What do you think?
Rate this book
Creative Blindness (And How To Cure It): Real-life stories of remarkable creative vision
Creativity is all around us. Not in art galleries. But on the train, at work, in the street outside, and in schools, hospitals and restaurants. Creative vision exists wherever people are.In this entertaining collection of real-life stories, Dave Trott applies his crystal clear lens to define what genuine creative vision looks like. It is problem solving, clarity of thought, seeing what others do not see, and removing complexity to make things as simple as you can.The timeless lessons revealed here can be applied in advertising, business and throughout everyday life. By seeing things differently, you can think differently, and change the world around you.Dave Trott shows you how.
231 pages, Kindle Edition
First published January 1, 2019
103 people are currently reading
1140 people want to read
About the author
Dave Trott
14 books110 followersDave Trott is a creative director, copywriter, and author. Trott studied at the Pratt Institute in New York City, majoring in advertising before going on to found the advertising agencies Gold Greenlees Trott, Bainsfair Sharkey Trott and Walsh Trott Chick Smith. In 2004 he was given the D&AD President's Award for lifetime achievement in advertising.
Ratings & Reviews
Friends & Following
Create a free account to discover what your friends think of this book!
Community Reviews
Displaying 1 - 30 of 55 reviews
February 27, 2019
I never read "work" books but decided to try this one, and... well, it doesn't feel like work. Very interesting, useful and fun.
I decided to earmark the chapters that I thought I could use later on, and ended up marking about half of them.
Recommended if you're a creative or planner. Mandatory if you're a client. ;)
I decided to earmark the chapters that I thought I could use later on, and ended up marking about half of them.
Recommended if you're a creative or planner. Mandatory if you're a client. ;)
July 30, 2022
หลังจากอ่านมาถึงเล่มที่ 3 ของลุงเดฟ ความทึ่งอย่างแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือ ลุงเดฟแกไปหาเรื่องมาเล่าในแต่ละเล่มมากมายแบบนี้ได้ยังไง เล่มนึงนี่ตกเฉลี่ยเลยคือ 30 เรื่องได้ นอกจากการหาเรื่องมาเล่าแล้ว แกยังต้องนำเสนอแง่มุมให้คนอ่านได้ “เห็น” แง่มุมบางอย่าง ที่ทำให้คนอ่านสัมผัสได้ว่า ความคิดสร้างสรรค์ ทรงอานุภาพมากแค่ไหน
ปัญหาบางเรื่อง เพียงเปลี่ยนมุมมองเล็กน้อย ก็อาจได้คำตอบที่เปลี่ยนแปลงโลกได้เลย หรือบางเรื่องการเลือกจะไม่มอง อาจเป็นคำตอบมากกว่าการพยายามหามุมมองก็เป็นไปได้
เป็นหนังสือที่ต่อให้ไม่ได้ทำงานด้านโฆษณา หรือ การตลาด ก็ให้อะไรกับคนอ่านในเรื่องการการคิด วิเคราะห์และไตร่ตรองกับปัญหาได้ดีมาก
สมดังที่ลุงแกพูดอยู่บ่อย ๆในทุกเล่ม ขอเพียงเราเปลี่ยนมุมมอง และมองทุกอย่างให้เป็น อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ
ปัญหาบางเรื่อง เพียงเปลี่ยนมุมมองเล็กน้อย ก็อาจได้คำตอบที่เปลี่ยนแปลงโลกได้เลย หรือบางเรื่องการเลือกจะไม่มอง อาจเป็นคำตอบมากกว่าการพยายามหามุมมองก็เป็นไปได้
เป็นหนังสือที่ต่อให้ไม่ได้ทำงานด้านโฆษณา หรือ การตลาด ก็ให้อะไรกับคนอ่านในเรื่องการการคิด วิเคราะห์และไตร่ตรองกับปัญหาได้ดีมาก
สมดังที่ลุงแกพูดอยู่บ่อย ๆในทุกเล่ม ขอเพียงเราเปลี่ยนมุมมอง และมองทุกอย่างให้เป็น อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ
October 30, 2019
A book and a half.
After having read two of Dave Trott's books (One + One = Three and Predatory Thinking), I felt compelled to read his latest book. I couldn't put it down. So many lessons to learn and I think I will have to read it again so as to relearn them. A compelling and exciting book. Highly recommend it.
After having read two of Dave Trott's books (One + One = Three and Predatory Thinking), I felt compelled to read his latest book. I couldn't put it down. So many lessons to learn and I think I will have to read it again so as to relearn them. A compelling and exciting book. Highly recommend it.
October 14, 2019
One of the best books I've ever read. If you like creativity, you will love this book. Each chapter is short but very insightful and inspiring. I would strongly recommend you to read it.
April 17, 2022
- จะขายคุ้กกี้อยากไงดีให้คนซื้อ แทนที่จะไปกดกริ๊งที่หน้าบ้านลูกค้าแต่ละคนก็ไปตั้งขายหน้าร้านขายกัญชาสิ
- จะจับคนร้ายอย่างไงให้ไม่ต้องใช้แรงมาก ก็แกล้งส่งตั๋วผู้เข้าชมการแข่งขันฟุตบอล(ปลอม) ให้ฟรีๆ สิแล้ววันงานก็รวบจับทีเดียว
- จะตั้งชื่อหนังสือนิยายอย่างไงให้ขายออก แทนที่จะตั้งชื่อเชยๆ ก็ตั้งชื่อที่คนอ่านอ่านแล้ว งง ไปเลยสิ
- จะแก้ปัญหาคนติดป้ายโฆษณาที่ผิดกฎหมายอย่างไงดีโดยที่ไม่ต้องจ้างคนให้ไปแกะป้ายออก ก็เอาป้ายที่เขียนว่า 'ยกเลิก' ไปแปะแทนสิ
เล่มนี้เป็นรวมเคสสถานการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นจริง และใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา เป็นเล่มที่สนุกกว่าที่คิดมาก แบบเราเคยเป็นคนที่เชื่อมาก่อนว่าตัวเองไม่มีความคิดสร้างสรรค์หรอก (เพราะชอบคิดอะไรแต่ในกรอบ) แต่พอโตขึ้นก็รู้ว่าความคิดสร้างสรรค์สามารถ build ขึ้นมาได้จากการอ่าน case study เยอะๆ ซึ่งเล่มนี้ก็คือตอบโจทย์มากเพราะทุกบทก็คือมียกเคสการแก้ปัญหาจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์มาหมดเลย แบบเล่มนี้มี 326 หน้าก็ก็คือตีได้ว่ามีเคสสนุกๆ ในอ่านในเล่มนี้กว่า 74 เคสอะ (มีเคสใหม่ทุกๆ 4 หน้า) อ่านไปก็คือตื่นตาตื่นใจไปแบบเออ ทำไมคนคิดเขาฉลาดจังเลยวะอะไรแบบนี้ ใครอยากอ่านเคสสนุกๆ แนะนำเล่มนี้เลย รับรองอ่านแล้วไม่เบื่อ
(ใครชอบอ่านรีวิวแบบนี้ฝากกด follow bookstagram ของเราด้วยนะคะ https://www.instagram.com/read_zaaps/ )
- จะจับคนร้ายอย่างไงให้ไม่ต้องใช้แรงมาก ก็แกล้งส่งตั๋วผู้เข้าชมการแข่งขันฟุตบอล(ปลอม) ให้ฟรีๆ สิแล้ววันงานก็รวบจับทีเดียว
- จะตั้งชื่อหนังสือนิยายอย่างไงให้ขายออก แทนที่จะตั้งชื่อเชยๆ ก็ตั้งชื่อที่คนอ่านอ่านแล้ว งง ไปเลยสิ
- จะแก้ปัญหาคนติดป้ายโฆษณาที่ผิดกฎหมายอย่างไงดีโดยที่ไม่ต้องจ้างคนให้ไปแกะป้ายออก ก็เอาป้ายที่เขียนว่า 'ยกเลิก' ไปแปะแทนสิ
เล่มนี้เป็นรวมเคสสถานการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นจริง และใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา เป็นเล่มที่สนุกกว่าที่คิดมาก แบบเราเคยเป็นคนที่เชื่อมาก่อนว่าตัวเองไม่มีความคิดสร้างสรรค์หรอก (เพราะชอบคิดอะไรแต่ในกรอบ) แต่พอโตขึ้นก็รู้ว่าความคิดสร้างสรรค์สามารถ build ขึ้นมาได้จากการอ่าน case study เยอะๆ ซึ่งเล่มนี้ก็คือตอบโจทย์มากเพราะทุกบทก็คือมียกเคสการแก้ปัญหาจากการใช้ความคิดสร้างสรรค์มาหมดเลย แบบเล่มนี้มี 326 หน้าก็ก็คือตีได้ว่ามีเคสสนุกๆ ในอ่านในเล่มนี้กว่า 74 เคสอะ (มีเคสใหม่ทุกๆ 4 หน้า) อ่านไปก็คือตื่นตาตื่นใจไปแบบเออ ทำไมคนคิดเขาฉลาดจังเลยวะอะไรแบบนี้ ใครอยากอ่านเคสสนุกๆ แนะนำเล่มนี้เลย รับรองอ่านแล้วไม่เบื่อ
(ใครชอบอ่านรีวิวแบบนี้ฝากกด follow bookstagram ของเราด้วยนะคะ https://www.instagram.com/read_zaaps/ )
June 5, 2023
Creative Blindness is a compilation of short, inspirational stories that give insight into the world's well-known and relatively unknown creative minds.
