What do you think?
Rate this book
마당이 있는 집
행복한 일상을 의심하기 시작한 여자와 불행한 일상을 탈출하기 위해 분투하는 두 여자의 삶이 교차하며 변해가는 과정을 그린 소설. 김진영 작가의 데뷔작으로, 본디 단편 영화를 만들며 시나리오 작업에 몰두하던 그는 원천 스토리로서의 소설에 관심을 갖고 2016년 한국콘텐츠진흥원 스토리창작과정에 지원하여 작품을 완성했다. 소설 창작 경험이 거의 없지만 흡입력 있는 설정과 뛰어난 스토리 구성으로 이 과정에 참여한 심사자들의 찬사를 한몸에 받았다.
의사 남편에 똑똑하고 잘생긴 아들, 모자랄 것 없는 풍족한 가정. 주란의 가족은 누구나 꿈꾸는 '완벽한 집'으로 이사한다. 주란은 이 행복한 가정 속에서 완벽한 아내이자 주부, 어머니로서 행복을 누리며 산다. 단 한 가지 신경을 거스르는 것은 마당에서 나는 냄새. 남편은 금방 사라질 거름 냄새로 치부하지만 예쁜 수채화에 찍힌 기름 얼룩처럼 좀처럼 머릿속에서 지워지지 않는다. 별것 아닌 것 같았던 이 불안감은 조금씩 커져, 완벽한 것 같았던 남편의 행동들도 하나씩 수상쩍게 느껴지기 시작한다. 남편은, 살인자인가?
의사 남편에 똑똑하고 잘생긴 아들, 모자랄 것 없는 풍족한 가정. 주란의 가족은 누구나 꿈꾸는 '완벽한 집'으로 이사한다. 주란은 이 행복한 가정 속에서 완벽한 아내이자 주부, 어머니로서 행복을 누리며 산다. 단 한 가지 신경을 거스르는 것은 마당에서 나는 냄새. 남편은 금방 사라질 거름 냄새로 치부하지만 예쁜 수채화에 찍힌 기름 얼룩처럼 좀처럼 머릿속에서 지워지지 않는다. 별것 아닌 것 같았던 이 불안감은 조금씩 커져, 완벽한 것 같았던 남편의 행동들도 하나씩 수상쩍게 느껴지기 시작한다. 남편은, 살인자인가?
388 pages, Paperback
First published April 30, 2018
58 people are currently reading
998 people want to read
About the author
Kim Jin-young
3 books14 followers김진영
Kim Jin-young graduated from the School of Film, TV & Multimedia with a concentration in filmmaking in 2010. Kim directed the short film Heredity of Taste in 2008, and won the Grand Prize in the 2010 Seoul International Women’s Film Festival with her short film Believe in Me, directed in 2009. While making short films and focusing on screenwriting, Kim became interested in novels as the sources of inspirational stories and applied to the story creation program at the Korea Creative Content Agency to write her debut work, Lies Hidden in My Backyard, which received outstanding praises from the judges.
Kim Jin-young graduated from the School of Film, TV & Multimedia with a concentration in filmmaking in 2010. Kim directed the short film Heredity of Taste in 2008, and won the Grand Prize in the 2010 Seoul International Women’s Film Festival with her short film Believe in Me, directed in 2009. While making short films and focusing on screenwriting, Kim became interested in novels as the sources of inspirational stories and applied to the story creation program at the Korea Creative Content Agency to write her debut work, Lies Hidden in My Backyard, which received outstanding praises from the judges.
Ratings & Reviews
Friends & Following
Create a free account to discover what your friends think of this book!
Community Reviews
Displaying 1 - 30 of 164 reviews
August 31, 2019
"จงอย่าเชื่อในสิ่งที่คุณคิด เพราะมันอาจจะไม่ใช่ความจริงเสมอไป.."
"คิมจูรัน" สาวสวยผู้เป็นภรรยาของนายแพทย์คนนึงและเป็นแม่ของลูกชายวัยรุ่นที่มีใบหน้าที่หล่อเหลา เธอใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายในบ้านหรูกลางเมืองที่มีสวนดอกไม้ส่วนตัวในบริเวณบ้าน ชีวิตเธอคงจะดำเนินไปด้วยความปกติ ถ้าหากไม่มีกลิ่นเหม็นปริศนาโชยออกมาจากสวน และนั่นเป็นเหมือนสัญญาณร้ายที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป เธอเริ่มสงสัยว่า "พักเจโฮ" สามีที่แสนรักของเธอที่ทำตัวแปลกขึ้นทุกวันเข้าไปพัวพันกับการตายของ "คิมยูนบอม" เซลล์ขายยาที่ตายปริศนาในอ่างเก็บน้ำ และดูเหมือนความสงสัยของเธอจะมากขึ้นทวีคูณ เมื่อเธอได้พบกับภรรยาท้องอ่อนของผู้ตาย "อีซังอึน" ที่เชื่ออย่างปักใจว่าสามีเธอนั่นแหละที่เป็นฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...
เป็นเรื่องราวของสองสาวที่มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ต่างกันสุดขั้ว แต่กลับต้องมาเกี่ยวข้องกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยมีความตายเป็นตัวเชื่อมโยง เนื้อเรื่องจะดำเนินผ่านมุมมองของสองสาว "คิมจูรัน" และ "อีซังอึน" สลับกันไปมา เราจะเห็นการดำเนินชีวิต สภาพความเป็นอยู่และปัญหาที่เผชิญ รวมไปถึงทัศนคติต่างๆ ผ่านมุมมองของสองสาวที่แตกต่างกันสุดๆ
ถ้าเปรียบคิมรันจูเป็นสาวสวยชนชั้นบนที่ชีวิตมีแต่ความสะดวกสบาย ไม่ต้องทำงานอะไรให้เหนื่อย แต่ก็มีความรักรายล้อมและเงินทองไม่ขาดสาย อีซังอึนก็คงเป็นตัวแทนของสาวชนชั้นล่างที่ต้องทนทำงานตรากตรำ ต้องอดทนใช้ชีวิตที่กดดัน สภาพสังคมที่แข่งขัน สามีที่ชอบทำร้ายร่างกาย และความจนที่รุมเร้าเหมือนโรคร้ายที่ไม่ตายจากกันสักที
ฟังดูเหมือนจะเป็นนิยายสะท้อนสังคมเกาหลี โดยมีสาวสองฐานะเป็นตัวเดินเรื่อง แต่ความจริงแล้ว นิยายเล่มนี้เป็นแนวลึกลับกึ่งสืบสวน มีกลิ่นอายความดราม่าเจือจางอยู่ตลอดทั้งเรื่อง อ่านแล้วสนุกมากกกก ชนิดที่วางไม่ลง มีความน่าติดตามสุดๆ เดาทางเรื่องไม่ออกเลย ยิ่งตอนท้ายๆ หักมุมแล้วหักมุมอีก สร้างความตะลึงและความประทับใจไม่รู้จบจริงๆ อ่านไปก็อุทานไปตลอดก็ว่าได้ 555555
มีหลายคนมองว่านิยายเล่มนี้อยู่ในจักรวาลเดียวกับหนังเรื่อง Parasite เราว่ามันก็จริงอยู่ เพราะเนื้อเรื่องมีการนำเสนอเรื่องความร่ำรวยและความยากจนค่อนข้างเห็นได้ชัดผ่านตัวละครของสองสาว แต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ นิยายเล่มนี้ไม่ได้เน้นแต่ว่า "กลิ่นสาบความจนมันเหม็น" เพียงอย่างเดียว แต่จะพาเราไปชมกับชีวิตของคนรวยที่บางครั้งก็ไม่ได้สวยหรูหรือสวยงามอย่างที่คิด ชนิดที่อาจทำให้เราเปลี่ยนทัศนคติไปเลยก็ได้
ใช่แล้วค่ะ.. เหมือนอย่างที่คำโปรยปกหลังนิยายว่าเอาไว้
"ในโลกใบนี้ไม่มีชีวิตที่เรียบง่ายหรอก อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนโชคร้าย
พวกเราทุกคนต่างโชคร้ายกันคนละแบบ"
"คิมจูรัน" สาวสวยผู้เป็นภรรยาของนายแพทย์คนนึงและเป็นแม่ของลูกชายวัยรุ่นที่มีใบหน้าที่หล่อเหลา เธอใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายในบ้านหรูกลางเมืองที่มีสวนดอกไม้ส่วนตัวในบริเวณบ้าน ชีวิตเธอคงจะดำเนินไปด้วยความปกติ ถ้าหากไม่มีกลิ่นเหม็นปริศนาโชยออกมาจากสวน และนั่นเป็นเหมือนสัญญาณร้ายที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป เธอเริ่มสงสัยว่า "พักเจโฮ" สามีที่แสนรักของเธอที่ทำตัวแปลกขึ้นทุกวันเข้าไปพัวพันกับการตายของ "คิมยูนบอม" เซลล์ขายยาที่ตายปริศนาในอ่างเก็บน้ำ และดูเหมือนความสงสัยของเธอจะมากขึ้นทวีคูณ เมื่อเธอได้พบกับภรรยาท้องอ่อนของผู้ตาย "อีซังอึน" ที่เชื่ออย่างปักใจว่าสามีเธอนั่นแหละที่เป็นฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...
เป็นเรื่องราวของสองสาวที่มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ต่างกันสุดขั้ว แต่กลับต้องมาเกี่ยวข้องกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยมีความตายเป็นตัวเชื่อมโยง เนื้อเรื่องจะดำเนินผ่านมุมมองของสองสาว "คิมจูรัน" และ "อีซังอึน" สลับกันไปมา เราจะเห็นการดำเนินชีวิต สภาพความเป็นอยู่และปัญหาที่เผชิญ รวมไปถึงทัศนคติต่างๆ ผ่านมุมมองของสองสาวที่แตกต่างกันสุดๆ
ถ้าเปรียบคิมรันจูเป็นสาวสวยชนชั้นบนที่ชีวิตมีแต่ความสะดวกสบาย ไม่ต้องทำงานอะไรให้เหนื่อย แต่ก็มีความรักรายล้อมและเงินทองไม่ขาดสาย อีซังอึนก็คงเป็นตัวแทนของสาวชนชั้นล่างที่ต้องทนทำงานตรากตรำ ต้องอดทนใช้ชีวิตที่กดดัน สภาพสังคมที่แข่งขัน สามีที่ชอบทำร้ายร่างกาย และความจนที่รุมเร้าเหมือนโรคร้ายที่ไม่ตายจากกันสักที
ฟังดูเหมือนจะเป็นนิยายสะท้อนสังคมเกาหลี โดยมีสาวสองฐานะเป็นตัวเดินเรื่อง แต่ความจริงแล้ว นิยายเล่มนี้เป็นแนวลึกลับกึ่งสืบสวน มีกลิ่นอายความดราม่าเจือจางอยู่ตลอดทั้งเรื่อง อ่านแล้วสนุกมากกกก ชนิดที่วางไม่ลง มีความน่าติดตามสุดๆ เดาทางเรื่องไม่ออกเลย ยิ่งตอนท้ายๆ หักมุมแล้วหักมุมอีก สร้างความตะลึงและความประทับใจไม่รู้จบจริงๆ อ่านไปก็อุทานไปตลอดก็ว่าได้ 555555
มีหลายคนมองว่านิยายเล่มนี้อยู่ในจักรวาลเดียวกับหนังเรื่อง Parasite เราว่ามันก็จริงอยู่ เพราะเนื้อเรื่องมีการนำเสนอเรื่องความร่ำรวยและความยากจนค่อนข้างเห็นได้ชัดผ่านตัวละครของสองสาว แต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ นิยายเล่มนี้ไม่ได้เน้นแต่ว่า "กลิ่นสาบความจนมันเหม็น" เพียงอย่างเดียว แต่จะพาเราไปชมกับชีวิตของคนรวยที่บางครั้งก็ไม่ได้สวยหรูหรือสวยงามอย่างที่คิด ชนิดที่อาจทำให้เราเปลี่ยนทัศนคติไปเลยก็ได้
ใช่แล้วค่ะ.. เหมือนอย่างที่คำโปรยปกหลังนิยายว่าเอาไว้
"ในโลกใบนี้ไม่มีชีวิตที่เรียบง่ายหรอก อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนโชคร้าย
พวกเราทุกคนต่างโชคร้ายกันคนละแบบ"
May 1, 2025
Una cosa che mi è piaciuta tanto di questo libro, e che me l'ha fatto valutare con il massimo dei voti, è il ciclo perpetuo di bugie e rivelazioni fatte sin dalle prime pagine lette. Un accompagnamento continuo come un sussurro che, basso ma perenne, ti instilla il dubbio in un vortice di menzogne. Non sai a chi credere davvero. Non riconosci il colpevole, credi di farlo ma poi non ne sei sicuro davvero.
Un inganno perfetto che man mano ti lascia pietrificato sempre, sempre di più!
Un inganno perfetto che man mano ti lascia pietrificato sempre, sempre di più!
