Jump to ratings and reviews
Rate this book

โต๊ะอาหารที่จิแวร์นี

Rate this book
“นายไม่เข้าใจหรือไงว่าดวงตาของนายไม่ได้เป็นของนายคนเดียว ดวงตาของนายเป็นของพวกเรา--เป็นของฝรั่งเศสด้วย!”

รวมสี่เรื่องสั้น อ้างอิงชีวประวัติศิลปินฝรั่งเศสชื่อดังระดับโลก อ็องรี มาติส, เอ็ดการ์ เดอกา, ปอล เซซาน และโคลด โมเน ผู้สรรค์สร้างความงามบนผืนผ้าใบและงานประติมากรรมระดับมาสเตอร์พีซ โดยมีแม่บ้าน จิตรกรหญิงอเมริกัน ลูกสาวพ่อค้าอุปกรณ์วาดภาพ และลูกเลี้ยงสาว เป็นผู้ถ่ายทอดภาพชีวิต ความนึกคิด และผลงานชิ้นสำคัญของพวกเขา

เรื่องเล่าทั้งสี่ใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับชีวิตและผลงานของสี่ปรมาจารย์ด้านศิลปะ นำมาตีความและร้อยเรียงด้วยจินตนาการอย่างละเอียดอ่อนและมีสีสัน โดย มาฮา ฮาราดะ ภัณฑารักษ์และนักเขียนหญิงญี่ปุ่นผู้หลงใหลในสุนทรียะ เธอสามารถสะท้อนประกายเจิดจรัสของศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์ให้มีชีวิตชีวาและชวนประทับใจ สำหรับนักอ่านร่วมสมัยอย่างลงตัว

312 pages, Paperback

First published March 26, 2013

15 people are currently reading
76 people want to read

About the author

Maha Harada

73 books27 followers
原田 マハは、日本の小説家、キュレーター、カルチャーライター。東京都小平市生まれ。小学6年生から高校卒業まで岡山県岡山市育ち。岡山市立三門小学校、岡山市立石井中学校、山陽女子高等学校、関西学院大学文学部日本文学科、早稲田大学第二文学部美術史学専修卒業。マリムラ美術館、伊藤忠商事、森ビル、都市開発企業美術館準備室、ニューヨーク近代美術館に勤務後、2002年にフリーのキュレーターとして独立。

2003年にカルチャーライターとして執筆活動を開始し、2005年には共著で『ソウルジョブ』上梓。そして同年、『カフーを待ちわびて』で第1回日本ラブストーリー大賞を受賞、特典として映画化される。mahaの名でケータイ小説も執筆する。

ペンネームはフランシスコ・ゴヤの「着衣のマハ」「裸のマハ」に由来する。兄は、同じく小説家の原田宗典。

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
29 (26%)
4 stars
30 (27%)
3 stars
40 (36%)
2 stars
9 (8%)
1 star
3 (2%)
Displaying 1 - 20 of 20 reviews
Profile Image for สฤณี อาชวานันทกุล.
Author 82 books1,121 followers
January 1, 2021
เรื่องสั้นขนาดยาวสี่เรื่องที่ถ่ายทอดชีวิตและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับการทำงานของศิลปินอิมเพรสชันนิสม์ชื่อก้องสี่คน คือ มาทิส เซซาน เดอกาส์ และ โมเนต์ ตอนปลายศตวรรษที่ยี่สิบ จินตนาการเรื่องเล่าจากสายตาของผู้ที่ใกล้ชิดพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานบ้านที่กลายเป็นผู้ช่วยศิลปิน ลูกสาวของเจ้าของแกลอรีที่ยืนหยัดสนับสนุนศิลปินแขนงนี้ตั้งแต่พวกเขาถูกปรามาสจากนักวิจารณ์ ศิลปินหญิงเพื่อนสนิทของศิลปิน (และเธอเองก็โด่งดังไม่แพ้พวกเขา) และลูกติดของภรรยาศิลปินที่กลายมาเป็นเลขาส่วนตัว