This is the most underrated nonfiction book I've had the opportunity to get my hands on. As ridiculous as it may sound, I could feel my brain expanding after finishing each chapter, and this is my second read (I plan to reread this book every year). Trott's words were handpicked and every sentence packed a strong punch. The book was barely 220 pages and took me around 2.5-4 hours to read.
I'd recommend Creative Blindness to everyone who wants to broaden their horizons and find creative solutions to the problems around them!
This is the most underrated nonfiction book I've had the opportunity to get my hands on. As ridiculous as it may sound, I could feel my brain expanding after finishing each chapter, and this is my second read (I plan to reread this book every year). Trott's words were handpicked and every sentence packed a strong punch. The book was barely 220 pages and took me around 2.5-4 hours to read.
I'd recommend Creative Blindness to everyone who wants to broaden their horizons and find creative solutions to the problems around them!
July 10, 2023
Cela ova knjiga je, u nedostatku bolje reči, bila nepotrebna. Nanizane su samo anegdote (od izviđačice koja je prodavala kolačiće ispred prodavnice sa marihuanom, do bakice koja je prefarbala fresku Isusa i doprinela porastu turizma u svom malom mestu), ali nigde ni reči o tome kako da i mi kreativno promišljamo svakodnevne situacije i *shudders* počnemo da razmišljamo "out of the box".
Što bi se reklo, mogla sam da nastavim sa svojim životom i nepročitavši ovu knjigu.
Što bi se reklo, mogla sam da nastavim sa svojim životom i nepročitavši ovu knjigu.
May 2, 2022
เราจะพบว่าความคิดสร้างสรรค์ นับเป็นแต้มต่อที่เหนือชั้นที่สุดที่จะหยิบเอามาใช้เพื่อเอาชนะคู่แข่งได้อย่างใสสะอาด ถ้าเราไม่มีแต้มต่อ ก็ต้องเอาความคิดสร้างสรรค์เข้าสู้
ในเล่มแบ่งออกเป็น 7 ส่วนใหญ่ๆ คือ
1. ความคิดสร้างสรรค์ในจุดที่คาดไม่ถึง
2. การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์
3. ผลลัพธ์ของการคิดอย่างสร้างสรรค์
4. ความคิดสร้างสรรค์ที่ใช้ได้จริง
5. เรื่องเหลือเชื่อของความคิดสร้างสรรค์
6. ภาพลวงตาของการสร้างสรรค์
7. การคิดสร้างสรรค์ในชีวิตจริง
โดยแต่ละส่วนจะมีบทย่อยๆ ตั้งแต่ 9-14 บทแทรกอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องสั้นอ่านจบใน 3 หน้า ไม่ต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้อ่านจบได้สบายๆ ในเวลารวดเร็ว นี่เป็นการเขียนที่ฉลาดมาก ทำให้สมองคนอ่านไม่ล้าจนเกินไป
แต่สาระความรูยังจัดเต็มอัดแน่นไปด้วยความว้าวของเรื่องราวที่สรรหามาเล่า
ตัวอย่างเช่น วิธีเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐหันมาสนใจหลุม บ่อ ตามถนนที่ร้องเรียนไปเท่าไหร่ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาจัดการเสียที จึงลองหาทางออกโดยให้คนไปพ่นกราฟฟิตี้เป็นรูปอวัยวะเพศชายบนหลุมบ่อเหล่านั้น ไม่นานหน่วยงานรัฐก็จัดการซ่อมแซมให้เสร็จสรรพ เพราะรัฐยอมให้มีอุบัติเหตุได้ แต่ไม่ยอมให้มีรูปกราฟฟิตี้น่าเกลียดเต็มเมือง
ก็เหมือนกับโฆษณาธรรมดาๆที่ไม่สร้างอิมแพคอะไร คนก็ไม่จดจำ แต่ถ้าโดดเด่นขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือไม่ดี ย่อมได้รับความสนใจ เหมือนล้อจักรยานที่กว่าจะถูกหยอดน้ำมัน ต้องรอให้มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดก่อน
ยังมีอีกหลายสิบเรื่องที่จุดประกายความปิ๊งแว้บ ว่าจริงด้วย ทำไมฉลาดแบบนี้นะ นึกไม่ถึงเลย คุ้มค่าจริงๆที่ได้เสียเวลาอ่าน
Dave Trott ทำให้เข้าใจว่า เราไม่จำเป็นต้องทำงานในแวดวงโฆษณาเพื่อที่จะมีความคิดสร้างสรรค์ บางครั้งเรื่องเหล่านี้เกิดจากการพลิกมุมมองของคนธรรมดาๆทั่วไปนั่นแหละ
ความคิดสร้างสรรค์จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอย่างที่หลายคนในวงการครีเอทีฟ โฆษณาพยายามจะทำให้ดูเป็นเช่นนั้น
การคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่แค่การพัฒนาทางออกที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น แต่เป็นการพิจารณาสิ่งที่มีอยู่และมองหาแง่มุมที่คนอื่นมองข้าม ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ เราก้ต้องรู้จักโยนแนวคิดเดิมๆทิ้งไปบ้าง ถึงจะเริ่มเห็นทางออกใหม่ๆ ดังที่ เดวิด โอกิลวี่บอกไว้ว่า กลยุทธ์ที่ดีเกิดจากการตัดใจโยนบางสิ่งทิ้งไป
น่าเสียดายที่หลายคนคิดว่าสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความฉลาดคือความซับซ้อน แต่คนที่ปราดเปรื่องรู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งนั้นคือความเรียบง่าย เพราะความเรียบง่ายมันจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเราก้ามข้ามผ่านความซับซ้อนไปได้
ในเล่มแบ่งออกเป็น 7 ส่วนใหญ่ๆ คือ
1. ความคิดสร้างสรรค์ในจุดที่คาดไม่ถึง
2. การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์
3. ผลลัพธ์ของการคิดอย่างสร้างสรรค์
4. ความคิดสร้างสรรค์ที่ใช้ได้จริง
5. เรื่องเหลือเชื่อของความคิดสร้างสรรค์
6. ภาพลวงตาของการสร้างสรรค์
7. การคิดสร้างสรรค์ในชีวิตจริง
โดยแต่ละส่วนจะมีบทย่อยๆ ตั้งแต่ 9-14 บทแทรกอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องสั้นอ่านจบใน 3 หน้า ไม่ต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้อ่านจบได้สบายๆ ในเวลารวดเร็ว นี่เป็นการเขียนที่ฉลาดมาก ทำให้สมองคนอ่านไม่ล้าจนเกินไป
แต่สาระความรูยังจัดเต็มอัดแน่นไปด้วยความว้าวของเรื่องราวที่สรรหามาเล่า
ตัวอย่างเช่น วิธีเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐหันมาสนใจหลุม บ่อ ตามถนนที่ร้องเรียนไปเท่าไหร่ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาจัดการเสียที จึงลองหาทางออกโดยให้คนไปพ่นกราฟฟิตี้เป็นรูปอวัยวะเพศชายบนหลุมบ่อเหล่านั้น ไม่นานหน่วยงานรัฐก็จัดการซ่อมแซมให้เสร็จสรรพ เพราะรัฐยอมให้มีอุบัติเหตุได้ แต่ไม่ยอมให้มีรูปกราฟฟิตี้น่าเกลียดเต็มเมือง
ก็เหมือนกับโฆษณาธรรมดาๆที่ไม่สร้างอิมแพคอะไร คนก็ไม่จดจำ แต่ถ้าโดดเด่นขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือไม่ดี ย่อมได้รับความสนใจ เหมือนล้อจักรยานที่กว่าจะถูกหยอดน้ำมัน ต้องรอให้มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดก่อน
ยังมีอีกหลายสิบเรื่องที่จุดประกายความปิ๊งแว้บ ว่าจริงด้วย ทำไมฉลาดแบบนี้นะ นึกไม่ถึงเลย คุ้มค่าจริงๆที่ได้เสียเวลาอ่าน
Dave Trott ทำให้เข้าใจว่า เราไม่จำเป็นต้องทำงานในแวดวงโฆษณาเพื่อที่จะมีความคิดสร้างสรรค์ บางครั้งเรื่องเหล่านี้เกิดจากการพลิกมุมมองของคนธรรมดาๆทั่วไปนั่นแหละ
ความคิดสร้างสรรค์จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอย่างที่หลายคนในวงการครีเอทีฟ โฆษณาพยายามจะทำให้ดูเป็นเช่นนั้น
การคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่แค่การพัฒนาทางออกที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น แต่เป็นการพิจารณาสิ่งที่มีอยู่และมองหาแง่มุมที่คนอื่นมองข้าม ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ เราก้ต้องรู้จักโยนแนวคิดเดิมๆทิ้งไปบ้าง ถึงจะเริ่มเห็นทางออกใหม่ๆ ดังที่ เดวิด โอกิลวี่บอกไว้ว่า กลยุทธ์ที่ดีเกิดจากการตัดใจโยนบางสิ่งทิ้งไป
น่าเสียดายที่หลายคนคิดว่าสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความฉลาดคือความซับซ้อน แต่คนที่ปราดเปรื่องรู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งนั้นคือความเรียบง่าย เพราะความเรียบง่ายมันจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเราก้ามข้ามผ่านความซับซ้อนไปได้
This entire review has been hidden because of spoilers.
