กลับมาเกิดใหม่เป็นซูเปอร์โมเดล เล่ม 1

重生超模 Rebirth of a Supermodel #1

by Mo Chen Huan, มั่วเฉินฮวน

ชาติก่อนหมิงอวี้เป็นนายแบบชาวจีนที่ฝ่าฟันไต่เต้าขึ้นมา จนไปดังทางยุโรป แล้วก็ป่วยตาย กลับมาเกิดในร่างของหมิงอวี้ นายแบบธรรมดาๆ และไต่เต้าจนมีชื่อเสียง และได้รับความสนใจจากสีเจ๋อ ซูเปอร์โมเดลอันดับหนึ่ง ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง หุ้นส่วนเอเจนซี่ เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง พาวเวอร์ฟูลสุดๆ หมิงอวี้ดีใจที่มาเกิดใหม่ คือโดยพื้นเขาไม่มีอะไรติดใจกับชีวิตก่อน ได้ใช้ชีวิตที่ดี ญาติพี่น้องก็ไม่มี ร่ำลาเพื่อนฝูงหมดแล้ว มาถึงชีวิตใหม่ จีนเป็นมหาอำนาจ วงการแฟชันเจริญรุ่งเรือง ว้าว! งั้นก็ขอแสดงพลังราชารันเวย์กับโลกนี้สักหน่อยเถอะ

Genres: Yaoi, Novels

Hardcover

Published February 1, 2020

About the author

Associated Names:
* Mo Chen Huan (English)
* 莫晨歡 (Chinese)
* มั่วเฉินฮวน (Thai)

Reviews

[Rada Chalapipat · Rating 4 out of 5]

สิ่งแรกที่ทำให้อ่านแล้ววางเล่มนี้ไม่ลงคือสำนวนการเล่าเรื่องที่สนุก เป็นกันเองแต่แฝงไว้ด้วยการเสียดสีรู้ทันท่ามกลางการแข่งกันของวงการนายแบบในประเทศ"หัวเซี่ย" หรือจีนซึ่งเป็นมิติคู่ขนานที่นายเอกอดีตsupermodel ในชาติก่อนได้มาเกิดใหม่ในร่างของ #หมิงอวี้ นายแบบดาวรุ่งหน้าสวยที่เคยเจิดจรัสในวัย 14ปีแต่ค่อยๆตกต่ำลงเพราะดื้อรั้นไม่เชื่อฟังผจก.และลุ่มหลงคลั่งไคล้นายแบบรุ่นพี่จนถูกหลอกให้รักและยกงานดีๆให้ ท้ายสุดเลยอกหักและกินยานอนหลับฆ่าตัวตาย

พล็อตหลักคือนายเอกที่ต้องการไต่เต้าไปเป็นสุดยอดนายแบบโลก โดยเริ่มจากเปลี่ยนแปลงการแต่งตัวที่ไม่มีสำตล์ของร่างเดิม ทำตัวเป็นน้องใหม่น่ารัก อ่อนน้อม มีน้ำใจ อัธยาศัยดี เชื่อฟังผจก. ทั้งที่ตัวจริงไม่ได้โลกสวยขนาดนั้น ใครดีด้วยคือตอลแทนบุญคุณ ใครร้ายใส่ต้องจัดการให้เด็ดขาดแบบไม่รู้ตัว นายเอกมีทักษะการโพสต์ท่าระดับท็อปที่ทำให้ช่างภาพและดีไซเนอร์หมายตาอยากได้เป็น"มิวส์" หรือแบรนด์แอมบ์ที่เป็นแรงบันดาลใจของตัวเอง หนึ่งในคนที่อยากได้นายเอกเป็นมิวส์และคนของตัวเองคือ #สีเจ๋อ นายแบบควบตำแหน่งประธานฝ่ายดีไซน์ของชุดหนูโอว์กูตูร์และหุ้นส่วนใหญ่บริษัทโมเดลลิ่งต้นสังกัดของนายเอก ด้วยความหล่อมีความสามารถและสูง 190ซม.ทำให้สีเจ๋อครองอันดับหนึ่งมานานแม้จะแทบไม่ยอมเดินแบบมานานหลายปี

เราชอบความเข้าถึงวงการนายแบบและสื่อโซเชียลแฟนคลับที่ทำได้ละเอียดกว่านิบายไทยหลายเรื่องที่เคยอ่าน บทบรรยายฉากถ่ายแบบหรือเดินแบบที่ดูเว่อร์ในความน่าทึ่งของนายเอกแต่ทำให้คล้อยตามได้ไม่ยาก ยังดีที่นักเขียนทอนความเจ๋งของเสี่ยวอวี้ให้ขำฮาดูเป็นคนธรรมดาลงบ้างด้วยการทำอาหารไม่เก่ง, ลายมือไก่เขี่ยและทักษะการแสดงติดลบ เช่นเดียวกับคาแรกเตอร์ของท่านเทพสีที่ตัวจริงคือผู้ชายเกรียน ปากร้าย ปั้นหน้าเย็นชาแต่มีมุขจิกกัดคนสนิทเป็นประจำ พระเอกรุกหนักแบบมีแผนมากเพราะน้องตัวแสบไม่ยอมอยู่ใต้เงาของคนที่อยากเอาชนะทั้งความสูงที่ต่างกัน 10ซม. และตำแหน่งสุดยอดนายแบบที่เริ่มจะขยับขึ้นทีละขั้น พระเอกหนุนหลังนายเอกออกนอกหน้าแต่ยังได้แค่ขโมยจูบหน้าผากในเล่มนี้ แต่ดูแนวโน้มเล่มต่อไปท่านเทพสีคงกินน้ำส้มหนักมาก โดยรวมแล้วอ่านสนุก มีคำผิดบ้าง ตัวละครสมทบน่ารัก ยังไม่มีดราม่าใดๆในเล่มนี้

