loonchies239 reviews26 followersFollowFollowFebruary 12, 2022“อาหารไทย มาจากการประสมประสานอาหารในชีวิตประจำวันของคนอุษาคเนย์ กับอาหารนานาชาติ ทั้งใกล้และไกล ไม่จำกัดและไม่หยุดนิ่งตายตัว โดยพร้อมรับจากแหล่งอื่นเพิ่มเข่ามาประสมประสานได้เสมอเมื่อมีโอกาส และกินอร่อย”——-เหมือนได้อ่านสิ่งที่อยากรู้ต่อจากตอนที่เราอ่าน ต้นสาย ปลายจวัก ของ กฤช เหลือลมัย จบ ที่ว่าอยากให้เมืองไทยมีหนังสือรวมประวัติศาสตร์หรือฮธิบายที่มาที่ไปของอาหารบ้าง ไปคุ้นกองดองก็เจอเล่มนี้ อ้าว เราเคยซื้อมาเหรอสไตล์ผู้เขียนคือจะพูดประเด็นนึงสั้น ๆ ช่างเชื่อมกับหลักฐานทางโบราณคดี ~ ทำให้เห็นความสำคัญของสาขานี้มากขึ้น คือที่พูดขึ้นมานี่มีหลักฐานอ้างอิงนะ ไม่ได้มโนลอย ๆแต่ละประเด็นที่เอามาเสนอก็เขียนได้น่าสนใจ สำนวนเป็นมิตร ไม่วิชาการเลย แต่สั้นจนแบบสั้นไปไหมนะ อยากให้อธิบายเยอะกว่านี้อีกด้วยซ้ำจั่วหัวว่าเรื่องอาหาร แต่ไม่ได้พูดถึงอาหารอย่างเดียว มันก็ต้องเล่าถึง “คน” ด้วย วัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต ภาษา การค้าและการส่งเสริมเศรษฐกิจ การเมือง-การบริหารของรัฐ-การกิน ทุกอย่างล้วนเกี่ยวพันกันมากกว่าที่คิดส่วนเรื่องอาหารนี่เล่าไปยันเรื่องวัตถุดิบจนถึงที่มาเมนูตั้งคำถามและพยายามหาคำตอบ เรื่องที่เราว่าน่าสนใจ เช่นเมื่อก่อนคนไทยกินอะไร? คนไทยเริ่มกินข้าวเมื่อไร? ทำไมต้องปลูกข้าวที่อีสาน?เมนูที่มาจากวัตถุดิบนั้น ๆ มีที่มายังไง ทำไมถึงเรียกแบบนั้นนะ?วัฒนธรรมกินสัตว์แปลก ของเน่าแล้วอร่อย หรือของเน่าไม่อร่อยเก็บยังไงให้ไม่เน่า ~ ทำไมบางที่ดอง/หมัก ทำไมบางที่ตากแห้ง/รมควันปลาร้ากับน้ำขึ้นน้ำลงความหมายดั้งเดิมของ “แกง”เครื่องเทศ vs สมุนไพรหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ใส่อะไรลงไปอย่างนี้บ้างได้ไหมอย่างเรื่องการขุดเจอเครื่องปั้นดินเผาที่บ้านเชียง ~ จริง ๆ คือเจออะไรมากกว่านั้นเยอะ เอามาขยายความเล่าเรื่องสนุก ๆ ได้เลย เราอ่านเล่มนี้แล้วความคิดเราที่ว่าคนไทยเป็นพวกไม่ชอบบันทึกไม่ชอบจดนี่เริ่มเปลี่ยนไป จริง ๆ แล้วก็เขียนบันทึกกันเป็นปกติ มีหลักฐานที่สามารถอธิบายได้อยู่มากมายแค่เราอาจจะไม่ได้ดูแลรักษา จนอาจจะหายไปหรือโดนทำลายไปตามกาลเวลาก่อนที่คนยุคปัจจุบันจะมาศึกษาก็ได้โดยรวมก็อ่านเพลิน ๆ ดี
Arnut Pongprueksa23 reviewsFollowFollowSeptember 7, 2021การเล่าเรื่อง (narrative) ของหนังสือเล่มนี้มีความน่าสนใจมาก มีการนำเสนอหลักฐานบางส่วนในทางประวัติศาสตร์ และร่อยรองในอดีตที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ผ่านทางสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะภาษาไทยที่เราใช้อยู่กันในปัจจุบัน รวมทั้งผู้เขียนมีการเล่าเรื่องโดยให้ข้อมูลที่สะท้อนในเป็นเห็นถึงสภาพสังคมในอดีต และชื่อเรียกของสถานที่และอาหารในปัจจุบัน อย่างกระชับ และเข้าใจได้ง่าย เหมาะสำหรับทำให้เห็นภาพบริบทของความเป็นมาของอาหารไทยอย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายที่หนังสือเล่มนี้ ไม่ได้มีการแพร่หลายอย่างเพียงพอนัก และไม่ค่อยเห็นมีงานต่าง ๆ ที่มาพัฒนาต่อ ให้คนไทยทั่วไปได้เข้าใจที่มาของตนเองมากขึ้น ผ่านทางอาหารที่เราทานกันในชีวิตประจำวัน ในบางครั้ง อาหารก็ "ดูเหมือน" ว่าเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ถูกหลงลืมอยู่ในตลอดเวลา (อาจจะเป็นเพราะลักษณะการเขียนประวัติศาสตร์แบบเดียวที่ติดข้อจำกัดของสังคมไทยก็ได้ ซึ่งทำให้ย้อนนึกถึงการเขียนประวัติศาสตร์ในยุคกลางของทางตะวันตก ที่จะยึดโยงไปทางศาสนาเป็นเสียส่วนใหญ่) หนังสือเล่มนี้ทำให้ผู้อ่านเห็นว่า ประวัติศาสตร์ก็สามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ง่ายโดยคนทั่วไป โดยไม่ใช่ประวัติแม่พิมพ์ที่เราเรียน ๆ กันในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ท้ายสุด การที่จะเข้าใจที่มาของพวกเรา ก็เริ่มได้เพียงเปิดตามองอาหารที่เราทานอยู่ทุกวันเท่านั้นเอง