December 19, 2023
very insightful and eye opening book! so many of the stories were honestly bewildering, and i love that these kinds of stories spark creativity. everything is possible, you just have to think differently.
December 2, 2024
Very interesting stories with a small takeaway from each. I expected a bit more meat on how to "cure it", but it was an entertaining and useful read anyway.
November 4, 2019
Excellent list of anecdotes for people who work in innovation consulting or just want to sound intelligent while speaking in public.
June 7, 2025
🔹 ก่อนอ่าน
🎯 เป้าหมาย:
ฉันอ่านเพราะอยากใช้สมองได้ดีกว่านี้
🔍 คำถามที่อยากรู้:
ถ้าเจอผู้เขียน จะถามว่าอะไร? เขียนอะไรมา
🧭 คาดหวังผลลัพธ์:
หลังอ่านจบ อยากเปลี่ยนแปลงยังไง? คนที่สมองไม่บอด
📌 บทที่น่าสนใจ:
บทไหนน่าจะมีประโยชน์? ความเรียบง่ายไม่เคยทำให้ผิดหวัง
***************
หลังอ่าน
ใช้ตั๋วผู้โชคดีล่อโจรมาจับ
เข้าใจผู้คนต้องการอะไร
ใช้คุณยายขี้เหงารักษาจิตให้สาวๆ
นักโทษดูแลหมาจรจัด
2ปัญหามาแก้ด้วยกัน
ปัญหาไม่มีใครสร้างสะพานไม่สำคัญ ให้รัชเชียสร้างให้ คนเมกันไม่ยอมก็รีบสร้างเลย
ขายคุกกี้หน้าร้านขายกัญชาดีกว่าห้างไม่มีคู่แข่ง
เปลี่ยนสนาม ความสำคัญเปลี่ยน
เมนูในบาร์อังกฤษไม่ได้โบราณปั้นแต่งจนเป็นจริง
ประวัติศาสตร์เราสร้างเองได้
ไอพอดขายดียังนอนไม่หลับเพราะโนเกียมีฟังก์ชันโหลดเพลงในมือถือ วัหนึ่งจะแซงเรา รีบสร้างไอโฟน
คนขึ้นเขา เจอหิน เห็นเป็นหินหรือหมี หากคิดว่าหินเสมอวันหนึ่งจะถูกหมีฆ่า
จงกลัวไว้เสมอ
เด็กใช้ทริกออร์ทรีตขออาหารช่วยคนอดอยาก
ความคิดสร้างสวรรค์แค่เรื่องง่ายๆ
สาวใช้แอฟหาคู่ไม่ได้เลยปลอมเป็นหนุ่มในแอฟไปหาสาว อ่อหนุ่มๆชอบแบบนี้เอง
อยากเป็นคนที่ถูกเลือกต้องเหนือกว่าตัวเลือกอื่น
นีโอนาซีชอบเดินขบวนทำไงดี ก็ให้มันเดินเพื่อบริจาคเงินสิ
เปลี่ยนปัญหาเป็นประโยชน์
ใช้หนูดมระเบิด
โยนอคติแล้วหาทางสร้างสรรค์
จำหน้าพวกซัดดัม ให้หน้าอยู่ในไพ่
ทุกสิ่งเป็นสื่อได้
เหมืองใช้เด็กและผู้หญิงชอบตาย ไม่มีใครสนใจ งั้นแสดงให้ดูพวกเขาแก้ผ้าทำงานเพราะมันร้อน
ทำเครื่องจักรไอน้ำคนไม่สนใจ งั้นเทียบกับม้ากี่แรงม้า คนเห็นภาพ
พูดภาษาเดียวกับผู้รับสาร ไม่งั้นมันก็พูดกับตัวเอง
เรื่องเล่าจีน ตาเจอม้าป่า คนดีใจ ลูกชายตกม้า คนเสียใจ ลูกชายรอดเกณฑ์ทหาร คนดีใจ
เรื่องดีอาจไม่ดี เรื่องไม่ดีอาจดี
ผู้คนมีมุมมองไม่เหมือนกัน
ตั้งชื่อนิยายไม่ได้ จนมีคนตั้งให้ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องแต่มันดึงคนได้
นักสร้างสรรค์ไม่ใช่นักสรุปแต่คือนักดึงดูด
รูสเวลต์เลือกตั้งแผ่นพับยังไม่ได้จ่ายลิขสิทธ์ทำไงดี งั้นให้โอกาสช่างภาพได้ลงภาพนี้ในราคาถูก
พลิกสถานการ์จากมุมมองคนอื่น
อู่ลดราคาหากไปตรวจมะเร็ง เปรียบร่างกายเหมือนรถต้องตรวจ
ใช้สามัญสำนึกทั่วไปให้เข้าใจ
หลานผู้มีอำนาจ ทำงานห่วยได้ตำแหน่งตลอด เป็นที่มาง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าไป
สื่อด้วยภาษาที่คนเข้าใจ
โหวตเบร็กซิต ตามอคติ ก็เกลียดมัน
ผู้คนมักใช้อารมณ์เหนือเหตุผล
นกแก้วพูดคำหยาบ คนแห่มาดู
ร้านอาหารเจ๊งพังฝ้าเจอเพดานทองคำ จากนั้นขายดี
แตกต่างถึงน่าสนใจ
บันไดเลื่อนครั้งแรกไม่กล้าใช้ ให้คนขาเป๋สาธิต
ไม่เชื่อใบจักรแบบใหม่ทำให้เรือไวงั้นมาชักเย่อกัน
พิสูจน์ให้เห็น คนถึงเชื่อ
ทหารออสเตรียลาดตระเวนทะเลาะยิงปืนในค่ายตกใจยิงกันมั่ว
ศัตรูที่ฆ่าเราคือตัวเราเอง
หลุมบนถนนไม่แก้ งั้นพ่นสี ซ่อมทันทีเลย
โฆษณาที่ดีต้องเปลี่ยนพฤติกรรมผู้คน
ซีซาร์ถูกโจรจับ บอกให้เรียกค่าตัวแพงๆ จากนั้นก็มีแต่คนสนใจ ไอ้นี่ใครทำไมแพงจัง
อยากให้คนคิดยังไงต้องควบคุมบริบทให้ได้
เจรจาสงบศึกไม่ได้ เจ๊ถอดวิกกดดัน ทำให้อึดอัด ทำสำเร็จ
เมื่ออึดอัดใจคนจะรีบตัดสินใจ
รัสเชียสู้เมกาไม่ได้ เลยยิงของมั่วขึ้นอวกาศ เมกาตกใจรีบพัฒนาอวกาศ เสียเงินมากมาย
แค่ความคิดก็ทำให้วุ่นวายได้
เคเอฟซีคนก่อตั้งไม่ได้เป็นผู้พัน แต่สร้างเรื่องเป็นจุดขาย
ขายอะไรให้เริ่มขายตัวเอง
เครื่องบินจู่โจมติดปืนกลหน้าไม่ได้ จนคิดได้ว่าใบพัดหมุนไปมีช่องยิงผ่านช่องได้
ความเรียบง่ายเกิดเมื่อก้าวข้ามความซับซ้อน
แพทย์คัดกกรองคนป่วย รักษาไม่ได้ หายเอง ต้องรักษา
ทุ่มเทให้กับอะไรที่ต้องทำ
แมคโดนัลด์ลดเมนูจาก28เหลือ3ที่ขายได้
ทำให้ดีเริ่มจากตัดทิ้ง
ขนของขึ้นเรือช้า คิดคอนเทนเนอร์ยกขึ้นเรือ
คิดและลงมือแก้
มอกคุสทำให้เด็กฟังแค่ถอดกางเกง
คนยิงกันตาย หาวันเวลาชอบตาย ห้ามพกปืน
รถชนแถว4แยก เอาคนไปล้อเลียนจะได้ขับระวัง
อาบน้ำโชว์การใช้น้ำเปลืองจะได้ประหยัด
บางครั้งเหตุผลก็แก้ได้ บางครั้งก็ใช้อารมณ์แก้ได้
ทุ่นระเบิดติดเรือ ใช้ลูกอมจุดชนวน
เห็นในสิ่งที่คนไม่เห็น
บอลญ.ฟังกรรมการพอมีปัญหาก็ค้านที่เคยสอนได้
ตรวจเรือก่อนออกเสมอเจอพายุไม่เป็นไร
ผู้ชนะเตรียมพร้อมเสมอ
โรมันถนัดบกทำเรือมีสะพานต่อไปเรือคาร์เธจ เหมือนพื้นราบก็เลยชนะ
เล่นตามเกมตัวเอง
ฟุตบอลเสื่อมความนิยมเสนอถ่ายทอดสดทีวี ไม่มีใครเชื่อมีทีวีคนจะมาดูที่สนามทำไม พอทำคนกลับมานิยม
วงแหวนของคุณชิลลิงแก้เครื่องบินหันหัวลงแล้วตกจากความดันในน้ำมันเครื่อง
เปลี่ยนแปลงไม่ได้หากไม่ลงมือเปลี่ยน
แคนาดาใช้หน่วยไม่เหมือนชาวบ้าน ต้องเปลี่ยนเสมอ คำนวณผิดใส่น้ำมันไม่พอ จะตก กัปตันต้องคุมเองจอดได้
เทคโนโลยีไม่สำคัญเท่าคน
โปสเตอร์โฆษณาติดอยู่นั้น เอาสติกเกอร์ยกเลิกแปะ แห่มาเก็บเลย
เปลี่ยนปัญหาเราเป็นปัญหาเขา
ทำพลอยใหญ่สร้างเรื่องว่าเจ๋งใครๆอยากดูแล้วหาโอกาสขายของ
ผู้คนซื้อไม่ใช่วัตถุแต่เป็นเรื่องราว
ทีมบอลจะแพ้แค่ตั้งมั่นว่าขอลูกเดียวก็พลิกชนะ
แค่เริ่มทีละนิดก็ทำได้
สกรูคนคิดขายไม่ได้ คนอื่นเอาไปแพร่ให้ทุกคนผลิต ให้บ.ใหญ่สนใจ
คิดได้ต้องขายได้ด้วย
ไรเฟิลห้ามขาย ขายดี ให้ขายอิสระ ดันเจ๊ง
เราชอบคว้าสิ่งที่ครอบครองยาก
เรือดำน้ำนิวเคลียร์รัชเชียโดนเมกาล้อม ทิ้งทุ่นสัญญาณ
ตก��จคิดว่าระเบิดจะยิงนิวเคลียร์ ต้องใช้3คนสั่ง มีคนไม่ยอม เลยรอดสงครามโลกครั้งที่ 3 มาได้
สิ่งอันตรายคือสิ่งที่เราไม่รู้และคิดไปเอง
ถือสายรอน่าเบื่อเลยบอกทุกเวลาที่รอเป็นการบริจาคเงิน
เปลี่ยนโทษให้เป็นประโยชน์
ปิดไฟให้มืดคู่แข่งประมาทชะลอความเร็ว แซงตอนนั้น
กล้าที่จะทำ
ทหารว่างมักฆ่าตัวตายส่งไปช่วยภัยพิบัติ
ช่วยคนอื่นช่วยตัวเอง
ซ่อมภาพพระเยซู แต่มันตลก คนแห่มาดู แม้ถูกล้อเลียน เงินสะพัด
คนจ่ายให้อะไรที่เด่น
โจรปล้นไม่ปิดหน้าโดนจับสงสัยทำไมก็ทาหน้าด้วยมะนาวแล้วนะกล้องจับไม่ได้สิ
สิ่งที่ทำร้ายเราคือเชื่อว่ารู้
กาแฟหกร้อนฟ้องได้3ล้านเพราะอีกฝ่ายบอกขายเป็นล้านมีคนโดนลวกแค่700คนเอง ลูกขุนโกธรเห็นคนเป็นข้อมูล
อย่าลดคุณค่าคนเป็นข้อมูล
โค้กเอาน้ำประปามาใส่ขวดขาย ใส่คำโฆษณาเมกาที่แปลว่าน้ำ แต่ที่อังกฤษแปลว่าอสุจิ
ศึกษาข้อมูลก่อนทำ
โฆษณาใส่ถุงนองสวย เมียประธานแก่แล้วซื้อมาไม่เห็นสวย เรียกโรคเมียประธาน
โฆษณาให้ผู้ใช้งานเห็นภาพจริงๆ
แมลงทับผสมพันธุ์กับขวดเพราะรูปทรงเหมือนตัวเมีย
คนเราสนใจภาพลวงมากกว่าความจริง
หนังไวน์ด่ายี่ห้อหนึ่งชมอีกยี่ห้อเลยทำให้ยอดขายแปรตามนั้น
สื่อมีผลควรประเมินให้ดีในการใช้
ลิงสุ่มเล่นหุ้นแล้วรวยในยุคดอตคอม
เรียกโฟโมคนกลัวพลาดพอรุ่งแห่กันเข้า แม้แต่ลิงก็รวยได้
มารยาทเข้าใจคนให้เกียรติ
สมบัติผู้ดีกฎรวมในกลุ่ม คนไม่ใช่โดนรังเกียจ
ทุกวันนี้ยึดกับกฎมากกว่าผู้คน
แฝงในรพ.บ้าคนก็คิดว่าบ้า บอกจะแฝง ก็แยกคนปกติได้ ทั้งที่ไม่ได้ส่งไปแฝง
อคติจากสิ่งที่คิด คิดแบบนั้นก็เชื่อแบบนั้น
คดี15ปีมีดีเอ็นเอนี้ปนทำไมมันเก่งจังมาจากไหน
ที่แท้สำลีปนเปื้อนดีเอ็นเอคนงาน
อะไรที่คิดว่าถูกก็ละเลยไป
การปล้นต้อง จำกัดคน วิธีง่ายๆ ทำเงียบๆ แต่การปล้นหนึ่งใช้เยอะๆแล้วก็พัง
โฆษณาต้อง สร้างผลกระทบให้สนใจ สื่อสารให้เข้าใจ โน้วน้าวให้ทำตาม แต่ทุกวันนี้ไม่มีใครทำ
เราคิดว่าฉลดกว่ากฎไม่ทำตาม ทั้งที่กฎมันสำคัญ
เครื่องบินทิ้งระเบิดเสริมเกราะช้าแต่แกร่ง ทั้งที่ลดขนาดน้ำหนักให้บินเร็วก็ไม่ร่วงแล้ว
กลยุทธ์ที่ดีให้ตัดทิ้ง
ลินคอร์นล้มเหลวแพ้เลือกตั้งเสมอ จนมีจดหมายจากเด็กบอกแค่มีหนวดก็ชนะ ชนะจริงๆ
คนมีปัญญารับฟังคนอื่น
ข้ามถนนกดไฟแดงทั้งที่มันไม่ได้ใช้ได้เสมอ
การหลอกทำให้เราเชื่อ เราถึงทำตาม
ช่างทาสีอดีตแชมป์ฟุตบอล
เรามักทำเพื่อดังในวงตัวเอง คนธรรมดาไม่สนใจ
สาวทำงาน3เรือล่มหมดเกือบตาย
มองว่าแย่ก็โชคร้ายเจอเรือล่ม
มองว่าดีก็โชคดีรอดตาย3ครั้ง
ทุกสิ่งอยู่ที่คิดแบบไหน
ตำรวจไม่ลาดตระเวนที่เสี่ยงจนมีคนมาใหม่ขอเองผลงานพุ่งใครๆก็อยากทำ
มองว่าความยากคือความสนุก
ลุงสอนว่าให้ขึ้นบันไดแบบนักดับเพลิงจับทีละขั้นจะไม่ตก
เรื่องง่ายๆภาษาบ้านๆใครๆก็จำได้
สอนบอลเลี้ยงลูกจับเวลากับวิ่งจับเวลา อันไหนเร็วกว่า เวลาแข่งทำแบบนั้น
สิ่งที่เรียบง่ายเข้าใจได้เสมอ
ป๊อปอายทำให้ผักขมดังว่ากินแล้วแข็งแรงทั้งที่ไม่จริง
ความสนุกทำให้คนจดจำ
รัชเชียเอาแฟดชไดร์ไปขายให้พนักงานนาโต้ซื้อไปใช้ระบบถูกเจาะ
ไม่มีเงินก็ใช้ความคิด
เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้บ.ดูจน ใส่เสื้อมอซอ รถเก่าๆ ลูกค้าเห็นใจ
ประสบการณ์แก้ปัญหาได้
