Jump to ratings and reviews
Rate this book

ล่า

Rate this book
“คนที่ไม่เคยขมขื่นจากการถูกข่มเหงรังแก จะไม่มีพิษร้ายตกตะกอนอยู่ในหัวใจ คนเหล่านั้นจะอ้างถึงเมตตาธรรม การกลับตัวกลับใจได้ร้อยแปด จนกว่าเขาจะรู้รสแห่งความขมขื่น นั้นเขาจึงจะรู้ว่า…เขาต้องการเห็นการตอบแทนที่สาสมอย่างไร” ล่าเป็นบทประพันธ์หนึ่งในจำนวนหลายเรื่องของทมยันตีที่มีเนื้อหาปลอบประดลมหัวใจและซับน้ำตาให้กับลูกผู้หญิงด้วยกัน แม้โครงเรื่องจะแตกต่างไปจาก รอยมลทิน,โซ่สังคม,อันธการ,เพลงชีวิต หรือบาป แต่การถามหาความยุติธรรมระหว่างชีวิตต่อชีวิต ระหว่างเพศต่อเพศ และระหว่างกันต่อกัน รวมทั้งภารกิจของคนเป็นแม่ ภาระหนักของลูกผู้หญิง ก็ยังปรากฏชัดดุจเป็น “เลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน” ของบทประพันธ์เหล่านี้ ถ้อยคำอันเป็นเหตุเป็นผลจนเป็น “วิถีแห่งการล่า” ผู้ที่ไม่ขมขื่นย่อมยากจะรู้รสชาติแห่งความขมขื่น นั้น ย่อมเป็นสัจจะข้อหนึ่ง ผู้ที่ “อดทนสูง” ก็ย่อม “ทน” ต่อรสแห่งความขมขื่นได้สูงกลืนความขมขื่นย้อนคืนสู่หัวใจ…และให้มันสงบนิ่งอยู่อย่างนั้นและ “มนุษย์ที่เป็นแม่” นั้น เป็น…และเป็นได้ยิ่งกว่านั้น ยอม…และยอมเป็นผู้ถูกกระทำเพื่อลูก รัก…และรักลูกยิ่งกว่าชีวิตตัวเสียอีก เมื่อครั้งนี้ ผู้ถูกกระทำคือ ลูก! หากวันนี้ ผู้ที่ยับเยินเป็นซากไร้ชีวิตคือ…สิ่งอันรักยิ่งกว่าหัวใจตัวเอง ครั้งนี้ วันนี้…”เธอจึงต้องการเห็นการตอบแทนที่สาสม” ใครจะ “วิ่ง” ยังไงก็ตามทีเถิด แต่…ฉันกำลังเล่นเกมของฉัน เกม…ที่จะไม่ยอมให้ใครวิ่งหนีออกไปจากแวดวงได้เลยสักคนเดียว เรา…แม่ลูก…เคยวิ่งหนีชีวิตตลอดมา เราเคยแต่เป็นเหยื่อสำหรับถูกล่า ทว่า…บัดนี้…ฉันจะเปลี่ยนมาเล่นข้างเป็นฝ่าย “ล่า” บ้าง ยุติธรรมดีมิใช่หรือ เพราะกีฬาทุกชนิดย่อมมีการเปลี่ยนข้าง มีแพ้ มีชนะ และแม่รุ่งฤดีอีกแหละ ที่สัญญากับฉันว่า… “คราวนี้เราชนะ ได้ยินไหม…คราวนี้เราจะชนะ” ยุติธรรม ฤาอยุติธรรม กระบวนการยุติธรรมทั้งหลายตอบข้า!

