สามก๊กบนเส้นขนาน

by วินทร์ เลียววาริณ

สารคดีประวัติศาสตร์การเมืองไทยเทียบกับสามก๊ก

มองดูสภาพบ้านเมืองในรอบหลายสิบปีนี้ ไม่มีเหตุการณ์ใดที่ไม่อยู่ใน สามก๊ก มาก่อน

หลายเหตุการณ์เกิดขึ้นนานมาแล้ว คนไทยยุคหลังไม่เคยรู้มาก่อน หลายเรื่องไม่อยู่ในตำราวิชาประวัติศาสตร์

เมืองไทยมีเหตุการณ์ต่าง ๆ หลังปี พ.ศ. 2475 ซึ่งมีสีสันและโครงสร้างตรงกับ สามก๊ก มาก จนสมควรบันทึกไว้

สามก๊กบนเส้นขนาน เป็นลำดับ 2 ของชุดสามก๊ก ผลงานของ วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรต์สองสมัย และศิลปินแห่งชาติ

นี่เป็นหนังสือแนวประวัติศาสตร์เปรียบเทียบไทยกับจีน เล่าเรื่องที่คนไทยทุกคนน่าจะรู้ การเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในสามก๊ก อาจจะช่วยให้เข้าใจกลไกและโครงสร้างทางการเมืองของเราชัดเจนขึ้น

สามก๊กคือเงาของประวัติศาสต์ของเรา บทเรียนเจ็บปวดของคนในอดีตคือบันไดให้เราก้าวขึ้นไปสู่สังคมอุดมคติ

คำถามมีเพียงว่า เราจะเรียนรู้จากบทเรียนเหล่านั้นหรือไม่

335 pages, Hardcover

Published March 1, 2019

About the author

วินทร์ เลียววาริณ เกิดปี พ.ศ. 2499 ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เดิมชื่อ สมวินทร์ เลี้ยววาริณ ต่อมาเปลี่ยนชื่อตัวเป็น วินทร์ เป็นนักเขียนที่ได้รับ รางวัลซีไรต์ ถึง 2 ครั้ง คือ เมื่อปี พ.ศ. 2540 (ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน) และเมื่อปี พ.ศ. 2542 (สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน) โดยก่อนหน้าที่จะมาเป็นนักเขียน เขาทำงานด้านออกแบบมาก่อน คือเป็นสถาปนิก นักตกแต่งภายใน นักออกแบบกราฟิก และนักโฆษณา

Reviews

[Mook Woramon · Rating 5 out of 5]

สารภาพเลยว่าเป็นคนไม่ชอบอ่านเรื่องประวัติศาสตร์การเมืองและจำเรื่องราวการเมืองไทยแทบไม่ได้ พอดีช่วงนี้คลั่งสามก๊กเลยซื้อเล่มนี้มา ปรากฏว่าชอบมากกกกก (เป็นความรู้สึกส่วนบุคคลนะจ๊ะ)
คุณวินทร์เล่าเรื่องการเมืองไทยหลังสมัย พ.ศ.2475 ยาวมาถึงปัจจุบัน โดยเล่าสลับไปมาระหว่างเหตุการณ์คล้ายๆกันของสามก๊กและประเทศไทย แม้ช่วงเวลาจะแตกต่างกันกว่าพันปี แต่ความเป็นมนุษย์ การแย่งชิงอำนาจและการเมืองมันไม่เปลี่ยนเลย ที่มันไม่เปลี่ยนก็เพราะสัญชาตญาณมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยน แสวงหาอำนาจ รักษาผลประโยชน์และหวาดกลัวที่จะต้องสูญเสีย
และเมื่อมาดูเฉพาะการเมืองไทยก็วนเวียนลูปเดิมเกือบร้อยปีไม่เคยเปลี่ยนเช่นกัน - -“

