Tuitui Liw157 reviews7 followersFollowFollowJuly 27, 2022เล่มนี้เป็นภาคต่อของเล่มแรก วิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน (เล่มสีฟ้าขนาด Pocket Book)เล่มแรกเหมือนเป็นไบเบิ้ล Cheat Sheet ให้คนทำธุรกิจ ส่วนเล่มนี้ก็จะไม่ได้มาเป็นข้อๆแบบเดิม แต่ลงรายละเอียดมากขึ้นยังคงเนื้อหาที่เป็นประโยชน์กับคนทำธุรกิจไว้อย่างครบถ้วนยังแนะนำเหมือนเดิมว่าใครที่ทำธุรกิจหรือแพลนจะทำ ควรหามาอ่าน เพราะเล่มนี้กลั่นมาจากประสบการณ์จริง ไม่อิงทฤษฎี ตำราที่ไหน มันจะเป็นเหมือนทางลัดให้ไม่ต้องเผชิญเอง เหมือนมีพี่เลี้ยง มีที่ปรึกษาคอนช่วยเหลือให้ธุรกิจไปรอด แนะนำทั้งสองเล่มเลยจริงๆ#Mindset จริงอยู่ที่ว่าทุกคนมีสไตล์การบริหารธุรกิจที่แตกต่างกัน แต่เมื่อวิเคราะห์โดยละเอียดแล้วจะพบว่า แนวคิดหลักการทำงานของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จนั้นมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก มีดังต่อไปนี้• ความสำเร็จเกิดจากการให้ ไม่ใช่การรับ - ไม่ใช่แก่กับลูกค้า แต่กับคนรอบตัว ทั้งเรื่องที่จับต้องได้ เช่น ทรัพยากร หรือเงินทุน และสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เช่น โอกาส และไม่ลืมส่งผ่านโอกาสนั้นต่อๆไป รวมถึงไม่ลืมผู้ที่ให้โอกาสแก่เรา• มีใจรักในสิ่งที่ทำมาก่อนเงิน - รักและภูมิใจในสิ่งที่ทำอยู่เสมอจะทำให้เราพร้อมทำงานเพื่อไปให้ถึงผลลัพธ์ที่ตั้งใจไว้• เน้นทำอย่าใส่ใจกับอารมณ์ความรู้สึกมากนัก - เพราะบ่อยครั้งที่อารมณ์จะพาเราไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด ให้ตั้งแนวทางให้แน่วแน่และแค่ลงมือทำ• เตรียมพร้อมกับทุกโอกาสที่เข้ามา - เพราะโอกาสมีไว้สำหรับคนที่พร้อมเท่านั้น• หาคนมาช่วยเรื่องที่ไม่ถนัด - ถ้าเรามีวลาพอที่จะเรียนรู้ก็ต้องทุ่มเวลาให้เต็มที่ แต่ถ้าไม่ก็สู้จ้างคนที่เชี่ยวชาญมาทำเลยดีกว่า การยอมจ่ายนอกจากจะทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีแล้วยังประหยัดเวลาเราอีกด้วย• ล้มเหลวมากกว่าสำเร็จเป็นเรื่องปกติของคนทำธุรกิจ - ไม่มีใครทำอะไรสำเร็จทุกเรื่องโดยไม่เคยสัมผัสความล้มเหลว ให้ลงสนามจริง ทดลองให้มาก ล้มเหลวบ่อย เสียหายทีละน้อยๆ แล้วบทเรียนเหล่านี้จะหล่อหลอมให้เราทำเรื่องที่สำเร็จได้จริงๆเหตุผลต้องห้ามในการทำธุรกิจ• อยากรวยเร็วๆ - เพราะถ้าเราเอาเงินเป็นที่ตั้ง มันจะกระทบคุณภาพของสินค้าและบริการ / การลดต้นทุนการดำเนินการ / การขึ้นราคาขาย นั่นคือเรากำลังแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าธุรกิจเราเอาแต่ได้ ไม่ยอมสียสละ เป็นการทำลายตัวเอง ลูกค้าไม่เชื่อมั่นในที่สุด• ทำแค่เพราะชอบหรือสนใจเรื่องนั้น -ถ้าทำสิ่งที่ชอบ ก็เหมาะในแง่ของการเลือกอาชีพ แต่ไม่พอที่จะทำเป็นธุรกิจเพราะมันมีหลายสิ่งที่ต้องเราต้องดูแลเพื่อให้ธุรกิจไปได้ดี เช่น การบริหารเงินสด การบริหารคน การขาย การจัดการเรื่องต่างๆอีกมากมาย• ทำเพราะชำนาญเรื่องนั้นอยู่แล้ว - ความชำนาญเรื่องหนึ่งจะช่วยให้เราแก้ปัญหานั้นๆได้ แต่ความไม่ชำนาญด้านอื่นจะกลับมาสร้างปัญหาให้เราเอง• เชื่อประโยค “คนอื่นทำได้ เราก็ทำได้” - เพราะเราไม่รู้สาเหตุจริงๆทั้งหมดที่ธุรกิจอื่นไปได้ด้วยดี อาจเป็นเพราะเค้ามีทีมงานที่รู้งานจริง ทำงานกันมาเนิ่นนาน มีฐานลูกค้าตั้งแต่สมัยก่อน มีเงินทุนหนา เติมเท่าไหร่ก็ได้ การกระโจนเข้าไปทำตาม อาจไม่ใช่สิ่งที่น่าทำนัก• อยากทำเพราะเอาชนะคำดูถูก – วางอคติลง และควรมองให้เป็นกลาง ถ้ายังอยากทำธุรกิจจริงๆทั้งๆที่มีแต่คนเตือน ให้เริ่มที่ความคิด แรงงานของเราก่อน ค่อยๆขยับขยาย • ตามกระแส - เพราะมันผ่านมาก็ผ่านไป ไม่ยั่งยืน อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงกับการตามกระแสถ้าไม่รู้ตัวว่าการกระโจนเข้าไป เราอยู่ต้น - กลาง - ท้าย ของกระแส เราคงไม่อยากเข้าไปตอนตลาดวายหรอก• อยากมีอำนาจ ได้รับการยอมรับว่าเป็น CEO เป็นเจ้าของธุรกิจ – มักเกิดกับคนที่ทำงานประจำและรู้สึกอึดอัดอยากเสี่ยงออกไปทำของตัวเองจะได้มีอำนาจบริหารได้เต็มที่ แต่อย่าลืมว่าตอนเป็นพนักงาน เราทำงานเต็มที่ก็แค่ฝ่ายเดียว แผนกเดียว ส่วนงานเดียว แต่การทำธุรกิจ มันมีเรื่องราวมากกว่านั้นที่ต้องกำกับดูแล ถ้าแค่งานประจำยังทำไม่ไหว ก็อาจต้องคิดหนักๆถ้าจะขยับไปทำธุรกิจสิ่งสำคัญที่เรียกว่า วิสัยทัศน์วิสัยทัศน์เป็นการกำหนดความฝัน วาดภาพไว้ในจินตนาการ ว่าในอนาคตอีก X ปี ต่อจากนี้ เราจะไปอยู่ตรงจุดไหน แล้วดึงเอาภาพนั้นมากำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน พร้อมทั้งเลือกกลยุทธ์ และวิธีการเพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมาย เช่นวิสัยทัศน์ - บอลไทยจะไปแข่งบอลโลก ภาพในฝันคือ กองเชียร์ไทยกำลังอยู่ในบรรยากาศสนามแข่งเป้าหมาย – บอลไทยจะไปแข่งบอลโลกภายในปี 2030กลยุทธ์ – ใช้นักเตะชาติอื่นโอนสัญชาติเป็นไทยเพื่อลดข้อเสียเปรียบด้านรูปร่างวิธีการ – ส่งแมวมองไปคัดเด็กที่มีแววจากประเทศอื่นมาอยู่ไทย เพื่อให้ได้โอนสัญชาติต่อไปในอนาคตวิสัยทัศน์ จะใหญ่ขึ้น เล็กลง เปลี่ยนไปจากวันนี้ แค่ไหนไม่สำคัญ ขอให้ชัดเจนว่าเราจะเป็นอะไรในวันนั้น เมื่อเรากำหนดวิสัยทัศน์ได้แล้ว และแบ่งปันกับพนักงาน จะแบ่งได้ 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่มองว่าเราบ้า กลุ่มที่งงๆไม่เชื่อแต่ก็ไม่ปฏิเสธ และกลุ่มที่เชื่อและอินไปกับวิสัยทัศน์นี้ เรื่องแบบนี้ไม่มีใครถูกผิด แต่ก็พอจะทำให้เรารู้ได้ว่าใครพร้อมจะเดินจากเราไปและใครจะเติบโตไปกับเราบริหารงานให้เหมือนบริหารทีมกีฬา การบริหารทีมที่ดี คือการบริหารความเก่งที่แตกต่างกันและหลากหลายของคนหลายคน