360 pages, Paperback

First published January 1, 1977

46 people are currently reading
629 people want to read

About the author

ทมยันตี

107 books139 followers
ทมยันตี เป็นนามปากกาของ คุณหญิงวิมล เจียมเจริญ เกิดที่กรุงเทพมหานคร บิดาเป็นทหารเรือ ส่วนเชื้อสายทางมารดาเคยเป็นชาววัง วิมลศึกษาชั้นประถมปีที่ 1 ถึงมัธยมปีที่ 8 ที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ จากนั้นเข้าศึกษาต่อคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ภายหลังเปลี่ยนมาเรียนคณะพณิชยศาสตร์และการบัญชี จนจบอนุปริญญา วิมลสมรสครั้งแรกกับ นายสมัคร กล่ำเสถียร และได้หย่าขาดจากกัน ต่อมาสมรสกับ ร.ต.ท.ศรีวิทย์ เจียมเจริญ (ยศขณะนั้น) มีบุตรด้วยกัน 3 คน และต่อมาได้เลิกร้างกัน และวิมลได้ฟ้อง พ้นตำรวจเอกศรีวิทย์ เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเป็นคดีความยืดเยื้อกันไปถึงสามศาล

ขณะเรียนในชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปสมัครเป็นครูสอนวิชาภาษาไทยโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ เมื่อโรงเรียนรับสมัครเข้าเป็นอาจารย์ จึงลาออกจากธรรมศาสตร์ โดยระหว่างสอนหนังสือก็ได้เขียนหนังสือไปพร้อมกันด้วย

หลังจากเป็นแกนนำสำคัญของชมรมแม่บ้านโจมตีขบวนการนักศึกษาในเหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 วิมลได้เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน และต่อมาในปี พ.ศ. 2520 ได้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, ปี พ.ศ. 2522 เป็นสมาชิกวุฒิสภา, และปี พ.ศ. 2527 ได้เป็นผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ

นอกจากจะมีความสามารถในการเขียนแล้ว ทมยันตียังเคยมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่นิยมอย่างสูงในฐานะนักพูด แนวการพูดของทมยันตี คือโน้มนำให้ประชาชนรักชาติ เสียสละเพื่อชาติ และมีความยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 วิมลมีบทบาทเป็นแกนนำสำคัญของชมรมแม่บ้าน ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของภรรยาข้าราชการ ภรรยานายพล และแม่บ้าน มีบทบาทโจมตีขบวนการนักศึกษาว่าเป็นผู้บ่อนทำลายมิตรประเทศ (สหรัฐอเมริกา) [1] ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว วิมลได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน

งานเขียนครั้งแรก

วิมลเริ่มเขียนเรื่องสั้นเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี ขณะเรียนอยู่ชั้นม. 4 ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร ศรีสัปดาห์ และได้เขียนเรื่องสั้นต่อเนื่องอยู่ถึง 11 ปี ขณะที่เริ่มเขียนเรื่องยาวเรื่องแรกคือเรื่อง ในฝัน เมื่ออายุ 19 ปี ใช้นามปากกา โรสลาเรน ตีพิมพ์ในนิตยสารศรีสัปดาห์ วิมลเขียนเรื่องสั้นและนวนิยายจนอายุ 70 ปีจึงเลิกเขียน

นามปากกา 5 ชื่อ ได้แก่

1. โรสลาเรน
เป็นนามปากกาแรก เทียบคำในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "กุหลาบราชินี" ใช้เขียนเรื่องรักพาฝันหรือจินตนิยาย

2. ลักษณวดี
ใช้สำหรับเขียนนวนิยายรัก ส่วนใหญ่เป็นเนื้อหาของเหล่าเจ้าหญิงเจ้าชาย

3. กนกเรขา
ใช้สำหรับแต่งเรื่องตลกเบาสมอง แต่ที่สร้างชื่อเสียงให้มากที่สุดคือ

4. ทมยันตี
นามปากกาที่ใช้แต่งเรื่องราวที่สะท้อนชีวิตและสังคม รวมทั้งแต่งเรื่องแนวจิตวิญญาณ

