Jump to ratings and reviews
Rate this book

ค่อยๆ รัก 1

Rate this book
ทุกอย่างเริ่มขึ้นจากเฉาก๊วยหกใส่รองเท้า
วันนั้นถ้าพัทไม่เผอิญซุ่มซ่าม พะรุงพะรังด้วยสารพัดของกินที่รุ่นพี่ในแผนกฝากซื้อ
เขาก็คงไม่พบคนใจดีที่ไม่ถือโทษโกรธเขา
แต่ความประทับใจดีๆ กลับกลายเป็นความเหม็นขี้หน้า
เมื่อผู้ชายคนนั้นก้าวเข้ามาในฐานะบอสจอมโหด จิกทุกเม็ด เก็บทุกงานแห่งย่านเพลินจิต

เจ๋งแค่เป็นเพอร์เฟกชันนิสต์
ในฐานะผู้จัดการเขาต้องผลักดันลูกน้องที่มีศักยภาพ และเผอิญพัทมีสิ่งที่ว่า
เป็นความหวังดีล้วนๆ ที่สักพักเจือปนด้วยความเอ็นดู
รู้ตัวอีกทีก็ก้าวพรวดเข้าไปในความสัมพันธ์ต้องห้ามของหัวหน้าและลูกน้องเสียแล้ว

น้องหันกลับมา เขาก็ยังไม่ละสายตาไปไหน
พัทที่อยู่ภายใต้แสงไฟนี้ บรรยากาศแบบนี้ ถ้าเขาไม่เคยรู้จักและได้ผ่านมาเห็นก็คงถูกใจไม่น้อย
แต่ก็คงจะแค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ถ้าได้รู้จักกันแค่ผิวเผิน ก็คงไม่มีความหมายกับใจจนไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไปขนาดนี้

744 pages, Paperback

Published October 27, 2021

16 people are currently reading
255 people want to read

About the author

summer december

6 books20 followers

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
42 (68%)
4 stars
15 (24%)
3 stars
3 (4%)
2 stars
0 (0%)
1 star
1 (1%)
Displaying 1 - 12 of 12 reviews
Profile Image for YuzuChu.
290 reviews15 followers
November 30, 2025
ขอรีวิวแค่เล่ม 1 เพราะอ่านอีก 2 เล่มไม่ทัน ฉันยืมมาจ้ะ555

ก็ว่าจะอ่านให้จบแหละ ฉันก็เป็นคนไม่ชอบะไรค้างคา แต่เล่ม 1 คือหาวแล้วหาวอีก เอาจริงฉันโคตรชอบ Slice Of Life เลยนะ แต่เรื่องนี้มันเป็นชีวิตประจำวันแบบ ชนชั้นกลางฐานะร่ำรวยในกรุงเทพอะ เก็ตป้ะ555 คือถึงเขาจะบอกว่าพระเอกถึงจะจบโทเมืองนอก แต่ก็ยังไม่มีประสบการณ์มากมาย ก็ถือว่าเป็นเด็กใหม่เหมือนกัน เงินเดือนประมาณ 20,000 ต้น ๆ ผ่านโปรได้เพิ่มอีก 3,000 ทีคือพัทหูผึ่งอะ นักเขียนจะ 'พยายาม' บรรยายว่าพัทมีความประหยัดนิดนึง เสียดายเงินอยู่บ้างตามประสาหนุ่มออฟฟิศ ไม่อยากเรียก Grab เพราะแอบแพง มีความสุขเวลาเก้บแต้มแลกกาแฟฟรีครบ

แต่พูดตามตรง ฉันไม่เชื่อเลยว่านายคนนี้คือชนชั้นกลางอะ คนรวยชัด ๆ พ่อก็อยู่เมืองนอก ตัวเองก็จบนอก แล้วภาษาในเรื่องนอกจากไทย อีสาน วิบัติ กะเทย ภาษาส่วนใหญ่ของเล่มนี้คือภาษาอังกฤษ แม้กระทั่งแชทบริษัททุกคนก็ยังคุยเป็นภาษาอังกฤษ ใครอยู่สังคมหนุ่มสาวออฟฟิศในกทม. ก็คงชอบและอินได้ไม่ยากค่ะ จริง ๆ นะ ใครอยู่สังคมนั้นคง relate กับทุกตัวละครในเรื่องนี้อะ ส่วนฉันไม่ได้อยู่ในสังคมนี้ และก็ยังไม่มีอะไรโน้มน้าวใจให้อินหรือเอาใจช่วยได้ ก็เลยอ่านแบบเนือย ๆ พอให้จบ ๆ ไปค่ะ

