Jump to ratings and reviews
Rate this book

Super Productive เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในตัวเอง ธุรกิจ และทีม เริ่มที่การจัดการ

Rate this book
หนังสือเล่มนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงานและการใช้ชีวิตให้คุณ โดย รวิศ หาญอุตสาหะ ผู้บริหารแบรนด์ศรีจันทร์และเจ้าของพอดแคสต์ที่มีผู้ติดตามสูงสุด

การอ่าน Super Productive ให้ได้ผลดีที่สุดจึงมิใช่เพียงแค่อ่านอย่างเพลิดเพลิน หากความสนุกคือลองนำวิธีการต่างๆ เหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตจริง ทันใดนั้นความเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้น หลังจากนั้นจึงค้นพบศักยภาพที่ซ่อนเร้นในตนเอง หลังจากนั้นจึงค้นพบศักยภาพซ่อนเร้นในตนเอง

259 pages, Paperback

First published October 1, 2019

18 people are currently reading
137 people want to read

About the author

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
75 (33%)
4 stars
107 (47%)
3 stars
40 (17%)
2 stars
4 (1%)
1 star
0 (0%)
Displaying 1 - 30 of 40 reviews
Profile Image for สฤณี อาชวานันทกุล.
Author 82 books1,121 followers
January 24, 2021
อ่านเพลินๆ สนุกดี เหมือนได้อ่านสรุปหนังสือ How To และหนังสือบริหารธุรกิจขายดีของเมกาหลายสิบเล่ม อ่านจบแล้วคิดว่าจะดีกว่านี้ถ้าผู้เขียนถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเองที่เห็นว่าตรงกับข้อแนะนำในหนังสือเหล่านั้น มากกว่าจะสรุปหนังสือเฉยๆ แต่โดยรวมเนื้อหาก็นับว่าโอเคเลยสำหรับผู้บริหารหรือผู้ประกอบการ

ขัดใจเล็กน้อยสองจุด

1) เจอคำผิดในหนังสือที่ไม่ควรมีคำผิดแบบนี้เพราะเขียนแนะนำแนวคิดทางธุรกิจ (เช่น Retail Ranking ต้องเป็น retail banking, Customer Centricity Company ต้องเป็น customer-centric company)

2) ยกตัวอย่าง De Beers บริษัทเพชรชื่อดังว่าสร้าง story เก่งมาก โดยไม่พูดถึงพฤติกรรมแย่ๆ ของการผูกขาด การซื้อเพชรผิดกฎหมาย การมีส่วนร่วมกับ “blood diamond” (เหมืองที่ใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ) และการละเมิดกฎหมายหลายครั้งหลายประเทศของบริษัทนี้ ซึ่งก็เป็นเหตุผลสำคัญที่บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้าง story (ที่ฟังดูดี) ขนาดนี้ :>
Profile Image for Kin.
510 reviews164 followers
November 13, 2019
สนุกดีครับ ติดอยู่อย่างเดียวคือไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแทบทุกบทต้องพยายามจบด้วยโควตเท่ๆ ซึ่งจริงๆ หลายอันก็ตัดทิ้งได้และไม่ได้เท่ขนาดนั้น แถมบางอันก็ไม่ได้อธิบายด้วยว่าทำไมต้องเป็นคำพูดของคนนี้ โอเค ส่วนใหญ่เราเห็นแหละว่าทำไมต้องเป็น 'ประโยค' นี้ แต่ทำไมต้องเป็น 'คนนี้' น่าจะสำคัญพอๆ กัน พอมันขาดความเชื่อมโยงตรงนี้ก็เลยแอบตลกนิดๆ หงุดหงิดหน่อยๆ อยู่ตลอด ทั้งที่เนื้อหารวมๆ ดีมากทีเดียว
Profile Image for Mook Woramon.
898 reviews200 followers
January 17, 2020
บทความสั้นๆ อ่านง่าย มีประโยชน์ เอาไว้พัฒนาศักยภาพตนเอง

หนังสือแบ่งเป็นสามส่วนหลักๆ

- จัดการตัวเอง: พัฒนาวิธีคิด วิธีเรียนรู้ วิธีจัดการความคิด จัดการอารมณ์ ทำงานอย่างไรให้มีความสุข