5. มายาวดี
ใช้เขียนเรื่องเกี่ยวกับศาสตร์แห่งเทวะ หรือเรื่องเล่าจากตำนาน

แม้ไม่ปรากฏว่างานเขียนของทมยันตีเคยได้รับรางวัลสำคัญ แต่เป็นที่ยอมรับทั่วไปว่าทมยันตีถือเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ มีผลงานได้รับความนิยมอย่างสูงเป็นจำนวนมาก เหตุผลที่ไม่มีผลงานของทมยันตีได้รับรางวัลทางวรรณกรรมใด ๆ นั้น เป็นเพราะทมยันตีไม่ประสงค์ให้นำผลงานของตนไปส่งประกวด และปฏิเสธการรับรางวัลทั้งปวง ทมยันตีได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ฉันเคยได้รับรางวัลจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ มาแล้ว นั่นคือรางวัลสูงสุดในชีวิต จากนั้นไม่เคยอยากได้รางวัลใด ๆ อีกเลย” และในขณะนี้ ทมยันตีได้เริ่มลงมือเขียนเรื่อง 'จอมศาสดา' ซึ่งจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่ทมยันตีจะเขียนแล้ว จากนั้นทมยันตีจะหันหน้าเข้าสู่ความสงบใต้ร่มพระศาสนา

เกียรติยศที่ได้รับ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ วิมลได้รับเครื่องราชอิสริยาภาณ์ตริตาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือกและ ทุติยาภรณ์มงกุฎไทย ต่อมาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุตถจุลจอมเกล้า เป็น “คุณหญิง” เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2548

ผลงานรวมเล่ม

ในนามปากกา "ทมยันตี"

คู่กรรม, กษัตริยา, เถ้ากุหลาบ, กฤตยา, ใยเสน่หา, แม่ดอกสวะ, เมียน้อย, เวียงกุมกาม, ร่มฉัตร, รอยลิขิต, ยอดอนงค์, รักลวง, รักที่ต้องมนตรา, ราชาวดี, แก้วกัลยาของแผ่นดิน, แก้วกลางดง, มงกุฎหนาม, เจ้าแม่, โซ่สังคม, มณีร้าว, เทพบุตรสุดแสบ, แนวสุดท้าย, ใบไม้ที่ปลิดปลิว, แผลหัวใจ, เพลงชีวิต, วันที่รอคอย, สะพานดาว, สองชีวิต, สายรุ้ง, สำรองรัก, ศิวาลัย, สตรีหมายเลขหนึ่ง, สุริยวรรมัน, สุดหัวใจ, อย่าลืมฉัน, อันธการ, อตีตา, อธิราชา, ล่า, ไวษณวี, คำมั่นสัญญา, คู่กรรมภาคสอง, คุณหญิงนอกทำเนียบ, จิตา, จดหมายถึงลูกผู้ชาย, ชามี, ฌาน, ดาวเรือง, ดาวนภา, ตราบาป, ตะวันลา, ถนนสายหัวใจ, ทิพย์, นายกหญิง, นางเอก, บาป, ประกาศิตเงินตรา, พิเธีย, พี่เลี้ยง, พิษสวาท, ทวิภพ, คลื่นชีวิต, รายากุนิง

