ใต้รอยกรีด It's All About The Cut

by สินฝ้าย

"โรคบุคลิกภาพแปรปรวนชนิดก้ำกึ่ง (Borderline Personality Disorder : BPD)" เป็นโรคที่มุ่งเน้นไปยังเรื่องราวของอารมณ์และความสัมพันธ์ โรคนี้เป็นปัญหาอย่างมากในเรื่องความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะระหว่างคนรัก.. ครอบครัว.. หรือเพื่อนร่วมงาน.. "ผู้ป่วยโรคนี้เหมือนกลัวที่จะรัก และเมื่อรักก็กลัวที่จะจากลา กลัวการถูกทอดทิ้งอย่างรุนแรง และพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดการจากลา มักเสียใจแทบสิ้นสติ และเตรียมพร้อมที่จะตาย.. เมื่อความสัมพันธ์นั้นได้หายไปจริง ๆ จึงคอยทดสอบความรัก ทำร้ายจิตใจคนรอบข้าง มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง!"

"ใต้รอยกรีด It's All About The Cut" เล่มนี้ เป็นเรื่องเล่าจากชีวิตจริงของผู้ป่วยโรค "Borderline Personality Disorder" และโรค "Major Depressive Disorder" ที่ตอนนี้ได้ก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจมาได้ และพร้อมที่จะเป็นทั้งเพื่อนและกำลังใจให้กับผู้ที่เป็นโรคนี้เช่นเดียวกัน..

คำนิยม
"เป็นการเดินทางบนตัวอักษรที่หลากอารมณ์มาก มีจุดให้คิดย้อนกลับ หลายตำแหน่งที่ต้องอ่านทวน การเล่าที่ลื่นไหล เห็นภาพเป็นฉาก ๆ สะท้อนความคิดในมุมที่ผมคิดไม่ถึง บางเรื่องตกใจ บางเรื่องเศร้าใจ บางจุดเดาต่อไม่ถูก และบางเรื่องผมต้องรีบเอาไปแก้ไขในวงการแพทย์ ผมอยากชวนนักจิตวิทยาเด็กมาอ่าน ว่าจะทำอย่างไรกับระบบการศึกษาไทย อ่านแล้วผมรู้สึกว่า มีอะไรต้องทำต่อมากมาย"
พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ
- เลขาธิการแพทยสภา

"เป็นตัวอักษรที่เปิดเผยและจริงใจที่สุด จากผู้ป่วยจิตเวช ระหว่างอ่านผมลืมไปเลยว่าที่ถือในมือคือหนังสือ ผมเผลอคิดว่ากำลังนั่งดูหนังดราม่ารางวัลลูกโลกทองคำอยู่ ภาพของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชีวิตอย่างไร้ชีวิต พาผมจมดิ่งลื่นไหลไปกับเรื่องราวของเธอ ทั้งอึดอัด สงสาร สมเพช สมน้ำหน้า หลากหลายอารมณ์ที่ประดังเข้ามาไม่หยุด แต่สุดท้าย สิ่งที่ผมทำหลังจากอ่านเรื่องนี้จบคือ เดินเข้าไปกอดภรรยาแล้วบอก..."รัก" "
พัลลภ สินธุ์เจริญ
- นามปากกา "บัวไร"

160 pages

Published January 1, 2019

Reviews

[Natthiya Thanaphiwatphokin · Rating 5 out of 5]

เป็นหนังสือที่ pre-order (ปกติไม่เคยนะ)
ได้หนังสือก่อนมีงานเปิดตัวที่งานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 47 1 วัน
และเริ่มอ่านในวันที่สินฝ้ายไปเปิดตัวพอดี
หลังอ่านจบก็พบสิ่งที่ทำให้หยุดคิดได้หลายอย่าง
ทั้งเรื่องของอาการผู้ป่วย...BPD เชื่อว่าหลายคนไม่รู้จัก(ก่อนอ่านก็ไม่รู้จักเช่นกัน)
ส่วนตัวก็กำลังเริ่มพยายามศึกษาเกี่ยวกับอาการป่วยหลายๆ อย่างจำพวกโรคซึมเศร้า
เพราะคิดว่าตัวเองก็อาจเป็นแต่ยังพอควบคุมตัวเองได้
(แต่คิดว่าอีกไม่นานคงต้องไปพบแพทย์แล้วล่ะ)
เล่มนี้เป็นเหมือนไกด์ไลน์ว่าฉันใกล้เข้าจุดๆ นั้นแล้วนะ
และทำให้คิดว่าไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอายที่จะรักษาอีกต่อไป
(เล่มนี้เป็นเล่มที่ 2 ที่เกี่ยวกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่เราอ่าน)
สิ่งที่สินฝ้ายได้บรรยายทำให้เราคิดว่าเราไม่อยากไปถึงจุดๆ นั้น
เราต้องรักษา...ไม่ใช่เพื่อใครแต่เราต้องทำเพื่อตัวเราเอง

