คู่ (จิ้น) รัก พลิกล็อก เล่ม 4

空降熱搜 #4

by Yan Liang Yu, 颜凉雨, เป่าเป้ย (Translator)

หร่านหลินที่เพิ่งจะได้รับการยืนยันว่าได้รับบทพระเอกของภาพยนตร์เรื่อง ‘บันทึกเหมันต์’ ไปหมาดๆ บทจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Fueled Flame’ ของผู้กำกับชื่อดังก็ราวกับขนมเปี๊ยะชิ้นโตที่หล่นลงมาจากฟ้า แถมนักแสดงที่ต้องเข้าฉากด้วยกันก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน เป็น ‘กู้เจี๋ย’ ที่เคยถ่ายบันทึกการเดินทางฯ ด้วยกันคนนั้น! แม้ว่าการงานจะราบรื่นดี แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับสัญญาที่กำลังจะหมดลง และในตอนนั้นเอง ลู่อี่เหยาก็บอกความคิดที่จะเปลี่ยนสายงานต่อหร่านหลิน แถมบุคคลสำคัญที่ทำให้อีกฝ่ายเกิดแรงบันดาลใจ ก็คือตัวเขาเองเสียด้วย ความกดดันนี่มันช่าง...ใหญ่โตดั่งขุนเขาจริงๆ เลย คนหนึ่งอยากให้คนรักมีทรัพยากรและความก้าวหน้าที่ดียิ่งขึ้น ส่วนอีกคนอยากเป็นต้นเขย่าเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในบริษัทเพื่ออนาคตของคนรัก การที่ได้ทำอะไรเพื่อกันและกันอย่างเงียบๆ แบบนี้ ก็เป็นการปลอบใจตัวเองที่หวานล้ำแบบหนึ่งเหมือนกัน ทว่าอุปสรรคมักจะมารวดเร็วจนทำให้คนตั้งตัวไม่ทัน ชนวนระหว่างผู้จัดการส่วนตัวกับศิลปินคนอื่นก็ไหม้มาถึงตัวหร่านหลิน แถมยังก่อให้เกิดการสร้างกระแสเป็นระลอกๆ จนทำให้ทุกคนต้องอ้าปากค้าง?! จากนักแสดงโนเนม กลายมาเป็นดาราที่ถูกเกาะกระแส หร่านหลินเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันหนึ่งที่เขา ‘ได้รับเกียรติ’ เช่นนี้...

Genres: Yaoi

461 pages, Paperback

Published November 1, 2020

About the author

Associated Names:
* 颜凉雨 / 顏涼雨 (Chinese)
* Yan Liang Yu (English)
* เหยียนเหลียงอวี่ (Thai)
* Nhan Lương Vũ (Vietnamese)

Reviews

[Kamons · Rating 4 out of 5]

ขอรีวิวรวมๆ ว่าเป็นแนว show biz ที่ดีมากๆ ถ้ามีคนอยากอ่านแนววงการบันเทิงก็อยากจะยกเรื่องนี้เป็น 1 ในเรื่องที่อยากให้หยิบมาอ่าน เป็นหนึ่งในนิยายน้ำดี เชิดหน้าชูตาวงการนิยายวายมาก เราอาจจะไม่เสพ nc รสเด็ดหรือโมเม้นชวนหวานของคู่เอก แต่สิ่งที่ได้จากการอ่านก็ยังจะเป็นความคิด ทัศนคติ IQ และ EQ ที่ดีมากๆ พ่วงด้วยเรื่องราวเบื้องหลังการทำงานในวงการบันเทิง มิตรและศัตรู การขัดขา การแย่งชิงบทบาทกัน ความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดการและดารา ดาราและดารา นายทุนและดารา ที่สำคัญคือการดึงด้านมืดอย่างแฟนและแอนตี้แฟน คอมเมนต์ด้านลบที่ส่งผลต่อธุรกิจวงการ (รวมถึงการแก้เกมด้วย)

แต่ถึงจะอวยขนาดนี้เรื่องราวในเล่มกลับไม่ใช่แนวตาต่อตาฟันต่อฟัน หักเหลี่ยมเฉือนคม ฟาดกันให้ตายไปข้าง มันจะออกแนวชวนลุ้นไปด้วยกันมากกว่า

ไม่อยากจะอวยแต่ยอมรับว่าเป็นนิยายนอกสายตาที่ดีเกินคาดไปมากๆ เลย

[Cherry Sawanya Munkongsujarit · Rating 5 out of 5]

เล่ม 4 พิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤศจิกายน 2563
โปรยปกหลังเล่ม 4 :
หร่านหลินที่เพิ่งจะได้รับการยืนยันว่าได้รับบทพระเอกของภาพยนต์เรื่อง "บันทึกเหมันต์" ไปหมาดๆ บทจากภาพยนต์เรื่อง "Fueled Flame" ของผู้กำกับชื่อดัง ก็ราวกับขนมเปี๊ยะชิ้นโตที่หล่นลงมาจากฟ้า แถมนักแสดงที่ต้องเข้าฉากด้วยกันก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน เป็น "กู้เจี๋ย" ที่เคยถ่ายบันทึกการเดินทางฯ ด้วยกันคนนั้น!