พ่อแม่เลือกคนละพรรค์ก็ยังไปเลือกทั้งที่มันก็คะแนนเท่ากันทำไม
แม่ว่ามันคือการแสดงใช้สิทธ์ ซึ่งคนสมัยนี้ดีฉลาดแต่โวยคนละพวก
คนฉลาดไม่แน่ว่าจะทำถูก
🎯 เป้าหมาย:
ฉันอ่านเพราะอยากใช้สมองได้ดีกว่านี้
🔍 คำถามที่อยากรู้:
ถ้าเจอผู้เขียน จะถามว่าอะไร? เขียนอะไรมา
🧭 คาดหวังผลลัพธ์:
หลังอ่านจบ อยากเปลี่ยนแปลงยังไง? คนที่สมองไม่บอด
📌 บทที่น่าสนใจ:
บทไหนน่าจะมีประโยชน์? ความเรียบง่ายไม่เคยทำให้ผิดหวัง
***************
หลังอ่าน
ใช้ตั๋วผู้โชคดีล่อโจรมาจับ
เข้าใจผู้คนต้องการอะไร
ใช้คุณยายขี้เหงารักษาจิตให้สาวๆ
นักโทษดูแลหมาจรจัด
2ปัญหามาแก้ด้วยกัน
ปัญหาไม่มีใครสร้างสะพานไม่สำคัญ ให้รัชเชียสร้างให้ คนเมกันไม่ยอมก็รีบสร้างเลย
ขายคุกกี้หน้าร้านขายกัญชาดีกว่าห้างไม่มีคู่แข่ง
เปลี่ยนสนาม ความสำคัญเปลี่ยน
เมนูในบาร์อังกฤษไม่ได้โบราณปั้นแต่งจนเป็นจริง
ประวัติศาสตร์เราสร้างเองได้
ไอพอดขายดียังนอนไม่หลับเพราะโนเกียมีฟังก์ชันโหลดเพลงในมือถือ วัหนึ่งจะแซงเรา รีบสร้างไอโฟน
คนขึ้นเขา เจอหิน เห็นเป็นหินหรือหมี หากคิดว่าหินเสมอวันหนึ่งจะถูกหมีฆ่า
จงกลัวไว้เสมอ
เด็กใช้ทริกออร์ทรีตขออาหารช่วยคนอดอยาก
ความคิดสร้างสวรรค์แค่เรื่องง่ายๆ
สาวใช้แอฟหาคู่ไม่ได้เลยปลอมเป็นหนุ่มในแอฟไปหาสาว อ่อหนุ่มๆชอบแบบนี้เอง
อยากเป็นคนที่ถูกเลือกต้องเหนือกว่าตัวเลือกอื่น
นีโอนาซีชอบเดินขบวนทำไงดี ก็ให้มันเดินเพื่อบริจาคเงินสิ
เปลี่ยนปัญหาเป็นประโยชน์
ใช้หนูดมระเบิด
โยนอคติแล้วหาทางสร้างสรรค์
จำหน้าพวกซัดดัม ให้หน้าอยู่ในไพ่
ทุกสิ่งเป็นสื่อได้
เหมืองใช้เด็กและผู้หญิงชอบตาย ไม่มีใครสนใจ งั้นแสดงให้ดูพวกเขาแก้ผ้าทำงานเพราะมันร้อน
ทำเครื่องจักรไอน้ำคนไม่สนใจ งั้นเทียบกับม้ากี่แรงม้า คนเห็นภาพ
พูดภาษาเดียวกับผู้รับสาร ไม่งั้นมันก็พูดกับตัวเอง
เรื่องเล่าจีน ตาเจอม้าป่า คนดีใจ ลูกชายตกม้า คนเสียใจ ลูกชายรอดเกณฑ์ทหาร คนดีใจ
เรื่องดีอาจไม่ดี เรื่องไม่ดีอาจดี
ผู้คนมีมุมมองไม่เหมือนกัน
ตั้งชื่อนิยายไม่ได้ จนมีคนตั้งให้ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องแต่มันดึงคนได้
นักสร้างสรรค์ไม่ใช่นักสรุปแต่คือนักดึงดูด
รูสเวลต์เลือกตั้งแผ่นพับยังไม่ได้จ่ายลิขสิทธ์ทำไงดี งั้นให้โอกาสช่างภาพได้ลงภาพนี้ในราคาถูก
พลิกสถานการ์จากมุมมองคนอื่น
อู่ลดราคาหากไปตรวจมะเร็ง เปรียบร่างกายเหมือนรถต้องตรวจ
ใช้สามัญสำนึกทั่วไปให้เข้าใจ
หลานผู้มีอำนาจ ทำงานห่วยได้ตำแหน่งตลอด เป็นที่มาง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าไป
สื่อด้วยภาษาที่คนเข้าใจ
โหวตเบร็กซิต ตามอคติ ก็เกลียดมัน
ผู้คนมักใช้อารมณ์เหนือเหตุผล
นกแก้วพูดคำหยาบ คนแห่มาดู
ร้านอาหารเจ๊งพังฝ้าเจอเพดานทองคำ จากนั้นขายดี
แตกต่างถึงน่าสนใจ
บันไดเลื่อนครั้งแรกไม่กล้าใช้ ให้คนขาเป๋สาธิต
ไม่เชื่อใบจักรแบบใหม่ทำให้เรือไวงั้นมาชักเย่อกัน
พิสูจน์ให้เห็น คนถึงเชื่อ
ทหารออสเตรียลาดตระเวนทะเลาะยิงปืนในค่ายตกใจยิงกันมั่ว
ศัตรูที่ฆ่าเราคือตัวเราเอง
หลุมบนถนนไม่แก้ งั้นพ่นสี ซ่อมทันทีเลย
โฆษณาที่ดีต้องเปลี่ยนพฤติกรรมผู้คน
ซีซาร์ถูกโจรจับ บอกให้เรียกค่าตัวแพงๆ จากนั้นก็มีแต่คนสนใจ ไอ้นี่ใครทำไมแพงจัง
อยากให้คนคิดยังไงต้องควบคุมบริบทให้ได้
เจรจาสงบศึกไม่ได้ เจ๊ถอดวิกกดดัน ทำให้อึดอัด ทำสำเร็จ
เมื่ออึดอัดใจคนจะรีบตัดสินใจ
รัสเชียสู้เมกาไม่ได้ เลยยิงของมั่วขึ้นอวกาศ เมกาตกใจรีบพัฒนาอวกาศ เสียเงินมากมาย
แค่ความคิดก็ทำให้วุ่นวายได้
เคเอฟซีคนก่อตั้งไม่ได้เป็นผู้พัน แต่สร้างเรื่องเป็นจุดขาย
ขายอะไรให้เริ่มขายตัวเอง
เครื่องบินจู่โจมติดปืนกลหน้าไม่ได้ จนคิดได้ว่าใบพัดหมุนไปมีช่องยิงผ่านช่องได้
ความเรียบง่ายเกิดเมื่อก้าวข้ามความซับซ้อน
แพทย์คัดกกรองคนป่วย รักษาไม่ได้ หายเอง ต้องรักษา
ทุ่มเทให้กับอะไรที่ต้องทำ
แมคโดนัลด์ลดเมนูจาก28เหลือ3ที่ขายได้
ทำให้ดีเริ่มจากตัดทิ้ง
ขนของขึ้นเรือช้า คิดคอนเทนเนอร์ยกขึ้นเรือ
คิดและลงมือแก้
มอกคุสทำให้เด็กฟังแค่ถอดกางเกง
คนยิงกันตาย หาวันเวลาชอบตาย ห้ามพกปืน
รถชนแถว4แยก เอาคนไปล้อเลียนจะได้ขับระวัง
อาบน้ำโชว์การใช้น้ำเปลืองจะได้ประหยัด
บางครั้งเหตุผลก็แก้ได้ บางครั้งก็ใช้อารมณ์แก้ได้
ทุ่นระเบิดติดเรือ ใช้ลูกอมจุดชนวน
เห็นในสิ่งที่คนไม่เห็น
บอลญ.ฟังกรรมการพอมีปัญหาก็ค้านที่เคยสอนได้
ตรวจเรือก่อนออกเสมอเจอพายุไม่เป็นไร
ผู้ชนะเตรียมพร้อมเสมอ
โรมันถนัดบกทำเรือมีสะพานต่อไปเรือคาร์เธจ เหมือนพื้นราบก็เลยชนะ
เล่นตามเกมตัวเอง
ฟุตบอลเสื่อมความนิยมเสนอถ่ายทอดสดทีวี ไม่มีใครเชื่อมีทีวีคนจะมาดูที่สนามทำไม พอทำคนกลับมานิยม
