Jump to ratings and reviews
Rate this book

No Hurry, No Worry ขออภัย แต่ไม่ต้องรีบ

Rate this book
ทำไมยิ่งพยายามมีความสุขเราถึงยิ่งทุกข์ลงทุกวัน?

ทำไมอดทนและขยันแทบตายแต่ยังไม่สุขสบายอีกล่ะ?

แล้วจะเป็นไรไหมถ้าเราไม่ได้เดินตามแพสชัน?

บนโลกที่ต้องวิ่ง ต้องเร็ว ต้องไว บนโลกอุดมคติแห่งการเติบโตและการก้าวไปไม่หยุดยั้ง

บนโลกที่เรียกร้องความสนใจจากเราทุกนาที

บนโลกที่หมกมุ่นว่าใครจะพ่ายแพ้และใครจะชนะ

หนังสือเล่มนี้จะไม่ขอให้คุณทำตัวช้า-ช้า แต่จะขอให้คุณลองถอยออกมาทำความเข้าใจเบื้องหลัง

และตอบคำถามว่าทำไม...

"คุณไม่จำเป็นต้องรีบ"

248 pages

Published May 1, 2020

2 people are currently reading
25 people want to read

About the author

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
9 (26%)
4 stars
14 (41%)
3 stars
10 (29%)
2 stars
1 (2%)
1 star
0 (0%)
Displaying 1 - 8 of 8 reviews
Profile Image for loonchies.
239 reviews26 followers
August 10, 2024
สรุปก็อยู่ในสารบัญแล้วแหละ ~ หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ How to (ปกดูไปแนว How to มาก ถถถ) แต่เป็นบทความอ้างอิงมาจากหลาย ๆ งานวิจัย/หนังสือ เพื่ออธิบายปรากฏการณ์/พฤติกรรมคนในสังคมในยุคที่อยากให้คน productive เหลือเกิน ตามฉบับผู้เขียน ซึ่งน่าสนใจดี

มีประเด็นหลาย ๆ อย่างที่น่าสนใจนะ เช่น Meritocracy อันแสนหลอกลวง, Effective Altruism, Voluntourism, ชีวิตในยุค Attention economy ฯลฯ

“เป็นทุกข์บ้างก็ได้ ไม่ต้องมีความสุขตลอดเวลา
ขี้เกียจบ้างก็ได้ ไม่ต้องขยันตลอดเวลา
นิ่งเฉยบ้างก็ได้ ไม่ต้องใจดีตลอดเวลา
โง่บ้างก็ได้ ไม่ต้องฉลาดตลอดเวลา
ใจเย็นบ้างก็ได้ ไม่ต้องรีบตลอดเวลา
ปล่อยวางบ้างก็ได้ ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนไปตลอดเวลา”

แต่อ่านตอนไม่สบาย มันก็จะเนือย ๆ หน่อย
—————

ข้างล่างน่าจะสปอยล์เนื้อหานะ

-เมื่อการบอกให้มุ่งมั่นอาจทำร้ายทุกคน…ทำไมอดทนขยันตลอดไปแล้วยังไม่สุขสบายอีกล่ะ?
เพิ่งรู้จักไอเดีย Meritocracy (ระบบสังคมที่คนได้รับอำนาจหรือเงินจากความสามารถของตัวเอง) ที่มีความเชื่อ “หากเราทำดีตั้งใจพยายามขยันขยันเราย่อมได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับน้ำพักน้ำแรงของเรา” ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ โลกนี้มันเป็นระบบที่เอื้อผลประโยชน์ต่อคนบางกลุ่มเท่านั้น โลกกระทืบซ้ำคนที่ล้มเหลวโดยบอกว่าเค้าไม่พยายามมากพอทั้ง ๆ ที่จริง ๆ อาจจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลมากมาย เช่น ความซับซ้อนของระบบเศรษฐกิจและสังคม สภาพการเมืองและเศรษฐกิจแย่ ๆ สถานการณ์และความจำเป็นในชีวิต เราต่างมีต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน
ไม่ใช่แค่คนที่สำเร็จที่พยายาม คนที่ล้มเหลวก็พยายามเหมือนกัน

