Nơi chỉ người đọc sách mới có thể chạm tới

by Takashi Saito, Nguyễn Quốc Vương (Người bán sách rong) (Translator)

Internet đang “bá chủ” cuộc sống của người hiện đại và chúng ta có cần thiết phải đọc sách hay không? Cuốn sách “Nơi chỉ người đọc sách mới có thể chạm tới” của tác giả Takashi Saito sẽ giúp bạn nhận ra rằng: Đọc chính là cách mà loài người làm cho trí tuệ tiến triển không ngừng, làm phong phú trí tưởng tượng và nâng tầm nhân cách.

“Nơi chỉ có người đọc sách mới có thể chạm tới” nhấn mạnh trải nghiệm thông qua đọc sách, và trả lời câu hỏi “Làm thế nào để trở nên sâu sắc?”. Nếu trước nay bạn chỉ lờ mờ cảm nhận được tầm quan trọng của đọc sách, thì sau khi đọc tác phẩm này bạn sẽ nhận ra đọc sách có thể thay đổi hoàn toàn cuộc đời của một người như thế nào.

Cuốn sách này sẽ giúp bạn khám phá cách đọc để làm gia tăng sự sâu sắc, làm sâu sắc năng lực tư duy, làm sâu sắc nhân cách, làm sâu sắc nhân sinh và cách đọc những cuốn sách khó.

“Nhân sinh chỉ có một lần”, nên con người không thể sống cuộc đời người khác. Gia tăng trải nghiệm bản thân là cách để bạn sống một đời trọn vẹn. Hãy để cuốn sách này và nhiều cuốn sách khác mang đến những điều ý nghĩa cho bạn cả ở hiện tại và tương lai.

Genres: Nonfiction, Self Help, How To

192 pages, Paperback

Published March 2, 2021

Reviews

[Thanawat · Rating 4 out of 5]

ผมค่อนข้างประหลาดใจกับการเจอหนังสือแนว how-to ที่ปักธงบอกกล่าวความดีงามของการอ่านหนังสือ
และที่ประหลาดใจมากไปกว่านั้นจนต้องพลิกไปดูประวัติผู้เขียนก็คือ หนังสือเล่มนี้แนะนำให้อ่านหนังสือประเภทวรรณกรรมเป็น theme หลัก

หนังสือ how-to สัญชาติญี่ปุ่น เล่มกระทัดรัด ตรงไปตรงมาตามสไตล์นักเขียนญี่ปุ่น ที่บอกเล่าความดีงามของการอ่านหนังสือ ซึ่งแน่นอนว่ามันถูกจริตนักอ่านอย่างผมเป็นอย่างยิ่ง

บอกเลยว่าผู้เขียนเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง เชิดชูหนังสือ ยิงการอ่านทางอินเตอร์เน็ตตกกลางอากาศด้วยการประกาศว่านั่นไม่ใช่การอ่านแต่เป็น “การบริโภค” ซึ่งถูกใจเป็นอย่างยิ่ง

มุมมองที่ผู้เขียนมีก็ไม่ได้โบราณไปตามรูปแบบการอ่านหนังสือเล่ม แต่ยังมีความทันยุคสมัยโดยการตั้งคำถามว่าการอ่านหนังสือจะช่วยให้เราต่อกรกับ AI ยังไง

แน่นอนว่าการอ่านหนังสือมันดีมากอยู่ ซึ่งผู้เขียนเ้นย้ำออกมาให้เห็นว่าเหล่านักอ่านมีความลุ่มลึก มีความสามารถในการคิดเชื่อมโยง แถมยังมีเสน่ห์อย่างไรบ้าง
ซึ่งผู้เขียนโน้มน้าวให้เก็บ skill เหล่านี้ผ่านการอ่านวรรณกรรม

ย้ำว่าอ่านวรรณกรรม ไม่ใช่อ่านหนังสือ non-fiction หรือ how-to ซึ่งก็ตรงกับจริตอีกแล้ว

ในสายตาของผู้เขียน หนังสือวรรณกรรมจะค่อยๆ ฝึกผู้อ่านให้คิดลุ่มลึก ฝึกเชื่อมโยง และตีความ ผ่านทั้งมุมมองของตัวละครและนักเขียน เพราะวรรณกรรมมันฝึกให้คนอ่านมี empathy ซึ่งจะต่างจากหนังสือแนว informative ที่อัดข้อมูลมาให้แบบโต้งๆ ประกอบกับหลักฐานต่างๆ นานา โดยไม่ต้องมาตีความหรือ empathy ใดๆ ทั้งสิ้น

