Jump to ratings and reviews
Rate this book

ทะเลสาบน้ำตา

Rate this book
ยิหวา เด็กหญิงผู้ถูกแม่ทิ้งไว้ที่บ้านในตึกพิลึกพิลั่นเพื่อออกไปตามหาความรักหลังจากที่พ่อกลายเป็นต้นไทร
อนิล เด็กชายซึ่งถูกพ่อหมางเมินหลังจากไล่ตะเพิดแม่ออกจากบ้าน เมื่อทนต่อการถูกมองข้ามไม่ไหวหลังจากพ่อแต่งงานใหม่
อนิลจึงตัดสินใจออกจากบ้าน เร่ร่อนจนกระทั่งได้มาเจอกับยิหวา และกลายเป็นเพื่อนรักกัน
ยิหวาพาอนิลไปรู้จักกับชาวสมาคมลับแห่งต้นชงโคซึ่งประกอบด้วยคุณยายไลลา ห่านปุยฝ้าย และแมวโบ๋แบ๋...

224 pages, Paperback

Published July 1, 2020

7 people are currently reading
91 people want to read

About the author

เกิดกรุงเทพฯ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2505 ในครอบครัวชนชั้นกลาง มีคุณแม่เป็นครูสอนเปียโน และมีพี่ชายหนึ่งคน ความฝันวัยเด็กคืออยากเป็นนักร้องลูกทุ่ง เคยเรียนด้านเลขานุการ และไปเรียนด้าน Communication Arts ที่กรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย กลับมาทำงานนิตยสารเกย์ชื่อ ‘นีออน’ เป็นครีเอทีฟเอเจนซี่โฆษณา ทำนิตยสารแฟชั่นชื่อ ‘Hyper’ และเปิดร้ายขายสร้อยอยู่ช่วงหนึ่ง ควบคู่กับการเลี้ยงลูกชายหนึ่งคน ก่อนจะกลับมาเขียนนวนิยายเต็มตัว

นวนิยายเรื่องแรก ‘ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต’ ชนะรางวัลซีไรต์ประจำปี 2558 และเรื่องต่อมา ‘พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ’ ได้รับรางวัลซีไรต์สาขานวนิยาย ประจำปี 2561

ปัจจุบัน วีรพรใช้ชีวิตอยู่กับสามีที่กรุงเทพฯ ส่วนลูกชายเรียนปริญญาเอกด้านปรัชญาอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
19 (16%)
4 stars
39 (34%)
3 stars
38 (33%)
2 stars
10 (8%)
1 star
6 (5%)
Displaying 1 - 22 of 22 reviews
Profile Image for top..
510 reviews116 followers
September 24, 2020
ว่ากันว่านักอ่านมีสองประเภท

ประเภทที่อ่านไส้เดือนแล้วยังหาเล่มอื่นมาอ่านต่อ
กับประเภทที่ไม่ไปต่อแล้วตั้งแต่ไส้เดือน

นี่เป็นประเภทแรกครับ เล่มแมวกุหลาบดำยังไม่อ่านสักที เนื่องจากเหนื่อยกับภาษาเยอะแยะมหาศาลของเล่มแรก ซึ่งมันงามแต่ไม่ได้เหมาะกับทุกเวลา (ใครจะพร่างพราวร้าวรานร่วงหล่นลิบลับวับแวมหรุ่บหรู่พรู่พร่างมลังเมลืองได้ทุกสามบรรทัดกันครับ)

สำหรับเล่มนี้ แปลกใจมากที่ได้ยินมาว่าเป็นวรรณกรรมเยาวชน และบางท่านก็บอกมีกลิ่นแบบไส้เดือนฯ ก็ได้ฉงนสงสัยว่ามันจะไปในทิศทางไหนหว่า ซึ่งก็ทราบแล้วครับ ตามความเห็นของผม ทะเลสาบนี้ซุกซ่อนสัญลักษณ์ไว้มากจนเหนื่อยจะตี ภายใต้เรื่องซับซ้อนท้อนทับของแต่ละตัวละครที่เกี่ยวโยงกันผ่านทรงจำ (ไม่มีความนำหน้า) และความจริงความฝัน สถานที่แฟนซีแต่สะท้อนความมีอยู่จริงในสังคมเมือง (เมืองกระจกลืมเลือนนี่ชัดมาก) และความฉูดฉาดจัดจ้านของคาแรคเตอร์ที่น่าจะดึงดูดแฟนๆ ของคุณนักเขียนเค้าให้ชอบกันได้ไม่ยาก (แฟชั่นบนรันเวย์กับสไตล์เหนือจริงเว่อๆ เหมือนไส้เดือนเป๊ะ)

ท่ามกลางหมู่ดอกไม้เบ่งบาน ร้าวรานเหลืออยู่  ดนตรีโรยตัวลงต่ำ และสายลมพัดผ่านไปแล้วชื่นใจ ถ้าหาความบันเทิงมวลชน นี่ว่าไส้เดือนยังบันเทิงกว่า โดยส่วนตัวคิดว่าเล่มนี้น่าจะจัดอยู่ในหมวดเดียวกับงานบนหิ้ง ลิทเติ้ลปริ๊น ในแบบวรรณกรรมโตตามคนอ่านได้นะ (แต่จะให้อ่านอีกรอบก็ขอเถอะนะคะ)
Profile Image for MT.
638 reviews82 followers
August 3, 2020
- เล่มนี้จะไปทางไส้เดือนมากกว่าพุทธศักราช คือเป็นไส้เดือนที่ดูจะแฟนตาซีวายเอมากกว่าจะอยู่ในแนวเหนือจริงหรือสัจนิยมมหัศจรรย์แบบงานก่อนๆแต่สำนวนการเขียนก็ยังคงความเป็นวีรพรเหมือนเดิม
- เสียดายที่นิยายมาบอกที่มาที่ของบางสิ่งมนเรื่องไปช้าไปหน่อย แต่พอได้รู้ก้อยากเอามาอ่านใหม่ๆเพราะประเด็นในเรื่องนี้มีความนามธรรมมาก ถ้าเล่มแรกคือมายาคติ เล่มต่อมาคือกพร่าเรืองทางประวัติศาสตร์และคทรงจำ เล่มล่าสุดจะเป็นอะไรที่trancendentมานิดนึงซึ่งกลายเป็นว่าสไตล์การเขียนของพี่แหม่มต้องผูกกับประเด็นที่ถูกคู่ด้วย
- รวมๆแล้วชอบเรื่องนี้น้อยกว่าพุทธศักราช เหมือนเรื่องก่อนหน้ามันมาสเตอร์พีคมากๆมีครบทุกอย่าง(สำหรับเรา)เรื่องนี้เลยดูดร๊อปไปประมาณนึง แต่ถือเป็นงานไมเนอร์เวิร์คที่น่าสนใจครับ
Profile Image for รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์.
Author 10 books108 followers
November 22, 2020
นวนิยายสไตล์ของวีรพรที่มีแกนกลางคือครอบครัวที่ผุผัง แต่คราวนี้บอกเล่าผ่านสายตาของเด็กน้อยสองคนจากครอบครัวแหว่งวิ่นที่ชะตากรรมพาให้มาพบกัน

