ครองฝัน เล่ม 2

ครองฝัน #2

by Arise Zhang, 非天夜翔, อลิส (Translator)

ถูกกล่าวหาว่าขโมยของโดยเจตนา ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่แสนเย็นชาของทางวิทยาลัย จนกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่บีบชะตาชีวิตอันแสนโชคร้ายในวัยสิบแปดปีของ "อวี๋ห้าว" ให้พังทลายลง เขาไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อน และยังมีรสนิยมรักเพศเดียวกัน ความจนเป็นเหมือนความผิดบาป คนจนถูกตราหน้าว่าเป็นพวกเสื่อมทราม ในเมื่อชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ อย่างน้อยเขาก็สามารถเลือกได้ว่าชีวิตนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด

หลังตัดสินใจเผาถ่านฆ่าตัวตาย แต่กลายเป็นว่า.. เมื่อลืมตาขึ้น สถานที่ที่เขายืนอยู่กลับเป็นขอบกำแพงเมืองจีนที่เห็นในฝันหลายต่อหลายครั้ง ในใจที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เตรียมจะกระโดดลงสู่ห้วงเหวลึกเบื้องหน้า ทว่า.. กลับมีชายสวมชุดเกราะยื่นมือมาจับเขาไว้ อีกฝ่ายพูดกับอวี๋ห้าวว่า "ฉันคือขุนพล เป็นผู้พิทักษ์แดนนิทราของนาย" ขุนพลมอบความไว้วางใจและความหวังให้แก่เขา ภายใต้ความช่วยเหลือของอีกฝ่าย อวี๋ห้าวช่วงชิงสิทธิ์การเป็นเจ้าของแดนนิทราของตัวเองกลับคืนมาได้ และเอาชนะความมืดภายในใจได้สำเร็จ เมื่อลืมตาฟื้นกลับมาในโลกปัจจุบัน เขาเลิกปิดกั้นใจตัวเอง ได้พบเพื่อนใหม่ และเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ทว่า.. ในเวลาเดียวกันก็มีเครื่องหมายคำถามอันใหม่เริ่มปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง.. ตกลงขุนพลเป็นใครกันแน่ ใช่คนใกล้ตัวเขาคนใดคนหนึ่งหรือไม่?!

496 pages, Paperback

Published March 1, 2020

About the author

Associated Names:
* Arise Zhang
* 非天夜翔
* Fei Tian Ye Xiang
* เฟยเทียนเย่เสียง (Thai)

* 顧雪柔
* Gu Xue Rou
* Cố Tuyết Nhu (Vietnamese)

Reviews

[Kamons · Rating 4 out of 5]

ครองฝันเป็นนิยายอีกเล่มนึงที่เป็นม้านอกสายตา แต่ยังดีที่วกกลับมาตามอ่านทัน ฮ่าๆ
นิยายเรื่องนี้เราแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ เหตุการณ์ในชีวิตจริง ปมความฝันในแดนนิทรา และความสัมพันธ์ระหว่างโจวเซิงและอวี๋ห้าว

เหตุการณ์ในชีวิตจริงและฝันในแดนนิทรามีความสัมพันธ์กัน โลกแห่งความจริงอันยุ่งเหยิงทำให้แดนนิทราสับสนปั่นป่วน แดนนิทราในเล่มนี้ที่เราได้อ่านนี้คือ ชิเชนอิตซา ชอบฉากในฝันที่อลังการและสับสนมาก ซึ่งความฝัยในครั้งนี้ค่อนข้างสาหัสกว่าจะแก้ปมฝันจนสามารถผจญปัญหาในชีวิตจริงได้ก็ยุ่งยากพอตัว