อย่างไนก็ตาม การที่ผู้เขียนกล่าวถึงหนังสือวรรณกรรม ยกตัวอย่างวรรณกรรมก็ไม่ได้แปลว่าจะไปโจมตีหนังสือชนิดอื่น

เพราะหนังสือมันจะ shape คนอ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ผู้เขียนแถมด้วยรายชื่อหนังสือน่าอ่านหมวดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
- หนังสือที่จะช่วยเพิ่มพลังความคิด
- หนังสือที่เสนอความรู้ที่จำเป็นต่อยุคปัจจุบัน
- หนังสือที่ทำให้คุณสัมผัสความละเอียดอ่อนของชีวิต
- หนังสือที่ทำให้ชีวิตลุ่มลึก
- หนังสืออมตะสุดยาก

หนังสือเล่มนี้ บางๆ อ่านง่าย เหมือนมีคนรักการอ่านมาแลกเปลี่ยนความคิดด้วย

อ่านจบปุ๊บ อยากไปแบก “พี่น้องคารามาชอฟ” มาอ่านโดยพลัน

[ไม้ไต่คู้ · Rating 2 out of 5]

ค่อนข้างจะเป็นหนังสือที่น่าเบื่อ แล้วก็ไม่ได้ให้ความรู้อะไร เนื้อหาส่วนใหญ่วนๆ ในประเด็น "การอ่านมีประโยชน์อย่างไร" (ซึ่งตื้นมาก ใครๆ ก็รู้มั้ง) จากนั้นก็ยกหนังสือดังๆ ขึ้นมา แล้วก็ชมแบบผิวเผินว่า "ดีมาก, ชอบมาก, เขียนได้ลึกซึ้ง, ประทับใจจริงๆ" ไปเรื่อยๆ จนจบเล่ม

การพร่ำบอกคนอื่นว่า "การอ่านหนังสือมีประโยชน์นะ" มันไม่ได้เป็นประโยชน์กับใคร เพราะแม้แต่คนที่ไม่อ่านหนังสือก็คงรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ส่วนคนอ่านหนังสือเป็นประจำนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง การพูดเรื่องประโยชน์ของการอ่านกับคนชอบอ่าน ก็ไม่ต่างกับเข้าไปในกรุ๊ปคนชอบหนังโนแลน แล้วถามว่าดู Inception รึยัง

ส่วนตัวเลยคิดว่า ถ้าจะชักจูงใครให้มาอ่านหนังสือ ผมคงไม่ไปสวดมนต์สามจบใส่เขาว่า "การอ่านหนังสือมีประโยชน์นะ การอ่านหนังสือมีประโยชน์นะ การอ่านหนังสือมีประโยชน์นะ" แบบที่หนังสือเล่มนี้พยายามทำ

[Hoại Băng · Rating 4 out of 5]

Quyển sách này tôn vinh và khuyến khích việc đọc sách. Mình thích việc tác giả vẫn khuyên người đọc hãy cố gắng đọc nhiều hết mức có thể, đọc để biết có sách hợp với mình có sách không, dù đọc không hiểu vẫn cứ đọc rồi tương lai có thể hiểu hơn. Tác giả cũng khuyến khích cả việc đọc sách, đọc truyện tranh, và xem phim chuyển thể. Sự cởi mở này của tác giả mình rất thích.

[Vui Lên · Rating 3 out of 5]

3.5

Một cuốn sách khác về khuyến đọc, nhưng sẽ hợp hơn cho các bạn thích đọc fiction. Cuốn lần trước (đọc nhiều nhớ được bao nhiêu) mình review hợp cho mấy bạn đọc nonfiction hơn.

Tác giả phân tích chiều sâu, vẻ đẹp và lợi ích liên quan đến cảm xúc, nội tâm mà sách mang lại. Gợi ý nhiều đầu sách kinh điển để độc giả tìm đọc.

Đọc mấy tác giả Nhật nói về sách, về văn hoá đọc cũng làm mình có thêm nhiều cảm hứng, ấp ủ để sau này viết một cuốn tương tự. Tới giờ là đã đọc 3-4 cuốn sách từ tác giả Nhật rồi. Tác giả Việt thì chưa có cuốn nào.