-อย่าเป็นคนดีแต่ไม่มีสติ…เมื่อความเห็นอกเห็นใจอาจไม่ได้ช่วยอะไร
เสนอไอเดีย Effective Altruism เลือกทำดีและมีเมตตาผ่านการคิดคำนวณด้วยหลักฐานและเหตุผล มากกว่าการทำดีเพื่อความรู้สึกดีส่วนตัวแล้วจบไปเป็นครั้งคราว ไม่ใช่แค่หวังดีก็พอแล้วบางทีมันไม่พอ ~ เป็นอะไรที่สนับสนุนเรื่อง สิ่งที่ตัวเองคิดว่าทำดีอาจไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป บางทีให้อาหารสัตว์จรจัด ให้เงินขอทาน อาจทำให้เกิดปัญหามากกว่า ปิดโอกาสที่จะทำให้ปัญหานั้นได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง
//พูดถึง Voluntourism (การท่องเที่ยวเชิงอาสาที่ผู้จัดโปรแกรมชักชวนจูงใจคนหนุ่มสาวให้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำความดีในประเทศกำลังพัฒนา” กลายเป็น ความจนคือสถานที่ท่องเที่ยวอีกแบบนึงซะงั้น ~ อันนี้เราคิดตะหงิดในใจกับพวกโครงการอาสาสอนน้อง/แพทย์อาสาอะไรพวกนี้เหมือนกัน คือสงสัยในใจหนะ ว่ามันยั่งยืนไหมนะ🤔 ~ แต่ใด ๆ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็คงต้องทำ แต่ไม่ควรจะปล่อยให้มีสิ่งนี้เพื่อ compensate สถานการณ์ไปวัน ๆ มันต้องหาวิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนควบคู่ไปด้วย

มีส่วนอ้างอิงของหนังสือ Against empathy (Steven Pinker) ที่ว่า “แทนที่เราจะต้องรักเพื่อนบ้านและสตูให้เท่ารักตัวเอง เราไม่ต้องรักเพื่อนบ้านก็ได้ แต่เราเลือกได้ที่จะไม่ฆ่าและทำร้ายเขา” เออ เราไม่ต้องชอบกันก็ได้ แต่เราไม่ทำร้ายกันก็ได้ไหม //ก็เอามาใช้การเมืองได้นะเนี่ย เออ เราไม่ต้องรักกันก็ได้แต่มันต้องอยู่ด้วยกันอะ

-เหนื่อยวันนี้ สบายวันหน้า ถ้าไม่ตายเสียก่อน
พูดถึงไอเดีย Task Completion Bias คนทำงานเลือกทำของง่ายก่อนเพื่อให้รู้สึกว่าอย่างน้อยมีอะไรเสร็จ และเสพติดความรู้สึกดีนั้นจนเลือกทำแต่สิ่งที่จะทำได้สำเร็จในระยะเวลาสั้น ๆ และปล่อยงานยาก ๆ ที่ต้องใช้เวลาเอาไว้ อาจทำให้ผลผลิตในระยะยาวลดลง
“หากเลือกทำแต่ของง่าย ๆ เราอาจไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ของยาก ๆ และละเลยที่จะเข้าใจว่าโลกนั้นซับซ้อน”

-ไม่ตายก็เก่งแค่ไหนแล้ว
“ ในตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจอันโหดร้าย ไม่ใช่ทุกคนที่เลือกเดินได้อย่างอิสระ สำหรับคนที่ทำงานหาเช้ากินค่ำ มีความจำเป็นในชีวิต และภาระที่ต้องแบกรับ คำว่าแพสชั่นอาจแทบไม่มีอยู่จริง การมีชีวิตรอดได้ในภาวะเศรษฐกิจแย่แย่และความไม่แน่นอนการไม่กลายเป็นบ้าอาจจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว”

