ดินสอ สีไม้1,070 reviews178 followersFollowFollowMarch 29, 2019นั่งนึกอยู่ตั้งนานภาษาก็ไพเราะ ความรู้ก็แน่น พล็อตก็โอเคแต่ไม่รู้ทำไมเราไม่ชอบมันเท่าที่ควรบางทีอาจเป็นเพราะตรรกะผิดยุคสมัยเมื่อสังคมเปลี่ยนไป เราจึงมองค่านิยมเก่าๆ บิดเบี้ยวไปแล้วมันก็คอยค้านอยู่ในใจ ทำให้อ่านไม่สนุกเอาเสียเลย2019 thai
Faraway S.15 reviewsFollowFollowDecember 19, 2025ภาษาสวยมาก ตามแบบฉบับนักเขียนรุ่นใหญ่ นักเขียนเก่า ๆ มักมีท่วงทำนองภาษาที่เด่นชัดและเต้นระบำอยู่ในสุนทรียรมณ์ของผู้อ่านเสมอ ปีนี้อยากอ่านงานนักเขียนไทยเยอะ ๆ เลือกหยิบมาโดยไม่คาดหวังนัก เพราะปกติใคร่อ่านวรรณกรรมแปล ค่อนข้างเสพติดภาษานมเนย แต่การกลับมาเปิดใจแสวงหาวรรณกรรมไทยทำให้ได้รับรสใหม่ วรรณศิลป์และการร้อยเรียงทำให้อ่านเพลินไปยาว ๆ โดยไม่รู้สึกเบื่อ ชอบมาก แต่ไม่ได้อินกับความเป็น 'เจ้าแม่' เท่าไรนัก กอปรกับตรรกะแบบโลกเก่า เช่น1. การเสียสละเพื่อยกย่องชายชาตรีในระบบเก่า-ปลัดหนุ่มวัยอ่อนกว่า รักชอบกัน ได้เสียกันจนผู้หญิงตั้งท้อง แต่ผู้หญิงกลับหอบท้องหนีไปเมืองกรุงเพื่อรักษาชื่อเสียงของปลัดหนุ่มไม่ให้เปื้อนราคี 2. เรื่องชาติกำเนิด-เพราะเป็นลูกสาวกำนัน จึงมีเมตตาธรรมของนักปกครอง... ส่วนตัวคิดอยู่ตลอดว่าไม่ใช่นักปกครองทุกคนจะรู้จักเมตตาธรรม และหญิงมากมายก็กล้าหาญชาญชัยได้โดยไม่ขึ้นอยู่กับชาติกำเนิด แม้จะมีสิ่งที่เรียกว่าโอกาสและชนชั้นทางสังคมไว้แบ่งแยกคน เมตตาธรรมก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกนักปกครองจะเรียนรู้ได้เท่านั้น แต่ก็เข้าใจได้ เพราะภูมิหลังตัวละครมันเกี่ยวเนื่องมาอย่างนั้น เขาเล่าชีวิตของลูกสาวกำนัน ไม่ใช่ชีวิตของคนที่ไม่ใช่ลูกสาวกำนัน 55555อีกอย่างคือ คำว่า 'สัจธรรม' ทำให้เรานั่งตรองอยู่นาน สัจธรรมอันขึ้นอยู่กับค่านิยมของยุคสมัยล้วนผันแปรไปทั้งสิ้น สัจธรรมของโลกเก่ากับโลกสมัยใหม่ไม่เหมือนกันหรอก ในมุมเรา มองว่าสัจธรรมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เว้นแต่เป็นสัจธรรมอันเป็นของไม่เที่ยง ไม่จีรังอย่างการพรากจาก ความตาย และการล่มสลายของบางสิ่งน่ะนะ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน มันก็ไม่เปลี่ยน ยังจริงแท้อยู่เช่นนั้นเองแต่ถึงเรื่องนี้จะมีตรรกะความคิดชุดเก่า (เช่น ผู้หญิงโตเกินเรียนแล้ว ไม่ต้องเรียนหนังสือ ให้ทำกับข้าว เรียนรู้เรื่องงานบ้านงานเรือนดีกว่า อันนี้ไม่เห็นด้วย ยิ่งเป็นคำพูดที่ออกมาจากตัวละครเจ๊ก—ชายจีนโพ้นทะเลแล้ว มันก็นึกถึงปิตาธิแไตยเสียจริง) เราก็ประทับใจตัวละครแม่ผาดอยู่อย่างหนึ่ง คือไม่สนับสนุนให้น้องชายหากินด้วยบ่อนและโรงยาฝิ่น เพราะมันทำลายคน แต่อยากให้น้องชายปลูกโรงเรียน กระจายการศึกษาให้คนในชุมชน จะได้บุญ ไม่ใช่ทำธุรกิจบาป แม้เราไม่ได้ยึดโยงบาปบุญมาผูกกับทุกมิติชีวิต แต่เราเห็นด้วยว่าไม่ควรสร้างฐานะให้ลูกหลานด้วย 'ของร้าย' ธุรกิจบ่อนพนันอาจทำให้ลูกหลานร่ำรวยมั่นคง แต่มันก็ทำลายลูกหลานคนอื่นย่อยยับ มันไม่ได้สรรค์สังคมในทางที่ดี แต่ตอนจบรวบรัดไปหน่อย ประเด็นย่อยก็ไม่เคลียร์