[Kanthida Ann · Rating 5 out of 5]

ชื่อหนังสือทำให้เรากดซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน
.
แล้วด้วยความที่เล่มบางมากเลยลัดคิวขึ้นมาอ่านก่อนเลย ถามว่าเนื้อหาตรงกับชื่อเรื่องมั้ยเราคิดว่าตรงปกเลยนะ เพราะถ้าไม่ได้อ่านหนังสือก็คงไม่ได้อะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เราเป็นเราในวันนี้
.
หนังสือมีมากมายหลายประเภทเหมือนโลกใบนี้ที่แสนกว้างใหญ่ สถานที่บางแห่งก็เดินทางไปยากเหลือเกิน การตัดสินใจจะเดินทางไปท่องเที่ยว ณ ที่แห่งนั้นมันก็ยากมากๆ บางทีการเที่ยวที่เดิมๆก็ทำให้เราสบายใจอยู่ในเซฟโซน แต่มันก็จะไม่ได้อะไรเพิ่มมากขึ้น หนังสือเล่มนี้ชักชวนให้เรากล้าที่จะเดินทางไปที่ต่างๆ ประสบการณ์ที่ยากลำบากทุกคนก็เคยเจอเหมือนกัน ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่รู้สึก ครั้งแรกที่ได้ลองมันอาจจะมีหลงทาง เบื่อหน่าย ก็เดาทางไปเรื่อยๆก่อน การเดินทางครั้งแรกมันยาก แต่ถ้าเราได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง การเดินทางครั้งที่สองของเราก็จะง่ายขึ้น ยิ่งถ้าได้มีเพื่อนร่วมทางมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ เราอ่านจะจเอเส้นทางที่ดีที่ถูกต้อง ความสุขของการได้อ่านหนังสือมันไม่ใช่แค่เราอ่านจบเล่มนี้เพื่อที่จะได้อ่านเล่มต่อไป แต่มันเป็นประสบการณ์ระหว่างที่เราได้อ่าน ได้พูดคัยกับตัวเอง ได้ฉุกคิด และมีอารมณ์ร่วมไปกับเนื้อหาที่ผู้เขียนกลั่นกรองออกมาให้เรา ประสบการณ์ทั้งชีวิตของนักเขียนเหล่านั้นได้สรุปออกมาให้เรา เมื่อเรายิ่งอ่านเล่มต่อไปอีกเรื่อยๆโลกของเราก็จะกว้างขึ้นไปอีก สิ่งที่ได้จากการอ่านหนังสือ ทำให้เรากล้าที่จะออกไปผจญภัยในโลกกว้าง เราไม่รู้หรอกว่าเราจะเจออะไร แต่เราจะได้อะไรจากการเดินทางทุกครั้งแน่นอน
.
นอกจากผู้เขียนจะโน้มน้าวให้เราอยากอ่านหนังสือ ให้เรากล้าที่จะอ่านหนังสืออ่านยากแล้ว ยังแนะนำหนังสือดีๆน่าอ่านมากมายไว้อีกด้วย ถือเป็นหนังสือที่ดี บางช่วงมีอ่านแล้วง่วงนอนไปบ้าง แต่ก็ถือว่าได้อะไรจากการอ่านเล่มนี้อยู่ เพราะเราเองเป็นคนหนึ่งที่อ่านหนังสืออ่านยากไม่ค่อยรอด ยิ่งเป็นนิยายแปลต่างประเทศที่ชื่อไม่คุ้นยิ่งยากใหญ่ ตอนนี้เล่มที่เก็บรอไว้ให้ตัวเองตอนอัพเลเวลการอ่านหนังสือแล้วคือ หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว
พอเปรียบการอ่านหนังสือเหมือนการเดินทางท่องเที่ยวแล้ว รู้สึกมีไฟในการอ่านขึ้นเยอะเลยอ่ะ ><

[Pairash Pleanmalai · Rating 4 out of 5]

อย่างน้อยคนที่อ่านเล่มนี้ ส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นคนที่อ่านหนังสืออยู่แ��้ว ดังนั้นจะทำยังไงให้คนที่ไม่ได้อ่านหนังสือ ได้อ่านเล่มนี้สักครั้ง
ก็คงจะยากอยู่ ก็เลยอ่านเพื่อได้ไปบอกคนที่ไม่ได้อ่าน