[Uminaka16 · Rating 4 out of 5]

แนวเกิดใหม่ + วงการบันเทิง

เนื้อเรื่องคือการไต่เต้าจากนายแบบชั้นสามโนเนมไปสู่การเป็นซุปเปอร์โมเดลระดับโลก โดยอาศัยความสามารถของนายเอกในชาติที่แล้วที่เคยเป็นซุปเปอร์โมเดลมาก่อน อีกทั้งยังได้รับการผลักดัน (แบบลำเอียงมากๆ) จากพระเอกที่เป็นทั้งดีไซน์เนอร์ + ซุปเปอร์โมเดลอันดับหนึ่งของโลก + ผู้บริหารโมเดลบิ่ง (โพรไฟล์เว่อร์วังมาก) แล้วนายเอกจะไม่รุ่งได้ยังไง

เล่มแรกยังไม่ค่อยมีโมเมนต์อะไร สองคนยังไม่คบกัน พระเอกก็ค่าตัวแพงมากด้วย เรื่องราวส่วนใหญ่เน้นการทำงานของนายเอก

สิ่งที่ชอบ
๐ นายเอกมีจุดอ่อนบางอย่าง
๐ คำผิดน้อย
๐ ชอบ คสพ ของนายเอกกับ ผจก ส่วนตัว
๐ ปกสวย

สิ่งที่ไม่ชอบ
๐ พระเอกลำเอียง
๐ มุมมองพระเจ้า คนเขียนคุยกับคนอ่าน
๐ อีโมติคอน
๐ นายเอกซูเกิน
๐ ตัวละครที่ทำให้ร่างเดิมนายเอกฆ่าตัวตาย แทบไม่มีบทเลย ผิดหวังตรงนี้

[Nattapan · Rating 4 out of 5]

Engaging.​

If​ you​ used to​ appreciate​ a​ story​ like​ "This​ time​ Lucky in​ game, Lucky​ in​ love", you​ might​ like​ this​ one​ too.​

[Cherry Sawanya Munkongsujarit · Rating 5 out of 5]

