รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 5

รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ #5

by Meng Xi Shi, เมิ่งซีสือ, เซียงเซียง (Translator)

ชายแดนต้าถงเป็นพื้นที่อ่อนไหวมาตลอด แต่นับจากวังจื๋อไปเป็น
เสนาธิการ ทัพต้าหมิงก็แทบไม่เคยปราชัยในศึกกับชนเผ่า
นอกด่านเลย

ทว่าไม่นานมานี้สภาพการณ์กลับผกผันตรงกันข้าม เมื่อทุกครั้งที่ทัพ
ต้าหมิงไล่กวดข้าศึกไปถึงบริเวณทะเลสาบ ก็มีอันต้องเผชิญกับ
ปรากฏการณ์วิปริตผิดแผก จนสาบสูญทั้งกองทัพ!

ลือว่านี่เป็นเวทมนตร์ของ ‘หลี่จื่อหลง’ หัวหน้าลัทธิบัวขาว ผู้ซึ่งบัดนี้มี
ศักดิ์เป็นถึงราชครูของพวกต๋าต๋า กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เหล่าทหารหาญ
ไปแล้วไปลับ ขวัญกำลังใจกองทัพดิ่งต่ำถึงขีดสุด ศัตรูควบคุมได้กระทั่ง
เมฆหมอกพายุฝนลมทราย ยังได้ยินว่านักพรตมารผู้นั้นสามารถสั่งการ
ภูตทหารจากเมืองผีให้ล้อมโจมตีได้อีก!

ด้วยเหตุนี้ ถังฟั่นซึ่งชื่อเสียงขจรขจายว่าเป็น ‘เทพผู้ไขคดี’ จึงได้เดินทาง
มาถึงยังเมืองต้าถงแล้ว...!!

Genres: Yaoi, China, Boys Love, Mystery, Historical

312 pages, Paperback

Published August 28, 2018

About the author

Associated Names:
* Meng Xi Shi (English)
* 梦溪石 (Chinese)
* เมิ่งซีสือ (Thai)

Reviews

[Patrawan Dear]

#รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ (เล่ม 5/7)

ภารกิจของน้องฟั่นคนงามในเล่มนี้สนุกดีค่ะ มีทั้งการเผชิญค่ายกลที่ตื่นตาตื่นใจ และภารกิจตรวจการเมืองประสบภัย ซึ่งไม่หวือหวาเท่า แต่ก็เร้าใจอยู่พอประมาณ

ด้านการสืบคดี แม้จะมีเอ๊ะ มีอ้าวบ้าง ตามเรื่องตามราว แต่ประโยคคำถามสั้น ๆ ประโยคเดียวของพี่สุย ท่ามกลางค่ายกลอันตราย ก็พาให้เรากรี๊ดจนกลบทุกสิ่งอย่างไปสนิท ยิ่งพี่ใหญ่สุยดับเครื่องชน คนอ่านก็ยิ่งได้ใจ

ขอสารภาพตามตรงว่าตอนนี้อ่านเอาฟินพี่ใหญ่สุยอย่างเดียวเลยค่ะ :)

[B. Sutthida · Rating 5 out of 5]

เทียบกับเล่มก่อนๆ หน้า เนื้อเรื่องมีความน่าเบื่อหน่ายเล็กน้อย สาเหตุหลักคงเป็นเพราะเรื่องการเมืองที่ชวนท้อใจ แต่เราก็ยังคงให้คะแนนเต็ม

ครึ่งเล่มแรกยังคงเป็นเรื่องราวที่ชายแดนต้าถง กลศึกที่ลึกลับและการรุกของสุยโจว (กรี๊ด) เนื้อเรื่องตื่นเต้น ผลิกหน้าหนังสืออ่านอย่างรวดเร็วจนไม่อยากวาง ชอบมากเวลาที่ถังฟั่น สุยโจว และวังจื๋อรวมหัวกันทำภารกิจ แต่ช่วงหลังด้วยปัจจัยหลายอย่าง ถังฟั่นกลับกลายเป็นคนที่โดนมัดมือมัดเท้า ต้องทำงานโดนไร้คนหนุนหลัง โชคดีที่มีตัวละครใหม่อย่างลู่หมิงซีโผล่ออกมาให้เราเอ็นดู (ถ้าสุยโจวมาเห็นลู่หมิงซีท่าทางเคลิ้มตอนมองถังฟั่นจะเป็นอย่างไรนะ 55555)

[Cinnamon · Rating 5 out of 5]

เล่มนี้หลากอารมณ์มาก ในที่สุดตาคนทึ่มทื่อก็รู้ใจตัวเอง แต่ก็ยังไม่วายปากหนัก หน้าบางหลบเลี่ยงเขาแล้วตัวเองก็มาปวดใจ โอ๊ยยยย อยากจะบิดหูแทนนางแก้แค้นแทนใต้เท้าสุย 😂 แอบมีดราม่าเล็ก ๆ แต่ผู้เขียนก็ไม่รีบเร่งพลางดึงเรื่องไปยังคดีใหม่ท้าทายฝีมือลับสมองใต้เท้าถัง คราวนี้ไม่ง่ายบอกเลย รอลุ้นว่าผลจะออกมาอย่างไร รวมทั้งเรื่องหัวใจที่ยั่วคนอ่านแล้วดึงให้ค้างตั้งตารออย่างทรมาน ฮึ้ยยยยยยยยย ร้ายกาจยิ่งนักนักเขียนคนนี้!

[Uminaka16 · Rating 5 out of 5]

เล่มนี้สนุกมาก สุยโจวรุกหนักมาก อ่านแล้วเขินหนักมาก แต่ใต้เท้าถังก็ยังคงไม่ยอมรับใจตัวเอง จนพี่สุยใช้วิธีออกห่างให้เห็นค่ามาจัดการใต้เท้าถังแทน

ฝั่งคดีก็สนุก คดีสุดท้ายมีหนุ่มน้อยมาติดพันถังฟั่นอีกแล้ว พี่สุยรู้เข้าจะทำอย่างไร ตื่นเต้นจริงๆ

และแน่นอน วังกงกงผู้เกรี้ยวกราดเล่มนี้มีบทเด่นได้ใจมาก ด่ากราดไม่ยั้ง นิสัยคงเส้นคงวามาก ร้ายยังไงก็ยังงั้น แต่เรารักตัวละครตัวนี้

[Ning · Rating 4 out of 5]

ยังคงหลับเมื่อบรรยายอยู่่เนือง ๆ

แต่เนื้อเรื่องสนุกมาก เป็นคนแพ้บรรยายเยอะ ๆ เท่านั้นเอง

[Kamon SecondAccount · Rating 3 out of 5]

