- เบ๊นจบภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ - เบ๊นเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ลุงบุญมีระลึกชาติ ของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล - เบ๊นเขียนหนังสือกับสำนักพิมพ์ a book - เบ๊นมาเรียนต่อที่ School of Visual Arts, New York ได้ปีกว่าๆแล้ว - เบ๊นออกไปถ่ายรูปบ้างบางโอกาส
FULL-TIME DIRECTOR, PART-TIME LOSER. คือหนังสือที่คุณเบนซ์ ธนชาติได้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ในช่วงต่าง ๆ ของชีวิตคนสายฟิล์ม ตั้งตอนเป็นนักศึกษาจบใหม่หางานทำ ผู้ช่วยผู้กำกับ นักศึกษาปริญญาโทสาย Photography, Video and Related Media ใน New York ไปถึงผู้กำกับอย่างเต็มตัวใน SALMON HOUSE และเพิ่มเติมคือการเป็นคนดูแลอดีตดารา Hollywood ดังนั้นแล้วตลอด 12 บท ในหนังสือเล่มนี้เราจะเห็นเรื่องราวหลังกล้องในแวดวงภาพยนตร์ ที่น่าติดตาม (เพราะเราไม่รู้มาก่อนเลยแม้จะชอบดูหนัง) โดยเฉพาะการที่มันถูกเขียนขึ้นโดยสำบัดสำนวนนักเขียนอย่างคุณเบนซ์ ที่ฮามาก ฮาจนวายวอดเหมือนกับเรื่องที่คุณเบนซ์เจอในกองถ่าย ฮา . ตอนแรกเราก็คิดเหมือนกันว่าจะไม่อินกับหนังสือเล่มนี้เพราะมันดูไปเกี่ยวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์เลย แต่สุดท้ายคืออ่านจยวางไม่ลง น่าจะเป็นด้วยความที่อยากรู้เรื่องเบื้องหังสิ่งที่เราชอบเสพและอยากรู้ว่าเวลาเจอปัญหาวายปวง ๆ ยังงี้เขาจะทำยังไงกันนะ ถ้าใครอยากหาหนังสือเกี่ยวกับการทำงานที่สั้น ๆ ฮา ๆ (มากกก) เราขอแนะนำหนังสือรวมความอิบอ้ายในกองถ่าย (และสถานที่อื่น) เล่มนี้เลย !!! . [เปิดเผยเนื้อหาในหนังสือบางส่วน] โฆษณาหนึ่งของ Salmon House ที่เราชอบมากคือโฆษณา ‘เป็นวัยรุ่น ต้องออกไปมันส์ดิวะ’ ที่ทำมาจิกกัดพวกโฆษณาส่วนมากที่มักจะโชว์ให้เห็นว่าวัยรุ่นต้องทำอะไรบ้า ๆ โลดโผด ๆ ออกนอกกรอบออกนอกกฎถึงจะเป็นวัยรุ่น โดยตอนจบของโฆษณานี้สื่อให้เห็นว่าการแสดงออกของตัวเรามันก็อยู่ที่ความชอบของตัวเราสิวะ อย่าสาระแนมากำหนดสิ่งที่คนอื่นควรทำ ต้องบอกว่าเราโคตรชอบ โคตรอิน เพราะตอนเรียนมัธยมปลายเราโดนเพื่อนมาพูดว่าใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยเพียงเพราะเราไม่ทำอะไรที่มันบ้า ๆ โลดโพนๆ หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือเราไม่ได้ทำตามมัน โฆษณาตัวนี้เลยเหมือนพูดสิ่งที่เรารู้สึกออกไปจริง ๆ ละมีบทหนึ่งในหนังสือก็พูดถึงโฆษณาตัวนี้ ละตอนจบของบทพี่เบนซ์เขาก็เอาโฆษณาไปให้น้องในบริษัทดูเพราะอยากรู้ feedback ปรากฏว่าหลังน้องดูจ น้องร้องไห้เพราะน้องเคยไปหาจิตแพทย์เนื่องจากคิดว่าตัวเองไม่ปกติเหมือนคนอื่นที่ชอบทำอะไรเห้ว ๆ เย้ว ๆ แบบในโฆษณาภาพจำวัยรุ่นส่วนมาก สุดท้ายแล้วน้องเขาก็บอกเช่นกันว่าในที่สุดมีคนพูดแทนเขาแล้ว :)
. ปล. 1 ถ้าใครอ่าน New York 1st Time มาแล้ว เล่มนี้เป็นเหมือน spin off ได้อยู่ ส่วนใครยังไม่เคยอื่นก็จะอ่านได้อย่างสนุกขึ้นแน่นอน ! ส่วนใครยังไม่มีอ่านจบก็ไปซื้อกันนะครับ !! ปล. 2 พวกบทที่เขียนเกี่ยวกับงานโฆษณาของ Salmon House พอเราอ่านจบบทเราก็ชอบไปดูคลิปโฆษณาต่อเลย มันจะอินมากก
This entire review has been hidden because of spoilers.
I bought a paperback version from a local bookstore in Thailand. The cover is quite attractive and the book is not big. So, I can carry it around and read it when I am outside my home.
In the first place, I have no expectations but It did give me a glimpse of a director's life and the difficulty at work. Ben told the story about himself from being a student at Thammasat University until he join Salmon Studio.
The story is unique and told in a casual tone which sometimes makes me laugh. He wrote about projects in the past, Why they happened and What is the concept or idea behind them.
ได้เห็นมุมมองของคนทำภาพยนตร์ซึ่งเป็นอะไรที่ค่อนข้างไกลตัวในความรู้สึกแรก แต่พออ่านไปก็รู้สึกว่าเข้าถึงได้ง่ายด้วยการดำเนินเรื่อง การใช้ภาษา และคอนเซปต์ของการแก้สารพัดปัญหาในชีวิตการทำงาน คุณเบนซ์ใช้ภาษาเรียบง่าย ตลกโปกฮา สัมผัสได้ถึงเอกลักษณ์ของคนสตู salmon house อย่างที่ได้เห็นผ่านตาตามสื่อ อ่านแล้วขำไปด้วยแทบตลอดเล่ม และยิ่งได้อรรถรสเมื่อเปิดยูทูปดูผลงานตามไปด้วย และทำให้อยากอ่าน New York first time ต่อ
I actually enjoy reading the stories without no interest in filming thing. I found it interesting how Khun Benz get through things. It's not how he solve it in details but I love his humour and how he keeps the scenes going. This is the second book wrote by him that I read. Definitely will find his next one but need to take a break as I'm scared I will get bored of his jokes lol.