เล่ม 1 :
หมิงอวี้ชาติก่อนเป็นซูเปอร์โมเดล พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในร่างใครก็ไม่รู้ เมื่อรวบรวมความทรงจำถึงรู้ว่าร่างนี้ก็ชื่อหมิงอวี้ หมิงอวี้รู้ว่านี่เป็นโลกอีกใบหนึ่ง เป็นโลกที่ตรงข้ามและแตกต่างกับโลกเดิม วงการแฟชั่นของที่นี่ก้าวหน้าไปอย่างมั่งคั่ง แล้วก็พบว่าเจ้าของร่างเดิมเป็นนายแบบคลั่งรักที่โดนสลัดทิ้งจากเฉิงซู่ที่ใช้ตัวเองเป็นบันไดไปสู่ความรุ่งเรือง หมิงอวี้จะยอมได้ยังไง ตอนนี้ก็ต้องเปลี่ยนตัวเองโดยด่วนและเริ่มทำความเข้าใจโลกนี้ให้เร็วที่สุด เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นนายแบบโนเนมอยู่ในบริษัทมิวส์ที่เป็นหนึ่งในสามบริษัทใหญ่ที่สุด หมิงอวี้ก็เริ่มทำสิ่งต่างๆเพื่อให้ตัวเองเป็นซูเปอร์โมเดลอีกครั้ง
หมิงอวี้เปลี่ยนลุคของตัวเองและบอกกับจ้าวรุ่ยผู้จัดการส่วนตัวว่าอยากเปลี่ยนตัวเอง งานที่เหลือตอนนี้คืองานถ่ายแบบนิตยสารชั้นสองของหัวเซี่ยตาพอหมิงอวี้มาเห็น นิตยสารแฟชั่น ไทม์ เอนเตอร์เทนเมนต์ มันหรูหราอลังการเกินกว่าจะเชื่อว่าเป็นนิตยสารชั้นสอง ครั้งนี้หมิงอวี้ไม่ได้ทำอะไรก็โดนคนเหม็นหน้า กลั่นแกล้งให้ใส่เสื้อไม่เข้ากับธีม แต่หมิงอวี้กลับทำได้ดีจนพี่หลัวช่างภาพชวนให้ไปร่วมงานด้วยเลยทีเดียว
เสื้อที่หมิงอวี้ใส่เป็นเสื้อที่ออกแบบโดยลูกสาวของอาจารย์เฟ่ยเจิ้นหนาน ช่างภาพระดับปรมาจารย์ ก็ขอถ่ายรูปของหมิงอวี้ไปให้ลูกสาวดู จะได้ไม่เป็นหนี้บุญคุณคนที่จะให้มาลองสวมจริงซึ่งก็คือสีเจ๋อนี่แหละ
หมิงอวี้ศึกษาข้อมูลแฟชั่นของโลกนี้ไปพอสมควรเพื่อเตรียมพร้อมในการเป็นนายแบบ ก่อนการไปเซ็นสัญญาที่นิตยสารคาแร็คเตอร์ ในที่สุดก็สามารถต่อรองได้สัญญาเหมือนกับอู๋อวี๋เจินกับหลิวเฉียนที่มีชื่อเสียงกว่า
สุดท้ายนายแบบคนที่สี่ยังเป็นจูเว่ยที่เขม่นหน้าหมิงอวี้ตอนถ่ายแบบครั้งที่แล้วอีก หมิงอวี้เข้าได้ดีกับอู๋อวี๋เจินและหลิวเฉียน
พอนิตยสารแฟชั่น ไทม์ เอนเตอร์เทนเมนต์ออก กว่าหมิงอวี้จะหารูปของตัวเองเจอก็เกือบสิบนาที รูปของหมิงอวี้มีขนาเล็กแค่สองนิ้วมุมล่างซ้ายที่ไม่มีคนสนใจ ส่วนรูปของจูเว่ยเป็นภาพใหญ่กลางหน้า เรื่องนี้ทำให้จ้าวรุ่ยเดือดสุดๆ อยากให้ฝ่ายพีอาร์ของบริษัทจัดการให้ก็ได้คำขออภัยเล็กน้อยและงานอื่นมากหน่อย แต่หมิงอวี้ไม่ยอม ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กให้เป็นประโยชน์ทำให้กระแสแรงมากจนผู้คนรู้จักหมิงอวี้มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นกระแสดังในโลกโซเชียลซะเลย
จูเว่ยมาทำดีขอโทษหมิงอวี้แต่หมิงอวี้ระวังตัวไว้อยู่แล้ว จนถึงตอนที่ไปเลี้ยงฉลองที่คลับรั่วซ่าง จูเว่ยวางแผนเล่นงานหมิงอวี้ แต่หมิงอวี้หลบไปได้และก็เจอสีเจ๋อ สีเจ๋อประหลาดใจมากที่เห็นหมิงอวี้ ทั้งยังช่วยเหลือหมิงอวี้อีกด้วย เพราะว่าสีเจ๋อรู้สึกว่าหมิงอวี้คือมิวส์ แรงบันดาลใจของเขาที่ตามหา ตอนนี้ต้องติดตามหมิงอวี้ซะหน่อยแล้ว
หมิงอวี้ได้งานแฟชั่นโชว์ของเผยเฟิง สีเจ๋อก็มาดูการเดินแบบของหมิงอวี้ด้วยถึงกับยิ้มเลยทีเดียว สีเจ๋อที่หน้านิ่งตลอดเวลาเนี่ยนะ เทพสีของชาวเน็ตนั่นแหละ หมิงอวี้ก็เดินได้ดีซะจนตัวหลักของงานอย่างเฉิงซู่ถูกมองข้ามไปเลยทีเดียว สุดยอดมากหมิงอวี้
สีเจ๋อสั่งแก้สัญญาของหมิงอวี้ให้ขึ้นนายแบบขั้นสอง สีเจ๋อลิ้นอาบยาพิษยังไม่ยอมรับว่าทำไมถึงต้องสนใจหมิงอวี้ แล้วยังส่งหลัวหรูไปเป็นผู้ช่วยหมิงอวี้ หลัวหรูเป็นผู้จัดการฝึกหัดที่เก่งที่สุด สีเจ๋อก็ส่งให้หมิงอวี้ สีเจ๋อบอกว่าต้องไปดูหมิงอวี้เดินแบบก่อนถึงจะแน่ใจได้ว่าใช่หมิวส์หรือไม่ ยังไม่ยอมรับว่างั้น
หมิงอวี้รับรายการทอล์คโชว์ที่มีผู้ร่วมรายการคืออู๋อวี่เจิน หมิงอวี้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ตลอด คำถามสุดท้ายถามว่าอยากเอาชนะใครมากที่สุด หมิงอวี้ตอบว่าสีเจ๋อ
เฟ่ยซือซินมาชวนหมิงอวี้ไปเดินแบบงานแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของตัวเอง ให้เป็นตัวหลักเลยด้วย แล้วหมิงอวี้ก็รับปาก
รายการทอล์คโชว์ออกอากาศเรตติ้งพุ่งสุดสุด กระแสในโลกโซเชียลก็หยุดไม่อยู่เช่นกัน แล้วสีเจ๋อยังมาโพสต์อีกว่าฉันจะรอ กระแสยิ่งแรง ช่วงชาวเน็ตนี่จะฮากันมาก กรี๊ดกร๊าดสุดๆ
สีเจ๋อบอกกับติงปั๋วผู้จัดการส่วนตัวว่าหมิงอวี้น่ารักมาก หมิงอวี้ประกาศศึกไปแล้วตอนนี้เร่งโตเร่งความสูง เลยต้องกินน้ำแกงบำรุงร่างกายรวมสิบชนิดสูตรพิเศษใส่ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วดำ ไข่ขาว ...นมวัว มีวิตามินเอ วิตามินดีรวมของหลัวหรู ทรมานมากแต่ใครถามก็บอกว่าของอร่อย