-ไม่ต้องไว ไม่ต้องรีบ …คุณไม่ผิดที่จะขี้เกียจ
ลัทธิความสุขอาจทำให้เราทุกข์ยิ่งกว่า ไม่เป็นไร หากจะเศร้าหมอง โกรธเคือง และกังวล
”อย่าให้โลกกดดันจนเราต้องปฏิเสธความเสียใจและไม่ยอมรับความล้มเหลว“

ในยุค Attention economy การไม่ทำอะไร ก็อาจเป็นการเอาคืนระบบที่แสวงหาผลประโยชน์จากความสนใจของเรา
“ เราอยู่ในโลกที่คาดหวังให้เราต้องมีประโยชน์ และสร้างประโยชน์ตลอดเวลา เวลาและจิตใจของเรากลายเป็นทรัพย์สินมีค่า”

-มาหัวเราะให้กับความไม่รู้ เมื่อเราต่างหยิบยืมความรู้มาจากผู้อื่น
“จงยินดีที่คนเราไม่ต้องรู้และเข้าใจทุกสิ่ง จงยอมรับว่าเราไม่รู้บ้างก็ไม่เป็นไร จงพึ่งพาข้อมูลจากคนอื่น จงฝึกเสาะหาข้อมูล เปรียบเทียบ วิจารณ์และคัดกรองข้อมูล ไม่ให้เราโดนหลอกโดยง่าย จงอย่าเผลอทึกทักว่าความฉลาดของคนอื่นเป็นของเราเพียงแค่เราอาจเจอและยืมมา”
Profile Image for EARN.
67 reviews
November 14, 2023
เล่มนี้เป็นเหมือนการรวบรวมแนวคิดที่มีต่อการทำงานและสังคมรอบข้างได้เป็นอย่างดี ทางผู้เขียนมีการนำ References จากหนังสือ บทความ และงานวิจัยต่างๆ มาย่อยให้อ่านง่าย ทำให้ได้ตระหนักถึงเรื่องนั้นๆมากยิ่งขึ้น โดยส่วนตัวชอบหลายบทเลย แต่บทที่ชอบที่สุดคงเป็นเรื่อง Meritocracy หรือระบบสังคมที่คนได้รับอำนาจหรือเงินจากความสามารถของตัวเอง ทำให้เกิดค่านิยมว่าเราต้องพยายามมากๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จและการยอมรับ จนทำให้คนที่พยายามแต่ไม่ประสบความสำเร็จดูเป็นคนไม่เอาไหน แต่จริงๆแล้วคือไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จได้ มันมีหลายปัจจัยมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนที่หยุดพักบ้างระหว่างทาง จะเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จหรือไม่พยายามสักหน่อย ซึ่งมีประโยคนึงที่เราชอบ เป็นข้อมูลจากหนังสือที่ผู้เขียนอ้างอิงมาอีกที ก็คือ "โลกไม่ได้ให้รางวัลแก่ทุกคนที่พยายาม อย่างที่ใครเขาสัญญาและขายฝัน อย่าลืมว่าไม่ใช่แค่คนที่สำเร็จที่พยายาม คนที่ล้มเหลวก็พยายามเหมือนกัน" ดีมาก อ่านแล้วจดไว้เลย

