เมื่อความตายทำให้เราพบกัน When we dead

by Rtima

คาลวินสงสัยเรื่องเวลา เขาแปลกใจที่โลกหลังความตายมีดวงอาทิตย์ขึ้นและตกด้วย แต่ที่นี่ไม่มีดวงจันทร์หรือดวงดาว เวลากลางคืน ท้องฟ้ากลางคืนจึงเป็นอะไรที่ว่างเปล่า — ว่างเปล่าเกินไป

คาลวิน​ มิลเลอร์ ไม่เคยคิดว่าพ่อของเขาจะรอดจากสงคราม​ เมื่อตายแล้วสิ่งแรกที่เด็กชายทำจึงเป็นการตามหาพ่อในโลกหลังความตาย​ ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนใหม่​ ลัมแบร์ท ฟรังค์

Genres: Fiction, Fantasy

140 pages, Paperback

Published October 1, 2019

Reviews

[Pookkie Patkum · Rating 2 out of 5]

อ่านรวดเดียวจบ เนื้อหาก็ตามชื่อเรื่อง เด็กชายที่ตายแล้วตามหาพ่อที่ตายแล้วโดยมีน้าผีคอยช่วยเหลือ

สิ่งเดียวที่รู้สึกคือ สงครามไม่เคยมีอะไรดีเลยแต่มนุษย์ก็ยังทำสงครามอยู่

เล่มนี้นข.บอกปั่นภายในหนึ่งอาทิตย์ เรารู้สึกว่าถ้าให้เวลากับมันคงจะดีกว่านี้

[p. · Rating 2 out of 5]

เมื่อความตายทำให้เราพบกัน revolves around a dead 7-year-old British boy, Calvin, and his adventure in the afterlife world with a German man named Lambert. I've heard many good things about this novel and expected a lot, but to be honest, it didn't quite live up to my expectations. I do think the author's choice of language is very clever; it's simple and straightforward, making us feel like we're really following the thoughts of a 7-year-old. However, it is a double-edged sword too. Yes, it's true that this simple language style helps lighten the book's heavy themes like war and death, but it also ends up desentizing the readers to the entire story. I finished เมื่อความตายทำให้เราพบกัน not really feeling any strong emotions at all. When I read the characters' tragic backstories, it's like "yeah, that's severe," but I never actually FELT the severity of those situations in my bones. Another problem with this book is the (probably) unintentional eurocentrism. There are a handful of side characters in the book, and it's said that the afterlife world has every dead soul from all over the globe, but we are only shown white characters and their struggles. It's not like World War I only affected the whites either; POC also suffered from it as much, if not more. I believe it would've been a great addition if we got a POC side character in this too.
In short, I'm not saying เมื่อความตายทำให้เราพบกัน is a bad book. It just could've been better. Despite everything, I still admire the author for bravely writing what she wants to write instead of conforming to the trends of the market. The Thai book industry is way oversaturated with the same two genres, and we do need something a little different like this one!

[Mirai · Rating 3 out of 5]

ภายหลังจากที่ "คาลวิน" ตาย สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากรับรู้ว่าตัวเองมาอยู่ในโลกแห่งความตาย นั่นก็คือ การตามหาพ่อที่เสียชีวิตจากสงคราม ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนใหม่อย่าง "ลัมแบร์ท"

เห็นคนพูดถึงความดีงามของเล่มนี้กันเยอะ เราเลยต้องหามาอ่านตามกระแสบ้าง 55555

เป็นหนังสือที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านวรรณกรรมเยาวชนที่มีตัวละครเอกเป็นเด็กหลุดเข้าไปอยู่ในโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้ยเคย ได้ผจญภัยครั้งใหญ่ ได้เจอกับเพื่อนใหม่(และเพื่อนเก่าหน้าเดิมนิดหน่อย 5555) และที่สำคัญสุดคือ การได้เรียนรู้ถึงการมีชีวิตอยู่

เป็นหนังสือที่เล่าถึงโลกหลังความตายได้อย่างสนุก และไม่น่ากลัว ถึงโทนเรื่องฟังดูเหมือนจะเศร้าสลดและหดหู่ แต่กลับไม่รู้สึกเช่นนั้น เรารู้สึกว่าเล่มนี้คือหนังสือว่าด้วยการผจญภัยที่สนุกสุดเหวี่ยงโดยมีเป้าหมายคือการตามหาพ่อของเด็กน้อยเท่านั้น เรื่องราวมีแค่นั้นเลย!