วงแหวนของคุณชิลลิงแก้เครื่องบินหันหัวลงแล้วตกจากความดันในน้ำมันเครื่อง
เปลี่ยนแปลงไม่ได้หากไม่ลงมือเปลี่ยน
แคนาดาใช้หน่วยไม่เหมือนชาวบ้าน ต้องเปลี่ยนเสมอ คำนวณผิดใส่น้ำมันไม่พอ จะตก กัปตันต้องคุมเองจอดได้
เทคโนโลยีไม่สำคัญเท่าคน
โปสเตอร์โฆษณาติดอยู่นั้น เอาสติกเกอร์ยกเลิกแปะ แห่มาเก็บเลย
เปลี่ยนปัญหาเราเป็นปัญหาเขา
ทำพลอยใหญ่สร้างเรื่องว่าเจ๋งใครๆอยากดูแล้วหาโอกาสขายของ
ผู้คนซื้อไม่ใช่วัตถุแต่เป็นเรื่องราว
ทีมบอลจะแพ้แค่ตั้งมั่นว่าขอลูกเดียวก็พลิกชนะ
แค่เริ่มทีละนิดก็ทำได้
สกรูคนคิดขายไม่ได้ คนอื่นเอาไปแพร่ให้ทุกคนผลิต ให้บ.ใหญ่สนใจ
คิดได้ต้องขายได้ด้วย
ไรเฟิลห้ามขาย ขายดี ให้ขายอิสระ ดันเจ๊ง
เราชอบคว้าสิ่งที่ครอบครองยาก
เรือดำน้ำนิวเคลียร์รัชเชียโดนเมกาล้อม ทิ้งทุ่นสัญญาณ
ตก��จคิดว่าระเบิดจะยิงนิวเคลียร์ ต้องใช้3คนสั่ง มีคนไม่ยอม เลยรอดสงครามโลกครั้งที่ 3 มาได้
สิ่งอันตรายคือสิ่งที่เราไม่รู้และคิดไปเอง
ถือสายรอน่าเบื่อเลยบอกทุกเวลาที่รอเป็นการบริจาคเงิน
เปลี่ยนโทษให้เป็นประโยชน์
ปิดไฟให้มืดคู่แข่งประมาทชะลอความเร็ว แซงตอนนั้น
กล้าที่จะทำ
ทหารว่างมักฆ่าตัวตายส่งไปช่วยภัยพิบัติ
ช่วยคนอื่นช่วยตัวเอง
ซ่อมภาพพระเยซู แต่มันตลก คนแห่มาดู แม้ถูกล้อเลียน เงินสะพัด
คนจ่ายให้อะไรที่เด่น
โจรปล้นไม่ปิดหน้าโดนจับสงสัยทำไมก็ทาหน้าด้วยมะนาวแล้วนะกล้องจับไม่ได้สิ
สิ่งที่ทำร้ายเราคือเชื่อว่ารู้
กาแฟหกร้อนฟ้องได้3ล้านเพราะอีกฝ่ายบอกขายเป็นล้านมีคนโดนลวกแค่700คนเอง ลูกขุนโกธรเห็นคนเป็นข้อมูล
อย่าลดคุณค่าคนเป็นข้อมูล
โค้กเอาน้ำประปามาใส่ขวดขาย ใส่คำโฆษณาเมกาที่แปลว่าน้ำ แต่ที่อังกฤษแปลว่าอสุจิ
ศึกษาข้อมูลก่อนทำ
โฆษณาใส่ถุงนองสวย เมียประธานแก่แล้วซื้อมาไม่เห็นสวย เรียกโรคเมียประธาน
โฆษณาให้ผู้ใช้งานเห็นภาพจริงๆ
แมลงทับผสมพันธุ์กับขวดเพราะรูปทรงเหมือนตัวเมีย
คนเราสนใจภาพลวงมากกว่าความจริง
หนังไวน์ด่ายี่ห้อหนึ่งชมอีกยี่ห้อเลยทำให้ยอดขายแปรตามนั้น
สื่อมีผลควรประเมินให้ดีในการใช้
ลิงสุ่มเล่นหุ้นแล้วรวยในยุคดอตคอม
เรียกโฟโมคนกลัวพลาดพอรุ่งแห่กันเข้า แม้แต่ลิงก็รวยได้
มารยาทเข้าใจคนให้เกียรติ
สมบัติผู้ดีกฎรวมในกลุ่ม คนไม่ใช่โดนรังเกียจ
ทุกวันนี้ยึดกับกฎมากกว่าผู้คน
แฝงในรพ.บ้าคนก็คิดว่าบ้า บอกจะแฝง ก็แยกคนปกติได้ ทั้งที่ไม่ได้ส่งไปแฝง
อคติจากสิ่งที่คิด คิดแบบนั้นก็เชื่อแบบนั้น
คดี15ปีมีดีเอ็นเอนี้ปนทำไมมันเก่งจังมาจากไหน
ที่แท้สำลีปนเปื้อนดีเอ็นเอคนงาน
อะไรที่คิดว่าถูกก็ละเลยไป
การปล้นต้อง จำกัดคน วิธีง่ายๆ ทำเงียบๆ แต่การปล้นหนึ่งใช้เยอะๆแล้วก็พัง
โฆษณาต้อง สร้างผลกระทบให้สนใจ สื่อสารให้เข้าใจ โน้วน้าวให้ทำตาม แต่ทุกวันนี้ไม่มีใครทำ
เราคิดว่าฉลดกว่ากฎไม่ทำตาม ทั้งที่กฎมันสำคัญ
เครื่องบินทิ้งระเบิดเสริมเกราะช้าแต่แกร่ง ทั้งที่ลดขนาดน้ำหนักให้บินเร็วก็ไม่ร่วงแล้ว
กลยุทธ์ที่ดีให้ตัดทิ้ง
ลินคอร์นล้มเหลวแพ้เลือกตั้งเสมอ จนมีจดหมายจากเด็กบอกแค่มีหนวดก็ชนะ ชนะจริงๆ
คนมีปัญญารับฟังคนอื่น
ข้ามถนนกดไฟแดงทั้งที่มันไม่ได้ใช้ได้เสมอ
การหลอกทำให้เราเชื่อ เราถึงทำตาม
ช่างทาสีอดีตแชมป์ฟุตบอล
เรามักทำเพื่อดังในวงตัวเอง คนธรรมดาไม่สนใจ
สาวทำงาน3เรือล่มหมดเกือบตาย
มองว่าแย่ก็โชคร้ายเจอเรือล่ม
มองว่าดีก็โชคดีรอดตาย3ครั้ง
ทุกสิ่งอยู่ที่คิดแบบไหน
ตำรวจไม่ลาดตระเวนที่เสี่ยงจนมีคนมาใหม่ขอเองผลงานพุ่งใครๆก็อยากทำ
มองว่าความยากคือความสนุก
ลุงสอนว่าให้ขึ้นบันไดแบบนักดับเพลิงจับทีละขั้นจะไม่ตก
เรื่องง่ายๆภาษาบ้านๆใครๆก็จำได้
สอนบอลเลี้ยงลูกจับเวลากับวิ่งจับเวลา อันไหนเร็วกว่า เวลาแข่งทำแบบนั้น
สิ่งที่เรียบง่ายเข้าใจได้เสมอ
ป๊อปอายทำให้ผักขมดังว่ากินแล้วแข็งแรงทั้งที่ไม่จริง
ความสนุกทำให้คนจดจำ
รัชเชียเอาแฟดชไดร์ไปขายให้พนักงานนาโต้ซื้อไปใช้ระบบถูกเจาะ
ไม่มีเงินก็ใช้ความคิด
เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้บ.ดูจน ใส่เสื้อมอซอ รถเก่าๆ ลูกค้าเห็นใจ
ประสบการณ์แก้ปัญหาได้
พ่อแม่เลือกคนละพรรค์ก็ยังไปเลือกทั้งที่มันก็คะแนนเท่ากันทำไม
แม่ว่ามันคือการแสดงใช้สิทธ์ ซึ่งคนสมัยนี้ดีฉลาดแต่โวยคนละพวก
คนฉลาดไม่แน่ว่าจะทำถูก
February 18, 2022
ขอบเล่มนี้มากที่สุดในบรรดา 3 เล่มของ Dave Trott เนื้อหามีตั้งแต่เกร็ดสมัยสงคราม ฟุตบอล วงการสื่อโฆษณา รวมไปถึงองค์กรการกุศลต่างๆ ที่มีวิธีสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่พบเจอ
February 12, 2020
A compound of ingenious stories each one with different concept to learn. Very insightful.