August 24, 2019
ซับซ้อน อบอวนไปด้วยความอึดอัด
อ่านหนังสือเกาหลีทุกครั้ง จะรู้สึกถึงแรงกดขี่ทางเพศตลอด
นวนิยายแนว triller สัญชาติเกาหลีที่ปรับทับตราไว้ด้วย Korean bestseller เล่มนี้ สร้างเรื่องราวอันสลับซับซ้อนของชีวิตครอบครัวสองครอบครัว ที่ตั้งปมเรื่องเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่า "มีอะไรในสวนหลังบ้าน"
เนื้อเรื่องเดินเรื่องผ่าน "ผู้หญิง 2 คน" สลับกันเล่าเรื่องผ่านมุมมอง ความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง สไตล์ first person
คนหนึ่งเป็นภรรยาหมอ
อีกคนหนึ่งเป็นภรรยาผู้แทนบริษัทยา
ทั้งคู่มีชีวิตที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน และหนังสือเกาหลีถ่ายทอดออกมาได้ชัดเจนคือ การถูดกดขี่จากสามี
รูปแบบที่ผู้เขียนเล่าออกมา ทำได้ดีจริงๆ เพราะไม่ได้ใช้การทารุณทางกายเลย แต่ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศที่ชวนอึดอัดจากความรู้สึกว่าผู้หญิงเกาหลีถูกกดขี่ได้ชัดเจน ทั้งพฤติกรรม คำพูด และค่านิยมของสังคม
นอกจากนี้เรื่องราวของสิ่งที่อยู่ในสวนหลังบ้าน ยังหักมุมแล้วหักมุมอีก
ตัวละครผู้หญิงทั้งสองคนไม่มีใครโกหกคนอ่านเลย แต่ก็เดาไม่ออกอยู่ดีว่าสุดท้ายแล้ว โศกนาฏกรรมทั้งหมดเกิดขึ้นจากใครกันแน่
อ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ได้สยองขวัญสั่นประสาทมากเท่าไหร่นัก
แม้จะไม่ได้ติดหนึบ แต่ก็อ่านได้เพลินๆ ลุ้นๆ อยากรู้เฉลย
ที่ชอบคือการสะท้อนอารมณ์ใจคอของ "ภรรยา" ทั้งสองคนนี่แหละ
อ่านหนังสือเกาหลีทุกครั้ง จะรู้สึกถึงแรงกดขี่ทางเพศตลอด
นวนิยายแนว triller สัญชาติเกาหลีที่ปรับทับตราไว้ด้วย Korean bestseller เล่มนี้ สร้างเรื่องราวอันสลับซับซ้อนของชีวิตครอบครัวสองครอบครัว ที่ตั้งปมเรื่องเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่า "มีอะไรในสวนหลังบ้าน"
เนื้อเรื่องเดินเรื่องผ่าน "ผู้หญิง 2 คน" สลับกันเล่าเรื่องผ่านมุมมอง ความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง สไตล์ first person
คนหนึ่งเป็นภรรยาหมอ
อีกคนหนึ่งเป็นภรรยาผู้แทนบริษัทยา
ทั้งคู่มีชีวิตที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน และหนังสือเกาหลีถ่ายทอดออกมาได้ชัดเจนคือ การถูดกดขี่จากสามี
รูปแบบที่ผู้เขียนเล่าออกมา ทำได้ดีจริงๆ เพราะไม่ได้ใช้การทารุณทางกายเลย แต่ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศที่ชวนอึดอัดจากความรู้สึกว่าผู้หญิงเกาหลีถูกกดขี่ได้ชัดเจน ทั้งพฤติกรรม คำพูด และค่านิยมของสังคม
นอกจากนี้เรื่องราวของสิ่งที่อยู่ในสวนหลังบ้าน ยังหักมุมแล้วหักมุมอีก
ตัวละครผู้หญิงทั้งสองคนไม่มีใครโกหกคนอ่านเลย แต่ก็เดาไม่ออกอยู่ดีว่าสุดท้ายแล้ว โศกนาฏกรรมทั้งหมดเกิดขึ้นจากใครกันแน่
อ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ได้สยองขวัญสั่นประสาทมากเท่าไหร่นัก
แม้จะไม่ได้ติดหนึบ แต่ก็อ่านได้เพลินๆ ลุ้นๆ อยากรู้เฉลย
ที่ชอบคือการสะท้อนอารมณ์ใจคอของ "ภรรยา" ทั้งสองคนนี่แหละ
July 31, 2023
ดีแต่อึดอัดโคตรๆ เลยว้อย
เล่มนี่เล่ามุมมมองของผู้หญิงสองคนที่เป็นแม่ เป็นเมีย และเป็นผู้หญิงที่พยายามเอาชีวิตรอดในโลกชายเป็นใหญ่ ซึ่งด้วยความเกาหลีอะเนอะ ถ้ามาทรงนี้คือเฟมินิสต์จัดๆ คิดไว้งั้นนะ แต่มันไม่ได้แบบโว้ก(ว้าก) แต่มันคือความอึดอัดของผู้หญิงจริงๆ ที่มีต่อทั้งสังคมปิตาธิปไตยและกรอบความเป็นผู้หญิงที่แต่ละคนตีกรอบแต่ละคนเอาไว้กดทับอีกชั้น
จูรันคือตัวแทนของหญิงสาวที่หลุดพ้นจากความยากจนแต่ไม่พ้นสังคมปิตาธิปไตยและความคิดอีกนานานับประการที่คอยกดทับตัวเอง ชั้นเป็นคนไม่ได้เรื่อง (เพราะไม่ได้ทำงานประจำและสามีเลี้ยง) คนอื่นจะมองชั้นยังไง (ชั้นไม่ได้กลับไปดูจนอีกแล้วใช่มั้ย? นี่มีคนดูถูกชั้นอยู่หรือเปล่า?) และอีกนานานับประการที่เราไฮไลท์ไว้ในเล่มว่าอีนี่ไหวมั้ยวะ จูรันเป็นผู้หญิงประสาทแดกที่น่าสงสารสัดๆ เธอดิ้นรนเพื่อหาที่ทางให้ตัวเองเท่าที่จะทำได้แม้จะโดนมือที่มองไม่เห็น (ไม่ใช่ศัพท์ทางเศรษฐศาสตร์แต่อย่างใด) กั้นเอาไว้อยู่ก็ตาม
ในขณะที่ซังอึนเป็นตัวแทนของหญิงสาวชนชั้นกรรมกร ต่อสู้เพื่อให้ได้ค่าแรงขั้นต่ำ ท้อง และผัวตาย (อันนี้ไม่ถือว่าสปอยล์เพราะอยู่ต้นเรื่องเลยว่าซังอึนเป็นคนฆ่าผัวเอง แต่ฆ่าจริงๆ ใช่มั้ยหรือประสาทแดกอีกคนว่าฆ่าต้องไปอ่านเอง) เป็นผู้หญิงที่มองจูรันด้วยสายตาดูถูก (ว่าเกาะผัวกิน) และอิจฉา (ว่านางรวยไม่เหมือนตัวเอง) อีกทีนึง แม้จะมองว่าชั้นนี่แหละหญิงนักสู้ หลุดพ้นจากผัวแล้ว แต่ก็ไม่ได้หลุดจากมือที่มองไม่เห็นที่ครอบไว้อีกที (ในแง่ที่ว่า การที่จูรันใช้วิธีเกาะผัวรวยเพื่อมีชีวิตรอดเป็นวิธีที่น่าดูถูก)
ซึ่งส่วนตัวเราแล้ว สิ่งที่เล่ม��ี้นำเสนอความกดทับผ่านสายตาผู้หญิงประสาทแดกสองคน ทั้งในแง่เรื่องเพศและเศรษฐกิจได้แบบน่าสงสารไม่ลงสุดๆ 55555555 มันเลยเรียลมาก เพราะตัวละครมันดูเป็นชีวิตคนจริงๆ และมันดูเหมือนว่าเรื่องจริงก็คงไม่ต่างจากนี้มาก พูดงั้นพูดงี้ นี่หนังสือวิพากษ์สังคมหรือนิยายสืบสวนสอบสวนกันแน่นะ 5555555
ในแง่ของคดี มันเป็นคดีซ้อนคดีจริง แต่อ่านๆ ไปเราจะเริ่มเดาๆ ได้แหละว่าใครเป็นคนร้าย ซึ่งจุดนี้หลายคนอาจจะมองว่าไม่สนุกเพราะมุกมันเดิมๆ ส่วนตัวเรามองว่า การใช้มุกเดิมๆ ตรงนี้ แหละที่ยิ่งทำให้บททั้งหมดที่ปูมามันสมเหตุสมผลมากขึ้น
แต่เราหักคะแนนนิดเดียว (ครึ่งดาว) ในส่วนของตำรวจสืบคดีที่จืดจางสุดๆ มึงสืบคดีแพ้คนท้องได้ไงวะ 5555555555 แต่ในแง่ของการดำเนินเรื่องก็เข้าใจได้ว่าต้องแพ้อะ (ไม่งั้นเรื่องจะไม่ดำเนินไปตามที่เขียนไว้) ก็ถือซะว่าได้ตำรวจสืบคดีมือละอ่อนไปก็พอหยวนๆ หยวนที่หักครึ่งดาว ใจดีปะ ก็คือชอบเล่มนี้แหละ 55555
สรุปแล้ว #มีอะไรในสวนหลังบ้าน เป็นเรื่องราวของหญิงคนรวยจูรันและหญิงคนจนซังอึน ที่มีความดราม่าของเรื่องเพศสภาพและสถานภาพโดยมีความตายเป็นจุดเริ่มต้น แม้จะดูเป็นเรื่องการต่อสู้ของชนชั้นแต่เปล่าเลย มันคือการต่อสู้ของผู้หญิงต่างหาก (ทั้งสู้กันเองและสู้กับสามีหัวขวด)
เล่มนี่เล่ามุมมมองของผู้หญิงสองคนที่เป็นแม่ เป็นเมีย และเป็นผู้หญิงที่พยายามเอาชีวิตรอดในโลกชายเป็นใหญ่ ซึ่งด้วยความเกาหลีอะเนอะ ถ้ามาทรงนี้คือเฟมินิสต์จัดๆ คิดไว้งั้นนะ แต่มันไม่ได้แบบโว้ก(ว้าก) แต่มันคือความอึดอัดของผู้หญิงจริงๆ ที่มีต่อทั้งสังคมปิตาธิปไตยและกรอบความเป็นผู้หญิงที่แต่ละคนตีกรอบแต่ละคนเอาไว้กดทับอีกชั้น
จูรันคือตัวแทนของหญิงสาวที่หลุดพ้นจากความยากจนแต่ไม่พ้นสังคมปิตาธิปไตยและความคิดอีกนานานับประการที่คอยกดทับตัวเอง ชั้นเป็นคนไม่ได้เรื่อง (เพราะไม่ได้ทำงานประจำและสามีเลี้ยง) คนอื่นจะมองชั้นยังไง (ชั้นไม่ได้กลับไปดูจนอีกแล้วใช่มั้ย? นี่มีคนดูถูกชั้นอยู่หรือเปล่า?) และอีกนานานับประการที่เราไฮไลท์ไว้ในเล่มว่าอีนี่ไหวมั้ยวะ จูรันเป็นผู้หญิงประสาทแดกที่น่าสงสารสัดๆ เธอดิ้นรนเพื่อหาที่ทางให้ตัวเองเท่าที่จะทำได้แม้จะโดนมือที่มองไม่เห็น (ไม่ใช่ศัพท์ทางเศรษฐศาสตร์แต่อย่างใด) กั้นเอาไว้อยู่ก็ตาม
ในขณะที่ซังอึนเป็นตัวแทนของหญิงสาวชนชั้นกรรมกร ต่อสู้เพื่อให้ได้ค่าแรงขั้นต่ำ ท้อง และผัวตาย (อันนี้ไม่ถือว่าสปอยล์เพราะอยู่ต้นเรื่องเลยว่าซังอึนเป็นคนฆ่าผัวเอง แต่ฆ่าจริงๆ ใช่มั้ยหรือประสาทแดกอีกคนว่าฆ่าต้องไปอ่านเอง) เป็นผู้หญิงที่มองจูรันด้วยสายตาดูถูก (ว่าเกาะผัวกิน) และอิจฉา (ว่านางรวยไม่เหมือนตัวเอง) อีกทีนึง แม้จะมองว่าชั้นนี่แหละหญิงนักสู้ หลุดพ้นจากผัวแล้ว แต่ก็ไม่ได้หลุดจากมือที่มองไม่เห็นที่ครอบไว้อีกที (ในแง่ที่ว่า การที่จูรันใช้วิธีเกาะผัวรวยเพื่อมีชีวิตรอดเป็นวิธีที่น่าดูถูก)
ซึ่งส่วนตัวเราแล้ว สิ่งที่เล่ม��ี้นำเสนอความกดทับผ่านสายตาผู้หญิงประสาทแดกสองคน ทั้งในแง่เรื่องเพศและเศรษฐกิจได้แบบน่าสงสารไม่ลงสุดๆ 55555555 มันเลยเรียลมาก เพราะตัวละครมันดูเป็นชีวิตคนจริงๆ และมันดูเหมือนว่าเรื่องจริงก็คงไม่ต่างจากนี้มาก พูดงั้นพูดงี้ นี่หนังสือวิพากษ์สังคมหรือนิยายสืบสวนสอบสวนกันแน่นะ 5555555
ในแง่ของคดี มันเป็นคดีซ้อนคดีจริง แต่อ่านๆ ไปเราจะเริ่มเดาๆ ได้แหละว่าใครเป็นคนร้าย ซึ่งจุดนี้หลายคนอาจจะมองว่าไม่สนุกเพราะมุกมันเดิมๆ ส่วนตัวเรามองว่า การใช้มุกเดิมๆ ตรงนี้ แหละที่ยิ่งทำให้บททั้งหมดที่ปูมามันสมเหตุสมผลมากขึ้น
แต่เราหักคะแนนนิดเดียว (ครึ่งดาว) ในส่วนของตำรวจสืบคดีที่จืดจางสุดๆ มึงสืบคดีแพ้คนท้องได้ไงวะ 5555555555 แต่ในแง่ของการดำเนินเรื่องก็เข้าใจได้ว่าต้องแพ้อะ (ไม่งั้นเรื่องจะไม่ดำเนินไปตามที่เขียนไว้) ก็ถือซะว่าได้ตำรวจสืบคดีมือละอ่อนไปก็พอหยวนๆ หยวนที่หักครึ่งดาว ใจดีปะ ก็คือชอบเล่มนี้แหละ 55555
สรุปแล้ว #มีอะไรในสวนหลังบ้าน เป็นเรื่องราวของหญิงคนรวยจูรันและหญิงคนจนซังอึน ที่มีความดราม่าของเรื่องเพศสภาพและสถานภาพโดยมีความตายเป็นจุดเริ่มต้น แม้จะดูเป็นเรื่องการต่อสู้ของชนชั้นแต่เปล่าเลย มันคือการต่อสู้ของผู้หญิงต่างหาก (ทั้งสู้กันเองและสู้กับสามีหัวขวด)
October 12, 2020
เจ๋งมาก เรื่องนี้เจ๋งมาก
ตอนที่ปมทุกอย่างค่อยๆ คลี่คลายออกมา มันพีคมากสำหรับเรา