เนื้อหาในเล่มหลายเรื่องช่วยย้ำให้เราเข้าใจประโยชน์ของการอ่าน ในบางมุมที่เราไม่เคยทราบ หรือเคยนึกมาก่อน
ไม่ว่าจะเป็น การที่สมองจิตนาการในขณะอ่านหนังสือ ซึ่งหาได้ยากจากการเสพสื่ออื่น ไม่ใช่ว่าไม่มี
และอีกหลายเหตุผลดีๆ ที่เราก็คิดไม่ถึง

แต่ข้อเสียของเล่มนี้คือ การยกตัวอย่างหนังสือของญี่ปุ่นเยอะเกิน (ก็แน่หล่ะ หนังสือเขา)
ก็กล่าวซ้ำ

[top. · Rating 2 out of 5]

ย้อนแย้งพอสมควร คือคนไม่อ่านหนังสือที่ไหนเค้าจะหยิบเล่มนี้มาอ่าน หรือกระทั่งคนอ่านหนังสือเป็นประจำก็คงรู้ความลับอะไรนี่อยู่แล้ว ถ้าจะพอเป็นประโยชน์อยู่บ้างก็คือเอาไว้ให้ (ผม) อ่านเพิ่มอีโก้ตัวเองว่าเป็นพวกลึกซึ้ง ลึกซึ้งจังคุณ ลึกซึ้งที่อ่านหนังสือเล่ม ลึกซึ้งกว่าพวกอ่านนิทานภาพ อ่านมังงะ ดูภาพเขียน ดูภาพยนตร์ ดูละครเวที ฟังดนตรี เล่นเกมส์ ฯลฯ / นั่นแหละ เห็นอะไรแปลกๆ อ๊ะยัง

ปล. แต่อยากเจออาจารย์เค้านะ อยากคุยเรื่องหนังสือ เรื่องกลอนด้วยกัน (โดยเฉพาะของจูยะ) คาดว่าอาจารย์ต้องเป็นคนคุยสนุกกว่าเขียนแน่นอน

[Nguyễn Vy · Rating 3 out of 5]

Dù ghét Self-Help nhưng cuốn này lại khá hay. Tác giả rất có tâm khi gần như mỗi chương đều có list sách bổ trợ và không khó để nhận thấy ông khuyến khích độc giả Nhật nói riêng và thế giới nói chung đọc về văn học và tác phẩm nghiên cứu của Nhật. Điều này nên được học hỏi và áp dụng cho Việt Nam khi các nhà sách thì có cho mình 2, 3 cái tủ sách nhưng một cuốn guide chất lượng từ tác giả Việt và dành cho văn học, tác phẩm Việt thì chưa có hoặc chưa được biết đến.

Mình tự cảm thấy mình là người đọc sách lại đi đọc sách khích lệ đọc sách, còn người lười đọc sách điển hình là em mình thì chỉ cần là sách là nó không động vào, huống gì cuốn có từ sách trong tên. Cuối cùng thành phần chính đọc cuốn này chắc toàn dân thích sách.
Cảm thấy có sự mâu thuẫn khá hài hước ở đây :))

[Shirlee Chia · Rating 4 out of 5]

很少站在這種角度去看待讀書這回事。作者在書中所寫到的讓我有種被認同或者被理解的感覺。但我還是覺得自己並沒有太認真去看待讀書這回事。看書於我而言就是精神上的進食。對自己的「挑食」我不會太在意。不看的書就不看，但作者說這是不行的，閱讀要廣而深。然後我會試著將這件事放在心上。

我要繼續在書海中載沉載浮下去。

[เกียรติศักดิ์ บัวเริง · Rating 5 out of 5]

เป็นหนังที่ทำให้เราเข้าใจ มุมมองกานอ่านหนังสือหลากหลายแนวโดยที่ไม่เน้น เฉพาะแนวที่เราชอบเท่านั้น เพราะการอ่านแนวที่ชอบอย่างเดียว ก็ไม่ต่างอะไรกับหน้าต่างบานเดียวที่เปิดออกในมุมคล้ายๆเดิมซ้ำๆ แต่การเปิดใจลองอ่านแนวอื่นที่เราไม่เคยอ่านหรือไม่เคนคิดจะอ่าน กับทำให้เราได้มุมมองแนวคิดที่แตกต่างออกไแจากเดิมเปรียบเหมือนเพิ่มหน้าต่างบานใหม่ที่เปิดออกไปสู่มุมมอง ที่แตกต่างจากเดิม อย่าเช่นแนววรรณกรรมที่หลายคน มักจะมองว่าอ่านแล้วได้อะไร อ่านทำไมเสียเวลา แต่ในสิ่งที่หลายคนมองข้ามนั้นกลับมี แนวความคิดและมุมมองในเรื่องต่างไป ที่สอดแทรกไว้ในเนื้อเรื่องของวรรณกรรม ที่ทำให้เราเกิดจินตนาการร่วมกับวรรณนั้น และทำให้ซึมซับมุมมองที่แตกต่าง ที่เราไม่เคยเจอในหนังสือทั่วไป ที่ผ่านการสอดแทรกให้เราขบคิด จนเกิดปัญญาหรือความคิดใหม่ๆได้อีกมากมาย