แม้ว่าการงานจะราบรื่นดีแต่กลับต้องเผชิญหน้ากับสัญญาที่กำลังจะหมดลง และในตอนนั้นเองลู่อี่เหยาก็บอกความคิดที่จะเปลี่ยนสายงานต่อหร่านหลิน แถมบุคคลสำคัญที่ทำให้อีกฝ่ายเกิดแรงบันดาลใจ ก็คือตัวเขาเองเสียด้วยความกดดันนี่มันช่าง...ใหญ่โตดั่งขุนเขาจริงๆ เลย

คนหนึ่งอยากให้คนรักมีทรัพยากรและความก้าวหน้าที่ดียิ่งขึ้น ส่วนอีกคนอยากเป็นต้นเขย่าเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในบริษัทเพื่ออนาคตของคนรัก การที่ได้ทำอะไรเพื่อกันและกันอย่างเงียบๆ แบบนี้ก็เป็นการปลอมใจตัวเองที่หวานล้ำแบบหนึ่งเหมือนกัน

ทว่าอุปสรรคมักจะมารวดเร็วจนทำให้คนตั้งตัวไม่ทัน ชนวนระหว่างผู้จัดการส่วนตัวกับศิลปินคนอื่นก็ไหม้มาถึงตัวหร่านหลิน แถมยังก่อให้เกิดการสร้างกระแสเป็นระลอกๆ จนทำให้ทุกคนต้องอ้าปากค้าง?! จากนักแสดงโนเนม กลายมาเป็นดาราที่ถูกเกาะกระแส หร่านหลินเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันหนึ่งที่เขา "ได้รับเกียรติ" เช่นนี้...