ผู้เขียนเล่าเรื่องด้วยภาษาเรียบง่าย เข้าถึงไม่ยาก สลับเล่าอดีตกับปัจจุบันได้อย่างลงตัว ไม่ทำให้รู้สึกสะดุดหรือติดขัดเลยแม้แต่น้อย อ่านแล้วรู้สึกเอ็นดูเจ้าหนูคาลวินผู้ใสซื่อ แถมเพื่อนใหม่อย่างลัมแบร์ทก็ใจดี๊ใจดี พลอยทำให้เราคอยลุ้นคอยเอาใจช่วยตลอดการเดินทางว่าจะหาพ่อเจอสำเร็จมั้ยน้าาา

แต่ว่าเล่มนี้บางไปหน่อยนะ ยังอ่านไม่จุใจหรือถึงจุดอิ่มตัวเลย ทุกอย่างก็จบลงเสียก่อน แต่ก็ยังรู้สึกคุ้มค่าที่ได้หยิบเล่มนี้มาอ่านค่ะ :)  

[เมื่อฉันรีวิวหนังสือ · Rating 5 out of 5]

เรื่องย่อ: ‘คาลวิน มิลเลอร์’ ตื่นมาแล้วพบว่าตนตายแล้ว และตนเองก็กำลังอยู่ในโลกหลังความตาย แทนที่เขาจะรู้สึกกลัวหรือสิ้นหวัง เขากลับตัดสินใจทำภารกิจที่เขาตอนมีชีวิตไม่สามารถทำได้ นั้นก็คือการตามหาพ่อที่หายไปในโลกหลังความตาย อาศัยความช่วยเหลือจาก ‘ลัมแบร์ท ฟรังค์’ โครงกระดูกที่เขาบังเอิญเจอตอนอาศัยอยู่ในโลกนี้ คาลวินจะหาพ่อของเขาเจอหรือไม่? เรื่องราวตอนมีชีวิตอยู่ของคาลวินและลัมแบร์ทเป็นอย่างไร? เรื่องราวก็ผจญภัยในโลกหลังความตายของเด็กหนุ่มและโครงกระดูกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

👉 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนโดนมี setting เมื่อปี 1914 สมัยสงครามโลกทำให้ในเล่มจะมีการพูดถึงเหตุการณ์ในสงคราม ความเกลียดชัง หรือแม้กระทั่งความคิดชาตินิยมใส่มาด้วย แต่ถึงอย่างนั้น mood and tone ของเรื่องกลับไม่ได้หนักมาก ตรงกันข้ามมันกลับเป็น mood เป็นอ่านสบายๆ พร้อมลุ้นไปกับการเดินทางของตัวละครมากกว่า ซึ่งนี่ว่าเอาจริง story การผจญภัยในเรื่องที่สนุกดีเลยแหละ อ่านแล้วทำให้คิดเลยว่าถ้าเรื่องนี้มีทำเป็นการ์ตูนหรือหนังสือภาพน่าจะสนุกดี

ใครชอบรีวิวแบบนี้ฝากตาม bookstagram ของเราด้วยนะคะ 👉 https://instagram.com/read_zaaps?utm_...