ภาษาอ่านง่าย บรรยายเห็นภาพ ชอบตอนเดอกาส์กับเซซานเป็นพิเศษเพราะฉายภาพให้เห็นบรรยากาศในสังคมและแวดวงอิมเพรสชันนิสม์ตอนที่ยังไม่ดังเป็นพลุแตก ศิลปินแนวนี้ยังไส้แห้งอยู่ ตอนโมเนต์กับมาทิสอ่านแล้วรู้สึกเฉยๆ แม้เรื่องจะเต็มไปด้วยเกร็ดสนุกๆ มากมาย น่าจะเป็นเพราะหมั่นไส้อารมณ์เวิ่นเว้อของแฟนคลับศิลปิน ผู้เล่าเรื่อง เป็นพักๆ ระหว่างอ่าน :p

ควรอ่านสำหรับทุกคนที่สนใจศิลปะและชีวิตของศิลปิน หนังสือจะทำให้อยากหยุดอ่านเป็นระยะๆ เพื่อกูเกิลหารูปภาพหรือประติมากรรมที่ถูกพูดถึง ซึ่งก็ทำให้รื่นรมย์ไปอีกขั้น
Profile Image for Nhan.
102 reviews24 followers
January 29, 2021
เอาจริงๆ เราค่อนข้างใหม่มากๆ สำหรับนิยายญี่ปุ่น (เอาจริงๆ ก็คือถ้าไม่ in the news มากๆๆๆ ก็จะไม่ใช่ choice แรกๆ ที่จะเลือกอ่าน) แต่ตัดสินใจซื้อเล่มนี้มาเพราะว่าเป็นหัวข้อที่ชอบ ซึ่งก็คือ Impressionism นั่นเอง

เล่มนี้เล่า 4 เรื่องสั้นที่ไม่สั้นของ 4 ศิลปินจากยุคดังกล่าว ได้แก่ มาติส เดอกา เซซาน และโมเน โดยมีผู้ใกล้ชิดเป็น narrator ในแต่ละตอน

เราว่าในแง่อิงประวัติศาสตร์ คุณนักเขียน (ซึ่งเป็นภัณฑารักษ์อยู่แล้วด้วย) ทำได้ดีมากๆ เราชอบที่แต่ละตอนมีการเมนชันชื่อคน/สถานที่จากตอนอื่นๆ มีการโยงไทม์ไลน์เชื่อมกันตลอด ทำให้เนื้อเรื่องทั้งเล่มมันมีความ collective มากขึ้น

เราสนุกกับการนึกถึงภาพเขียนที่เคยได้ไปดูของจริง แล้วก็สนุกกับการเปิดกูเกิลดูงานที่ไม่รู้จัก/จำไม่ได้เป็นระยะๆ คือเป็นการ name-drop ที่เนิร์ดศิลปะคงใจฟู (ความรู้สึกเหมือนเนิร์ดหนังสือตอนอ่าน A.J. Fikry ประมาณนั้น)

แต่สิ่งหนึ่งที่ expect ไว้แล้วว่าต้องเจอในการอ่านนิยายญี่ปุ่นก็คือ องค์ประกอบมันญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น มากกกกกกกกกกกกก แบบมากกกกกกก มากขนาดที่ว่าเราไม่รู้สึกถึง setting ที่เป็นประเทศฝรั่งเศส บวกกับคาแรกเตอร์โดยรวม ทั้งวิธีการพูดและการแสดงออกบางทีมันจั๊กจี้ อีกอย่างคือ —ในความคิดของเรา— คุณผู้เขียน express too much admiration บางช่วงบางตอนคือ fangirling แบบอล่างฉ่าง อ่านแล้วมัน turn off ไปเลยอ่ะ

อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนิยายญี่ปุ่นหรือความญี่ปุ่น in general แต่เราแค่รู้สึกว่าการที่มี element พวกนี้มากเกินไปในบริบทเช่นนี้ มันออกจะแปลกๆ สักหน่อย

