Jump to ratings and reviews
Rate this book

ทำไมคนที่ทำงานเก่งที่สุดถึงใช้สมุดกราฟ

Rate this book
ความสำเร็จครั้งใหญ่เริ่มต้นจากวิธีที่คุณใช้จดบันทึก เคล็ดลับที่ใช้กันในหมู่คนทำงานระดับหัวกะทิของญี่ปุ่น
- จดจำข้อมูลได้อย่างแม่นยำ
- คิดวิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุผล
- แก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย
- นำเสนองานได้อย่างน่าสนใจ
- เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

นี่คือผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เมื่อคุณเปลี่ยนมาจดบันทึกด้วย “สมุดกราฟ”ค้นพบเทคนิคที่ใช้กันในหมู่คนทำงานระดับหัวกะทิของญี่ปุ่น แล้วคุณจะสามารถจัดระเบียบความคิด และเพิ่มประสิทธิภาพให้ตัวเองในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่ด้านการเรียน การทำงาน ไปจนถึงการใช้ชีวิต

213 pages, Paperback

First published January 26, 2015

13 people are currently reading
85 people want to read

About the author

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
19 (13%)
4 stars
37 (26%)
3 stars
56 (40%)
2 stars
23 (16%)
1 star
5 (3%)
Displaying 1 - 16 of 16 reviews
Profile Image for ไม้ไต่คู้.
145 reviews67 followers
May 20, 2019
ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเป็นหนังสือสอนเรียบเรียงโน๊ต มากกว่าจะเป็นหนังสือสอนจดโน๊ต (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่นิยามคำว่าจดโน๊ตของแต่ละคนด้วยล่ะนะ)

ไม่รู้ว่าผมเป็นบัวใต้น้ำที่อ่านไม่รู้เรื่องเองรึเปล่า แต่ผมคิดว่าก่อนคุณจะเอาเทคนิคใดๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปใช้ได้ คุณจำเป็นจะต้องมีโน๊ตเวอร์ชันเหี้ยๆ มั่วๆ ที่คุณอ่านมันจนเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดอยู่ก่อนแล้ว

จากนั้นคุณถึงค่อยเอาเทคนิคในหนังสือเล่มนี้ไปพาสเจอไรส์โน๊ตเน่าๆ นั้นให้มัน สวยขึ้น อ่านรู้เรื่องขึ้น เป็นระบบระเบียบมากขึ้น

แต่ถ้าคุณต้องการวิธีจดโน๊ตให้ออกมาสวยงามโดยไม่ต้องมีโน๊ตเหี้ยๆ มั่วๆ อันนั้น หนังสือเล่มนี้ไม่ได้สอน


หนังสือเป็นสไตล์ญี่ปุ่นเลย ไม่เวิ่นเว้อ เขียนประโยคสั้นๆ ย่อหน้าสั้นๆ ตัวใหญ่ๆ โป๊ะๆ ฉับๆ เข้าประเด็น

ปัญหาคือประเด็นที่เข้ามันดันซ้ำไปซ้ำมา ขึ้นหัวข้อใหม่ทุกครั้งก็ต้องเกริ่นถึงสิ่งที่พูดไปแล้วในหัวข้อก่อนหน้า ครึ่งเล่มแรกมันเลยวนๆ อยู่ตรงกฎสามข้อกับอวยสมุดกราฟวนไป (ซึ่งอ่านแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าความกราฟมันเป็น critical point อะไรขนาดนั้น)



สิ่งที่พอจะได้จากหนังสือเล่มนี้อยู่บ้าง คือ

1. วิธีจดแบบคอร์เนลล์
แบ่งพื้นที่ให้เป็นสามส่วน คือ ข้อเท็จจริง / ข้อคิดเห็น / สรุป


2. แต่ละช่วงชีวิตก็ต้องการสมุดโน๊ตที่มีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป
วัยเรียนที่ต้องสอบๆๆ จะต้องการ "สมุดโน๊ตช่วยจำ" ที่เน้นสะสมความรู้ให้ได้มากที่สุด