เล่ม 4 :
พระเอกเรื่องบันทึกเหมันต์ มีชื่อว่าเสี่ยวสือโถว เมื่อเผชิญหน้ากับ สุราอารักษ์แห่งเป่ยเทียน ดูแล้วเหมือน เสี่ยวสือโถวเวอร์ชั่นกู้เจี๋ย ในความคิดของหร่านหลิน
เซี่ยซินหรานส่งข้อความมาหา บอกว่ากู้เจี๋ยส่งข้อความมาหา เดาออกแล้วว่าจางเป่ยเฉินชิงบทตัดหน้าหร่านหลิน แต่ตัวเองลืมบอก แล้วก็นัดกันกินข้าวสามคน
ลู่อี่เหยาที่เข้ากองแล้วกลับมาเร็วกว่าปกติ เพราะตัวเองหาฟีลลิ่งไม่ได้ ตอนนี้ลู่อี่เหยาเข้ากองเรื่อง Broken Moon ตัวเอกมีหลายบุคลิก หร่านหลินแสดงความเห็นเรื่องการเปลี่ยนเสื้อผ้า ลู่อี่เหยาเก็บไปคิด ส่วนของหร่านหลิน ลู่อี่เหยาก็บอกว่าแรกเริ่มฟางเสียนก็ต่างจากนิสัยของนายมาก ลู่อี่เฟยาบอกว่าฟางเสียนไม่ได้เปลี่ยน คนที่เปลี่ยนคือนาย หร่านหลินก็เข้าใจ สองคนนี้เข้าใจกันดี พูดจนหร่านหลินเขินไปเลย
หลังคุยกันเสร็จ ทั้งสองคนที่มีความรักพัฒนาไปด้วยกัน ส่งเสริมซึ่งกันและกัน
หร่านหลินไปแคสติ้ง พบผู้กำกับหวง โปรดิวเซอร์หลี่ หลังจากหร่านหลินแคสติ้งสามบทผ่านไป ผู้กำกับหวงก็วางใจลงได้ ผ่อนคลายลง บอกว่าค่อนข้างดี เอาตุ๊กตากบที่ใช้แทนหลิงตังกลับไปซ้อมต่อเป็นที่ระลึก
ตารางงานเดือนแปดของหร่านหลินค่อนข้างยุ่งทีเดียว ตอนแรกคิดว่าจะว่าง แต่ก็ต้องเข้าร่วมงานต่างๆ เซี่ยซินหรานนัดหร่านหลิน แต่วันนั้นหร่านหลินต้องไปงานเปิดตัวซีรีส์ของหานเจ๋อ เซี่ยซินหรานบอกว่า รอนายได้เป็นปาร์ตี้หม้อไฟข้ามคืน
ตอนที่หร่านหลินไปร้านสู่ไจตามนัดเซี่ยซินหราน หวังซีกับหานเจ๋อก็เคลียร์กัน หวังซีบอกเลิกหานเจ๋อ ยังเอาภาพมั่วที่ปาปารัสซี่ถ่ายได้มาให้ดู แล้วบอกว่าบริษัทจ่ายเงินซื้อมาแล้ว อย่างแรกที่หานเจ๋อสนใจคือตัวเองกลัวภาพหลุด ไม่สนใจความรู้สึกของคนรอบข้างเลย แล้วตอนนี้ก็บอกว่าจะเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัว
หร่านหลินเจอเซี่ยซินหรานและกู้เจี๋ย เซี่ยซินหรานและกู้เจี๋ยยังรอหร่านหลินอยู่ แบบนี้สินะมิตรภาพ ทั้งสามคนคุยกัน แบ่งปันข่าวสาร คุยกันไปมา กู้เจี๋ยก็พูดถึงตัวเอง ที่รอหนังเรื่อง Fueled Flame ของผู้กำกับเหอกวน จนยืดเวลาออกไปเรื่อยๆ เพราะแก้บท เปลี่ยนบท ไม่พอใจซะที แล้วก็ถามถึงตารางเวลาถ่ายบันทึกเหมันต์ของหร่านหลิน และบอกว่าถ้าไม่รังเกียจว่าเงินน้อย จะแนะนำนายให้ผู้กำกับเหอ เหมือนขนมเปี๊ยะหล่นจากฟ้าทีเดียว
หร่านหลิน มาค้นข้อมูลเกี่ยวกับ Fueled Flame มีแค่ประโยคเดียว เรื่องราวของตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นอยู่ข้างหลัง
หวังซีเตรียมบอกบอสเรื่องหานเจ๋อ แต่หานเจ๋อกลับบอกบอสไปก่อนแล้ว หวังซีก็เป็นคนโดนด่า หลังจากนั้นก็ได้ข่าวจาก หร่านหลินเรื่อง Fueled Flame ของผู้กำกับเหอ
หร่านหลินไปพบผู้กำกับเหอ ตามนัดของกู้เจี๋ย ผู้กำกับบอกกู้เจี๋ยว่าฉันชอบเพื่อนนาย
การเซ็นสัญญา บันทึกเหมันต์เวอร์ชั่นภาพยนตร์ไม่มีปัญหา ตอนนี้ค่าตัวของหร่านหลินอัปแล้ว บริษัทส่งบทมาให้หร่านหลิน เรื่องซ่งติ้งป๋อจับอสูร แต่บทหร่านหลินรับไม่ไหว แถมเวลาชนกับ Fueled Flame หร่านหลินปฏิเสธ หวังซียอมรับแล้วจะช่วยปฏิเสธให้ แล้วกู้เจี๋ยก็โทรมาบอกเรื่องกำหนดเปิดกล้องพอดี คือวันที่สามเดือนสี่
หวังซีคิดหาข้ออ้างเพื่อปฏิเสธให้หร่านหลิน แต่วันนั้นบอสเรียกพบก่อนเพราะเติ้งหมิ่นหรู รุ่นน้องจากเปินเถิงสือไต้ ถูกบอสดึงตัวมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้หานเจ๋อ จากนั้นหวังซีก็พูดเรื่องปฏิเสธการรับบท และจะรับบทของผู้กำกับเหอ บอสไม่ยอม แต่หวังสีก็ยกเหตุผลต่างๆมาบอก จนบอสตกลง
ปลายเดือนสิบ Broken Moon ปิดกล้อง ลู่อี่เหยาน้ำหนักลดลง ดูโทรมไปเลย กลับมาถึงก็บอกเหยาหงว่าจะไม่รับงานเพิ่ม เพราะเตรียมเปลี่ยนสายงานอยากเป็นบอสเอง และให้เหยาหงมาช่วยด้วย แต่เรื่องนี้ต้องคุยต่อหน้าหร่านหลิน จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้บอกเจ้าตัว
ลู่อี่เหยาเห็นตัวเองโทรม อย่างแรกคือโกนหนวด หลงหน้าตาตัวเองสุดๆ แล้วก็ส่งข้อความไปว่าฉันกลับมาแล้ว
หร่านหลินกลับบ้าน กลับมาหวังซีก็เอาบท อภินิหารโคมบุปผา มาให้ บอกว่าบริษัทส่งมา ยังไงก็ต้องหารายได้คืนบริษัทคืนจาก Fueled Flame หวังซีถามหร่านหลินว่าเดือนหกปีหน้าจะหมดสัญญา คิดจะต่อสัญญากับเมิ่งอู๋หยาไหม หร่านหลินถามว่าบริษัทให้มาถามหรือถามเอง หวังซีบอกว่าตอนนี้มีศิลปินที่ดูแลคนเดียวแล้ว ถามเอง หร่านหลินบอกเค้าไม่ต้องการพี่แต่ผมต้องการ หร่านหลินบอกว่าไม่อยากต่อสัญญา แต่ก็บอกว่าอยากจากกันด้วยดี