อวี๋ห้าวชอบโจวเซิง แต่โจวเซิงขีดเส้นกับอวี๋ห้าวไว้แค่เพื่อน แต่สิ่งที่โจวเซิงแสดงออกมามันมากกว่าเพื่อนชัดๆ การกระทำกับสิ่งที่บอกขัดแย้งแบบประสาทแดกสุด เหมือนโจวเซิงก็ชอบอวี๋ห้าวแหละ แต่คงมีปมในใจที่ขัดแย้งกันมากๆ ไม่อยากมีครอบครัวเพราะเคยมีปัญหาครอบครัวขัดแย้งทำร้ายกัน ความเชื่อมั่นว่าตัวเองเป็นชายแท้ แต่พอมาเจออวี๋ห้าวอะไรๆ ที่เคยยึดมั่นมาก็สลายไปหมด ชั้นเข้าใจน้องโจว แต่อดสงสารอวี๋ห้าวไม่ได้ และอิประโยค พระจันทร์สวยมากนั่นป่ะไร ตกลงแกจะบอกรักแล้วทำฟอร ม

[Rada Chalapipat · Rating 4 out of 5]

เทียบกับเล่มหนึ่งแล้ว เล่มนี้ลึกซึ้ง ซับซ้อนและสนุกยิ่งกว่า ในเล่มแรกจะเป็นการแนะนำตัวละครหลักและรองโดยมี 2 ความฝันแดนนิทราที่พระนายต้องเข้าไปผจญภัยเพื่อค้นหา "โทเทม" ซึ่งเปรียบเสมือนหลักยึดเหนี่ยวเข้มแข็งที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใต้สำนึกของเจ้าของความฝันที่ทั้งคู่ต้องฝ่าด่านสัตว์ประหลาดและภยันตรายอันเป็นสัญลักษณ์จากบุคคล, ประสบการณ์, ความชั่วร้ายหรือความทรงจำที่ฝังลึกในใจของคนๆนั้น ถ้าช่วยให้เขาเอาชนะใจตัวเองในฝันได้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงทางความคิดของบุคคลนั้นในชีวิตจริงซึ่งทั้งสองเล่มล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ตกอยู่ใน "ภาวะหรือโรคซึมเศร้า"

เล่มแรกเปิดตัว #อวี๋ห้าว นักศึกษาหน้าสวยเสียงดีที่ฆ่าตัวตายไม่สำเร็จหลังจากจมอยู่ในความทุกข์ตั้งแต่ย่าที่เลี้ยงดูเขาหลังพ่อแม่แยกทางกันเสียชีวิตหลังสอบติดเข้ามหาวิทยาลัย ทุกข์ที่เคยถูกเพื่อนสนิทที่แอบรักประจานว่าเป็นเกย์จนกลายเป็นคนเก็บตัวและดูถูกตัวเอง นายเอกคิดสั้นหลังถูกมหาวิทยาลัยจะเชิญให้ออกเพราะถูกใส่ความในคดีลักขโมยนาฬิกาหรูของพ่อของเด็กหญิงชั้นประถมที่นายเอกรับจ้างไปสอนพิเศษ คนที่ช่วยอวี๋ห้าวไว้ในฝันคือ #ขุนพล คนที่ช่วยชีวิตเขาในชีวิตจริงคือ #โจวเซิง และ #ฟู่ลี่ฉวิน นักศึกษาเอกพละที่กลายเป็นรูมเมทและเพื่อนสนิทในเวลาต่อมา รวมถึงครูที่ปรึกษาไฮโซสุดหล่อดีกรีโทโคลัมเบียคนใหม่อย่าง #เฉินเย่ไข่ ที่ช่วยนายเอกทั้งเรื่องเรียน หางานพิเศษและติดต่อเพื่อนตำรวจให้ช่วยไขคดีค้นหาความจริง