นี่คืองานเขียนแฟนตาซีที่ทุกอย่างเป็นไปได้ รุ่มรวยด้วยจินตนาการ สิ่งละอันพันละน้อยถูกตั้งชื่อ ซึ่งผมเข้าใจว่าคือเรื่องราวแฟนตาซีผ่านจินตนาการของสองเด็กน้อย

น่าแปลกใจที่เล่มนี้จบหวานๆ สไตล์ซิตคอม ส่วนตัวผมไม่ชอบนะ มันยืดยาดไปหน่อย (ซึ่งย้วยกว่านวนิยายของวีรพรที่ปกติก็เนิบช้าอยู่แล้ว) ฟูมฟายด้วยภาษาฟรุ้งฟริ้งที่ยิ่งทำให้อ่านยาก แถมเนื้อเรื่องแฟนตาซีที่อ่านแล้วไม่เก็ทสักนิดว่าโลกใบนั้นหน้าตาเป็นยังไง
September 25, 2020
แด่… ความจริง ความฝัน ความทรงจำ และการลืมเลือน

เล่มที่ 3 ของคุณแหม่ม วีรพร ไม่คิดว่าจะมาแนวนี้ 👉 วรรณกรรมเยาวชน, young adult, coming of age และมีความ fantasy กว่า 2 เรื่องก่อนหน้า มากๆๆ

ตอนอ่านไปประมาณครึ่งเล่ม คิดว่าน่าจะเฉยๆ กับเล่มนี้นะ [ยังจับประเด็นไม่ได้] แต่พอเข้าองก์ 3 เท่านั้นแหละจร้า คุณแหม่มพาไปไกลกว่าที่คาดไว้มาก กลายเป็นชอบซะงั้น คิดว่า คงต้องกลับไปอ่านเก็บรายละเอียดใหม่หมด 😅😅😅

โคว้ทที่ชอบในเล่มนี้ครับ 👇

“อะไรกันที่ทำให้สิ่งสวยงามขนาดนั้นแตกสลาย ฝันแสนหวาน ความภาคภูมิใจ ความรู้สึกยิ่งใหญ่เหลือเกินนั่นมีอายุแสนสั้นขนาดนั้นได้อย่างไร” - p.91

“การเติบโตไม่ใช่การรู้สึกเจ็บน้อยลงแต่อย่างใด แต่คือการเข้าใจว่าความเจ็บปวด…ไม่ว่ารวดร้าวแค่ไหนก็ตาม…จะผ่านไป” - p.210

“มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่เรารู้ทั้งๆ ที่ไม่รู้ ได้ยินทั้งๆ ที่ไม่ได้ยิน และเข้าใจทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจ” - p.212

“มันไม่มีคนไม่ดีอยู่ในโลกนี้หรอก[ยิหวา แม่ว่า] มีแต่คนที่หัวใจแหลกสลายไม่เป็นชิ้นอัน”- p.18

“โลกอาจนุ่มนวลกว่านี้ ถ้าผู้คนจะหาเวลามองพระอาทิตย์ขึ้นกันเสียบ้าง [แม่เคยบอก]” - p.21
Profile Image for Whale Read.
414 reviews33 followers
December 17, 2020
มันไม่มีคนไม่ดีอยู่บนโลกนี้หรอกยิหวา แม่ว่า มีแต่คนที่หัวใจแตกสลายไม่เป็นชิ้นอัน

ชายอกหักที่ฆ่าตัวตายด้วยการยิงหัวใจตัวเองแต่ไม่ตายต้องมีชีวิตอยู่กับหัวใจที่แตกร้าว

กระจกแห่งความอัปลักษณ์และเศษกระจกที่บาดเข้าไปในตาของเด็กชาย

รู้สึกดีใจกับคุณวีรพรที่หลุดออกมาจากธีมการเขียนแบบ "โศกนาฏกรรม" จากทั้งสองเล่มที่ผ่านมา

เรื่องนี้เป็นแฟนตาซี ที่หลุดกรอบมาก น่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากเกมส์ต่อตึกที่โด่งดังในอดีต

นักเขียนบางคนยึดติดกับสไตล์ของตัวเองมาก แต่ก็ทำได้ดีในสิ่งเหล่านั้น

น่าสงสัยว่าเพราะการจบแบบไม่เหมือนทั้งสองเล่มที่ได้ซีไรต์รึเปล่า
หนังสือเล่มนี้ถึง ไม่ได้รับการพูดถึงมากเท่ากับสองเล่มที่ผ่านมา
หรือจะเป็นแค่การตลาดที่เม็ดเงินไม่แน่นหนามากพอ (ฮา)



Profile Image for Harmish.
15 reviews6 followers
Read
August 26, 2020
พี่แหม่มเล่มนี้วิบวับตระการตามาก แวบแรกนึกถึง What Remains of Edith Finch ด้วยความบ้านโย้เย้ ความโลกมหัศจรรย์ จินตนาการอันสับสนและยุ่งเหยิงของเด็กกำพร้าหลงทางสองคน ที่กำลังตามหาและหลีกหนีความเดียวดาย บาดแผลในความทรงจำจากโลกความเป็นจริงก่อนที่จะรู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไร

อ่านง่ายอ่านสนุกเล่มหนึ่งเลย แต่ก็ไม่ทิ้งลายวีรพร นิติประภา ภาษาก็ต้องสวยงามหยาดย้อย แบบที่ต้องใช้ความทุ่มเทเล็กน้อยในการนึกภาพตามให้ทัน ถ้าเด็กได้อ่านก็คงจะดี แต่เอาสนุกแบบวรรณกรรมเยาวชนแปลฝรั่งคงจะไม่ไหว ถ้าผู้ใหญ่อ่านจะรุ่งกว่า เพราะจะเข็นเด็กให้ appreciate ภาษาและความงดงามระดับนั้นได้ตามวัตถุดิบที่เด็กมีอยู่คงจะเอาเรื่องอยู่ (ตัดสินเอาเองจากเด็กใกล้ตัวข้าพเจ้า) มันเลยเหมาะมากที่จะเป็นนิยายเล่มแรกที่ผู้ใหญ่กับเด็กจะอ่านไปด้วยกัน

อีกหนึ่งที่อยากจะแนะนำเกี่ยวกับเล่มนี้คือมันเป็นนิยายที่ทำให้เราคลุกคลีกับความงาม ไม่ใช่แค่งามด้วยภาษาหรือจินตนาการ ถ้าไส้เดือนเกี่ยวกับมายาคติ พุทธศักราชฯคือประวัติศาสตร์ ทะเลสาบน้ำตาคือการสอนให้มองโลกอย่างทะนุทะนอมและแช่มช้า เข้าอกเข้าใจผู้อื่นในระดับที่ฝันเห็นความงดงามของสิ่งที่อยู่ในหัวสมองของคนรอบข้าง เราจะเห็นภาพคนต่างวัยที่ยืนเคียงข้างกัน แม้แต่หมาแมวก็ยังมีปมเรื่องราวในระดับเดียวกับตัวประกอบอื่นๆ และอยู่ร่วมกันอย่างไว้ใจซี่งกันและกัน

สำหรับนักเขียนที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับนักเขียนรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในพักหลังมานี้ ทะเลสาบน้ำตาเป็นนิยายที่สรุปแง่มุมในการมองโลกของนักเขียนเกี่ยวกับคนรุ่นหลัง และสอดคล้องกับข้อคิดข้อเขียนที่ empower คนรุ่นใหม่ สนับสนุนการความเท่าเทียมและเข้าอกเข้าใจกันที่พี่แหม่มแกพูดถึงอยู่เสมอในหลายปีมานี้
Profile Image for Wanrada | 丽达.
46 reviews21 followers
May 21, 2021
2 stars - ความจริง ความฝันในโลกแฟนตาซีเหนือจริงที่ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยภาษาที่สละสลวยแฝงไปด้วยนัยยะต่างๆ ปัญหาคือเราไม่ได้รู้สึก connect กับตัวละคร ไม่ได้รู้สึกถูกดึงเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซีใบนั้น อารมณ์มันไปไม่สุดซักทาง เหมือนนั่งดูสิ่งที่น่าสนใจอยู่ แต่พอไม่ได้อินแล้วก็เลยไม่ได้ซึมซับกับมันเท่าที่ควร (อันนี้อาจจะเป็นที่ตัวเราเองล้วนๆ)

ปล. ไม่รู้เป็นคนเดียวหรือเปล่าที่อยู่ๆ ก็นึกถึงหนังเรื่อง Inception ขึ้นมาเฉย
Profile Image for เหม่อมองฟ้า.
81 reviews9 followers
September 13, 2020
ผลงานเล่มที่ 3 ของคุณแหม่ม ทะเลสาบน้ำตาเล่มนี้ปกสวยงามมาก การตั้งชื่อบทแต่ละบทสละสลวยถ้าทำสารบัญเวลาอ่านเรียงกันคงสวยน่าดูค่ะ ภาพประกอบภาพสีสวยงาม ทำให้เวลาเปิดถึงก็จะดูดีเทลนานพอควรกว่าจะได้เปิดหน้าต่อไป เสริมสร้างจินตนาการสุดๆ ประทับใจรูปเล่มมากค่ะ

ทะเลสาบน้ำตา ว่าด้วยการเติบโตของเด็กๆในเรื่อง...ยิหวาและอนิล กว่าจะผ่านไปถึงหน้าสุดท้ายนั้นมีทั้งสุข เจ็บปวดรวดร้าว หวังให้ก้าวผ่านบาดแผลในทรงจำไปให้ได้ และอมยิ้มกับแฟนตาซีที่สอดแทรกเข้ามาตลอด บรรยายให้เห็นภาพในหัวเเบบมีเอกลักษณ์ ผมของยิหวาสีชมพูเพราะกินเยลลี่ราสป์เบอรี่มากไป หรือจะเป็นอนิลที่กลืนปลาทองฟองมณีลงทั้งๆที่ยังไม่ตายแล้วมันก็ว่ายอยู่ข้างในท้องนั้น เราคงไม่ลืมอะไรพวกนี้ไปอีกนาน

และสุดท้าย อ่านไปถึงที่ว่า ...เงาของอนิลที่ไม่ใช่เงาของอนิล โอโห โดนฮุคเข้าอย่างจัง 😭
Profile Image for ดินสอ สีไม้.
1,070 reviews179 followers
July 19, 2022
เราว่าเล่มนี้อ่านสนุกกว่าสองเล่มแรกนะ
มันน่ารัก สนุกดี มีอะไรแปลกๆ ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ
มันมีความสมจริงพอๆ กันกับที่มันแฟนตาซี

ถ้าอยากลองอ่าน ไม่ต้องคิดอะไรมาก
เปิดใจกว้างๆ ทำตัวเป็นเด็กคนหนึ่ง แล้วอ่านเลย
ขอให้สนุกไปกับมันค่ะ :)
Profile Image for Wasin Waeosri.
203 reviews
January 24, 2022
ผลงานเล่มที่สามของวีรพร นิติประภา ยังใช้ภาษาสละสลวย ต้องใช้จินตนาการตามสูง (แต่ไม่ยาก) เนื้อหาเล่มนี้วีรพรใจดีกับเรามากกว่าสองเล่มแรก (ฮา) ถึงจะไม่ร้าวรานเท่าแต่ก็อิ่มเอมพอๆ กัน สั้นๆ อ่านรวดเดียวไม่นานก็จบครับ
Profile Image for Paul Lin.
47 reviews
December 23, 2020
ทะเลสาบน้ำตา

วีรพร นิติประภา - เขียน

🙂

https://www.facebook.com/465188097385...