วัยทำงานที่ต้องลงมือแก้ปัญหานู่นนี่ในแต่ละวัน จะต้องการ "สมุดโน๊ตช่วยคิด" ที่เน้นการ "ขจัด" ข้อมูลส่วนที่ไม่สำคัญทิ้งไป

ส่วนวัยทำงาน (มานาน) จะต้องการ "สมุดโน๊ตช่วยถ่ายทอด" ที่เน้นการนำเสนอ เข้าใจง่าย มองปราดเดียวรู้ว่าปัญหาคืออะไร และต้องแก้ยังไง


3. จดโน๊ตเหมือนจัดบ้าน
อย่าพยายามจดทุกอย่างเก็บไว้ ให้เก็บไว้แต่สิ่งที่ spark joy ระหว่างจดโน๊ตควรฝึกตัดสินใจไปด้วย ว่าข้อมูลไหนบ้างที่ควรจะเก็บไว้หรือคัดทิ้งไป มันเป็นการขัดเกลาทักษะการตัดสินใจรูปแบบหนึ่ง


4. ถาม "ทำไม" 5 ครั้ง
เอาละ ผมขอเริ่มจาก

1. กูซื้อหนังสือเล่มนี้มาทำไมวะเนี่ย? ยืนอ่านที่ร้านแปบเดียวก็จบแท้ๆ

ส่วนอีก 4 ครั้งขอติดไว้ก่อน
Profile Image for Apothecary.
69 reviews5 followers
May 2, 2021
ตามมาอ่านเพราะชอบการใช้สมุดกราฟ

เนื้อหาค่อนข้างน้ำเยอะ เขียนวกไปวนมาด้วยประเด็นเดิม ๆ จะบอกว่าเพื่อเน้นย้ำก็ไม่ใช่ เพราะเหมือนไม่มีอะไรจะเขียนแล้วมากกว่า

ยังดีที่มีภาพตัวอย่างการใช้งานสมุดกราฟแถมมาให้ด้วย อันนี้ยังพอใช้ได้จริงอยู่บ้าง แต่ที่เหลือค่อนข้าง common sense และรีรันประเด็นเดิมซ้ำ ๆ ตลอดเล่ม
Profile Image for Mollie Pan.
28 reviews13 followers
November 4, 2018
หนังสือมีแต่น้ำ เนื้อหาน้อยมาก อ่านไปก็งงไป บางบทก็ไม่รู้จะสื่ออะไร ส่วนใหญ่ที่เป็นประโยชน์จริงๆมีประมาณ20หน้า แต่สามารถเอามาใช้งานได้ ให้2คะแนนเพราะคาดหวังกับหนังสือไว้เยอะ เห็นเป็นหนังสือขายดี แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราอยากจดอะไรในสมุดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้น
Profile Image for BossKunG1122.
30 reviews
December 28, 2019
ตามที่ reviewer ท่านอื่นพูดเลย คือเนื้อหาน้อยมาก แค่ concept หลักๆคิดว่าใช้แค่หน้าเดียวก็อธิบายได้แบบเหลือเฟือ แถมพออ่านจบแล้ว ยังไม่ได้รู้สึกกระตุ้นว่าใช้สมุดกราฟมันจะช่วยจริงๆหรอ (แต่สุดท้ายก็ใช้ 5555)
Profile Image for Top Thanan.
28 reviews
August 22, 2019
หลักการแบ่งกระดาษออกเป็น 3 ส่วนจะช่วยทำให้เราสามารถที่จะเรียบเรียงความคิดให้เป็นระเบียบ ช่วยให้จดจำได้ง่าย ทำให้การนำเสนอดูดี รวมถึงการตั้งคำถามซึ่งนำไปสู่วิธีการแก้ปัญหาได้อย่างมีเหตุและผล

==KEYNOTE==
(1) "กฎ 3 ข้อ" ในการจดโน้ตของคนเก่ง
- กฎข้อที่ 1 ให้เปลี่ยนมาใช้ "สมุดกราฟ"
- กฎข้อที่ 2 ใส่ "หัวข้อ/ชื่อเรื่อง"
- กฎข้อที่ 3 แบ่งหน้ากระดาษออกเป็น 3 ส่วน