[Nan · Rating 5 out of 5]

อ่านเพลิน ๆ ดี รู้สึกเข้าใจคนที่เป็นโรค BDP มากขึ้น เกิดความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ทำให้ฉุกคิดเรื่องการที่หลายคนไปตัดสินคนจากสิ่งที่เค้าแสดงออกมาโดยไม่ทราบความจริงถึงเหตุผล แม้บางอย่างในเรื่องมันอาจจะดูไม่สมเหตุผลบ้างถ้ามองจากมุมมองคนไม่ได้เป็นโรค แต่ก็ทำให้เข้าใจเค้ามากขึ้น แล้วก็แอบเศร้าไปกับบางเหตุการณ์ในเรื่อง สุดท้ายรู้สึกว่าคนเขียนแข็งแกร่งมากที่ผ่านช่วงชีวิตที่เจ็บปวดมาได้

[Rajita P. · Rating 4 out of 5]

4 ดาวเป็นค่าเฉลี่ย จากสามดาวของผลงานในเชิงวรรณกรรม และห้าดาวในความกล้าหาญที่จะเปล่าเปลือยความจริงในชีวิต ในฐานะครูของใครอีกหลายคนที่จะได้ประโยชน์จากการอ่านเล่มนี้ และสำหรับภาพวาดภายในเล่ม ที่คุณสินฝ้ายวาดเอง มันงดงามมาก

[Benchaphorn Thammathorn · Rating 3 out of 5]

ขอบคุณสินฝ้ายในความกล้าที่จะออกมาเขียนถึงสิ่งที่อยู่ลึกๆในใจ แต่เอาจริงๆเลย คิดว่าเค้ายังบอกไม่หมด อ่านไปก็ยังสงสัยว่าตรงนี้คืออะไรนะ ตรงนั้นคืออะไรนะ ทำไมแฟนคนแรกถึงทนคบกับเค้ามาได้นานมาก เนื้อหาก็เลยสะท้อนมุมมองตาม BPD อยู่จริงๆ นี่เชื่อว่าหมอเจ้าของไข้น่าจะพยายามเทอราปี่แล้ว เพราะจะกินแค่ยามาตลอดจริงหรอ … ได้เห็นมุมองคนไข้นั่นแหละ

[GleeGMJournal · Rating 4 out of 5]

*ฟังหนังสือเสียงบน Storytel ความยาว 2:50 ชม.*

หนังสือเรื่องเล่าจากผู้ป่วย BPD โดยตรง เนื้อหามีความ Insightful, Heart-wrenching พอสมควร
ฟีลเดียวกับหนังสือ Reasons to Stay Alive ที่เจ้าตัวเล่าถึงสิ่งที่เขารู้สึกในหัว(และการกระทำของเขา) แต่ใช้การเล่าเรื่องด้วยลำดับซ้ายไปขวา ในขณะที่เล่มหลังเล่าหัวข้อกระโดดไปกระโดดมาประหนึ่ง Flashback อีกทั้งหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่ดิบ ดิบในระดับที่พาสะดุ้งและนิ่งในบางช่วงของหนังสือเลยทีเดียว

สุดท้ายท้ายสุด ดีใจกับคนเขียนที่ได้ค้นพบโมเมนต์ปิ๊งแว็บบางเรื่องรวมถึงสามารถปลดล็อคบางสิ่งในหัวใจได้แล้ว
ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ตรงของเธอและถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ลงบนตัวหนังสือ

[Phornnaphat Yannarat · Rating 4 out of 5]

อ่านสนุกและเพลินมาก เนื้อเรื่องลื่นไหล เหมือนได้เข้าไปอยู่ในเรื่องจริงๆเลย ความรู้สึกขณะอ่าน บางช่วงก็ดิ่งๆไปเลย เข้าใจความรู้สึกคนที่เป็นโรคมากขึ้น