- จัดการธุรกิจ: ส่วนนี้เหมาะสำหรับนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ หัวหน้างาน เป็นการพัฒนาวิธีบริหาร สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี มีวิสัยทัศน์มองภาพกว้างไกล เข้าถึงลูกค้า

- จัดการทีม: ส่วนนี้เหมาะมากสำหรับหัวหน้าทีมรวมถึงผู้บริหารและทุกคนที่ต้องทำงานเป็นทีม รู้จักการแบ่งงานให้เหมาะสม การเคารพกันและกัน การรับมือกับบุคคล toxic

ภาพรวมหนังสือมีสิ่งน่าสนใจหลายอย่าง
คนที่คิดว่าตนเองไม่ต้องพัฒนาอะไรแล้วจริงๆยังมีสิ่งพัฒนาได้อีกมาก ได้หันกลับมามองตนเองว่าเราเพิ่มศักยภาพอะไรได้อีกบ้าง
หรือคนที่เป็นลูกน้องอ่านก็จะเข้าใจผู้บริหารหรือหัวหน้างานว่าทำไมคิดแบบนั้น เลือกคนนั้น สั่งการแบบนั้น หรือองค์กรยังขาดอะไรไป
เล่มนี้เหมาะสุดกับคนที่เป็นผู้บริหาร หัวหน้างาน เพราะบางเรื่องค่อนข้างลงลึกเกินจนเราไม่อิน

เนื่องจากเป็นรื่องสั้นๆเพราะเป็นเรื่องที่มาจากการจัด podcast
บางเรื่องค่อนข้างจะฉาบฉวย หยิบมาพูดคร่าวๆโดยยังไม่ได้ประเด็น ถ้านำมาเขียนเป็นหนังสือน่าจะขยายความได้มากกว่านี้
Profile Image for ANKO.
151 reviews16 followers
June 27, 2021
เป็นหนังสือที่บอกเล่าเทคนิคการทำธุรกิจ ช่วงหลังๆ จะมีหลายเทคนิคที่สามารถเอามาปรับใช้กับชีวิตคนปกติที่ไม่ได้ทำธุรกิจได้ อ่านแล้วรู้สึกฮึกเหิมดี ตระหนักถึงชีวิตที่แสนสั้น และเวลาที่มีค่า
Profile Image for GG.
37 reviews20 followers
October 7, 2019
ติดตามพี่แท็ปทั้งในพ็อดคาสต์ Mission to the moon ของพี่แท็ปเอง และ super productive ของ the Standard รู้สึกว่าชอบเนื้อหาทุกๆ ครั้งที่ได้ฟัง เพราะสามารถทำให้เราฉุกคิดได้ในหลายๆ เรื่อง และสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้ยังได้เกร็ดความรู้จากหนังสือหรือบทความต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย

พอพี่แท็ปเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมา บอกเลยว่าตื่นเต้นมากและรีบออกไปซื้อ ซึ่งพี่แท็ปก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ชอบที่พี่แท็ปขึ้นต้นด้วยคำคมและจบบทด้วยคำคมนั้นพร้อมคำอธิบายว่าทำไมถึงเลือกมันมาใส่ในบทดังกล่าว มันทำให้คำคมนั้นทรงพลังขึ้นไปอีก

อีกส่วนหนึ่งที่ชอบคือการแบ่งบทเพราะสามารถเลือกอ่านในส่วนที่ตนเองต้องการพัฒนาได้ นอกจากนี้แต่ละบทก็ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป ทำให้น่าอ่านและสามารถหยิบขึ้นมาอ่านได้แม้มีเวลาว่างสั้นๆ (แต่ส่วนตัวอ่านรวดเดียวเลย 55) อีกส่วนที่ประทับใจคือ การย่อยหนังสือและบทความรวมถึงงานวิจัยให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องที่เข้าถึงยากถ้าไม่มีพื้นฐานในเรื่องนั้นมาก่อน ซึ่งผู้เขียนทำได้ดี และถือเป็นจุดเด่นของหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ

เนื้อหาหลายๆ ส่วนจะคล้ายๆ กับข้อมูลใน podcast ที่พี่แท็ปได้เคยกล่าวถึงไว้ แต่การเขียนออกมาให้ผู้อ่านได้เห็นเป็นตัวหนังสือ ทำให้ผู้อ่านได้ใช้เวลาคิดตามได้ ไม่ต้องรีบไปต่อเหมือนเวลาฟัง podcast ซึ่งในส่วนนี้ทำให้การอ่านหนังสือมีประโยชน์กับการทำ self-reflection มากกว่าการฟัง podcast เพราะบางครั้งการฟังอย่างเดียวก็อาจทำให้หลงลืมไปได้

ส่วนตัวคิดว่าเป็นหนังสือที่ดีมากค่ะ ได้เกร็ดความรู้มากมายและสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ทั้งการพัฒนาตนเอง การงาน และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และคิดว่าจะต้องกลับมาเปิดอ่านบางบทซ้ำอีกหลายๆครั้งเพื่อเป็นตัวช่วยเตือนให้เราตั้งตนอยู่ในทางสู่เป้าหมายที่เรามีอยู่
Profile Image for Pongsak Sarapukdee.
284 reviews24 followers
January 16, 2023
ได้อ่านตอนที่หนังสือออกมาได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่เนื้อหายังทันสมัยและยังสามารถนำมาปรับใช้ได้อยู่เสมอ สิ่งที่ดีที่สุดของหนังสือเล่มนี้คือ ผู้เขียนนำความรู้จากหลากหลายแหล่งมาถ่ายทอดให้เข้าใจได้ง่าย และน่าติดตาม
Profile Image for Jirawat Ton.
28 reviews
October 14, 2019
3 ประเด็นหลักเล่มนี้ : จัดการตัว จัดการธุรกิจ จัดการทีม

= จัดการตัวเอง =

1. ถ้าคิดจะทำอะไรใหม่ๆ คิดให้จบ แล้วทำเลย
ถ้าเราอยากทำอะไรจริงๆ เราจะมีเวลาทำมันเสมอ
ไม่ว่าตารางเราจะแน่นหรือยุ่งขนาดไหน
ที่คนส่วนมากบอกว่าเค้าไม่มีเวลา
จริงๆแล้วคือเค้าแค่ไม่ได้อยากทำมันมากพอ

2. ถ้าเรามีหลักการในการดำเนิน���ีวิตที่ชัดเจน
เราจะเผชิญต่อคำวิพากษ์ วิจารณ์ และ ความคิดเห็นของคนอื่นได้ เพราะเข้าใจตัวเองอย่างแท้จริงว่ากำลังทำอะไรอยู่

3. คนที่ผัดวันประกันพรุ่งจะไม่สามารถไปถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเองได้เลย เพราะเค้าต้องมัวแต่ใช้เวลากับการแก้ไขสถานการณ์เร่งด่วน (ไฟลนก้น) ตลอดทุกๆวัน

4. Hygiene Factor (เงิน สถานะ สวัสดิการ ความมั่นคง)
จะทำให้เราไม่ทุกข์ แต่ถ้าอยากได้งานที่ทำแล้วมีความสุข
เราต้องหา Motivation Factor ในงานนั้นๆให้เจอ

5. เรียนรู้ให้ได้ตลอดชีวิต แบบคนมี growth mindset
- เรียนได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาเคี่ยวเข็ญ
- วิเคราะห์ได้ว่าเราต้องเรียนเรื่องอะไร และ เพราะอะไร
- มีเป้าหมายที่ชัดเจน รู้ว่าจะเรียนไปทำไม
- ต้องจัดการทรัพยากรอะไรบ้าง(เวลา ค่าใช้จ่าย)
- จัดเวลาเรียนรู้วันละ 1 ชั่วโมง 5-6 วันต่อสัปดาห์
- ทุกศาสตร์จะมีหลักการที่เป็นแก่นของมันอยู่ โฟกัสจุดนั้น
- เรียนแล้ว ต้องประเมินผลได้ นำมาใช้ได้