แต่สิ่งที่สุดยอด ต้องปรบมือให้ก็คือ ปกที่สวยมากกกกก ลองกดดูทุก edition ใน goodreads แล้ว ปกไทยสวยสุด ยอม!
Profile Image for Makmild.
805 reviews216 followers
June 10, 2024
ความสนุกของเล่มนี้คือการได้อ่านไปแล้วได้ดูรูปวาดของศิลปินในช่วง impressionism ไปด้วย ไม่ได้อยู่ที่เนื้อเรื่องแต่อย่างใด เราว่าตัวเนื้อหาออกจะประดักประเดิดไปด้วยซ้ำ เพราะมันคือการเอาความญี่ปุ๊นญี่ปุ่นไปใส่ปากคนฝรั่งเศส (อาสก์เรียล) โดยเรื่องที่เล่าคือถ่ายทอดเรื่องราวของศิลปินเอกโดยคนรอบตัวๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน ลูกสาว ใดๆ ก็ตาม แล้วเล่าชีวิตประจำวันของศิลปินนั้นๆ ได้เห็นแง่มุมของศิลปินที่เป็นคนธรรมดาๆ ด้วยเหมือนกัน บางอันก็ดูน่าเชื่อบางอันก็ …. แต่จำไม่ค่อยได้แล้วแหละว่าใครเล่าอันไหนบ้าง จำได้แค่แม่บ้านกับลูกสาวของโมเม กับลูกสาวของเจ้าของร้านขายสี เพราะงั้นเราเลยไม่ได้ใส่ไจกับเรื่องที่เขาเล่าเพราะเอาเวลาไปหารูปภาพมาดู (อะไรวะ) เลยได้ค้นพบว่าหลายๆ รูปวาดที่เราเคยเห็นผ่านตาเขาเรียกว่ายุค impressionism ซึ่งไม่ได้มีแค่โมเน หรือแวนโกะเท่านั้นนะที่อยู่ในยุคนี้ ทำให้เราสนุกและกลับมาสนใจศิลปะในยุคนี้อีกครั้ง แม้ในส่วนของเนื้อเรื่องที่ทำได้ธรรมดา แต่การหยิบยกศิลปะต่างๆ ที่เอามาประกอบเรื่องได้ทำให้คนทั่วๆไป ได้ดูรูปภาพและสนใจศิลปะอีกครั้ง เราว่าแค่นี้ก็ทำให้การอ่านเล่มนี้รื่นรมย์มากเลยค่ะ
Profile Image for Luk-Wa.
299 reviews14 followers
July 13, 2024
แต่ละตอนเป็นประวัติชีวิตของศิลปินชื่อดังแต่ละคน ผู้เขียนพยายามใส่เนื้อเรื่องเสริมแต่งเพิ่มเติมตามจินตนาการ แต่ก็อ้างอิงกับชื่อคนที่มาจากประวัติชีวิตจริงๆ แต่เรากลับอ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยอินเนื้อเรื่องตามเท่าไหร่ เหมือนพยายามมากเกินไปเพื่อให้เข้ากับเรื่องจริง

จุดดีคือชอบตรงที่มีรายชื่อภาพให้ไปค้นหาเพื่อดูตาม จะได้รู้สึกอินกับตัวละครมากขึ้น
21 reviews
November 13, 2021
ส่วนตัวนี่ว่าเล่มนี้เป็นหนังสือที่เอาชีวประวัติของศิลปิน impressionist มาเขียนต่อยอดได้ดีมาก อ่านไปก็ค้นดูรูปแต่ละรูปหรืออ่านประวัติคนโน้นคนนี้ในเรื่องแต่ละเรื่องเพิ่มเติมไปตลอด

แล้วต้องบอกว่าชอบมาก ชอบมากมากเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ impressionist ที่เป็นกลุ่มศิลปินที่ชอบที่สุดด้วยไม่ว่าจะโมเน เซซาน เดอกา แถมยังมีมาติสที่ปกติไม่ค่อยรู้ประวัติหรือการทำงานเท่าไหร่