ก่อนหน้านี้เราเดาอะไรไม่ได้เลย
ได้แต่ตามเบาะแสเงื่อนงำที่ผู้เขียนค่อยๆ ปลดทีละเปลาะอย่างผู้ตามที่ดี
แต่ไม่เคยตามทัน และยิ่งไม่อาจแซงหน้าผู้เขียนได้เลย
มาทันอีกทีเอาตอนใกล้จบนี่เอง ที่เ่อะใจ และพอเดาได้บางส่วน
แต่ถึงอยากนั้นก็ยังชอบมันมากอยู่ดี
เสียดายอย่างเดียวที่ได้อ่านมันช้าเกินไปหน่อย
มาอ่านตอนนี้ ตลาดวายเสียแล้ว :)
ตอนที่ปมทุกอย่างค่อยๆ คลี่คลายออกมา มันพีคมากสำหรับเรา
ก่อนหน้านี้เราเดาอะไรไม่ได้เลย
ได้แต่ตามเบาะแสเงื่อนงำที่ผู้เขียนค่อยๆ ปลดทีละเปลาะอย่างผู้ตามที่ดี
แต่ไม่เคยตามทัน และยิ่งไม่อาจแซงหน้าผู้เขียนได้เลย
มาทันอีกทีเอาตอนใกล้จบนี่เอง ที่เ่อะใจ และพอเดาได้บางส่วน
แต่ถึงอยากนั้นก็ยังชอบมันมากอยู่ดี
เสียดายอย่างเดียวที่ได้อ่านมันช้าเกินไปหน่อย
มาอ่านตอนนี้ ตลาดวายเสียแล้ว :)
August 29, 2022
ที่จริงเล่มนี้อยู่ในกองดองของเราเป็นชาติแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะอ่านไปถีงสักที ฉับพลันที่ Seulgi อาหมวยสุดชิกแห่งวง Red Velvet บอกว่าตัวเองอ่านเล่มนี้อยู่ สนุกมากเท่านั้นแหล่ะ เรารีบลัดคิวขึ้นมาก่อนเล่มอื่น ๆ เลย แล้วก็พบว่า”มีอะไรในสวนหลังบ้าน”นี่เป็นนิยายที่มีของจริง ๆ ด้วยแฮะ
นิยายเล่าเรื่องราวของผู้หญิง 2 คนที่เสมือนเป็นขั้วตรงข้ามของกันและกัน “คิมจูรัน”หญิงสาวผู้มีชีวิตครอบครัวที่ใคร ๆ ต่างอิจฉา เธอมีสามีเป็นนายแพทย์ซึ่งมาจากครอบครัวที่มีฐานะ มีลูกชายสมความตั้งใจของพ่อ-แม่สามี เธอมีชีวิตที่สุขสบายในระดับที่แทบไม่ต้องดิ้นรนทำอะไรด้วยตัวเองเลย ราวกลับเราได้เห็นชีวิตของนางเอกในนิยายหลังงานแต่งในฝันเมื่อนิยายจบลง หากมีอะไรที่มันพร่องไปบ้างคงเป็นเรื่องที่เธอเป็นฝ่ายคล้อยตามสามีและครอบครัวของเขาแบบที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงแม้สักนิด แม้แต่ในวันที่ตัดสินใจจะยืนขึ้นเพื่อตัวเอง เธอกลับไม่มั่นใจในตัวเองแม้แต่น้อย
อีกฟากหนึ่งเราได้เห็น”อีซังอึน” สาวแกร่งผู้ที่คว้าทุกอย่างด้วยกำลังและสติปัญญามาทั้งชีวิต ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายขนาดไหน เธอไม่เคยถอดใจ ทำมันทุกทางเท่าที่ทำได้เพื่อพาตัวเองก้าวข้ามอุปสรรคที่ถาโถมใส่เธอไปให้จงได้ เธอมิใช่คนสวยแบบจูรัน หน้าที่การงานก็บีบคั้นซะหนักหนา สามีรึก็ไม่ใช่คนที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานในชาตินี้ได้แน่ ๆ ไหนจะภาระหนี้สินอันเกินกำลังอีกเล่า นี่อดทึ่งไม่ได้เลยนะ ที่ไม่เห็นเธอถอดใจมันสักนิด แม้แต่ตอนที่อะไร ๆ ไม่เป็นไปตามที่หวังเลยสักนิด
เล่มนี้เป็นนิยายสืบสวนสอบสวนที่ขับเคลื่อนผู้อ่านด้วยความสงสัยใคร่รู้ การสลับฉากระหว่างเรื่องราวของต้วเอกทั้ง 2 คน ทำได้ลื่นไหลไม่รู้สึกสะดุด แถมการคลี่ปมต่าง ๆ ของเรื่องสู่การร้บรู้ของเราก็ทำได้เป็นธรรมชาติดีชะมัด เหนือสิ่งอื่นใดบรรยากาศอันแสนจะอึดอัดที่เหล่าตัวละครต้องเผชิญในเรื่อง นี่ช่วยทำให้เราเข้าใจถึงความบีบคั้นที่ผู้หญิงต้องเผชิญในสังคมปิตาได้แบบถึงเลือดถึงเนื้อเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการที่พวกเธอต้องสำนึก”บุญคุณ”สามีที่ทำงานหาเงิน ทั้ง ๆ ที่พวกเธอก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในบ้านที่หนักหนาไม่แพ้กัน, ไหนจะการที่ต้องวางหน้าที่การงานเป็นเดิมพันทุกครั้งที่ตั้งครรภ์อีก, อีกทั้งปัญหาของการถูกข่มขืนจากคู่สมรส(การแต่งงานไม่ควรทำให้ใครเสียสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการมีเซ็กส์โดยไม่เต็มใจนี่), นี่ยังไม่นับรวมถึงอุปสรรคนานัปการที่พวกเธอต้องเผชิญยามต้องกลับมาพึ่งพาตัวเองหลังจากแยกทางกับคู่สมรสอีกนะ
นิยายเล่าเรื่องราวของผู้หญิง 2 คนที่เสมือนเป็นขั้วตรงข้ามของกันและกัน “คิมจูรัน”หญิงสาวผู้มีชีวิตครอบครัวที่ใคร ๆ ต่างอิจฉา เธอมีสามีเป็นนายแพทย์ซึ่งมาจากครอบครัวที่มีฐานะ มีลูกชายสมความตั้งใจของพ่อ-แม่สามี เธอมีชีวิตที่สุขสบายในระดับที่แทบไม่ต้องดิ้นรนทำอะไรด้วยตัวเองเลย ราวกลับเราได้เห็นชีวิตของนางเอกในนิยายหลังงานแต่งในฝันเมื่อนิยายจบลง หากมีอะไรที่มันพร่องไปบ้างคงเป็นเรื่องที่เธอเป็นฝ่ายคล้อยตามสามีและครอบครัวของเขาแบบที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงแม้สักนิด แม้แต่ในวันที่ตัดสินใจจะยืนขึ้นเพื่อตัวเอง เธอกลับไม่มั่นใจในตัวเองแม้แต่น้อย
อีกฟากหนึ่งเราได้เห็น”อีซังอึน” สาวแกร่งผู้ที่คว้าทุกอย่างด้วยกำลังและสติปัญญามาทั้งชีวิต ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายขนาดไหน เธอไม่เคยถอดใจ ทำมันทุกทางเท่าที่ทำได้เพื่อพาตัวเองก้าวข้ามอุปสรรคที่ถาโถมใส่เธอไปให้จงได้ เธอมิใช่คนสวยแบบจูรัน หน้าที่การงานก็บีบคั้นซะหนักหนา สามีรึก็ไม่ใช่คนที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานในชาตินี้ได้แน่ ๆ ไหนจะภาระหนี้สินอันเกินกำลังอีกเล่า นี่อดทึ่งไม่ได้เลยนะ ที่ไม่เห็นเธอถอดใจมันสักนิด แม้แต่ตอนที่อะไร ๆ ไม่เป็นไปตามที่หวังเลยสักนิด
เล่มนี้เป็นนิยายสืบสวนสอบสวนที่ขับเคลื่อนผู้อ่านด้วยความสงสัยใคร่รู้ การสลับฉากระหว่างเรื่องราวของต้วเอกทั้ง 2 คน ทำได้ลื่นไหลไม่รู้สึกสะดุด แถมการคลี่ปมต่าง ๆ ของเรื่องสู่การร้บรู้ของเราก็ทำได้เป็นธรรมชาติดีชะมัด เหนือสิ่งอื่นใดบรรยากาศอันแสนจะอึดอัดที่เหล่าตัวละครต้องเผชิญในเรื่อง นี่ช่วยทำให้เราเข้าใจถึงความบีบคั้นที่ผู้หญิงต้องเผชิญในสังคมปิตาได้แบบถึงเลือดถึงเนื้อเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการที่พวกเธอต้องสำนึก”บุญคุณ”สามีที่ทำงานหาเงิน ทั้ง ๆ ที่พวกเธอก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในบ้านที่หนักหนาไม่แพ้กัน, ไหนจะการที่ต้องวางหน้าที่การงานเป็นเดิมพันทุกครั้งที่ตั้งครรภ์อีก, อีกทั้งปัญหาของการถูกข่มขืนจากคู่สมรส(การแต่งงานไม่ควรทำให้ใครเสียสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการมีเซ็กส์โดยไม่เต็มใจนี่), นี่ยังไม่นับรวมถึงอุปสรรคนานัปการที่พวกเธอต้องเผชิญยามต้องกลับมาพึ่งพาตัวเองหลังจากแยกทางกับคู่สมรสอีกนะ
July 23, 2023
Dunia selalu keras kepada yang lemah (hal. 21).
Gara-gara iklan drakor ‘Lies Hidden in My Garden’ nongol di timeline Twitter, aku jadi buru-buru check out bukunya. Senang karena seseru itu bukunya.
Joo-Ran, seorang ibu rumah tangga yang memiliki seorang anak, sekaligus sosialita yang kerap mengeluh soal teman-temannya, harus bersinggungan dengan Sang-Eun, seorang wanita hamil yang perekonomiannya pas-pasan. Keduanya bertemu karena suami Sang-Eun kerap datang ke rumah Joo-Ran dengan dalih ada janji dengan suami Joo-Ran yang seorang dokter.
Joo-Ran menemukan sesuatu yang mirip jari manusia saat menggali kebunnya, sedangkan Sang-Eun dihubungi oleh polisi karena mereka menemukan jasad Kim Yoon-Beom, suaminya, yang diduga bunuh diri menenggelamkan diri ke waduk.
Kasus misterius tersebut ternyata saling berkaitan dan kedua perempuan tersebut bermain menjadi detektif untuk menemukan fakta sebenarnya.
Buku ini sangat page-turner dengan kepingan puzzle yang berceceran hingga akhirnya terkuak misteri tentang jari di kebun dan penyebab kematian suami Sang-Eun.
Tidak disangka ternyata kedua perempuan tersebut memiliki background yang hampir sama, di mana keduanya tertekan oleh budaya patriarki dan mengalami KDRT. Novel ini juga mengangkat isu parenting, topik berat untuk semua orangtua😭. Dua tokoh utamanya juga jadi representasi kesenjangan sosial di Korea Selatan.
Yang paling seru adalah permainan pikiran para tokohnya di mana mereka adu taktik.
Masih ada pertanyaan yang mengganjal, tapi aku nggak mau sebut karena mengandung spoiler. Semoga bisa terjawab di acara diskusi bersama @sofaliterasi nanti.
Overall, novel ini cukup memuaskan dengan kasusnya yang membuat aku berpikir.
Gara-gara iklan drakor ‘Lies Hidden in My Garden’ nongol di timeline Twitter, aku jadi buru-buru check out bukunya. Senang karena seseru itu bukunya.
Joo-Ran, seorang ibu rumah tangga yang memiliki seorang anak, sekaligus sosialita yang kerap mengeluh soal teman-temannya, harus bersinggungan dengan Sang-Eun, seorang wanita hamil yang perekonomiannya pas-pasan. Keduanya bertemu karena suami Sang-Eun kerap datang ke rumah Joo-Ran dengan dalih ada janji dengan suami Joo-Ran yang seorang dokter.
Joo-Ran menemukan sesuatu yang mirip jari manusia saat menggali kebunnya, sedangkan Sang-Eun dihubungi oleh polisi karena mereka menemukan jasad Kim Yoon-Beom, suaminya, yang diduga bunuh diri menenggelamkan diri ke waduk.