6. Internal + External Self Awareness
รู้จักตัวเองด้วยการเข้าใจตัวเองให้มาก
และเรียนรู้เรื่องตัวเองผ่านมุมมองคนรอบตัว
- แยก feedback กับ noise ให้ออก เพื่อมาพัฒนาตัวเอง

7. เลือกงานที่สำคัญที่สุดของวันและให้เวลา Deep Work โฟกัสกับงานนั้นๆ (เรามีเวลาส่วนนี้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน)

8. ถ้ารู้สึกเหนื่อย(หรือ burnout) ต้องหาเวลาหยุดพัก
หาหนังสือที่อยากอ่าน ฟังเพลง ออกกำลังกาย ดูหนัง และ
ใช้เวลากับมนุษย์จริงๆ(ที่ไม่ใช่มนุษย์ในมือถือ)ให้มากขึ้น

9. อย่าจมอยู่กับปัญหาเดิมนานๆ เพราะเรามัก...
เห็นโลกในแบบที่เราเป็น ไม่ใช่โลกในแบบที่มันเป็น
มองมุมต่าง ปรับโจทย์ หาคนปรึกษาซะ

10. มองสถานการณ์ในมุมที่กว้างขึ้น
มองหาทางที่จะขยับจากจุดที่เป็น ไปสู่เป้าหมายที่คาดหวัง
อย่าจมอยู่กับการตัดสินใจเชิงตอบโต้บ่อยนัก (Reactive)
พัฒนาให้ตัดสินใจเชิง proactive และ stratrgic ให้มากขึ้น

11. กระบวนการในการตั้งคำถามสำคัญมาก
ถ้าถามคำถามได้ทุกเรื่องคำตอบก็จะถูกไปด้วย
หลายครั้งที่เรามุ่งไปหาคำตอบในฉับพลัน
โดยลืมที่จะทบทวนว่าคำถามนั้นถูกต้องแล้วยัง

= จัดการธุรกิจ =

12. การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เราเลี่ยงไม่ได้
สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องพยายามเปลี่ยนไปในทิศทางที่ถูกต้อง
(ใช้กระบวนการ Rethink : Zoom-in, Zoom-out. Reframe Innovation, Refocus transformation)

13. คุณค่าบริษัทนั้นไม่ได้อยู่แค่เพียงการทำกำไรในวันนี้
แต่คือ ความสามารถในการทำกำไรทั้งหมดในอนาคตรวมกัน

14. ปัจจัยในการวางแผนธุรกิจ ที่ควรถามตัวเองก่อนเริ่มต้น
- Gapของแผนเรา(ปัญหาเดิม/โอกาสใหม่)มีคนต้องการมั้ย
- กระบวนการ : ขั้นตอน เทคโนโลยี เราไหวมั้ย
- เวลา : จังหวะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมหรือเปล่า
- สภาวะตลาด : เราอยู่ Red/blue Ocean? จะสเกลได้มั้ย
- คน : ทีมเราพร้อมไหม ต้องเติมทักษะส่วนไหน
- ความสามารถในการยืนระยะ
- แผนการรับมือสถานการณ์หลายๆ scenario

15. เรากำลังอยู่ในยุคที่มีอุปสงค์ล้นเพราะฉะนั้น
เราต้องอยู่ในจุดที่สามารถเข้าใจ และ เข้าถึงลูกค้าได้จริงๆ

16. การจะต่อยอดได้ดี
เราต้องเข้าใจรายละเอียดทุกของธุรกิจให้ชัดเจนทุกแง่มุม

17.การสร้างวัฒนธรรมองค์กร
- สร้างบรรยากาศในทีมให้สนุก ช่างสงสัย กล้าทดลองใหม่ๆ
- ทำให้ทุกคนรู้ว่าสิ่งที่ทำจะนำไปสู่ purpose ที่ต้องการได้
- ทำให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัย จากการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ
- ทุกคนมีโอกาสพัฒนาศักยภาพของแต่ละคนให้สูงขึ้น
- อย่าให้อิทธิพลของคนโต กดไม่ให้ทีมได้โชว์ศักยภาพ
- จ่ายค่าตอบแทนให้คนที่ทำงานกับเราอย่างยุติธรรมที่สุด
- อย่าปล่อยให้ความคลุมเครือ สร้างสภาวะเฉื่อยในที่ทำงาน