น้อมเตือนเพื่อนนักอ่าน เล่ม 5 สืบคดีใหม่ยังไม่จบ ค้างคาใจยิ่งนัก
.
คดีล่าสุดนี้เกี่ยวพันกับขุนนางสามคนยื่นฎีกากล่าวโทษกันแต่ความจริงเป็นละครตบตาฉากหนึ่ง ผู้เสียหายคือผู้ประสบเคราะห์ภัยน้ำท่วมและโรคระบาดจำนวนมากในแดนซูโจวที่ถูกทอดทิ้งให้ตาย ช่วงท้ายเล่มเราจึงได้เห็นฉากที่อยากเห็น..ถังฟั่นโกรธมากแล้วจริงๆ (ปกติเห็นฮีฮิๆฮะๆ ฟ้าถล่มก็ยังเฉย เลยอยากเห็นตอนโกรธมากมานานละ) แบ็คอัพฝ่ายคนร้ายโยงไปถึงกรมอากรหนานจิงที่น่าจะส่งส่วยให้สำนักบูรพาและกลุ่มอำนาจฝ่ายวั่นกุ้ยเฟย อีกฝ่ายคุมรายรับแผ่นดินครึ่งหนึ่ง หลักฐานพยานยากจะหาได้ ต้องรอดูว่าจะสืบสาวกันออกมายังไง
.
เสียดายจริงๆ น่าจะดองเล่มนี้ไว้อ่านยาวให้จบไปทีเดียวเลย
.
ช่วงแรกของเล่มจะเป็นการไขคดีต่อจากเล่มก่อน นั่นคือปรากฎการณ์ "ภูตทหารผ่านทาง" ในแถบเวยหนิงไห่จื่อ บริเวณนี้วันดีคืนดีก็เกิดพายุทรายและเสียงทหารรบกัน ทหารต้าหมิงที่ไล่ตามศัตรูไปเจอพื้นที่นี้เข้าก็พ่ายกลับมาไม่ก็หายสาบสูญไป
ถังฟั่น-สุยโจว-วังจื๋อ ตัวละครเด่นสามตัวนี้มาร่วมมือกันเป็นครั้งแรก แถมยังมีสายลับลัทธิบัวขาวช่วยสร้างสีสันอีกเพียบ มีตัวละครหญิงโผล่มาให้ลุ้นอีกหน่อย บุ๊สะบั้นหั่นแหลกเลยทีเดียว ยังดีที่จบลงอย่างดีงาม วังจื๋อได้กลับเมืองหลวงเสียที
.
ในส่วนของความรัก สุยโจวเปลี่ยนท่าทีกลายมาเป็นเมินเฉยแล้ว น่าจะกำลังรอให้ตาถังเข้าไปง้อ เพราะถึงยังไงก็มีการมอบหยกแทนใจกันไปแล้ว นับว่าถังฟั่นยอมรับแล้วว่ามีใครอยู่ในหัวใจ เหลือแต่ให้เลิกซึนซะที
อ้อ เกือบลืม เล่มนี้เปิดตัวละครใหม่ หนุ่มใส! วัยเอ๊าะ! เก๋งทั้งบุ๋นบุ๊! ชอบท่องเที่ยวหาประสบการณ์ ฝักใฝ่คุณธรรมเหมือนถังฟั่นเลย สุยโจวน่าจะมีคู่แข่งแล้ว รอติดตามสถานการณ์อย่างลุ้นๆ น่าจะมีฉากหึงหวงตามมาแน่

[Lionthelast · Rating 5 out of 5]

รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 5 – ใต้เท้าถัง...เค้ารู้หมดแล้ว

เนื้อหาของเล่มนี้มีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่าง เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องของถังฟั่น สุยโจว และวังจื๋อ ไปตกระกำลำบากกลางค่ายกลของนักพรตนรกหลี่จื่อหลง ต่อมาถังฟั่นก็ได้กลับเข้าเมืองหลวงโดยสวัสดิภาพ แล้วก็โดนขุนนางกลั่นแกล้งใส่ไฟให้องค์พระจักรพรรดิทรงพิโรธ ต่อมาก็ถูกส่งไปตรวจราชการต่างพระเนตรพระกรรณที่หยางโจวซูโจว

เล่มนี้ผมว่าสนุกนะ บุคลิกของวังจื๋อขันทีมากวรยุทธ์นี่...ในเล่มนี้มีสีสันมากกกกกก

วังจื๋อในจินตภาพของผมคงจะประมาณกะเทยกล้ามแน่น อาจจะตรงกันข้ามกับวังจื๋อในซีรี่ส์ที่ดูเป็นคุณชายหมดจด แต่วังจื๋อในความคิดผมนั้น ผมมองว่าเป็นคนที่มีร่างกายกำยำลั่นสัน บุคลิกออกแนวนักเลงโต เดินไปไหนเสียงด่ากราดมาก่อน ด่าได้ทุกคน ทุกเวลา และทุกวโรกาส แม้กระทั่งยามที่ตัวเองจวนเจียนจะเอาชีวิตไม่รอด วังจื๋อยังด่าลูกน้องตัวเองที่จะสละชีวิตให้ได้อ่ะ...เจ๋งมั้ยล่ะ?

ผมจะตัดส่วนหนึ่งของเล่มนี้ให้อ่านกัน ซึ่งเป็นไดอะล็อกที่ผมว่า แม่งโคตรเจ๋งเลยคุณ เชิญยล.....

//
“ให้ข้าน้อยเสี่ยงตาย หากข้าน้อยมีอันเป็นไป ครอบครัวของข้าน้อย วังกงกงโปรดดูแล...”
“ดูแลอันใด!” วังจื๋อตะคอกตัดบท “ครอบครัวเจ้าก็ดูแลกันเอง ข้าไม่ว่าง ไม่ยุ่งเกี่ยว! เลิกพล่ามได้แล้ว รำคาญ! เจ้าคิดว่าตนเองตายแล้วข้าจะหนีออกไปได้? อย่าฝันไปหน่อยเลย ตอนนี้สองคนช่วยกันยังมีโอกาสช��ะมากกว่า หากเจ้าบังอาจคิดทำเอง กลับไปข้าจะตัดหัวคนในบ้านเจ้าให้หมด!”
//

เนี่ยอ่ะคุณ ขันทีนักเลงอย่างวังจื๋อปากร้ายด่าคนได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งในยามที่ตัวเองจะเอาชีวิตไม่รอดอย่างเงียะ! ก็ไม่แปลกใจว่าตัวละครวังจื๋อจะมีแฟนนิยายชอบเขาเยอะมาก เพราะเมิ่งซีสือสร้างคนคนนี้ได้ออกมามีสีสันยิ่ง ปากร้าย นิสัยไม่ดี เห็นแก่อำนาจ แต่มิใช่คนชั่วช้าอย่างน่ารังเกียจ ออกจะเป็นคนที่น่าสนใจซะด้วย

และเล่มนี้ ความรู้สึกของสุยโจวก็กระจ่างชัด รุกไล่ถังฟั่นจนอ่อนระทวย แถมสุยโจวยังไปขอถังฟั่นจากพี่สาวเค้าด้วยนะ เมิ่งซีสือไม่ได้เขียนบอกตรงๆ แต่จากคำพูดของถังอวี๋ที่คุยกับน้องชาย มันบอกให้คนอ่านรู้อ่ะครับว่า สุยโจวเค้ามาสู่ขอเรียบร้อย เข้าตามตรอกออกตามประตูแล้วนะ

แล้วถังฟั่นทำไง? จะแกล้งโง่ต่อไปก็ไม่ได้ แต่ถังฟั่นก็มีวิธีบอกรักแบบเค้าอ่ะครับ แต่บัณฑิตบอกรักอ่ะคุณ มันไม่ตรงไปตรงมาแบบชายชาติทหารเยี่ยงพี่สุยเขาแน่ๆ

ใครใคร่อยากจิกหมอนก็ลองไปอ่านดู แต่ผมอยากจะบอกว่า ความรักระหว่างใต้เท้าถังกับผู้การสุยนั้น...ดูเหมือนว่าคนรอบๆ ตัวเค้ารู้กันหมดแล้ว ว่าสองท่านนี้นั้นต่างก็ตัดแขนเสื้อให้กันและกัน..