(2) แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งสมุดแบบต่างๆ มีการแบ่งที่แตกต่างกันตามการใช้งาน ดังนี้
- แบบที่ 1 : สมุดโน้ตของนักเรียนที่สอบติดมหาวิทยาลัยโตเกียว จะใช้ 1 หน้าคู่โดยแบ่งเป็น
- ด้านซ้ายมือ (เต็มหน้า) = เนื้อหา
- ด้านขวามือ (เต็มหน้าแบ่งครึ่ง) = ประเด็นสำคัญ/สรุป

- แบบที่ 2 : สมุดโน้ตของคอร์เนล (Cornell University) จะใช้ 1 หน้าเดี่ยว (แนวตั้ง) โดยแบ่งเป็น
- ด้านซ้ายมือ (1/5 ของหน้า) = ประเด็นสำคัญ
- ด้านขวามือ (3/5 ของหน้า) = เนื้อหา
- ด้านล่างสุด (1/5 ของหน้า) = สรุป

- แบบที่ 3 : "พอยต์ชีต (Point Sheet)" ของบริษัทแอคเซนเจอร์ (Accenture) จะใช้ 1 หน้าเดี่ยว (แนวตั้ง) โดยแบ่งเป็น
- ด้านบน (1/5 ของหน้า) = หัวเรื่อง
- ด้านซ้ายมือ (2/5 ของหน้า) = Point ประเด็นสำคัญ
- ด้านขวามือ (2/5 ของหน้า) = Action แนวทางปฏิบัติ

- แบบที่ 4 : "ฟ้า-ฝน-ร่ม" ของแมคคินซีย์ (Baker & McKenzie) จะใช้ 1 หน้าเดี่ยว (แนวนอน) โดยแบ่งเป็น
ฟ้า = ข้อเท็จจริง (ด้านซ้าย)
ฝน = สิ่งที่วิเคราะห์ได้ (ด้านขวา)
ร่ม = แนวทางปฏิบัติ (ด้านบน)

(3) ประเภทและหน้าที่ของสมุดโน้ต
- สมุดโน้ตช่วยจำ : สำหรับการเรียน
- สมุดโน้ตช่วยคิด : สำหรับการทำงาน
- สมุดโน้ตช่วยถ่ายทอด : สำหรับการนำเสนอ

(4) ฝึกใช้คำเชื่อมและลูกศรเพื่อแสดงเหตุและผล

(5) ทักษะที่สำคัญ คือ การตั้งคำถามและการสรุป

(6) ทักษะการทำความเข้าใจ คือ เข้าใจ => ทำได้ => ถ่ายทอดได้ = การเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

(7) ใช้กฎเลข 3 คือ ให้สรุปไม่เกิน 3 ประเด็น

(8) สมุดโน้ตของคนทำงาน มีไว้เพื่อคัดข้อมูลทิ้ง 99% ให้เหลือแค่ 1% ที่สำคัญที่สุดเท่านั้น (จดโน้ต => คัดทิ้ง => หาข้อสรุปเพียงข้อเดียว)

(9) ฝึกถามทวนใน 3 นาทีเพื่อตรวจสอบความเข้าใจและความถูกต้องเมื่อได้รับมอบหมายงานมา

(10) พื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการศึกษา คือ การคิดวิเคราะห์โดยยึดข้อเท็จจริงเป็นหลัก ซึ่งอาจจะใช้ปากกาต่างสีแยกระหว่าง "ข้อเท็จจริง" และ "ความคิดเห็น" ออกจากกัน

(11) ฝึกถามว่า "ทำไม 5 ครั้ง" และใช้ร่วมกันคำเชื่อที่แสดงเหตุผลและลูกศร

(12) เขียนสิ่งที่ต้องการจะสื่อแค่ 1 เรื่องโดยใช้หลักการ "ทำน้อยแต่ได้มาก" (Less is More)

