Jump to ratings and reviews
Rate this book
Rate this book
ล่วงผ่านงานวรรณกรรมอมตะเรื่อง "เจ้าพ่อ-เจ้าเมือง" ว่าด้วยอำนาจและบารมีระหว่าง "เจ้าพ่อ" ทายาทกำนันผู้กว้างขวางแห่งทุ่งทองกับ "เจ้าเมือง" ข้าราชการหนุ่มผู้ยึดมั่นในระเบียบกฎหมาย... "อาจินต์ ปัญจพรรค์" ยังได้จรรโลงนวนิยาย "เจ้าแม่" ขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่งด้วย

เมื่ออาจินต์เริ่มบรรเลงนั้น มีเนื้อความว่า เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ ญี่ปุ่นบุกกรุงเทพฯ แม่ผาดกลัวญี่ปุ่นทหารเตี้ย พูดกันไม่รู้เรื่อง แกจึงมอบกิจการแท็กซี่ให้หมื่นด่ำฯ ผู้สามีดูแลกิจการ ตัวแม่ผาดเองกลับสู่ถิ่นเดิมที่ทุ่งทอง พบว่าตลาดนั้นไฟไหม้เกลี้ยง แล้วเจ้าหมอจ้อยเจริญ ลูกน้องของนายพรหมซึ่งนายพรหมสั่งไปรับ ก็รับแม่ผาดกลับมายังตำบลนิลเพชรอันห่างไกลกันดาร คนละรูปกับทุ่งทองที่นิลเพชรอันเงียบเชียบนี้ แม่ผาดได้พบประพิมลูกสาวของนายพรหม ประพิมเป็นสาวสวย แต่เป็นคนบ้านนอกเจ้าแม่ผาด จึงอบรมสั่งสอนวิถีทางของสาวกรุงเทพฯ ปนกับปัญญาชาวบ้านดั้งเดิมของสุพรรณฯ เพื่อจะให้ประพิมเป็นเจ้าแม่รุ่นต่อไปแห่งวงศ์ตระกูล 'ทุ่งสีทอง' ของกำนันผินผู้ยิ่งใหญ่มาแต่สมัย ร.๕ บัดนี้ญี่ปุ่นบุกก็สมัย ร.๘ แล้วเรามาดูกันสิว่า เจ้าแม่ผาดจะถ่ายทอดวิชาให้แก่หลานสาวได้ไหม.

360 pages, Paperback

Published March 1, 2017

1 person is currently reading
22 people want to read

About the author

อาจินต์ ปัญจพรรค์ เกิดเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2470 ที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรชายของขุนปัญจพรรค์พิบูล อดีตนายอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี และข้าหลวงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดนครปฐม (มาติณ ถีนิติ) กับนางกระแส ปัญจพรรค์ (โกมารทัต) มีพี่น้องร่วมบิดามารดา คือ ชอุ่ม ปััญจพรรค์ พล.ต.ท.ลัดดา ปัญจพรรค์ และวัฒนา ปัญจพรรค์

เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย แล้วมาต่อมัธยมที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ ปากคลองตลาด โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาและเข้าเรียนต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วงเวลาตอนที่อาจินต์กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่สองนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น ทำให้มหาวิทยาลัยงดการเรียนการสอน นิสิตต่างพากันกลับบ้านเกิดเพื่อหนีการทิ้งระเบิดเพื่อทำลายจุดยุทธศาสตร์สำคัญในกรุงเทพ เมื่อภาวะสงครามสงบอาจินต์กลับมาเรียนอีกครั้ง แต่การใช้ชีวิตในช่วงหลบหนีนั้นกลับทำให้อาจินต์ไม่สามารถเรียนได้ดีจึงถูกรีไทร์ บิดาจึงส่งอาจินต์ไปทำงานหนักในเหมืองแร่เพื่อดัดนิสัยที่จังหวัดพังงา อาจินต์ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวมาเขียนในเรื่องสั้นชุดเหมืองแร่

เคยเป็นบรรณาธิการหนังสือฟ้าเมืองไทย นิตยสารรายสัปดาห์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเมื่อ พ.ศ. 2512-2531 ชีวิตส่วนตัว อาศัยอยู่ที่บ้านสุทธิสาร กับภริยา ไม่มีบุตร คติคือ "ทำอะไรทำจริง"