คือเล่มนี้ทำให้เราที่เคยรู้สึกว่าการเมืองไทยไม่สนุก วนไปวนมากลุ่มก้อนเดิมๆ กลายเป็นเรื่องน่าค้นหา น่าเรียนรู้ บางเหตุการณ์เราก็หาอ่านเพิ่มเติมจากเดิมช่วงสงครามโลก เสรีไทยนี่สนุกมาก วีรบุรุษหลายๆคนเราเคยได้ยินชื่อแต่ไม่เคยจดจำพอได้อ่านวีรกรรมก็รู้สึกซาบซึ้งอยากจะหมอบกราบ
และที่ได้เรียนรู้คือ
- ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร
- ศัตรูของศัตรูของเราคือเพื่อนของเรา
- ไม่มีใครดีหรือเลว 100% ไม่สามารถตัดสินใครจากเพียงหนึ่งเหตุการณ์ด้วย
- ตัดอคติก่อนอ่าน ให้อ่านข้อเท็จจริง ไม่แน่ใจให้หาอ่านเพิ่ม ให้คิดด้วยตนเอง
- ทุกครั้งที่นักการเมืองแย่งชิงอำนาจ คนร้องไห้เงียบๆคือประชาชน (ข้อความจากหนังสือ)

[รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์ · Rating 3 out of 5]

สนุกพอใช้ได้ แม้ว่าบางท่อนตอนจะรู้สึกเปรียบเทียบแบบผิดฝาผิดตัวไปหน่อย บางบทยังซ้ำไปซ้ำมา (ซ้ำในระดับประโยคซะด้วย) ตอนหลังๆ นี่เริ่มเอียงพอสมควร แต่ก็ยังพอเห็นความพยายาม "ไม่เอียง" แล้ววางตัวแบบนักปราชญ์พินิจพิเคราะห์สถานการณ์แบบคนนอก แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาแม้ว่าจะพยายามทำตัวเป็นกลาง คือประสบการณ์หรือการรับรู้ที่นับมาเรียบเรียงนั้นเอียงอย่างเห็นได้ชัด เช่น กรณีเสื้อแดงที่เน้น "ความเสียหาย" ของรัฐบาล อย่างงานประชุมล่ม ในขณะที่กรณีเสื้อเหลืองจะเน้นความเสียหาย "ของประชาชน" อย่างการเสียชีวิต เป็นต้น

[Pairash Pleanmalai · Rating 5 out of 5]

อารมณ์เหมือนเรื่อง "ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน" เพียงแต่คราวนี้เทียบเคียงกับเนื้อเรื่องสามก๊ก และไม่ได้มีตัวละครที่ใช้เดินเรื่อง
และลากยาวการเมืองมาจนถึงปัจจุบัน(ถึงวันที่หนังสือออก)เลย

ถ้าถามควรอ่านสามก๊กมาก่อนไหม ก็ตอบว่า ควร ไม่งั้นก็ทำให้นึกภาพลำดับการเกิดเหตุการณ์ที่ปราฏในสามก๊กไม่ออก
ว่าเกิดตอนไหนอย่างไรเพราะอะไร แต่ไม่อ่านก็เพลินๆได้ เพราะสรุปมาแบบย่ออ่านเข้าใจ

เนื้อเรื่องการเมืองไทยนั้นเดินตามลำดับเวลา แต่การยกเทียบกับสามก๊กไม่ได้เรียง มียกมาทั้งต้น ทั้งปลาย ทั้งกลาง
หลายๆครั้งการเทียบเคียงก็ไม่ค่อยตรง ต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบว่า ทำไมยกท่อนนี้ของสามก๊กมาเทียบหว่า

ข้อดีก็ทำให้เราสนใจประวัติการเมืองไทยในรูปแบบที่ไม่เครียดมาก และสรุปย่อมาได้น่าสนใจ

[ดินสอ สีไม้ · Rating 3 out of 5]

สรุปจบสิ่งที่เราประมวลได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้
ไม่ได้ทำให้เรารู้ประวัติศาสตร์ หรือท่องจำประวัติศาสตร์ได้มากขึ้น
แต่ทำให้เรารู้จักอำนาจของสิ่งที่เรียกว่า “อำนาจ”
และเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์
ไม่ว่าจะ 1800 ปีก่อน หรือเพียงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้
อำนาจก็ยังส่งผลให้มนุษย์กระทำการซ้ำๆ เดิม
และผู้ไร้อำนาจ ก็ยังคงเป็นผู้ถูกกระทำอยู่เช่นเดิม