แล้วก็เห็นข้อความของลู่อี่เหยา แต่ลู่อี่เหยาไม่ยอมเปิดวิดีโอ เหตุผลคือโทรม ไม่หล่อ ทำเอาหร่านหลินต้องบังคับ เพราะวันรุ่งขึ้นต้องเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตที่อู่ฮั่น หร่านหลินคุยกับลู่อี่เหยาทุกเรื่อง เรื่องบทที่ต้องรับ ลู่อี่เหยาถามวันหมดสัญญา ก็คุยว่าเมื่อกี้ซีเจี๋ยก็ถาม คุยกันแบบไม่ปิดบัง
ในเรื่อง Fueled Flame หร่านหลินต้องแสดงเป็นตี๋เจียงเทา ที่เพิ่งออกจากคุก ส่วนกู้เจี๋ย เป็นนายตำรวจเสี่ยวกู้ ที่คอยตามสังเกตตี๋เจียงเทาอีกที
หร่านหลินและกู้เจี๋ยเดินทางถึงอู่ฮั่น จากที่เจริญ พออมาถึงสถานที่พักกลับแตกต่าง แต่ดีกว่าที่คิดเอาไว้มาก ทั้งสองต้องศึกษาผู้คน และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
ลู่อี่เหยากลับบ้านไปหาแม่กับน้องสาว บอกแม่เรื่องตัดสินใจเปลี่ยนสายงาน ตอนแรกไม่เห็นด้วยแต่พอบอกว่าทำเพราะต้องการเป็นปฏิปักษ์กับพ่อเท่านั้นแหละยอมรับทันที ล้วลู่อี่เหมิงก็สังเกตเห็นความผิดปกติของพี่ชาย ตามไปแอบฟังหน้าห้อง จนได้ยินคำว่ากู้เจี๋ย มาค้นก็เกิดความคิดบางอย่าง เดาถูกแต่เดาคนผิดนะเนี่ย
หร่านหลินกับกู้เจี๋ย อยู่ด้วยกัน ลองต่อบทกัน ตอนนั้นเองที่มีเสียงเคาะประตูดังไม่หยุด ที่แท้เป็นเซี่ยซินหร่านและลู่อี่เหยามาหา เซอร์ไพรส์หร่านหลิน ที่กู้เจี๋ยร่วมมือด้วย กู้เจี๋ยเป็นคนตรงสุดๆ ไม่มีความคิดแง่นั้นเลย เพื่อนสี่คนจะถ่ายรูปเซลฟี่ ลู่อี่เหยายังต้องเข้าห้องน้ำไปแต่งผมใหม่ออกมาอย่างกับอีกคน ทุกคนอึ้งไปหมด ฮามากอะ ถ่ายรูปลงเวยป๋อทีมบันทึกการเดินทาง แต่ไม่มีจางเป่ยเฉิน
กลับมาแบ่งห้องพัก ในที่สุดคู่รักก็ได้อยู่ด้วยกัน ความคิดถึงมากมาย แต่ต้องอดใจ ล่อี่เหยาบอกความคิดที่จะเปลี่ยนสายงาน หร่านหลินบอกว่าคิดจะเป็นนักแสดงรับเชิญไหม คนรักจะจุดประกายความคิดได้ตลอด ลู่อี่เหยาอยากให้คนรักมีทรัพยากร ส่วนหร่านหลินก็อยากเป็นต้นเขย่าเงินให้คนรัก สามวันผ่านไป
หร่านหลินถึงเวลากลับ ผู้กำกับเหอเลี้ยงส่ง บันทึกเหมันต์เวอร์ชั่นภาพยนตร์เปิดกล้องแล้ว
กลับมาที่เหิงเตี้ยนอีกครั้งยังเป็นเดือนหนึ่ง ฉากแรก นักแสดงที่รับบทอาจิ่นคือเจียงอี๋ ที่จะช่วยเจี้ยวซูเซียน ที่แสดงโดยหม่าปิน เป็นรุ่นพี่ของเจียงอี๋ ด้วยกันกับเสี่ยวสือโถว เจียงอี๋นิสัยไม่เหมือนกับในอินเทอร์เน็ต และอยากแสดงแนวปัจจุบันมาตลอด แต่ทุกเรื่องที่แสดงเป็นแนวพีเรียดทั้งหมด
บทหม่าปินไม่เยอะ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเทพเซียนบนสวรรค์เข้ากอง วันที่หวังซีมาเยี่ยม หร่านหลินกำลังอยู่ข้างสระสุราเถียนตัน หวังซีบอกว่าหานเจ๋อจะมาเยี่ยมกอง ฟังการวิเคราะห์ของหวังซีก็เหมือนตัวเองจะโดนเกาะกระแสเป็นครั้งแรก และเพราะเรื่องนี้ทำให้นายทุน จะมาเยี่ยมกอง เพื่อดูสถานการณ์ก่อนที่หานเจ๋อจะมา
นายทุนใหญ่ของเรื่องประธานซือ ซือจิ่วถิง มาในวันที่หร่านหลินแสดงฉากตกลงในสระสุรา ตัวเองกลัวว่าผู้กำกับยังไม่ได้วัตถุดิบเพียงพอก็จมลงไปอยู่จนไม่ยอมขึ้น จนทุกคนนึกว่าหร่านหลินจมน้ำไปแล้ว เป็นนักแสดงที่ทุ่มเทเกินไปแล้ว
ซือจิ่วถิงเอาร่มกระดาษน้ำมันที่ระลึกของกระบี่บุปผาโรยมาให้หร่านหลินเซ็น เพราะความรักลูกสาว แปลว่าที่หร่านหลินได้รับการชี้ตัวเพราะลูกสาวประธานซือ ชอบบทฟางเสียนของหร่านหลิน และความสามารถของหร่านหลินเอง ไม่ใช่อย่างที่คิดในตอนแรกที่เหมือนกับติงข่าย
สองวันต่อมาหานเจ๋อมา แต่ก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรให้หร่านหลิน และกองถ่าย หรือว่าจะระแวงไปเอง แต่ไม่มีทางล่ะ
บทความออกมาอีกหนึ่งเดือนเมื่อหร่านหลินเปลี่ยนโลเคชั่นไปถ่ายนอกสถานที่แล้ว ลู่อี่เหยาเพิ่งเห็น หร่านหลินไม่อยากให้ลู่อี่เหยาหนักใจ ก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่ลู่อี่เหยารับแสดงแล้ว
ตลอดทั้งเดือนสาม หร่านหลินไปสถานที่ต่างๆเพื่อถ่ายทำฉากนอกสถานที่ของ บันทึกเหมันต์ ในที่สุดก็ปิดกล้อง หลังปิดกล้องก็เร่งไปกองถ่าย Fueled Flame ทันที ทำเอากู้เจี๋ยคิดว่าโดนหลอกเพราะเคยโดยเซี่ยซินหรานหลอกตอนเอพริลฟูลเดย์มาก่อน