และคนรอบตัวญาติพี่น้องคือโห แต่ละคนรวยแบบตะโกน จะต้องมีชื่อแบรนด์ ชื้อน้ำแบรนด์ดัง ทุกอย่างจะต้องถูกเอ่ยชื่อในเล่มนี้ แล้วมียี่ห้อทั้งนั้น บางทีอาหารที่พัทอยากกินนี่ก็โห ชนชั้นกลางคนละระดับละ ฉันก็เลยไม่ค่อย relate กับนายคนนี้หรีอรู้สึกเอ็นดูเป็นมัมหมีเท่าไหร่ ไม่รู้สึกอะไรกับพัทเลยแหละ แต่จบเล่ม 1 คุณเจ๋งสารภาพในใจละว่าชอบความสดใสของพัท

ไม่รู้อะ คุณเจ๋งจะชอบก็ชอบไปเหอะ ฉันไม่ชอบพัท ไม่รู้ทำไม เพราะนิสัยและอีโก้พี่แกในเล่มแรกมั้ง555 ก็มาบ่น ๆ อยากโชว์ฝีมือ หัวหน้าจับมือทำทำไม พอโดนชมทีก็เหมือนเหลิง ทำตัวไม่น่ารักในสายตาฉันไงไม่รู้ คือก็คงมีพัฒนาการแหละ เพราะกว่าคู่นี้จะแต่งงานกัน เหมือนพัทจะ 30 ละ (เล่มนี้พัทอายุ 24 ย่าง 25) จบใหม่มันก็ประมาณนี้แหละเนอะ ลูกเจี๊ยบเพิ่งเผชิญโลกกว้าง ก็จะมีความคิดว่าเราเก่งกล้าสามารถกว่าหัวหน้านิดนึง

แล้วนักเขียนยังบรรยายความน่ารักของพัทที่พยายามโน้มน้าวให้คนอ่านรู้สึกแบบนั้นไม่ได้ด้วยแหละ คือเล่มนี้จะมีแค่ฉากบอกเล่าผ่าน ๆ มาพัทชวนคนแก่คุย เฟรนด์ลี่ แต่ก็ไม่ได้มีซีนที่นักเขียนจูงมือคนอ่านไปนั่งฟังบทสนทนานั้นเพื่อซึมซับถึงความน่ารักของพัทอะ พอแค่บอกด้วยตัวอักษร ฉันก็ไม่อินไง

แต่เขาเขียนคาร์แรคเตอร์คุณเจ๋งได้ play safe ดีนะ แบบ อ่านแล้วรู้เลยอะว่าเผื่อเหลือความดีงามไว้ให้คนอ่านรัก บรรยายว่าดุแต่ก็ไม่ดุขนาดนั้นอะ ใจดีด้วยซ้ำ หัวหน้าผู้ชาย+หัวหน้าผู้หญิงด่าฉันแรงกว่านี้เป็นล้านเท่า อันนี้ที่พัทร้องไห้คือเบา ๆ มาก ไม่แรง ไม่เจ็บ ไม่อะไรเลย ก็เลยอ่านซีนพัทร้องไห้แล้วก็อือ ๆ ชีวิตเศร้าเนอะ