Klin กลินท์230 reviews15 followersFollowFollowJune 14, 2020“มนุษย์อยู่กันไม่ถึง ๑๐๐ ปีก็ตาย แต่แม่น้ำนั้นยั่งยืนมาแล้วหลายร้อยปี มันจะเหือดแห้งไปก็เพราะเปลี่ยนทางเดินไปหาเส้นทางใหม่ ทิ้งเส้นทางเดิมให้ตื้นเขิน กลายเป็นทางรกทางเกวียน ชะตาชีวิตของคนเราผันแปรไปตาม ‘กรรม’ คือการกระทำของเขาเอง...และการกระทำ-กรรมของคนในยุคนี้ รุ่นนี้ ก็จะก่อให้เกิดผลดีหรือผลร้ายแก่ชีวิตลูกหลานรุ่นต่อไป...” ,น. ๓๔๐… เรือเมล์ก็เลิกบริการไป ๒๐-๓๐ ปีแล้ว ในแม่น้ำยังมีแต่คนหยกปลาและเรือผีหลอก…ของเก่าจะไม่หวนกลับมาอีกแล้ว กงล้อของกาลเวลาก็บดทับของเก่าจมดินอ่าน/2563 กับ “เจ้าแม่” งานของ “อาจินต์ ปัญจพรรค์” อีกเล่มในซีรี่ส์ “เจ้าพ่อ เจ้าเมือง เจ้าแม่ “ ซึ่งเจ้าแม่ พี่สาวของเจ้าพ่อ นำข้าพเจ้ากลับบ้านนาไปยังทุ่งทองและชีวิต ณ ริมแม่น้ำนครชัยศรีอีกครั้ง ในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงระหว่างที่ญี่ปุ่นบุกประเทศไทย กรุงเทพฯ ซึ่งเต็มไปด้วยการระลึกถึงความรักแต่หนหลังและเรื่องราวอดีตของเจ้าแม่ในเจ้าพ่อที่เคยรุ่งเรืองจนเปลี่ยนแปลงมาสู่อีกรุ่นสู่รุ่น ขณะเดียวกันความรักก็ผลิบานเต็มท้องทุ่งของรุ่นใหม่อีกรุ่น“แม่มาดตะเคียน เอ๋ย นี่ก็เจียนจะค่ำพระสูริยาตกต่ำ...รำไรเจ้ามาลอยลำอยู่ตรงนี้...คือว่าเจ้าคอยพี่หรือคอยใคร...” ,น. ๒๐๐แม้ว่าทุ่งทองจะเงียบเหงาลงไปอย่างมาก แต่ยังคงโอบล้อมไว้ด้วยชีวิตของผู้คนริมน้ำ ท้องทุ่งชนบท บทเพลงกลอน อีแซว ยี่เก....และความรักของหนุ่มสาว เรื่องใหม่ๆ ที่เจ้าแม่นำวิถีแห่งกรุงเทพฯ มาสู่บ้านนอกแล้ว การให้ความสำคัญแก่การศึกษาเป็นเรื่องสมัยใหม่โดยเฉพาะแก่หญิงสาว การกลับมาของเจ้าแม่ ทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นนิสัย ใจคอ การประพฤติปฏิบัติตนอย่างลึกซึ้งของการเป็นเจ้าแม่ ซึ่งนั้นไม่เพียงแต่เป่ามนต์ให้ทุ่งทองกลับมาเรืองรองอีกครั้งแต่ยังถ่ายทอดสร้างเจ้าแม่รุ่นต่อไปแห่งศรีทุ่งทอง “ปิดตาไม่มิด อสรพิษเข้าตาพ่อแม่ทำนา ได้ข้าวเม็ดเดียว...” ,น. ๒๓คำ ของภาษาและรายละเอียดบรรยากาศวิถีชีวิตทำให้เจ้าแม่งดงาม"บางระกำ ลำพระยา บางปลา สองพี่น้อง บางประม้า เก้าห้อง ลอยละล่องขึ้นสุพรรณ"ลองหาอ่านดูครับ 🙂 #เจ้าแม่ #อาจินต์ปัญจพรรค์ #เจ้าพ่อเจ้าเมืองเจ้าแม่ สำนักพิมพ์ : #มติชน #อ่าน #อ่านไปเรื่อยๆ #อ่านไปฟังไป #IntoTheBook #อ่านอีก #หนังสือ #ReadAgain #อ่านอีกครั้ง #BooksBAR #AtTheReader #กลินท์แลนด์ #KlinLand #กลินท์และหนังสือ #KlinAndBooks #อ่านในใจ #อ่านเพลิน #ThaiReader #ณอ่านTheReaderTheKlinLibrar Official Page : ณ อ่าน The Reader- The Klin Library