นักแสดงสมทบหญิงที่กำหนดไว้ เพราะผู้กำกับเลื่อนแล้วเลื่อนอีก สุดท้ายต้องยกเลิก ตอนนี้ผู้กำกับหาใครไม่ได้ ฉากของนักแสดงสมทบหญิงเลื่อนไปถ่ายทีหลัง เอาฉากนักแสดงชายมาไว้ข้างหน้า เดือนห้า ผู้กำกับจำต้องยอมรับนักแสดงสมทบหญิงที่มีเพื่อนแนะนำให้ นักแสดงคนนั้นคือฉีลั่วลั่ว แสดงไม่ได้เรื่อง NG มากจนไม่รู้จะทำยังไง วันที่มาถึงหร่านหลินก็แน่ใจว่าทอดสายตาให้ ตัวเองไม่สนใจผู้หญิง ส่วนกู้เจี๋ยก็สุดจะตรงจะทึ่ม ไม่รู้เรื่องราวกับใคร
แล้ววันนั้นหลิววานวาน ผู้ช่วยก็มาบอกว่าเวยป๋อ แฉว่าหานเจ๋อเปลี่ยนผู้จัดการ หวังซีบอกว่าไม่ต้องทำอะไร เพราะหานเจ๋อเล่นเองกำกับเอง เพราะซีรีส์บันทึกเหมันต์จะออกแล้ว เค้าต้องการสร้างกระแส
หร่านหลินเข้าไปดูก็ไม่คิดว่ามีอะไร ยังดูเหมือนเป็นเรื่องความรักต่างวัย
วันรุ่งขึ้นเพราะฉีลั่วลั่วแสดงไม่ได้ ต้องถ่ายใหม่หลายรอบ กลับที่พักกลับเป็นลู่อี่เหยาที่บอกว่าเรื่องหานเจ๋ออย่าตอบ พอคุยกันถึงรู้ว่าหร่านหลินยังไม่อ่านเวยป๋อ ลู่อี่เหยาบอกว่าหานเจ๋อตอบแล้ว กลายเป็นปัญหาผู้จัดการลำเอียง หร่านหลินเข้าไปอ่านทำความเข้าใจ ลู่อี่เหยาจะให้เหยาหงจัดการ แต่หร่านหลินขอโทรหาหวังซี หวังซีถาม หร่านหลินมอบความเชื่อใจให้หวังซี
ลู่อี่เหยารับรู้ และคุยกับเหยาหง แล้วก็คิดว่าครั้งนี้หวังซีจะยืมแรงย้อนทำลาย รอเรื่องราวสะสมจากนั้นโจมตีถึงตาย
หวังซีเริ่มปั่นกระแสดึงบันทึกเหมันต์เวอร์ชั่นภาพยนตร์ออกมาร่วมด้วย พอตอนเช้าก็โทรไปขอโทษประธานซือ ซือจิ่วถิงฉลาดมาก รู้ทุกอย่าง สุดท้ายคนที่เกลียดที่สุดคือทำให้ตัวการที่ก่อเรื่องรู้ว่ายุ่งกับใครก็ได้ อย่ามายุ่งกับเขา
ซื้อจิ่วถิงลงมืออย่างเร็ว ให้กองถ่ายออกแถลงการณ์ไม่ได้ส่งคำเชิญให้หานเจ๋อ คือไม่ต้องการให้หานเจ๋อเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับภาพยนตร์เพราะไม่มีสิทธิ์นั้น แล้วก็เอาคลิปที่หร่านหลินแคสติ้งกับตุ๊กตากบตบหน้าอีกรอบ ทั้งเซี่ซินหราน ลู่อี่เหยา ถังเสี่ยวอวี่ กู้เจี๋ยก็รีโพสต์คลิปแคสติ้งของหร่านหลิน เป็นพลังในแง่บวก
หานเจ๋อยังมีงานเปิดตัวซีรีส์บันทึกเหมันต์ แต่ในวันนั้นก็มีภาพหลุดเรื่องที่ตัวเองกับชุยเหยียนเหยียนนัดกันตอนกลางคืน เรื่องนี้หวังซีเดาว่าเป็นฝีมือของซือจิ่วถิง แต่ก็จัดการหานเจ๋อจนถึงที่สุดจริงๆ ให้ซีรีส์เรื่องนี้เละยิ่งขึ้น จะได้ดึงความสนใจมาที่เวอร์ชั่นภาพยนตร์
หลังจากหร่านหลินดูซีรีส์บันทึกเหมันต์ตอนแรกก็ออกไปหาของกิน กลับเห็นกู้เจี๋ยออกมาจากห้องของฉีลั่วลั่ว แล้วก็ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดที่กู้เจี๋ยอัดอั้นตันใจ ตัวเองเข้าห้องไม่ได้ปิดประตู ฉีลั่วลั่วปิดประตูแล้วก็เข้ามานัวเนียจนต้องหนีออกมา
วันรุ่งขึ้นกู้เจี๋ย NG เยอะมาก สุดท้ายผู้กำกับเหอเรียกไปคุยถึงรู้ความจริง แล้วก็เปลี่ยนไปถ่ายนอกสถานที่ หร่านหลินมาคุยกับกู้เจี๋ยถึงรู้��่าผู้กำกับเรียกฉีลั่วลั่วไปพบมีรองผู้กำกับอยู่ด้วย แล้วก็มีประกาศหยุดกอง ในกรุ๊ปวีแชตให้ทุกคนช่วยกันหานักแสดงสมทบหญิง
หร่านหลินแชร์โพสต์ในโมเมนต์และถามนักแสดงหญิงที่เคยร่วมงาน ซีรั่วหานเวลาไม่ตรง แต่เจียงอี๋กลับตอบมาว่าสนใจให้หร่านหลินถามว่า 48 วันพอถ่ายไหม หร่านหลินติดต่อผู้กำกับเหอ และได้คำตอบ เจียงอี๋เลยเป็นผู้ช่วยชีวิตกอง
เรื่องไม่จบเท่านั้น เพราะฉีรั่วรั่วออกจากกองก็ไปโพสต์ว่าตัวเองถูกพระเอกคือ กู้เจี๋ยกลั่นแกล้ง กู้เจี๋ยไม่กลัวเพราะไม่เคยทำผิด โพสต์ขอหลักฐาน ลู่อี่เ���ยาวิเคราะห์ว่าต้องมีทีมร่วมมือด้วย เพราะอยากสร้างกระแส ปั่นกระแส แค่นี้ก็ดังแล้ว เรื่องราวเรียบร้อยเพราะผู้กำกับเหอกวน ที่มีคลิปตอนพูดคุยกับฉีลั่วลั่ว และลู่อี่เหยายังให้คนมาเอาคลิปกล้องวงจรปิดไปเพื่อช่วยเพื่อน เรื่องนี้ทำเอาน้องสาวยิ่งเข้าใจผิดเข้าไปใหญ่
สุดท้ายทีมของกู้เจี๋ยก็ล้างมลทินได้ใสสะอาด แล้วหร่านหลินก็รู้ว่าผู้กำกับเหอเป็นลุงเขยสามของบ้านป้ารอง สรุปคือเป็นญาติกับกู้เจี๋ยนี่แหละ หวังซีก็คอยช่วยอยู่บอกว่าสัตว์หายากต้องคุ้มครอง ในเน็ตก็ชื่นชมที่หร่านหลินมีคุณธรรม กู้เจี๋ยถึงขนาดอยากสาบานเป็นพี่น้องกับทั้งสามคนเลยเชียว
อู่ฮั่นท้องฟ้าแจ่มใส เจียงอี๋มาตามนัด เป็นผู้กอบกู้กองถ่ายเลยเชียว