หลายหน้าที่ จับมาอยู่รวมกันอย่างบลงตัวและสร้างให้ทุกคนเชื่อมั่นในเป้าหมายเดียวกันตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ อย่าทำแบบทีมฟุตบอลที่ส่งกองหน้าลงเล่นทั้งหมด 11 คน ถ้าเจอคนไม่เก่ง ก็มี 3 ทางเลือก คือ ให้โอกาสพัฒนาฝีมือ พักออกจากทีมไปก่อน ฝีมือดีขึ้นแล้วค่อยกลับมา หรือ ตัดออกจากทีมเลย และหากมีโอกาสให้ลองผลัดกันขึ้นมาทำทีมเพื่อสร้างทักษะความเป็นผู้นำรองรับโอกาสที่จะเข้ามา#Skillsets• ถ้ามืดแปดด้านให้ดูรูป A Hole in a Wall – เมื่อเจอสถานการณ์ยาก เหมือนเราเอาตัวเข้าหากำแพงใหญ่ๆที่มองใกล้ๆก็เห็นปัญหาชัดเจน การเอาตัวเองเข้าไปหมกมุ่นกับระดับปฏิบัติการก็จะเจอแต่ปัญหาเต็มไปหมด การแก้ปัญหาที่ดีต้องใช้เวลาไปกับความคิดสร้างสรรค์ เพื่อทำสิ่งที่มีอนาคตที่ดีกว่า จึงควรถอยห่าง เอาสายตาออกจากกำแพง ยิ่งถอยห่าง ยิ่งเห็นภาพใหญ่ ยิ่งเห็นภาพใหญ่ ยิ่งเจอช่องว่าง แล้วจะเจอทางออก• วิธีจัดการความคิด - ทำไมคนเราถึงคิดได้ แต่มักทำไม่ได้ เพราะความคิดเปรียบเสมือนฝนที่ตกลงมา ที่ในแต่ละวันเราคิดเรื่องใหม่ได้ตลอดเวลาและก็ลืมหรือเปลี่ยนไปเรื่องอื่นได้แค่พริบตาเดียว ปัญหาของคนเราจึงไม่ใช่การคิดไม่เป็นแต่เป็นการจัดการกับความคิดไม่เป็นต่างหาก เพราะวันนึงเราคิดอะไรออกมากมาย แต่กลับปล่อยมันไหลเหมือนน้ำฝนที่ไหลทิ้ง เทคนิคการจัดระบบความคิดคือ จดบันทึก ไม่ต้องห่วงลายมือ นึกอะไรออกจดไปก่อน เหมือนรองน้ำฝนไว้ใช้หน้าแล้ง เมื่อจดแล้วก็ลืมได้เลย ลดภาระการจำ เอาพื้นที่สมองไปทำอย่างอื่น แล้วเรี��บเรียงให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อดูว่าจะมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องได้อย่างไรบ้าง จากนั้นความคิดจะถูกกลั่นกรองจนเหลือแต่สิ่งสำคัญที่เราต้องทำเอง เราก็จะโฟกัสกับงานตรงหน้าได้ดีขึ้น• ทำงานอย่างมืออาชีพ – ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างสุดความสามารถ ฝีกฝนเตรียมทั้งกายและใจ ความเข้าใจในงาน ต้องไม่เป็นภาระใครหรือให้ใครมากำกับตลอดเวลา ทำงานไปจนจบหน้าที่แม้รู้ว่าผลจะออกมาไม่เป็นดั่งที่คาดหวังไว้ตอนแรก มืออาชีพจะแยกแยก หน้าที่ เป้าหมาย วิธีการ และผลลัพธ์ได้ โดยไม่เอามาปนรวมกัน และมืออาชีพจะเห็นความสำคัญของการทำงานเป็นทีม เพราะเชื่อว่า ความสำเร็จเกิดขึ้นได้จากทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังช่วยกัน ดังนั้นเคมีของทีมเป็นเรื่องสำคัญ • ทำธุรกิจใช้ต้นทุนอะไรบ้าง - มี 5 อย่าง ซึ่งแตละอย่างใช้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และ ประเภทของธุรกิจ ไม่ได้แปลว่าใครมีต้นทุนเหล่านี้มากกว่าแล้วจะดีกว่า แต่มันเป็นเรื่องของการบริหารจัดการต้นทุนล้วนๆ1. ต้นทุนทางความคิด คิดหาไอเดีย