ะ

FB page : Rook a bead

[Goy · Rating 5 out of 5]

It may not be as superb as his other books but this book is definitely thought-provoking. I got goosebumps from time to time reading this book, especially the part where he mentioned about the Copyright Library in Antwerp. Sharp and edgy - deep and very well-written. Nothing to say but to highly recommend that everyone should go read this book for the sake of our own "Future".

[Clairdenoon · Rating 3 out of 5]

#FUTURE-ปัญญาอนาคต
#ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
#บันทึกการอ่าน

-"หาใช่ผู้ที่แข็งแรงที่สุด  หรือฉลาดที่สุด หากเป็นผู้ที่ปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุดที่จะอยู่รอด"
อืมมม🤔
-"หนังสือดีแค่ไหนย่อมไม่มีคุณค่า ถ้าเรามิได้เปิดอ่าน
หนังสือถูกแค่ไหน ก็ไม่ควรซื้อหา ถ้าเราคิดว่าไม่มีคุณค่ากับเรา"
อืมมๆ🤔
-อ่านแล้วคิดถึง SWOT Analysis🤔
อืมมม🤔
-คำที่คิดว่าเจอมากกว่า1ครั้ง"โศลก" ,"หมุดหมาย"
🤔
-รู้สึกว้าปไปว้าปมา รัสเซีย อังกฤษ ยุโรป ญี่ปุ่น ซัวเถา สิงค์โปร์
อืมม ก็หนุกดี



 เป็นหนังสือดี กระดาษดี ผู้เขียนดี มีความตั้งใจดี เนื้อหาดี  ทุกอย่างดี
แต่...เราอ่านแล้วก็ อืมมๆ เฉยๆ😅 ไม่ว้าวววว แต่ก็ไม่เบื่อ
×
หมายมั่นที่จะอ่าน "ปัญญาอดีต" ในเร็ววันนี้👊

[SnOp Ti · Rating 4 out of 5]

เนื้อหาและแนวคิด อ่านแล้วทำให้คิดตามเสมอ ได้อ่านวนแน่นอน

[Polamin Singhasuwich · Rating 5 out of 5]

เป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก

[Mint · Rating 3 out of 5]

เนื้อหาและวิธีการนำเสนอเราว่าดีอยู่นะ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นแนวฮาวทู สำหรับเรามันไม่ใหม่ คาดหวังว่าจะเจออะไรว๊าวๆ เราอาจจะหยิบมาอ่านช้าไปเอง

[peppY · Rating 3 out of 5]

3.5

[Patipat Sathaporn · Rating 5 out of 5]

หากดูเพียงแค่สารบัญ อาจจะนึกไปว่าเป็นหนังสือแนวฮาวทู จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างไร แต่เมื่อได้อ่านแล้วจึงได้รับรู้ความชาญฉลาดของผู้เขียนในการถ่ายทอดแก่นสารมาสู่ผู้อ่าน เนื้อหาของหนังสือบอกเล่าการเดินทางของผู้เขียน เรื่องราวของบริษัทห้างร้าน เมืองน้อยใหญ่จากหลายมุมโลก ไปถึงชีวิตในราชสำนัก สายธารของเรื่องเล่าในประวัติศาสตร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของประเด็นที่ว่า ทุกคนเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงและยืนหยัดเดินหน้าสู่อนาคตได้อย่างไร

นับตั้งแต่เริ่มอ่านก็รู้สึกว่า Future - ปัญญาอนาคต เป็นตัวอย่างที่ดีของการตอบคำถามที่ว่า "เรียนประวัติศาสตร์" "รู้เรื่องราวในอดีต" แล้วมีประโยชน์อย่างไร นอกจากนี้แล้วยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะจะมอบเป็นของขวัญให้แก่คนที่รู้จักอีกด้วย

ผิวสัมผัสกระดาษของหนังสือเล่มนี้ให้ความรู้สึกดียามจับทั้งหน้าปกและในเล่ม การออกแบบ จัดวางภาพประกอบลงตัวได้จังหวะกับการอ่านเนื้อหาอย่างพอดิบพอดี ความรู้สึกนี้จึงกระตุกให้ฉุกคิดถึง "อนาคต" ของสื่อสิ่งพิมพ์ อย่างหนังสือ ได้อีกทอดหนึ่ง

[The Observing Mind · Rating 2 out of 5]

For the full review : https://www.theobservingmind.co/book/...