😉

"ทะเลสาบน้ำตา" เป็นผลงานลำดับที่ 3 ของนักเขียนรางวัลซีไรต์สองสมัย ผู้มีทรงผมเป็นเอกลักษณ์

(แต่ดูเหมือนว่า ล่าสุด ผู้เขียนจะมี "หมวก" ใบใหม่ รูปทรงคล้ายภาพหน้าปกในผลงานลำดับที่ 4 ชื่อเรื่อง "โปรดโอบกอดมนุษย์ลูก")

😄

ถ้าใครที่ยังไม่เคยอ่านผลงานสองเล่มแรกของผู้เขียนมาก่อน ("ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต" และ "พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ") ผมขออนุญาตแนะนำว่า อย่าเพิ่งอ่าน "ทะเลสาบน้ำตา" เล่มนี้ เพราะท่านอาจไม่สามารถอดทนอ่านได้จนจบ แล้วท่านก็ยังอาจพลาดอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือไม่ยอมหาสองเล่มแรกมาอ่าน

การอ่านสองเล่มแรกมาก่อนนั้น จะเป็น "วัคซีน" ชั้นดี กระตุ้นเสริมภูมิคุ้มกัน เพื่อเตรียมพร้อมกับการอ่านงานชิ้นที่สามเล่มนี้

😉

ทำไมน่ะหรือ?

นักอ่านบางท่าน บอกว่า เนี่ยล่ะ "สำนวนแบบคุณแม่วีรพร" หรือ "วีรพร - สไตล์" ซึ่งมีเอกลักษณ์เสียยิ่งกว่าทรงผมเสียอีก แบบที่เรียกว่า พออ่านดูก็เดาได้ โดยมีความเชื่อมั่นมากกว่า 95% ว่า เป็นผลงานของผู้เขียนแน่ ๆ

ส่วนที่เหลืออีกน้อยกว่า 5% ก็คือ มีผู้พยายามลอกเลียนแบบสำนวน

🤣

ผู้เขียนมีความเชี่ยวชาญในการใช้ "พรรณาโวหาร" ที่วิจิตรพิศดาร ล้ำลึก เต็มไปด้วยคำวิเศษณ์ ขยายคุณสมบัติอย่างละเอียด เกินกว่าจินตนาการสามัญของคนปกติทั่วไปจะคิดได้

เช่น ถ้าหากจะให้บรรยายความงามของ "สีเขียวคราม" ภาษาที่ใช้ ก็จะวิลิศมาหรา หรูหรา ปานประหนึ่งที่ใช้พร่ำรำพันในพิธีการสำคัญ บนยอดเขากลางกรุงดาหา หลังจากเสร็จศึกกะหมังกุหนิงแล้ว

(ย่อหน้าที่แล้ว เป็นการเลียนแบบ สำนวนของผู้เขียน แต่ยังไม่เข้าขั้น ผมคงต้องฝึกฝนอีกหลายปี)

(ผมขออธิบายอีกหน่อย ในวรรณคดีเรื่อง "อิเหนา" คำว่า "วิลิศมาหรา" เป็น ชื่อภูเขาของกรุงดาหา ซึ่ง พระเจ้ากรุงดาหา ไปทำพิธีบนเขานี้เมื่อเสร็จศึกกะหมังกุหนิง โดย วิลิศ แปลว่า สีเขียวสีคราม และ มาหรา แปลว่า ภูเขา)

🤣

ลักษณะอีกอย่างคือ ผู้เขียนมักจะตัดคำว่า "ความ" ออกไป แล้วใช้เฉพาะตัวกริยาหรือคำวิเศษณ์ที่เหลืออยู่เท่านั้น ถ้าอ่านรอบแรกจะนึกว่า ผู้เขียนหรือผู้ตรวจทาน เช็คคำผิดพลาด แต่ว่าจริง ๆ แล้วเป็นความตั้งใจของผู้เขียนเอง

เช่น "ทรงจำ" แทน "ความทรงจำ" หรือ "เดียวดาย" แทน "ความเดียวดาย" เป็นต้น

🙂

มีการใช้คำที่มีความหมายผิดไปจากความหมายเดิมตามพจนานุกรม ให้กลายเป็นความหมายใหม่ เช่น "กระไอ" ที่แปลว่ากลิ่นเหม็น แต่ในเล่มจะมีความหมายอื่น ที่ผู้อ่านต้องเดาเอาตามรูปประโยค

ในการพรรณานั้น ผู้เขียนมักเขียนยาวติดกันเป็นพรืดโดยไม่เว้นวรรค ซึ่งหลายครั้ง ก็อาจเขียนบรรยายยาวติดกันจนข้ามไปอีกบรรทัดเลย

ยอกจากนี้ ก็ยังมักเขียนทุกอย่างในย่อหน้าเดียวกัน โดยไม่ขึ้นย่อหน้าใหม่ ไม่เว้นแม้กระทั่งบทสนทนาของตัวละคร ซ้ำยังไม่ใช้เครื่องหมายอัญประกาศกำกับข้อความที่เป็นประโยคพูด หากแต่เลือกใช้ "อักษรตัวเอียง" แทน