หลังอ่านเล่ม 4 :
เล่มนี้เข้มข้นมากๆ เห็นวิกฤตการณ์ สงครามในเน็ตอีกครั้ง แต่เพราะผู้จัดการเก่งเอาอยู่ มีเพียงอย่างเดียวคือขอแค่เชื่อใจเท่านั้นก็พอ แล้วก็จัดการคนที่คิดร้าย ได้อย่างหมดจดจริงๆทั้งสองครั้งเลย ทั้งตอนหร่านหลิน และกู้เจี๋ย ใกล้จบแล้วแต่ยิ่งอ่าน ยิ่งวางไม่ลงเลยจริงๆค่ะ

[Giyongchy · Rating 4 out of 5]

รีวิวรวมๆ เป็นเรื่องในวงการแสดง นายเอกเป็นนักแสดงโนเนม พระเอกดังกว่าแต่ก็ไม่ถึงกับเป็นซุปเปอร์สตาร์อะไรแบบนั้น เนื้อเรื่องสนุกดี ส่วนใหญ่แต่ละเล่มจะค่อนข้างละเอียด เนื้อหาเรื่อยๆ อ่านได้เพลินๆ ไม่ได้ซู ชอบความรักของทั้งสองคนแบบที่เริ่มจากเพื่อนสนิท ชอบสำนวนการแปลแบบสมัยใหม่เต๊าะกันไปมา ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเพื่อนๆ ในเรื่อง รวมๆ แล้วก็สนุกดี แต่ติดอยู่อย่างคือไม่ค่อยชอบภาพปกเลย

[Daebaek · Rating 5 out of 5]

อ่านนิยายวงการบันเทิงมาหลายเรื่อง สิ่งที่เรื่องนี้มีความโดดเด่นกว่าหลายๆเรื่องที่เคยอ่านมาคือมิตรภาพของเพื่อนร่วมวงการ สัมผัสได้จากใจจริงถึงความเฟรนชิพของเพื่อๆทั้งสี่คน จากคนแปลกหน้า จากที่เคยมีข้อกังหา ก็กลายมาเป็นสนิทแน่นแฟ้นยิ่งกว่าครอบครัว หร่านหลินก็จิตใจดีมากๆๆ อ่านแล้วใจฟู ไม่มีจุดไหนน่าเบื่อเลย

[Ning · Rating 4 out of 5]

เป็นแนวบันเทิงที่จริงจังที่สุดที่เคยอ่านมาเลย

ไม่ขายความซู ไม่ขายหน้าตา ไม่ขายโซเชี่ยล ไม่มีฟ้าประทานใด ๆ

แต่ไม่เครียด.. ไม่หนักนะ อ่านได้เพลินมาก ๆ มีสาระ ข้อมูลจริงไม่จริงไม่รู้ แต่มีความเป็นไปได้สูง
นอกจากเล่าเรื่องวงการแล้ว ก็ยังมีแทรก มิตรภาพ ครอบครัว

