อย่าปล่อยให้สิ่งของยึดครองโต๊ะทำงานคุณ

by Tadashi Tsuchihashi, นพัฒน์ หัทยานันท์ (translator)

ความลับของการจัดโต๊ะที่คนทำงานเก่งต่างรู้

•เอกสารที่คั่งค้าง คือสัญญาณว่าคุณทำงานไม่เป็น

•ปากกาที่มากไป แสดงว่าคุณใส่ใจอุปกรณ์มากกว่าผลงาน

•To Do List คือความล้มเหลวของระบบจัดการของสมอง

•เพิ่มพื้นที่ให้โต๊ะทำงาน = เพิ่มพื้นที่ให้สมอง

ทซึจิฮะชิ ทะดะชิ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอุปกรณ์เครื่องเขียน เปิดเผยความลับการจัดสิ่งของและโต๊ะทำงานสไตล์มินิมัลซึ่งจะช่วยให้รู้สึกโล่งสบาย และใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นหลายเท่า ดังนี้

•แยก “การนำมาใช้” กับ “การจัดเก็บ” ออกจากกันอย่างชัดเจน

•ประยุกต์พื้นที่แคบๆ ให้ดูกว้างขึ้น

•เลือกสมุดแพลนเนอร์แบบรายเดือนให้เหมาะกับตัวเอง

•จดโน้ตให้อ่านเข้าใจง่ายและทำตามได้ทันที

Genres: How To

166 pages, Paperback

First published June 1, 2019

Reviews

[Thanawat · Rating 4 out of 5]

ใครคิดจะเริ่มสมาทานไลฟ์สไตล์ แบบมินิมอลิสต์ (Minimalist) หนังสือเล่มนี้เป็น 'เล่มแรกๆ' ที่เหมาะเลย

'อย่าปล่อยให้ของยึดครองโต๊ะทำงานของคุณ' เป็น Minimalist 101 ที่บอกเลยว่าถ้าคุณสนใจจะเป็น minimalist เอาเล่มนี้ไปอ่าน แล้วเริ่มไลฟ์สไตล์ใหม่ได้เลย ในห้องทำงานของคุณเอง

'อย่าปล่อยให้ของยึดครองโต๊ะทำงานของคุณ' จริงๆ แล้วคือ How to stay organized นั่นแหละ แต่ให้เริ่มแบบ step-by-step จากที่ที่จัดการง่ายที่สุดคือโต๊ะทำงาน

ให้คำแนะนำแบบ Call-for-action คือลงมือทำตอนนี้ซะ…

ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเอกสารด้วยระบบ 'ใช้จริง-สแกน-เก็บ-ทิ้ง'
ซึ่งหลักการที่อยู่ในหัวตลอด และต้องยึดให้มั่น ไม่ใช่ทิ้งดะไปทุกอย่าง คือ 'ทิ้ง' กับ 'จัดการ' นั้นแตกต่างกัน 'ทิ้ง' คือการปล่อยมือจากสิ่งของที่ไม่จำเป็น ส่วน 'จัดการ' หมายถึงการจัดการสิ่งต่างๆ ให้เข้าที่อย่างเรียบร้อย

หนังสือเล่มนี้ไม่ได้มาแบบนามธรรมจับต้องไม่ได้ แต่มาแบบ to-do แถมยังประกอบด้วยคำแนะนำแบบ "ใช้อันนี้สิ มันเรียบง่ายและมินิมอล" อยู่ตลอดทั้งเล่ม เพราะมีอุปกรณ์เครื่องใช้ในโต๊ะทำงานแบบตัวเป็นๆ มาให้เห็นเป็นรูปภาพเลย ว่าผู้เขียนเองใช้อะไรในการ organize จัดระเบียบโต๊ะตัวเอง (ซึ่งอ่านแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าผู้เขียนโฆษณาแอบแฝงขายของนะ เพราะของที่เอามาโชว์ก็หาได้ทั่วไป เอายี่ห้ออื่นมาทดแทนได้)

นอกจากนี้ยังมี Getting things done (GTD) ตามสไตล์ผู้เขียน
ที่ชอบมากคือการทำ to-do list ในแต่ละวันด้วยตารางเวลาแบบหน้าปัดนาฬิกาแอนะล็อก ถ้านึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงนาฬิกาของเด็กๆ ที่แปะเอาไว้ตรงหน้าปัดว่า "เวลาอาหารเช้า", "เวลาดื่มนม", "เวลาเล่นเปียโน", "เวลาอาบน้ำ" ฯลฯ
ซึ่งมันช่วยให้จัดการ to-do list แบบให้ความสำคัญกับสัดส่วนเวลา และเห็นภาพได้ชัดว่าทำอะไร เวลาไหน ใช้เวลานานเท่าไหร่

ท้ายเล่ม ผู้เขียนเล่าให้ฟังในฐานะที่เป็นชาวมินิมอลิสต์ เวลาจะซื้อของ จะไปเที่ยว จะใช้เวลาว่าง นี่มีหลักคิดยังไงบ้าง