อันที่จริงพูดงี้ก็อาจดูใจร้ายไปหน่อย แต่ลองแอบเปิดเล่ม 3 ไปอ่าน Talk นักเขียนแล้วร้องอ๋อเลย จบเอกฟิล์มนี่เอง ก็ว่าอยู่ทำไมการบรรยายบางฉากถึงดูไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมหรือเล่นซีนอารมณ์เท่าไหร่ ที่แท้ก็เรียนสายที่เน้นสื่อทุกอย่างด้วยภาพและการเคลื่อนไหวนี่เอง เข้าใจได้เลยค่ะว่าทำไมถึงได้ดูขาด ๆ ในส่วนการบรรยาย สีหน้าท่าทาง และลักษณะหน้าตาของตัวละคร คือฉันนึกภาพหน้าตาออกแค่เจ๋งกับพัทนะ เพราะรูปบนปกด้วย แต่คนอื่น ๆ คือแทบไม่มีจุดเด่นอะ มีแต่บทพูด มีแค่บอกชื่อ ตัวละครเหล่านี้เลยเป็นหน้าตัวละครเปล่า ๆ โล้น ๆ ในหัวฉันเลย เขาแทบไม่บรรยายอะ คุณบรรยายเพิ่มได้นะคะ บอกเล่าท่าทาง ความคิด กิริยา มันสัมพันธ์กันในบทบรรยายกว่านี้ได้ แล้วจะช่วยดึงความขำขัน ความเขิน และความตื่นเต้นออกมาจากซีนนั้นได้ค่ะ

ดังนั้นพออ่าน Talk จบปุ๊บเราก็ว่าขอพอแค่เล่ม 1 ดีกว่า ถ้าเล่มแรกยังทำให้ฉันอยากติดตามหรือถูกใจอะไรเป็นพิเศษไม่ได้ ฉันก็ไม่อยากฝืนอะ ก็พอจะเดาคะแนนได้ว่ายังไงก็อาจจะ 3 ดาวทั้งเซ็ตแน่ ๆ

คือลึก ๆ ฉันก็แอบคิดว่าคาร์แรคเตอร์ดูขัดกันอะ พัทจะบ่นค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำไมในเมื่อคนรอบตัวเธอเข้าขั้นโคตรรวย ไปสังสรรค์ที เที่ยวทีคือโห คือก็เกริ่นมาแต่แรกก็ได้ว่าบ้านพอมีตังค์ หนูไม่ต้องมามีซีนประหยัดอดออมให้ป้าเห็นหรอกลูก ไม่เป็นไร ใช้เงินให้เต็มที่เถอะนะ555

ส่งท้าย เอาจริงฉันอาจจะอ่านเล่มนี้ช้าไป ถ้าได้อ่านตั้งแต่เพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ อาจจะโคตรชอบเลยแหละ แต่พอมาอ่านตอนกร้านโลกแล้วมันเลยได้อารมณ์อีกแบบนึงไป555
Profile Image for addie.
899 reviews59 followers
November 4, 2021
(4/5) เป็นเรื่องของพัท เด็กจบนอกที่เข้ามาทำงานในบริษัทเจียนกรุ๊ป ต้องฝ่าฟันกลับปัญหามากมายจากบรรดาเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในวัฒนธรรมแบบไทยๆ แล้วก็มีเจ้านายคนใหม่หรือคุณเจ๋ง หรือที่พัทบรรยายว่าเป็นเต้าหู้แกะสลักนั้นก็เพิ่งเข้ามาเป็นเมเนเจอร์คนใหม่ในแผนก Marketing Com ซึ่งพัทก็มี first impression ที่ไม่ดีด้วยการทำเฉาก๊วยหกใส่หัวหน้าตัวเองตั้งแต่วันแรก ด้วยความที่เจ๋งเป็นหัวหน้ามือใหม่ก็นั่นแหละค่า ทำตัวดุ micromanage ไหนจะหลักการ work life integration แต่เราก็จะได้เห็นพัฒนาการของทั้งสองตัวละครในแง่ของการทำงาน การเป็นเจ้านายที่ดีขึ้นของเจ๋งและเป็นคนในทีมที่เก่งขึ้นของพัท ผ่านการทำงานของโปรเจค digital marketing ของ ‘ฟอร์จ’ ปั๊มน้ำมันที่มีสาขาทั่วไทย

โดยรวมเราว่าก็สนุกดีนะ คนเขียนแสดงให้เห็น character development ค่อนข้างชัดเจน คาแรคเตอร์ของเจ๋งและพัทน่ารักและ very freshed out พลอตไม่มีอะไรเท่าไหร่ ออกแนว slice of life อ่านไปเรื่อยๆ