ครั้งนี้สีเจ๋อก็มาเพื่อหมิงอวี้ มาดูแฟชั่นโชว์ของเฟ่ยซือซินเพื่อดูหมิงอวี้อีกแล้ว ข่าวใหญ่ประเด็นร้อนมาอีกแล้ว และแล้วสีเจ๋อก็ออกปฏิบัติการมารอหมิงอวี้ที่ใต้คอนโด บังเอิญอะไรกัน ตั้งใจล่ะไม่ว่าสีเจ๋อแสดงโรครักสะอาดขั้นสุด พารานอยด์เอามากๆ เช็ดอยู่นั้น เช็ดทุกสิ่ง สีเจ๋อชวนหมิงอวี้ร่วมงานด้วย จริงๆหมิงอวี้ก็ฟังออกทันทีว่าสีเจ๋อบอกว่าหมิงอวี้เป็นแรงบันดาลใจของเขา เป็นมิวส์ของเขา แต่หมิงอวี้ก็ปฏิเสธ บอกว่ายังไม่เหมาะที่จะร่วมงานกันตอนนี้
หมิงอวี้บอกว่าให้เริ่มจากเป็นเพื่อนกันไปก่อน ทั้งสองคนเลยเริ่มต้นกันอีกครั้ง แนะนำตัวกันใหม่อีกหน
วันนี้หมิงอวี้ต้องถ่ายซีรีส์โฆษณาเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่ง และแล้วทักษะการเป็นนักแสดงของหมิงอวี้ก็ได้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน หมิงอวี้เป็นได้แค่แจกันจริงๆ และหมิงอวี้ก็ชอบไปนั่งศึกษาวิเคราะห์บทด้วยการนั่งยองๆอยู่มุมผนัง ไม่รักษาภาพพจน์เอาไว้เลย แล้วสีเจ๋อก็มาเยี่ยมกองถ่ายสามวันรวด ป่าวประกาศไปทั่วไม่มีปิดเลยซักนิด เทพสีออกโรงทำเอาคนมองกันทั้งกอง
หลังจากหมิงอวี้บอกให้สีเจ๋อแสดงตัวตนที่แท้จริง หมิงอวี้ก็รู้ว่าสีเจ๋อทั้งใจร้าย ลิ้นอาบยาพิษ จู้จี้จุกจิก แล้วก็ชอบบอกหมิงอวี้ว่าเธอเป็นนายแบบดีมากนะ เธอเหมาะที่จะเป็นนายแบบมากกว่า ฮ่าๆๆๆ
สีเจ๋อบอกหมิงอวี้ว่าช่วงนี้งานยุ่งมากจะต้องเตรียมจัดงานแฟชั่นโชว์โอต์กูตูร์จี้เหอหย่าประจำฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนของปีหน้า ถามว่าหมิงอวี้อยากได้บัตรหรือเปล่า สีเจ๋อบอกว่าจะให้หมิงอวี้สองใบ สีเจ๋อมาหาหมิงอวี้สามวันเพราะวางแผน น้ำอุ่น ต้มกบนี่เอง
หมิงอวี้คิดดูแล้วว่าควรเข้าคลาสอบรมการแสดงซะหน่อย แต่มันก็ไม่ได้ผลหรอก กลับได้เจอเพื่อนใหม่คืออาจ้าวที่นิสัยดีมาก ช่วยหมิงอวี้ออกหน้าตอนที่หมิงอวี้โดนกลั่นแกล้ง หมิงอวี้ก็เลยไปขอร้องสีเจ๋อเรื่องเกี่ยวกับข่าวคราววงการนักแสดง สีเจ๋อบอกอย่างนี้ต้องติดหนี้บุญคุณนะ
หมิงอวี้ลายมือไก่เขี่ยมาก แต่ลายเซ็นสวยมาก แล้วชอบทึกทักเอาเองว่าลายมือตัวเองสวย ครั้งนี้ก็มีคนชมเรื่องลายมือตอนที่มาเซ็นสัญญากับเนดแลนด์ แบรนด์เครื่องสำอางหรูชั้นหนึ่ง ด้านสไตลิสท์ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่การแต่งหน้า หลัวหรูก็หาช่างแต่งหน้ามาได้พอดีจากงานแฟชั่นโชว์เผยเฟิง เจ้เจิ้งนั่นเอง ด้วยค่าจ้างช่างแต่งหน้าชั้นหนึ่ง เรื่องนี้เพราะสีเจ๋อมีคำสั่งให้ดูแลหมิงอวี้ด้วยอันดับสูงสุดแล้วน่ะสิ หมิงอวี้ไม่ได้รู้อะไรเลย เพราะครึ่งปีมานี้เอาแต่ทำงาน
หมิงอวี้ก็ถ่ายแบบของเนดแลนด์ได้ดีอีกเช่นเคย
ปลายเดือนมกราคมหมิงอวี้ยังใส่ใจแฟนคลับ มาโพสต์ว่าจะทำอาหาร บอกว่าเมนูมะเขือเทศผัดไข่ค่อนข้างยาก ทำเอาชาวเน็ตสงสารหมิงเสี่ยวอวี้กันไปหมด
ช่วงวันปีใหม่หมิงอวี้ไปฉลองปีใหม่ที่บ้านจ้าวรุ่ย และเลือกที่จะถ่ายแบบกับนิตยสารคาแร็คเตอร์อีกครั้ง พอกลับมาสีเจ๋อก็มารอฉลองปีใหม่อยู่ด้วยที่คอนโด ทั้งคู่คุยเรื่องแฟชั่นกันมากมายพอถึงเวลาปีใหม่หมิงอวี้ก็กอดสวัสดีปีใหม่สีเจ๋อสร้างความประหลาดใจให้สีเจ๋อทีเดียว หนูน้อยหมิงอวี้
งานแฟชั่นโชว์โอต์กูตูร์จี้เหอหย่าหมิงอวี้ชวนเฟ่ยซือซินไปด้วย และก็ได้เห็นความสามารถของสีเจ๋อ กับผลงานของเขาและสุดยอดนางแบบเฟลิเลีย เคิร์ตในชุดฟินาเล่
หมิงอวี้มาถ่ายมิวสิควิดีโอของซีเอกซ์เอนเตอร์เทนเมน บทบาทที่ได้รับเป็นบทฆาตกรต่อเนื่องโรคจิต มีอาการบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม แต่หมิงอวี้กลับถ่ายผ่านฉลุย แปลว่าหมิงอวี้เหมาะกับบทแบบนี้ ฮ่าๆๆๆ เล่นกับจูเข่อเจียที่แสดงเป็นครูสาว หมิงอวี้เทคเยอะจนจูเข่อเจียเข้ามาคุย หมิงอวี้ศึกษามาหลายสิบรอบแต่ได้แบบนี้พูดไม่ออก วิเคราะห์อย่างละเอียดเนี่ยนะ แล้วหมิงอวี้ก็ชอบนั่งยองๆอยู่มุมกำแพงขบคิดวิเคราะห์บท จูเข่อเจียคิดว่าเหมือนเห็ดหอมที่สุด แล้วหมิงอวี้ก็เทคไปยี่สิบครั้ง ทำลายสถิติไปแล้ว
หมิงอวี้กลับถึงบ้านก็ยังวิเคราะห์จนมึนไปหมด จนสีเจ๋อมาหา เพราะว่าจะไปงานเลี้ยงใกล้พรุ่งนี้เลยมาพักที่คอนโดดีกว่า สีเจ๋อเลยช่วยหมิงอวี้ต่อบท แล้วก็เห็นลายมือหมิงอวี้ไม่ยอมอีก เพราะสีเจ๋อจุกจิก ต้องมาสอนหมิงอวี้คัดลายมืออีก หมิงอวี้ทำบะหมี่หยางชุนมาให้กินยังจะขี้โม้ว่าไม่มีเวลาไม่งั้นจะทำหัวสิงห์ซอสน้ำแดง ซุปหมูพริกเผาเสฉวน กุ้งกระจก หมูสันในผัดเปรี้ยวหวานมาตอบแทน สีเจ๋อเลยบอกว่าเอาไว้ไปทำมาตอบแทนหนี้บุญคุณสิ ฮ่าๆๆๆ
วันรุ่งขึ้นตอนถ่ายฉากนี้หมิงอวี้เทคแค่สองหน ก็เลยบอกว่าสีเจ๋อช่วยซ้อมบทให้ ทุกคนอึ้งกันหมด ในที่สุดก็ปิดกล้อง ทุกคนไปกินเลี้ยงกัน
จูเข่อเจียถ่ายรูปคู่กับหมิงอวี้แล้วลงเวยปั๋ว ถ่ายละครกับเห็ดหอมน้อย หมิงอวี้ เอาละสิชาวเน็ตอยากรู้อีกแล้วววว