[Konatsu · Rating 4 out of 5]

久しぶりの新書。本屋でアルバイトしながらふとレジの向こう側を見たときに目に留まった一冊。多分中高生にも読めるようにしたのかな？と思うほどに読みやすく、簡潔に書かれている。色んなレビューにも書いてあるように，確かにタイトルにあるような「読書家がたどり着ける境地」のようなことは明記されていなかったけれども、普段から本を読む人、そうでない人にも速攻使えるような読書の仕方や、読書の心構え、読書のメリットみたいなのをわかりやすくまとめてくれていて参考になったし、自分の読書習慣を見直せてよかったと思う。ずっと読もう読もうと思っていた「カラマーゾフの兄弟」が何度か出てきてちょっと興奮した。でも「なるほど」という気持ちよりも、焦る気持ちのほうが大きかったかな...あ、まだこんなにも読まなきゃいけないものがあるんだ、今までの読書の方法は間違っていたのかも、と終始考えさせられた。それが一周して開き直って、好きなものを好きな時に読んだらええねん！って思ってみたり。でもやっぱり書いてあることには納得。何かを手っ取り早く知るための読書でも、読書のための読書であっても、読書が人格をつくりあげ、より思慮深い人になるということにはとても同感。「広く深く」というのも、体系的な読書をすべきっていうのも納得。私自身、割と好きなものをランダムに読んでいたし、いるから、後になって結局「あれ？どういう話だっけ」となることが多々ある。なんの繋がりもなく適当に選書してるから全然記憶に残らないし。自分のものになったともいえない。なのですごく焦った！人生80年として、すでに1/4を生きてしまった私は、まだこんなにも読むものがある、というワクワクよりも、「『自分にはとても読みきれない』と恐怖のようなもの」を強く感じざるを得ない。その反面、ちゃんと「ワクワク」もしてる。この本を通して一番強く感じたのは、焦りよりも「もっともっと読みたい」だったから、きっとそれだけで今回の読書は有意義なものだったといえると思う。

[Ngọc Nguyễn · Rating 4 out of 5]

Cuối tuần rảnh rỗi đi đọc một chiếc sách!!!
Key của quyển sách đó là “Sâu sắc”
“Rộng và sâu luôn cùng song song tồn tại
Nếu ko rộng đến mức độ nào đó thì sẽ khó có được sự sâu sắc. Bởi vì trong các yếu tố của sự sâu sắc có sự kết nối!!!”
Để viết sách thì cần rất nhiều tài năng, nhưng để đọc sách thì ko cần những thứ đó. Hãy cứ đọc thôi, ko hẳn bạn sẽ hiểu hết và đương nhiên là bạn không nhớ được hết.
Nhưng chẳng sao!!!
Từng tầng tri thức vẫn cứ được xây đắp trong bạn.
Khi mà bạn kết nối được chúng với nhau. Bạn sẽ là một người có tri thức!!!!

[Tanan · Rating 2 out of 5]

มันย้อนแย้งตรงที่ หนังสือเล่มนี้คนมีนิสัยรักการอ่านอยู่แล้วคงไม่จำเป็นต้องอ่าน ส่วนกลุ่มเป้าหมายของหนังสืออย่างคนที่ไม่มีนิสัยรักการอ่าน ก็คงไม่หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านอยู่ดี

[Ryo · Rating 4 out of 5]

「書讀得愈多愈覺得世界充滿了趣味。即便是平常人不在乎的事物，也覺得”好有趣”。」

很少看這類標榜「自我成長」的書籍，這本標題看起來很像那種教人如何成功的書，實際讀起來卻沒有這種感覺，本書告訴我們為什麼要「閱讀」，不閱讀並不會讓你活不下去，那為什麼要推廣「閱讀」？ 尤其在這個資訊滿溢的時代，想要知道什麼只要google ，就有大量的資訊，還有時下人們最愛的、幫你統整好重點的懶人包供您選擇，為何還要花時間「閱讀」？