(13) หลักการทำ "สมุดโน้ตเผด็จศึก"
- เขียนหัวเรื่องให้น่าสนใจเหมือนการพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์
- ให้เขียนข้อสรุปก่อนเป็นอันดับแรก
- เลือกใช้แผนภูมิหรือกราฟที่เหมาะสม
This entire review has been hidden because of spoilers.
3 reviews
July 3, 2018
ไม่เข้าใจความย้อนแย้งของเนื้อหาหนังสือเล่มนี้
อาจจะนำไปใช้ไม่ได้จริง การเรียบเรียงเนื้อหาก็"ห่วย"มาก เนื้อหาซ้ำไปซ้ำมาวนอยู่กับเรื่องกฏทั้งๆที่เป็นแค่การพูดเสริม รวมถึงการขึ้นหัวข้อใหม่แต่ยังเป็นเนื้อหาเดียวกับหัวข้อที่แล้ว
มีการแทรกคล้ายๆกับขายของอย่างปากกา Pilot รวมถึงนำผลตอบรับของคนที่นำสมุดกราฟมาใช้ใส่ซะจนดูเวิ่นเว้อเน้นขายของหรือทำให้ผู้อ่านประทับใจซะมากกว่า
ที่งงสุดคือการบอกให้เขียนประเด็นสำคัญไว้ในส่วนที่สอง และเขียนสรุปในส่วนที่สามของกฏสามส่วน แต่พอพูดถึงเรื่องการเขียนหัวข้อกลับบอกให้เขียนประเด็นสำคัญเข้าไปในส่วนนั้นด้วย??? ตกลงจะให้เขียนตรงไหนอะงง จะให้เขียนสองที่เลยก็ไม่เข้าใจว่าจะทำไปทำไม(Illustration หน้า 105)
อีกจุดหนึ่งที่หน้า 135 คือบอกให้สรุปไม่เกิน 3 ประเด็นแต่ตัวอย่างสรุปมา 4 ประเด็น ทำไมมันย้อนแย้งจัง
หน้า131 บอกว่าทักษะการสรุปคือ วิเคราะห์จนเข้าใจ เรียบเรียงแล้วนำมาถ่ายทอดได้ หน้าถัดมาคือทักษาะความเข้าใจก้บอกว่ามันคือการเข้าใจ ทำได้ ถ่ายทอดได้ ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยต่างกันเลยด้วยซ้ำ
This entire review has been hidden because of spoilers.
62 reviews2 followers
July 31, 2019
หยิบเล่มนี้มาอ่าน เพราะอยากรู้เทคนิคการจดโน๊ต พอได้อ่านก็คิดว่าจะลองทำตามดูไม่ได้เสียหายอะไร
ในหนังสือกล่าวถึงกฎ 3 ข้อ ในการจดโน๊ต
1. เปลี่ยนมาใช้สมุดกราฟ
2. ใส่หัวเรื่อง
3. แบ่งหน้ากระดาษออกเป็น 3 ส่วน คือ ข้อเท็จจริง, สิ่งที่วิเคราะห์ได้, แนวทางปฏิบัติหรือข้อสรุป
การจดโน๊ตแบบนี้ จะทำให้เราจำและเข้าใจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
และยังมีอีกหลายเทคนิค เช่น
- ใช้ปากกาไม่เกิน 3 สี (สีน้ำเงิน = ข้อเท็จจริง , สีดำ = ข้อคิดเห็น , สีแดง = แก้ไข/ตัดสินใจ/สรุป)
- จด 1 เรื่อง ต่อ 1 หน้า
3 reviews1 follower
January 19, 2019
เห็นว่าเป็นหนังสือขายดี + ไปเจอพนักงานที่ Kinokuniya Isetan แนะนำเลยซื้อมาอ่านด้วยความคาดหวังสูง แต่ไม่รู้ว่าเพราะคนแปลแปลไม่ดีหรืออย่างไร หรือต้นฉบับเป็นอย่างนี้ เนื้อหาในเล่มซ้ำไปซ้ำมาเยอะมาก บางประเด็นเขียนในบทต้นๆแล้ว ก็ไปเขียนซ้ำข้างหลังอีก(เข้าใจว่าพยายามขยายความ แต่ก็ขยายน้ำๆ) Main Idea + Concept มีซัก 10 หน้าได้มั้ง ที่เหลือน้ำๆ ชงเอง อวยเอง
20 reviews
December 6, 2018
ชื่อหนังสือไม่สอดคล้องกับเนื้อหาข้างใน คาดหวังว่าจะอ่านเกี่ยวกับพื้นฐานหรือเทคนิคการใช้สมุดกราฟ ในหลายๆแบบ แต่ในหนังสือเน้นอยู่แค่แบบแบ่ง 3 ส่วน
อ่านจบแล้วก็ยังไม่ค่อยรู้สึกว่าสมุดกราฟจำเป็นขึ้นมาเท่าที่ควร
Profile Image for Sptcha Nook.
1 review4 followers
January 7, 2019
น้ำเยอะกว่าเนื้อมาก ใช้คำวนไปวนมา
Profile Image for Teerasak.
99 reviews1 follower
January 13, 2019
สงสัยมานานแล้วว่าทำไมต้องใช้กระดาษกราฟแบบนี้ อ่านแล้วใช้ประโยชน์ได้ในชีวิต พร้อมทั้งแนะนำคนอื่นได้ต่อไป
April 7, 2019
ตามแบบหนังสือ ญี่ปุ่น 1 เล่มจะสรุปเรื่องเดียว แบ่งส่วน จดโน้ต ช่วยในการสรุปบทความเเละเรื่องได้ดีจริงๆครับ
Profile Image for Charles Ravanorv.
5 reviews
March 17, 2022
เล่มนี้ไม่ใช่เราคนเดียวที่อิหยังวะกับเนื้อหาข้างในแฮะ จุดประสงค์ที่เราซื้อมาอ่านคือหวังอยากดูทริปการจดโน้ตในสมุดกราฟ แต่ดูแล้วก็ยังไม่เข้าใจเท่าไร
Profile Image for DoDo.
98 reviews19 followers
January 11, 2025
ค่อนข้างผิดหวังกับหนังสือเล่มนี้ ตรงที่เนื้อหาส่วนที่สำคัญจริงๆค่อนข้างน้อย และเอาวิธีไปปรับใช้ยาก