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
2 (16%)
4 stars
3 (25%)
3 stars
6 (50%)
2 stars
0 (0%)
1 star
1 (8%)
Displaying 1 - 5 of 5 reviews
Profile Image for ดินสอ สีไม้.
1,070 reviews178 followers
March 29, 2019
นั่งนึกอยู่ตั้งนาน
ภาษาก็ไพเราะ ความรู้ก็แน่น พล็อตก็โอเค
แต่ไม่รู้ทำไมเราไม่ชอบมันเท่าที่ควร
บางทีอาจเป็นเพราะตรรกะผิดยุคสมัย
เมื่อสังคมเปลี่ยนไป เราจึงมองค่านิยมเก่าๆ บิดเบี้ยวไป
แล้วมันก็คอยค้านอยู่ในใจ ทำให้อ่านไม่สนุกเอาเสียเลย
Profile Image for Faraway S..
15 reviews
December 19, 2025
ภาษาสวยมาก ตามแบบฉบับนักเขียนรุ่นใหญ่ นักเขียนเก่า ๆ มักมีท่วงทำนองภาษาที่เด่นชัดและเต้นระบำอยู่ในสุนทรียรมณ์ของผู้อ่านเสมอ ปีนี้อยากอ่านงานนักเขียนไทยเยอะ ๆ เลือกหยิบมาโดยไม่คาดหวังนัก เพราะปกติใคร่อ่านวรรณกรรมแปล ค่อนข้างเสพติดภาษานมเนย แต่การกลับมาเปิดใจแสวงหาวรรณกรรมไทยทำให้ได้รับรสใหม่ วรรณศิลป์และการร้อยเรียงทำให้อ่านเพลินไปยาว ๆ โดยไม่รู้สึกเบื่อ

ชอบมาก แต่ไม่ได้อินกับความเป็น 'เจ้าแม่' เท่าไรนัก กอปรกับตรรกะแบบโลกเก่า เช่น

1. การเสียสละเพื่อยกย่องชายชาตรีในระบบเก่า-ปลัดหนุ่มวัยอ่อนกว่า รักชอบกัน ได้เสียกันจนผู้หญิงตั้งท้อง แต่ผู้หญิงกลับหอบท้องหนีไปเมืองกรุงเพื่อรักษาชื่อเสียงของปลัดหนุ่มไม่ให้เปื้อนราคี

2. เรื่องชาติกำเนิด-เพราะเป็นลูกสาวกำนัน จึงมีเมตตาธรรมของนักปกครอง... ส่วนตัวคิดอยู่ตลอดว่าไม่ใช่นักปกครองทุกคนจะรู้จักเมตตาธรรม และหญิงมากมายก็กล้าหาญชาญชัยได้โดยไม่ขึ้นอยู่กับชาติกำเนิด แม้จะมีสิ่งที่เรียกว่าโอกาสและชนชั้นทางสังคมไว้แบ่งแยกคน เมตตาธรรมก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกนักปกครองจะเรียนรู้ได้เท่านั้น แต่ก็เข้าใจได้ เพราะภูมิหลังตัวละครมันเกี่ยวเนื่องมาอย่างนั้น เขาเล่าชีวิตของลูกสาวกำนัน ไม่ใช่ชีวิตของคนที่ไม่ใช่ลูกสาวกำนัน 55555

อีกอย่างคือ คำว่า 'สัจธรรม' ทำให้เรานั่งตรองอยู่นาน สัจธรรมอันขึ้นอยู่กับค่านิยมของยุคสมัยล้วนผันแปรไปทั้งสิ้น สัจธรรมของโลกเก่ากับโลกสมัยใหม่ไม่เหมือนกันหรอก ในมุมเรา มองว่าสัจธรรมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เว้นแต่เป็นสัจธรรมอันเป็นของไม่เที่ยง ไม่จีรังอย่างการพรากจาก ความตาย และการล่มสลายของบางสิ่งน่ะนะ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน มันก็ไม่เปลี่ยน ยังจริงแท้อยู่เช่นนั้นเอง

แต่ถึงเรื่องนี้จะมีตรรกะความคิดชุดเก่า (เช่น ผู้หญิงโตเกินเรียนแล้ว ไม่ต้องเรียนหนังสือ ให้ทำกับข้าว เรียนรู้เรื่องงานบ้านงานเรือนดีกว่า อันนี้ไม่เห็นด้วย ยิ่งเป็นคำพูดที่ออกมาจากตัวละครเจ๊ก—ชายจีนโพ้นทะเลแล้ว มันก็นึกถึงปิตาธิแไตยเสียจริง) เราก็ประทับใจตัวละครแม่ผาดอยู่อย่างหนึ่ง คือไม่สนับสนุนให้น้องชายหากินด้วยบ่อนและโรงยาฝิ่น เพราะมันทำลายคน แต่อยากให้น้องชายปลูกโรงเรียน กระจายการศึกษาให้คนในชุมชน จะได้บุญ ไม่ใช่ทำธุรกิจบาป แม้เราไม่ได้ยึดโยงบาปบุญมาผูกกับทุกมิติชีวิต แต่เราเห็นด้วยว่าไม่ควรสร้างฐานะให้ลูกหลานด้วย 'ของร้าย' ธุรกิจบ่อนพนันอาจทำให้ลูกหลานร่ำรวยมั่นคง แต่มันก็ทำลายลูกหลานคนอื่นย่อยยับ มันไม่ได้สรรค์สังคมในทางที่ดี