อนึ่ง นิยายเล่มนี้ จะถูกนักอ่านชาวไทยบางคนติงว่าบรรยายเยอะเกิน บรรยายกลุ่มการเมือง บรรยายประวัติศาสตร์ ซึ่ง...สำหรับผมแล้ว บทบรรยายเหล่านี้ทำให้ผมอ่านนิยายเรื่องนี้ด้วยความสนุก ทำให้ผมอยากรู้ความเป็นไปของหน้าประวัติศาสตร์ยุคราชวงศ์หมิง องค์ประกอบหลายเรื่องในนิยายนี้มีจริงนะครับ วังจื๋อมีตัวตนจริง สำนักประจิมมีจริง องครักษ์เสื้อแพรก็มีจริง เมิ่งซีสือสอดแทรกสุยโจว และถังฟั่นลงไปในหน้าประวัติศาสตร์อย่างแนบเนียน ผมอ่านเรื่องนี้ทำให้ผมอยากไปหาอ่านเหตุการณ์ กบฏป้อมถู่มู่ ที่นิยายเรื่องนี้พูดถึงหลายต่อหลายครั้งเลยคุณ

ผมทราบ ว่าคนเราลางเนื้อชอบลางยา คนหลายคนชอบนิยายรักประโลมโลก แต่การปักธงว่าฉันจะอ่านแต่เรื่องประโลมโลกอย่างเดียวโดยไม่สนใจอย่างอื่นนั้นชีวิตมันก็ดูแล้วน่าจืดชืดเกินไป และเมิ่งซีสือก็พูดถึงหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของจีนออกมาได้น่าสนใจมาก

มันน่าเสียดาย ถ้าจะอ่านข้ามๆ เพียงเพราะบอกตัวเองว่า ฉันอยากอ่านฉากรัก ฉากจิกหมอน

นิยายเล่มนี้ ต้องอ่านละเอียด อ่านครบทุกอักษร แต่ทว่า อ่านลื่นและอ่านไว เพราะมันสนุกมากๆ ครับ

[Rada Chalapipat · Rating 4 out of 5]

เรื่องนี้เป็น Boyslove ที่เราติดตามต่อเนื่องมากที่สุดจากฝีมือการแปลภายใต้ร่มเงาของสนพ.แจ่มใส ความน่าติดตามของเรื่องนี้อยู่ที่พล็อตและการดำเนินเรื่องที่กระชับ ไม่ยืดเยื้อ การวางหมากของตัวละครที่โตขึ้นทั้งด้านประสบการณ์การทำงาน วัยวุฒิ คุณวุฒิ และความรักที่แต่ละเล่มมีระยะเวลาทิ้งช่วงห่างกันให้เห็นถึงอุปสรรค มิตรภาพและความผูกพันของคู่พระนาย เพื่อนพ้องรวมไปถึงองค์รัชทายาทที่น่าจะเป็นตัวแปรต่อพล็อตใหญ่ทางการเมืองในภายหลัง จบท้ายเล่ม4 ด้วยตำแหน่งทางการเมืองที่สูงขึ้นของ #ถังฟั่น หรือ "เหมาเหมา" ของพี่สาวและนายกองสุยที่ต้องเดินทางไปช่วยยเหลือ #วังจื๋อ อดีตขันทีคนสนิทของฮ่องเต้ที่กลายเป็นหมาหัวเน่าได้แต่สู้รบอยู่ชายแดนหาหนทางกลับสู่วังหลวงไม่ได้

ต้นเรื่องจะเป็นการหาไส้ศึกในต้าถงที่ลอบส่งข่าวให้ฝ่ายศัตรูและการไขปริศนาทะเลสาปที่ปรากฏพายุทรายและภูตทหารผ่านทางที่ได้คร่าชีวิตเหล่าทหารต้าถงไปมากมาย ฉากแอคชั่นของพาร์ทนี้ยังคงความสนุกไม่แพ้ตอนบุกถ้ำเผชิญปีศาจในคดีลักพาตัวเด็กหญิง แต่ที่สนุกยิ่งกว่าคือความแซ่บในการด่ากราดไม่ไว้หน้าใครของวังจื๋อ และการสูญสิ้นความอดทนของก่วงชวนต่อความไม่ประสาของเหมาเหมา งานนี้เฮียสุยขโมยจูบก็แล้ว บอกรักก็แล้ว ยังไม่สามารถทำให้น้องถังผู้ขี้อายยอมรับใจตัวเอง ช่วงกลางถึงท้ายเรื่องคนพูดน้อยแต่แผนเยอะเลยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นฝ่ายไม่ใยดี แต่เฮียสุยไม่ควรชะล่าใจยิ่งนักเพราะภารกิจก่อนจบเล่มนี้ที่ถังฟั่นต้องเป็นตัวแทนไปเคลียร์ปัญหาคอรัปชั่นในเมืองหางโจวซึ่งเกิดภัยพิบัติแล้วเฮียสุยเล่นตัวไม่ยอมไปส่งและไม่ยอมไปด้วยนั้นเขาคงไม่ทันคิดว่าจะมี #อี้ชิง หนุ่มหล่อบัณฑิตใหม่สายตระกูลขุนนางที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ ไหวพริบปฏิภาณดีที่เห็นพี่ถังเป็นไอดอลมาคอยอารักขาและเผลอเมื่อไหร่มีต้องขอแตะนิดแตะหน่อยอยู่เสมอ

ในส่วนของคดีไส้ศึกมีความคาดไม่ถึงของตัวร้ายอยู่บ้าง นักเขียนยังคงหาทางออกให้ตัวละครสมทบของแต่ละตอนได้อยางแนบเนียน ช่วงกลางเรื่องในวังหลวงจนถึงท้ายเรื่องยังแสดงให้เห็นถึงความเก๋า อยู่เป็น ดูคนเป็น และจงรักภักดี มีอุดมการณ์ของถังฟั่นที่ทำให้อี้ชิงถึงกับประทับใจที่ได้ใกล้ชิดและเห็นหลายแง่มุมในการทำงานและการวางตัวของไอดอลที่เหนือกว่าที่ตัวเองคิดไว้ พล็อตใหญ่ในเรื่องการเมือง สำนักบูรพา กลุ่มขุนนางตระกูลวั่นและลัทธิบัวขาวยังคาราคาฟังให้ต้องติดตามกันต่อไป อ่านจบแล้วย้อนกลับมาดูปกก็จะเห็นหยกแทนใจที่น้องถังทำให้เฮียสุยเค้างอนได้ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าการร้อยหยกของหญิงและชายนั้นต่างกัน

[Chompoo Choti · Rating 5 out of 5]

