What do you think?
Rate this book
朱颜 - Thai Version #2
จูเหยียน ลำนำกระดูกหยก เล่ม 2
ณ ดินแดนเมฆาอวิ๋นฮวง ซึ่งปกครองโดยตี้จวินแห่งคงซางผู้สืบทอดอำนาจจากทวยเทพ โดยมีฟานหวังหกเผ่าคือ ไป๋ ชิง จื่อ ชื่อ หลาน และเสวียน ร่วมดูแลหกดินแดนใต้อาณัติ ได้ก่อกำเนิดเรื่องราวแห่งวาสนาผูกพันและความขัดแย้งที่โชคชะตาลิขิตไว้…
จูเหยียน จวิ้นจู่เผ่าชื่อในวัยสิบแปด ถูกส่งตัวไปแต่งงานกับหวังแห่งซูซ่าฮาหลู่แต่นางหลบหนีในคืนส่งตัว จนเกิดเหตุพลิกผันครั้งใหญ่ในชีวิต และได้พบสืออิ่งผู้เป็นอาจารย์ของตนอีกครั้งโดยบังเอิญหลังจากไม่ได้พบกันมาห้าปี
สืออิ่ง รู้ดีว่าตนได้ถูกกำหนดว่าจะต้องตายด้วยน้ำมือนาง ทว่าเขามิอาจตัดใจฆ่านางเสียตั้งแต่ยังเด็กเพื่อเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตนเอง ทั้งยังสอนวิชาอาคมให้นาง
กาลเวลาผันผ่าน ภายใต้สัญญาณแห่งดาราวิถีที่บ่งชี้ว่าคงซางจะล่มสลายโดย “มนุษย์เงือกผู้หนึ่ง” สืออิ่ง พยายามทุกวิถีทางที่จะตามหาและสังการบุคคลในคำทำนายผู้นั้น ขณะที่จูเหยียน ยืนหยัดปกป้องมนุษย์เงือกที่นางรัก นี่คือจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างศิษย์อาจารย์ และการนองเลือดระหว่างเผ่าพันธุ์
ภายใต้วงล้อแห่งโชคชะตาที่กำลังดำเนินไปอย่างไม่อาจหยุดยั้ง คำทำนายนี้จะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ และวาสนารักของทั้งคู่จะได้บรรจบหรือพลัดพราก…
จูเหยียน จวิ้นจู่เผ่าชื่อในวัยสิบแปด ถูกส่งตัวไปแต่งงานกับหวังแห่งซูซ่าฮาหลู่แต่นางหลบหนีในคืนส่งตัว จนเกิดเหตุพลิกผันครั้งใหญ่ในชีวิต และได้พบสืออิ่งผู้เป็นอาจารย์ของตนอีกครั้งโดยบังเอิญหลังจากไม่ได้พบกันมาห้าปี
สืออิ่ง รู้ดีว่าตนได้ถูกกำหนดว่าจะต้องตายด้วยน้ำมือนาง ทว่าเขามิอาจตัดใจฆ่านางเสียตั้งแต่ยังเด็กเพื่อเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตนเอง ทั้งยังสอนวิชาอาคมให้นาง
กาลเวลาผันผ่าน ภายใต้สัญญาณแห่งดาราวิถีที่บ่งชี้ว่าคงซางจะล่มสลายโดย “มนุษย์เงือกผู้หนึ่ง” สืออิ่ง พยายามทุกวิถีทางที่จะตามหาและสังการบุคคลในคำทำนายผู้นั้น ขณะที่จูเหยียน ยืนหยัดปกป้องมนุษย์เงือกที่นางรัก นี่คือจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างศิษย์อาจารย์ และการนองเลือดระหว่างเผ่าพันธุ์
ภายใต้วงล้อแห่งโชคชะตาที่กำลังดำเนินไปอย่างไม่อาจหยุดยั้ง คำทำนายนี้จะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ และวาสนารักของทั้งคู่จะได้บรรจบหรือพลัดพราก…
343 pages, Paperback
Published March 28, 2022
1 person is currently reading
15 people want to read
Ratings & Reviews
Friends & Following
Create a free account to discover what your friends think of this book!
Community Reviews
Displaying 1 - 6 of 6 reviews
June 3, 2022
- ไม่แน่ใจว่าปัญหาอยู่ที่เนื้อหานิยายหรือการแปล แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าบทสนทนาของตัวละครทุกตัวมีความคล้ายกัน บางบทสนทนาต้องอ่านซ้ำว่าอันนี้ใครพูดนะ ?