[Afew* · Rating 3 out of 5]

เรื่องราวของเด็กชายตัวน้อยในโลกหลังความตายกับการพยายามตามหาพ่อของเขา
เป็นYA ที่อ่านง่าย น่ารักปนเศร้า ทั้งยังพยายามนำเสนอพิษของสงคราม ถ้าเราอ่านในสมัยมัธยมคงจะชอบมากแน่ๆ

[Mymoon Thg · Rating 2 out of 5]

เด็กที่ตายแล้ว อยู่ในโลกหลังความตาย ตามหาพ่อที่ตายในสงคราม มีคนช่วยเหลือ ที่อาจเป็นเหตุของการตายของตัวเอง
อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ point ว่าจะให้รู้สึกไปทางเวย์ไหน เศร้า ดีใจ อบอุ่นใจ ทุกอย่างรู้สึกน้อยกว่าคำว่าครึ่งๆกลางๆอีก
หรือจะหมายถึง การได้เติมเต็มส่วนของชีวิตที่ขาดหายไปของแต่ละตัวละครหรอ

[Smzax · Rating 5 out of 5]

การตายไปก็เหมือนว่าเรายังไม่หมดไปจากโลกจริงๆ

[Pawarut Jongsirirag · Rating 3 out of 5]

สนุกเเบบเพลินๆดีครับ

ผมชอบองค์ประกอบของเรื่องที่รู้สึกว่ามันมีพลังในการสานต่อไปทำเป็นหนังไม่ก็อนิเมะซักเรื่องหนึ่ง

ตัวเอกที่เป็นเด็ก เพื่อนร่วมเดินทางที่ซึนๆหน่อยเเต่ก็เป็นเหมือนองค์รักษ์ของตัวเอก เซทติ้งโลกในอังกฤษช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ซ้อนทับกับโลกหลังความตายที่ดูจะไม่ได้เเตกต่างกันนัก เเค่ชาวเมืองกลายเป็นโครงกระดูกเเทนเเค่นั้นเอง

พล็อตการผจญภัยเพื่อตามหาอะไรซักอย่าง ซึกในเรื่องคือการตามหาพ่อของ คาลวิน ว่าพ่อเขาซี้ไปเเล้วจริงๆมั้ย เห็นไปรบเเล้วหายเลยไม่กลับบ้าน เกิดเป็นการเดินทางในโลกหลังความตายที่ไม่ได้เเตกต่างจากโลกของคนเป็นเท่าไหร่เลย ผสมกับการต่อสู้ พบเจอตัวร้าย สหายใหม่ๆ เเละความปั่นป่วนเล็กๆน้อยให้พอตื่นเต้นบ้าง ไม่ใช่เดินไปข้ามหมู่บ้านเเล้วเจอพ่อเลย (ฮา)

เเต่ผมเสียดายนิดๆว่ามันดันขาดองค์ประกอบอีกอย่างไป ไม่งั้นจะโอเคกว่านี้ คือ พัฒนาการของตัวละคร จากต้นเรื่องยันจบ ผมไม่รู้สึกว่าตัวละครได้อะไรรหือเปลี่ยนเเปลงไปจากเดิมนัก โอเคมีการคลายปมนิดๆๆๆๆๆๆๆบ้าง เเต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเนื้อเรื่องนอกจากเพิ่มความขราม่าขัดเเย้งเล็กน้อยให้มีสีสัน เเต่ก็อาจเป็นเพราะว่ามันเป็นนิยายเล่มเล็ก เดินเรื่องด้วยบทสนทนาเเบบไล?ืโนเวล เลยไม่ได้มีพื้นที่ขยายเนื้อเรื่องให้ลึกมากขึ้นนอกจากการเดินเรื่องไปข้างหน้าอย่างเดียว

อ่านได้เพลินๆในช่วงต้นปีที่ลมหนาวพัดผ่านมาเยือนกรุงเทพ ซึ่งก็โป๊ะเชะว่าเนื้อเรื่องจบลงในช่วงฤดูหนาวพอดี อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้กันน้า

[WipaweeNil · Rating 4 out of 5]

อ่านแล้วก็อบอุ่นหัวใจปนเศร้า

[loonchies · Rating 5 out of 5]