ในบรรดาหนังสือทั้งหมดของ Wisdom Series หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่อ่านเพลินและเข้าใจง่ายที่สุด อาจจะมีข้ามไปข้ามมาบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกเสียอรรถรสใดๆ (ต่างกับเล่มสุดท้ายใน Series คือ Present – ปัญญาปัจจุบัน ที่เนื้อหากระโดดไปมา และอ่านยากมาก) ภาษาที่คุณภิญโญใช้นั้นมีความสุนทรีย์ มอบความดื่มดำให้ผู้อ่านได้อย่างน่าทึ่ง

อย่างไรก็ตามด้วยเนื้อหาโดยรวมที่ “กว้างๆ” ไม่ได้มีความต่างจากหนังสือ Self-Help ที่มีวางเต็มท้องตลาด และไม่ได้มีประเด็นใดในเล่มที่สื่อถึงการเอาตัวรอดในอนาคตได้จริงๆ ผมคงแนะนำแค่หนังสือเล่มนี้ว่าเหมาะสำหรับการอ่าน “เอาเพลิน” เท่านั้นครับ

[Suwitcha Chandhorn · Rating 4 out of 5]

เล่าเรื่องราวชักจูงให้เราเห็นถึงความสำคัญของการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้รับกับอนาคต (หรือปัจจุบัน?) ที่ผันผวน ผ่านประวัติศาสตร์ และการเดินทาง เป็นหนังสืออ่านง่าย ที่ผู้เขียนบอกว่าสามารถอ่านจบได้ภายในคืนเดียว สำหรับเราที่เคยผ่านประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงวิถีการดำรงชีวิตแบบสุดขั้วในวัย 20 และ 40 เราว่าหนังสือเล่มนี้ชี้ทางได้ดี (แต่มาช้าไปนิดสำหรับเรา) ชอบวิธีการเล่าเรื่อง ชอบภาพประกอบรูปเล่ม ทุกอย่างดูผสมกลมกลืนกันได้อย่างงดงาม - ดีใจที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้

[Kittisak · Rating 2 out of 5]

หนังสือเล่าหลายเรื่องอย่างน่าสนใจ แต่มีความพยายามจะโยงเชื่อมกับหัวข้อบท พยายามให้เป็นหนังสือสร้างแรงบันดาลใจ หลายความพยายามแต่ไม่สามารถจูงใจให้เชื่ออย่างสนิทใจ

[Nuttawat Kalapat · Rating 4 out of 5]

• FUTURE ปัญญาอนาคต
by ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
จำนวนหน้า : 270 หน้า
Genre : Self-Help
.
สำนักพิมพ์ openbooks
.
.
"ผู้ที่หยั่งรู้อนาคต เป็นผู้ที่ทรงอำนาจ" นี่คือ Quoteที่โคตรจริง ตั้งแต่อดีต จนถึงทุกวันนี้ !
(แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ไม่มีใครรู้อนาคตล่วงหน้าหรอกครับ)
มองอีกมุมคือ ถ้ามีคนๆนึง สามารถ สร้างความเชื่อ ให้ผู้อื่นเชื่อว่า ตนเอง สามารถทำนายอนาคตได้ ก็ค่อนข้างน่ากลัวเหมือนกัน
.
เป็นเล่มที่สองของคุณ ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ที่ผมได้ลองอ่านครับ แต่สารภาพว่าเล่มนี้ แอบไปยืนอ่านที่ร้านหนังสือมาครับ 55 เพราะอ่านจบเร็วมาก
แล้วก็ต้องพูดตรงๆ ว่าความเห็นส่วนตัวของผม คิดว่าชอบ เล่ม PAST ปัญญาอดีตมากกว่า จะมาอธิบาย เหตุผลว่าทำไมครับ
ด้วยงบส่วนตัวช่วงนี้ยังไม่พร้อมซื้อมาเก็บไว้ครบชุดครับ
.
เท่าที่ผมเข้าใจคือ สิ่งที่หนังสือ พยายามจะบอกเรา ก็คือ ให้เราพยายามเรียนรู้เรื่องราวในอดีตไว้เยอะ ๆ และ ปลูกฝังไอเดียว่าการเรียนรู้ประวั���ิศาสตร์เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งยวด ไม่ว่าอาจจะผ่านการศึกษาบุคคลสำคัญในอดีต ในบริบทช่วงเวลาใดก็ตาม
.
เหมือนเดิม ครับ หนังสือ พาเราทัวร์ เคสสนุกๆ ผ่านภาษาที่อ่านเพลิน พาเราเสพความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศ รัสเซีย อังกฤษ ญี่ปุ่น ยุโรป สิงคโปร์ โดยทัวร์ที่ผมคิดว่าเด่น ได้ความรู้ และมีเนื้อหามากที่สุด คือการไปทัวร์ญี่ปุ่น โดยเฉพาะเรื่องของ มิยาโมโต มูซาชิ นี่ค่อนข้างยาวเลย
.
ส่วนใหญ่เนื้อหา เล่มนี้สำหรับคนศึกษาประวัติศาสตร์มาบ้าง ยิ่งเข้าใจง่ายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ราชวงศ์โรมานอฟ , การกำเนิดแบรนด์ Paul Smith
.
โดยสรุปดีครับ ผมค่อนข้างชอบ มีเงินแล้วจะซื้อมาเก็บนะคร้าบ
..
•ข้อคิดเห็น
- เหมือนเดิมครับ ภาพสวย ref ดี ชวนให้ศึกษา ต่อไม่ยาก
- เป็นมุมมองค่อนข้างกว้างกว่าเล่ม ปัญญาอดีตครับ เลยทำให้เข้าใจง่ายกว่า
- อ่านเพลินๆ โอเคครับ
- สิ่งที่ีได้เต็มๆ จากเล่มนี้ คือ แนวคิดเรื่อง การเปลี่ยนแปลง ครับ คนเราต้องพร้อมรับ ความเปลี่ยนแปลง จึงจะรอด
.
คะแนน 8/10