😅

ข้อจำกัด (และอาจกลายเป็นข้อเสีย) คือ ถ้า��ากผู้อ่านไม่มีสมาธิที่ดีพอแล้ว ก็จะคิดตามได้ยาก (มาก ๆ) ในหลายครั้งจะไม่สามารถเข้าใจได้ในทันที จำเป็นต้องอ่านทวนซ้ำอีกหลายครั้งกว่าที่จะพอนึกภาพได้ว่า ผู้เขียนกำลังพรรณาถึงอะไร หรือ ประโยคพูดที่สลับไปมาอยู่นี่ เป็นคำพูดของใครกันแน่

อาจทำให้ผู้ที่ไม่คุ้นเคย อดทนอ่าน "ทะเลสาบน้ำตา" ได้เพียงไม่กี่หน้าเท่านั้น เพราะเล่มนี้ ใช้วิธีการดังกล่าว หนักกว่าสองเล่มแรกมากนัก

🤔

(ขออภัย ที่ผมยังกล่าวไม่ถึง "ทะเลสาบน้ำตา" เสียที เพราะสไตล์ของผม ก็ชอบเขียนออกนอกทะเลแบบนี้แหละ)

😂

โดยในสามเล่มนี้ (เล่มที่ 4 ผมยังหาอ่านไม่ได้นะ) เล่มที่ภาษาอ่านง่ายที่สุด และสนุกที่สุด คือ "พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ"

ผู้ที่ไม่เคยอ่านงานของผู้เขียนมาก่อน ผมแนะนำให้เริ่มจากเล่มนี้ จะทำให้ได้ทราบถึง "อ��จฉริยะภาพ" ของผู้เขียน ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า เป็นเอกในบรรณพิภพ

"พุทธศักราชฯ" เล่มนี้สนุกมาก เพราะว่าเชื่อมโยงกับ "ข้อเท็จจริง" ทางประวัติศาสตร์ และอาจจะสัมพันธ์กับพื้นเพทางวัฒนธรรมของผู้อ่านหลายท่าน ทำให้อ่านแล้วรู้สึกคล้อยตามได้ไม่ยาก

อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านควรจะมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาบ้าง (อันที่จริง คือนับจาก ปี พ.ศ. 2520 ย้อนกลับไป 70-80 ปี) ซึ่งจะทำให้อ่านได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น มิฉะนั้นแล้ว อาจจะงุนงงกับชื่อของตัวละครบางตัวหรือบางเหตุการณ์ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมา



ส่วน "ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต" นั้น แม้เป็นผลงานเล่มแรกของผู้เขียน แต่หากเป็นไปได้ ก็ควรเริ่มอ่านเล่มนี้ หลังจากที่อ่าน"พุทธศักราชฯ" จบแล้ว

เพราะเท่าที่ผมทราบ อันที่จริงผู้เขียนเริ่มเขียน "ไส้เดือนฯ" ทีหลัง แต่ว่าเสร็จก่อน ดังนั้น สำนวนภาษาและวิธีการพรรณาที่ใช้ใน "ไส้เดือนฯ" จะดูก้าวไปอีกขั้น เหนือไปกว่า "พุทธศักราชฯ"

"ไส้เดือนฯ" สะท้อนภาพความล้มเหลวของการจัดการชีวิตของคนหนุ่มสาว และมีประเด็นความรุนแรงของสถาบันครอบครัว โดยเต็มไปด้วยการบรรยายถึงความรู้สึก และแนวคิดอันเป็นความเห็นของผู้เขียน โดยที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์จริงทางประวัติศาสตร์แต่อย่างใด

แต่ก็อาจสัมพันธ์ในเชิงที่ขัดแย้งหรือคล้อยตาม กับอุดมคติหรือมายาคติของผู้อ่านบางกลุ่ม ที่มีประสบการณ์เช่นเดียวกับตัวละคร

แสดงว่า ผู้เขียนเริ่มเขียนงานเพื่อศิลปะและอุดมคติ มากกว่าที่จะเขียนเพื่อความสนุกของเรื่อง โดยไม่ได้เอาใจผู้อ่านส่วนใหญ่

😶

ซึ่ง "ทะเลสาบน้ำตา" ก็เป็นเช่นนั้น โดยเนื้อหาจะมีลักษณะค่อนไปทาง "ไส้เดือนฯ" ที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์จริงใด ๆ เลย และเขียนเพื่อศิลปะ มากกว่าเพื่อเอาใจผู้อ่าน

ดังนั้น ถ้าไม่ถูกจริตกับ "ไส้เดือนฯ" ก็มีแนวโน้มที่จะไม่ชอบ "ทะเลสาบน้ำตา" แต่หากรับได้ ผมก็แนะนำให้ไปต่อ โดยผู้อ่านจะพบว่า "ทะเลสาบน้ำตา" เล่มนี้ก้าวล้ำไปอีกขั้นหนึ่ง

กล่าวคือ แม้ว่าเนื้อหาใน "ไส้เดือนฯ" นั้น จะไม่ใช่เรื่องที่อิงประวัติศาสตร์ แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ในชีวิตจริง ทว่า ใน "ทะเลสาบน้ำตา" นั้น จะเป็นแนว "จินตนิมิต" (fantasy) ที่เหตุการณ์ต่าง ๆ ในเรื่อง ไม่สามารถเป็นไปได้เลยในโลกแห่งความเป็นจริง

เช่น กินขนมมากจนผมเปลี่ยนสี, ยิงตัวเองที่หัวใจแต่ว่าไม่ตาย, กลืนปลาเข้าไปแต่ปลายังมีชีวิตต่อในท้อง, เป็นต้น

🙃

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ "จินตนิมิต" ยังจะสามารถเชื่อมโยงกับผู้อ่านได้ ก็คือ บุคลิก นิสัย อารมณ์ และความรู้สึกต่าง ๆ ในส่วนลึกของตัวละคร เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสากล

แม้ว่าพฤติกรรมบางอย่างจะดูแปลกประหลาดก็ตาม แต่มันยังก็เป็นไปได้ ซึ่งผู้อ่านเอง ก็อาจจะเคยกระทำเช่นนั้นมาบ้าง หรือว่าเคยรู้จัก กับคนบางคนที่มีการแสดงออก (บางช่วง) คล้ายกับ (บางด้านของ) ตัวละครบางตัวในเรื่อง