van1998379 reviews4 followersFollowFollowNovember 6, 2021ช่วงแรกขัดใจกับความรักต้องห้าม(ระหว่างลูกพี่ลูกน้อง) แต่ก็อ่านต่อ เพราะเราจะไม่มีวันรู้เลยว่าคนแต่งต้องการสื่ออะไรจนกว่าจะอ่านจบ ซึ่งก็โอเคกับทางลงความรักต้องห้ามครั้งนี้, ประพิมฉลาดในการตอบคำถามแม่ผาด ส่วนบรรเจิดก็รู้ตัวเร็วว่านิสัยเข้ากันไม่ได้ ตัดใจแล้วก็ไม่แทงกั๊กประเด็นความรักระหว่างลูกพี่ลูกน้อง : มุมหนึ่ง ในอดีตค่านิยมยุคนั้นก็แต่งงานกันได้ เพราะไม่ใช่สืบเชื้อสายตรง, แต่อีกมุมหนึ่ง มันผิดศีลธรรมในสายตาคนปัจจุบัน — คำถามคือ เราควรใช้สายตาไหนในการตัดสินตัวละคร สายตาที่เราอ่านปัจจุบัน หรือสายตาอดีตที่เป็นเซ็ตติ้งของนิยาย. — เอาประเด็นนี้ไปคุยกับเพื่อน ส่วนมากก็ตอบว่ารับไม่ได้กับความรักแนวนี้ คือเพื่อนก็เลือกใช้สายตาปัจจุบันมากกว่าอีกประเด็นคือ ช่วงแรกแม่ผาดส่งเสริมให้ประพิมหลานตัวเองได้เรียนหนังสือสูงๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางกับค่านิยมคนยุคนั้น ว่าผู้หญิงไม่ต้องเรียนเยอะแค่แต่งงานดูแลลูกผัวได้ก็พอ, แต่ช่วงกลางเรื่อง กลับโค้งหักศอก ไม่ให้เรียนวิชาการแล้ว ค้าขายดีกว่า ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไรเพราะตัวประพิมก็ไม่ได้อยากเรียนอยู่แล้ว และสภาวะช่วงเวลานั้นการทำค้าขายน่าจะเป็นทางที่รุ่งกว่า แต่เรารู้สึกไปไม่สุดยังไงไม่รู้ — ความเห็นเรา ถ้ายังคงเส้นเรื่องเดิมไว้ แต่ยังไปสุดได้คือขยายเส้นเรื่อง สมมติแต่งให้มีตัวละครหญิง 2 ตัว ตัวนึงเลือกเส้นทางค้าขายตามสภาวการณ์ส่งเสริม ส่วนอีกตัวนึงเลือกเรียนวิชาการสูงๆ ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงก็เป็นผู้นำเป็นคนใช้เหตุผลทางวิชาการได้ น่าจะสนุกมีสีสันและประเด็นสังคมชัดเจนกว่านี้ ใดๆก็ตามประทับใจกับสำนวนบรรยาย และการเก็บรายละเอียดข้อมูลยุคนั้นมาเขียนได้ดีThis entire review has been hidden because of spoilers.
Bannarot86 reviews5 followersFollowFollowMarch 1, 20232.5/5 ด้วยความที่เป็นเล่ม spin off ที่เราเรื่องของแม่ผาดกับรุ่นลูกของเจ้าพ่อพรหมเรื่องเลยไม่ได้หวือหวา ไม่ได้มีตัวละครใน 2 เล่มแรกมามีบทบาทเท่าไหร่นัก หลายตอนจะเขียนให้ข้อมูลวนไปมาเพราะด้วยความที่เคยลงพิมพ์เป็นตอนในนิตยสารทำให้มีการเท้าความตัวละคร/wrap up เรื่องบ่อย ๆ ตัวโครงเรื่องไม่ค่อยเดินเสียดายตัวละครประพิมที่ดูมีความเป็นไปได้ที่จะเขียนให้หวือหวาหรือจัดจ้านกว่านี้ได้อีกมาก--กลับกันตัวละครแม่ผาดในเรื่องนี้เหมือนกลายเ้นป้าแก่คนหนึ่ง ความมีอำนาจที่นักเขียนเคยเขียนให้มีกลับหมดไป อาจจะเพราะ pov ที่เล่าใช้ตัวละครแม่ผาดเล่าเองด้วยแหละ ความรู้สึกนึกคิดมันเลยออกมาแบบดาษ ๆ thai-novel