เล่ม 5 นี้ถือว่าเป็นเล่มที่มีแอ๊กชั่นมากเหมือนกันเพราะว่าต้นเรื่องของเล่มถังฟั่นกับสุยโจวต้องออกไปทำคดีนอกเขต พท.และก็มีเหตุจะต้องไปออกแอ๊กชั่นบ้างกับการทำศึกกับชนเผ่าอื่นแต่ว่าตัวต้นเหตุของเรื่องจริงๆ มันดันพ่วงกับโจทย์เก่าที่ยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน พอถังฟั่นต้องกลับเมืองหลวงก็ยังต้องได้เจอกับเหตุเรื่องราวในวังหลวงจนเป็นที่เคืองต่อฮ่องเต้อีก เรียกว่าชีวิตถังฟั่นไม่เคยจะได้นิ่งเลย เรื่องรบก็มาเรื่องรักก็มีเพราะเล่มนี้สุยโจวก็รุกคืบมาบ้างแล้วแลกจูบ และหยก แต่เอาเข้าท่านใต้เท้าถังที่ฉลาดปราดเปรื่องก็ยังทำท่าไม่รับไม่รู้ ปากแข็งและทำทีว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เอาจริงก็แหม่หวั่นไหวหรอกแต่ว่าก็คงทำได้แค่เล็กๆ น้อยๆ ยังไม่ถึงกับมีเหตุใหญ่เกิดขึ้นกับเรื่องรักแต่มันก็หวานปนขำพอควรเลยล่ะเล่มนี้เล่นเอากำลังเครียดๆ ก็ฮาได้ประปรายดีจริงๆ

ท้ายเล่มก็มีคดีอีกที่ใต้เท้าถังจะต้องไปดำเนินการด้วยตัวเอง สุยโจวมิได้เดินทางไปด้วยแต่ว่ามีลูกน้องคนสนิทตามแถมยังมีคนคุ้มครองหรือที่เรียกให้ถูกคือสำนักบูรพามีทหารสองนายไปจับตาดูเพื่อฟ้องนายกับความผิดพลาดของถังฟั่นมากกว่าล่ะ คดีท้ายเล่ม 5 ชวนค้นหาคำตอบ เนื่องจากเป็นเรื่องของการไขคดีในเรื่องของภัยพิบัติของเมืองแต่ดันมีเจ้าหน้าที่ 3 คนของทางการที่เกี่ยวข้อง ผู้คนล้มตาย ติดโรค และได้รับการช่วยเหลือแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย งานนี้ถังฟั่นได้รับความช่วยเหลือจากหนุ่มหน้ามนที���เอาแต่เกี้ยวเขาอยู่เรื่อยๆ หนุ่มคนนี้แน่นอนว่าน่าจะเป็นตัวละครอีกตัวที่น่าจะมีส่วนในเรื่องของความรักระหว่างสองนายใต้เท้าถังและท่านสุยโจวอ่ะนะ คิดว่าน่าจะมีผลล่ะ น่าติดตามมากค่ะ

[orangejasmine · Rating 4 out of 5]

เล่ม5 แล้ว นับว่าเกินครึ่งทาง และเนื้อเรื่องเหมือนจะเข้าใกล้ลัทธิบัวขาวมากขึ้นมาอีกแล้วเพราะหลี่จื่อหลงปรากฏตัวในเล่มนี้ด้วย แต่จะมาแบบไหนอย่า���ไร ต้องไปอ่านเอง เนื้อเรื่องที่ทะเลสาบเวยหนิงไห่จู่ก็สนุกใช้ได้เลยค่ะ น่าตื่นเต้นว่าเดอะแก๊งก์จะฝ่าด่านค่ายกลทหารนั่นยังไง แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือ เก่งเวอร์ โดยเฉพาะวังจื๋อนี่คือแบบ เก่งเกินเบอร์ขันทีมาก เป็นขันทีที่แปลกแหวกแนวดีจริงๆ

เนื้อเรื่องในช่วงท้ายเป็นคดีใหม่อีกแล้ว คราวนี้เป็นเรื่องภัยอดอยากที่เหมืองซูโจว ถังพั่นถูกส่งไปจัดการแก้ปัญหาอีกแล้ว แต่รอบนี้ไม่มีคู่หูปาท่องโก๋ไปด้วยนะ ก็จะรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่พี่สุยไม่เกาะติดน้องแจเหมือนเดิม แต่คิดว่าเล่มหกอาจจะโผล่ไปเซอร์ไพรส์น้องมั้ยอะไรยังไง เดี๋ยวต้องไปอ่านต่อ

เล่มนี้ชอบชั้นเชิงต่างๆ ของถังฟั่นมากทั้งในคดีแรกและคดีหลัง (คดีหลังยังไม่จบ แต่ก็ได้เห็นชั้นเชิงการวางแผนของเขาบ้าง) เนื้อเรื่องเล่มนี้ส่วนตัวว่าไม่ยืดเท่าเล่มก่อนหน้า บรรยายเยอะเหมือนเดิมแหละ แต่ก็ยังจัดว่าอ่านสนุกอยู่

ฉากสวีตเล่มนี้เหมือนสวีตเผื่อเล่มก่อนๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะฉากในห้องนอน (อย่าคิดลึก คู่นี้ไม่มีอะไรให้คิดลึกทั้งนั้น 555) ฉากในถ้ำ ฉากมอบหยก(กลิ่นมะเขือยาวผัด)แทนใจ ฉากโต๊ะกินข้าวบ้านพี่สาว ทั้งหมดรวมกันยังไม่เต็มห้าหน้าดีด้วยซ้ำมั้ง แต่อ่านแล้วคือเขินตัวบิดประหนึ่งฉากสวีตหนึ่งบทเลยค่ะ และใช่ค่ะ พี่สุยของเรามีความหวังแล้วค่ะ เพราะยัยน้องถังผู้ไม่รู้อะไรบ้างเลย ในที่สุดก็รู้แล้วค่ะ ไปช่วยกันลุ้นพี่สุยในเล่มต่อๆ ไปกันนะคะ

[Cherry Sawanya Munkongsujarit · Rating 5 out of 5]

เล่ม 5 พิมพ์ครั้งที่ 1 : สิงหาคม 2561

โปรยปกหลังเล่ม 5 :