18. การเข้าใจปัญหาของลูกค้าให้ดีที่สุด
ไม่ได้เกิดจากการนั่งคิดกันในห้องประชุม
แต่ต้องฟังเสียงลูกค้าจริงๆเท่านั้น

19. รับมือกับ negative feedback ให้ดี
- ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
- อย่าขอโทษโดยที่ไม่ได้ขอโทษ
- หาปัญหาแท้จริงด้วยความใจเย็น
- เปลี่ยนการสื่อสารจากออนไลน์เป็นออฟไลน์ (รับรู้อารมณ์)
- หา solution ร่วมกันกับลูกค้าให้ได้

20. ธุรกิจ คือเรื่องเล่า
- รู้ว่าใครคือคนฟัง
- ใช้ประสบการณ์ของเราเป็นตัวนำ
- เล่าเรื่องอย่าให้หลุดออกจากแก่น
- ทำทุกอย่างให้เข้าใจง่ายเข้าไว้

= จัดการทีม =

21. การจัดการทีม คือ การทำให้ทีมได้โฟกัสกับงานที่ทำ
อย่างเต็มศักยภาพ คิด / เขียน / วางกลยุทธ์/ สื่อสาร
- วางแผนเพื่อสร้างเวลาโฟกัส ที่ไม่ถูกขัดจังหวะ
- สื่อสารให้ทุกคนรู้ ว่างานอะไรที่สำคัญจริงๆ ในเวลานั้นๆ
- แก้ปัญหาปริมาณงานที่เยอะเกินไป
- กระจายงานแบบยุติธรรม
- ประชุมให้มีประสิทธิภาพ

22. สร้างสภาวะแวดล้อมที่ ทุกคนในทีม..
สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง และ พึ่งพากันขึ้นมาให้ได้

23. ถ้าเราต้องการให้งานของเราดีขึ้นไปเรื่อยๆ
การ coaching นี่แหละที่เป็นพื้นฐานสำคัญ
เพราะเมื่อทีมงานของเราสามารถทำงานได้อย่างอิสระ
ทำได้ด้วยตัวเอง คนที่เป็นหัวหน้าก็จะไม่เหนื่อยมาก
หัวหน้าที่ดีจึงควรมีพื้นฐานความคิดแบบ coach-based mindset (ไม่ใช่สั่งการ) เพื่อสนับสนุนทีมงานให้ลุยได้เต็มที่

24. พื้นฐานการ Coach
Ask : ค่อยๆเจาะลงรายละเอียด ในมุมที่ผู้เล่าต้องการเล่า
Listen : ฟัง ไม่ใช่แค่ ได้ยิน เพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน
Emphatize : สัมผัสถึงอารมณ์ ตัวตน ความรู้สึก ของอีกฝ่ายโดยไม่เอามาตรฐานของตัวเองไปตัดสิน

25. ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้คนคนหนึ่งรู้สึกดีหรือแย่กับงานคือการให้ความสำคัญ (respect) ในผลงานของคนนั้นๆ
- หา balance ระหว่าง owed respect / earned respect
- การให้ respect ไม่เหมือนกับการให้โบนัส
ตรงที่โบนัสมีจำกัด รายการให้ respect ให้ได้แบบไม่มีจำกัด

26. การหาทีมงานคุณภาพ เริ่มที่การสัมภาษณ์
- ต้องมีแรงจูงใจร่วมกัน
- ต่างฝ่ายต่างตอบโจทย์ในเป้าหมาย ของกันได้

27. ประเด็นการตั้งคำถามสัมภาษณ์
- เรื่องคุณค่าในชีวิต : อะไรเป็นสิ่งสำคัญ ที่มาการกระทำ
- เรื่องแนวทาง หลักการทำงาน
- เรื่องการแก้ปัญหา
- เรื่องการมองอนาคต (ของธุรกิจ)
- เรื่องการเรียนรู้ การปรับตัว การเปลี่ยนแปลง
- เรื่องปัจจัยในการเลือกงาน (ผลตอบแทน การเติบโต การเรียนรู้ การเดินทาง เวลาและความยืดหยุ่น)