ในนามปากกา "โร

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
79 (57%)
4 stars
30 (21%)
3 stars
12 (8%)
2 stars
6 (4%)
1 star
11 (7%)
Displaying 1 - 8 of 8 reviews
Profile Image for LookPla.
255 reviews27 followers
September 1, 2015
มธุสร มธุกร แม่ลูกผู้ต้องระหกระเหเร่ร่อนออกมาจากบ้าน เพราะเลิกราหย่าขาดจากสามี
บ้านที่เธอหาได้ ไม่ได้ดีนัก เพราะด้วยกำลังทรัพย์ที่ขาดแคลน
บ้านที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าอภิรมย์ มีทั้งชาวบ้านที่ชอบสอดรู้สอดเห็น
แก๊งค์เด็กวัยรุ่นที่มักลักเล็กขโมยน้อยและค้ายา
วันนึงเมื่อแก๊งค์เถื่อนพวกนี้โยนยาเสพติดเข้ามาในบ้าน เพราะวิ่งหนีตำรวจ
แม่ลูกตัดสินใจเอาห่อยาไปส่งให้ทางการ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ตำรวจจับตัวได้ แต่ไม่นานก็ต้องปล่อยไป พวกมันเลยวางแผนล้างแค้นแม่ลูกพลเมืองดี
แผนที่ฆ่าและทำร้ายทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของลูกผู้หญิง "ข่มขืน"
มธุสรรอดมาได้แบบสะบักสะบอม มธุกรรอดมาได้ แต่ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป
และเหมือนเคยตำรวจจับผู้ร้ายได้ แต่เอาผิดไม่ได้ทั้งหมด
แค้นนี้จึงต้องถูกชำระด้วยมือของคนเป็นแม่เอง

ต้องบอกว่าอ่านเรื่องนี้มาครั้งนึงเมื่อนานมากกกกกก พร้อมๆกับที่ละครเคยฉายเมื่อยุคนั้น
สินจัยเป็นมธุสร ทราย เจริญปุระเป็นมธุกร
เป็นนิยายของทมยันตีเรื่องแรกที่อ่านแล้วชอบ
ไม่ใช่ซาดิสต์ แต่ก็ซาดิสต์ แค่แอบรู้สึกตลอดเวลา
พวกคนที่ข่มขืนเค้า ไม่ควรได้รับการอภัยโทษ แต่ก็ไม่ควรตายแบบง่ายๆ ด้วยเช่นกัน
ผู้หญิงหนึ่้งคนที่ถูกกระชากวิญญาณออกทั้งเป็น ตายทั้งที่ยังหายใจได้
ผู้ร้ายควรได้รับคืนอย่างสาสม เจ็บร้อยเท่า ทรมานพันเท่่า ตายอย่างทรมานแสนสาหัส
อ่านเรื่องนี้แล้วแอบเชียร์มธุสรตลอดให้จัดการพวกมันได้สำเร็จ
อ่านไปก็ระทึกไปลุ้นไปว่ามารสังคมแต่ละตัวจะโดนจัดการด้วยวิธีไหนนะ มันสะใจดีแท้เมื่อเห็นจุดจบของพวกมัน
ตอนที่อ่านแล้วหลอนที่สุดน่าจะเป็นตอนจัดการ 2 ตัวสุดท้าย
ไอ้ย้ง ประโยคที่ทิ้งท้ายว่า "ฉะนั้นต่อไปภายหน้า ถ้าคุณเห็นมนุษย์ผู้ชายคลานไปตามถนน
ส่งภาษาใบ้ร้องขอความเมตตาด้วยประการใดประการหนึ่ง ขอให้รู้ไว้เถิดว่า
นั่นคือมัน ...ไอ้ย้ง ไอ้คนที่มีจิตเลวกว่าหมา"
โอยย อ่านตรงนี้แล้วขนลุก จำได้ว่าแต่ก่อนตอนอ่านถึงตรงนี้หลอนไปหลายวัน
ไปไหนมาไหนกลัวจะเจอผู้ชายคลานมากอ่ะ 5555
ส่วนเจ้าแป๊ว รายสุดท้าย หัวโจก นี่แอบผิดหวังเล็กๆ แหมม มันไม่น่าตายน่ะ
มันน่าจะอยู่อย่างทรมานแบบไอ้ย้งไปชั่วชีวิตด้วยอีกคน
ไม่ต้องตกใจ เค้าไม่ได้โหดขนาดนั้น แต่คดีแบบนี้ไม่ไหวจริงๆ
Profile Image for Chompoo Choti.
279 reviews29 followers
July 5, 2018
เรื่องราวของผู้ถูกกระทำของสองแม่ลูกที่ถูกข่มขืนและเมื่อความยุติธรรมไม่สามารถจัดการคนผิดได้เธอจึงต้องทวงคืนจากพวกทรชน 7 ชีวิตด้วยน้ำมือของเธอเอง การไล่ล่า การทวงความแค้นโดยวิธีการฆ่าและการทรมานหลายวิธีที่มธุรสมอบให้กับพวกนี้มันมีความรุนแรงสอดแทรกอยู่ มันคือความสะใจ มันคือสิ่งที่พวกนี้ต้องได้รับ เพราะมันทำสิ่งเหล่านี้กับคนที่เธอรักสุดหัวใจนั่นคือ ลูก

