Jump to ratings and reviews
Rate this book

อมฤต

Rate this book
เมื่อสองเผ่าพันธุ์ซึ่งเคยเป็นอริ
ต้องร่วมเดินทางเพื่อปกป้องนางมนุษย์ผู้หนึ่ง
พวกเขาได้ก่อศัตรูร้ายกาจขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
.
สองพันห้าร้อยกว่าปีต่อมา
พญาครุฑ พญานาค และนางผู้นั้น
กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ พบพานกันอีกครั้ง
.
‘พยุหะ’ มีสัมผัสรู้ภายใน บอกใครไม่ได้
ทว่าไม่อาจชี้ชัด ภัยร้ายใดกำลังมาถึง
‘รอยเธียร’ ทราบตั้งแต่เล็ก ตนเคยเกิดเป็นอะไร
เพียงไม่แน่ใจ มีพันธะใดติดตามมา
‘มัชฌิมา’ มีนิมิตเห็นเหตุการณ์อนาคต
แต่ไม่รู้ ศัตรูร้ายตามราวีข้ามชาติด้วยเหตุใด
.
พลานุภาพแห่งครุฑ อำนาจนาคา และการหยั่งรู้ของเธอ
จะสามารถเอาชนะศัตรู…ผู้คิดว่าตนเป็น ‘อมฤต’ ได้หรือไม่

552 pages, Paperback

Published March 28, 2019

2 people are currently reading
31 people want to read

About the author

ชลนิล

24 books38 followers
Associated Names:
* ชลนิล
* ฉิกกง

ที่มา....ของนามปากกา "ชลนิล"

ที่มาของชื่อ "ชลนิล" จริง ๆฟังแล้วดูปัญญาอ่อนมากนะ ตอนม.2 ผมเขียนนิยายเรื่องแรกชื่อ "ใต้เงามันดาเร"
(เห็นมั้ย ชอบเขียนแนวลึกลับตั้งแต่เด็ก) เรื่องนั้นพระเอกชื่อ ภุชงค์ นางเอกชื่อ อินทนิล (ดอกตะแบก - อินทนิล สีม่วง เป็นดอกไม้ที่ผมชอบมากตอนเด็ก)

พอเขียนจบก็นึกเล่น ๆ ว่าถ้าเขียนภาคสอง ลูกของ ภุชงค์ กับ อินทนิล จะมีชื่อว่าอะไร
ตอนนั้นก็คิดชื่อ ชลนิล - อินทชล ออกมาได้ (เปลี่ยนคำว่าชงค์ เป็น ชล)
พอคิดสองชื่อนี้ได้ก็เกิดอาการชอบมาก อย่าใช้เป็นชื่อตัวละครเลย
เอามาเป็นนามปากกาของเราดีกว่า ! (ตอนเขียน ใต้เงามันดาเร ใช้นามปากกา ตรี อินทนิล)

นามปากกาหลังจากนั้นจึงเป็น "ชลนิล อินทชล" (ลิเกมั้ย)
ใช้เขียนเรื่องสั้นส่งตามนิตยสารต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม
โชคดีอย่างยิ่ง ที่ไม่มีนิตยสารเล่มไหนรับเรื่องสั้นผมไปพิมพ์
(เด็กอายุ 14-15 เขียนเรื่องสั้นแบบไหน ใครๆก็น่าเดาออกว่า มันคงไม่ได้เรื่อง)

ตอนม.ปลาย ผมบ้าการ์ตูนญี่ปุ่น ช่วงปิดเทอมเคยไปช่วยทำงานที่สำนักพิมพ์การ์ตูนแห่งหนึ่ง รู้จักพวกบรรณาธิการ ทีมงานการ์ตูนหลายคน เขาถามผมว่าชื่อ "ชลนิล" แปลว่าอะไร? ตอนนั้นผมก็พยายามเล่าที่มา ที่ไป พร้อมคิดคำแปลอย่างสวยงาม
(ตามประสาเด็กนั่นแหละ)

เขาฟังแล้วบอกคำเดียวเลยว่า... "ชลนิล" = "น้ำเน่า" ชล=น้ำ / นิล = สีดำ
น้ำสีดำ มันก็คือน้ำเน่านั่นแหละ ผมได้ยินอย่างนั้นแล้วชอบทันที...เออ...แปลว่า น้ำเน่าก็เข้าท่าดี ไหน ๆ เราก็ชอบเขียนนิยายอยู่แล้ว สมัยนั้น พอเพื่อน ๆ รู้ว่าเราเขียนนิยาย ก็ชอบถามเหมือนกัน "เขียนนิยายน้ำเน่าเหรอ?" เราตั้งนามปากกาแปลว่า น้ำเน่า ไปเลยดีกว่า แทนคำตอบพวกมันไปเลย แถมยังเท่ดี ไม่เหมือนใครด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นความคิดสมัยผมเรียนอยู่มัธยม อายุแค่ 15-16 เองมั้ง