เสียดายที่มาอ่านปีนี้ ไม่งั้นคงได้แนววงการบันเทิงแห่งปีไปละ แต่เผอิญ ปีนี้อ่านวงการเยอะมากแต่ก็ถือว่าสนุกมาก ๆ อยู่ค่ะ

[Lukaod · Rating 5 out of 5]

สนุกมาก เป็นนิยายแนววงการบันเทิงที่สนุกมาก

[Artnimiaf · Rating 5 out of 5]

เป็นโชว์บิซที่สนุกมาก ชอบมากๆ แอบใจหายกับจุดจบตัวร้ายนะ มันแบบเออทำไมถึงทำแบบนั้นอะ เสียดายโอกาสแทนจริงๆ
โมเมนต์พระนายไม่ได้หวานมาก ส่วนใหญ่คือแทบจะทำงานกันตลอดเวลาคือ ช่วงคัมมิ่งเอาท์อึดอัดใจกับแม่นิดนึง ความคิดแม่ใจร้ายอยู่นะ แรกๆคือเข้าใจว่ารับไม่ได้ที่ลูกชอบผช. แต่หลังจากคุยกับเพื่อนพระเอกแล้วนึกว่าแม่จะรู้ว่าตัวเองทำเกินไป แต่สุดท้ายแม่ก็เลือกด่าพ่อแทน อาจมองข้ามจุดเล็กๆไปได้ แต่นี่ว่าการหย่าส่วนหนึ่งก็จากนิสัยแม่ด้วยนี่แหละ การเป็นหญิงแกร่ง พึ่งพาตัวเองได้เป็นเรื่องที่ดี แต่ควรรับฟังคนอื่นบ้าง พ่อดูเย็นชา เงียบๆแต่ก็ฟังแม่ตลอด ดูเป็นพ่อที่ดีอยู่นะ ถ้าไม่นับส่งลูกไปเมืองนอกคนเดียว บ้าจริง
พ่อแม่นายเอกน่ารักมากๆ เซ็ตติ้งดีมาก สอดคล้องกับนายเอกเลย อ่านครอบครัวนี้รู้สึกได้อารมณ์บวกมากๆ

[Tkpslc. · Rating 2 out of 5]

มาเล่มนี้ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำเรา ว่าใช่แล้วล่ะ เรื่องนี้มันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ มันดำเนินไปอีกรูปแบบนึงแล้ว ฮือออ ถ้ากระชับมากกว่านี้คงอ่านง่ายขึ้น

[Rada Chalapipat · Rating 5 out of 5]

ยังคงชอบพล็อตและการดำเนินเรื่องของเล่มนี้ที่เจาะลึกถึงอาชีพนักแสดง มิตรภาพ ผลประโยชน์ และการสร้างกระแสรวมถึงแฟนคลับผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เล่มนี้คู่พระนายเค้าเป็นแฟนกันแล้ว แม้ตัวจะไกลต่างฝ่ายต่างทำงานแต่ยังโทร.หรือไลน์คุยกัน จีบกันหรือช่วยเหลือให้คำแนะนำในเรื่องงานกันตลอดเวลา ปมหลักของเล่มนี้จะอยู่ที่ #หร่านหลิน นายเอกใจดีคิดบวกที่เดบิวต์มา 2ปีแต่เพิ่งจะเริ่มมีออร่าจับในช่วง 2 ปีต่อมาตั้งแต่เป็นข่าวกับ #ลู่อี่เหยา พระเอกดาวรุ่งในเล่มแรกจนมาถึงการได้รับบทนำคู่กันในเล่มสาม ส่งผลให้นายเอกได้รับเลือกเป็นพระเอกเต็มตัวในภาพยนตร์แฟนตาซี "บันทึกเหมันต์" ตามมาด้วยการร่วมงานกับผู้กำกับมือรางวัลผ่านการสนับสนุนและชักชวนของ #กู้เจี๋ย พระเอกมาดแมนใจซื่อบ้าพลังที่ได้ร่วมงานกันในวาไรตี้บันทึกการเดินทาง

ในส่วนของเรื่องการงานในเล่มนี้มีบทแคสติ้งแสดงความสามารถของนายเอกอยู่บ้างแต่กลับเน้นหนักไปที่อุปสรรคจากคนอื่น โดยในบันทึกเหมันต์จะมีปัญหาจาก #หานเจ๋อ พระเอกร่วมค่ายที่มีผู้จัดการส่วนตัวคนเดียวกัน เพราะหานเจ๋อจอมเจ้าชู้ซึ่งเคยมีชื่อเสียงมากกว่าได้เป็นพระเอกฉบับซีรี่ส์ซึ่งออกฉายก่อน เค้าดังแล้ววางแผนเขี่ยเจ๊ผู้จัดการคนเก่งซึ่งเคยแอบคบกันก่อนที่จะสร้างกระแสให้ตัวเองว่าเป็นเพราะเจ๊ลำเอียงไปหลงและดันเด็กใหม่อย่างหร่านหลินจนมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทีมสร้างภาพยนตร์ เราชอบที่เค้าเปลี่ยนไปให้ความสำคัญระหว่างดารา ผู้ช่วยและผจก.ส่วนตัวซึ่งเรื่องนี้มีความแตกต่างระหว่างฝั่งของนายเอกที่เจ๊ซีเค้าเคยเก่งแบบสาวมั่นไม่ยอมใคร ส่วนเจ๊หงของพระเอกเปรียบเสมือนแม่คนที่สองที่คุยได้ทุกเรื่อง บทเรียนของการถูกหักหลังจนฐานะในบริษัทตกต่ำลงทำให้เจ๊ซีประทับใจตัวหร่านหลินที่ยังเชื่อฟังและไม่ทิ้งตนเองจนเริ่มเห็นความสำคัญของมิตรภาพที่หาได้ยากในวงการ ฝ่ายเจ๊หงก็กลายเป็นที่ปรึกษาคนแรกที่พระเอกแจ้งว่าอยากเลิกอาชีพนักแสดงเพราะอยากเปิดบริษัทเองเพื่อจะได้สนับสนุนให้ว่าที่ภรรยาในการเป็นนักแสดงและจะได้คบหากันได้อย่างเปิดเผย