'ชายแดนต้าถงเป็นพื้นที่อ่อนไหวมาตลอด แต่นับจากวังจื๋อไปเป็นเสนาธิการ
ทัพต้าหมิงก็แทบไม่เคยปราชัยในศึกกับชนเผ่านอกด่านเลย
ทว่าไม่นานมานี้สภาพการณ์กลับผกผันตรงกันข้าม
เมื่อทุกครั้งที่ทัพต้าหมิงไล่กวดข้าศึกไปถึงบริเวณทะเลสาบ
ก็มีอันต้องเผชิญกับปรากฏการณ์วิปริตผิดแผก จนสาบสูญทั้งกองทัพ!
ลือว่านี่เป็นเวทมนตร์ของ ‘หลี่จื่อหลง’ หัวหน้าลัทธิบัวขาว
ผู้ซึ่งบัดนี้มีศักดิ์เป็นถึงราชครูของพวกต๋าต๋า
กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เหล่าทหารหาญไปแล้วไปลับ ขวัญกำลังใจกองทัพดิ่งต่ำถึงขีดสุด
ศัตรูควบคุมได้กระทั่งเมฆหมอกพายุฝนลมทราย
ยังได้ยินว่านักพรตมารผู้นั้นสามารถสั่งการภูตทหารจากเมืองผีให้ล้อมโจมตีได้อีก!
ด้วยเหตุนี้ ถังฟั่นซึ่งชื่อเสียงขจรขจายว่าเป็น ‘เทพผู้ไขคดี’ จึงได้เดินทางมาถึงยังเมืองต้าถงแล้ว...!!
คำนำสนพ. เล่ม5 :
รู้นะว่ามีหลายคนหวั่นไหว ชักอยากจะขึ้นเรือ 'วังจื่อ-ถังฟั่น' แต่เห็นจะยากหน่อยนะคะ เพราะสุยโจวคุมเข้มอยู่ที่ท่า ใครก็อย่าหวังจะขึ้นเรือนี้สำเร็จ! ใช่แล้วค่ะ มาต้าถงหนนี้ สุยโจวก็ยังคงประกบถังฟั่งไม่ห่างดังเดิม และเจ้าตัวก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วถือโอกาสนี้แหละ รุก ใต้เท้าถังให้เลิก (แสร้ง) บื้อสักที

อย่าเห็นว่าคดีในเล่มห้าเคร่งเครียดร้ายแรงขนาดนั้น ไหนจะต้องแก้ปริศนาเวยหนิงไห่จื่อ ไหนจะต้องหาตัวสายลับที่แฝงอยู่ในเมืองต้าถง ไหนจะพวกลัทธิบัวขาวยังมีสงครามประสาทกับคนของกลุ่มอำนาจวั่นอีก แต่ฉากหวานๆ มีมาให้ได้ชมแน่นอนค่ะ บอกเลยว่างานนี้มีอึ้งทั้งถังฟั่นทั้งนักอ่านเลยล่ะ

สำนักพิมพ์เอเวอร์วาย

เล่ม 5 :

สุยโจวบอกว่าคนร้ายที่ทำร้ายถังฟั่นเมื่อวานตายแล้ว วังจื๋อมาบอกว่าตายเพราะเงินในถุงเงินซึ่งไม่ใช่ของถังฟั่น จึงคิดกลับมาได้ที่โรงรับจำนำที่ถังฟั่นเดินผ่าน ตอนนี้เลยไปสืบพร้อมกันในที่สุดก็รู้ว่าเถ้าแก่จินเป็นคนของลัทธิบัวขาวใช้ใบสั่งยาส่งสารลับให้สิงเส่าจื้อ และคนที่มาส่งข่าวคือติงหรงคนสนิทของวังจื๋อนั่นเอง เมื่อสืบไปก็พบว่าติงหรงคือหัวหน้าสาขาลัทธิบัวขาวที่นี่แทนเจ้าของโรงรับจำนำ สุดท้ายถังฟั่น สุยโจว วังจื๋อตัดสินใจออกไปสืบเรื่องเวยหนิงไห่จือด้วยตัวเองโดยนำเอาคนที่รอดชีวิตกลับมาไปด้วย และนักพรตชูอวิ๋นจื่อที่มาเสนอตัวถึงที่ สุดท้ายด้วยความสามารถของสุยโจว ถังฟั่น ทำให้รู้ว่าจุดประสงค์ของลัทธิบัวขาวคือวังจื๋อที่อยากจะจับเป็นไปให้พวกต๋าต๋า และสุดท้ายก็รู้ว่าชูอวิ๋นจื่อก็คือหลี่จือหลงที่เกี่ยวข้องกับคดีจิ้กจอกมารในปีนั้นที่ทำให้วังจื๋อสร้างชื่อจากสำนักประจิมได้ สุยโจวไปช่วยวังจื๋อ ส่วนถังฟั่นไปทำลายค่ายกล ทำให้สุดท้ายสามารถต้านทัพเผ่าต๋าต๋าเอาไว้ได้เป็นผลสำเร็จ
คดีซับซ้อนของเวยหนิงไห่จือปิดฉากลง ถังฟั่น สุยโจวกลับเมืองหลวง ช่วงนี้สกุลเฮ่ออยากจะรับแม่ลูกถังอวี๋กลับไปแต่โดนขัดขวางไว้ ถังฟั่นคิดวิธีให้เฮ่อหลินยินยอมหลังจากช่วยเรื่องการสอบจวี่เหรินที่เปิดเป็นกรณีพิเศษก็ไปพบพร้อมทั้งบอกว่าจะสามารถหาตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ประจำอำเภอให้ได้ ให้เฮ่อหลินแต่งเข้าบ้าน และเฮ่อเฉิงเปลี่ยนแซ่ จากนั้นก็หย่าได้ทำให้สกุลเฮ่อไม่ข้องเกี่ยวกับสกุลถังอีกต่อไป
สุยโจวเริ่มรุกหนักตั้งแต่ตอนที่อยู่เวยหนิงไห่จื่อก็บอกความในใจกับถังฟั่นแล้วแต่ถังฟั่นทำเป็นไม่สนใจ และเมื่อกลับมาต่างคนต่างงานยุ่ง สุดท้ายสุยโจวต้องใช้แผนให้สูญเสียถึงจะรู้ตัว ในที่สุดก็ยอมบอกความในใจ นี่เป็นสาเหตุให้ถังอวี๋อยากให้เฮ่อเฉิงเปลี่ยนแซ่จะได้มีผู้สืบสกุลถัง เจ้าตัวก็ยังแกล้งบื้ออยู่นั้น
ถังฟั่นได้รับราชโองการให้เป็นอาจารย์อรรถาธิบายรัชทายาท แต่เรื่องนี้ก็โดนวางหมากเพื่อเล่นงานรัชทายาทเอาไว้แล้ว สุดท้ายทำให้คนข้างกายรัชทายาทต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ส่วนถังฟั่นก็สำนึกผิดอยู่บ้าน
และก็เกิดคดีภัยแล้งและน้ำท่วมที่เมืองซูโจวอยู่ในรัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบแปด ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน ฝนแล้งติดต่อกันนานหลายเดือน ต่อมาย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วงฝนตกติดต่อกันระดับน้ำในทะเลสาบไท่หูเอ่อล้นจนเป็นอุทกภัย ราชสำนักเปิดคลังเสบียงช่วยเหลือ กลับเกิดกรณีพิพาทอันซับซ้อนกันสามฝ่ายระหว่างผู้ตรวจการเขตพื้นที่หนานจื๋อลี่ หยางจี้ กับนายอำเภออู๋เจียง เฉินหลวน ฟ้องร้องกัน ยังมีหูเหวินเจ่าเจ้าเมืองซูโจวเขียนฎีกาอีกฉบับสามฉบับสามแบบ ทำให้ต้องส่งผู้ตรวจการไปตรวจสอบ คดีนี้จึงตกเป็นของถังฟั่น เมื่อเดินทางลงใต้ระหว่างทางต้องไปกับคนของสำนักบูรพาที่คอยขัดแข้งขัดขา มาจับผิดตลอดเวลา เมื่อเดินทางถึงหยางโจวได้พบเหตุการณ์คนตกน้ำและเป็นลู่หลิงซีช่วยเอาไว้ ลู่หลิงซีเป็นหลานลู่ติ่ง พอแยกจากก็มาเจอกันอีกทำให้ถังฟั่นรู้ว่าลู่หลิงซีติดตามมา จึงถามความจริงและได้รู้ว่าได้รับการไหว้วานมาจากไหวเอิน มาถึงในพื้นที่ถังฟั่นสังเกตความผิดปกติได้ และในที่สุดก็รู้ว่าเป็นเพราะเฉินหลวนที่ปิดบังเรื่องราว ปล่อยให้ชาวบ้านที่อพยพมาตายกันไปเองทำให้ถังฟั่นโกรธแค้นมาก ต้องจัดการเฉินหบวนให้ได้ เริ่มจากหูเหวินเจ่าเจ้าเมืองซูโจวที่หยางจี้และเฉินหลวน โยนออกมาเป็นแพะเรียบร้อย