หาโอกาส หาสาเหตุ หาทางเลือก หาวิธีการทำตลาด รักษาลูกค้า2. ต้นทุนทางการเงิน ถ้าเงินน้อยก็เริ่มเล็กๆแล้วค่อยขยาย อย่าทุ่มหมดหน้าตัก3. ต้นทุนความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ เป็นต้นทุนที่สร้างความต่างได้มากที่สุดเพราะต้องสะสมกันมาทั้งชีวิต ถ้ามีติดตัวเยอะ จะนำมาพลิกแพลงใช้กับธุรกิจได้ตลอด4. ต้นทุนด้านแรงกาย แรงใจ (GRIT) ลูกอึด ถึก ทน กัดไม่ปล่อย เจอปัญหาท้อแป๊บเดียวแล้วก็กลับมาต่อได้ ซึ่งต้นทุนนี้ไม่ต้องหาจากไหน ร่างกายเราสร้างได้เอง ใครมีเยอะถือว่าได้เปรียบมาก5. ต้นทุนด้านเวลา เป็นต้นทุนที่ใช้แล้วหมดไป หยุดไม่ได้ เก็บไม่ได้ ถ้าทำธุรกิจแล้วไม่มีเวลาดูแลใกล้ชิด ก็อย่าเพิ่งเริ่มจะดีกว่า • ทักษะการทำงานที่ช่วยให้เรามีงานตลอดไป – ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้เราทำงานที่ไหนก็ได้ เพราะเป็นทักษะเชิงประยุกต์ ซึ่งสอนกันไม่ได้โดยตรง แต่เรียนรู้ได้จากการซึมซับจากประสบการณ์#Strategyกลยุทธ์และวิธีการเป็นสิ่งสำคัญมากในการกำหนดทิศทางการทำงาน • แยกกลยุทธ์และวิธีการให้ออกว่าอะไรคืออะไร - โดยการตอบคำถามนี้ “เราจะมีวิธีการยังไงบ้างที่จะเอาน้ำออกจากแก้วให้หมดโดยที่มือไม่สัมผัสแก้ว” ถ้าวิเคราะห์จัดกลุ่มคำตอบ จะได้แนวทางหลักๆมา 5 ทาง คือ เทออก / ดูดออก / แทนที่ / ปล่อยให้ระเหย / ทำให้น้ำแข็งตัวแล้วดึงออก ซึ่ง 5 แนวทางนี้คือกลยุทธ์ (Strategy) ส่วนวิธีการย่อยๆของแต่ละแนวที่เลือกใช้ เช่น เอียงแก้ว ใช้เข็มฉีดยาดูด ใช้ทิชชูซับออก ใส่ของลงไปในแก้วเพื่อแทนที่น้ำ ฯลฯ เหล่านี้คือวิธีการ (Tactics)• อยู่ใกล้แต่ไม่ได้กิน - ปลาตัวเล็กเหมือน SME ปลาตัวใหญ่เหมือนบริษัทยักษ์ใหญ่ ถ้าเราทำธุรกิจแบบไม่มีความต่างอะไรเลย เราก็จะเหมือนปลาตัวเล็กริมฝั่ง ที่รอรับอาหารอยู่ริมฝั่ง แต่ก็ไม่เคยได้อิ่มท้องเพราะต่อให้มีอาหารโยนมาใกล้ฝั่ง ก็เหมือน Red Ocean ที่ต้องแก่งแย่งกับปลาอื่นๆมากมาย บางครั้งคนให้อาหารมักจะโยนไปไกลๆ Blue Ocean ที่ๆซึ่งมีปลาว่ายอยู่บริเวณนี้ไม่เยอะ เราจะได้เห็นปลากินอย่างมีความสุข ดังนั้นลองเลือกตลาดที่จะลงเล่นดูดีๆ หาจุดที่ผู้ซื้อและผู้ขายมีความพอใจในคุณค่าของกันและกันจะได้ไม่มีใครต้องเหนื่อยมากเกินไป• ทำเลรังนก - หลักการของทำเลรังนกคือเลือกทำเลที่อยู่ในพื้นที่เล็กจนไม่มีใคนสนใจ แต่ใหญ่พอให้เราอยู่ได้ เราอาจไม่จำเป็นต้องเลือกพื้นที่ค้าขายที่มีค่าเช่าแพงๆเสมอไปก็ได้ ให้ลองมาเลือกที่ๆมีค่าเช่าถูกลงมาหน่อย แต่มีจำนวนลูกค้าคงที่สม่ำเสมอ อยู่ในที่ๆความต้องการซื้อมีมากกว่าขาย คู่แข่งน้อยๆ แล้วเน้นการออกแบบให้ร้านใช้งานได้ดีทุกตารางเมตรมีคุณค่า• หลักการพาตัวเองให้เป็น Better you – ต้องรักในสิ่งที่ทำ แค่ชอบทำก็ยังไม่พอ ขยายโอกาสในการใช้ความสามารถของตัวเอง