[Suphap Duangsan · Rating 3 out of 5]

"ดังนั้นเมื่อถูกอนาคตไล่ล่า อย่าเสียเวลากับการโหยหาอดีตอันยิ่งใหญ่
อย่าคร่ำครวญเศร้าโศกกับสงครามที่เพิ่งผ่านพ้นไป
หากจงเร่งสร้างตนเองขึ้นมาใหม่
เพราะการสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่
คือหัวใจของการสร้างอนาคต"

___________________________

Future
ปัญญาอนาคต

ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา เขียน

สำนักพิมพ์ openbooks
___________________________

หลังจาก openbooks เปิดตัว Made in Italy หนังสือสารคดีนำเสนอ "ภูมิปัญญา" ของคนอิตาเลี่ยนไปก่อนหน้า

จตุรภาคซีรีย์ "ปัญญา" ตีพิมพ์ตามมาโดยเริ่มจาก Future, Past, One Million และ Present

"ปัญญาอนาคต" คือหนังสือที่นำเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่ผ่านนักคิด,นักปรัชญา,ผุ้นำทางการเมืองหรือแม้กระทั่งประมุขของประเทศทั้งฟากตะวันออกและตะวันตกผ่านการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และอดีตเพื่อมุ่งสู่อนาคต

"ปัญญาอนาคต" ไม่ใช่หนังสือ "how to" ที่มีคำตอบสำเร็จรูปมอบให้นักอ่านนะครับ แต่นักเขียนจะยกกรณีศึกษาผ่านอดีตให้คนอ่านศึกษาปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อรับมือกับคลื่นโลกใหม่ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคมที่จะถาโถมสู่เราในอนาคตมากกว่า

[Copper · Rating 3 out of 5]

ช่วงแรกๆ น่าสนใจดี แต่แผ่วปลาย
ไม่แน่ใจว่าผู้เขียนต้องการให้เป็นหนังสือที่มีวัตถุประสงค์อะไร?
จะบอกว่าสารคดี...ก็มีรายละเอียดน้อยเกินไป (อาจเหมาะกับคนที่ทีพื้นฐานประวัติศาสตร์พอสมควร)
จะบอกว่าแนว how-to ...ก็ดู abstract และไม่สามารถนำเราไปสู่การเกิดกระบวนการคิดได้
หรือจริงๆ แล้วอาจจะเป็น diary บันทึกการเดินทาง...ก็มีรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางน้อยไปหน่อย
สรุปคือ เหมือนบันทึกความคิดจากการพบเห็นและอ่าานหลายๆสิ่งมาประกอบกัน โดยอาจจะยังไม่สามารถพาผู้อ่านร่วมจกผลึกทางความคิดร่วมกับผู้เขียนได้
ปล.หากวิจารณ์แรงเกินไป ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

[Tuitui Liw · Rating 3 out of 5]