หลังอ่านเล่ม 1 :
หมิงอวี้น่ารักมาก เก่งมาก ภายนอกใสซื่อ แต่ข้างในเจ้าเล่ห์ไม่ยอมให้ใครรังแก ซึ่งสีเจ๋อก็ดันมองออก เพราะว่าถูกใจใช่เลย นี่คือมิวส์ของฉันสินะ แค่เห็นก็ใช่แล้ว ปฏิบัติการให้หมิงอวี้มาเป็นของตัวเองเริ่มต้นขึ้น มีแผนว่า น้ำอุ่น ต้มกบ หมิงอวี้ผู้น่ารักสำหรับสีเจ๋อไม่รอดไปได้แน่นอน ทั้งๆที่สีเจ๋อ อุตส่าห์วางมาดมาดี แต่หมิงอวี้น่ะหรือบอกว่าให้แสดงตัวตนที่แท้จริงมาเลย เพราะฉะนั้นเทพสีจึงเผยธาตุแท้ ทั้งใจร้าย รักสะอาด จู้จี้จุกจิก ลิ้นอาบยาพิษ นี่นะเทพสี เรื่องนี้น่ารักมากเลยค่ะ ฮาตลอดเรื่อง หมิงอวี้เป็นนายแบบที่เก่งมาก แต่เป็นนักแสดงที่ห่วยมาก ยิ่งอ่านยิ่งฮา มาอ่��นต่อเล่มสองกันเลยค่ะ