ชอบการเขียนลงละเอียดเยอะแยะ ความ nerd impressionist อ่ะเนอะ เอนจอย
Profile Image for Mynt Chon.
6 reviews88 followers
April 10, 2021
เนื้อเรื่องที่มีการอ้างอิงศิลปินอิมเพรสชั่นนิสเข้ไปด้วยก็สนุกไปอีกแบบ
เราชอบความรู้สึกที่มันทำให้เราจินตนาการไปได้ว่าเราไปอยู่ใกล้ชิด กับศิลปินอิมเพรสชั่นนิสเช่นตัวละครจริงๆ
และมันมีเสน่ห์ตรงนี้อ่านแล้วรู้สึกนึกภาพถึงเมืองฝรั่งเศส บ้าน งานศิลปะ ธรรมชาติและการใช้ชีวิตไปด้วยกันกับตัวละคร ที่ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินตอนอ่านเช่นกัน
Profile Image for Ai.
75 reviews14 followers
November 26, 2014
女流作家が苦手ですが、この作品はとても良かった。印象派画家にまつまる物語が展開される短編集。静謐な時間が流れるような雰囲気が、心地よかった。画家を支える女性たち、家族、画廊の店主…人間は恐らく繋がりがなければ生きていけないと感じた。優しい時間が流れる、そんな空気を感じられる一冊。再読したいです。味わい深い。
Profile Image for Mo Melody.
194 reviews14 followers
August 17, 2022
อ่านเพลิน มีหยุดอ่านทิ้งช่��งไปนานเหมือนกัน อ่านข้ามปีเลยกับเล่มนี้เป็นเรื่องราว เรื่องเล่าผ่านสายตาตัวละครของศิลปินยุค อิมเพรชชันนิส อ่านไปก็เสิร์ช กูเกิ้ลไป หารูปดูตามที่เรื่องได้เล่าถึง ชอบตอนของโมเนมากที่สุด อินสุด กับ the water lillies อ่านลื่นไหลมาก หนังสือเล่มนี้น่าจะเหมาะกับ คนที่สนใจงานศิลปะ โดยเฉพาะนักอ่านแบบเราที่ไม่ค่อยมีพื้นฐานประวัติศิลปินทั้ง 4 ท่านมากนัก เวลาอ่านเหมือนเปิดโลกได้ความรู้ใหม่ อ้อ และเราเป็นแฟน สนพ นี้ชอบเนื้อกระดาษมาก นุ่มลื่นมือเวลาอ่าน
Profile Image for Sitang Tanti-Atsawayothee.
72 reviews1 follower
July 19, 2024
ดีใจที่ได้อ่าน เพราะทำให้รู้จักประวัติคร่าวๆ ในบางช่วงเวลาของจิตรกรดังระดับโลก4คน
3 เรื่องแรกอ่านแล้วเฉยๆ ไม่ค่อยอินกับการเล่าเรื่องของผู้หญิงแต่ละคนที่เกี่ยวข้องในชีวิตของศิลปินเท่าไหร่ค่ะ ดูชื่นชมเทิดทูนตัวศิลปินทุกคนมากๆจนมันทำให้รู้สึกไม่สมจริงเวลาอ่านค่ะ


มีเรื่องสุดท้ายที่รู้สึกว่าสนุกดี ทั้งตัวประวัติของ Monet ด้วยตัวมันเอง และความรู้สึกของเด็กในครอบครัว และอ๋อกับภาพผู้หญิงที่ถือร่ม Femme au Parapluie ว่ามีที่มาอย่างนี้นี่เอง

ปัดจาก 3⭐️ให้เป็น 3.5⭐️ เพราะอย่างน้อยเล่มนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้อยากไปหาประวัติศิลปินมาอ่านเพิ่มเติมค่ะ
Profile Image for Seamonkey.
179 reviews38 followers
September 7, 2021
โดยรวมก็นับได้ว่าอ่านสนุกอยู่ ไม่รู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดจริงเท็จขนาดไหน เพราะตัวละครในแต่ละเรื่องมีตัวตนอยู่จริง
การได้อ่านความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินที่เราเคยได้ยินชื่อเสียงมานานก็ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ดี ส่วนตัวคิดว่าผู้แต่งเก่งและทำการบ้านมาดี คิดว่าน่าจะมีความ based on true stories อยู่พอสมควร (เอ๊ะ รึว่าเป็นโดจินล้วนๆ หว่า? 😆)

ชอบเรื่องของเดอกามากที่สุด ของเซซานก็แปลกดี เพราะใช้วิธีดำเนินเรื่องผ่านจดหมายอยู่ฝ่ายเดียว