閱讀「懶人包」跟閱讀「書籍」，差別在哪？ 兩個都同樣都能獲取資訊，前者還省時省力。 這兩者確實有著重大的差異，在於「面對的方式」，網路上瀏覽文章通常是一篇迅速看完緊接著往下一篇前進，這種作法無法好好正視眼前的內容，容易被更有趣、更吸晴的圖文給拐走，這也是為何「注意力」在現代是稀缺能力之一。 而閱讀「書籍」，與其說是在吸收知識，不如說你正在「體驗」，我們在閱讀中對書中內容產生情感投射時的大腦狀態，和我們在體驗某件事物時的狀態很接近，這也是為什麼讀完一本書後，感覺有什麼東西滲入腦海，要過一陣子才能從那個狀態中抽離，這是閱讀網路文章不曾有過的體會。

學習如何從書本裡尋找想要的知識，我想是活在資訊充沛時代的我們必備的能力之一，當然，還有如何判斷錯誤資訊，這也很重要，不過要辨識出錯誤資訊，也得先有充實的知識，因此我們才需要閱讀，閱讀過程不僅能加深我們思考力，有效率的轉化學到的知識，更可以豐富我們的人生。

[Ottoshi Intel]

ผู้แต่งเป็นอาจารย์ เขียนเหมือนเล่าให้ฟังจากประสบการณ์การอ่านหนังสือมาเยอะ จะได้พบเจอกับอะไร อ่านเพลินๆเหมือนเรื่องสั้น ไม่ได้เป็นหนังสือ Howto ซะทีเดียว อ่��นเก็บไอเดียความคิด ในเล่มมีการแนะนำหนังสืออยู่ตลอดเล่ม ท้ายสุดแล้ว คนที่อ่านหนังสือก็จะรู้เองแหละครับว่า ก่อนจะได้เข้าใจเนื้อหา ก็คงต้องใส่ใจ มีสมาธิกับมัน ถึงจะเข้าใจเนื้อหา

การเขียนหนังสือชั้นเลิศ จำเป็นต้องใช้ความสามารถแต่สำหรับการอ่านบอกเลยว่าไม่จำเป็น

[peggy · Rating 4 out of 5]

「讀書」不單只是「讀」書，要理解、要思考。不是要成為博學的人；而是要成為深刻的人。

[book · Rating 4 out of 5]

會讓我一直重看的書

[Kirin Soponwattanakorn · Rating 4 out of 5]

เป็นหนังสือที่ให้ค่าของการอ่านหนังสือจนนำวิธีการเรียนรู้อื่นๆ แบบไม่เห็นฝุ่น หากอ่านแค่คำนำอาจรู้สึกตัดสินในใจได้ว่าใจแคบ แต่จริงๆ แล้วเราว่าไม่ใช่แบบนั้น

ผู้เขียนเน้นเรื่องการอ่านวรรณกรรมและงานคลาสสิกเป็นหลัก โดยชูประโยชน์ว่าการอ่านทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างลึกซึ้งขึ้น รวมถึงการอ่านให้กว้างและลึกขึ้น และการลองอ่านหนังสือขายดีรวมถึงศาสตร์อื่นๆ ที่เราไ่มาเคยรู้ด้วย เรียกว่าเป็นการทำให้โลกการอ่านจองเรากว้างและลึกขึ้นไปอีก ซึ่งเราก็ชอบ และตัวอย่างหนังสือในเล่มก็ค่อนข้างน่าสนใจ ติดที่เป็นนักเขียนญี่ปุ่นเยอะไปหน่อย อ่านตามไม่น่าจะได้เพราะอ่านญี่ปุ่นไม่ออก