[Nanyae Yamane · Rating 2 out of 5]

รีวิวรวบทุกเล่ม
รู้สึกว่าพล็อตแนวซุปเปอร์โมเดล นายแบบ ดารานักแสดงของนิยายจีนจะซ้ำๆ กันหลายเรื่อง การดำเนินเรื่องก็เลยน่าเบื่อ (นี่ต้องกลับไปเช็คคนเขียนเลย ว่าคนเดียวกับเรื่องประธานเฮงซวย นกของคุณบินไปแล้วหรือเปล่า)
รู้สึกผิดกับตนเองที่อ่านแบบข้ามๆ แล้วมารีวิว กลั้นใจกลับไปอ่านแล้วนะ
โดยเฉพาะเล่มกลางเหมือนรถติดหล่มเป็นพักๆ การดำเนินเรื่องไปข้างหน้าช้าเป็นบ้า
เพราะบทบรรยายการกระทำ-เหตุผลของการกระทำ -ทำไม/อย่างไรเยอะแยะไปหมด แทนที่จะทำให้เห็นภาพของเหตุการณ์ชัดเจนหรือสร้างบรรยากาศการดำเนินเรื่อง มันเป็นบทอธิบายเสี��มากกว่า ซึ่งก็ไม่ได้เสริมความสนุก เพราะด้วยความที่เรื่องไม่ซับซ้อน คนอ่านจึงเข้าใจได้อยู่แล้ว (คำอธิบายซ้ำๆในจุดเดิมก็เยอะใช่เล่น)
(คิดถึงที่สตีเฟน คิงเคยบอกเลยว่า การเขียนนิยายต้องเชื่อว่าผู้อ่านฉลาดอยู่แล้ว มันถึงจะสนุก)

ความขัดใจอย่างยิ่งอยู่ที่ ไม่ใช่แค่นิยายเรื่องนี้ นิยายจีนที่มาแนวนี้ส่วนใหญ่ จะเบิกโรงมาอย่างหวือหวามาก ดึงอารมณ์มาแน่น แต่แผ่วช่วงกลาง ไปจนถึงปลาย เหมือนนักเขียนไม่มีแรงจะไปต่อ 55
การตกหลุมรักอารมณ์เดียวกับละครไทย อยู่ๆ ดีก็สว่างวาบเข้ามาในสมอง เป็นมิวส์ซะงั้น ด้วยความที่เป็นวายแบบเปิดใจอ่านวรรณกรรมที่ตัวเอกเป็นคู่ ชญ ญญ และเพศทางเลือกอื่นๆ รู้สึกว่ามันเป็นการตกหลุมรักที่ดาษดื่นมาก ไม่มีการต่อสู้ ไม่บ่มอารมณ์ ไม่มีสีสันของความรักเอาซะเลย

บทพระเอก นายเอกเรื่องนี้ก็แทบไม่ต่างจากนิยายจีนเรื่องอื่น (ในแนวเดียวกัน) มันต้องมีเงินหนุนหลัง ผู้ใหญ่ดีโผล่มาสนับสนุนสิน่า เป็นสังคมที่เหมือนละครคุณธรรม ที่พอเจอปัญหาปุ๊บ จะต้องมีใครสักคนก้าวขึ้นมาแถวหน้าก้าวหนึ่ง แล้วบอกอย่างอกผึ่งไหล่ผายว่า "ฉันคือประธานบริษัท" โดยที่แม่ง ไม่ได้จรรโลงผู้คนในเรื่องคุณค่าส่วนบุคคลเลยสักนิด
เรื่องนี้มีความลำบากของนายเอกแค่ 8% ในช่วงต้น ที่เหลือเป็นความโชคดีอย่างน่าเหลือเชื่อและการตั้งใจเป็นซุปเปอร์โมเดลแบบค่อยๆ ไต่คนอื่นไปเรื่อยๆ เฉกเช่นที่ตัวร้ายเคยทำกับนายเอก โดยมีเครื่องมือเป็นหน้าตาและเงินของใครสักคน (อา พล็อตมันช่างคุ้นเคยจริงๆ ซาร่า)
ตัวร้ายบทแผ่วมาก เป็นกีกี้อีกละ ทั้งๆ ที่บทเริ่มต้นเขียนมาน่าสนใจ การปรากฎตัวแต่ละครั้งไม่มีพลัง ไม่มีความหมาย สิ่งเดียวที่ทำได้คือเสริมให้นายเอกดูเป็นคนดีขึ้น ไม่ได้เห็นถึงโฉมหน้าของความร้าย ศีลไม่เสมอกับบทพระเอกนายเอก และมีช่วงหนึ่งที่หายจากนิยายไปเลย

บทสีเจ๋อแข็งงงงงงงงงงงงมาก ไม่ยืดหยุ่น มันจดจ่ออยู่ที่ฉันเก่ง ฉันเทพ ฉันสุดยอด แบบนี้ทั้งเรื่อง ไม่มีใครล้มได้ ไม่มีที่มา อยู่ๆ ดีก็เป็นซุปเปอร์โมเดลระดับโลก บทอยู่บนหิ้งอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้นทั้งเรื่อง (เชิญจุดธูปไหว้)
บทหมิงอวี้ (คนใหม่) "ที่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องทำให้ผู้ชายเลวๆ คนนั้นจำเขาไปจนตาย" (ลอกมาจากคำโปรย) ก็ลืมผู้ชายเลวๆ คนนั้นไปเกือบทั้งเรื่อง ไปเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่อนาคตโปรยด้วยกลีบกุหลาบจากปลายนิ้วมือสีเจ๋อ
ยิ่งพอทั้งสองกันมีเซ็กส์กันแล้ว ก็หมดสิ้นอุปสรรคใดๆ เนื้อเรื่องไม่มีอะไรเลย ธรรมดาเป็นเส้นตรงยาวๆ ถ้าเป็นเส้นจังหวะหัวใจ ตรูคงตายไปแล้ว