Kasus misterius tersebut ternyata saling berkaitan dan kedua perempuan tersebut bermain menjadi detektif untuk menemukan fakta sebenarnya.
Buku ini sangat page-turner dengan kepingan puzzle yang berceceran hingga akhirnya terkuak misteri tentang jari di kebun dan penyebab kematian suami Sang-Eun.
Tidak disangka ternyata kedua perempuan tersebut memiliki background yang hampir sama, di mana keduanya tertekan oleh budaya patriarki dan mengalami KDRT. Novel ini juga mengangkat isu parenting, topik berat untuk semua orangtua😭. Dua tokoh utamanya juga jadi representasi kesenjangan sosial di Korea Selatan.
Yang paling seru adalah permainan pikiran para tokohnya di mana mereka adu taktik.
Masih ada pertanyaan yang mengganjal, tapi aku nggak mau sebut karena mengandung spoiler. Semoga bisa terjawab di acara diskusi bersama @sofaliterasi nanti.
Overall, novel ini cukup memuaskan dengan kasusnya yang membuat aku berpikir.
August 24, 2019
เล่มนี้กระแสแรงเหลือเกิน รีบรื้อกองดองออกมาอ่านเลย
นิยายเกาหลีนี่มันก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบแฮะ ปกติเวลาดูซีรี่ย์เกาหลีนี่ผู้ชายจะสุภาพบุรุษ แสนดี โคตรจะแมนหลอกให้เราเคลิ้ม แต่ในนิยายนี่สะท้อนความจริงมาเลย ผู้ชายค่อนข้างกดขี่ผู้หญิง ทำร้ายร่างกาย นิยายได้ทำลายภาพจำโอปป้าของฉันหมดสิ้น
มาถึงตัวนิยาย เรื่องมันหลอนๆ ประสาทๆดี ไม่ได้มีผี แต่หลอนในแง่จิตใจมนุษย์ ไม่มีใครที่ปกติเพื่อให้เราเทียบเลยว่าไหนความจริง ความลวง แต่ละคนมีจิตหลุดและปมในใจกันคนละนิดละหน่อย
การเล่าเรื่องเล่าผ่านตัวเอกสองคน คือ
- ซองอึน เป็นภรรยาของผู้แทนยา ที่ชีวิตปากกัดตีนถีบ อยากมีหน้ามีตาในสังคม เกลียดคนที่รวยกว่า คิดว่าตัวเองโชคร้าย โดยไม่ได้มองตนเอง มีสามีก็ดันเป็นคนล้มเหลว ทำอะไรไม่สำเร็จ
- จูรัน แม่บ้านเต็มตัว เป็นภรรยาของหมอที่เป็น ผอ โรงพยาบาลด้วย มีชีวิตเพียบพร้อมทุกอย่าง มีบ้านหลังใหญ่ มีสามีที่ดี แต่มี self esteem ต่ำ คิดเล็กคิดน้อย วิตกกังวลจนคิดว่านางก็น่าจะป่วยทางจิตด้วยจริงๆ
คนสองคนที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้ กลับมารับรู้คดีฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสามีตัวเอง แต่ละคนก็ต่างกระตุ้นกันและกัน ซึงอันกระตุ้นให้จูรันไม่เชื่อใจสามี จูรันเองก็ทำให้ซังอึนกลายเป็นคนแบบที่เคยเกลียด ต่างคนต่างวนเวียนอยู่กับความคิดตัวเอง ไม่รู้ไหนจริงไหนหลอก บรรยากาศอึดอัดสุดๆ ไม่อยากเล่าเรื่องเยอ���มันซับซ้อน
หักคะแนนเนื้อเรื่องช่วงท้ายๆที่บางอย่างไม่ชวนให้เราคล้อยตาม เช่น ในเมื่อหมอรู้ว่าซังอึนฆ่าสามีตัวเองแต่ทำไมตำรวจไม่รู้, หมอที่ดูฉลาด เจ้าเล่ห์ สุขุมมาตลอด ท้ายเรื่องกลับสติแตกเฉย, ซังอึนที่น่าจะตายกลับไม่ตาย แถมดันเอาหลักฐานมัดตัวตัวเองให้จูรัน, จูรันที่น่าจะ break psychosis กลับปกติอยู่
นิยายเกาหลีนี่มันก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบแฮะ ปกติเวลาดูซีรี่ย์เกาหลีนี่ผู้ชายจะสุภาพบุรุษ แสนดี โคตรจะแมนหลอกให้เราเคลิ้ม แต่ในนิยายนี่สะท้อนความจริงมาเลย ผู้ชายค่อนข้างกดขี่ผู้หญิง ทำร้ายร่างกาย นิยายได้ทำลายภาพจำโอปป้าของฉันหมดสิ้น
มาถึงตัวนิยาย เรื่องมันหลอนๆ ประสาทๆดี ไม่ได้มีผี แต่หลอนในแง่จิตใจมนุษย์ ไม่มีใครที่ปกติเพื่อให้เราเทียบเลยว่าไหนความจริง ความลวง แต่ละคนมีจิตหลุดและปมในใจกันคนละนิดละหน่อย
การเล่าเรื่องเล่าผ่านตัวเอกสองคน คือ
- ซองอึน เป็นภรรยาของผู้แทนยา ที่ชีวิตปากกัดตีนถีบ อยากมีหน้ามีตาในสังคม เกลียดคนที่รวยกว่า คิดว่าตัวเองโชคร้าย โดยไม่ได้มองตนเอง มีสามีก็ดันเป็นคนล้มเหลว ทำอะไรไม่สำเร็จ
- จูรัน แม่บ้านเต็มตัว เป็นภรรยาของหมอที่เป็น ผอ โรงพยาบาลด้วย มีชีวิตเพียบพร้อมทุกอย่าง มีบ้านหลังใหญ่ มีสามีที่ดี แต่มี self esteem ต่ำ คิดเล็กคิดน้อย วิตกกังวลจนคิดว่านางก็น่าจะป่วยทางจิตด้วยจริงๆ
คนสองคนที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้ กลับมารับรู้คดีฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสามีตัวเอง แต่ละคนก็ต่างกระตุ้นกันและกัน ซึงอันกระตุ้นให้จูรันไม่เชื่อใจสามี จูรันเองก็ทำให้ซังอึนกลายเป็นคนแบบที่เคยเกลียด ต่างคนต่างวนเวียนอยู่กับความคิดตัวเอง ไม่รู้ไหนจริงไหนหลอก บรรยากาศอึดอัดสุดๆ ไม่อยากเล่าเรื่องเยอ���มันซับซ้อน
หักคะแนนเนื้อเรื่องช่วงท้ายๆที่บางอย่างไม่ชวนให้เราคล้อยตาม เช่น ในเมื่อหมอรู้ว่าซังอึนฆ่าสามีตัวเองแต่ทำไมตำรวจไม่รู้, หมอที่ดูฉลาด เจ้าเล่ห์ สุขุมมาตลอด ท้ายเรื่องกลับสติแตกเฉย, ซังอึนที่น่าจะตายกลับไม่ตาย แถมดันเอาหลักฐานมัดตัวตัวเองให้จูรัน, จูรันที่น่าจะ break psychosis กลับปกติอยู่
This entire review has been hidden because of spoilers.
January 12, 2025
2.5 perché nell'ultimo quarto si risolleva un po'
Che dire? Partiamo dalla traduzione, davvero pessima. Anche questa migliora col proseguire dei capitoli ma non mi pare una cosa tanto normale, soprattutto considerando che la prima parte sembra essere stata fatta con dei ritocchi a una traduzione con google translate.
Delle protagoniste, una è cazzutissima e porta avanti la storia (e meno male che c'è lei), una è una lagna che ha deciso di sposare un red flag vivente.
Se il libro fosse stato tutto come gli ultimi cinque capitoli (colpi di scena wow, veri drammi psicologici) avrei dato anche 4 stelle a mani basse, ma così devo seppellirlo nel mio giardino-cimitero dei libri che mi hanno annoiata tantissimo.
Che dire? Partiamo dalla traduzione, davvero pessima. Anche questa migliora col proseguire dei capitoli ma non mi pare una cosa tanto normale, soprattutto considerando che la prima parte sembra essere stata fatta con dei ritocchi a una traduzione con google translate.
Delle protagoniste, una è cazzutissima e porta avanti la storia (e meno male che c'è lei), una è una lagna che ha deciso di sposare un red flag vivente.
Se il libro fosse stato tutto come gli ultimi cinque capitoli (colpi di scena wow, veri drammi psicologici) avrei dato anche 4 stelle a mani basse, ma così devo seppellirlo nel mio giardino-cimitero dei libri che mi hanno annoiata tantissimo.
March 4, 2025
Davvero un pessimo thriller. Queste protagoniste sembrano che non riescono a provare nessun sentimento. La storia è piatta e non c'è nessun vero colpo di scena
July 11, 2021
เฮ้ สนุกนะ นึกถึง สไตล์ ดาร์คๆ อย่าง มินะโตะ คะนะเอะเลย
นิยายแนวนี้เกาหลีก็ทำดีเช่นกัน
.
เล่มที่ 214/2021 (320)
มีอะไรในสวนหลังบ้าน
ผู้เขียน: คิมจินยอง
ผู้แปล: วิทิยา จันทรร์พันธ์
สำนักพิมพ์: แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า: 276 หน้า ปกอ่อน
.
เรื่องมันเริ่มจากเจอศพในสวนหลังบ้านครอบครัวหนึ่งนะครับ
.
มีชั้นเชิง เดินเรื่องฉับไว หักมุม และ ดาร์คดีครับ
.
ผู้เขียนเก่งมากในการทำให้เราอยากรู้ไปเรื่อยๆ และ อยากอ่านต่อแบบวางไม่ลง ซึ่งนานๆ ทีจะเจอ
.
ปมปัญหาครอบครัวก็ถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจน
และ อีกสิ่งทีี่ชัดมากๆ คืออ แรงกดดันทางสังคมเกาหลี
และความไม่เท่าเทียมทางเพศนะ
.
ปัญหาชีวิตคู่เขาก็เล่าเหมือนกัน
.
คดีฆาตกรรมก็ลุ้น และ สนุก
.
8.5/10 ถือว่าดีเลย
นิยายแนวนี้เกาหลีก็ทำดีเช่นกัน
.
เล่มที่ 214/2021 (320)
มีอะไรในสวนหลังบ้าน
ผู้เขียน: คิมจินยอง
ผู้แปล: วิทิยา จันทรร์พันธ์
สำนักพิมพ์: แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า: 276 หน้า ปกอ่อน
.
เรื่องมันเริ่มจากเจอศพในสวนหลังบ้านครอบครัวหนึ่งนะครับ
.
มีชั้นเชิง เดินเรื่องฉับไว หักมุม และ ดาร์คดีครับ
.
ผู้เขียนเก่งมากในการทำให้เราอยากรู้ไปเรื่อยๆ และ อยากอ่านต่อแบบวางไม่ลง ซึ่งนานๆ ทีจะเจอ
.
ปมปัญหาครอบครัวก็ถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจน
และ อีกสิ่งทีี่ชัดมากๆ คืออ แรงกดดันทางสังคมเกาหลี
และความไม่เท่าเทียมทางเพศนะ
.
ปัญหาชีวิตคู่เขาก็เล่าเหมือนกัน
.
คดีฆาตกรรมก็ลุ้น และ สนุก
.
8.5/10 ถือว่าดีเลย
August 7, 2019
เพิ่งเคยอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนของเกาหลีเล่มแรก รู้สึกเซอร์ไพส์มาก พล็อตมีความหักมุมและหลอกล่อเราให้หลงทางเก่งมาก นอกจากนี้ยังเขียนให้ได้เห็นสภาพสังคมและความเป็นจริงของเกาหลีในมุมที่ต่างจากความสวยงามในซีรี่ส์เกาหลี ชอบมาก และคิดว่าเป็นนิยายแนวที่เหมาะกับตัวเอง
เพราะไม่ได้พล็อตซ้ำ เดาได้ ตัวเอกเป็นนักสืบหรือตำรวจเหมือนนิยายฝรั่ง และไม่ได้อี๋แหวะ ปวดใจสุดขีดเหมือนนิยายญี่ปุ่น
เพราะไม่ได้พล็อตซ้ำ เดาได้ ตัวเอกเป็นนักสืบหรือตำรวจเหมือนนิยายฝรั่ง และไม่ได้อี๋แหวะ ปวดใจสุดขีดเหมือนนิยายญี่ปุ่น
September 6, 2019
มีอะไรในสวนหลังบ้าน นิยายสืบสวนสอบสวน ระทึกขวัญจากประเทศเกาหลีใต้
เรื่องราวคู่ขนานระหว่างหญิงสาวสองคน ที่จะนำพาไปพบกับความลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ความลับที่จะเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่ไปตลอดกาล
เป็นนิยายสืบสวนสอบสวนจากเกาหลีที่อ่านสนุก คาดเดาได้ยากมีจุดหักมุมแบบทุกตอน เป็นหนึ่งในนิยายเกาหลีที่อ่านเพลินอ่านสนุกไม่แพ้นิยายจากประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
เรื่องราวคู่ขนานระหว่างหญิงสาวสองคน ที่จะนำพาไปพบกับความลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ความลับที่จะเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่ไปตลอดกาล
เป็นนิยายสืบสวนสอบสวนจากเกาหลีที่อ่านสนุก คาดเดาได้ยากมีจุดหักมุมแบบทุกตอน เป็นหนึ่งในนิยายเกาหลีที่อ่านเพลินอ่านสนุกไม่แพ้นิยายจากประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
August 4, 2023
"Karena memang dunia selalu keras kepada yang lemah." (Sang-Eun, hlm. 21)
Secara garis besar, kalimat tersebutlah yang menggambarkan apa yang terjadi pada buku ini. Kalau dilihat dari blurb-nya, kita pasti dibuat penasaran dengan beragam pertanyaan seperti: apa yang ada di belakang halaman rumah Jo Ran? Mengapa suami Sang Eun meninggal? Apakah benar Kim Yoon Beom, suami Sang Eun, mati bunuh diri - atau dibunuh? Kalau dibunu, siapa pelakunya? Apa kaitannya antara Jo Ran dan Sang Eun? Dan kita akan berasumsi bahwa novel ini adalah thriller mistery yang menguak suatu pembunuhan.