ในส่วนของกู้เจี๋ยมีบทบาทเยอะกว่าพระเอก เป็นชายแท้จิตใจซื่อตรงสุดๆ นายเอกได้งานดีเงินน้อยเพราะเพื่อนคนนี้ เมื่อถึงเวลาที่เพื่อนโดนเล่นงานจากนักแสดงสมทบหญิงหน้าใหม่ที่ฝีมือแย่แต่คิดจะเอาตัวเข้าแลกแต่ก็ล้มเหลวถูกยกเลิกสัญญาแล้วกลับไปสร้างข่าวว่ากู้เจี๋ยคุกคามทางเพศและกลั่นแกล้งจนต้องออกจากกองอย่างไม่เป็นธรรม เป็นช่วงเวลาที่ใครๆก็ปรามไม่ให้นายเอกออกความเห็นเข้าข้างยกเว้นพระเอกและเจ๊ซี แม้ว่าช่วงคอมเม้นท์ของแิคหลุม แอนตี้แฟนและชาวด้อมตัวจริงจะเยอะไปบ้าง แต่ภาพรวมเรายังคงชอบหลากหลายกลยุทธการวางแผนจัดการข่าวร้ายประโคมข่าวดีของคนรอบตัวนายเอกและกู้เจี๋ยที่ไม่ได้เจาะจงยกบทนี้ให้พระเอกเพียงอย่างเดียว

รอลุ้นเล่มหน้าว่าเค้าจะเปิดตัวคนรักกับทางบ้านอย่างไร

[Bunnyb · Rating 4 out of 5]

กลับมาอ่านเล่ม 4 ห่างจากอ่านเล่ม 3 นานเลย ต้องใช้เวลาพักนึง
กว่าจะย้อนความทรงจำเกี่ยวกับตัวละครแต่ละตัวได้

เล่ม 4 เน้นที่การทำงานที่เริ่มรุ่งแล้วของหร่านหลิน (MC)
ส่วนลู่อี่เหยา (ML) ก็ยังอยู่ในโหมดทำงานในกองถ่ายเหมือนกัน
อ่านแล้วไม่เข้าใจเลยว่าระดับความอดทนของคนรักกันที่ต่างคน
ต่างเป็นนักแสดงในจีนมันจะต้องมากมายมหาศาลขนาดไหน
ปีนึงแทบจะไม่ได้เจอกันเลย เพราะฉะน้านนน.. เล่มนี้ถ้าใครคาดหวัง
ความหวาน หรือฉากฟินๆ ของหร่านหลินกับลู่อี่เหยา คุณจะพบว่า
มันมีน้อยมาก ส่วนใหญ่คือต้องคุยกันผ่านมือถืออ่ะ แต่ความรักมั่นคง
ไม่ได้ลดน้อยลงนะคะ วางใจได้ ^^

แต่ที่ให้ 4 ดาวกับเล่มนี้เพราะเรื่องราวความสัมพันธ์ที่น่ารักของ
เพื่อนทั้ง 4 (ลู่อี่เหยา/หร่านหลิน/กู้เจี๋ย/เซี่ยซินหราน) ที่ผูกพันกัน
ลากยาวตั้งแต่เล่มแรกมาจนถึงเล่มนี้แบบงงๆ 555 จริงๆ ชอบคาแร็คเตอร์
เซี่ยซินหรานมากๆ แต่ว่าเล่ม 4 นี้ออกน้อยหน่อย กู้เจี๋ยบทบาทเยอะ
เพราะแสดงภาพยนตร์กับหร่านหลิน ระหว่างพวกเค้าคุยกันก็จะมีจุดที่ทำให้
หลุดหัวเราะออกมาได้เป็นระยะๆ แล้วก็ยิ้มกับการสนับสนุนกันและกัน
โดยไม่สนใจคำพูดของเนติเซน

มาถึงเล่มนี้เรื่องเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คนประเภทเดียวกันก็อยู่กับคนประเภทเดียวกัน
ใครเป็นพวกใคร ใครดี ใครเลว ก็ชัดเจนขึ้น ดีใจกับลู่อี่เหยาและหร่านหลินที่
ได้เจอคนใกล้ชิดที่จริงใจแทบทุกคน รอลุ้นกับเล่มจบที่ซื้อมารอแล้ว
คราวนี้ไม่ขาดตอนเหมือนตอนรอเล่ม 4 แล้วค่ะ 55