จุดที่หักคะแนนคือเรารู้สึกว่ารายละเอียดการทำงานมันเยอะไปและอ่านไม่ค่อยเข้าใจ อาจจะเพราะอยู่ห่างจากวงการนี้มาก (แต่เอาจริงก็เคยทำมาบ้างนะ) แต่อ่านอันนี้แล้วบางส่วนคือยาวเป็นพรืด เข้าใจว่าคนเขียนอยากจะทำให้เรื่องออกมาเรียลและสมจริง แต่บางพาร์ทเราอ่านแล้วแอบเบื่อ แล้วก็สไตล์การเขียนของคนเขียนจะมีบางฉากที่ตัดไปมาระหว่างปัจจุบันกับอดีต ซึ่งอ่านแล้วก็งงๆว่าสรุปลำดับเหตุการณ์มันเป็นยังไง

โดยรวมชอบนะ ถ้าใครชอบอ่านเรื่องคุณผู้ช่วยสถาปนิกน่าจะชอบอ่านเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวยังชอบกู้กงมากกว่าเรื่องนี้
Profile Image for Muffy.
34 reviews4 followers
November 8, 2021
*4.75/5*

ส่วนที่ชอบ
มองว่าตัวเองสามารถ relate กับเรื่องนี้ได้ค่อนข้างมากเลย แต่ไม่ใช่ในแง่ชีวิตมนุษย์เงินเดือน เพราะยังไม่ถึงจุดนั้น 555555 แต่เป็นแง่ของความรู้สึกและสถานการณ์ที่คล้ายกับที่ส่วนตัวกำลังเผชิญอยู่ ;-; แถมยังเป็นด้านสายที่ตัวเองเรียนอยู่ด้วยอีก เวลาคุณเจ๋งคอมเม้นไรมาคือหนูก็โดนมาเกือบหมดแล้ว (โดยเฉพาะเรื่องสไลด์) 5555555 เด็กมาร์เก็ตติ้งอาจจะชอบ(?) ได้นั่งคิดแก้เคสไปพร้อมกับทีมฟอร์จ สรุปปวดหัวกว่าเดิม แงง555555

ที่ชอบที่สุดเลยคือ ความสัมพันธ์ในเรื่อง สมชื่อ “ค่อย ๆ รัก” มันเร���่มจากมีเส้นแบ่งลูกน้องกับหัวหน้าที่ชัดเจนมาก บวกกับวัฒนธรรมการทำงานของไทย อ่านช่วงแรกยังเกร็งคุณเจ๋งตามพัทเลย และการที่เรื่องดำเนินไปเรื่อย ๆ ให้เห็นความสัมพันธ์ที่มันค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป มันทำให้ค่อย ๆ ซึมซับไปกับความสัมพันธ์ของตัวละคร มันทำให้เราชอบจุดนี้มาก เหมือนได้เห็นคนสองคนในชีวิตจริงเรียนรู้กัน

มันไม่ใช่แค่ได้เห็นมุมของพัทที่เป็นเด็กจบใหม่แล้วต้องปรับตัวกับที่ทำงาน แต่ได้เห็นมุมคุณเจ๋งที่ต้องมาบริหารคน character development ดีมาก ๆ การที่ทั้งสองฝ่ายช่วยให้ต่างฝ่ายพัฒนาตัวเอง อ่านเรื่องนี้แล้วได้แง่คิดด้านการทำงานเยอะมาก อยากซื้ออีบุ๊คเก็บไว้อ่าน เตรียมรับมือกับวันไหนที่รู้สึกเฟลในที่ทำงาน 🙈

คาแรคเตอร์ทุกคนในเรื่องมีมิติมากกก ทุกตัวละครช่วยเติมสีสันให้เรื่องได้ลงตัวสุด ส่วนตัวชอบน้องจ๊าบเป็นพิเศษ

ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง แต่ชอบการบรรยายอาหารในเรื่องมาก หิวค่ะ 555555

สุดท้ายนี้ หนูชอบคุณเจ๋งนะคะ ฉลาด ทำงานเก่ง หน้าตาดี รักครอบครัว รักสุขภาพ รักเด็ก ทำอาหารเป็น ทำงานบ้านเก่ง แล้วก็รวยมาก อ่านแล้วสเปคสูงปี๊ดดด ((คุณเจ๋งมีบนโลกนี้มั้ยคะ อยากได้แบบนี้ 555555))