หลังอ่านเล่ม 5 :

คดีต่างๆเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังเกี่ยวโยงไปอีกหลายชั้นที่จะต้องมีความเกี่ยวข้องกันต่อไปแน่นอน ส่วนเรื่องส่วนตัวสุยโจวก็รุกถังฟั่นแล้ว ทั้งสารภาพความในใจ ในเมื่อรอแล้วก็ไม่ได้ผลงั้นบอกตรงๆไปเลย ซึ่งผลที่ได้ ใต้เท้าถังทำเป็นบื้อไปไม่รู้เรื่องด้วยซะงั้น พอจะปฏิเสธ ก่วงชวนเลยเปลี่ยนวิธีทำให้รู้ว่าสูญเสียไปเลย คราวนี้นั่งไม่ติดล่ะ แต่พอจะบอกเค้าบ้างก็แกล้งบื้อไม่รู้เรื่องอีก แต่คดีที่ซูโจวนี่สุยโจวหายไปไหนนะ ไม่มีทางปล่อยให้รุ่นชิงลุยเดี่ยวแน่ เลี้ยงดูประคบประหงมซะขนาดนั้น และตอนนี้ใต้เท้าถังก็โกรธแล้วจริงๆด้วยที่คนชั่วทำกับชาวบ้านแบบนี้ รออ่านเล่มหกต่อเลย

[Tippy Chee · Rating 5 out of 5]

รว้ายยกาจจจจ !
เต็มไปด้วยความสุด ในหลายๆ เรื่องเลยเล่มนี้ ก่อนอื่นคือ ทิ้งตอนจบไว้ได้แบบ ฮึ้ยย ต้องรีบคว้าเล่มต่อไปโดยพลัน กำลังมันส์สุดๆๆ

เริ่มจากคดีที่ต้าถง โอ๊ะโอว ในนี้มีของดีซ่อนอยู่ พี่สุยคือรุกหนักมากกกก ทำเอาใต้เท้าถังไม่ทันตั้งตัว แต่สกิลไขสือของใต้เท้านี่คือสุดยอด น่าหมั่นเขี้ยวสุด ๆ ถึงขนาดว่า พี่อวี๋ยังนึกเห็นใจสุยโจว อ่ะ 555 อ่อ ช่วงต้าถงนี่ วังจื๋อมีบทเยอะ และทำให้เราชอบตัวละครนี้ได้ซะที ไม่ใช่ว่าวังจื๋อนิสัยดีขึ้นนะ แต่ชอบเอเนอจี้ความปากตะไกรของนาง 555 บันเทิงมากก

ในเล่มนี้ ความสัมพันธ์ของสองคนเริ่มซับซ้อนละ แบบตั้งแง่กันไปมา ผลุบๆ โผล่ๆ คล้ายมีคล้ายไม่มี แต่เราว่า อันนี้เป็นเทคนิคของคุณเมิ่ง ที่เรารู้สึกว่า เจ๋งเลยแหละ มันทำให้เราลุ้นตามไปได้แบบใจหายใจคว่ำ ด้วยความอมพะนำของทั้งคู่ ไม่ได้เปิดทุกอย่างใส่หน้าเราจนหมดเปลือก มันเลยให้ความรู้สึกแบบ “ของดีมีน้อย” แล้วพอถึงจังหวะ หยอดมาให้เราหน่อยนึง มันเลยทำให้ดาเมจรุนแรงมากกก จังหวะแบบนี้ยังไม่เคยเจอจากเรื่องไหนเลย เจ๋งมาก

เล่มนี้มีตัวละครใหม่โผล่มาด้วย ในช่วงท้าย คดีผู้ประสบภัยที่ซูโจว
ตายแร้วววว ใต้เท้าถังโดนเด็กจีบแล้วว กี๊ดด ในใจแอบชิปคู่นี้เลยนะเนี่ย 555

[Kamons · Rating 4 out of 5]

ว่าด้วยความสัมพันธ์ของคู่เอก เล่มนี้สุยโจวสารภาพความในใจกับถังฟั่นไปแล้ว แล้วไงล่ะ…นึกว่าจะมีโมเม้นอะไรบ้าง เปล่าเลย เป็นภาวะสุญญากาศไม่รุกไล่ ไม่ถอยหนี ออกแนวบื้อๆ ตื้อๆ ไม่ถูกใจแม่ยกเลย กว่าจะมีอะไรสักอย่างที่รู้สึกว่าคืบหน้าก็นานมาก แล้วก็ปล่อยวางค้างเต่อ ไม่รุกต่อ ไม่ตามต่อ อะไรเนี่ยยยยยย… แม่ยกเบื่อ เพลีย เลยขอพักยกไว้ที่เล่ม 5 นี้แหละ ใจนี่จะเปลี่ยนไปเชียร์กับวังจื๋อกับหนุ่มน้อยหน้ามลคนใหม่ของใต้เท้าถังแทนแล้ว โกรธสุยโจว

ส่วนเรื่องคดีตอนต้นเรื่องไปผจญภัยชายแดนหนักหนาจนเกือบเอาตัวไม่รอดกัน ความดีงามในช่วงนี้คือวังกงกงอีกแล้ว ด่ากราดได้ถูกใจคนอ่านเหลือเกิน ช่างเป็นสีสันของเรื่องนี้จริงๆ กลางเล่มกลับเข้าเมืองหลวงก็มีแต่เรื่องยุ่งยากใจให้ใต้เท้าถัง ปลายเล่มเลยโดนส่งไปตรวจการนอกเมืองหลวงอีกแล้ว นี่แหละเป็นเหตุให้เจอเด็กใหม่ใสกริ๊ง ผู้เทิดทูนใต้เท้าถังคนใหม่ ใต้เท้าถังคนงามว่าไงลู่หลิงซีว่าตามกัน!