พอเรียนจบ มาทำงานอยู่ที่อุดรฯ
มีอยู่วันหนึ่ง เข้าเวร นึกครึ้มอกครึ้มใจ อยากเขียนเรื่องสั้นเล่น ๆ
อาศัยความรู้ที่ได้อ่านจากหนังสือเกี่ยวกับการเขียนเรื่องสั้น
ในห้องสมุดของวิทยาลัยครูอุดร มาเป็นแนวทาง
ลองเขียนตามที่หนังสือเขาสอน-แนะนำ

ผลก็คือ...ได้เรื่องสั้นมาเรื่องหนึ่ง เรื่องสั้นเรื่องนั้นชื่อ "เด็กชาย กองทราย และชิงช้า"
เขียนจบ ผมฝากเพื่อนให้เอาเรื่องสั้นนี้ไปให้อาจารย์ภาษาไทย(ในวิทยาลัยครู)
ช่วยวิจารณ์ - แนะนำ พออาจารย์ท่านนั้นอ่านจบ ก็ฝากเพื่อนผมมาบอกว่า...
"ให้เขาส่งเรื่องนี้ไปที่ นิตยสาร สตรีสาร"

นิตยสาร "สตรีสาร" สมัยนั้น ถือเป็นสนามนักเขียนที่มีมาตรฐานสูง
จนผมไม่เคยกล้าส่งงานตัวเองไปให้เขาพิจารณาเลย
พออาจารย์ภาษาไทยท่านนั้นแนะนำอย่างนี้
ผมเลยทำใจกล้า ส่งเรื่องสั้นไปที่ สตรีสาร โดยใช้นามปากกาว่า "ชลนิล" เฉย ๆ
ตัดคำว่า "อินทชล" ออก เพราะรู้สึกว่ามันเยิ่นเย้อ ลิเกพิกล
(ตอนนั้นโตพอจะรู้แล้วว่า ความคิดสมัยเด็กของตัวเองมันเพี้ยนๆ)

ผลคือได้ลงในนิตยสารสตรีสาร ภายในเวลาเดือนสองเดือน
ความดีใจครั้งนั้น ยิ่งกว่าคนเอ็นทร้านซ์ติดเสียอีก
เพราะนี่เป็นนิตยสารมาตรฐานฉบับแรก ที่ผมได้ลงเรื่องสั้น
แถมเป็นนิตยสารมีชื่อ ที่นักเขียนดัง ๆ หลายคนแจ้งเกิดที่นี่
ไม่ว่าจะเป็น "โบตั๋น" "ประภัสสร เสวิกุล" ฯลฯ

หลังจากนั้นผมก็มีไฟ เขียนเรื่องสั้นส่งสตรีสารอีกหลายเรื่อง
โดยใช้นามปากกาว่า "ชลนิล" มาตลอด
แต่ก็ไม่มีเรื่องสั้นได้ลงอีกนาน จนผมนำเรื่องสั้นที่เขียนส่ง "สตรีสาร" (แล้วไม่ได้ลง)
มารวมทั้งเรื่องสั้น "เด็กชาย กองทราย และชิงช้า"
แล้วส่งไปให้สำนักพิมพ์สนุกอ่านพิจารณา
...โดยไม่คิดว่า...
นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของรวมเรื่องสั้นเล่มแรกในชีวิต "ละครภูต"
และเป็นการใช้นามปากกา "ชลนิล" บนแผงหนังสือครั้งแรกเช่นกัน

ชลนิล
20 ธ.ค. 56


ผลงาน

1. ต่างเวลา (สำนักพิมพ์สนุกอ่าน)
2. ม่านมนตรา (สำนักพิมพ์สนุกอ่าน)
3. พรุ่งนี้ดาวยังพราวแสง (สำนักพิมพ์สนุกอ่าน)
4. รอยสาป (สำนักพิมพ์สนุกอ่าน)
5. กรงอำพราง (สำนักพิมพ์สนุกอ่าน)
6. เพลิงนาคา (พิมพ์ครั้งที่ 4 สำนักพิมพ์วันดี)
7. เรือนเวลา (สำนักพิมพ์นวนิยายบางกอก)
8. กรงไฟ (สำนักพิมพ์นวนิยายบางกอก)
9. เถ้าน้ำค้าง (สำนักพิมพ์วันดี)
10. อาคม (สำนักพิมพ์คำต่อคำ)