เรื่องราวของเด็กหนุ่มตัวน้อยที่มั่นใจว่าพ่อตายแล้วในสงคราม เมื่อตัวเองตายจึงกำเนิดภารกิจตามหาพ่อในโลกหลังความตายด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนใหม่ที่เจอ
...
มันมีคำพูดบางอย่างที่คิดว่านักเขียนคิดได้ดีนะที่เอามาใส่ไว้ให้ตัวละครเด็กคนนึง ที่ไม่ได้รู้อะไรแล้วก็สงสัยถึงการมีอยู่และความเป็นไปของบางสิ่ง หรือสิ่งที่เด็กคนนั้นสังเกตได้ เล่าแบบเป็นเรื่องธรรมดา ๆ ในชีวิต เรื่องปกติที่ไม่น่าแปลกใจที่จะเกิดขึ้น

หนังสือไม่ได้อธิบายอะไรต่อหรือขยายความมากมาย ก็แค่เล่าเรื่องในมุมมองหรือสิ่งที่ตังละครนั้นพบเจอ

แต่เรากลับรู้สึกว่าแค่ประโยคสั้น ๆ ไม่กี่คำกลับทำให้เรามีจังหวะเอ้ะในใจจนต้องครุ่นคิดอยู่ช่วงนึงเลย คำพูดและข้อสงสัยของตัวละครมันสะกิดอะไรบางอย่าง

อาจจะเป็นเพราะตัวละครเล่าด้วยความไร้เดียงสา
แต่เราคนอ่านที่รู้อะไรมากกว่ากลับพูดอะไรไม่ออกเลย
...
คนเขียนตั้งใจให้เราคิดรึเปล่าก็ไม่รู้
แต่มันมีบางจุดที่ประทับใจที่เขาเขียนให้เรื่องที่ดูไม่มีอะไรแต่จริง ๆ อาจมีบทบาทมากอย่างคิดไม่ถึงในชีวิตเรา
บางทีเราอาจจะเป็นแบบนั้นเข้าสักวันก็ได้
กรอบความคิด ชุดข้อมูลบางอย่าง ที่เขาอยากให้เรารับรู้ และปฏิบัติไปตามสิ่งนั้น
...
ถ้าเขียนทุกอย่างก็จะสปอยล์แน่เลย
แต่ถ้าจะให้พูดสั้น ๆ ก็คือ “สงครามและความตาย” นี่แหละ
...
สั่งหนังสือเล่มนี้มาแบบงง ๆ เพราะชอบชื่อเรื่องกับหน้าปกในทวิตนึงที่ผ่านตา
อ่านแล้วประทับใจมาก ๆ
เป็นหนังสือนิยายเล่มแรกในรอบหลายปีที่จะให้ 5/5 ไปเลย ทำให้เราสัมผัสความรื่นรมณ์ของการอ่านหนังสือ นี่คือ masterpiece มีรางวัลก็อยากจะมอบให้เลย
เล่มไม่หนา แต่สำนวนดีจริง ๆ แม้จะเป็นเรื่องสั้น ๆ กลับส่งสารที่มีพลังเหลือเกิน
รู้สึกโชคดีมากที่ซื้อทัน
...
คือดีตั้งแต่ชื่อเรื่องละ
อ่านจบแล้วก็ย้อนกลับมาที่ชื่อเรื่อง
แล้วก็ไม่ผิดที่คิดไว้ว่า ตั้งชื่อได้เหมาะสมกับเรื่องราวจริง ๆ
ไม่ใช่แค่ตัวละครที่พบกัน
เรารู้สึกว่าในที่นี้ความตายก็ทำให้เราได้มาพบกับตัวละครกลุ่มนี้และได้รับรู้เรื่องราวของพวกเขาด้วยนะ

[moomooread · Rating 3 out of 5]

เรื่องราวผจญภัยของ "คาลวิน" เด็กน้อยชาวอังกฤษแสนน่ารักที่ลืมตามาอีกทีก็อยู่ในโลกหลังความตายซะแล้ว โชคยังดีที่คาลวินได้มาเจอกับ "ลัมแบร์ท" คุณโครงกระดูกที่ปากแข็งแต่ใจดี ที่เข้ามาช่วยแนะนำการใช้ชีวิตในโลกใหม่ใบนี้ (aka ฉันบอกนายแล้ว นายก็ไปให้พ้นๆ สักทีไอ้เด็กนี่!)