😏

"ทะเลสาบน้ำตา" ดำเนินเรื่องด้วยตัวละครหลัก 2 ตัว ซึ่งเป็นเด็กวัย 12 และ 13 ปี พวกเขาทั้งคู่ ต่างก็ประสบปัญหาคล้ายกัน คือ ความรุนแรงในครอบครัว และการที่ต้องพลัดพรากจากบุพการี แต่ก็มีความแตกต่างกันบ้างในรายละเอียด

คนหนึ่ง พ่อตายแล้วกลายร่าง (ไปรวมกับ) ต้นไม้ ส่วนแม่ก็มีแต่ใช้วาจาเสียดแทง ภายหลังหนีออกจากบ้านไป ทิ้งให้ตัวละครหลักอยู่ตัวคนเดียว แต่โชคยังดี ที่มีเพื่อนบ้านที่พอจะสนิทด้วย

อีกคนหนึ่ง ถูกแยกออกไปจากแม่ที่รักและคอยห่วงใย แล้วพาไปไว้ที่บ้านญาติ พ่อมีภรรยาใหม่ ไม่มีใครใส่ใจความเป็นอยู่ของตัวละครหลัก สุดท้ายจึงหนีออกจากบ้าน

แล้วทั้งคู่ ก็ได้มาเจอกัน

😶

ตัวละครหลักทั้งสองมีสิ่งที่ปลอบประโลมจิตใจ คือ นิทาน เรื่องเล่า ความทรงจำ ความฝัน และจินตนาการ

วิธีเขียนบรรยายเพื่อดำเนินเรื่องใน "ทะเลสาบน้ำตา" นั้น ไม่ชัดเจนว่าเป็นจินตนาการแบบเด็ก ๆ ของตัวละคร ที่ถูกใช้ในการมองโลกที่โหดร้ายให้ลดความรุนแรงลง หรือเป็นโลกแห่งความฝันที่หลีกหนีไปจากความเป็นจริง หรือว่าเป็นความจริง (ในจักรวาลของเรื่อง) ที่หลุดออกมาจากความฝันของตัวละครบางตัว

สิ่งที่ว่ามาเหล่านี้ พร่าเลือน และซ้อนทับกันอยู่

แม้แต่ความทรงจำของตัวละครนั้น ๆ ก็ไม่แน่ว่าจะเกิดจากประสบการณ์ของตัวละครเอง เพราะอาจมีการปะปน จากเรื่องเล่าซึ่งเป็นความทรงจำของคนอื่นก็เป็นได้

เรื่องเล่าบางเรื่องที่อยู่ในความทรงจำของตัวละครแต่ละตัว ก็อาจบังเอิญเป็นเรื่องเดียวกัน และอาจเป็นเรื่องที่อยู่ในความทรงจำของผู้อ่านด้วย

🙂

นอกจากความทรงจำของตัวละครแล้ว นิยายเล่มนี้ยังเป็นการบันทึกความทรงจำของผู้เขียนอีกด้วย เช่น ต้นไม้ที่บรรยาย ก็มาจากความทรงจำในอดีต บุคลิกของตัวละครบางตัว ก็ถอดมาจากความทรงจำที่มีต่อคนบางคนในชีวิตจริง

ซึ่งคนบางคนนั้น ก็น่าจะเป็น "สมาชิกกิตติมศักดิ์" ของ "สมาคมลับแห่งชงโค" ในโลกจริงของผู้เขียน ทำให้ผู้เขียนวาง "เขาคนนั้น" เอาไว้อย่างเปิดเผย (ไม่ได้แอบซ่อน) ในหลายหน้าของนิยายเล่มนี้

🤣

จะว่าไปแล้ว "เขาคนนั้น" ก็เคยแต่งการ์ตูนสองเล่มจบ ที่ตัวละครเอกมีบุคลิกและทรงผม คล้ายกับผู้เขียนด้วย

🤔

เนื้อเรื่องลักษณะที่เป็น "จินตนิมิต" นี้ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ (หรือวิทยาศาสตร์) แต่อย่างใด ผู้เขียนจึงสามารถขับเน้นประเด็นหรือนำเสนอแนวคิดได้อย่างเต็มที่

เพียงแต่ ในบางประเด็นนั้น ผู้เขียนเล่าโดยใช้สัญลักษณ์ ที่อาจไม่มีใครเข้าใจก็ได้ว่าหมายถึงอะไร

ซึ่งผู้อ่านแต่ละคน ก็คงต้องตีความกันเอาเอง

🥲

ขอทิ้งท้ายไว้ว่า "ทะเลสาบน้ำตา" ดำเนินเรื่องอย่างเนิบช้า ทว่าจบห้วนไปสักหน่อย อ่านแล้วเหมือนยังไม่ได้คำตอบอะไร และก็จะเป็นเหมือนกับ "ภาพยนตร์นอกกระแส" หรือ "หนังอินดี้" หลายเรื่อง ที่จะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ตามแต่รสนิยมและประสบการณ์ในอดีตของตัวผู้อ่าน

😉

ทะเลสาบน้ำตา

วีรพร นิติประภา - เขียน

พิมพ์ครั้งที่ 1 : กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สำนักพิมพ์ อาร์ตี้เฮาส์ ArtyHOUSE

224 หน้า

ISBN 978-616-8132-17-3

#ASometimeLoner
#ASL_book
#วีรพรนิติประภา
#ทะเลสาบน้ำตา
Profile Image for Klin กลินท์.
230 reviews15 followers
May 16, 2023
จับใจ | “มันไม่มีคนไม่ดีอยู่ในโลกนี้หรอกยิหวา แม่ว่า มีแต่คนที่หัวใจแหลกสลายไม่เป็นชิ้นอัน”, น.18

สำหรับ “ยิหวา” แล้ว : “ทุกอย่างเป็นอย่างที่มันเป็น และด้วยเหตุที่มันเป็นอย่างที่เป็น...มันก็ถึงไม่เป็นไปอย่างอื่น และเมื่อมันไม่เป็นอย่างอื่นได้อีก สิ่งที่เป็นอยู่จึงถือว่าดีที่สุดเสมอ...”, น.44