แต่สิ่งที่เราติดก็คือในเล่มนี้จะมีการพูดถึงหลายแนวคิดแตกต่างกันไป แต่ก็เข้าใจว่าผู้เขียนคงอยากพูดหลายๆประเด็นที่นำมารวมกันแล้วเป็นแนวคิดที่นำไปสู่ชื่อเรื่อง No Hurry, No Worry แหละ พออ่านแล้วรู้สึกขบคิดถึงประเด็นต่างๆนะ แต่ด้วยความที่มันไม่ได้ specific ลงไปขนาดนั้น เลยทำให้เหมือนเป็นการรู้จักแนวคิดต่างๆแค่เบื้องต้นเท่านั้นเอง มันไม่สุด เลยทำให้ต้องไปหาหนังสืออ่านต่อตาม References ที่เขาให้ไว้อีกทีนึง
Profile Image for ANKO.
151 reviews16 followers
March 18, 2022
ปกติไม่ค่อยถนัดอ่านแนว ๆ นี้สักเท่าไร แต่เล่มนี้อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อเลย ได้มุมมองชีวิต และความคิดที่กว้างขึ้นเยอะเล��
Profile Image for Duke Kittisiri.
9 reviews6 followers
October 4, 2020
ผู้เขียนตั้งคำถามเกี่ยวกับค่านิยม แนวคิด ความเชื่อของเราและของสังคมได้น่าสนใจ อีกทั้งหาข้อมูลและ references เพื่อตอบข้อสงสัยจากคำถามเหล่านั้นประมาณหนึ่ง

อาจด้วยเพราะคำถามหรือหัวข้อนั้นมีหลากหลาย จึงทำให้คำตอบของแต่ละคำถามมันไม่ค่อยลึกเท่าไหร่ เป็นเหมือน concept หรือแนวคิดกว้าง ๆ ที่มีข้อมูลสนับสนุนในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลและเนื้อหาเหล่านั้นก็น่าสนใจและกระตุกต่อมคิดของเราได้อย่างดี ชวนให้เราขบคิด สงสัย และได้เห็นมุมมองที่แตกต่างออกไปจากสิ่งเดิม ๆ

สำหรับบางคนที่ชอบตั้งคำถามกับค่านิยมต่าง ๆ ของสังคม หนังสือเล่มนี้อาจช่วยให้คุณเจอคำตอบที่น่าสนใจมากมาย

ส่วนคนที่ไม่ค่อยได้ เอ๊ะ? กับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ หนังสือเล่มนี้อาจแง้มโลกของคุณให้กว้างขึ้นก็ได้นะ
Profile Image for Nuttawat Kalapat.
685 reviews48 followers
November 8, 2021
ดีจัง ผู้เขียนสามารถ
รวบรวมงานวิจัย เกี่ยว กับ คน ชีวิต งาน
มาเล่าและย่อย ให้เราๆ อ่านได้ง่าย กระตุกต่อมคิดได้
และ เขียนได้ค่อนข้างลื่นไหลเลยล่ะ

ดีดว่าที่คิด
Profile Image for mayvira.
80 reviews8 followers
December 23, 2024
สุดท้ายปัญหาทุกอย่างก็มีต้นตอมาจากระบบทุนนิยม😔

อ่านเพลินๆดี เป็นหลายๆประเด็นที่สนใจอยู่แล้วด้วย แต่ก็ไม่รู้วิธีจะแก้ปัญหา existentialism ของตัวเองอยู่ดี (ก็แน่สิ นี่มันชีวิตแก)

มีแค่บางจุดที่รู้สึกว่าแปลจากอังกฤษทื่อไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
Profile Image for KaTe.
66 reviews
June 8, 2022
เป็นเรื่องที่อยู่รอบตัวเรา อ่านแล้วได้ฉุกคิดอะไรดีค่ะ ชอบตรงมีบทวิจัยต่างๆมา support ด้วย อ่านเพลินดี
Profile Image for Sura Siri.
346 reviews5 followers
March 30, 2024
แนวคิดของหนังสือเล่มนี้ เพื่อปรับปรุงความรีบร้อน/รีบเร่งของผู้คน ให้ผ่อนคลายคลาย โดยใช้ข้อมูลจากหนังสือและงานวิจัยมายืนยันให้เห็นว่า...เร่งรีบไปชีวิตก็ไม่ได้แตกต่าง
Displaying 1 - 8 of 8 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.