Setting ในเรื่องเป็นสงครามโลกครั้งที่ 1 มีประเด็นความขัดแย้งเรื่องตัวตน เชื้อชาติ และหน้าที่ ความขัดแย้งของสิ่งที่เราอยากทำ vs สิ่งที่รัฐบังคับให้เราทำ แต่ไม่ได้ลงลึกหรือดึงดราม่าหนักหน่วงเลย บวกกับโทนการพูดและความใส่ซื่อของคาลวินยิ่งทำให้ Setting นี้กลายเป็นเหมือนทุ่งหญ้าใน The Sound of Music เลยอะ อ่านแล้ว Uplifting อย่างบอกไม่ถูก แต่ก็เห็นถึงความพยายามที่จะแสดงผลกระทบของสงครามกับผู้คนอยู่นะ แต่อย่างที่บอกว่าพอโทนเรื่องค่อนข้างสดใส บวกกับเดินเรื่องฉับไว ประเด็นนี้ที่ก็ค่อนข้างเป็นประเด็นหลักในเรื่องเลยเบาลงไปด้วย

ที่เรารู้สึกว่าน่าสนใจเป็นพิเศษคือการ craft โลกหลังความตายขึ้นมา เรารู้สึกว่ามีสีสันดี โลกนี้แยกขาดออกจากโลกคนเป็น มีหลายโซนมาก แถมเป็นโลกที่ยังมีการใช้สกุลเงินแลกเปลี่ยน ตายปุ๊บได้เงินมาตั้งตัวด้วย เก๋ป้ะ

ปล. คุณผู้เขียนบอกไว้ท้ายเล่มว่าเดิมทีจะทำเป็นนิทานภาพ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจนำมาขยายแล้วทำเป็นนิยายสั้นแทน — แงงงงง คือส่วนหนึ่งเห็นด้วยว่าถ้าย่อเรื่องแล้วทำเป็นนิทาน หรือ graphic novel อาจจะสนุกกำลังพอดี แต่ก็แอบเสียดายเพราะ elements ในเรื่องที่น่านำไปขยายมันมีอยู่เต็มไปหมด ถ้าขยายเป็นนิยายฉบับยาวกว่านี้น่าจะกลมกล่อมพอดีขึ้นเยอะเลย

[Pear Sermma · Rating 5 out of 5]

โห ดีมากเล่มนี้ คิดไม่ผิดเลยที่ซื้อมา สามารถอ่านจบได้ภายในวันเดียว เพราะสนุกมาก ประทับใจมาก ชอบที่เล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างในโลกความตาย และโลกคนเป็น ตัวละคร คาลวิล มิลเลอร์ และลัมแบร์ท ทั้งสองคน ในเรื่องทำเราประทับใจมาก ภาพประกอบทั้งหน้าปกและในเล่ม สวยงาม ชื่อเรื่อง และคำโปรย เป็นสิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้มา แล้วพอได้อ่านจนจบ เรารู้สึกว่ามันช่างคุ้มค่าจริงๆ เผลอนึกไปถึงเรื่องตัวเอง หากเราสามารถหาใครสักคนในโลกหลังความตายได้แบบนี้จริงๆ วันนั้นเราคง ออกตามหาพ่อเราเหมือนกัน คิดถึงพ่อเหลือเกิน 🤍 [ ขอบคุณที่ทำหนังสือดีๆแบบนี้ออกมานะคะ ]

[mia · Rating 4 out of 5]

คาลวิน มิลเลอร์ เด็กน้อยที่เสียชีวิตโดยไม่รู้ตัวจนมาอยู่ในโลกหลังความตาย มาเจอกับลัมเบิร์ทและมีเป้าหมายตามหาพ่อของเด็กน้อยคนนี้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นวรรณกรรมเยาวชนเลยว่าได้ ถึงแม้ว่าจะเล่าถึงสงคราม (เพราะเป็นยุคสงครามโลกครั้งที่ 1) เป็นช่วงที่มีคนตายและโลกหลังความตายคึกคักมากที่สุดแหละ เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเพลินดี ปมไม่ซับซ้อน อ่านแล้วใจฟูด้วยความเอ็นดูเด็กน้อยคนนี้ มันทำให้เราเห็นถึง optimism ในตัวเด็กคนหนึ่งเลยแหละ