ตัวเล่มหนังสือเองก็ตอบโจทย์มินิมอล เพราะกระชับ ไม่ยืดเยื้อ เล่มเล็กบาง พกพาง่าย อ่านแล้วได้ไอเดีย

อย่างที่บอกไปแล้วข้างต้นว่า เล่มนี้เป็นเหมือน Minimalist 101
แต่ใครที่มินิมอลิสต์อยู่แล้ว จะมาอ่านเอาไอเดียมินิมอลๆ ไปใช้ก็ได้นะ
สายมินิมอลิสต์จะรู้กันดีว่า เราชอบแชร์ไอเดียความมินิมอลกัน

[Mirai · Rating 4 out of 5]

"ความลับของการจัดโต๊ะที่คนทำงานเก่งต่างรู้"

คู่มือสำหรับการจัดโต๊ะทำงาน ฉบับมินิมัลลิสต์ (Minimalist) โดยเฉพาะ ซึ่งผู้เขียนจะพาเราไปปรับเปลี่ยนความคิดของเราเพื่อให้เราดำรงชีวิตด้วยการยึดเอาความเรียบง่ายเป็นพื้นฐาน เลือกเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริงๆ และคัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป โดยนำแนวคิดนี้นี้มาปรับใช้กับการจัดโต๊ะทำงานของเรา

มองเผินๆ เหมือนหนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือการจัดโต๊ะไม่ให้รกธรรมดาๆ แต่ความจริงมันมีอะไรมากกว่านั้น มันเป็นคู่มือการจัดเก็บข้อมูลและอุปกรณ์สำหรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เขียนจะให้คำแนะนำในเรื่องการจัดเก็บเอกสารและข้อมูลต่างๆ อย่างเป็นระบบ รวมถึงการจัดวางอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ บนโต๊ะทำงานเพื่อให้ง่ายต่อการหยิบมาใช้ โดยยกเอาประสบการณ์ของตัวเองมาเป็นตัวอย่างให้เราเห็นภาพ (ในเล่มมีภาพประกอบด้วยนะเออ) แถมมีการแนะนำอุปกรณ์และเครื่องเขียนที่เหมาะกับการใช้งานรูปแบบต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคการบริหารเวลาและทริคการใช้ชีิวิตแบบเรียบง่ายสไตล์มินิมัลลิสต์ด้วย

สำหรับเรา เล่มนี้ก็โอเคอยู่นะ โดยเฉพาะพวกเทคนิคการจัดเก็บข้อมูลรูปแบบต่างๆ และการเลือกกำจัดเอกสารที่ไม่ใช้แล้ว พอลองเอาเทคนิคต่างๆ ไปลองใช้ดู เอกสารบนโต๊ะ(และในตู้) ก็หายไปพอสมควร พอโต๊ะโล่งและอะไรหลายๆ อย่างเข้าที่เข้าทางก็อยากทำงานมากขึ้น 5555555 แต่บรรดาเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ผู้เขียนแนะนำ ยอมรับว่าน่าสนใจมาก แต่ที่เมืองไทย เราไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีขายเลย แต่บางอย่างราคาแพงอยู่ เราเลยลองนำอย่างอื่นมาปรับใช้ทดแทนกันไปก่อน มันก็พอไปได้อยู่นะ 55555

[Kanthida Ann · Rating 4 out of 5]

1.ได้เห็นข้อดีของการวางแผนชีวิตให้เป็นระเบียบ เราจะมีเวลาไปทำเรื่องที่สำคัญอย่างอื่นได้อีกเยอะ
2.พื้นที่ว่างบนโต๊ะนั้นสำคัญ ช่วยให้ความคิดของเราไม่ยุ่งเหยิงและโฟกัสที่งานของเราได้ดีขึ้น
3.การไหลเวียนของเอกสารเป็นระบบที่ดี เพราะเราก็มีปัญหาเรื่องเอกสารเยอะมากเกินไป+ไม่จำเป็นอีกตังหาก เก็บไว้ทั้งหมด จะทิ้งก็ไม่กล้าทิ้ง

[Mam · Rating 3 out of 5]

เล่มนี้ค่อนข้างเขียนไปในเชิงผู้เขียน ซึ่งสุดโต่งไปเสียหน่อย อาจจะไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับตัวเองได้ และแนะนำสินค้าในเล่มก็เป็นยี่ห้อของญี่ปุ่น ถ้าสำนักพิมพ์เพิ่มเติมของที่ซื้อในไทยได้ น่าจะดีกว่านี้

[Jay Sujjaruk · Rating 5 out of 5]

หนังสือดีมาก ได้แนวทางในการบริหารเวลา ลงรายละเอียดถึงขั้นการวางแผนว่าใช้ planner ตาราง การบันทึกโน๊ตชนิดไหน ส่วนตัวการวางแผนประจำวันด้วย Note เป็นรูปหน้าปัดนาฬิกา ลองใช้แล้วดีมากๆ