การอ่านล่าในครั้งนี้เป็นการอ่านครั้งที่ 2 หลังจากที่อ่านมานานมากจนระบุไม่ได้ว่าอ่านเมื่อไหร่ การอ่านตอนนั้นเราก็จับอารมณ์ไม่ได้ล่ะว่ารู้สึกยังไงแน่แต่มันก็คงเป้นเหมือนกับการอ่านนิยายในแนวแก้แค้นเมื่อไม่ได้รับความยุติธรรม นั่นคือความรู้สึกของการอ่านครั้งแรกที่คิดว่าน่าจะใช่ แต่ ณ วันนี้ได้กลับมาอ่านล่าใหม่อีกรอบ หลังจากที่ได้ดูล่าในเวอร์ชั่นเป็นละครของเอ็กแซกท์ไปเมื่อปี 2537 ที่ได้สินจัยมารับบทเป็นมธุสร และได้ ทราย เจริญปุระมารับบทเป็นน้ำผึ้ง แต่ว่าได้ดูละครไม่เต็มเรื่องไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอาจจะเพราะเรื่องราวมันโหดร้ายไปก็เลยไม่ได้ดูทั้งเรื่อง หลังจากนั้นหลายปีล่ะเลยได้อ่านเรื่องล่าเป็นครั้งแรกและก็ทิ้งร้างไปเลย


พอมารอบนี้ล่าได้รับการนำมาสร้างใหม่ 2560 สิ่งที่เหมือนเดิมคือนักแสดงคุณภาพแต่ขอโทษไม่ได้ดูค่ะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงไม่อยากดูเลยแต่คงเก็บไว้ก่อนต้องรอเวลา แต่คิดว่าคงได้อ่านเรื่องนี้อีกครั้ง และก็มาวันนี้ล่ะได้อ่านแล้วกับล่ากับคนอ่านที่วัยแก่ตัวขึ้นมีประสบการณ์บ่มเพาะมากขึ้นการอ่านล่าจึงเป็นอ่านที่เรารู้สึกอินในเรื่องราวได้มากแม้ว่าอาจจะมีสองสิ่งที่ดูคอนทราสกับการกระทำของตัวเองอย่างมธุสรในบางอย่างแต่เราก็ยังพอเข้าใจและมุ่งมั่นและมองสิ่งหนึ่งที่เราให้น้ำหนักมากกว่าสิ่งอื่นใดคือ “ความรัก” ที่เธอมีให้กับลูกสาว เป็นสิ่งเดียวที่เธอมี เป็นชีวิตและจิตใจของเธอ