รวมเรื่องสั้น
1. ละครภูต (สำนักพิมพ์สนุกอ่่าน)
2. ผู้ถูกล่า (สำนักพิมพ์สนุกอ่าน) (พิมพ์ครั้งที่1 ใช้ชื่อว่า "ในเงาสนธยา")
3. ลางมายา (สำนักพิมพ์นวนิยายบางกอก) (รวมจากสองเล่มเล็ก"ลางสังหารกับสีสันสยอง")

ผลงานเขียนอื่นๆ
1. ลมหายใจของสายลม (สนพ.สนานคิด) ประเภทบทกวี
2. ที่สุดปลายกระบี่ (สนพ.สนานคิด) รวบรวมถ้อยคำปรัชญาอันแหลมคมจากนวนิยายหลายเล่มของโก้วเล้ง
3. นิทานโทสะ (สนพ.วันดี) รวมบทความที่เขี

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
4 (25%)
4 stars
7 (43%)
3 stars
4 (25%)
2 stars
1 (6%)
1 star
0 (0%)
Displaying 1 - 5 of 5 reviews
Profile Image for Mook Woramon.
897 reviews200 followers
May 13, 2019
สนุกไม่ผิดหวังเหมือนเดิม
เป็นภาคต่อจากเพลิงนาคาโดยมาเล่าเรื่องในรุ่นลูกแทน ตัวละครจากเพลิงนาคามาครบเพราะฉะนั้นควรอ่านเพลิงนาคาก่อน จะได้เข้าใจสายสัมพันธ์
เล่มนี้เป็นความสัมพันธ์ระหว่างอดีตครุฑ อดีตนาคและมนุษย์ผู้หนึ่ง วงล้อกรรมที่หมุนเวียนร่วมกันมากว่าสองพันห้าร้อยปี ได้มาบรรจบกันอีกครั้ง พร้อมกับศัตรูที่ตามมาแก้แค้นเอาคืน
แน่นอนธรรมะย่อมชนะอธรรม ชอบที่คุณชลนิลสอดแทรกหลักธรรมคำสอนพระพุทธเจ้าไว้ด้วยโดยไม่รู้สึกยัดเยียด เน้นย้ำการมีสติอยู่ทุกชั่วขณะ หลุดพ้นจากตัวกู ของกูและสุดท้ายหลุดพ้นจากสังสารวัฏ ไม่ต้องเวียนว่าตายเกิดอีก
Profile Image for Patrawan Dear.
1,467 reviews148 followers
Read
April 15, 2019
#อมฤต / ชลนิล

เป็นเรื่องราวต่อเนื่องมาจากเรื่อง "เพลิงนาคา" ซึ่งควรจะอ่านเรียงกันมาเพื่ออรรถรสและความเข้าใจในเรื่องราวค่ะ

แนวของเรื่องยังคงเป็นแฟนตาซีอิงธรรมะเช่นเดิม แต่เรื่องนี้ธรรมะเข้มขึ้น บทบรรยายเยอะขึ้น และมีฉากต่อสู้เพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกว่าเรื่องราวมีสีสัน โดยไม่ทิ้งความอิ่มเอมในใจหลังอ่านจบ

จุดเด่นที่ชอบมากน่าจะเป็นธีมหลักของเรื่องที่นำเสนอหลักธรรมได้เข้าใจง่ายมาก  และพล็อตความสัมพันธ์ระหว่างครุฑกับนาคที่นำมาเสนอได้อย่างเหนือความคาดหมาย

นับว่าเป็นภาคต่อที่จบเรื่องราวได้แบบสมบูรณ์ ไม่มีค้างคา ไม่หลงประเด็น แต่ยังพบจุดสะดุดอยู่บ้างตรงการเล่าเรื่องแบบตัดสลับฉาก ที่บางช่วงตัดไปตัดมาบ่อยเกิน รวมไปถึงการถูกพล็อตที่แข็งแรงบีบจนเล่าเรื่องให้จบได้เพียงแบบเดียว ทำให้ขาดเสน่ห์บางอย่างในการอ่านไป 

แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ลดทอนความสนุกสนานและความดีงามของเรื่องนี้ลง เรายังคงชอบและรอคอยติดตามงานเขียนอันมีเอกลักษณ์อย่างนี้จากผู้เขียนค่ะ :)
Profile Image for Lily 百合花.
1,445 reviews103 followers
June 2, 2019
ชื่อเรื่อง – อมฤต
ผู้แต่ง – ชลนิล