จริงๆ แล้ว เราสามารถนำ how to และทัศนคติในการเรียนรู้ของผู้เขียนในเล่มไปใช้กับ media อื่นๆ ได้ทั้งสิ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านแบบคาดเดา ซึ่งก็เอาไปใช้กับหนังได้ หรือแม้กระทั่งการอ่านอย่างมีอารมณ์ร่วม ตบมุกไปกับหนังสือ หรือการเลือกประโยคที่ชอบจากหนังสือมา 3 ประโยค รวมถึงการนำเรื่องหนังสือไปพูดคุยต่อ ส่วนตัวเรามองหนังสือเป็นเพียง 1 media คนเราจะลึกซึ้งได้ไม่จำเป็นต้องมาจากการเสพ media ใด media หนึ่งเป็นพิเศษ แต่ก็เข้าใจผู้เขียนได้เพราะการอ่านเป็นวิธีหลักในการเข้าถึง empathy และความลึกซึ้งในมิติต่างๆ ของชีวิตของผู้เขียนเอง เมื่อเรามองว่าเป็นการแบ่งปันจากผู้เขียน ไม่ใช่ how to ที่เป็น absolute truth แต่อย่างใด ก็ทำให้รู้สึกว่าอ่านสนุกขึ้น เหมือนได้รู้จักนักอ่านเพิ่มขึ้นอีก 1 คน เพราะในโลกนักอ่าน ไม่ค่อยมีคนมาแบ่งปันวิธีการอ่านหนังสือกันซักเท่าไหร่ และส่วนใหญ่จะเน้นอ่านแนวใดแนวหนึ่ง และแบ่งปันกันเฉพาะเรื่องที่อ่านซะมากกว่า

ส่วนตัวเป็นคนให้ค่าความลึกซึ้งและความรู้เช่นกัน ถูกจริตกับประโยคที่ว่า 'บางครั้งคนรวยก็แค่คนที่ชนะเกมทุนนิยมเท่านั้น' เป็นพิเศษ และประโยคที่ว่า 'ความรู้เพิ่มขึ้นได้เหมือนกับการแบ่งเซลล์' ก็เป็นกำลังใจที่ดีทีเดียวสำหรับผู้ที่อ่านเพื่อเพิ่มพูนทักษะ

กำลังย้อนกลับไปอ่านงานคลาสสิก ไม่รู้จะเริ่มที่ไหน เล่มนี้ก็ให้ไอเดียไว้ได้โอเคทีเดียว : )

[Ari · Rating 5 out of 5]

This is truly a valuable and meaningful book! For most people, one would pick up the idea and motivation to read more, read deeper, and with time, read faster. For me (it’s probably different for other people), it’s unique as it reminded me to learn to feel my readings more. It’s like learning from a fellow fast and broad reader the art of slowing down to enjoy at a different pace.

I have always been an avid and voracious book reader who enjoys reading a wide range of topics. Even so, there are still so much I picked up out of learning to appreciate the art of reading through the teachings in this book. I have started to slow down and immerse myself to feel more during my reading. It brought me to a different level of enjoyment.

This book was originally written in Japanese. I read it in Chinese, and my review in English. I wish they can translate this book to more languages. I think for sure we know: reading can transcend the boundary of languages.

[Châm · Rating 3 out of 5]

Mình đọc vì tò mò muốn biết cái nơi đó mình đã chạm tới chưa :)))) Chủ yếu cuốn này khuyến khích mọi người đọc nhiều hơn, sự lợi ích của việc đọc fiction, cách đọc sách thế nào cho hiệu quả, và giới thiệu các sách để mọi người đọc
Nói chung cũng k quá mới mẻ, có mấy chỗ tác giả phân tích hơi nhiều về một cuốn văn học Nhật nào đó, vì chưa từng đọc qua nên mình skip khá nhiều. Ảnh có nhắc đến Dazai Osamu, mình search thử thấy VN cũng xuất bản mấy cuốn r, thấy cg được nhiều ng khen, mình sẽ tìm đọc, hy dọng k phải là Haruki2 :))))

[อยากอ่าน · Rating 3 out of 5]

ผู้เขียนบอกว่า "ตอนนี้แหละที่เราควรหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน"
ก็คงจะเป็นการพูดในตอนที่เรากำลังคิดว่าจะอ่านตอนไหนสินะ (ฮา)

สำหรับผู้ที่พึ่งจะเริ่มอ่านหนังสือ จะได้รับกำลังใจในการอ่านเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะมีหลายประโยคที่ปลอบประโลมเหล่านักเริ่มอ่าน

มีการขยายความประโยคที่ยกมาได้อย่างน่าสนใจ การถ่ายทอดความรู้สึกชอบหนังสือออกมาในรูปของการเชิญชวน และการแนะนำวิธีอ่านในเล่มให้ความรู้สึกที่ดี แต่ไม่ชอบประโยคเปรียบเทียบที่ว่า ซื้อหนังสือมาไม่ได้อ่านดีกว่าซื้อสิ่งของอย่างอื่นมาแล้วไม่ได้ใช้ เพราะเราคิดว่ามันก็เหมือนกัน ถึงชอบคนละสิ่งแต่ซื้อมาไม่ได้ใช้ก็ตีเป็นของสะสม