การผจญภัยในแดนนิทราและการไขคดีลีกขโมยในเล่มแรกดูง่ายไปเลยเมื่อเทียบกับเล่ม 2 เพราะตอนของนายเอกมีแค่ปัญหาสิ้นหวังท้อแท้จากเพื่อน สังคมและสูญเสียคนในครอบครัวแต่กู้คืนได้ไม่ยากเพราะมีความรักความอบอุ่นของย่าและได้เพื่อนสนิทคนใหม่ๆ ในขณะที่คดีของเด็กหญิงเป็นการทารุณกรรมเยาวชนจากบุพการีที่เด็กเกิดความกลัวแต่ยังมีที่หลบภัยเพราะเชื่อใจเพื่อนรักและพระ-นายที่คนนึงเป็นครูใจดี อีกคนก็บู๊เก่งเสมือนซุนหงอคงฮีโร่ในดวงใจ เล่มสองมีเรื่องราวสืบต่อจากเล่มแรกพอสมควร นายเอกใช้ความช่างสังเกตสมกับเป็นว่าที่นักจิตวิทยาจนรู้สึกถึงความผิดปกติทางอารมณ์และบุคลิกภาพของ #เฉินเย่ไข่ หลังจากที่ทางมหาวิทยาลัยเพิ่งจะรับอาจารย์ใหม่เป็นคู่สามีภรรยาที่ย้ายมาจากอเมริกา โดยทั้งคู่เคยเป็นอาจารย์ของไขไข่และเกิดเหตุรถคว่ำที่ฝ่ายหญิงบาดเจ็บสาหัส แต่ความช่างสังเกตของโจวเซิงซึ่งมาจากครอบครัวที่พ่อแม่ทะเลาะกันมองออกว่าฝ่ายหญิงต้องถูกทำร้ายร่างกายมาก่อน เล่มนี้พระนายที่รู้ความลับแดนนิทราและเชื่อมต่อการเข้าฝันกันได้ผ่านทาง "กงล้ออีกาทองคำ" เพราะนายเอกมอบโทเทมให้พระเอก โดยคนนึงเป็นขุนพลที่ปรับเปลี่ยนชุดเกราะได้ตามโลกจินตนาการจะมีโล่หรือกระบองกายสิทธิ์คู่กาย อีกคนเป็นฑูตสวรรค์มีปีกใช้ไม้สอยผ้าของย่าเป็นอาวุธ เล่มนี้เราว่าบทบู๊แอคชั่นสนุกกว่าและยากขึ้นทั้ง 2 แดนความฝัน โจทย์ก็ยากขึ้นเพราะเจ้าของความฝันแรกอย่างไขไข่มีความโกรธเกรี้ยวอาฆาตแค้น ปนกับความรู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุนึงให้อดีตคนรักฆ่าตัวตาย ฝันของอาจารย์ไข่จะอยู่ที่อเมริกาใต้เกี่ยวข้องกับความเชื่อของชาวมายา แล้วเจ้าของความฝันก็ฉลาดซะจนจับได้ว่าลูกศิษย์บุกเข้ามาช่วยตัวเองให้หลุดพ้นจากความทุกข์ในอดีต ซึ่งไปโยงกับคดีฆาตกรรมที่ทำให้พระเอกและไขไข่ตัดสินใจลองเสี่ยงเข้าไปหาจิตใต้สำนึกของอาจารย์ที่ยังเป็นเจ้าหญิงนิทรา แดนฝันของอาจารย์ก็ยากไปอีกมิตินึงเพราะเป็นการไขว่คว้าหาสัญชาตญาณสัมผัสทั้งหกเพื่อดึงให้จิตกลับมารับรู้ท่ามกลางความมืดมิดที่พระเอกและอาจารย์ไข่เกือบเอาตัวไม่รอดถ้านายเอกไม่บุกเข้าไปช่วยไว้ ออกมาจากแดนฝันแล้วก็จะเข้าสู่ปัญหาในชีวิตจริงซึ่งบู๊และชิงไหวชิงพริบกันหนักหน่วงสมกับที่ตัวร้ายเป็นอาจารย์ทางจิตวิทยาในระดับที่แทรกแทรงเหนี่ยวนำความคิดได้ ลุ้นแล้วลุ้นอีก สนุกมาก

[Chanyaku · Rating 4 out of 5]

สนุกกว่าเล่มแรก พอได้รู้ปมของอาจารย์เฉินแล้วสะเทือนใจเหมือนกัน สงสารอ่ะ