December 21, 2024
Hài hước với những ví dụ có thực về cách làm sáng tạo
wow tôi thật không tin là tôi đã không đọc cuốn này 3 năm rồi. time did fly.
wow tôi thật không tin là tôi đã không đọc cuốn này 3 năm rồi. time did fly.
October 5, 2021
Why cannot we have lot of non-fiction and marketing folks write in this style?
November 15, 2022
"Creative Blindness - Dave Trott" ✏️
คือตกหลุมรักตั้งแต่รูปเล่ม ขนาด น้ำหนัก เลยหยิบมาอ่านคั่นเล่มอื่นเพราะเล่มนี้เป็นแค่เรื่องสั้นๆ เรื่องละ3-4 หน้าเอง แต่คือมันเพลินมากกก กลายเป็นว่าอ่านจบอย่างรวดเร็วก่อนเล่มหลักซะงั้น 😂
เล่มนี้เขียนโดยนักคิดและนักโฆษณา แต่ละเรื่องจะเป็นไอเดียเจ๋งๆของคนในประวัติศาสตร์ ที่เกิดความคิด ไอเดียเจ๋งๆ ที่แตกต่างจากความคิดของคนอื่น ทำให้ไอเดียของพวกเค้าเป็นจุดกำเนิดของอะไรหลายๆอย่างในปัจจุบัน หลายเรื่องเลยที่อ่านแล้วลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อนว่าถ้าเป็นเราจะทำยังไง แต่พออ่านสิ่งที่เค้าเหล่านั้นแก้ปัญหาแล้วก็แบบ เห้ยย แม่งโคตรเจ๋ง คิดได้ไงวะ แต่บางเรื่องก็ออกเอื่อยเฉื่อยเฉยๆอยู่บ้าง แต่โดยรวมคือเป็นหนังสือที่ดีมากๆเล่มนึงเลย
นอกจากอ่านแล้วจะทึ่งในความแหวกของคนเหล่านั้นแล้ว มันกลับจุดประเด็นความคิดคนอ่านอย่างเราได้ด้วย ซึ่งเอาจริงเราว่าหลายอย่างเราสามารถเอามาปรับใช้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของเราเองได้ด้วยนะ คือมันไม่ได้เหมาะแค่สำหรับวงการนักคิดหรือนักโฆษณาเท่านั้น แต่มันสามารถปรับใช้ได้กับเรื่องราวต่างๆในชีวิตของเราได้ด้วย
เพราะเรื่องต่างๆในเล่มนี้พาเราจุดไอเดียมากมาย เราเลยคิดว่าจริงๆเล่มนี้ควรค่อยๆอ่านน่าจะดีที่สุด เพื่อที่จะได้คิดตามไอเดียเจ๋งๆ แล้วลองเอามาขบคิดปรับให้เหมาะเข้ากับตัวเราเอง เหมือนคิดอะไรไม่ออกก็หยิบเล่มนี้มา แล้วสุ่มเปิดไปสักหน้านึง แล้วอ่านเรื่องนั้นดู เราว่าน่าจะดีกว่าอ่านรวดเดียวจบแบบเรานะ 🤣
💡 คิดว่าอ่านเล่มนี้แล้ว น่าจะจุดประกายหลอดไฟให้ใสสว่างบนหัวของเราได้บ่อยๆเลย 😉
คือตกหลุมรักตั้งแต่รูปเล่ม ขนาด น้ำหนัก เลยหยิบมาอ่านคั่นเล่มอื่นเพราะเล่มนี้เป็นแค่เรื่องสั้นๆ เรื่องละ3-4 หน้าเอง แต่คือมันเพลินมากกก กลายเป็นว่าอ่านจบอย่างรวดเร็วก่อนเล่มหลักซะงั้น 😂
เล่มนี้เขียนโดยนักคิดและนักโฆษณา แต่ละเรื่องจะเป็นไอเดียเจ๋งๆของคนในประวัติศาสตร์ ที่เกิดความคิด ไอเดียเจ๋งๆ ที่แตกต่างจากความคิดของคนอื่น ทำให้ไอเดียของพวกเค้าเป็นจุดกำเนิดของอะไรหลายๆอย่างในปัจจุบัน หลายเรื่องเลยที่อ่านแล้วลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อนว่าถ้าเป็นเราจะทำยังไง แต่พออ่านสิ่งที่เค้าเหล่านั้นแก้ปัญหาแล้วก็แบบ เห้ยย แม่งโคตรเจ๋ง คิดได้ไงวะ แต่บางเรื่องก็ออกเอื่อยเฉื่อยเฉยๆอยู่บ้าง แต่โดยรวมคือเป็นหนังสือที่ดีมากๆเล่มนึงเลย
นอกจากอ่านแล้วจะทึ่งในความแหวกของคนเหล่านั้นแล้ว มันกลับจุดประเด็นความคิดคนอ่านอย่างเราได้ด้วย ซึ่งเอาจริงเราว่าหลายอย่างเราสามารถเอามาปรับใช้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของเราเองได้ด้วยนะ คือมันไม่ได้เหมาะแค่สำหรับวงการนักคิดหรือนักโฆษณาเท่านั้น แต่มันสามารถปรับใช้ได้กับเรื่องราวต่างๆในชีวิตของเราได้ด้วย
เพราะเรื่องต่างๆในเล่มนี้พาเราจุดไอเดียมากมาย เราเลยคิดว่าจริงๆเล่มนี้ควรค่อยๆอ่านน่าจะดีที่สุด เพื่อที่จะได้คิดตามไอเดียเจ๋งๆ แล้วลองเอามาขบคิดปรับให้เหมาะเข้ากับตัวเราเอง เหมือนคิดอะไรไม่ออกก็หยิบเล่มนี้มา แล้วสุ่มเปิดไปสักหน้านึง แล้วอ่านเรื่องนั้นดู เราว่าน่าจะดีกว่าอ่านรวดเดียวจบแบบเรานะ 🤣
💡 คิดว่าอ่านเล่มนี้แล้ว น่าจะจุดประกายหลอดไฟให้ใสสว่างบนหัวของเราได้บ่อยๆเลย 😉
October 12, 2020
To write this review properly, I should write in short sentences.
You see, Dave Trott has a unique writing style in which he tells a story through a bunch of short paragraphs to hold on to the reader’s attention.
Along the way, he taps into the real world stories of a bunch of people who challenged the status quo in some way and overcame creative blindness.
For example, there’s a mechanic who suffered from prostate cancer and wanted more men to get checks. He knew that statistics alone wouldn’t convince people, so he offered male customers 20% off their MOT if they had their prostates checked.
Not by him.
Another example comes via America, where Californian girl scouts wanted to sell more cookies. Weed had recently been legalised, so they set up shop outside dispensaries.
The good thing about this book is that Trott doesn’t tell you how to think, instead opting to show you, which indeed is the lesson behind one of his stories.
The navy didn’t believe a new type of engine could be as effective as it was until they saw a ship with it winning in a tug of war.
You see, Dave Trott has a unique writing style in which he tells a story through a bunch of short paragraphs to hold on to the reader’s attention.
Along the way, he taps into the real world stories of a bunch of people who challenged the status quo in some way and overcame creative blindness.
For example, there’s a mechanic who suffered from prostate cancer and wanted more men to get checks. He knew that statistics alone wouldn’t convince people, so he offered male customers 20% off their MOT if they had their prostates checked.
Not by him.
Another example comes via America, where Californian girl scouts wanted to sell more cookies. Weed had recently been legalised, so they set up shop outside dispensaries.
The good thing about this book is that Trott doesn’t tell you how to think, instead opting to show you, which indeed is the lesson behind one of his stories.