Tapi menurut saya, pembunuhan di novel ini hanyalah bumbu saja. Kim Jin Yeong, sang penulis, menyuguhkan kisah patriarki dalam dunia pernikahan, KDRT, kemiskinan dan rasa takut akan menjadi miskin, yang mana semuanya ini membentuk suatu kesengsaraan yang menyebabkan pembunuhan demi pembunuhan. Selain itu, yang paling utama adalah, semua yang saya sebutkan di atas memiliki "uang" sebagai variabel utamanya.
Novel ini menggunakan sudut pandang orang pertama dalam gaya berceritanya, dengan ada 2 karakter yang bercerita - yaitu Jo Ran dan Sang Eun. Dengan begitu, kita bisa dengan lebih "dalam" memahami watak dan perasaan tiap karakter.
Mari kita lihat bagaimana hidup Sang Eun, yang menyebabkannya berubah dari wanita yang 'lemah' dan menurut dengan suaminya, menjadi wanita dengan penuh tekad yang berani menghadapi segala resiko yang ada untuk mencapai keinginannya:
"Aku hanya hidup dalam kemiskinan karena tidak punya cukup uang untuk dibelanjakan." (hlm. 136)
Sang Eun lelah dengan seluruh kemalangan di hidupnya, kemalangan akibat memiliki suami yang melakukan KDRT kepadanya, suami yang berambisi menjadi kepala keluarga yang sukses sehingga ketika ambisinya gagal ia mulai berlaku kasar dan memukui istrinya. Kemalangan akibat kemiskinannya. Dan puncaknya, ia membenci orang-orang yang memandangnya dengan iba.
"Dia mulai menatapku dengan ekspresi iba. Ekspresi yang memuakkan itu." (hlm. 166)
Sehingga, motivasi Sang Eun cukup jelas. Ia hanya ingin hidup dengan lebih layak.
Sedangkan Jo Ran. Wanita ini sungguh beruntung, lahir dari keluarga miskin dengan ayah seorang pekerja pabrik di Incheon, ia kemudian menikah dengan Park Jae Ho - seorang anak orang kaya yang menjadi dokter anak (pediatri). Pernikahan itu membuatnya hidup nyaman, memberikannya istana dengan ia sebagai ratunya. Ia bisa merawat diri, membeli barang mahal, mandi di atas uang - sungguh suatu keadaan yang sangat berbalik dari Sang Eun. Tapi, mengapa ia tidak merasa bahagia? Walau ia memiliki suami yang kaya dan akan terus memberinya uang tanpa mengharuskannya bekerja, walau ia memiliki seorang anak laki-laki, walau ia hidup dengan sangat nyaman? Ini yang dikatakan dan dirasakan oleh Jo Ran, yang saya garis-bawahi sebagai penyebab mengapa Jo Ran melakukan apa yang dilakukannya di buku ini:
"Memangnya apa yang bisa kau lakukan sendirian?. Aku hanya dianggap sebagai aksesori bagi dunia suamiku dan aku merasa putus asa, seolah-olah tidak ada apapun di rumah ini yang menjadi milikku." (hlm. 148).
Bahkan, keinginan Jo Ran utk studi lebih lanjut pun tidak disetujui suaminya. Ia harus menikah muda dan hamil di usia 24, dan diam-diam merasa malu dan rendah diri dibandingkan teman-teman seusianya yang masih mengejar ambisi dan membangun karir, sebuah aktualisasi diri yang tidak pernah bisa ia lakukan. Jo Ran merasa heran mengapa semua temannya iri padanya, apalagi saat ia pindah ke rumah mewah di Pangyo. Ia merasa, bahkan dengan rumah yang besar dan mewah, pernikahan hampir sempurna, suami yang hampir "sempurna", ia tetap tidak bahagia...apalagi dibayangi oleh kematian kakaknya yang sangat tidak wajar - dan ia membenci suaminya yang seakan-akan menanamkan pikiran bahwa ialah penyebab kematian kakaknya: Seandainya kita tidak pernah pergi ke Hong Kong.... - begitu kata suaminya. Tak ayal, Jo Ran mulai menyalahkan dirinya sendiri atas kematian kakaknya.
Jo Ran takut miskin. Ia pernah melihat kemiskinan begitu nyata, saat ia tinggal di Incheon dulu. Ia tidak mau lagi menjadi miskin. Menurut saya, itu yang membuatnya bertahan hidup di dalam perkawinan patriarki di mana laki-laki memegang kuasa atas segalanya - dengan Park Jae Ho. Ia "menjual" perasaannya, kebahagiaannya, hidupnya - untuk kenayaman dan uang yang bisa Park Jae Ho tawarkan. Ia pura-pura bahagia, menjadi seorang istri pengertian dan ibu yang baik, tetapi menurut saya hidupnya penuh dengan khawatir ditinggalkan, ketakutan menjadi miskin, sehingga menyebabkannya begitu sensitif dan khawatir berlebihan.
Ini bukti bagaimana Jo Ran sangat takut miskin, di bagian di mana ia mengunjungi Sang Eun di apartemennya:
Rumah Lee Sang Eun adalah sebuah apartemen kecil di Incheon. Ruang tamunya sempit, ada tiga kamar, pelapis dindingnya sobek, dan kamar mandi yang pintunya terbuka itu berbau jamur. Sebenarnya, dibanding takut kepada Lee Sang Eun, aku malah lebih takut kepada tempat wanita itu tinggal. Sebuah kehidupan yang tidak layak. Aku tahu kehidupan seperti itu dengan baik. Dunia yang sangat mengerikan. (hlm. 160)
Lalu,
Bahkan ketika aku merasa sangat sedih, aku masih bisa mersa malu. Jadi, aku menyukai pernikahan dengan suamiku ini dan aku sejujurnya juga merasa bahagia karena telah pindah ke dunia yang berbeda. (hlm. 161)
Hingga kemudian Jo Ran tersadar seberapa besar dampak patriarki Pak Jae Ho terhadap dirinya, seberapa jauh dirinya sudah terseret ke dunia Park Jae Ho dan seberapa rendah ia sudah membungkuk di dunia tersebut.
Selama ini, aku hanya melihat sosok suamiku yang ingin kulihat. Aku adalah orang yang berusaha untuk tidak melihat jati diri suamiku yang sebenarnya. (hlm. 231), lalu Semua ucapan suamiku menunjukkan bahwa dirinya tidak pernah salah. Jadi, aku tidak lagi bisa memercayai kata-katanya. (hlm. 269)
Perlahan tapi pasti, kita diberitahu bagaimana Jo Ran mendapati sikap asli suaminya, tapi lebih memilih untuk mengabaikannya. Dan kini, semua kebenaran yang ia abaikan itu menumpuk dan membayanginya, membuatnya semakin tersadar bahwa ia terjerat dalam pernikahan ini.
Sampai Jo Ran pun berubah menjadi karakter yang sebelumnya saya benci (penuh ketakutan, kekhawatiran berlebihan, terlalu menunduk kepada suaminya) menjadi karakter yang setidaknya berusaha 'merebut kembali' hidupnya. Jo Ran pun memberikan analogi kebun bunganya sebagai gambaran pernikahannya:
"Ini mengerikan, bukan? Saat dipandang dari jauh terlihat cantik, tapi sangat mengerikan ketika melihat apa yang ada di dalamnya dengan saksama dari dekat. Seperti mulut iblis yang terbuka lebar..." (hlm. 264)
Yang bisa saya simpulkan, Sang Eun dan Jo Ran adalah dua wanita yang sama-sama terjerat dalam pernikahan. Mereka memberitahu kita bahwa kaya atau miskin, wanita juga bisa menjadi korban dalam pernikahan yang begitu menjerat. Sang Eun yang miskin, berusaha terlepas dari jeratan suami yang melakukan KDRT. Dan walau kaya raya, Jo Ran berusaha terlepas dari jeratan suami yang memiiki prinsip patriarki yang memuakkan.
Lalu, kenapa saya beri bintang 3 - menandakan kalau buku ini tidak begitu berkesan untuk saya?
Ya, karena ada beberapa hal yang masih saya tidak mengerti. Mengapa Lee Soo Min harus tewas? Walau, tewasnya Lee Soo Min juga karena uang, yang saya sebut sebagai variabel utama dalam cerita ini. Kebutuhan mendesak akan uang dan kemiskinan merupakan alasan utama mengapa Lee Soo Min menjalani "kencan bersyarat". Tapi, saya tidak mengerti kenapa ia harus tewas? Dan siapa yang membunuhnya, juga sangat tersirat, masih tidak bisa saya pahami - apakah Park Jae Ho? Atau, Park Sung Jae? Ini yang justru membuat buku ini page-turning untuk saya sewaktu membaca, tapi berujung mengecewakan. Saya justru lebih memahami bumbu lain yang penulis sisipkan, yang sudah saya jabarkan di atas. Saya berharap penulis bisa lebih jelas dalam memberikan konfirmasi siapa yang membunuh Lee Soo Min dan mengapa.
Yah, tipikal novel mystery/thriller dari Korea. Terakhir saya merasakan hal ini sewaktu membaca buku "Happiness Battle" karya Joo Youngha. Begitu menjanjikan dari sinopsis dan blurbnya, tapi begitu mengecewakan saat saya baca - apalagi endingnya.
Omong-omong, novel ini telah diadaptasi menjadi serial drama korea yang diperankan oleh Kim Tae Hee sebagai Jo Ran dan Lim Ji Yeon sebagai Lee Sang Eun. Tapi, pas saya coba intip ending dramanya, kok malah beda dengan yang di novel ya? *Menghela napas berat* Yah sudahlah....mau bagaimana lagi....untung saya membaca novelnya saja hehe.
Beberapa bagian yang saya garis-bawahi:
-> "Memiliki banyak uang berati memiliki banyak pilihan dalam hidup." (hlm. 132)
-> "Bagaimana nasibnya bisa menjadi begitu malang?" Pada akhirnya, orang yang mengajukan pertanyaan semacam ini hanyalah seorang munafik yang ingin menegaskan bahwa hidupnya lebih baik dengan mendengarkan sejarah kemalangan orang lain. (hlm. 150)
-> "Tidak ada kehidupan yang mudah di dunia ini. Jangan menganggap diri Anda sebagai orang yang sangat malang. Kita semua merasakan kemalangan." (hlm. 295)
Secara garis besar, kalimat tersebutlah yang menggambarkan apa yang terjadi pada buku ini. Kalau dilihat dari blurb-nya, kita pasti dibuat penasaran dengan beragam pertanyaan seperti: apa yang ada di belakang halaman rumah Jo Ran? Mengapa suami Sang Eun meninggal? Apakah benar Kim Yoon Beom, suami Sang Eun, mati bunuh diri - atau dibunuh? Kalau dibunu, siapa pelakunya? Apa kaitannya antara Jo Ran dan Sang Eun? Dan kita akan berasumsi bahwa novel ini adalah thriller mistery yang menguak suatu pembunuhan.
Tapi menurut saya, pembunuhan di novel ini hanyalah bumbu saja. Kim Jin Yeong, sang penulis, menyuguhkan kisah patriarki dalam dunia pernikahan, KDRT, kemiskinan dan rasa takut akan menjadi miskin, yang mana semuanya ini membentuk suatu kesengsaraan yang menyebabkan pembunuhan demi pembunuhan. Selain itu, yang paling utama adalah, semua yang saya sebutkan di atas memiliki "uang" sebagai variabel utamanya.
Novel ini menggunakan sudut pandang orang pertama dalam gaya berceritanya, dengan ada 2 karakter yang bercerita - yaitu Jo Ran dan Sang Eun. Dengan begitu, kita bisa dengan lebih "dalam" memahami watak dan perasaan tiap karakter.
Mari kita lihat bagaimana hidup Sang Eun, yang menyebabkannya berubah dari wanita yang 'lemah' dan menurut dengan suaminya, menjadi wanita dengan penuh tekad yang berani menghadapi segala resiko yang ada untuk mencapai keinginannya:
"Aku hanya hidup dalam kemiskinan karena tidak punya cukup uang untuk dibelanjakan." (hlm. 136)
Sang Eun lelah dengan seluruh kemalangan di hidupnya, kemalangan akibat memiliki suami yang melakukan KDRT kepadanya, suami yang berambisi menjadi kepala keluarga yang sukses sehingga ketika ambisinya gagal ia mulai berlaku kasar dan memukui istrinya. Kemalangan akibat kemiskinannya. Dan puncaknya, ia membenci orang-orang yang memandangnya dengan iba.
"Dia mulai menatapku dengan ekspresi iba. Ekspresi yang memuakkan itu." (hlm. 166)
Sehingga, motivasi Sang Eun cukup jelas. Ia hanya ingin hidup dengan lebih layak.