- ตัวละครขาดความลึก บทสนทนาไม่เหมาะสมกับ character
- บางตัวละคร (หรืออาจจะทุกตัวละคร) ไม่คีพ character พระเอกที่ดูเหมือนเลิศก็พูดจาที่อ่านแล้วไร้ราศี นักบวชที่พูดเหมือนตัวอิจฉาในละครไทย ซึ่งยอมรับว่าอาจจะเพราะถูกวางไว้แบบนี้ แต่ก็ดูไร้ชั้นเชิงจนเกินไป
- เนื้อเรื่องชูตัวละครเอกให้ใช้วิชาเก่งมากๆ แต่ความฉลาดนั้นไม่มีเลย หลายครั้งที่นางเอกคิดเองไม่ได้แม้แต่ความรู้สึก ต้องให้ตัวละครอื่นป้อนให้ ซึ่ง….ก็คิดนะว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ ?
อ่านมาสองเล่ม บอกเลยว่าเป็นอีกหนค่งเนื่องที่เสียดายพล็อตเพราะการเล่าเรื่องขาดชั้นเชิงและไม่มีมิติ
ตอนนี้ก็ยังขมวดคิ้วกับการเอาโลกที่มีไม้กายสิทธิ์ ปืนใหญ่ อาวุธวิเศษ พลังเทพ นักบวช มนุษย์เงือก มนุษย์น้ำแข็ง สัตว์วิเศษมารวมกันอยู่
Ahmmm I don’t think so but… It’s OK มั้ง
- ตัวละครขาดความลึก บทสนทนาไม่เหมาะสมกับ character
- บางตัวละคร (หรืออาจจะทุกตัวละคร) ไม่คีพ character พระเอกที่ดูเหมือนเลิศก็พูดจาที่อ่านแล้วไร้ราศี นักบวชที่พูดเหมือนตัวอิจฉาในละครไทย ซึ่งยอมรับว่าอาจจะเพราะถูกวางไว้แบบนี้ แต่ก็ดูไร้ชั้นเชิงจนเกินไป
- เนื้อเรื่องชูตัวละครเอกให้ใช้วิชาเก่งมากๆ แต่ความฉลาดนั้นไม่มีเลย หลายครั้งที่นางเอกคิดเองไม่ได้แม้แต่ความรู้สึก ต้องให้ตัวละครอื่นป้อนให้ ซึ่ง….ก็คิดนะว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ ?
อ่านมาสองเล่ม บอกเลยว่าเป็นอีกหนค่งเนื่องที่เสียดายพล็อตเพราะการเล่าเรื่องขาดชั้นเชิงและไม่มีมิติ
ตอนนี้ก็ยังขมวดคิ้วกับการเอาโลกที่มีไม้กายสิทธิ์ ปืนใหญ่ อาวุธวิเศษ พลังเทพ นักบวช มนุษย์เงือก มนุษย์น้ำแข็ง สัตว์วิเศษมารวมกันอยู่
Ahmmm I don’t think so but… It’s OK มั้ง
July 16, 2023
เล่มสองนี่เหมือนเครื่องติดแล้วเลยค่ะ ส่วนตัวไม่รู้สึกว่ามีพาร์ตที่เยิ่นเย้อเท่าเล่มแรกแล้ว เล่าเรื่องได้เป็นระบบระเบียบมากขึ้น ตรงเข้าประเด็นแบบไม่อ้อมไปมาแล้ว
ความดราม่าเล่มนี้เรียกว่ามาเต็ม เรียกว่าเป็นเฟสหนึ่งของดราม่าแล้วกัน เพราะจากเนื้อเรื่องแล้วเชื่อว่าจะมีเฟสสองสามตามมาแน่ๆ หลักๆ ก็เรื่องการแตกหักของศิษย์อาจารย์ แล้วก็ความเป็นตายของจื่อยวนและเผ่าเงือก ในเล่มนี้เรียกว่าสืออิ่งรับบทหนักมาก ทั้งร่างกายและจิตใจเลย ส่วนตัวจูเหยียนเราเริ่มโอเคกับนางมากขึ้นแล้ว อาจเพราะนางโตขึ้น ความคิดเป็นระบบระเบียบมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งคาแรกเตอร์หัวร้อนและบุ่มบ่ามนะ อ่านแล้วเข้าใจการกระทำของทุกฝ่ายนะ แต่ใจเอนไปทางเผ่าเงือก