ถ้าไม่รู้ต้องกล้าถาม อย่าเดาเอง เล่นในเกมที่ตัวเองถนัด มองหาโอกาสใหม่ๆตลอด และบริหารเวลาตัวเองให้ยอดเยี่ยม ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องความสัมพันธ์• ผู้นำมีสองบทบาท – คือบทบาทตอนสถานการณ์สงบ (Peacetime CEO) และ ตอนอยู่ในภาวะสงคราม (Wartime CEO) ซึ่งการตัดสินใจของทั้งสองบทบาทจะไม่เหมือนกันเลย แตกต่างกันตามสถานการณ์ที่เผขิญอยู่ ยามสงบเราสามารถสวมบท Peacetime CEO ได้ สามารถมีการทำงานที่เป็นขั้นเป็นตอน เน้นเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร กระจายอำนาจ หาคนเพิ่ม สร้างวัฒนธรรมองค์กร มีแผนสำรอง เป้าหมายคือเพิ่มส่วนแบ่งตลาด แต่พอสถานการณ์เปลี่ยน ผู้นำต้องมาสวมบท Wartime CEO ทุกอย่างก็จะกลับด้าน ยึดอำนาจมาไว้ที่ศูนย์กลาง ใช้ความเด็ดขาดในการนำพาองค์กรให้รอดพ้นวิกฤติ• โลกใหม่ของการแข่งขัน – เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนปล่อยให้เราทำธุรกิจไปคนเดียว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีการแข่งขันในโลกธุรกิจ ซึ่งตอนนี้จะเป็นแบบ แข่งแบบประจันหน้า / แข่งทำสิ่งที่เหนือกว่า / แข่งกับตัวเอง ซึ่งการแข่งขันเหล่านี้เน้นไปที่การแย่ง 4 อย่าง คือ การเข้าถึงลูกค้าก่อน / ความสนใจลูกค้า / เงินในกระเป๋าลูกค้า / ความเชื่อมั่น• 5 ระดับของการเปลี่ยน – ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ใหม่ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนมุมมองต่อเรื่องนั้น / เปลี่ยนแนวทางการทำ / เปลี่ยนคนช่วย / เปลี่ยนปัจจัยแวดล้อม / เปลี่ยนเรื่องที่ทำ#Action• แบรนด์ก็เหมือนคน – ต้องมีภาพจำชัดเจน มีเรื่องราว สื่อสารไปในทางเดียวกันสม่ำเสมอ และปรับตัวไปตามยุคสมัย• โอกาสทางธุรกิจหาได้จากไหน – สังเกตจากสิ่งรอบตัวว่า มันกำลังทำให้เราหงุดหงิดไหม / ทำให้ชีวิตเราลำบากหรือเปล่า / ทำให้เรามีความสุขไหม / ทำให้เราตื่นเต้นอยากทดลองไหม ไอเดียที่ดีคือไอเดียที่ยังไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครทำตลาด • ทำจากสิ่งที่มี - ทุกคนมีจุดขายของตัวเองซ่อนอยู่ • ลูกค้าเปรียบเหมือนปิ่นโต – ลองวิเคราะห์รายชื่อลูกค้าที่มีในมือ แยกประเภทลูกค้าจะได้วางแผนจัดการกับแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม ลูกค้าเก่า : ลูกค้าใหม่ / ลูกค้าซื้อน้อย : ลูกค้าซื้อมาก / ซื้อบ่อย : ซื้อนานๆครั้ง / ซื้อปกติ : ซื้อเพราะโปรโมชั่น / นำเทรนด์ : ตามน้ำ ถ้าไม่จัดการวางแผนระบบการบริหารลูกค้าให้ดี เราอาจเสียโอกาสในการขายและเสี่ยงต่อการเสียลูกค้าให้คู่แข่ง• เรื่องที่ต้องพูด – สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทแม้ว่าจะขัดใจคนบางกลุ่ม ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของคู่แข่งหรือปัจจัยแวดล้อมธุรกิจเรา