สรุปคือ เรื่องนี้ไม่น่าสนใจ อ่านเอาสนุกก็ได้ สามารถกลับมาอ่านเล่ม 1 ได้แล้วข้ามไปอ่านเล่มจบเลย แบบเปลี่ยนอารมณ์สัก 5-6 ปีข้างหน้า เหมาะที่จะขายเป็นมือสองโดยไม่ลังเล
แม้ว่าหน้าปกของนิยายแต่ละเล่มจะสวยเป็นบ้า ทำให้นึกว่าจะมีฉากความรักข้ามยุคสมัย แต่ไม่ใช่จ่ะ มันยุคเดียวกันนี่แหล่ะ เออว่ะ คนออกแบบหน้าปกเก่งนะ ทำให้น่าสนใจไปอีกเรื่องนึง
ส่วนการแทรกอิโมติคอน ไม่ติดอะไร เพราะคิดว่าเป็นอัตลักษณ์ของคนเขียน เหมือนกับลายเส้นอะไรแบบนั้น คนที่ไม่ชอบน่าจะมี (คนที่จริงจังกับมันมากกว่านี้อะนะ)

(อันที่จริง อารมณ์ในการอ่านหนังสือเล่มนี้คล้ายกับโมเมนต์อย่างนึงในชีวิตที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
ประมาณว่า เหมือนเพื่อนวิ่งเข้ามาในห้องเพื่อจะเมาส์เรื่องชาวบ้าน แล้วมันไม่เข้าเรื่องสักที บรรยายตั้งแต่ดินยันอากาศ ออกจากบ้านด้วยเท้าคู่ไหน กระทั่งหัวสมองเค้าคิดอะไรไล่ไปถึงชีวิตวัยเด็ก จนเราต้องตัดบทว่า เข้าเรื่องสักที! เออ มันก็ประมาณนี้แหล่ะ)

[Parry · Rating 4 out of 5]

เรื่องราวของซูเปอร์โมเดลชื่อดัง "หมิงอวี้" ผู้กลับมาเกิดใหม่ในร่างของเด็กหนุ่มที่ชื่อเดียวกับตน และยังอยู่ในเส้นทางอาชีพเดียวกัน เพียงแค่อยู่คนละโลกกันเท่านั้น
หมิงอวี้คนเก่าไม่โด่งดังมาก ซ้ำร้ายยังถูกหลอกใช้จนตัวเองตกต่ำลงเรื่อยๆ หมิงอวี้คนใหม่จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตและทำตามความปรารถนาของหมิงอวี้คนเดิม พร้อมทั้งก้าวขึ้นเป็นซูเปอร์โมเดลอันดับ 1 อีกครั้ง
ทว่าเรื่องราวกลับไม่ง่ายดายดังที่คิด อุปสรรค์และการกลั่นแกล้งต่างๆพุ่งเข้าหาหมิงอวี้ แต่ด้วยประสบการณ์และความรู้ที่มี เขาจึงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส รวมถึงแย่งชิงพื้นที่สื่อได้อย่างมากมายจนเริ่มมีชื่อเสียง
"สีเจ๋อ" ผู้เจอหมิงอวี้อย่างบังเอิญและได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือตอนเกิดเหตุการณ์อันวุ่นวาย ได้ค้นพบว่าหมิงอวี้คนนี้อาจจะเป็นคนที่เขากำลังตามหาอยู่ จึงได้ก้าวเข้ามาวุ่นวายในชีวิตของหมิงอวี้ รวมทั้งช่วยจัดการดูแลและซัพพอร์ตอย่างลับๆอยู่เบื้องหลัง
เส้นทางของหมิงอวี้เริ่มสว่างไสว มีผู้คนข้างกายคอยช่วยเหลือ และมีสีเจ๋อคอยตามดูอยู่อย่าง(ไม่ห่าง) หนทางการก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 อาจจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมก็เป็นได้
__________

เนื้อเรื่องเริ่มจากหมิงอวี้ที่ลืมตาตื่นมาในโลกใบใหม่ แทบจะเริ่มต้นอาชีพจากศูนย์ แล้วค่อยๆก้าวขึ้นไป จากนายแบบลำดับต่ำกลายมาเป็นนายแบบระดับสูง
เนื้อเรื่องในเล่มแรกยังไม่ค่อยมีจุดให้ลุ้นในการทำงานมากเท่าไร เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าตัวนายเอกไม่ทำผิดพลาดในการทำงานแน่ๆ จะมีแค่ตัวร้ายมาขัดขาบ้างเป็นครั้งคราว ตรงนี้ยังพอมีจุดให้แอบลุ้นนิดหน่อยว่านายเอกจะแก้ปัญหายังไง
(จุดนี้จะคล้ายๆกับซูเปอร์สตาร์ชิงบัลลังก์นิดหน่อย แน่นอนว่านักเขียนคนเดียวกันน่ะนะ 55555555)
ข้อเสียคือเพราะตัวนายเอกทำได้ดีมาตั้งแต่แรกเลยเห็นพัฒนาการไม่มากเท่าไร
ยกเว้นก็แต่การถ่ายเอ็มวี อันนี้ถือว่าเป็นโมเอะพ้อยต์อย่างนึง เพราะคนที่ทำอะไรก็เฟอร์เฟ็กทุกอย่างกลับมีจุดอ่อนที่การถ่ายละคร เนื่องจากไม่สามารถสวมบทบาทได้ เป็นแก๊กเล็กๆที่ชวนให้ขำก๊ากทุกรอบ กระทั่งผู้จัดการทนไม่ได้ส่งไปเรียนการแสดงเพิ่มก็ยังทำได้ไม่ดี จนยอมแพ้กันไปเอง แต่มีบทนึงที่นายเอกแสดงได้ดี ซึ่งก็...5555555555
คนรอบๆตัวหมิงอวี้ก็น่ารัก ผู้ช่วยสุดซื่อบื้อที่พยายามหางานมาให้ หรือผู้ดูแลกับน้ำสูตรพิเศษช่วยเพิ่มส่วนสูง ทั้งสองคนพยายามผลักดันให้หมิงอวี้ก้าวได้สูงขึ้น
ส่วนสีเจ๋อผู้โด่งดังเข้าถึงยาก ดูภายนอกเย็นชา เคร่งขรึม แต่พอเจอคนที่ตัวเองตามหาอยู่ก็พุ่งเข้าใส่แบบไม่มีกั๊ก บางวิธีก็ชวนให้ขำก๊ากออกมา ทำให้รู้ว่าที่จริงก็ไม่ได้เคร่งขรึมเหมือนภาพลักษณ์ที่แสดงออกมาเลย แถมเบื้องหลังคอยแอบทำนู่นนี่ให้หมิงอวี้แบบเงียบๆ
ด้วยความเป็นนิยายเกี่ยวกับวงการซูเปอร์โมเดลเลยมีการบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเสื้อผ้าและแบรนด์ค่อนข้างเยอะ อ่านๆไปก็เริ่มมึนๆตาลายกับเสื้อผ้าไปบ้าง แต่ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับการอ่าน
รวมๆแล้วถือว่าสนุกเลย แต่แอบไบแอสไปทางซูเปอร์สตาร์ชิงบัลลังก์มากกว่านิดนึง ชอบพระเอกสไตล์ซึนๆแบบนู้นมากกว่า XD