แต่ตอนจบรวบรัดไปหน่อย ประเด็นย่อยก็ไม่เคลียร์
Profile Image for Klin กลินท์.
230 reviews15 followers
June 14, 2020
“มนุษย์อยู่กันไม่ถึง ๑๐๐ ปีก็ตาย แต่แม่น้ำนั้นยั่งยืนมาแล้วหลายร้อยปี มันจะเหือดแห้งไปก็เพราะเปลี่ยนทางเดินไปหาเส้นทางใหม่ ทิ้งเส้นทางเดิมให้ตื้นเขิน กลายเป็นทางรกทางเกวียน ชะตาชีวิตของคนเราผันแปรไปตาม ‘กรรม’ คือการกระทำของเขาเอง...และการกระทำ-กรรมของคนในยุคนี้ รุ่นนี้ ก็จะก่อให้เกิดผลดีหรือผลร้ายแก่ชีวิตลูกหลานรุ่นต่อไป...” ,น. ๓๔๐

… เรือเมล์ก็เลิกบริการไป ๒๐-๓๐ ปีแล้ว ในแม่น้ำยังมีแต่คนหยกปลาและเรือผีหลอก
…ของเก่าจะไม่หวนกลับมาอีกแล้ว กงล้อของกาลเวลาก็บดทับของเก่าจมดิน

อ่าน/2563 กับ “เจ้าแม่” งานของ “อาจินต์ ปัญจพรรค์” อีกเล่มในซีรี่ส์ “เจ้าพ่อ เจ้าเมือง เจ้าแม่ “ ซึ่งเจ้าแม่ พี่สาวของเจ้าพ่อ นำข้าพเจ้ากลับบ้านนาไปยังทุ่งทองและชีวิต ณ ริมแม่น้ำนครชัยศรีอีกครั้ง ในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงระหว่างที่ญี่ปุ่นบุกประเทศไทย กรุงเทพฯ ซึ่งเต็มไปด้วยการระลึกถึงความรักแต่หนหลังและเรื่องราวอดีตของเจ้าแม่ในเจ้าพ่อที่เคยรุ่งเรืองจนเปลี่ยนแปลงมาสู่อีกรุ่นสู่รุ่น ขณะเดียวกันความรักก็ผลิบานเต็มท้องทุ่งของรุ่นใหม่อีกรุ่น

“แม่มาดตะเคียน เอ๋ย นี่ก็เจียนจะค่ำ
พระสูริยาตกต่ำ...รำไร
เจ้ามาลอยลำอยู่ตรงนี้...คือว่าเจ้าคอยพี่หรือคอยใคร...” ,น. ๒๐๐

แม้ว่าทุ่งทองจะเงียบเหงาลงไปอย่างมาก แต่ยังคงโอบล้อมไว้ด้วยชีวิตของผู้คนริมน้ำ ท้องทุ่งชนบท บทเพลงกลอน อีแซว ยี่เก....และความรักของหนุ่มสาว เรื่องใหม่ๆ ที่เจ้าแม่นำวิถีแห่งกรุงเทพฯ มาสู่บ้านนอกแล้ว การให้ความสำคัญแก่การศึกษาเป็นเรื่องสมัยใหม่โดยเฉพาะแก่หญิงสาว การกลับมาของเจ้าแม่ ทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นนิสัย ใจคอ การประพฤติปฏิบัติตนอย่างลึกซึ้งของการเป็นเจ้าแม่ ซึ่งนั้นไม่เพียงแต่เป่ามนต์ให้ทุ่งทองกลับมาเรืองรองอีกครั้งแต่ยังถ่ายทอดสร้างเจ้าแม่รุ่นต่อไปแห่งศรีทุ่งทอง

“ปิดตาไม่มิด อสรพิษเข้าตา
พ่อแม่ทำนา ได้ข้าวเม็ดเดียว...” ,น. ๒๓

คำ ของภาษาและรายละเอียดบรรยากาศวิถีชีวิตทำให้เจ้าแม่งดงาม

"บางระกำ ลำพระยา บางปลา สองพี่น้อง บางประม้า เก้าห้อง ลอยละล่องขึ้นสุพรรณ"