ส่วนที่หักคะแนน
เข้าใจว่ารายละเอียดการทำงานจำเป็นต้องเล่าเพราะส่งผลกับการดำเนินเรื่อง แต่บางครั้งมันก็แอบตามไม่ค่อยทัน เพราะมันเยอะแล้วหนักไปหน่อย เลยมีช่วงที่เบื่อ ๆ อยู่
Profile Image for Miki.
347 reviews
March 16, 2023
ชีวิตของคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน กำลังอยุ่ในช่วงปรับตัว อะไรก็ไม่เป็นแบบที่คิดไว้ วาดไว้ แอบรู้สึกนิดหน่อยว่าพัทเองก็แอบตัดสินเจ้านาย แบบเดียวกับที่ตัวเองไม่ชอบให้เจ้านายตัดสิน ระบบการทำงานของไทยไม่เอื้ออำนวยต่อแนวคิดแบบของพัทเท่าไหร่ แต่พัทโชคดีมากจริงๆ อีกข้อที่ติดน่าจะเป็นเพราะการใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษสลับกับทับศัพท์ ชวนเวียนหัวอยู่นิดหน่อยกับคนที่ไม่ได้คุ้นชินภาษา
8 reviews1 follower
November 29, 2021
เป็นเล่มแรกจาก 3 เล่มของนิยายเรื่องนี้ สิ่งที่ชอบมาก ๆ ก็คือ
1. บรรยากาศในการทำงาน สำหรับเราชอบมากที่ผู้เขียนใส่รายละเอียดไว้อย่างจุใจ ได้เห็นภาพการทำงานว่า Marketing แบบ Digital มีอะไรบ้าง เราเลยชอบที่นอกจากจะได้ความบันเทิงจากการอ่านแล้วยังเป็นการเปิดโลกให้รู้ไปด้วยว่าสายงานแบบนี้ทำอะไรบ้าง
2. พัท เป็นคาแรคเตอร์ที่น่าเอาใจช่วยมาก ๆ มีหลาย ๆ แง่มุมอยู่ในตัวละคร มีทั้งมุมที่ฉลาด มุมที่กล้าไม่ยอมคน มุมที่ลังเล มุมที่อ่อนแอ มันเลยกลายเป็นตัวละครที่มีความน่าสนใจและทำให้อยากจะลุ้นไปตลอดทาง
3. เจ๋ง ตัวละครหลักที่เปิดมาแบบแข็งแกร่ง ก่อนจะค่อย ๆ ลอกเปลือกออกมาให้เห็นความดีงามที่ซ่อนอยู่ภายใน ความโก๊ะ ๆ เปิ่น ๆ ของเจ๋งเป็นอะไรที่น่าเอ็นดูจริง ๆ แล้วชอบความสัมพันธ์ของเจ๋งกับจ๊าบที่รับมุกกันตลอด
4. การตีแผ่แง่มุมต่าง ๆ ทั้งในสังคมการทำงานหรือการใช้ชีวิตที่สอดแทรกมาในเรื่อง ชอบที่ไม่ stereotype หลายสิ่งหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่อง Toxic Masculinity ซึ่งน่าจะยังเป็นสิ่งที่คนในสังคมไม่ค่อยตระหนักเท่าไหร่ ดีใจที่ผู้เขียนได้ใส่รายละเอียดตรงนี้เข้ามา
5. พัฒนาการด้านความรัก ก็ค่อย ๆ รัก สมชื่อ เราชอบตรงที่นิยามความรักของเรื่องนี้คือหลาย ๆ องค์ประกอบมันรวมกัน ความรักไม่ใช่แค่ว่าเจอเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งแล้วเกิดความรู้สึกนั้นขึ้นมา แต่มันคือสิ่งที่ค่อย ๆ หลอมจนรู้สึกเต็มอิ่มในใจ นิยายเรื่องนี้คือทำให้เห็นในส่วนนี้ชัดเจน
Profile Image for naviyada.
92 reviews4 followers
July 19, 2023
ชอบมาก เป็นเนื้อหาที่ merge กับการทำงานแบบจุกๆ
สิ่งแรกเลยพอเราอ่านจบเล่มแรก เรารู้สึกว่า มีไฟในการทำงาน มีแรงพุชตัวเองให้ทำดีขึ้นไปได้อีก
และมีภูมิต้านทานกับ toxic ในที่ทำงานมากขึ้น (นี่ฉันอ่านหนังสือ how to อยู่รึเปล่านะ 55555)