Sedangkan Jo Ran. Wanita ini sungguh beruntung, lahir dari keluarga miskin dengan ayah seorang pekerja pabrik di Incheon, ia kemudian menikah dengan Park Jae Ho - seorang anak orang kaya yang menjadi dokter anak (pediatri). Pernikahan itu membuatnya hidup nyaman, memberikannya istana dengan ia sebagai ratunya. Ia bisa merawat diri, membeli barang mahal, mandi di atas uang - sungguh suatu keadaan yang sangat berbalik dari Sang Eun. Tapi, mengapa ia tidak merasa bahagia? Walau ia memiliki suami yang kaya dan akan terus memberinya uang tanpa mengharuskannya bekerja, walau ia memiliki seorang anak laki-laki, walau ia hidup dengan sangat nyaman? Ini yang dikatakan dan dirasakan oleh Jo Ran, yang saya garis-bawahi sebagai penyebab mengapa Jo Ran melakukan apa yang dilakukannya di buku ini:
"Memangnya apa yang bisa kau lakukan sendirian?. Aku hanya dianggap sebagai aksesori bagi dunia suamiku dan aku merasa putus asa, seolah-olah tidak ada apapun di rumah ini yang menjadi milikku." (hlm. 148).
Bahkan, keinginan Jo Ran utk studi lebih lanjut pun tidak disetujui suaminya. Ia harus menikah muda dan hamil di usia 24, dan diam-diam merasa malu dan rendah diri dibandingkan teman-teman seusianya yang masih mengejar ambisi dan membangun karir, sebuah aktualisasi diri yang tidak pernah bisa ia lakukan. Jo Ran merasa heran mengapa semua temannya iri padanya, apalagi saat ia pindah ke rumah mewah di Pangyo. Ia merasa, bahkan dengan rumah yang besar dan mewah, pernikahan hampir sempurna, suami yang hampir "sempurna", ia tetap tidak bahagia...apalagi dibayangi oleh kematian kakaknya yang sangat tidak wajar - dan ia membenci suaminya yang seakan-akan menanamkan pikiran bahwa ialah penyebab kematian kakaknya: Seandainya kita tidak pernah pergi ke Hong Kong.... - begitu kata suaminya. Tak ayal, Jo Ran mulai menyalahkan dirinya sendiri atas kematian kakaknya.
Jo Ran takut miskin. Ia pernah melihat kemiskinan begitu nyata, saat ia tinggal di Incheon dulu. Ia tidak mau lagi menjadi miskin. Menurut saya, itu yang membuatnya bertahan hidup di dalam perkawinan patriarki di mana laki-laki memegang kuasa atas segalanya - dengan Park Jae Ho. Ia "menjual" perasaannya, kebahagiaannya, hidupnya - untuk kenayaman dan uang yang bisa Park Jae Ho tawarkan. Ia pura-pura bahagia, menjadi seorang istri pengertian dan ibu yang baik, tetapi menurut saya hidupnya penuh dengan khawatir ditinggalkan, ketakutan menjadi miskin, sehingga menyebabkannya begitu sensitif dan khawatir berlebihan.
Ini bukti bagaimana Jo Ran sangat takut miskin, di bagian di mana ia mengunjungi Sang Eun di apartemennya:
Rumah Lee Sang Eun adalah sebuah apartemen kecil di Incheon. Ruang tamunya sempit, ada tiga kamar, pelapis dindingnya sobek, dan kamar mandi yang pintunya terbuka itu berbau jamur. Sebenarnya, dibanding takut kepada Lee Sang Eun, aku malah lebih takut kepada tempat wanita itu tinggal. Sebuah kehidupan yang tidak layak. Aku tahu kehidupan seperti itu dengan baik. Dunia yang sangat mengerikan. (hlm. 160)
Lalu,
Bahkan ketika aku merasa sangat sedih, aku masih bisa mersa malu. Jadi, aku menyukai pernikahan dengan suamiku ini dan aku sejujurnya juga merasa bahagia karena telah pindah ke dunia yang berbeda. (hlm. 161)
Hingga kemudian Jo Ran tersadar seberapa besar dampak patriarki Pak Jae Ho terhadap dirinya, seberapa jauh dirinya sudah terseret ke dunia Park Jae Ho dan seberapa rendah ia sudah membungkuk di dunia tersebut.
Selama ini, aku hanya melihat sosok suamiku yang ingin kulihat. Aku adalah orang yang berusaha untuk tidak melihat jati diri suamiku yang sebenarnya. (hlm. 231), lalu Semua ucapan suamiku menunjukkan bahwa dirinya tidak pernah salah. Jadi, aku tidak lagi bisa memercayai kata-katanya. (hlm. 269)
Perlahan tapi pasti, kita diberitahu bagaimana Jo Ran mendapati sikap asli suaminya, tapi lebih memilih untuk mengabaikannya. Dan kini, semua kebenaran yang ia abaikan itu menumpuk dan membayanginya, membuatnya semakin tersadar bahwa ia terjerat dalam pernikahan ini.
Sampai Jo Ran pun berubah menjadi karakter yang sebelumnya saya benci (penuh ketakutan, kekhawatiran berlebihan, terlalu menunduk kepada suaminya) menjadi karakter yang setidaknya berusaha 'merebut kembali' hidupnya. Jo Ran pun memberikan analogi kebun bunganya sebagai gambaran pernikahannya:
"Ini mengerikan, bukan? Saat dipandang dari jauh terlihat cantik, tapi sangat mengerikan ketika melihat apa yang ada di dalamnya dengan saksama dari dekat. Seperti mulut iblis yang terbuka lebar..." (hlm. 264)
Yang bisa saya simpulkan, Sang Eun dan Jo Ran adalah dua wanita yang sama-sama terjerat dalam pernikahan. Mereka memberitahu kita bahwa kaya atau miskin, wanita juga bisa menjadi korban dalam pernikahan yang begitu menjerat. Sang Eun yang miskin, berusaha terlepas dari jeratan suami yang melakukan KDRT. Dan walau kaya raya, Jo Ran berusaha terlepas dari jeratan suami yang memiiki prinsip patriarki yang memuakkan.
Lalu, kenapa saya beri bintang 3 - menandakan kalau buku ini tidak begitu berkesan untuk saya?
Ya, karena ada beberapa hal yang masih saya tidak mengerti. Mengapa Lee Soo Min harus tewas? Walau, tewasnya Lee Soo Min juga karena uang, yang saya sebut sebagai variabel utama dalam cerita ini. Kebutuhan mendesak akan uang dan kemiskinan merupakan alasan utama mengapa Lee Soo Min menjalani "kencan bersyarat". Tapi, saya tidak mengerti kenapa ia harus tewas? Dan siapa yang membunuhnya, juga sangat tersirat, masih tidak bisa saya pahami - apakah Park Jae Ho? Atau, Park Sung Jae? Ini yang justru membuat buku ini page-turning untuk saya sewaktu membaca, tapi berujung mengecewakan. Saya justru lebih memahami bumbu lain yang penulis sisipkan, yang sudah saya jabarkan di atas. Saya berharap penulis bisa lebih jelas dalam memberikan konfirmasi siapa yang membunuh Lee Soo Min dan mengapa.
Yah, tipikal novel mystery/thriller dari Korea. Terakhir saya merasakan hal ini sewaktu membaca buku "Happiness Battle" karya Joo Youngha. Begitu menjanjikan dari sinopsis dan blurbnya, tapi begitu mengecewakan saat saya baca - apalagi endingnya.
Omong-omong, novel ini telah diadaptasi menjadi serial drama korea yang diperankan oleh Kim Tae Hee sebagai Jo Ran dan Lim Ji Yeon sebagai Lee Sang Eun. Tapi, pas saya coba intip ending dramanya, kok malah beda dengan yang di novel ya? *Menghela napas berat* Yah sudahlah....mau bagaimana lagi....untung saya membaca novelnya saja hehe.
Beberapa bagian yang saya garis-bawahi:
-> "Memiliki banyak uang berati memiliki banyak pilihan dalam hidup." (hlm. 132)
-> "Bagaimana nasibnya bisa menjadi begitu malang?" Pada akhirnya, orang yang mengajukan pertanyaan semacam ini hanyalah seorang munafik yang ingin menegaskan bahwa hidupnya lebih baik dengan mendengarkan sejarah kemalangan orang lain. (hlm. 150)
-> "Tidak ada kehidupan yang mudah di dunia ini. Jangan menganggap diri Anda sebagai orang yang sangat malang. Kita semua merasakan kemalangan." (hlm. 295)
This entire review has been hidden because of spoilers.
June 15, 2025
Bel thriller dalle atmosfere super cupe.
Mi è piaciuta l'ambientazione del racconto e lo sviluppo, un po' meno le protagoniste.
Ma devo dire che mi ha tenuta incollata alle pagine e col fiato in sospeso fino alla fine.
Mi è piaciuta l'ambientazione del racconto e lo sviluppo, un po' meno le protagoniste.
Ma devo dire che mi ha tenuta incollata alle pagine e col fiato in sospeso fino alla fine.
October 11, 2023
★★★☆ 3.5 ดาว สนุกใช้ได้ เดาเรื่องยากมากโดยเฉพาะตอนท้าย
เป็นเรื่องของผู้หญิงสองคนที่มีชีวิตต่างกันสุดขั้วในทุกมิติ แต่ลึก ๆ แล้วมีอะไรคล้ายกันมากกว่านั้น ชีวิตของทั้งสองคนมาบรรจบกัน เพราะศพ ๆ หนึ่ง
บ้านของจูรันใหญ่โต ชีวิตของเธอเหมือนฝัน สามีที่เป็นหมอก็แสนดี (หรอ) จนกระทั่งกลิ่นเน่าเหม็นจากสวนหลังบ้าน ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปตลอดกาล
ในอีกทางหนึ่ง ซึงอู เป็นพนักงานขายเตียงฐานะยากจน อยู่กับสามีเฮงซวยที่ทำงานเป็นเซลขายยาสุดขี้แพ้ เขาบอกเธอว่า ได้เจอหมอคนหนึ่งระหว่างไปหาลูกค้า อะไรบางอย่างเกี่ยวกับหมอคนนี้ กำลังจะทำให้เขา เธอ และลูกในท้องได้อยู่อย่างสบายกลายเป็นเศรษฐี...
ตอนที่อ่านเรานึกถึง Parasite ของบองจุนโฮ —เพราะอะไรก็ไม่รู้ เราจินตนาการว่าบ้านในเรื่องนี้ มันก็เหมือนบ้านในหนัง บ้านหรูที่มีหน้าต่างบานใหญ่ และสวนหลังบ้านที่มีความลับซ่อนอยู่ — เป็นเรื่องของคนรวย vs. คนจน — คีย์สำคัญในเรื่องคือก้อนหินลายน้ำตกฮวงจุ้ย — และมีตัวละครเมียสวยไฮโซ เป็นช้างเท้าหลังที่ดูจะขี้กลัวและทำอะไรไม่เป็น (ซึ่งในบริบทนี้คือ จูรัน )
เรื่องมันไปไกลกว่าศพหลังบ้านมากกก ตัวบทมีการสะท้อนสังคมชายเป็นใหญ่อีกแล้ว (เกาหลีเริ่ดเรื่อง soft power จริง ใช้ศิลปะวรรณกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนตลอด ถึงชายแท้จะล้มทั้งประเทศแล้วไม่ลุกอีกเลยตลอดก็ตาม) มันสอดแทรกเข้าไปแบบให้คิดตาม ตัวละครล้วนโดนระบบโขกสับด้วยกันทั้งนั้น
ช่วง 20 หน้าสุดท้ายคือสิบล้อเบรคแตกสุด (เป็นวลีที่คิดขึ้นเอง สำหรับหนังสือที่มีฟีล พลอตทวิสต์ล้ำเหลือ มาแบบไม่ทันตั้งตัว มึงก็เริ่ดเกิน) อะไรที่เดาก็มีถูกบ้าง แต่ดีใจที่ผิดเป็นส่วนใหญ่ 😅 (=มันเหนือการคาดเดาไงล่ะ)
ตอนแรกเฉย ๆ อ่านจบเพิ่มเป็น 3.5 ดาวเลย (อาจจะปัดขึ้น ยังไม่ได้ตัดสินใจ) สนุกดี
เป็นเรื่องของผู้หญิงสองคนที่มีชีวิตต่างกันสุดขั้วในทุกมิติ แต่ลึก ๆ แล้วมีอะไรคล้ายกันมากกว่านั้น ชีวิตของทั้งสองคนมาบรรจบกัน เพราะศพ ๆ หนึ่ง
บ้านของจูรันใหญ่โต ชีวิตของเธอเหมือนฝัน สามีที่เป็นหมอก็แสนดี (หรอ) จนกระทั่งกลิ่นเน่าเหม็นจากสวนหลังบ้าน ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปตลอดกาล
ในอีกทางหนึ่ง ซึงอู เป็นพนักงานขายเตียงฐานะยากจน อยู่กับสามีเฮงซวยที่ทำงานเป็นเซลขายยาสุดขี้แพ้ เขาบอกเธอว่า ได้เจอหมอคนหนึ่งระหว่างไปหาลูกค้า อะไรบางอย่างเกี่ยวกับหมอคนนี้ กำลังจะทำให้เขา เธอ และลูกในท้องได้อยู่อย่างสบายกลายเป็นเศรษฐี...