ตัวละคร
มัชฌิมา (มา)
รอยเธียร นาคพิทักษ์ (ลุย) อายุ 25 ปี
พยุหะ (พายุ) อายุ 27 ปี
รอยธารา นาคพิทักษ์​ (น้ำ)


รีวิวหลังอ่าน

เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ “เพลิงนาคา” โดยตรง แต่ถ้าจะให้อ่านจริงๆ ก็ควรจะอ่าน “เพลิงนาคา” “ม่านมนตรา” และ “อมฤต” ปิดท้ายค่ะ เพราะตัวละคร “พันเกลียว” จะมีให้ได้เจอในทั้งสามเรื่องเลย และจะได้รู้ถึงที่มาที่ไปของ “พันเกลียว”​ ค่ะ

เราใช้เวลาอ่านเรื่องนี้นานมาก ไม่ใช่ว่าเพราะไม่สนุก แต่เพราะกลัวสนุกจนหยุดอ่านไม่ได้ (เป็นแบบนี้กับงานของคุณชลนิลเกือบทุกเรื่องเลย) และเจอกับช่วงยุ่งๆ ด้วย ก็เลยไม่ได้หยิบมาอ่านต่อเลย เพราะกลัวถึงจุดสนุกจนหยุดไม่ได้ แล้วเราไม่สามารถแยกร่างมาอ่านได้ ฮ่าๆๆๆ แต่พอได้หยิบมาอ่านต่อ ก็อ่านรวดเดียวเกือบจะจบเรื่องเลยนะ แต่ก็ฝืนสังขารไม่ไหว เผลอหลับไปก่อน เลยต้องตะลุยตอนจบในเช้าวันต่อมาแทน ฮ่าๆๆ

อ่านแล้วชอบความสัมพันธ์ของพี่น้องระหว่างรอยเธียรกับรอยธาราน่ารักมากๆ น่ารักขั้นสุด เวลาสองพี่น้องคุยกันนะ เราอ่านไปอมยิ้มไปตลอด น่ารักจริงๆ น่ารักในแบบที่ว่าเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายที่สุดของเรื่องเลยแหละ

ส่วนเรื่องความรักระหว่างหนุ่มสาวนั้น เราว่าเราไม่ค่อยอินสักเท่าไร เหมือนเป็นแค่จุดเสริมเพิ่มเข้ามาเฉยๆ เหมือนเราไม่แน่ใจหรอกว่าตัวละครแต่ละตัวรักอีกฝ่ายในความรู้สึกไหนกันแน่ ต่อให้มีคำอธิบายที่บอกชัดเจนก็ตาม

เรื่องนี้เป็นภาคต่อที่ดีงามจริงๆ แม้ช่วงเวลาที่เขียน “เพลิงนาคา” กับ “อมฤต” จะห่างกันหลายปีมากๆ แต่อ่านแล้วกลับรู้สึกว่าเป็นภาคต่อที่งดงามจริงๆ แหละ ส่งต่อรุ่นลูกหลานได้แบบว่าอยากอ่านต่อไปอีกหลายๆ เล่มเลย อ่านจบก็แอบคิดเบาๆ ว่าอาจจะมีภาคต่อก็ได้นะ อิอิ รอสิงหานาคราชอยู่นะ ^^

เรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา คุณชลนิลสามารถนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า มาเชื่อมโยงกับเรื่องนาค เรื่องครุฑ และเรื่องราวในสมัยพุทธกาล และนำมาถ่ายทอดในรูปแบบภาษาที่เข้าใจง่าย ทำให้อ่านแล้วรู้สึกว่าย่อยง่ายมากๆ ได้รับสารที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ และทำให้คนอ่านอย่างเราสนุกกับการอ่านนิยายที่แฝงคติธรรมทางด้านพุทธศาสนาด้วย

นอกจากเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาแล้ว ผู้เขียนยังนำเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงโซเชียลเน็ตเวิร์คมาเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทำให้อ่านแล้วรู้สึกว่าเรื่องทันสมัยสุดๆ และล้ำสมัยมากๆ เลยทีเดียว ชอบที่แบบว่ารอยธาราเป็นประธานแฟนคลับคนรักลุย ไหนจะเป็นแอดมินแฟนเพจอีก ฮ่าๆๆๆ มีการติดตามโลกโซเชียลว่าเป็นยังไงบ้าง

รอยเธียรเป็นตัวละครที่ดูเหมือนเป็นเทพบุตรสุดๆ แต่จริงๆ แล้วอ่านๆ ไป จะเห็นถึงความเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้าก็ตกหลุมรักแล้วจ้า ฮ่าๆๆ