[Chakkrit P. · Rating 5 out of 5]

สามก๊กตามฉบับวินทร์ เลียววาริน

เล่มนี้แปลกไปจากเดิมตรงที่เอา timeline การเมืองไทยตั้งแต่ 2475 จนถึงพล อ ประยุทธ ยึดอำนาจมาเขียนเป็น timeline หลัก แล้วมีเนื้อเรื่องหรือตัวอย่างสตอรี่คล้ายๆกันที่เกิดขึ้นในเรื่องสามก๊ก มาเทียบเคียง

ไม่ได้ลุ้นหรือตื่นเต้นอะไรมาเพราะทั้งประวัติศาสตร์การเมืองไทยยุคใกล้ก็พอรู้แล้ว เรื่องสามก๊กก็เป็นของตาย

แต่สนุกตรงที่คุณวินทร์เขียนให้อ่านได้เพลินมากๆๆๆๆ ทำให้การอ่านเรื่องการเมืองเป็นเรื่องมี่สนุกมากเหมือนเดิม :)

[Tony · Rating 4 out of 5]

การเมืองภาคเปรียบเทียบ​ของสามก๊ก กับ การเมืองไทย

จริงๆแล้ว "การเมือง" หรือ อำนาจ จะเอาไปเปรียบเทียบกับ การเมืองที่ไหนๆ ยุคสมัยใดๆ ก็​เป็น​เส้นขนานได้ เพราะสัจธรรม​ของการเมือง/อำนาจ ก็คงเป็น​จริงไม่ว่าจะกี่พันปี ทุกภูมิศาสตร์​โลก​

-ผลประโยชน์​ แข่งขัน ทำลายล้าง หักหลัง ร่วมมือ ดีกัน ตีกัน และประชาชนได้รับผลกระทบ เป็นหมากเบี้ย-

หนังสือเรียบเรียงดี โดยนำไทม์ไลน์​การเมืองไทยเป็นหลัก และหยิบการเมืองในสามก๊ก มาวิเคราะห์​เปรียบเทียบ​ บางเรื่องก็เป็นคู่ขนานเทียบเคียงได้เลย แต่บางเรื่องอ่านแล้วก็งงๆว่าเกี่ยวตรงไหนนะ?

อ่านง่าย สนุก ชวนคิดในฐานะประชาชนธรรมดา ที่การเมืองมีผลกระทบโดยตรง
มีบางประโยชน์กินใจ และ เป็นประเด็น​ที่ไม่เหมือนกับสามก๊ก คือ
ในการเมืองไทยโดยเฉพาะยุคหลัง 2500 แทบไม่เคยมีนักการเมือง​ฝ่ายค้าน รัฐบาล​ ตายในทุกการปะทะการเมือง....

คิดว่าประเด็น​ที่วิเคราะห์​เปรียบเทียบ​น้อยไปนิดคือ กุนซือ ทั้งในสามก๊ก และ การเมืองไทย มีกุนซือ อยู่​หลังฉากเสมอ
อาจจะเป็น​เล่มต่อไป?

[Puttipong Thumperawat · Rating 5 out of 5]

เนื้อเรื่องระหว่างประวัติศาสตร์การเมืองไทยคู่ขนานกันไปกับสามก๊ก
แปลกใหม่แต่กลมกลืน

[Nutdanai Kobchainarumit · Rating 4 out of 5]

เป็นการนำประวัติศาสตร์การเมืองไทย ไปเทียบกับเหตุการณ์ในสามก๊ก ทำให้ได้ทราบบางเรื่องบางรายละเอียดที่ไม่เคบทราบมาก่อน และได้รู้ว่าการเมืองหรือเกมการชิงอำนาจนั้น ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย

[Emz Gamo' · Rating 5 out of 5]

อ่านง่าย สนุก และวางแทบไม่ลงจริงๆครับ