28. ไม่ใช่ให้ความสำคัญกับการทำงานเรื่องเดียว
ต้องให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์รอบตัวด้วย
- จัดสรรเวลาให้กับคนรอบตัว
- ทำกิจกรรมด้วยกัน
- ติดต่อกับคนที่ไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ทำให้พวกเค้ารู้สึกว่า เราสามารถพึ่งพากันได้

29. สะสมเรื่องราว ประสบการณ์ ให้มากกว่าสิ่งของวัตถุ
This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for Teerasak.
101 reviews1 follower
December 25, 2019
ถ้าใครได้ติดตาม podcast Mission To The Moon ก็น่าจะอ่านเล่มนี้ เนื้อหาส่วนใหญ่มาจาก podcast แต่ก็มีบทใหม่ๆอยู่ เนื้อหาการเรียบเรียงสละสลวยกว่าฟังใน podcast หยิบมาใช้งานได้ง่ายกว่าไปนั่งฟังจาก podcast ใหม่ ขณะที่ผมอ่านก็ไปหาใน episode ใน podcast แล้ว save ไว้ใน playlist ของ SoundCloud app ผมชอบรูปเล่มหนังสือที่ขนาดเหมาะมือ กระดาษทั้งปกและเนื้อในค่อนข้างชอบ มี quote ดีๆแทรกไว้ทุกบท สร้างแรงบันดาลใจได้ดี
Profile Image for Mam Yanisa.
130 reviews4 followers
November 4, 2019
อ่านเพลินๆ สะกิดใจ ให้ข้อคิดกับเรื่องที่เราอาจมองข้ามไป รวมๆแล้วก็รู้สึกว่าให้อะไรกับเราเหมือนกัน ได้แนวคิดที่ดีมากขึ้น
Profile Image for aida.
320 reviews21 followers
January 27, 2020
คิดว่าส่วนอื่นของหนังสือยังไม่สปาร์กจอยในตอนนี้ อ่านแล้วไม่อิน รอบนี้ขอจบแค่พาร์ตแรกแล้วกัน
Profile Image for Boon.
372 reviews8 followers
February 11, 2020
แต่ละบท สั้น กระชับ แต่ได้ใจความชัดเจน จัดหมวดหมู่ได้ดี ครอบคลุมเรื่องของตัวเอง ธุรกิจ และทีมครับ
Profile Image for Kanthida Ann.
123 reviews24 followers
June 30, 2021
5 ดาวววว ชอบมากกก
รู้สึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน
อยากรีวิวละเอียด อยากเก็บไว้ให้ตัวเองได้อ่านอีกครั้งนึง
Profile Image for Suppalerk Hello.
27 reviews1 follower
May 22, 2020
ไอเดียมีประโยชน์ เอาไปใช้พัฒนาชีวิตได้จริง