แต่เพราะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสของศิลปินในยุค impressionism แต่คนเขียนเป็นคนญี่ปุ่น ตอนอ่านความรู้สึกจะฝรั่งก็ไม่ฝรั่ง จะญี่ปุ่นก็ไม่ญี่ปุ่น คือไม่เหมือนอย่างงานของอิชิงุโระ (เถ้าถ่านแห่งวารวัน, แผลลึกหัวใจสลาย) ที่ไม่รู้สึกถึงความญี่ปุ่นเลย ก็แปลกๆ ดีไปอีกแบบ (โดยเฉพาะเรื่องของเดอการู้สึกว่ามีความญี่ปู๊นญี่ปุ่นสูงมาก เอามาเขียนเป็นเรื่องยาวได้เลย)

ก็อ่านได้สนุกประมาณนึง มากกว่าเฉยๆ (3☆) แต่ก็ไม่ถึงกับชอบ (4☆) เพราะบางเรื่องก็ชอบ บางเรื่องก็เฉยๆ อย่างที่บอก
Profile Image for Ayaka Kawamoto.
32 reviews2 followers
August 30, 2021
Maha Harada is a Japanese writer. She used to work as a curator at some museums, so she has written novels about arts and lives of artists. I have been engrossed in reading her books during this summer holiday. That’s because the descriptions, the choices of the words and the emotions made me feel as if these artists were alive. I hope her books will be translated into English and different languages soon!

This book is not translated into English yet. But I’d like to write a review in English because it was very good and I cannot help but being emotional.

The story takes us a time when Monet was drawing his masterpiece, water lilies. Although we might have read about his art and history on an art textbook or somewhere else, this story is very different. I could feel that the passion towards art, the generosity, and determination of Monet are dramatically written through his difficult times by reading her book. The words that Monet said were very powerful but generous, which made me cry. She is very great at bringing artists to life.

原田マハさん作「ジヴェルニーの食卓」
多くの方が原田マハさんの本を読まれているように、私もマハさんの作品の虜になりました。美術史や教科書とは違って、マハさんの文章を読むと、モネや有名な芸術家が生き生きとしていて、力強く生きている姿が目に浮かんできます。この本には4人の芸術家のストーリーが書かれています。どれも素晴らしいですが、モネのお話が一番好きです。逆境を乗り越えてしまうほどの寛大さ、絵に対する素晴らしい情熱、力強く美しい言葉、全てに感動しました。
Profile Image for Kanyada Kongtrakool.
180 reviews6 followers
December 10, 2022
เหมาะกับผู้อ่านที่ชื่นชอบศิลปะ โดยเฉพาะผุ้อ่านที่มีความรู้เรื่องจิตรกรในเรื่องและรู้จักภาพเขียนของจิตรกรนั้นๆ ถึงจะอ่านเรื่องนี้สนุก เพราะมีชื่อเฉพาะปรากฎอยู่เยอะมากในหนังสือเล่มนี้

สำหรับตัวเอง ชอบ 2 บทสุดท้าย คือ เรื่องของต็องกี กับ โมเน (ซึ่งเป็นตอนที่ใช้เป็นชื่อเรื่องของหนังสือเล่มนี้) มากที่สุด เพราะผู้เขียนให้รายละเอียดของเรื่องราวชัดเจนและเนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายกว่าบทแรกๆ