The navy didn’t believe a new type of engine could be as effective as it was until they saw a ship with it winning in a tug of war.
November 11, 2020
Vẫn theo motif chung, kể những câu chuyện (không biết có thật hay không) và rút ra bài học phía bên dưới. Một số bài học cần note lại đối với cuốn này chắc là:
1. Mọi thứ đều là truyền thông
2. Đ�� đat được những gì mình muốn từ khán giả, phải tìm được thứ quan trong với họ (qua câu chuyện trẻ em bị bóc lột, làm việc trần truồng dưới hầm mỏ).
3. Ngưng bủa vây bản thân bởi những người có suy nghĩ giống mình.
4. Nói với khán giả bằng ngôn ngữ của họ.
5. Đơn giản mới là tài tình, đừng có phức tạp hóa.
Hmmm Tạm thế cái đã.
1. Mọi thứ đều là truyền thông
2. Đ�� đat được những gì mình muốn từ khán giả, phải tìm được thứ quan trong với họ (qua câu chuyện trẻ em bị bóc lột, làm việc trần truồng dưới hầm mỏ).
3. Ngưng bủa vây bản thân bởi những người có suy nghĩ giống mình.
4. Nói với khán giả bằng ngôn ngữ của họ.
5. Đơn giản mới là tài tình, đừng có phức tạp hóa.
Hmmm Tạm thế cái đã.
September 3, 2021
Great book, full of thought provoking stories that deserve to be properly digested, and routinely gone back to.
Dave writes like a writer should: for an easy and pleasurable reading.
As I was reading the book, I sometimes found myself thinking about how well these stories were selected by Dave to translate a certain message, as if they were invented for that purpose.
With that said I conclude with one thought: When I grow up I want to be as knowledgeable as this gentleman.
A worthy read for anyone that's even remotely interested in creative thinking.
Dave writes like a writer should: for an easy and pleasurable reading.
As I was reading the book, I sometimes found myself thinking about how well these stories were selected by Dave to translate a certain message, as if they were invented for that purpose.
With that said I conclude with one thought: When I grow up I want to be as knowledgeable as this gentleman.
A worthy read for anyone that's even remotely interested in creative thinking.
April 13, 2021
Trott provides stories and examples of different people demonstrating creative genius in real-life situations. With a broad rage of examples, the author comes with a great question on the role of digitalisation and big data, saying that it play a huge part in marketing, but we must not lose sight of the fact that creativity is one of the last advantages we as humans still possess over technology.
August 15, 2020
Sách viết theo đúng format của bác Dave Trott. Nhiều mẫu truyện ngắn gộp lại thành một chương to. Nhiều chương to gộp lại thành 1 quyển sách.
Quyển này nhiều bài hay hơn, chọn lọc cũng kỹ hơn những quyển khác. Nội dung cũng bám sát vào chủ đề chương nên mình dễ theo dõi hơn.
Điểm trừ là có mấy bài cũ rồi. Với bản dịch này không đã :v
Quyển này nhiều bài hay hơn, chọn lọc cũng kỹ hơn những quyển khác. Nội dung cũng bám sát vào chủ đề chương nên mình dễ theo dõi hơn.
Điểm trừ là có mấy bài cũ rồi. Với bản dịch này không đã :v
February 19, 2021
This book is more of a compilation of stories to help us see how creativity has been done before. Its an eye opener to read these stories some are hilarious, some are clever and some are beyond my imagination.
However, don't expect a framework or any how to on marketing or creativity in this book. Its a good book to give you an idea and possibilities of creativity works.
However, don't expect a framework or any how to on marketing or creativity in this book. Its a good book to give you an idea and possibilities of creativity works.
May 3, 2021
I’m glad I picked this one. I don’t have high expectations but it’s simple and delivers the messages. It uses stories which make it light and interesting for the readers.
It won’t make you a master of advertisement nor teach you step by step about how to make ads but it addressed mindsets you need when doing marketing / creating adds. I feel it also useful for our life overall.
It won’t make you a master of advertisement nor teach you step by step about how to make ads but it addressed mindsets you need when doing marketing / creating adds. I feel it also useful for our life overall.
June 13, 2021
As mentioned in the title, the book offers tons of true stories on how creativity was used to solve problems in the past. I felt informed when reading each of the stories rather than experiencing any kind of deep connection since everything was short and random. I personally could finish each of the story in less than 10 minutes. This book is just OK to me.
September 5, 2021
Dave Trott is always Dave Trott and it’s compliment.
เดฟ ทร็อตเป็นนักโฆษณาที่เล่าเรื่องเก่งเป็นบ้า และยกแง่มุมหลากหลายเรื่องมาเล่าให้ฟังเป็นบทสั้นๆ ที่จำง่าย (story telling is the best way to make people remember and adapt on life) เป็นอีกหนึ่งเล่มที่คมคาย ตลก และนำไปใช้ได้จริงมากกว่าหนังสือการตลาดบางเล่มที่บอกว่า “สุดยอดเทคนิคการตลาด”
เดฟ ทร็อตเป็นนักโฆษณาที่เล่าเรื่องเก่งเป็นบ้า และยกแง่มุมหลากหลายเรื่องมาเล่าให้ฟังเป็นบทสั้นๆ ที่จำง่าย (story telling is the best way to make people remember and adapt on life) เป็นอีกหนึ่งเล่มที่คมคาย ตลก และนำไปใช้ได้จริงมากกว่าหนังสือการตลาดบางเล่มที่บอกว่า “สุดยอดเทคนิคการตลาด”
July 14, 2022
ไม่คิดว่าจะอ่านเล่มนี้ได้จบแบบรวดเร็ว,
หนังสือสนุก มีเรื่องราว และยกตัวอย่างให้เห็นภาพ รวมไปถึงประโยคเด็ดๆ ที่สามารถจำและนำไปเป็นข้อคิดได้ เช่น "ในเมื่อไม่มีเงิน เราต้องใช้ความคิด" ของ เออร์เนสต์ รัทเทอร์ฟอร์ด
ไม่ได้เหมาะกับแค่คนทำงานด้านการตลาด หรือ โฆษณา คิดว่าวงการไอทีที่เราทำงานอยู่ก็ต้องใช้ความคิดที่สร้างสรรค์ ออกจากกรอบบ้างเช่นกัน.
หนังสือสนุก มีเรื่องราว และยกตัวอย่างให้เห็นภาพ รวมไปถึงประโยคเด็ดๆ ที่สามารถจำและนำไปเป็นข้อคิดได้ เช่น "ในเมื่อไม่มีเงิน เราต้องใช้ความคิด" ของ เออร์เนสต์ รัทเทอร์ฟอร์ด
ไม่ได้เหมาะกับแค่คนทำงานด้านการตลาด หรือ โฆษณา คิดว่าวงการไอทีที่เราทำงานอยู่ก็ต้องใช้ความคิดที่สร้างสรรค์ ออกจากกรอบบ้างเช่นกัน.
July 24, 2023
หนังสือที่ให้ความรู้ในเรื่องอคติต่างๆได้เป็นอย่างดี ..... แต่อคติต่างๆนั้นจะมาจากไหน เราคงแก้ไขไม่ได้ แต่สำหรับนักการตลาด ถ้าสามารถมองเห็นและเข้าใจก็จะสามารถขายได้ โดยอาศัยอคติของผู้คนเหล่านั้น
ไม่รู้ว่าจะเป็นการหลอกเพื่อให้ขายได้มากขึ้น หรือเป็นการเสนอสิ่งที่เขาเหล่านั้นต้องการอย่างจริงใจ ?????????
ไม่รู้ว่าจะเป็นการหลอกเพื่อให้ขายได้มากขึ้น หรือเป็นการเสนอสิ่งที่เขาเหล่านั้นต้องการอย่างจริงใจ ?????????
December 7, 2023
"Creative Blindness" this book is a valuable resource for anyone who wants to improve their creative thinking skills.
Trott's insightful and engaging writing style makes the book a pleasure to read, and his practical tips and techniques can be applied to a wide range of situations.
The content of this book is cool, fun, and full of good case studies.
Trott's insightful and engaging writing style makes the book a pleasure to read, and his practical tips and techniques can be applied to a wide range of situations.
The content of this book is cool, fun, and full of good case studies.
October 19, 2020
It just flows
Such an easy and entertaining read. Dave Trott is probably my favorite ad guy. He doesn't talk about how great he is, but instead what he has learned from other people.
Such an easy and entertaining read. Dave Trott is probably my favorite ad guy. He doesn't talk about how great he is, but instead what he has learned from other people.
Displaying 1 - 30 of 55 reviews