[Artnimiaf · Rating 3 out of 5]

ก็สนุกมั้ง แต่เหมือนคุณนักเขียนจะชอบเขียนนายเอกอายุห่างกับพระเอกเกือบ 10 ปี มันคล้ายกันทั้งสองเรื่องแค่เปลี่ยนชื่อตัวละคร แล้วบทบรรยายยาวมากพูดถึงนานเอกปุ๊บบทบรรยาหน้าตามาเลยสิบบรรทัด

[Faelyn · Rating 5 out of 5]

ตอนแรกที่เห็นปกนึกว่าจะเป็นนิยายแบบการชิงไหวชิงพริบในวงการนายแบบไรงี้ พออ่านไปแล้ว จริงๆคือนิยายตลกตบมุกกันโบ๊ะบ๊ะมาก ชอบ อ่านไปละหลุดขำตลอดเลย

นายเอกคือชาติก่อนเป็นซูเปอร์โมเดล ป่วยตายไปมาเข้าร่างนายแบบชั้นล่างคลั่งรักจนฆ่าตัวตาย เลยปฏิวัติใหม่ ผู้ชายไม่สนแล้วไง ใครแคร์ เดี๋ยวจะก้าวข้ามไปจนเป็นอันดับหนึ่งให้ดู เดินแบบยอด ถ่ายแบบเยี่ยม แต่อย่าให้ได้ไปแสดงหนัง ละคร หรืออะไรที่ต้องสวมบทบาทเลย ซีนเดียวโดนไปเป็นสิบยี่สิบเทค 55555 แถมนอกจากลายเซ็นที่สวยงามแล้วยังลายมือห่วยแตกขนาดโลกตะลึงอีก

พระเอกก็ดูเหมือนจะเย็นชา เงียบๆ ขรึมๆ ที่ไหนได้ เป็นคนกวนตีนมาก ปากร้ายขั้นสุด เป็นโรครักสะอาดระดับนึงเลย ยังมีบทไม่เยอะเท่าไหร่ แค่ออกมาประปรายให้รู้ว่าคนนี้แหละพระเอกแน่นอน

[Ning · Rating 3 out of 5]

เนื้อเรื่องค่อนข้างราบเรียบไปหน่อย เดินเรื่องไปเรื่อย ๆ
นี่ยังงงว่า เรื่อยเบอร์นี้ เรื่อยยังไง 4 เล่มบิ๊ก ๆ

คาดหวังความฟาดฟัน the face, next top model
ลุ้น ๆ ว่าจะมีมั้ย แต่เล่ม 1 นี่ไม่มีเลยนะ ฮาา

จริงๆ เล่มนี้คืออ่านได้เพลินดีค่ะ แต่มีส่วนไม่ชอบอยู่ประปราย
เช่นซูเกิน อิโมติคอน ข้อความการคุยกับคนอ่าน
ไม่ถึงกับเสียอารมณ์ แต่ก็มีสะดุด ๆ อยู่บ้างค่ะ

[Chibi Kobo · Rating 5 out of 5]

เทพสีหลอกล่อหมิงอวี้ทุกวิถีทางเลย​ 555​ หมิงอวี้ก็น่ารักโดยเฉพาะความเข้าข้างตัวเองขั้นสุด

[AP · Rating 5 out of 5]

ชอบมากเลยค่ะ สนุกมาก แต่เล่มแรกจะยังไม่ได้มีเลิฟไลน์ชัดมาก เหมือนทุกอย่างกำลังเริ่มต้น

[Lunae Enciel · Rating 2 out of 5]

สนุกมาก ดีมาก เป็นslice of lifeที่เดินเรื่องไม่อืดอาดยืดยาด อ่านแล้วเยียวยาหัวใจ คลายเครียด วางไม่ลงเลย ตัวละครมีEQสมวัย ไม่ทำตัวงี่เง่า