เสียงจากรีวิวของเล่มนี้แตกออกเป็นสองฝั่ง
ทำให้อยากรู้เลยต้องหามาอ่าน

หนังสือสวย เหมือนงานศิลป์ ใช้กระดาษดี ชอบที่เนื้อหาเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศ เหมือนได้เที่ยวไปด้วย
ภาษาการเขียนที่ดู High ดูเอื้อมไม่ถึง อาจจะสละสลวยแต่ก็ทิ้งความรู้สึกแปร่งๆไว้ในใจ ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมเพลิดเพลินไปกับตัวหนังสือเท่าไหร่

หนังสือทิ้งร่องรอยอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความกังวลเรื่องชีวิตในอนาคตของเรา โดยรวมเป็นหนังสือที่ดีในระดับหนึ่ง แต่อาจยังไม่ค่อยสมกับคำโปรยที่ว่า "ถ้าปีนี้มีเวลาให้อ่านแค่เล่มเดียว ให้อ่านเล่มนี้" เท่าไหร่นัก

[Jane Jinjutata · Rating 5 out of 5]

เป็นหนังสือที่ตอนแรกลังเลที่จะซื้อด้วยเพราะคำ แนะนำที่ดูจะเกินจริง กลัวว่าอ่านแล้วจะผิดหวัง แต่พอได้อ่านเข้าจริงๆ รู้สึกชอบและประทับใจมากค่ะ เป็นหนังสือที่มีการถ่ายทอดการพัฒนาตนเพื่อไปสู่อนาคตผ่านเรื่องราวจากอดีต แถมมีภาพถ่ายคั้นให้ได้จินตการเหมือนได้ไปเที่ยวเองในตัวด้วย ภาษาที่ใช้ก็อ่านเพลิน อ่านง่าย ยิ่งถ้าเข้าใจประวัติศาสตร์ และสนใจในศิลปะด้วยแล้วถือว่าอ่านได้สนุกทีเดียวค่ะ อีกอย่างที่ชอบคือปกที่ small and smart ดีค่ะ รวมๆเป็นหนังสือที่คุ้มค่าเวลาแก่การอ่านเล่มหนึ่งเลยค่ะ

[Kom Komsan · Rating 5 out of 5]

The best way to predict the future is to create it.
(วิธีการพยากรณ์อนาคตที่ดีที่สุด คือการสร้างมันขึ้นมา)
- Peter Drucker
นี่น่าจะเป็นถ้อยคำที่อธิบายความนัยของหนังสือเล่มนี้ได้ดีที่สุด
Future ปัญญาอนาคต
หนังสือที่ว่าด้วยการเพาะบ่มสร้างสรรค์ปัญญาของปัจเจก
เพื่อรับมือกับอนาคตและยุคสมัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
ทุกถ้อยคำในหนังสือจะคอยกระตุ้นเตือนเราเบาๆ
ว่าควรปรับตัวและเตรียมตัวอย่างไร
ในวันที่โลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ด้วยการพาเราย้อนเวลากลับไปในอดีต
ศึกษาชีวิตของหลากหลายผู้คนในประวัติศาสตร์
เรียนรู้จากภูมิปัญญาตะวันตกและตะวันออก
ทั้งนักสร้างสรรค์ นักคิด นักปราชญ์
ตั้งแต่ปรมาจารย์ปีเตอร์ ดรักเกอร์
เลโอนาร์โด ดา วินชี
กระทั่งมิยาโมโต้ มูซาชิ
ฮายาโอะ มิยาซากิ
และเหล่าผู้สร้างสรรค์อีกหลายท่าน
ที่ได้รับการยกย่องเป็นปราชญ์แห่งยุคสมัย
ทุกเรื่องราวร้อยเรียงเป็นเรื่องเล่า
และพาเราก้าวสู่อนาคตอันวุ่นวายด้วยปัญญาและใจที่สงบนิ่ง

[Dathinee Niwasprakrit · Rating 5 out of 5]

อ่านเพลินมาก..ชอบการแปลจากวลี ชอบการเล่าเรื่องของนักการเมืองหรือศาสตร์ต่างๆ ชอบที่พูดถึง ลี กวน ยู การจิบชา เลโอนาโด และ Hayao Miyazaki ชอบภาพประกอบ ชอบหมดเลย

บทที่ชอบสุดคือ

When you hear
the splash of the water drops
that fall into the stone bowl,
you will feel that
all the dust of your mind
is wasted away.