ส่วน “อนิล” : “...ในความเป็นจริงทุกคนล้วนมีธรรมชาติที่แตกต่าง คนบางคนหงอยเหงา บางคนร่าเริงแม้จะดูเฉย ๆ บางคนเฉยชาแม้จะดูเจ้าอารมณ์ บางคนหงอยเหงา บางคนเศร้า บางคนสนุก แล้วบางคนไม่สนุกเลยสักนิด ทั้ง ๆ แย้มยิ้ม...มันไม่เกี่ยวกับชีวิตที่ใช้มา หรือว��าคนคนนั้นเคยผ่านอะไรมาบ้าง คนแค่มีธรรมชาติของตนแตกต่างกันไป และอาจเป็นความเศร้าสร้อยอันเป็นธรรมชาติที่ว่านั้นก็ได้...” , น.102

อ่าน “ทะเลสาบน้ำตา” งานอีกชิ้นหนึ่งของ “วีรพร นิติประภา” ซึ่งเต็มไปด้วยสีสัน กลิ่นต่างๆ หลากอารมณ์...ทับซ้อนอยู่ในความเป็น Post - Truth ในทะเลสาบแห่งความฝัน ความจริง ความทรงจำ ไล่เรียงหมุนวนซ้อนทับไปมาทั้งความสุข แฟนตาซีสว่างไสว หวานชมพูไปจนถึงโศกเศร้า แตกสลาย มืดดำของโศกนาฎกรรมชีวิต (ชีวิตมันก็ต้องแบบนี้ล่ะ ? จึงเรียกว่า ชีวิต) โดยเฉพาะทรงจำแห่งเยาว์วัยในความสัมพันธ์ที่เรียกว่า “ครอบครัว” ที่ถูกผูกไว้ด้วยโครงสร้างที่สร้างขึ้นเป็น พ่อ แม่ ลูก และเกี่ยวรัดรึงล้อมไว้อย่างหนาแน่นด้วยโครงสร้างของสังคม

“เด็กชายที่อ่อนโยนที่สุดคนหนึ่ง...คนนั้น ก็แหงนมองตามเสียง และเสี่ยงเศษเล็กจิ๋วหนึ่งของกระจกก็ปลิวตกเขาไปในนัยน์ตา ทำให้ทุกสิ่งที่เขามองเห็นผ่านเศษกระจกนั่นกลับกลายเป็นอัปลักษณ์ โลกทั้งโลกขุ่นมัว...”, น.19

ทั้ง “ยิหวา” และ “อนิล” ชวนให้เราได้ตั้งคำถาม สำรวจ ตรวจสอบตนเองในวัยเยาว์ (แม้ยากจะเชื่อได้ว่าความคิด จิตใจของทั้งสองนั้นจะอัดแน่นทรงจำไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ มากมายราวกับว่าผ่านโลกนานแสนนานแล้วก็ตาม) เกี่ยวกับ “การมองโลกและชีวิตของตัวเรา” “เราเป็นเรา” เราได้สร้างและหลอมรวมเป็นตนเองได้อย่างไร ? รวมถึงขยายออกไปสู่การใคร่ครวญโลกของเด็ก ๆ ทั้งหลาย สภาพปัญหาของครอบครัวในสังคมปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรบ้าง โลกอย่าง “ยิหวา” และ “อนิล” ที่ พ่อไปทาง แม่ไปทาง ลูกก็ไปอีกทางนั้นมีอยู่ในสังคมเราจริง ๆ ตัวเป็น ๆ ของโลกสีน้ำเงินอึมครึมนี้

ทั้งหลายทั้งปวงล้วนสร้างให้ชีวิตนั้นเติบใหญ่ โตอย่างแข็งแรง หรืออ่อนแอ หรือเรียบเฉย หรือถูกลืมเลือน...ได้ทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับว่าเรานั้นสร้าง เลือก ยอมรับ ยึดโยงให้ชีวิตนั้นเป็นอย่างไร ส่องสว่างในตนเองหรือตรงกันข้ามก็สุดแท้แห่งการตื่นและหลับของผู้นั้น

ลองแวกว่าย ดำดิ่งลงไปสู่ก้นบึ้งสีดำแห่ง “ทะเลสาบน้ำตา” แห่งนี้ดูครับ
จากสมาคมลับใต้ร่มชงโค

อ่านเพิ่มเติม
1.จงสว่าง จรุงสิน เจริดศรี จิตรไสว จรัสแสง.. “พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ”
https://web.facebook.com/.../pb.../13......

2.ชลิกา ชารียา และปราณ.. "ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต"
https://web.facebook.com/.../a.522894...

อ่านไปเรื่อยๆ ลองหาอ่านดูครับ #ทะเลสาบน้ำตา #วีรพรนิติประภา #อ่านไปเรื่อยๆ #ณอ่านTheReaderTheKlinLibrary #อ่านไปฟังไป #IntoTheBook #อ่านแล้วอ่านเล่า #อ่านอีก #ReadAgain #อ่านอีกครั้ง #BooksBAR #AtTheReader #กลินท์แลนด์ #KlinLand #กลินท์และหนังสือ #KlinAndBooks #อ่านในใจ #อ่านเพลิน #ThaiReader
139 reviews6 followers
August 30, 2024
For double S.E.A. Write winner Veeraporn Nitiprapha, I first read her second book (Black Cat) before the first one (Blind Earthworm), in which I find she hones and fine-tunes her unique Thai language usage from the first book (beautiful but frequently and consciously overwritten) to the second (playful, poetic, and gorgeous).