ยอมรับเลยค่ะว่าเรื่องนี้หดหู่มาก ในหนังสือบรรยายและเขียนได้ไล่ระดับสุดๆ คนอ่านมีความเข้าถึงความรู้สึกของความรักที่ตัวเองอย่างมธุรสรักลูกมาก และเมื่อเกิดสิ่งที่เธอจะต้องใจสลายนั่นคือ ความเจ็บปวดของลูกและการตายจากกันทั้งๆ ที่อยู่มันเจ็บปวดมาก ความรู้สึกอยากแก้แค้นมันก็เลยมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนดูโหดร้ายทารุณ แน่นอนว่าคนอ่านอย่างเราก็อยากจะบอกแบบโลกสวยๆ เหมือนกันว่าการแก้แค้นหรือการตั้งศาลเตี้ยมันเป็นเรื่องสมควร แต่ในขณะเดียวกันจิตใต้สำนึกเรารู้ว่าแน่นอนเราแค้นและเราไม่สามารถนิ่งเฉยได้เมื่อคนที่รักโดยกระทำ เพราะแม่เคยพูดเสมอว่าใครทำลูกเค้าอย่างในเรื่องแม่ก็คงจะทำเหมือนกัน นั่นหมายถึงความรักของแม่มันคงเป็นแรงผลักดันให้การกระทำเลวร้ายเกิดขึ้นมาได้อย่างคาดไม่ถึงจริงๆ
Profile Image for Nattapan.
2,388 reviews77 followers
February 14, 2022
I read this book a long time ago, but have not forgotten what I felt when reading it. The content in this book is very dark and unrealistic, but it is undeniably a great one.
Profile Image for ดินสอ สีไม้.
1,070 reviews179 followers
July 8, 2015
ล่า .. เศร้า สลด หดหู่ และสาแก่ใจ
บางทีคนเลวแท้ๆ ในสังคมก็ต้องเจออะไรแบบนี้บ้าง
แม้ไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตจริง แต่เป็นแค่นิยายก็ยังดี
Profile Image for wrmstmooon.
37 reviews4 followers
July 28, 2017
ความพยาบาทเป็นของหวาน

ต้นเรื่องเล่าผ่าน ฉัน แทนตัวมธุสร และ ฉัน ก็ค่อยๆหายไป กลายเป็น แม่มธุสร และ แม่รุ่งฤดีไปในช่วงครึ่งหลัง รู้สึกว่าสำนวนของเรื่องนี้ห้วน สมตัวคนเล่า เรื่องค่อยๆเผยให้เห็นว่าทำไมมธุสรถึงตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ ทั้งไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเพื่อน หรือ ยอมรับข้อเสนอของเพื่อนร่วมงานที่เต็มใจช่วยและออกจะนิยมเธอไม่น้อย การหย่าทำให้เธอไม่อยากเชื่อใจใครอีก สังคมรอบตัวที่มีขยับทีนินทาที ยิ่งตอกย้ำให้มธุสรเห็นว่าพึ่งตัวเองน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด

อ่านไปหดหู่ไป ทั้งเคราะห์ที่สองแม่ลูกต้องเจอและความเปลี่ยนแปลงของตัวมธุสรเอง การเป็นรุ่งฤดีทำให้ไ���่หลงเหลือเค้ามธุสรคนเดิม แต่ในความโชคร้ายทั้งหมดทั้งมวล สิ่งดีๆในเรื่องคือเธอยังมีเพื่อนที่พร้อมช่วยเหลือเธออยู่บ้าง

เป็นอีกเล่มนึงที่อ่านจบเร็วมาก อยากรู้เรื่องแต่ให้ค่อยๆอ่านก็คงหน่วงๆ ไปเลย

Profile Image for Thananun   Jaruwijitranon.
1 review
February 4, 2018
หากใครที่ไม่สามารถหาซื้อหนังสือนิยายได้ แนะนำให้ไปที่แอป meb ค่ะเราสามารถซื้ออ่านออนไลน์ได้ค่ะ ที่สนใจหนังสือเล่มนี้บอกตามตรงว่าติดจากละคร อยากรู้ว่าตอนจบเป็นอย่างไร และในหนังสือที่แต่งไว้กับละครมีความแตกต่างกันอย่างไร รายละเอียดอาจจะมีปรับแต่งเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน แต่สิ่งหนึ่งที่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่เคยเปลี่ยนคือ มนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดแล้ว
Displaying 1 - 8 of 8 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.