ตอนที่อ่านเรานึกถึง Parasite ของบองจุนโฮ —เพราะอะไรก็ไม่รู้ เราจินตนาการว่าบ้านในเรื่องนี้ มันก็เหมือนบ้านในหนัง บ้านหรูที่มีหน้าต่างบานใหญ่ และสวนหลังบ้านที่มีความลับซ่อนอยู่ — เป็นเรื่องของคนรวย vs. คนจน — คีย์สำคัญในเรื่องคือก้อนหินลายน้ำตกฮวงจุ้ย — และมีตัวละครเมียสวยไฮโซ เป็นช้างเท้าหลังที่ดูจะขี้กลัวและทำอะไรไม่เป็น (ซึ่งในบริบทนี้คือ จูรัน )
เรื่องมันไปไกลกว่าศพหลังบ้านมากกก ตัวบทมีการสะท้อนสังคมชายเป็นใหญ่อีกแล้ว (เกาหลีเริ่ดเรื่อง soft power จริง ใช้ศิลปะวรรณกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนตลอด ถึงชายแท้จะล้มทั้งประเทศแล้วไม่ลุกอีกเลยตลอดก็ตาม) มันสอดแทรกเข้าไปแบบให้คิดตาม ตัวละครล้วนโดนระบบโขกสับด้วยกันทั้งนั้น
ช่วง 20 หน้าสุดท้ายคือสิบล้อเบรคแตกสุด (เป็นวลีที่คิดขึ้นเอง สำหรับหนังสือที่มีฟีล พลอตทวิสต์ล้ำเหลือ มาแบบไม่ทันตั้งตัว มึงก็เริ่ดเกิน) อะไรที่เดาก็มีถูกบ้าง แต่ดีใจที่ผิดเป็นส่วนใหญ่ 😅 (=มันเหนือการคาดเดาไงล่ะ)
ตอนแรกเฉย ๆ อ่านจบเพิ่มเป็น 3.5 ดาวเลย (อาจจะปัดขึ้น ยังไม่ได้ตัดสินใจ) สนุกดี
February 23, 2021
สำหรับเราไม่สนุกเท่าที่คิด เปิดเรื่องมาค่อนข้างน่าสนใจ แต่พออ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นนิยายที่รู้สึกอึดอัดเวลาอ่าน เป็นความอึดอัดปนรำคาญกับพฤติกรรมตัวละคร การถูกสะกัดกั้นด้วยกรอบมิติสังคมของเรื่อง คือถ้าเซ็ตติ้งในเรื่องเปลี่ยนเป็นหญิงไทยใจงาม ก็จะเอาเสียมเอาจอบไปขุดหลังบ้านและอาจจะจบแบบแฮปปี้เอนด์ในบทเดียวแล้วมั้ง รู้สึกเป็นเรื่องที่เอานั่น นู่น นี่ มาปนกันหมด ถ้าเป็นนิยายสืบสวนก็เป็นแก่นที่ไม่ดี
คงอย่างที่โฆษณาว่าเน้นสะท้อนสังคมครอบครัวมากกว่า แต่ก็เป็นการสะท้อนตัวละครที่น่ารำคาญทั้งเรื่องแหละ
คงอย่างที่โฆษณาว่าเน้นสะท้อนสังคมครอบครัวมากกว่า แต่ก็เป็นการสะท้อนตัวละครที่น่ารำคาญทั้งเรื่องแหละ
July 30, 2020
ให้สามดาวจ้า อ่านจบไม่ได้รู้สึก WOW อะไรมากมาย การหักมุมตอนท้ายก็ธรรมดา ซึ่งคนอ่านก็เดาได้ตั้งแต่แรก ๆ แล้ว ว่าคนร้ายเป็นใคร และมีอะไรที่สวนหลังบ้าน ..... แต่เรื่องราวระหว่างทางนี่คือกดดันอยู่นะ
August 8, 2025
[kiếm được đúng bản để log nên repost]
nhịp đọc nhanh, tình huống dồn dập, ý tưởng thú vị; tuy nhiên, cũng như nhiều cuốn sách khác của Hàn khi vẫn thiếu thốn khả năng đào sâu nhân vật ở các khía cạnh cần thiết, cách viết xuất sắc, cùng các khám phá thú vị để nâng tầm bản thân chính nó.
một cuốn sách vừa đủ và cũng chỉ có thể dừng ở mức đó, khá recommend cho ai thích domestic thriller và thích kiểu twist không quá giật giật đùng đùng.
btw tui khá thích the real point của cuốn sách này mà mọi người sẽ biết được khi đọc phần author's note cuối cuốn.
nhịp đọc nhanh, tình huống dồn dập, ý tưởng thú vị; tuy nhiên, cũng như nhiều cuốn sách khác của Hàn khi vẫn thiếu thốn khả năng đào sâu nhân vật ở các khía cạnh cần thiết, cách viết xuất sắc, cùng các khám phá thú vị để nâng tầm bản thân chính nó.
một cuốn sách vừa đủ và cũng chỉ có thể dừng ở mức đó, khá recommend cho ai thích domestic thriller và thích kiểu twist không quá giật giật đùng đùng.
btw tui khá thích the real point của cuốn sách này mà mọi người sẽ biết được khi đọc phần author's note cuối cuốn.
February 14, 2020
5/5
ระทึกมากก ชอบชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง การแทรกประเด็นเรื่องชนชั้น เรื่องเพศ และอื่นๆ เข้าไปในนิยายได้อย่างแนบเนียน ไม่ได้โฟกัสแค่ว่าใครฆ่าใคร แบบไหน เพราะอะไร แต่เล่าให้เห็นภาพเลยว่าตัวละครนี้มีที่ไปที่มายังไง แถมเรื่องนี้ยังมี unreliable narrator ด้วย อ่านจบแล้วยังต้องมาคิดต่อ รู้สึกเชื่อใครในเรื่องได้ไม่เต็มร้อย เรื่องนี้มันเล่นกับความไว้ใจของคนอ่านด้วยจริงๆ 555 หลอนนน
ตัวละครหลักในเรื่องก็เล่าเฉพาะสิ่งที่ตัวเองรู้ เปิดหนังสืออ่านมาก็มีจุดที่จี้มาตลอดตั้งแต่คำนำสำนักพิมพ์ ไล่เรียงมาจนถึงภรรยาทั้งสองคนที่เป็นตัวเอกของเรื่อง ที่ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าไม่รู้เรื่อง ‘หลายอย่าง’ เกี่ยวกับสามีตัวเอง ดังนั้นคนอ่านอย่างเราเลยกลายเป็นตั้งคำถามตลอดเวลาว่าตัวละครที่เล่าอยู่รู้เรื่องทั้งหมดไหม ตัวละครที่เล่าอยู่จำรายละเอียดทุกอย่างได้จริงๆใช่ไหม ถามตัวเองซ้ำๆไปจนจบเรื่อง เป็นประสบการณ์การอ่านที่ทำให้หวาดระแวงยิ่งนักว่าจะโดนหลอก 55555555
ถ้าใครคาดหวังว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นฆาตกรรมซับซ้อนซ่อนเงื่อน อาจจะผิดหวังหน่อยๆ เราว่าเล่มนี้จริงๆใช้เหตุฆาตกรรมมาเป็นตัวเปิดเรื่องให้เราได้เข้าไปทำความรู้จักกับเบื้องหลังตัวละครและเบื้องหลังสังคมเกาหลี มากกว่าจะเน้นการไขปริศนาคดีจริงๆ แต่เพราะแบบนี้ล่ะเราถึงชอบมากๆ เหมือนเรื่องมันหลอนกว่า ประทับใจมากกว่า เพราะมีอะไรให้คิดมากกว่า แนะนำสำหรับคนที่มีความอดทนต่อบรรยากาศอึนๆในนิยายได้ดีค่ะ เรื่องไม่เครียด แต่จะอึดอัดหน่อยๆ
ระทึกมากก ชอบชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง การแทรกประเด็นเรื่องชนชั้น เรื่องเพศ และอื่นๆ เข้าไปในนิยายได้อย่างแนบเนียน ไม่ได้โฟกัสแค่ว่าใครฆ่าใคร แบบไหน เพราะอะไร แต่เล่าให้เห็นภาพเลยว่าตัวละครนี้มีที่ไปที่มายังไง แถมเรื่องนี้ยังมี unreliable narrator ด้วย อ่านจบแล้วยังต้องมาคิดต่อ รู้สึกเชื่อใครในเรื่องได้ไม่เต็มร้อย เรื่องนี้มันเล่นกับความไว้ใจของคนอ่านด้วยจริงๆ 555 หลอนนน
ตัวละครหลักในเรื่องก็เล่าเฉพาะสิ่งที่ตัวเองรู้ เปิดหนังสืออ่านมาก็มีจุดที่จี้มาตลอดตั้งแต่คำนำสำนักพิมพ์ ไล่เรียงมาจนถึงภรรยาทั้งสองคนที่เป็นตัวเอกของเรื่อง ที่ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าไม่รู้เรื่อง ‘หลายอย่าง’ เกี่ยวกับสามีตัวเอง ดังนั้นคนอ่านอย่างเราเลยกลายเป็นตั้งคำถามตลอดเวลาว่าตัวละครที่เล่าอยู่รู้เรื่องทั้งหมดไหม ตัวละครที่เล่าอยู่จำรายละเอียดทุกอย่างได้จริงๆใช่ไหม ถามตัวเองซ้ำๆไปจนจบเรื่อง เป็นประสบการณ์การอ่านที่ทำให้หวาดระแวงยิ่งนักว่าจะโดนหลอก 55555555
ถ้าใครคาดหวังว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นฆาตกรรมซับซ้อนซ่อนเงื่อน อาจจะผิดหวังหน่อยๆ เราว่าเล่มนี้จริงๆใช้เหตุฆาตกรรมมาเป็นตัวเปิดเรื่องให้เราได้เข้าไปทำความรู้จักกับเบื้องหลังตัวละครและเบื้องหลังสังคมเกาหลี มากกว่าจะเน้นการไขปริศนาคดีจริงๆ แต่เพราะแบบนี้ล่ะเราถึงชอบมากๆ เหมือนเรื่องมันหลอนกว่า ประทับใจมากกว่า เพราะมีอะไรให้คิดมากกว่า แนะนำสำหรับคนที่มีความอดทนต่อบรรยากาศอึนๆในนิยายได้ดีค่ะ เรื่องไม่เครียด แต่จะอึดอัดหน่อยๆ
April 10, 2025
Si legge con rapidità, tuttavia non mi ha folgorata. Le due protagoniste, nonché voci narranti del romanzo, sono veramente odiose. Ju-ran è una donna veramente frivola, ipocrita, lamentosa e mica tanto sveglia, Sang-eun è fredda, manipolatratice, anafettiva. Direi che entrambe, in modo diverso, hanno una natura egoista ed oscura. Al di là del giallo, a fare da contorno è il classismo e i conflitti sociali. Tutto ruota ad un mondo di bugie, incomprensioni e mistificazioni che portano a inevitabili consueguenze. Nonostante la lettura sia stata veloce, quantomeno per lo stile con cui è scritto il libro, è stata una sofferenza a star dietro ai pensieri e alla coscienza delle due donne, non ho mai empatizzato, per me davvero amorali. Finale frettoloso.
January 17, 2025
Un libro thriller disturbante che mi ha inquietato non poco.
Gli ultimi capitoli mi sono piaciuti molto, dinamici adrenalinici e dal ritmo serrato, a differenza dei primi che delineano la figura delle due donne protagoniste del libro. Provenienti da ambienti diversi e socialmente agli opposti, tengono fermo il punto della situazione raccontando ognuna la propria verità.
La narrazione non mi ha convinta del tutto ma il desiderio di scoprire i tanti misteri mi ha portato velocemente all'epilogo, che mi è piaciuto.
Un thriller psicologico nel quale il protagonista risulta ben costruito. Manipolatore, spietato e folle, e soprattutto senza alcun rimorso.
«In questo mondo non esistono vite facili. Non pensare di essere una persona particolarmente sfortunata. Siamo tutti infelici, ognuno a modo suo» .
Gli ultimi capitoli mi sono piaciuti molto, dinamici adrenalinici e dal ritmo serrato, a differenza dei primi che delineano la figura delle due donne protagoniste del libro. Provenienti da ambienti diversi e socialmente agli opposti, tengono fermo il punto della situazione raccontando ognuna la propria verità.
La narrazione non mi ha convinta del tutto ma il desiderio di scoprire i tanti misteri mi ha portato velocemente all'epilogo, che mi è piaciuto.
Un thriller psicologico nel quale il protagonista risulta ben costruito. Manipolatore, spietato e folle, e soprattutto senza alcun rimorso.
«In questo mondo non esistono vite facili. Non pensare di essere una persona particolarmente sfortunata. Siamo tutti infelici, ognuno a modo suo» .
September 12, 2019
เป็นนิยายแนวสืบสวนของเกาหลีที่สะท้อนสภาพครอบครัวและความไม่เท่าเทียมของสังคมได้ค่อนข้างดี เวลาอ่านจะมีบรรยากาศ���ดดันและหดหู่ คนเขียนสะท้อนให้เราเห็นว่าสิ่งที่เราเห็นคนอื่นจากภายนอกอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป คนเราทุกคนมีความทุกข์ไปคนละแบบ เวลาอ่านหนังสือเกาหลีจะมีความรู้สึกที่ว่า เกาหลีนี่มันเกาหลีจริงๆ ปมแต่ละปมมันสามารถทำให้คนอ่านไปคิดต่อเองว่าเอ๊ะ แล้วสรุปใครจริง ใครไม่จริง อะไรแบบนี้ ให้ไม่เต็มเพราะรู้สึกว่าความไหลลื่นกับปมในเรื่องมันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่โดยรวมแล้วเป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่ง ควรอ่าน
Read
January 13, 2020#มีอะไรในสวนหลังบ้าน
สมกับเป็น Korean #1 Bestseller อยู่ค่ะ เพราะเป็นเรื่องแนวสืบสวนที่สะท้อนสังคมซึ่งไม่เท่าเทียมกันได้หลายแง่ ทั้งทางด้านชนชั้นและการกดขี่ทางเพศ
โทนอารมณ์ของเรื่องจะอัด ๆ มัว ๆ เดาไม่ถูก เหมือนจะรู้ตัวฆาตกร เหมือนจะรู้เหตุผล แต่ก็มีตัวแปรอื่นเข้ามาทำให้อยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลังต่อไปอีกเรื่อย ๆ
แม้จะมีช่วงเนือยอยู่บ้าง แต่ก็ยังจัดว่าอ่านได้สนุก เพราะมีความอยากรู้เป็นตัวขับเคลื่อนที่ดี และมีการเล่าเรื่องแบบค่อย ๆ บอกให้รู้แบบไต่ระดับเป็นตัวเสริม
ชอบฉากจบที่ดูเหมือนจะสะใจแต่ก็ต้องสะท้อนใจ...