Sen No Rikyu
Japanese Zen Tea Master

[Jutiphan · Rating 4 out of 5]

เป็นหนังสือที่ชอบคุณภาพของกระดาษ มันให้อรรถรสและความรู้สึกในการอ่านมากขึ้น

เนื้อหาผู้เขียนนำมาร้อยเรียงได้หลากหลายจากประสบการณ์ทำให้เห็นถึงอดีตในมุมมองที่แตกต่างออกไป และสะท้อนให้ฉุกคิดและทบทวนในแง่มุมต่างๆ

เป็นหนังสือที่อ่านได้เพลิน สบายๆ เรื่อยๆ และช่วยให้เราเห็นภาพที่ใหญ่ขึ้น จากการที่ผู้เขียนเองยกเรื่องราวต่างๆในประเทศอื่นๆมา

[Tony · Rating 4 out of 5]

ฉายภาพ ความจำเป็น​ของการปรับตัวสู่อนาคต ผ่านหลากหลายตัวอย่างจากอดีตถึง​ปัจจุบัน​ ของผู้ที่ประสบความสำเร็จ​กับการมองไปข้างหน้า​ เห็น​ก่อนคนอื่น คิดก่อนคนอื่น เจ็บ​ก่อนคนอื่น และต่างจากคนอื่น...

หนังสือเนื้อหาเหมือนหนัก แต่อ่านง่าย ไม่พลาดในประเด็น​สำคัญ

จัดพิมพ์​ปราณีต กระดาษ​หนาและคุณภาพ​ดี เหมาะแก่การเก็บสะสม

[Kanin Nitiwong · Rating 3 out of 5]

รู้สึกว่าเรื่องเป็นมุมมองกว้างๆ ไปหน่อย ไม่ได้เจาะลึกเหมือนบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวของคุณภิญโญเล่มอื่นๆ มันเลยรู้สึกไม่เต็มอิ่ม เหมือนแวะชิมโน่นนิดนี่หน่อย ไม่เข้าเมนคอร์สซะที แต่ถ้าอ่านเพลินๆ ก็โอเคนะ

[Puttipong Thumperawat · Rating 5 out of 5]

เป็นหนังสือที่นำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่โดยการเล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ของบุคคลสำคัญในอดีต เพื่อให้เรามองหารูปแบบในการดำรงชีวิตในแบบของเราเอง

ภาษาเขียนที่อ่านง่าย ความลื่นไหลที่ต่อเนื่อง เสริมสร้างทัศนคติ สอดแทรกแก่นแท้ของชีวิต นี่เป็นหนังสือที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

[Kullachart · Rating 5 out of 5]

เป็นหนังสือจิตวิทยาอิงประวัติศาสตร์(และปัจจุบัน)แบบหลวมๆ แต่ก็ทำให้เห็นว่าผู้เขียนต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการรวบรวมข้อมูลและเรียบเรียงออกมาเป็นลำดับของเนื้อหาที่น่าอ่าน หลายจุดอ่านแล้วได้คิดต่อ เป็นหนังสือสไตล์ Zen ที่ดีมากเล่มหนึ่ง

[Parkpoom · Rating 4 out of 5]

มีเนื้อหาและข้อคิดที่น่าสนใจมากกว่าปัญญาอดีต อาจเป็นเพราะว่าครั้งนี้คุณภิญโญอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ที่ผมส่วนตัวสนใจด้วยก็ได้ บทที่สิบ The Past ดูจะเป็นบทที่ผมอ่านแล้วรู้สึกสนุกและเห็นตัวตนของคุณภิญโญมากที่สุด เพราะเรื่องที่เล่ามีความเป็นส่วนตัว ไม่อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ของผู้อื่น

[Manit2509 · Rating 4 out of 5]

หนังสืองดงามทั้งถ้อยคำและรูปภาพ ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลง จำต้องทิ้งตัวเอง เพื่อสร้างตัวเองขึ้นใหม่ อย่างมีเอกลักษณ์

การถอดรหัสประวัติศาสตร์และเรื่องราวน่าอ่านน่าตืดตาม หากเสริมเรื่องของไทยและคนไทยจะงดงามมากกว่านี้

[Nats Lakkatham · Rating 4 out of 5]

- แนวบรรยาย ยกตัวอย่างในบุคคลประวัติศาสตร์โลกขึ้นมา
- ได้ชี้ให้เห็นว่าการตัดสินใจด้วยเหตุผลของอดีตผู้คนเหล่านี้ จะส่งผลต่ออนาคตได้อย่างไร
- ซึ่งอนาคตของอดีตก็คือปัจจุบันที่เราจินตนาการได้ ดังนั้นเราจึงต้องเริ่มจากตัวเอง