เราว่าเขาน่าสงสารอะ แค่อยากกอบกู้แผ่นดินคืนมาและปลดแอกความเป็นทาสแค่นั้นเอง แต่ในมุมของสืออิ่งก็เข้าใจอีกเหมือนกันเพราะมีภาระหน้าที่ต่อบ้านเมือง ณ ตอนนี้นักอ่านมุมมองพระเจ้าอย่างเราก็ได้แต่สงสารจื่อยวนมากจริงๆ ส่วนสืออิ่งตอนท้ายเล่มก็ต้องรับผลการกระทำไปอย่างจำฝังใจเลย เรื่องนี้สอนให้อิ่งรู้ว่า เป็นเทพก็ไม่ได้ถูกเสมอไป บางทีก็ต้องวางอีโก้บ้าง และพออ่านถึงตอนท้ายเล่มแล้วนึกย้อนไปถึงตอนที่นางทะเลาะกับอิ่งก็คือ เอ้า นางพูดถูกซะงั้น
อีกตัวละครที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ต้าซือมิ่ง เล่มนี้บทเยอะมาก แรกๆ เหมือนจะดี แต่หลังๆ เหมือนจะออกแนวนักปั่น แถมยังดึงเอาสืออิ่งไปเป็นหมากด้วย อิ่งเจ็บจากสาวไม่พอ ต้องมาเสียใจเพราะต้าซือมิ่งที่รักและเคารพอีก อยากสึกไปปลีกวิเวกคนเดียวดันโดนจับโยนเข้าสนามชิงอำนาจเฉย
น้องซูหมัวในเล่มนี้ยังสลบไสลไม่ได้สติและถูกพาตัวไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ และไม่รู้จะได้กลับมาเจอพี่สาวจูเหยียนอีกมั้ยด้วยเนี่ย ลุ้นมาก ยังไงก็ไม่อยากให้น้องเทิร์นดาร์คเลย ชอบตอนน้องอยู่กับจูเหยียนมากจริงๆ เท่าที่อ่านในเล่มนี้ จากที่เคยปักหมุดไว้ในเล่มหนึ่งว่าน้องเป็นใครน่าจะชัวร์แล้ว เพราะเล่มนี้มีคอนเฟิร์มแล้ว
เรื่องรักสามเส้าเราสามคนก็เรียกว่าเจ็บกันไปแบบจุกๆ เลยในเล่มนี้ ผู้เขียนได้ลงรายละเอียดความรู้สึกจริงๆ และความเป็นมาของทั้งฝั่งอิ่งและยวนแล้ว เหลือจูเหยียนที่ยังไม่ยอมเข้าใจตัวเองอยู่อีกหนึ่ง แต่เอาจริงเราก็ไม่ค่อยเข้าใจความรักของจูเหยียนอยู่ดี ฟีลนางเหมือนอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน แสดงออกว่ารักมากทั้งสองคน เลยติดอยู่ในใจเหมือนกันว่ารักสืออิ่งจริงๆ เหรอ เล่มนี้โดนต้าซือมิ่งจี้ไปหนึ่งกรุบ ไม่รู้จะคิดได้บ้างหรือยัง ในส่วนนี้ ยกให้สืออิ่งเจ็บหนักที่หนึ่งเลย สงสารมาก อกหักซ้ำซ้อนเวอร์ เขาจะได้รักกับนางเอกมั้ยนะชาตินี้ แต่ตอนสารภาพรักก็คือเอ่ออ่านิดหน่อยอยู่นะ แบบรู้สึกตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอ
ส่วนที่รู้สึกว่าแปลกๆ นิดหน่อยคือ เรื่องพลังของจูเหยียน เหมือนจนถึงตอนนี้จะยังไม่ได้เล่าเลยมั้งว่าทำไมนางเอกถึงมีพลังวิเศษเบอร์นั้น แบบเก่งขนาดต้าซือมิ่งและอิ่งบอกว่า ตอนอายุเท่านี้ก็ยังทำไม่ได้ขนาดนี้ อิ่งที่เรียนอาคมมาตั้งแต่อายุห้าขวบตอนนี้เหมือนพลังเทียบเท่าจูเหยียนที่เรียนจริงจังกับอิ่งแค่ 5 ปี ที่เหลือคือฝึกเองล้วนๆ จากหนังสือที่อิ่งให้ จะบอกว่าเพราะอาศัยความโกรธความอะไรเลยระเบีดพลังงี้เหรอ มาดูกันว่าจะมีเล่าในจุดนี้ต่อมั้ย