เนื้อหาหลักของหนังสือเล่มนี้จะอยู่ที่การจดเลคเชอร์ด้วยวิธี Cornell
ซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างเหมาะกับการจดแบบที่เรียบเรียงเนื้อหาแล้วเอามาสรุปลงอีกที ไม่ได้เหมาะกับการจดเลคเชอร์แบบโดยทั่วไป
และหนังสือเล่มนี้ดูเหมือนจะเน้นวิธีนี้วิธีเดียว แล้วเอามาขยายความซ้ำไปมาจนค่อนข้างน่าเบื่อ

โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ที่ตัวหนังสือเล่มนี้ไม่แนะนำให้จดเลคเชอร์ด้วยวิธีอื่น ทั้งๆที่เป็นวิธีการจดเลคเชอร์ที่ดีอีกวิธีหนึ่ง แต่อาจจะไม่ได้สอดคล้องกับสมุดกราฟ (เช่น mind map etc.) รวมถึงการจำกัดการใช้สีปากกา (และแนะนำยี่ห้อมาให้เสร็จสรรพ จนรู้สึกโฆษณาเกินควร) เลยมองว่าผู้เขียนเจาะจงหรือใช้เฉพาะแค่มุมมองของตนเองมากเกินไปรึเปล่า

คิดว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ค่อยเหมาะถ้าหากอ่านแล้วต้องการหาวิธีพัฒนาการจดเลคเชอร์ของตัวเองเท่าไหร่ แต่เหมาะสำหรับคนที่ชอบวิธีจดแบบ Cornell อยู่แล้ว และหาแนวการจัดการการจดโน้ตวิธีนี้เพื่อให้โน้ตดูเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงามมากขึ้น
This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for JFK.
63 reviews3 followers
December 30, 2019
เห้อ....... เล่มนี้เป็น​ How to วิธีจดโน๊ตที่ดีนะ
แต่สรุปไม่เกิน​ 5 หน้าก็พอ
215 หน้า​ เป็นน้ำไปซัก​ 200

2.7🌟 สำหรับความคุ้มค่า
3.5🌟 สำหรับเนื้อหาสำคัญ​
This entire review has been hidden because of spoilers.
Displaying 1 - 16 of 16 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.