แต่การบอกเล่ามีข้อบกพร่อง หักคะแนนบรรณาธิการ

เดาว่าเป็นงานเร่ง
Profile Image for Narongrit.
10 reviews
June 14, 2020
เหมือนได้อ่านหนังสือหลาย ๆ เล่ม แล้วสรุปข้อมูลออกมาให้อ่านง่าย พร้อมตัวอย่างที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจ
Profile Image for Parit Boonluean.
81 reviews23 followers
July 1, 2020
รวม podcast ที่ผู้เขียนมาสรุปแบบละเอียดให้อ่าน มีหลายหังข้อที่ดีมากๆ นำไปใช้ได้
33 reviews
August 2, 2020
อ่านได้ประโยชน์พอสมควร โดยเฉพาะการซ่อนคำถามที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ แต่อ่านแล้วไม่เพลิดเพลิน หรือขาดความสนุก
Profile Image for Pimwipha Cheaptumrong.
3 reviews5 followers
September 2, 2020
ไม่เหมาะสำหรับคนที่อ่านหนังสือ Productivity ต่างประเทศมาแล้ว ไม่ได้มีคอนเซ็ปหรือแนวคิดใหม่ๆเท่าไหร่ แต่ละเทคนิคไม่ได้ลงรายละเอียดเยอะมาก และเนื้อหาไม่ลึก เหมาะสำหรับอ่านเพลินๆมากกว่า
5 reviews
January 9, 2021
อ่านแล้วมีพลังในการทำงาน ได้แรงบันดาลใจดี
23 reviews
October 13, 2021
สนุกดี อ่านเพลินๆได้ความรู้กับแนวคิดธุรกิจในระดับนึงแต่ก็ไม่ได้มากมาย หนังสือออกแนวอ่านชิวๆหรืออยากถ่ายลงสตอรี่เท่ๆ แต่ถ้าจะอ่านเอาควาทรู้แน่นๆก็คงไม่ใช่ทางเท่าไร
Profile Image for Kittipat Chansikarin.
5 reviews
March 1, 2025
เพิ่งได้อ่านในปี 2025 แต่เนื้อหายังชวนสะกิดใจได้ในหลายอย่างที่ลืมๆไป อ่านเบาๆระหว่างเดินทาง พกไปมาสะดวกมาก
Profile Image for Znail.
152 reviews1 follower
March 19, 2020
- Tim Urban - Why procrastinators procrastinate?
- แก้ไขการผลัดวันประกันพรุ่งด้วยการวางแผนและลงมือทำ
- Self-direction learning [SMART] - S specific ชัดเจน, M measurable วัดผลได้, A Action-oriented ระบุเลยว่าจะทำอะไร, R Realistic อยู่ในความเป็นจริง, T Time-defined เป้าหมายที่ตั้งจะเสร็จเมื่อไร
- Rethink / Reframe / Refocus
- Help your overwhelmed, stressed-out team - HBR
- Make sure your team's workload is divided fairly - HBR
- [TED Talk] Harvard study of adult development by Robert waldinger
- สรุปบทสนทนาจากเพื่อนสนิท
1. เรามักไม่ค่อยเสียใจกับเรื่องที่เราตัดสินใจทำไปแล้ว แต่เรามักเสียใจกับเรื่องที่เราไม่ได้ทำ
2. ทุกคำล้อจากเพื่อนมีความจริงอยู่ครึ่งหนึ่งเสมอ
3. เส้นทางที่เรามาจนถึงวันนี้ไม่ว่าจะดีหรือร้ายไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์ใหญ่เพียงครั้งเดียว
4. อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง
5. เราเห็นโลกแบบที่เราเป็น ไม่ใช่แบบที่มันเป็น
6. เราต้องทุ่มเทพลังในงานที่เราถนัดจริง ๆ งานถึงออกมาดี
7. การลงทุนที่มีค่าที่สุดคือลงทุนให้กับตัวเอง
8. วินัยคือสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่พรสวรรค์
9. เลือกคนที่อยู่รอบตัวคุณให้ดี
10. ถ้าย้อนกลับไปได้จะเรียนรู้เรื่องบริหารเวลากับบริหารเงิน
11. อย่าหวังอะไรใหม่ ๆ จากพฤติกรรมเดิม ๆ
12. สะสมเรื่องราวมากกว่าสิ่งของ
13. ของที่สะสมยากที่สุดคือ ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ
18 reviews
January 17, 2022
เป็นหนังสือเล่มแรกที่อ่านจากผู้เขียนท่านนี้

หนังสือบอกแนวคิดต่างๆ ของการทำงานโดยอ้างอิงจากqoute ต่างๆ ที่เขาประทับใจ บวกกับมีประสบการณ์ส่วนตัวในการทำธุรกิจเล็กน้อย