[KAOHOM · Rating 4 out of 5]

เรื่องสั้นเกี่ยวกับการผจญภัยในการตามหาผู้เป็นพ่อที่คาดว่าตายแล้วในสงครามในโลกหลังความตายของเด็กชายวัย 7 ขวบ

เรื่องนี้ออกแนวน่ารักใส ๆ ฟุ้ง ๆ ประมาณว่าเราอ่านด้วยฟิลเตอร์เด็กใส ๆ วัย 7 ขวบเท่าตัวหลัก ภาษาอ่านง่าย เนื้อหาไม่ดาร์ก (แต่มีชวนให้ขนลุกอยู่นิดนึง) แบบว่าเด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี เพราะเนื้อหาไม่ยาวมาก สามารถนำกลับมาอ่านได้บ่อย ๆ

[HonaNoon · Rating 5 out of 5]

เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆๆ ตอนที่ซื้อไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ซื้อเพราะโดนปกตก!!! แต่พอได้อ่านแล้วจะลุ้นมาก ต้องอ่านรวดเดียวเลย เป็นเรื่องที่สนุก เอาใจช่วงน้องคาลวินตลอดเวลา อยากให้น้องได้เจอแต่สิ่งดีๆ ถึงจะมีช่วงที่ๆเศร้าพอนึกได้ว่าน้องเสียชีวิตไปแล้วก็เถอะ แต่เรื่องนี้น่ารักมากๆจริงๆค่ะ รู้สึกว่าตอนให้เราตายไปแล้ว เราก็ยังมีเรื่องให้ทำต่ออีกนะ ใช้ชีวิตกันต่อไปค่ะ

[NN · Rating 3 out of 5]

วรรณกรรมเยาวชน ตัวดำเนินเรื่องเป็นเด็กทำให้มีกลิ่นอายต่างจากเรื่องงอื่นๆ ออกสไตล์ตะวันตกนิดๆ ((ซี่งชอบมากเปนการส่วนตัว)) เนื้อเรื่องน่ารัก สะท้อนสังคม ประวัติศาสตร์ พล็อตน่าสนใจ แต่แอบเดาทางได้อยู่พอประมาน ความตื่นเต้นเลยลดลงง โดยรวมประทับใจพอตัว ถึงจะคาดหวังไว้มากกว่านี้;;-;; ปกสวยมากก ใครอ่านนส.เยาวชนที่มีประเด็นแต่ไม่ได้หนักจนเกินไปก็แนะนำเบยย แต่ถ้าจะหาความแอคชั่นระทึกขวัญอาจจะต้องไปที่อื่น

[Woon · Rating 4 out of 5]

เป็นหนังสืออบอุ่นอีกเรื่องในแนวที่ชอบ ชอบทั้งลัมแบร์ททั้งคาลวินเลย ;-; แต่คิดว่ามีหลายจุดที่สามารถขยายได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะช่วง climax เรื่อง
แต่ก็รู้สึกว่าถ้ามองว่าสิ่งนี้เป็นเหมือน pilot episode ที่มี potential เยอะมากๆเลย หวังว่านักเขียนจะหยิบเรื่องนี้มาปัดฝุ่นและทำให้เรื่องมันกลมกล่อมได้มากกว่านี้

3.5 ดาวปัดขึ้น

[Nuinoh · Rating 4 out of 5]

การผจญภัยของเด็กน้อยผู้ตามหาพ่อโดยมีไอ้หนุ่มปากแข็งแต่ใจใหญ่เป็น คน(ผี) ที่คอยช่วยเหลือให้คาลวินไอ้เด็กหัวแข็งตามหาพ่อจนเจอ
.
เรื่องสั้นไปหน่อย อ่านแป๊บเดียวจบ แต่พอได้รู้สึกอุ่นๆในหัวใจ
.
สงครามทำให้ผู้คนล้มหายตายจากกัน แต่ความตายทำให้เราพบกันอีกครั้ง