เรื่องที่เรารู้จริงเพราะเราเป็นเจ้าของงาน ข้อเสนอในการปรับปรุงแนวทางการทำงานให้ดีขึ้น ชื่นชมเพื่อนร่วมงานที่แก้ปัญหาหรือมีผลงานดี• ผู้คุมเกม – โลกนี้มีเจ้าของกิจการ 3 ประเภท คือหนึ่ง คนคิดเก่ง สอง คนทำเก่ง และสาม คนบริหารจัดการเก่ง แต่คนที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีได้ต้องเป็นผู้คุมเกม มีทักษะในการบริหารการจัดการเป็นเลิศ รู้ว่าอะไรควรทำเอง อะไรควรให้คนไหนทำ ทำก่อนทำหลัง ทุกอย่างถูกลำดับไว้อย่างมีแบบแผน ถ้ายังไม่ได้อยู่ตรงนี้ (คนที่สาม) ต้องย้ายตัวเองมาฝั่งนี้ให้ได้ โดยการ จ่ายงานเก่ง ลอยตัวเป็น มองไปที่อนาคต เลือกงานเป็น กล้ารับผลที่จะเกิดขึ้น• ตุ๊กตาหิมะ – จัดพอร์ตสินค้าของเราโดยใช้หลักตุ๊กตาหิมะ คือ เท้าทำหน้าที่เรียกแขก ตัวทำหน้าที่ปั๊มเงิน หัวทำหน้าที่ทำกำไร ของตกแต่งทำหน้าที่สร้างความสนใจ • บทเรียนธุรกิจจากชีวิตจริง - ทำสินค้า/บริการให้ดีที่สุดก่อนเพราะมันจะพาเราไปไกลกว่าที่เราคิด ต้องเข้าใจโมเดลการทำกำไรของธุรกิจ รับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พาตัวเองสู่โลกการขายออนไลน์ ยอมเสียดอกเบี้ยดีกว่าเสียชื่อเสียงหนึ่งครั้ง development non-fiction short-story ...more
Rosenee21 reviews3 followersFollowFollowDecember 26, 2021มาถูกจังหวะกับการที่จะได้ใช้ข้อคิดในหนังสือเล่มนี้ให้เป็นประโยชน์ในการจัดการกับธุรกิจ ชอบตรงที่ผู้เขียนหยิบสิ่งใกล้ตัวมาเปรียบเทียบให้ผู้อ่านเห็นภาพตาม คิดตาม ได้อย่างง่ายดาย เช่น ปิ่นโต รังนก ต้นหญ้า อ่านจบรอบแรกและคงต้องมีต่อ รอบ 2-3 ค่ะ หนังสือดี ยกให้เป็นกูรูทางธุรกิจ ไม่พลาดสักเล่มค่ะ
Nuttawat Kalapat685 reviews48 followersFollowFollowFebruary 16, 2022หนังสือพี่ปิ้กรือ ดีมากๆครับไม่แพ้เล่มแรก
Joe Nuttapong77 reviews2 followersFollowFollowSeptember 15, 2022No insight, worse than the 1st Editionentrepreneur
Boon372 reviews8 followersFollowFollowNovember 28, 2022ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวตามสไตล์พี่ปิ๊คครับ ถ้าทำตามได้ทั้งเล่มรับรองเป็นสุดยอดเจ้าของธุรกิจแน่แน่ครับ ทุกบทอัดแน่นมาจากประสบการณ์จริง พร้อมด้วยข้อคิดต่างๆมากมาย แนะนำให้อ่านทุกเล่มเลยครับ
Taweepong Santipattanakul115 reviews3 followersFollowFollowMay 20, 2025เฉียบกว่าเดิม ภาคต่อของหนังสือธุรกิจที่เฉียบคมและเข้าใจง่ายที่สุดเล่มหนึ่ง เล่มนี้เน้นเรื่องการปรับวิธีคิดและการปรับตัว ทั้ง Mindset Skillset Strategy Action และปิดด้วยบทเรียนธุรกิจจากชีวิตจริง เป็นอะไรที่ล้ำค่ามากๆ 2025
Freeread535 reviews6 followersFollowFollowJune 4, 2023หาความรู้ เชื่อมโยง กับชีวิตเรา สร้างเป็นเรื่องราว แบบของเราเอง