In this third one, she seems to lean more towards the first book's style, which also regrettably is the more ill-fitting one for a more YA-inclined story. It makes the arc which progress from magical-realism to fantasy (all in the name of metaphor of Thai issues/society) comes off stalling and unnaturally, awkwardly flowing in its language. Still some striking imagery and canny capturing of emotional/social truths enough to compensate though, but this his her weakest book so far. 3/5
44 reviews2 followers
December 27, 2020
ชอบนักเขียนท่านนี้มาก ตามมาจากไส้เดือนตาบอด เล่มนี้ค่อนข้างout of realityแต่สะท้อนความพังของสถาบันครอบครัวในปัจจุบันได้ดีมากๆ ต้องใช้สมาธิในการจินตนาการฉากที่ผู้เขียนบรรยายพอสมควร เพราะบางฉากมันไม่ได้อยู่บนโลกแห่งความจริง ไม่เหมือนไส้เดือน แต่โดยรวมๆก็ยังชอบมากอยู่ดี ชอบความฟุ้งเฟ้อของคำที่บรรยายออกมาได้อย่างมีอรรถรส ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ
Profile Image for Tantannn.
31 reviews
May 1, 2021
สำหรับเรา นี่เป็นเล่มที่เหนือจริงมากที่สุดที่เคยได้อ่านมาในสามเล่มล่าสุดของวีรพร รู้สึกว่าอาศัยความพยายามในการปะติดปะต่อความเข้าใจจากความแมจิคอลและแก่นของเรื่องค่อนข้างมาก

เราชอบในจุดที่เรื่องพยายามจะแสดงให้เห็นความผสมปนเปของความทรงจำของทุกคน และยังรู้สึกได้ถึงความแหว่งวิ่นของครอบครัวตัวละครตลอดการเล่าเรื่องราว
Profile Image for Prai Keawpran.
34 reviews1 follower
May 21, 2022
อ่านง่ายดี​ ภาษาสวยงามค่ะ​ อ่านเข้าใจง่าย​ ตีความได้หลากหลาย​ แฟนตาซีมากๆ​ บรรยายเห็นภาพเลยค่ะ​ ชอบภาพประกอบมากๆ​ เรื่องราว​เกี่ยวกับเด็กชายและหญิงที่ชีวิตไม่ได้สมบูรณ์​ เพราะความเว้าแหว่งในชีวิ​ต​ ทำให้เข้าใจกัน​ และฝ่าฝันปัญหาต่างๆมาได้​ เด็กๆอ่านอาจจะสนุก​ แต่ก็ปนเศร้านะ​ ผู้ใหญ่อ่านก็คงตีความไปอีกแบบ
Profile Image for yourteaandmybooks.
66 reviews2 followers
January 9, 2025
ตอนแรกนึกว่าจะเป็นวรรณกรรมเยาวชนใส ๆ แต่ตอนอ่านจริงคือ อือ นี่มันโลกความจริงชัด ๆ นำเสนอปัญหาครอบครัวผ่านมุมมองของเด็กได้ดีอย่างที่อ่านแล้วแอบหดหู่ ทั้งที่โทนเรื่องมันดูแฟนตาซีดูสดใสมากน่ะนะ ภาษาในเรื่องนี้อาจจะไม่ได้สวิงสวายมาก แต่ภาษาเรียบง่ายก็ให้ข้อคิดแทงใจคนอ่านจึ้ก ๆ ได้เหมือนกัน เป็นอีกเล่มที่ถ้ามีโอกาส (+เวลา) ก็จะอ่านซ้ำอย่างแน่นอน!
10 reviews34 followers
January 10, 2021
ประมาณ ห้าสิบหน้าแรกต้องใช้เวลาในการประมวลผลคำศัพท์ แบบเล่มก่อนๆของวีระพร นิติประภา

แต่โดยรวมเราชอบมาก ความเจ็บปวดที่บรรยายออกมา เล่มนี่เบากว่า 2 เล่มก่อนหน้า ไม่ได้ประชดประชันโลกขนาดนั้น แต่ก็มีความปวดใจผสมอยู่
Profile Image for Sirinda Nupao.
5 reviews1 follower
August 28, 2021
เด็กสองคนกึ่งหญิงกึ่งชายถูกทอดทิ้งและเติบโตมาด้วยการื่ถูกทอดทิ้ง
22 reviews
September 16, 2021
แมว,ความทรงจำ, ภาษาอันฟุ้งเฟ้อ เป็นสิ่งที่เห็นได้ในงานของพี่แหม่ม/ แต่ละคำแต่ละประโยคที่ประดิดประดอยดิบดีจนอยากรู้เหลือเกินว่าพี่แหม่มคิดได้อย่างไร สำหรับเราล่มนี่อ่านง่ายสุดในทุกงานของแกแล้วกระมัง
Profile Image for mynkdontbelazy.
17 reviews1 follower
April 13, 2023
เป็นเรื่องราวแฟนตาซี ที่เอาเรื่องราวในฝันกับความจริงมาผสมเปปนกันด้วยภาษาฉวัดเฉวียนงดงาม มึนงง แต่ก็ลื่นไหล ผจญภัยไปตามดินแดนและทรงจำต่างๆ เติบโตเจ็บปวดไปพร้อมๆ กัน

ประทับใจมาก
Profile Image for Afew*.
192 reviews29 followers
December 25, 2021
6/1/64
เราพึ่งอ่านของคุณแหม่มครั้งแรก รู้สึกว่าภาษาอ่านยาก มีความเฉพาะตัวและต้องใช่สมาธิระดับหนึ่ง แต่ก็สวยงามและเพราะในแบบของมันเอง เราอ่านแรกๆจะติดๆขัดๆนิดนึงแต่พอช่วงกลางๆถึงท้ายเราไปได้ดีขึ้น ไม่รู้ว่าภาษามันง่ายขึ้นหรือเราเริ่มชินแล้ว ส่วนเนื้อเรื่องเราคิดว่าเราเข้าใจคร้าวๆนะ คิดว่าจะกลับมาอ่านอีกรอบแน่นอน เป็นอีกเล่มที่จะวนอยู่ในสมองเราไปอีกสักพัก

——————-

26/5/64
หลังจากอ่านจบและไปหาบทความในเน็ตอ่านเพิ่ม พอกลับมาอ่านใหม่ก็รักเลย ชอบมากก เนื้อเรื่องจริงๆ มันเศร้านะ แต่พอเล่าผ่านมุมมองของเด็กมันเลยมีความสดใส/แฟนตาซีเคลือบเอาไว้ ภาษาไม่ได้ยากแบบที่คิดตอนแรก สนุกๆ ต้องอ่านนะ!!!
Displaying 1 - 22 of 22 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.