[Jinnie · Rating 5 out of 5]

ดึงเข้าเกมการเมืองยิ่งกว่าทุกเล่มแล้วยิ่งช่วงท้ายเล่มยิ่งเห็นความสกปรกของเจ้าขุนมูลนาง จักรพรรดิติด—จนไม่รู้ว่าตัวเองถูกชักใยคนรอบข้างมีแต่งูพิษหิวเงิน กรรมตกมาที่ประชาชน ตัวถังฟั่นเรียกว่าตามเช็ดตามล้างที่แท้ ไม่รู้ว่าเล่มต่อไปจะมีการขุดรากถอนโคนเน่าออกไหมแต่อยากให้มี เมิงซีสือเขียนดี ไม่ต้องด่าต้องว่า อ่านเอาก็จะรู้เองว่าทุกอย่างมันบิดเบี้ยวอย่างไร เป็นการเขียนที่มองว่าถ่อมตัวแต่ฉลาดจริงๆ

สุยโจยเองก็รุกเต็มกำลัง เล่มก่อนแค่แตะๆ เล่มนี้ทั้งพูดบอกทั้งลงมือแล้ว แต่ตอนท้ายไม่รู้เป็นแผนการไหมถึงทำแบบนั้น ก่อนจบมีอี้ชิงเพิ่มเข้ามา น่ารักกกก เห็นภาพหนุ่มน้อยขี้เล่นทะลุหนังสือมาเลย มาหยอกถังฟั่น รอสุยโจวมาเห็นเลย แต่เราว่าบทอี้ชิงเนี่ยค่อนข้างมีบุคลิกเด่น เหมือนกับวังจื๋อเลย (อุบ) ความเหวี่ยงวีน จะตลกก็ตลกแต่ก็ทำให้คิดตลอดว่าคนอะไรเนี่ย 555555

[Chinchin · Rating 4 out of 5]

ตอนแรกที่เริ่มอ่านเพราะได้ยินรีวิวดี มีความสืบสวนสอบสอนและมีความวาย ซึ่งตัวเองชอบทั้งสองแนว เลยคามหวังไว้มากๆ แต่พออ่านไปรู้สึกว่าไปไม่สุดซักทาง มีความเนิบช้า พรรณนา เริ่มมีความเบื่อและคิดจะเลิกอ่านอยู่

แต่พออ่านไปก็เริ่มเห็นข้อดีของความเนิบช้า ชีวิตก็งี้แหละใครจะตื่นเต้นได้ตลอดเวลา 555 ตอนหลุงตัวร้ายเริ่มเก่งมากข้ึนก็มีความตื่นเต้ามากขึ้นนิดนึง และประทับใจที่ได้เรียนรู้ขนบสังคมของต้าถังทั้งในวังนอกวัง สำนวนจีนต่างๆ

happy สุดเวลาที่นายเอกและพระเอกอยู่ด้วยกัน ประทับใจตอนสุดท้าย จำwording เป๊ะๆไม่ได้ แต่พระเอกพูดกับนายเอกว่า ชีวิตข้าผ่านอะไรมามากมาย (แน่นอนหละตั้ง 7เล่ม) ทั้งสุข ทุกข์ ขอบคุณที่เทออยู่ข้างกันมาตลอด ❤️

[น้อนเว่ย · Rating 5 out of 5]

ตอนต้นเล่มถึงกลางเล่มเป็นเรื่องปลายทางจากต้าถงจนถึงชีวิตที่วุ่นวายทั่วไปของรุ่นชิง ชีวิตวุ่นวายตรงนี้ที่เกิดเรื่อง คิดว่าตัวละครอวี๋เฉียวเล่มต่อไปน่าจะได่ช่วยรุ่นชิง กว่าจะสืบคดีใหม่ของแถบทางใต้ก็เกือบปลายเล่มแล้ว นึกในใจว่าตอนจบเล่ม5นี่ต้องปล่อยให้คดีถึงจุดสำคัญแล้วตัดจบแน่ๆเลย เป็นดังคาด ถ้าผู้อ่าน อ่านจบเล่ม5แล้วเล่ม6ยังไม่ออกแบบเรา ใจจะขาดอยากกะบ้าตาย แต่ๆๆๆ เล่ม5นี้ก่วงชวนท่านระวังให้ดีเถอะทำหมางเมิน เล่ม6ก่วงชวนน่าจะมีคู่แข่งแล้ว เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวด้วย เพราะเค้าน่ารักจนเราอยากให้เค้าจีบรุ่นชิงจะแย่แล้ว บร้าจริง ชั้นคิดอัลลัย

[Monaliz Juang · Rating 5 out of 5]

มาถึงเล่มนี้พระเอกเรารุกแล้วค่ะ แต่เป็นนายเอกเราที่ยังหนีใจตัวเอง ในส่วนของคดียังน่าติดตามเหมือนเดิม ด้วยความที่ตำแหน่งหน้าที่การงานของนายเอกเราก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป ท่ามกลางสงครามและการเมืองภายในของวัง ฮ่องเต้ก็ไม่โง่การจะเข้าหาหรือจะทำอะไรจึงต้องระวังตนเองตลอดเวลา โชคดีที่นายเอกของเราก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเท่าไหร่ เหมือนค่อยๆแก้ไขปัญหาเป็นจุดๆไป รอเล่มต่อค่ะว��าจะเป็นยังไงต่อไป

[Natt · Rating 4 out of 5]

ชีวิตใต้เท้าถัง ได้รับตำแหน่งพระอาจารย์ของรัชทายาท แล้วก็ตกหลุมพรางของกลุ่มอำนาจวั่น จนต้องรับราชโองการให้ไปตรวจราชการเรื่องถัยพิบัติที่เขตซูโจว
ส่วนความรัก ใต้เท้าถังก็ยอมรับแล้วว่ามีใจให้พี่สุย และพี่สาวก็หาวิธีจัดการเรื่องผู้สืบสกุลตระกูลถังได้ แต่ทว่าใต้เท้าสุย กลับมีท่าทีนิ่งเฉยไปซะอีก ...ยังไงกัน
ต้องไปอ่านเล่มต่อไปซินะ

[ベスBest✨ · Rating 4 out of 5]

เล่มนี้ต้องขอบอกเลยว่าแรกๆพี่สุยรุกหน��กมากก หวีดหนักมากตอนช่วงครึ่งเล่มแรก แต่พอรุกหนักถังฟั่นก็ถอยรนเหมือนกัน ยังสับสนในตัวเองแต่ดันไม่มีเวลาคุยกัน กองเชียร์อย่างเรานี่จะขาดใจ คดีในเล่มนี้ก็ยังคงความเข้มข้น รายละเอียดเยอะเหมือนเคย พอช่วงท้ายเล่มขึ้นคดีใหม่มีลู่หลิงซีตัวละครใหม่มาสร้างเรือเพิ่มอีก น่าติดตามต่อไปมากว่าจะเป็นยังไงต่อไปค่ะ

[Nattapan · Rating 3 out of 5]

3.5 stars. Overall, the relationship between the two main characters is full of warm compassionate feelings.

PS. If you are a fan of Yaoi fictions, this is another story you might be falling in love.