ตอนท้ายๆ เล่ม เอ็นดูคุณเจ๋งเค้านะ 5555 ชอบอะ วามเป็นเมเน ใหญ่กว่าน้องพัท แต่เรื่องหัวใจนี่ก็ ไม่มีการบังคับเอาแต่ใจใดๆ น้องพัททำให้คุณเจ๋งไม่มั่นใจ และพฤติกรรมแปลกๆ ที่ไม่เคยเจอ อ๊อยยย 5555

ข้อติงมีนิดเดียว คือด้วยความที่มันเล่าแบบ slice of life มันเลยเรื่อยๆ เอื่อยๆ เหมือนเรานั่งดูชีวิตคนกลุ่มนึงไปเรื่อยๆ มันเลยไม่กระชับ แบบไม่ได้มีคีย์ซีนอยู่ในทุกเหตุการณ์ ถ้าจะอ่านจริงจังแบบทุกตัวอักษร อาจจะต้องใช้เวลาเดือนนึงในการอ่านจบ 3 เล่ม

สรุปรวมแล้วก็สนุกดี แบบค่อยๆ รัก ค่อยๆ เดินเรื่อยมาก
Profile Image for MT.
638 reviews82 followers
Read
January 21, 2023
- dnf
- ชอบความanti-yaoiของมันมากๆ เพราะนิยายทั้งเรื่องไม่มีขายฟิน จิ้นวายเลยตลอดสองร้อยกว่าหน้าเท่าที่เราอ่าน ทั้งเรื่องนายเอกกับพระเอกคือมีแต่การทำงาน ทำงาน ทำงาน ปสด ปสด ทำงาน เป็นผีบ้า ทำงาน ทำงาน ทุกคนปล่อยnegative energyใส่กันตลอดเวลาก่อนจะไปทำงาน โครตชอบแบบชอบชหเลย นิอาจเป็นนิยายที่เรื่องแรกในชีวิตเลยมั้งที่แบบมันทำแต่งาน 555
- แต่ที่อ่านไม่จบเพราะมันยืดมาก อืดมาก ทุกอย่างถูกเล่ามาแบบoffbeatมากๆในระดับที่ถ้าเราเอาอารมณ์ออกไปให้หมดมันจะกลายเป็นหนังแบบLav Diazหรือไม่ก็หนังแบบJeann Dielmanแล้วอะ คือถึงเราจะชอบนิยาย แต่มันดูดพลังในการอ่านหนักหนามาก ถือเป็นนิยายปราบเซียนอีกเรื่องนึงที่ได้อ่านเทียบเคียงกับThe Golden NotebookและUlyssesเลยนะ เฮ้อ เราอาจจะต้องมาเจอกันใหม่ในภายหน้า ซียู
Profile Image for Pusanisa Buranawanich.
54 reviews1 follower
May 8, 2023
4.5/5
แนวslowburn&วัยทำงานที่ชั้นชอบบ🥹🥹🥹
มีความคล้ายกู้กงอยู่บางส่วน แต่เรื่องนี้ช่วงต้นๆเรื่องหนักเรื่องเนื้อหางานมากก ค่อยมาเบาช่วงหลัง ชอบคสพแบบเรื่อยๆ ได้เห็นcharacter development ชอบที่แรกๆคุณเจ๋งดุ เพราะเหมือนยังไม่เคยทำงานเป็นหัวหน้าคนไม่รู้จะวางตัวหรือพูดจายังไงทั้งๆที่เนื้อแท้แล้วก็เป็นคนใจดี หลังจากที่รับฟีดแบคจากพัทก็ค่อยๆปรับ
ปล.1 ชอบที่คุณเจ๋งพูด’ครับ’มากก&คุณเจ๋งช่วงท้ายเรื่องนรม้ากก🥺🥺
ปล.2 หักคะแนนนิดหน่อยตรงช่วงแรกๆที่เดี๋ยวพูดไทยคำอิ้งคำ เข้าใจว่าตัวละครจบนอก&บางคำเป็นศัพท์เฉพาะ แต่บางคำสามารถแปลเป็นไทยเพื่อให้เวลาอ่านลื่นไหลมากกว่านี้ได้&งงว่าทำไมบางช่วงที่คุยอิ้งเดี๋ยวแปลไทยเดี๋ยวไม่แปล ช่วงที่ไม่แปลถ้าคนไม่ถนัดอิ้งมาอ่านน่าจะไม่รู้เรื่องได้
Profile Image for 🎵.
36 reviews
March 22, 2025