ลองหาอ่านดูครับ 🙂 #เจ้าแม่ #อาจินต์ปัญจพรรค์ #เจ้าพ่อเจ้าเมืองเจ้าแม่ สำนักพิมพ์ : #มติชน #อ่าน #อ่านไปเรื่อยๆ #อ่านไปฟังไป #IntoTheBook #อ่านอีก #หนังสือ #ReadAgain #อ่านอีกครั้ง #BooksBAR #AtTheReader #กลินท์แลนด์ #KlinLand #กลินท์และหนังสือ #KlinAndBooks #อ่านในใจ #อ่านเพลิน #ThaiReader #ณอ่านTheReaderTheKlinLibrar Official Page : ณ อ่าน The Reader- The Klin Library
Profile Image for van1998.
379 reviews4 followers
November 6, 2021
ช่วงแรกขัดใจกับความรักต้องห้าม(ระหว่างลูกพี่ลูกน้อง) แต่ก็อ่านต่อ เพราะเราจะไม่มีวันรู้เลยว่าคนแต่งต้องการสื่ออะไรจนกว่าจะอ่านจบ ซึ่งก็โอเคกับทางลงความรักต้องห้ามครั้งนี้, ประพิมฉลาดในการตอบคำถามแม่ผาด ส่วนบรรเจิดก็รู้ตัวเร็วว่านิสัยเข้ากันไม่ได้ ตัดใจแล้วก็ไม่แทงกั๊ก

ประเด็นความรักระหว่างลูกพี่ลูกน้อง : มุมหนึ่ง ในอดีตค่านิยมยุคนั้นก็แต่งงานกันได้ เพราะไม่ใช่สืบเชื้อสายตรง, แต่อีกมุมหนึ่ง มันผิดศีลธรรมในสายตาคนปัจจุบัน — คำถามคือ เราควรใช้สายตาไหนในการตัดสินตัวละคร สายตาที่เราอ่านปัจจุบัน หรือสายตาอดีตที่เป็นเซ็ตติ้งของนิยาย. — เอาประเด็นนี้ไปคุยกับเพื่อน ส่วนมากก็ตอบว่ารับไม่ได้กับความรักแนวนี้ คือเพื่อนก็เลือกใช้สายตาปัจจุบันมากกว่า

อีกประเด็นคือ ช่วงแรกแม่ผาดส่งเสริมให้ประพิมหลานตัวเองได้เรียนหนังสือสูงๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางกับค่านิยมคนยุคนั้น ว่าผู้หญิงไม่ต้องเรียนเยอะแค่แต่งงานดูแลลูกผัวได้ก็พอ, แต่ช่วงกลางเรื่อง กลับโค้งหักศอก ไม่ให้เรียนวิชาการแล้ว ค้าขายดีกว่า ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไรเพราะตัวประพิมก็ไม่ได้อยากเรียนอยู่แล้ว และสภาวะช่วงเวลานั้นการทำค้าขายน่าจะเป็นทางที่รุ่งกว่า แต่เรารู้สึกไปไม่สุดยังไงไม่รู้ — ความเห็นเรา ถ้ายังคงเส้นเรื่องเดิมไว้ แต่ยังไปสุดได้คือขยายเส้นเรื่อง สมมติแต่งให้มีตัวละครหญิง 2 ตัว ตัวนึงเลือกเส้นทางค้าขายตามสภาวการณ์ส่งเสริม ส่วนอีกตัวนึงเลือกเรียนวิชาการสูงๆ ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงก็เป็นผู้นำเป็นคนใช้เหตุผลทางวิชาการได้ น่าจะสนุกมีสีสันและประเด็นสังคมชัดเจนกว่านี้

ใดๆก็ตามประทับใจกับสำนวนบรรยาย และการเก็บรายละเอียดข้อมูลยุคนั้นมาเขียนได้ดี
This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for Bannarot.
86 reviews5 followers
March 1, 2023
2.5/5 ด้วยความที่เป็นเล่ม spin off ที่เราเรื่องของแม่ผาดกับรุ่นลูกของเจ้าพ่อพรหมเรื่องเลยไม่ได้หวือหวา ไม่ได้มีตัวละครใน 2 เล่มแรกมามีบทบาทเท่าไหร่นัก หลายตอนจะเขียนให้ข้อมูลวนไปมาเพราะด้วยความที่เคยลงพิมพ์เป็นตอนในนิตยสารทำให้มีการเท้าความตัวละคร/wrap up เรื่องบ่อย ๆ ตัวโครงเรื่องไม่ค่อยเดิน

เสียดายตัวละครประพิมที่ดูมีความเป็นไปได้ที่จะเขียนให้หวือหวาหรือจัดจ้านกว่านี้ได้อีกมาก--กลับกันตัวละครแม่ผาดในเรื่องนี้เหมือนกลายเ้นป้าแก่คนหนึ่ง ความมีอำนาจที่นักเขียนเคยเขียนให้มีกลับหมดไป อาจจะเพราะ pov ที่เล่าใช้ตัวละครแม่ผาดเล่าเองด้วยแหละ ความรู้สึกนึกคิดมันเลยออกมาแบบดาษ ๆ
Displaying 1 - 5 of 5 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.