[bolden · Rating 4 out of 5]

อ่านเสร็จเเล้ว1รอบ เรารู้สึกเฉยๆ เเต่ก็ตระหนักได้ว่าเรากลัวความตายมาก มันอ้างว้าง เเละไม่อยากให้เกิดเลย พูดถึงความตายเเล้วมันจะร้องไห้5555555 เหมือนความตายมันเข้ามาใกล้เราตลอดเวลาอะ จะตายเมื่อไหร่ไม่รู้ อย่างคาลวินก็ตายเพราะตกลงมาจากฟ้า ความตายมันอยู่ใกล้เรามาจริงๆ

[ボート • lilbbtpinbookland · Rating 4 out of 5]

ตอนแรกเตรียมร้องไห้เลย แต่ไม่ร้องแหะ เพราะความใสซื่อของเจ้าคาลวินที่เป็นตัวละครหลักทำให้อบอุ่นหัวใจ ไม่ทำให้หดหู่ แม้ว่าจะปนเศร้า จากสงคราม และการสูญเสียอยู่บ้างก็ตาม

ในเล่มมีการเล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างปัจจุบันที่ตายไปแล้ว กับตอนยังมีชีวิต ได้อย่างดี

[Ottoshi Intel · Rating 4 out of 5]

การผจญภัยในโลกหลังความตาย นิยายแนววรรณกรรมเยาวชน สนุกเพลิดเพลินกับจินตนาการหลังความตาย ตัวเอกตามหาพ่อ พบเจอผู้คนรู้จักที่ตายมาก่อน เจออุปสรรคกับการตามหาพ่อบนดินแดนอันโหดร้าย

เนื้อเรื่องหลักสนุกแต่เล่มบางไปหน่อยใส่อรรถรสบรรยายเพิ่มเติมจะสนุกเพิ่มมากขึ้น โดยรวมถือเป็นวรรณกรรมเยาวชนได้

[lottahpop · Rating 4 out of 5]

เรียบง่าย แต่ยังคงความสนุกและความเดียงสาเอาไว้

[Ning · Rating 4 out of 5]

4.5 เป็นเรื่องราวน่ารัก ๆ ที่อ่านแล้วชอบนะ ส่วนตัวมองว่าเป็นวรรณกรรมเด็กที่สอดแทรกประเด็นสงครามอะไรแบบนี้ได้ดี พล็อตไม่หนักจนเกินไป อ่านแล้วเพลิน

[pebployy · Rating 4 out of 5]

สนุก อ่านง่าย อ่านไม่ถึงวันก็จบแล้ว รวม ๆ คือชอบมากก;-;

[Jaejomae · Rating 5 out of 5]

ตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องที่แฟนตาซีทั่วไป แต่พออ่านแล้วค่อนข้างหดหู่กับตัวละครหลักที่ต้องพบเจอกับสงครามในอายุยังน้อย แต่ว่าการเล่าของคุณนักเขียนไม่ได้เล่าให้รู้สึกหดหู่จนเกินไปมีการเล่าที่ดูมีลูกเล่น ขำขัน เป็นเรื่องที่ทำให้รู้ว่าสงครามทำให้คนหลายคนต้องเจ็บปวดยังไงและมีคนที่ต้องเจ็บปวดเพราะสิ่งนั้นหลายคน แต่ในเรื่องก็จะมีมุมมองของทั้ง 2 ฝ่ายให้เราได้คิดตามไปกับตัวละครแล้วก็สนุกตรงที่ได้ลุ้นการผจญภัยไปกับตัวละครว่าจะเป็นยังไงจะเจอกับอะไร และก็การเสียชีวิตของน้องที่ตอนรู้ก็ค่อนข้างเศร้าเลย🥹

[belliophile · Rating 5 out of 5]

First, I underestimated sorry. It is great and emotional. I love it. 4.5/5