โดยรวมจึงเป็นอีกเล่มที่น่าอ่านค่ะ :)
สมกับเป็น Korean #1 Bestseller อยู่ค่ะ เพราะเป็นเรื่องแนวสืบสวนที่สะท้อนสังคมซึ่งไม่เท่าเทียมกันได้หลายแง่ ทั้งทางด้านชนชั้นและการกดขี่ทางเพศ
โทนอารมณ์ของเรื่องจะอัด ๆ มัว ๆ เดาไม่ถูก เหมือนจะรู้ตัวฆาตกร เหมือนจะรู้เหตุผล แต่ก็มีตัวแปรอื่นเข้ามาทำให้อยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลังต่อไปอีกเรื่อย ๆ
แม้จะมีช่วงเนือยอยู่บ้าง แต่ก็ยังจัดว่าอ่านได้สนุก เพราะมีความอยากรู้เป็นตัวขับเคลื่อนที่ดี และมีการเล่าเรื่องแบบค่อย ๆ บอกให้รู้แบบไต่ระดับเป็นตัวเสริม
ชอบฉากจบที่ดูเหมือนจะสะใจแต่ก็ต้องสะท้อนใจ...
โดยรวมจึงเป็นอีกเล่มที่น่าอ่านค่ะ :)
June 23, 2023
ชอบการใช้ภาษา ไม่น่าเยื่อ อ่านแล้วอยากอ่านให้จบ อยากรู้บทสรุป
April 28, 2022
Seperti biasa novel/film thriller Korea selalu berakhir denhan ending yang mengejutkan .
November 27, 2023
Again, maraton thriller yang kali ini emang udah jadi wishlist sejak lama. Setelah trailer dramanya keluar, tentu penasaran dengan isi bukunya, apalagi pemain dramanya jajaran aktor-aktris top. Isi bukunya nggak kalah bikin stres ternyata.
Bahas soal psychological-thriller rasanya nggak afdal kalau melupakan unsur cheating. Tapi, ya, memang nggak semua ada begituannya, sih. LHIMB membahas mengenai kehidupan dua orang istri yang sangat berbeda menurut strata. Suami mereka diduga terlibat dengan prostitusi anak di bawah umur, entah siapa yang benar karena kebenaran di buku ini nggak bisa dipegang sebelum dibaca sampai selesai.
Awalnya, kukira ini soal suami yang ketahuan selingkuh terus selingkuhannya dibunuh, tapi plot-twist berkata lain. Baik suami Joo-ran atau Sang-eun nggak ada yang bisa dipegang omongannya. Well, ini poin bagus karena para karakternya abu-abu.
Jika baca di bagian blurb, Joo-ran menemukan jari manusia, atau yang dia duga begitu karena suaminya bilang itu cuma sampah kulit kerang yang tidak sengaja ditinggal oleh kontraktornya. Joo-ran sendiri nggak percaya sama penilaian pribadinya karena suami dia selalu menekankan kalau itu cuma histeris, Joo-ran cuma delusi makanya omongan dia nggak bisa dipercaya. Sounds familiar karena yah namanya psychological thriller, pasti psikologis karakter maupun pembacanya dipermainkan.
Karakter lainnya ada Sang-eun yang nggak seberuntung Joo-ran. Dia sadar hidupnya nggak baik-baik aja pada hari pernikahannya, tapi dia nggak bisa lari. Alhasil, dia nyesel banget hidup bareng suaminya yang selain abusif juga manipulatif.
Both Joo-ran and Sang-eun give us different perspectives. Kehidupan Joo-ran memang enak, nggak ada masalah finansial. Tapi, apa lantas dia bebas dari stres? No. Joo-ran punya permasalahan lain, baik dari sisi internal maupun eksternal. Dia dianggap sakit jiwa dan cuma dijadikan pajangan oleh suaminya. Anaknya pun nggak terlalu nurut ke dia. Alasan yang dia tahu, sih, karena Sung-jae udah remaja dan emosinya labil. Tapi alasan sebenarnya lebih dari itu (nggak bisa spill karena bakal spoiler abis).
Sang-eun, di sisi lain, stres karena lagi hamil, kehidupan rumah tangganya berantakan, suaminya terobsesi pengin bangun keluarga sempurna dan jadi kepala keluarga yang bertanggung jawab, minta cerai malah hamil, eh suaminya meninggal ninggalin warisan pula. Bukan warisan duit yang bisa kalian bayangkan. Masalah finansial menjerat Sang-eun.
Tiap karakter punya masalahnya masing-masing dan satu quote yang aku highlight karena ini menggambarkan kondisi baik Joo-ran maupun Sang-eun (dan relate dengan kondisi sekarang):
Ikutan frustrasi melihat kondisi Joo-ran, greget parah sama idenya Sang-eun. Yang pasti, semua orang mesti melihat kondisi masing-masing, jangan karena lagi mengalami masalah lalu orang lain juga mesti ngerasain stresnya ngadepin masalah itu.
Wah, baca thriller berasa baca self-developement wkwkwk anyway, thriller-nya ngena. Nggak sampe bikin merinding memang, tapi sangat cukup bikin kamu ngerasa penasaran sama ending ceritanya.
Sekali lagi, terima kasih atas kesempatannya bisa baca gratis, Rakata <3
Bahas soal psychological-thriller rasanya nggak afdal kalau melupakan unsur cheating. Tapi, ya, memang nggak semua ada begituannya, sih. LHIMB membahas mengenai kehidupan dua orang istri yang sangat berbeda menurut strata. Suami mereka diduga terlibat dengan prostitusi anak di bawah umur, entah siapa yang benar karena kebenaran di buku ini nggak bisa dipegang sebelum dibaca sampai selesai.
Awalnya, kukira ini soal suami yang ketahuan selingkuh terus selingkuhannya dibunuh, tapi plot-twist berkata lain. Baik suami Joo-ran atau Sang-eun nggak ada yang bisa dipegang omongannya. Well, ini poin bagus karena para karakternya abu-abu.
Jika baca di bagian blurb, Joo-ran menemukan jari manusia, atau yang dia duga begitu karena suaminya bilang itu cuma sampah kulit kerang yang tidak sengaja ditinggal oleh kontraktornya. Joo-ran sendiri nggak percaya sama penilaian pribadinya karena suami dia selalu menekankan kalau itu cuma histeris, Joo-ran cuma delusi makanya omongan dia nggak bisa dipercaya. Sounds familiar karena yah namanya psychological thriller, pasti psikologis karakter maupun pembacanya dipermainkan.
Karakter lainnya ada Sang-eun yang nggak seberuntung Joo-ran. Dia sadar hidupnya nggak baik-baik aja pada hari pernikahannya, tapi dia nggak bisa lari. Alhasil, dia nyesel banget hidup bareng suaminya yang selain abusif juga manipulatif.
Both Joo-ran and Sang-eun give us different perspectives. Kehidupan Joo-ran memang enak, nggak ada masalah finansial. Tapi, apa lantas dia bebas dari stres? No. Joo-ran punya permasalahan lain, baik dari sisi internal maupun eksternal. Dia dianggap sakit jiwa dan cuma dijadikan pajangan oleh suaminya. Anaknya pun nggak terlalu nurut ke dia. Alasan yang dia tahu, sih, karena Sung-jae udah remaja dan emosinya labil. Tapi alasan sebenarnya lebih dari itu (nggak bisa spill karena bakal spoiler abis).
Sang-eun, di sisi lain, stres karena lagi hamil, kehidupan rumah tangganya berantakan, suaminya terobsesi pengin bangun keluarga sempurna dan jadi kepala keluarga yang bertanggung jawab, minta cerai malah hamil, eh suaminya meninggal ninggalin warisan pula. Bukan warisan duit yang bisa kalian bayangkan. Masalah finansial menjerat Sang-eun.
Tiap karakter punya masalahnya masing-masing dan satu quote yang aku highlight karena ini menggambarkan kondisi baik Joo-ran maupun Sang-eun (dan relate dengan kondisi sekarang):
"Tidak ada kehidupan yang mudah di dunia ini. Jangan menganggap diri Anda sebagai orang yang sangat malang. Kita semua merasakan kemalangan."
Ikutan frustrasi melihat kondisi Joo-ran, greget parah sama idenya Sang-eun. Yang pasti, semua orang mesti melihat kondisi masing-masing, jangan karena lagi mengalami masalah lalu orang lain juga mesti ngerasain stresnya ngadepin masalah itu.
Wah, baca thriller berasa baca self-developement wkwkwk anyway, thriller-nya ngena. Nggak sampe bikin merinding memang, tapi sangat cukup bikin kamu ngerasa penasaran sama ending ceritanya.
Sekali lagi, terima kasih atas kesempatannya bisa baca gratis, Rakata <3
November 26, 2023
Krn Minggu ini dpt bacaan bareng buku ini di Rakata, saya menyambut dgn antusias membaca buku ini dari kmrn Sabtu siang. Dan lagi² saya puas dgn pilihan para pembaca. Bagus loh buku ini apalagi plot twist nya. Walaupun bukan author terkenal, tapi buku ini ternyata udh dijadikan drakor. No wonder ya. Abis ciamik sih.
POV nya terdiri dari 2 perempuan dgn beda status ekonomi. Kim Joo Ran adalah ibu rumah tangga dgn seorang anak, mengarungi rumah tangganya sbg kelas menengah. Sedangkan Lee Sang Eun adalah ibu rumah tangga dgn kondisi ekonomi pas-pasan yg sedang hamil dan baru saja mendapatkan berita buruk, suaminya tewas budir.
Plot awal cerita sempat membuat saya pesimis bakal menarik. Sebab salah satunya sdh diberitahu sbg tersangka. Gak surprise lagi nih pikiranku. Tapi semakin membaca sampai setengah cerita, plot makin berkembang krn ada lagi korban yang lainnya. Joo Ran yg sdh dituduh memiliki mental illness hampir meyakini dirinya mengalami delusional stl melihat ada yg dikubur di halaman belakang kebunnya. Sedangkan Sang Eun bertekad utk memeras pasangan Park (suami Joo Ran) stl dirinya di resign.
Patut diacungkan jempol krn author pintar menyisipkan latar belakang masing² tokoh utamanya. Apa yg melandaskan mrk menikahi suami² yg ternyata abusive. Ada yg scr verbal dan ada yg gaslighting. Unsur misteri dan thriller nya bahkan suspense di klimaks ceritanya menyuguhkan plot twist yg benar-benar di luar dugaan.
Walau msh ada sebersit pertanyaan, siapakah yg benar-benar membunuh dan motifnya. Tapi scr keseluruhan saya puas membaca novel ini. Bravo 👏👏👏 Rakata!!!!
POV nya terdiri dari 2 perempuan dgn beda status ekonomi. Kim Joo Ran adalah ibu rumah tangga dgn seorang anak, mengarungi rumah tangganya sbg kelas menengah. Sedangkan Lee Sang Eun adalah ibu rumah tangga dgn kondisi ekonomi pas-pasan yg sedang hamil dan baru saja mendapatkan berita buruk, suaminya tewas budir.
Plot awal cerita sempat membuat saya pesimis bakal menarik. Sebab salah satunya sdh diberitahu sbg tersangka. Gak surprise lagi nih pikiranku. Tapi semakin membaca sampai setengah cerita, plot makin berkembang krn ada lagi korban yang lainnya. Joo Ran yg sdh dituduh memiliki mental illness hampir meyakini dirinya mengalami delusional stl melihat ada yg dikubur di halaman belakang kebunnya. Sedangkan Sang Eun bertekad utk memeras pasangan Park (suami Joo Ran) stl dirinya di resign.
Patut diacungkan jempol krn author pintar menyisipkan latar belakang masing² tokoh utamanya. Apa yg melandaskan mrk menikahi suami² yg ternyata abusive. Ada yg scr verbal dan ada yg gaslighting. Unsur misteri dan thriller nya bahkan suspense di klimaks ceritanya menyuguhkan plot twist yg benar-benar di luar dugaan.
Walau msh ada sebersit pertanyaan, siapakah yg benar-benar membunuh dan motifnya. Tapi scr keseluruhan saya puas membaca novel ini. Bravo 👏👏👏 Rakata!!!!
June 16, 2025
Rating 3,5/5 ⭐️⭐️⭐️✨
kisah psychological thriller karena menyangkut pov orang delusional. seperti adegan adegan drakor ya banyak drama keluarganya + anaknya yg problematik. overall ini tegangnya dapet sih
kisah psychological thriller karena menyangkut pov orang delusional. seperti adegan adegan drakor ya banyak drama keluarganya + anaknya yg problematik. overall ini tegangnya dapet sih
April 19, 2025
2.5 ⭐️
Brutto vero questo libro (tranne per quei due capitoli finali)
Brutto vero questo libro (tranne per quei due capitoli finali)
Displaying 1 - 30 of 164 reviews