โดยรวมถือว่าอ่านสนุกปานกลาง ไม่ได้ชวนติดตามให้อ่านรวดเดียวจนจบ แต่ก็ไม่ได้แย่จนไม่อยากหยิบขึ้นมาอ่านต่อ
คิดว่าสำหรับคนที่สนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ศิลปะแบบ Impressionism น่าจะชอบค่ะ
Profile Image for Natt.
920 reviews
December 4, 2020
เรื่องสั้นที่กล่าวถึงศิลปินในยุคอิมเพรสชั่นนิส 4 คน ผ่านมุมมองของตัวละครที่เป็นแม่บ้าน ลูกสาวร้านขายสี ผู้ช่วย ... ทำให้เห็นภาพความพยายามและการต่อสู้ของเหล่าศิลปินผู้สร้างปีะวัติศาสตร์ศิลปะหน้าใหม่
อ่านจบ ก็อยากไปหาภาพที่กล่าวถึงมาดูประกอบ
Profile Image for peppY.
115 reviews
January 3, 2021
3-3.5 เพลินๆไปถ้าไม่ติดเรื่องภาษาที่ต้นฉบับคือภาษาญี่ปุ่น(แล้วแปลเป็นไทยในโทนญี่ปุ่น) แต่เรื่องราวเป็นคนในฝรั่งเศส มันก็จะมีความไม่ใช่อะอยู่ในโทนภาษาและคำพูด
เนื้อหาก็สนุกเรื่อยๆ และมีเกร็ดนู่นนี่นั่นให้เก็บไป พอดีชอบเดกาส์อยู่พอควร และรักงานโมเนท์รักGivernyมากๆ แต่เรื่องตอนเซซานน์ก็สนุกดี
Profile Image for Khattiya Homthong.
63 reviews7 followers
May 4, 2024
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเรื่องแต่ง เหมือนกับเป็นเรื่องจริงเหมือนกัน เรื่องของเดอกาที่เล่าผ่านจิตรกรหญิงจับใจดีมาก มีความเป็นมนุษย์มาก ส่วนเรื่องของโมเน ชอบการเปรียบเทียบกับท้องฟ้า และการเล่าตัดอดีตไปมา เพลินดี เสียเวลาหยุดหารูปเป็นระยะๆ เหมือนกัน
Profile Image for Chiratikan Sanguancheep.
147 reviews11 followers
April 23, 2025
เป็นหนังสือที่น่ารัก ถ่ายทอดเกร็ดในประวัติศาสตร์ศิลปะอิมเพรสชันนิสม์ได้อย่างอบอุ่น แถมยังติดตลกในบางครั้ง ส่วนตัวอ่านหนังสือเล่มนี้ไป เปิดภาพประกอบไป หยุดพักไปฟังพอดแคสต์เกี่ยวกับศิลปินคนนั้นคนนี้เป็นพักๆ ช่วยให้เอนจอยเรื่องราวได้มากขึ้นเยอะเลย
Profile Image for Wachansa.
41 reviews1 follower
March 21, 2022
เรื่องราวมันเกิดขึ้นที่ฝรั่งเศส ตัวละครส่วนใหญ่ก็เป็นคนฝรั่งเศส แต่คนเขียนเป็นคนญี่ปุ่น ดังนั้น มันจะฟีลเหมือนดูละครญี่ปุ่นแล้วใช้นักแสดงฝรั่งแต่พูดภาษาญี่ปุ่น อ���ไรทำนองนี้ กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นมันก็เลยออกมาเรื่อย ๆ ทั้งเรื่อง บางจุดก็พอกล้อมแกล้มไปได้ แต่บางจุดมันญี่ปุ่นจ๋ามากจนแอบรู้สึก เอ๊ะ ขึ้นมา เช่น ประโยคที่ว่า “กรุณาดูแลภาพเขียนนี้ด้วยนะคะ” หรืออะไรประมาณนี้แหละ อ่านแล้วเห็นภาพคนพูดโค้งคำนับลงไปเลย

ผู้เขียนถ่ายทอดเรื่องราวจากมุมมองของคนใกล้ชิดต่อศิลปิน ซึ่งส่วนใหญ่ออกแนวแฟนเกิร์ลบูชาศิลปินไว้เหนือหัว และอ่านไปถึงจุดนึงจะรู้สึกว่า เหมือนอ่านแฟนฟิคอยู่เลยนี่หว่า

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะติไปซะทีเดียว เราชอบเรื่องราวที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เลยได้รู้ประวัติของศิลปิน บุคคลรอบข้าง และที่มาของภาพเขียนและงานปั้นที่มีชื่อเสียง สนุกดี โดยเฉพาะเวลาอยากรู้ว่าเรื่องนี้จริงไหมนะ แล้วไปรีเสิชต่อ หูยยยย สนุก เพราะเรื่องจริงแซ่บและฉาวกว่าในหนังสืออีก เช่น การเอาเด็กสาวอายุ 12 มาเปลือยกายเป็นแบบ หรือการที่ศิลปินมีเมียอยู่แล้วแต่ก็มีผู้ช่วยสาวมาอยู่ด้วยและมีความผูกพันทางใจกันอย่างลึกซึ้ง หรือการที่ศิลปินแต่งงานกับเมียของอดีตผู้อุปถัมป์ของตัวเอง ฉาวมะ