ก็เป็นเจ้าของธุรกิจนี่นะ

เนื้อหาไม่ได้หนักมาก แต่ก็ไม่ได้ลงลึกมากเช่นกัน
Profile Image for Akekapon.
3 reviews
May 30, 2020
ถ้าได้ฟัง Podcast ด้วย จะทำให้อ่านแล้วเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
Profile Image for Jay Chatree.
28 reviews3 followers
January 6, 2020
หนังสือดีอีกเล่มของคุณ รวิศ หาญอุตสาหะ เขียนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยแบ่งเป็นการจัดการตนเอง การจัดการงาน และการจัดการทีม โดยมีแนวคิดในหนังสือที่น่าสนใจหลายอย่างให้เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ เช่น
1. อย่ามัวแต่ไปกังวล กับความคิดของคนอื่นที่มีต่อตัวเรา
2. เรียนรู้ตลอดชีวิต โดยการมี growth mindset แล้วสร้าง meta skills
3. เข้าใจช่วงที่เรามีสมาธิ Deep work แล้วใช้มันให้เป็นประโยชน์
4. ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง You have got to start with customer experience and work backward to the technology: Steve Jobs
5. วัฒนธรรมองค์กร วัดค่าอย่างไร Play culture Purpose Potential Emotional pressure Economic Pressure Inertia.
6. Story telling การเล่าเรื่องที่ดี รู้ว่าใครคือคนฟัง ใส่ประสบการณ์ของเรา เน้นหัวใจของเรื่องที่จะเล่า ทำให้เข้าใจง่าย
7. การจัดการความเครียดของทีม รู้ว่างานอะไรสำคัญ หรือไม่สำคัญ กำจัดปริมาณงานที่เยอะเกินไป วางแผนให้เกิดการไหลขอ��งานที่ดีไม่สะดุด ประชุมแบบมีประสิทธิภาพ มีการแบ่งงานให้แต่ละคนอย่างยุติธรรม
8. เรื่องคนสำคัญ การโค๊ชชิ่ง เป็นหนึ่งในทักษะที่หัวหน้าทุกคนควรฝึกฝนและมี ต้องถาม ฟัง และเข้าใจเห็นอกเห็นใจ
สรุปอ่านง่าย เนื้อหาสั้นกระชับ ได้ความรู้ ยังมีอีกหลายข้อที่น่าสนใจ ลองหามาอ่านกันดูได้
Profile Image for Wisarut Limsuknirun.
4 reviews
November 28, 2019
When I read this book, it like what I’m doing right now. You can adapt every chapter with your life. The book separate to 3 section.

First.It tell about understanding in yourself and what’s going to happen with you. You may fear but you have to pass it.

Second the business, P’Tap tell the story that he saw and what he do as CEO.

Last is TEAM, starting from how to choose, improving your team, and keep them with you.
Profile Image for Sniffer.
39 reviews2 followers
January 7, 2020
เป็นหนังสือที่เหมาะกับคนที่มีเวลาไม่มากในการหาความรู้เพิ่มเติม หนังสือเล่มนี้รวมเอาบทความต่างๆ (ส่วนใหญ่จะมาจาก Harvard Business Review) และ หนังสือดีๆ อีกหลายเล่ม นำมาย่อย และ สรุปเอาใจความสำคัญมาเล่าต่อ โดยในบางเรื่องก็จะนำเสนอผ่านประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเอง ถึงแม้หนังสือเล่มนี้จะอ้างอิงถึง Harvard ไปเกือบ 80% แต่เป็นเนื่อหาที่ผ่านการคัดกรองมาอยากดี และ นำเสนอได้กระชับตรงประเด่น โดยรวมผมอยากจะแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้คนรอบตัวได้อ่านอย่างมาก
Profile Image for Olé Vorawee.
65 reviews
January 13, 2020
มีประโยชน์ แต่เรียบเรียงเนื้อหาได้ค่อนข้างสะเปะสะปะ และบางอย่างก็ไม่ค่อยตรงกับชื่อหนังสือ (Super productive) สักเท่าไหร่ เราคาดหวังอะไรที่มันเป็นระเบียบมากกว่านี้ สิ่งที่ชอบคือ เนื้อหาที่หลากหลายของคุณรวิศที่ต้องยอมรับว่า เขามี input เยอะมาก จึงคัดกรอกและเขียนเป็น output ให้เราได้อ่านตรงนี้ สิ่งที่ไม่ชอบคือ การเขียนที่ต้องจบท้ายด้วย quote ของใครซักคม มันดูฝืนเกินไปในหลายๆ บท รวมถึงการเขียนในแบบภาษาพูดที่บางครั้งเหมือนฟังพอดแคสต์มากเกินกว่าจะเป็นเนื้อหาที่ใช้อ่าน
Displaying 1 - 30 of 40 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.