ประโยคกินใจที่สุดของเราในเรื่องนี้ เป็นคำพูดของรอยธาราที่บอกว่า “รวยพอหรือยัง” ชอบมากค่ะ ขอเป็น FC ของรอยธาราเลยดีกว่า อิอิ

รวมๆ แล้วเป็นหนังสือภาคต่อที่ดีงามจริงๆ ค่ะ เชียร์ให้อ่านกันเยอะๆ นะคะ อ่านตามนี้เลยค่ะ “เพลิงนาคา” “ม่านมนตรา”​ และ “อมฤต” ค่ะ ^_^

[สปอยล์]

Start 17.51 น. Sun 14 Apr 2019
End 18.36 น. Sat 1 Jun 2019
Review Date 21.16 น. Sun 2 Jun 2019
Profile Image for Paradisemedicine Trivisavavet.
151 reviews4 followers
April 5, 2019
รุ่นลูกของ รอย ริว เธียร จากเพลิงนาคา มีพันเกลียวและหลายๆคนจากเพลิงนาคามาด้วย น่าจะอ่านเพลิงนาคาก่อนเรื่องจะเข้าใจภาพรวมได้ดีมาก
Profile Image for Monaliz Juang.
640 reviews
May 31, 2019
เรื่องอมฤตเป็นเรื่องต่อจากเพลิงนาคา ถ้าอยากอ่านได้อรรถรสก็แนะนำให้อ่านเพลิงนาคาก่อนค่ะ เนื่องจากมีตัวละครเกี่ยวเนื่องกัน เสน่ห์ของนิยายคุณชลนิล คือ การนำธรรมะมาผสมแทรกเรื่องราวไว้อย่างลงตัว ใครที่คิดถึงตัวละครเก่าๆอย่างริว รอยจันทร์ เธียร และพันเกลียว ก็จะมาปรากฏตัวในเรื่องนี้ค่ะ

เรื่องราวเป็นการเล่าเรื่องที่เกี่ยวเนื่องจากชาติก่อนระหว่างชัยยะนาคา วินตะกะ (พญาครุฑ) และกัลยา (มนุษย์) ผู้เลื่อมใสในพระธรรม และการเลื่อมใสในครั้งนี้ก็นำมาซึ่งกรรมที่ผูกติดตามมาจนในโลกปัจจุบัน

ชัยยะนาคา ในเล่มนี้ได้เกิดเป็นมนุษย์ลูกของเธียรและรอยจันทร์ ชื่อ รอยเธียร (ลุย) ด้วยรูปลักษณ์ของพญานาคได้ส่งผลถึงในโลกมนุษย์เป็นบุรุษรูปงาม พี่ลุยจึงเป็นเป็นดารามีชื่อเสียง

วินตะกะ พญาครุฑ ที่เกิดมาเป็น พยุหะ โปรดิวเซอร์หนุ่ม

ทั้งพญานาคและพญาครุฑทั้งสองต่างต้องเกี่ยวพันกันกับกัลยา มนุษย์ธรรมดาที่อยากพบเจอพระพุทธเจ้า เนื่องจากความเลื่อมใส ทั้งสองจึงพยายามช่วยหญิงสาวเพื่อให้บรรลุตามความปรารถนา และหญิงสาวคนนั้นก็คือ มัชฌิมา ในโลกปัจจุบัน เพราะความผูกพันนำพาทั้งสามกลับมาพบกันอีกครั้ง และแก้กรรมที่ตามมาจากอดีต

ในเรื่องนี้ทำให้เข้าใจถึงสังขารไม่เที่ยง ความหลงในกิเลสของคำว่าอำนาจ เกิดเป็นความหลงผิด สูญเสียสิ่งที่เป็นความตั้งมั่นดั้งเดิมไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมนุษย์ทุกคนยามเมื่อเข้าสู่ภาวะดังกล่าว มักจะไม่รู้ตัว เรื่องนี้จะทำให้เราตระหนักในเรื่องนี้ค่ะ แต่ด้วยความดีงามทั้งปวง จุดอ่อนเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักความผูกพัน ซึ่งตอนอ่านความรู้สึกอยากให้ตัวละครไม่ต้องคู่กันเลยก็ได้ เพราะเรื่องราวก็ไม่ได้ชี้นำไปทางนั้นเท่าไหร่นัก เลยหักหนึ่งดาวค่ะ สรุป ความสนุกคงเดิม เนื้อเรื่องน่าสนใจค่ะ ใครชอบแนวนี้ห้ามพลาดค่ะ

ปล. จะต้องมีภาคต่อแน่นอนค่ะ เพราะเรื่องทิ้งทวนไว้เกี่ยวกับชัยยะนาคา และสิงหานาคราช
Displaying 1 - 5 of 5 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.