ซึ่งคนเล่าเรื่องเค้าเก่งนะ เค้าเล่าเรื่องฉาวให้มันโรแมนติกได้น่ะ

เป็นอีกเล่มที่อ่านไปแล้วก็ต้องเปิดกูเกิ้ลดูภาพต่าง ๆ ที่ในเล่มพูดถึง ได้เปิดหูเปิดตาเรื่องศิลปะโดยเฉพาะยุคอิมเพรสชั่นนิสขึ้นเยอะ อ่านแล้วก็คิดตาม โห ศิลปินสมัยนั้นนี่ไส้แห้งมาก อยู่ได้ด้วยผู้อุปถัมป์ และยึดมั่นอุดมการณ์กันสุด ๆ การเล่าเรื่องก็ครีเอทดี เรื่องแรกเล่าผ่านเมดสาว ที่ได้แต่คอยสังเกตการณ์อยู่ข้าง ๆ และแทบไม่ได้พูดคุยกับตัวศิลปินเลย เรื่องที่สองเล่าผ่านศิลปินหญิงชาวอเมริกันรุ่นน้อง เรื่องที่สามเล่าผ่านการเขียนจดหมายล้วน ๆ และเรื่องสุดท้ายเป็นของโมเน่เลยอลังการหน่อย เล่าผ่านลูกเลี้ยงของโมเน่ เป็นเรื่องที่ยาวที่สุด

# 🥰 Who Would Like It?

คนที่มีความสนใจเกี่ยวกับศิลปะน่าจะชอบ อ่านไป กูเกิ้ลดูรูปและรีเสิชเพิ่มก็จะสนุกขึ้นไปอีก
This entire review has been hidden because of spoilers.
62 reviews3 followers
June 17, 2020
あらすじ
ジヴェルニーに移り住み、青空の下で庭の風景を描き続けたクロード・モネ。
その傍には義理の娘、ブランシュがいた。身を持ち崩したパトロン一家を引き取り、
政策を続けた彼の目には何が写っていたのか。(「ジヴェルニーの食卓」)
新しい美を求め、時代を切り拓いた芸術家の人生が色鮮やかに蘇る。
マティス、ピカソ、ドガ、セザンヌら印象派たちの、葛藤と作品への真摯な姿を
描いた四つの物語。

感想
4編からなるこの小説には共通点がありました。
上記にも書いてあるように天才画家たちの隣人から描かれています。
そしてどれもが女性で、画家に特別な感情を抱いていることです。
一般人から見たら「画家なんて」と近寄りがたく理解しがたい存在だったと思うが
こういう女性だからこそ、この視点が持てたんだと思う。
天才って何考えているか分からないと。
でもその天才の周りには支えている凡人がいる。
その凡人を通して天才を描いたこの一作は、凡人な私にも非凡な画家たちの
苦悩や希望を胸に一緒に夢を求めて行けたのが本当に楽しかった。
私の部屋にはポストカードが貼ってある。
クロード・モネ  「秋の効果 アルジャントゥイユ」
ポール・セザンヌ 「トランプをする人々」
エドガー・ドガ  「舞台上の二人の踊り子」
たまたま、この作品に出てくる画家のポストカードが貼ってあり、さらに惹かれていきました。
この小説の一番好きな箇所は
初めのページに書いてある各画家の「名言」。
読み終えた後にこの「名言」を見ると、全てが集約されているなと心を穏やかにしてくれる。
ぜひ読んでもらいたい一作。

他の作品から感じてたんだけど、
芸術家のノックは2回
他の人のノックは3回なのは原田マハさんの何かしらのメッセージなのかな。

*初めて知ったこと
マティスとピカソは親友。
ドガにはアメリカ出身の画家のメアリー・カサネットという良き理解者がいた。
「タンギー爺さん」の由来とゴッホ作品であること。
セザンヌとゴッホは浮世絵に多大なる影響を受けている。
Displaying 1 - 20 of 20 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.