[หลังอ่านของน้ำฝน · Rating 3 out of 5]

จากสถานะผู้พิพากษากลายเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าคนตาย สืบไปสืบมาคดีนี้ไม่เล็กอย่างที่คิด พัวพันไปอีกหลายคดี และยังพามิตรภาพที่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่เพื่อนสนิทที่ทำให้ปวดหัว(ใจ)มาให้เขาด้วย

#หลังอ่านของน้ำฝน → https://wp.me/p6yYEv-2Lm

[Lunae Enciel · Rating 4 out of 5]

สนุกในระดับนึงแต่ยังเนือยๆ อยู่บ้าง อ่านแล้วเบื่อๆ เลยต้องสลับไปอ่านเรื่องอื่น

[Curio Pun · Rating 4 out of 5]

พระเอกรุกแล้วข่าาาาา แต่น้องคนที่มาตอนท้ายเล่มก็รุกเหมือนกัน5555

[Wkd · Rating 5 out of 5]

ประทับใจฝีปากวังกงกง หน้าสิ่วหน้าขวานแค่ไหน ปากก็ยังทำงานได้ดี 😂

[Panchaya · Rating 4 out of 5]

เล่มนี้คดีสนุก ไม่ค่อยอุ้ยอาย แต่แนวคิดเบื้องหลัง ศีลธรรมง่อนแง่นเหมือนเดิม

[xelor · Rating 5 out of 5]

เคยอ่านนานแล้ว เล่มนี้จำได้ว่าเขินปากเบี้ยวตอนพี่สุยสารภาพรัก เสน่ห์หาที่ให้ เจ้าใช่เช่นกัน? แบบอ้ากกกกกก รู้ตัวกันสักที เป็นเรื่องที่คสพพัฒนาไปแบบช้าๆแต่น่ารักมากเลยค่ะ

[pn · Rating 5 out of 5]

(4.5/5)

[Isabella Nut · Rating 5 out of 5]

เขาสารภาพรักกันแล้วค่ะทุกคนนน กะแล้วเชียวว่าพี่สุยรู้ใจตัวเองมาสักพักแล้ว คงจะมีแต่ถังฟั่นนี่แหละค่ะที่ตีมึนไม่ยอมรับความจริง ฮ่าๆ

เล่มห้านี้เป็นเล่มที่ค่อนข้างวุ่นวายเลยทีเดียวค่ะ ต้องต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามไม่พอ ยังต้องต่อสู้กับคนที่่คิดว่าอยู่ฝั่งเดียวกันมาตลอดซะอีก คนที่เราไว้ใจ กลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายเราซะได้ เฮ้ออ เหมือนเล่มนี้จะเป็นเล่มรวมพลคนหักหลังซะมากกว่า คนนี้หักหลังคนนั้น คนนั้นทรยศคนนี้ วุ่นวายจริงๆ

สืบข่าวไปสืบข่าวมา ถังฟั่น สุยโจว วังจื๋อและพรรคพวกจึงพากันออกเดินทางไปสำรวจพื้นที่นอกด่าน ไหนเลยจะรู้ว่าตัวเองติดกับของชาวต๋าต๋าเข้าแล้ว กว่าจะรู้ตัวก็พากันบาดเจ็บเจียนตายแล้วค่ะ ที่อดชื่นชมไม่ได้ก็คือแม่นางตู้ แม้นางจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ติดตามมาในขบวนนี้ แต่นางก็ไม่ได่เป็นภาระให้กับถังฟั่นและสุยโจวเลย (จริงๆก็แอบเป็นหน่อยๆแหละค่ะ) หนำช้ำยังคอยช่วยเหลือคนอื่นยามบาดเจ็บ ดูแลตัวเองได้ดี ไม่แม้แต่จะบ่นหรือกรีดร้องออกมา ถือว่าเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

อีกคนที่อดชื่นชมไม่ได้ก็คือวังกงกงนี่แหละค่ะ ต้องคอยต่อสู้เอาชีวิตรอดด้วยตัวเองกับพรรคพวกที่ตอนนั้นเหลือกันอยู่สองคนตลอดทั้งคืน จนกระทั่งพี่สุยเข้าไปช่วย สภาพสาหัสจริงๆ ดีที่ถังฟั่นทำลายค่ายกลได้ทันเวลา ไม่งั้นก็ไม่มีทางรู้จริงๆว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาไหม

ทุกสิ่งอย่างดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิบัวขาวไปซะหมด แม้กระทั่งค่ายกล หรือข่าวที่รั่วไหลไปยังทัพของชาวต๋าต๋าก็เป็นเพราะลัทธิบัวขาวยื่นมือมาช่วยเหลือ ยังโชคดีที่ครั้งนี้สามารถรบชนะชาวต๋าต๋าได้ ต้องของคุณวังกงกงและผองเพื่อนเขานั่นแหละค่ะ ที่หอบสังขารไปแจ้งแก่แม่ทัพได้ทันเวลา

คดีในส่วนหลังของเล่มนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าคดีอะไรดี จะเรียกว่าข้อพิพาทระหว่างขุนนาง 3 คน หรือว่าจะเป็นคดีการจัดสรรเสบียงช่วยเหลือผู้ประสบภัย ยังไงก็แล้วแต่คดีนี้วุ่นวายอยู่พอสมควรค่ะ คนที่อยู่เบื้องหลังเหมือนจะเป็นตัวใหญ่ ยังไม่รู้ว่าถังฟั่นจะจัดการยังไง คงต้องรอลุ้นเล่ม 6 แล้วล่ะค่ะ

ชะตาชีวิตถังฟั่นนี่น่าสงสารมากๆค่ะ เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง ถึงขนาดได้เป็นราชครูให้รัชทายาทแล้ว กลับตกหลุมพลางกลุ่มอำนาจวั่นที่ต้องการปลดรัชทายาทซะได้ น่าสงสารทั้งถั่งฟั่นและรัชทายาท เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งแท้ๆ กลับต้องมาเจออะไรแบบนี้

มาพูดถึงพี่สุยกันดีกว่าค่ะ นอกจากจะสารภาพรักกับถังฟั่นแล้ว พี่สุยจูบถังฟั่นค่ะทุกคนน เขาจูบกันแล้ววว กว่าถังฟั่นจะยอมรับว่าตัวเองมีใจก็ตอนที่พี่สุยพูดว่าจะแต่งงานนั่นแหละ แหม ยังมีหน้ามาบอกว่าคนอย่างถังฟั่นถ้าไม่เสียของที่ตนรักไป มีหรือ จะรู้ใจตัวเอง

ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่สุยมีแผนอะไร ตอนหลังถึงได้เย็นชาใส่น้องถังเสียเหลือเกิน แต่พี่สุยจะรู้ไหมนะ ว่าตอนนี้พี่สุยมีศัตรูหัวใจเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้วนะคะ ใช่ค่ะ อี้ชิงนั่นเอง

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าอี้ชิงเป็นใคร อี้ชิงเป็นคนที่ไหวเอินส่งมาดูแลถั่งฟั่นตอนไปปฏิบัติภารกิจในคดีท้ายเล่มนี่แหละค่ะ ดูท่าว่าอี้ชิงจะชอบถังฟั่นเอาเสียมากๆ บูชาถังฟั่นแบบสุดๆ แถมยังคุยถูกคอกับถังฟั่นอีกต่างหาก บางครั้งก็พูดจาจีบถังฟั่นซึ่งๆหน้าเสียด้วยซ้ำ ตำแหน่งพระเอกของพี่สุยสะเทือนครั้งใหญ่แล้วค่ะ จริงๆแล้วก็เราก็แอบเทใจไปให้อี้ชิงแล้วนิดๆ ถ้าพี่สุยยังเย็นชาใส่น้องอยู่แบบนี้จะเชียร์ให้เปลี่ยนพระเอกจริงๆนะคะ ฮ่าๆๆ