เข้าใ���แล้วว่าทำไมใครหลายคนยกเรื่องนี้ขึ้นหิ้ง ถึงจะเพิ่งจบแค่อ่านเล่มแรก แต่ก็กล้าพูดได้เต็มปากว่าเป็นนิยาย slice of life/slow burn สำหรับวัยทำงานที่ดีที่สุดที่เคยอ่านมา *spoiler alert* หน้า 602 พัทถูก referred to as ‘น้อง‘ ใน pov ของคุณเจ๋งเป็นครั้งแรก ฉันนอนกรี๊ดตลบอยู่หลายนาที … และหลังจากนั้นก็ได้เห็นคำว่า น้อง ผ่านตาเรื่อย ๆ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมานอนเสียอาการกับอะไรที่เล็กน้อยขนาดนี้เลย
Profile Image for Daebaek.
45 reviews1 follower
April 7, 2022
สนุกมากๆๆ ใครที่ชอบแนว slice of life , slow burn บวกกับชอบอ่านเกี่ยวกับการทำงานต่างๆต้องไม่พลาดเจ๋งพัทนะ ถึงจะเน้นทำงานเป็นส่วนมากแต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ ตัวละครมีความพัฒนาเสมอๆ เจ๋งจากที่เป็นหัวหน้าปากร้ายก็ปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นอภิชาติสามีของเราเอง เย่🥰
Profile Image for Bunnyb.
586 reviews19 followers
April 21, 2022
ให้ 3 ดาวคือโอเค แต่ไม่ได้ชอบ
อาจจะเพราะไม่ใช่แนว
ไม่ค่อยอินกับไลฟ์สไตล์ของพัทเท่าไหร่
แต่นักเขียนเขียนเรื่องได้ละเอียดมาก
เล่มหนามาก
This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for jellynsummer.
30 reviews
June 14, 2023
Before reading this novel I have no idea about Marketing. But this first part, N'Pat absolutely hooked my career perspective. And not gonna lie I'm currently interested in Digital marketing coordinator. The heartbreaking part for me I wound say the scene that K'Jeng said " โพรไฟล์ดีนะครับ ผมคาดหวังอย่างมากมากว่าคุณจะเข้ามาที่นี่เพื่อทำมากกว่าแค่ถ่ายเอกสาร เสียดาย potential" swear to god if in the very near future ถ้าเราเป็นอินเทิร์นแล้วถูกคอมเมนต์มาแบบนี้ เราจะไปร้องไห้โฮในห้องน้ำแน่นอนค่ะ TT แต่ก็คงต้องทำเหมือนน้องพัท ร้องไห้เสร็จแล้วยังไงต่อ ก็ทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง

อีกพาร์ทที่เราชอบคือพาร์ทที่ป๊าธเนศให้กำลังใจน้องพัทตามด้วยลงชื่อตัวเองทุกครั้ง ส่วนตัวเราอ่านบทนั้นแล้วน้ำตาซึมไปเลย เหมือนโดนผู้ใหญ่ใจดีซักคนตบบ่าให้กำลังใจเรียนต่อเลยค่ะ คุณเม่อเก่งมากๆ และตัวละครของป๊าก้อบอุ่นมากจริงๆ ค่ะ

ส่วนตัวได้คำแนะนำจากคุณเจ๋งมาหลายเรื่องมากๆ ในเล่มนี้ ทั้งความรู้ด้านการตลาด, ทำpresentation ให้ดู professional, กล้าปฏิเสธ กล้า speak up, etc.
Displaying 1 - 12 of 12 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.