[ShimMin · Rating 4 out of 5]

- giống 1 bài văn nghị luận về sách ghê (sách cũng hơi buồn ngủ)
- giành cho những người đọc muốn tiều hiểu cách đọc sách, đọc như thế nào thì tốt hơn, đọc như thế nào thì tiếp thu được tốt hơn
“ E= m* c2. Đây là phương trình cho thấy chỉ cần một khối lượng nhỏ cũng bao gồm trong đó một năng lượng lớn”
“Nếu một chủ đề mà đọc năm cuốn thì đó là “hạng A””
- cơ mà tác giả giới thiệu nhiều sách tác giả Nhật quá 👎 (thì bác Saito là người Nhật mà :))))))
- các chương sau, bác đều có 1 đoạn dài, kể các cuốn sách nên đọc, tóm tắt lý do nên đọc nhưng hầu hết vẫn là các sách tác giả Nhật nhé 😅😅
=> lâu lâu tớ sẽ lật random để đọc lại 🤪

[Meena Narag · Rating 5 out of 5]

ฉันได้ทั้งประโยชน์และแรงบันดาลใจในการเป็นนักอ่านในคราวเดียว เนื้อหาของหนังสือเน้นเรื่องแนวคิดในการอ่านหนังสือ แนะนำวิธีอ่านหนังสือแต่ละแบบ และแนะนำหนังสือที่ควรจะอ่านเพื่อให้ผู้อ่านมีความรู้และวิสัยทัศน์ที่ล้ำลึกยิ่งขึ้น ช่วยให้เราเข้าใจงานเขียนของนักเขียนดังๆมากยิ่งขึ้น และอยากอ่านงานเขียนยากๆให้ได้ ฉันชอบหนังสือเล่มนี้จริงๆ

[Hang Nguyen thi diem · Rating 5 out of 5]

Cuốn sách giúp người đọc sách hiểu được giá trị của việc đọc và cách đọc mang lại nhiều giá trị cho bản thân người đọc sách. Khi đọc cuốn sách này, ta có thể biết tại sao những cuốn sách "khó đọc" lại có nhiều giá trị đến vậy, và cũng biết cách tự rèn luyện việc đọc của mình, cải thiện và biến việc đọc thành một điều hữu ích còn đọng lại.

[Biminator · Rating 2 out of 5]

เหมาะกับคนที่ชอบอ่านหนังสือย่อยง่ายๆ พึ่งเริ่มอ่านหนังสือ

อ่านได้แค่ส่วนนึงรู้สึกเบื่อ หนังสือแค่บอกประโยชน์ของการอ่าน คนที่อ่านหนังสือมาซักหน่อยก็รู้ๆ กันอยู่ ไว้เดี๋ยวอ่านจบมาแก้รีวิว ไปอ่านงานฝรั่งแบบพวก how to read, how to read literature like a professor ดีกว่าถ้าใครอ่านมาเยอะๆ แล้ว

[Ocean · Rating 1 out of 5]

テーマはとても良いが、内容が物足りないと感じる。
読書しない人に、読書を勧めるために読んでもらうなら説得力が欠けている。一方、すでに読書する人間には、特に中身が濃い内容もないと思う。

[Chaipat Choo · Rating 3 out of 5]

โดยรวมพอใช้ .... เรื่องส่วนใหญ่คนอ่านหนังสือที่อ่านเล่มนี้ก็รู้อยู่แล้วครับ อ่านเพลินๆ ไม่ชอบส่วนที่ยกตัวอย่างแนะนำหนังสือ เปลืองกระดาษสุดๆ

[Krisada Visoodsak · Rating 4 out of 5]

มีอีกหลายมุมที่อ่านหนังสือแล้วให้เห็นว่า โลกกว้างขึ้น
และได้ไปหาหนังสือมาอ่านต่ออีก. กองเก่ายังไม่หมดเลย

[Thao Nguyen · Rating 3 out of 5]

内容は割と薄め。感想文や作者と会話しながら読むとかはよくあるアドバイスで、
すでに常に読書に取り組んでいる私にはあまり役に立たない感じがします。
良い点としては、おすすめ本の一覧から読みたい本を何冊か見つかって意外と良かったです。

（ちなみに作者は「東大王」の漢字コーナーでよく登場する人物だということを読み終えた後気づいた）

[Wachirawit Rakchai · Rating 2 out of 5]

Nah, I think it's okay for some part of it, not that good though