ความดราม่าเล่มนี้เรียกว่ามาเต็ม เรียกว่าเป็นเฟสหนึ่งของดราม่าแล้วกัน เพราะจากเนื้อเรื่องแล้วเชื่อว่าจะมีเฟสสองสามตามมาแน่ๆ หลักๆ ก็เรื่องการแตกหักของศิษย์อาจารย์ แล้วก็ความเป็นตายของจื่อยวนและเผ่าเงือก ในเล่มนี้เรียกว่าสืออิ่งรับบทหนักมาก ทั้งร่างกายและจิตใจเลย ส่วนตัวจูเหยียนเราเริ่มโอเคกับนางมากขึ้นแล้ว อาจเพราะนางโตขึ้น ความคิดเป็นระบบระเบียบมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งคาแรกเตอร์หัวร้อนและบุ่มบ่ามนะ อ่านแล้วเข้าใจการกระทำของทุกฝ่ายนะ แต่ใจเอนไปทางเผ่าเงือก เราว่าเขาน่าสงสารอะ แค่อยากกอบกู้แผ่นดินคืนมาและปลดแอกความเป็นทาสแค่นั้นเอง แต่ในมุมของสืออิ่งก็เข้าใจอีกเหมือนกันเพราะมีภาระหน้าที่ต่อบ้านเมือง ณ ตอนนี้นักอ่านมุมมองพระเจ้าอย่างเราก็ได้แต่สงสารจื่อยวนมากจริงๆ ส่วนสืออิ่งตอนท้ายเล่มก็ต้องรับผลการกระทำไปอย่างจำฝังใจเลย เรื่องนี้สอนให้อิ่งรู้ว่า เป็นเทพก็ไม่ได้ถูกเสมอไป บางทีก็ต้องวางอีโก้บ้าง และพออ่านถึงตอนท้ายเล่มแล้วนึกย้อนไปถึงตอนที่นางทะเลาะกับอิ่งก็คือ เอ้า นางพูดถูกซะงั้น
อีกตัวละครที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ต้าซือมิ่ง เล่มนี้บทเยอะมาก แรกๆ เหมือนจะดี แต่หลังๆ เหมือนจะออกแนวนักปั่น แถมยังดึงเอาสืออิ่งไปเป็นหมากด้วย อิ่งเจ็บจากสาวไม่พอ ต้องมาเสียใจเพราะต้าซือมิ่งที่รักและเคารพอีก อยากสึกไปปลีกวิเวกคนเดียวดันโดนจับโยนเข้าสนามชิงอำนาจเฉย
น้องซูหมัวในเล่มนี้ยังสลบไสลไม่ได้สติและถูกพาตัวไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ และไม่รู้จะได้กลับมาเจอพี่สาวจูเหยียนอีกมั้ยด้วยเนี่ย ลุ้นมาก ยังไงก็ไม่อยากให้น้องเทิร์นดาร์คเลย ชอบตอนน้องอยู่กับจูเหยียนมากจริงๆ เท่าที่อ่านในเล่มนี้ จากที่เคยปักหมุดไว้ในเล่มหนึ่งว่าน้องเป็นใครน่าจะชัวร์แล้ว เพราะเล่มนี้มีคอนเฟิร์มแล้ว
เรื่องรักสามเส้าเราสามคนก็เรียกว่าเจ็บกันไปแบบจุกๆ เลยในเล่มนี้ ผู้เขียนได้ลงรายละเอียดความรู้สึกจริงๆ และความเป็นมาของทั้งฝั่งอิ่งและยวนแล้ว เหลือจูเหยียนที่ยังไม่ยอมเข้าใจตัวเองอยู่อีกหนึ่ง แต่เอาจริงเราก็ไม่ค่อยเข้าใจความรักของจูเหยียนอยู่ดี ฟีลนางเหมือนอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน แสดงออกว่ารักมากทั้งสองคน เลยติดอยู่ในใจเหมือนกันว่ารักสืออิ่งจริงๆ เหรอ เล่มนี้โดนต้าซือมิ่งจี้ไปหนึ่งกรุบ ไม่รู้จะคิดได้บ้างหรือยัง ในส่วนนี้ ยกให้สืออิ่งเจ็บหนักที่หนึ่งเลย สงสารมาก อกหักซ้ำซ้อนเวอร์ เขาจะได้รักกับนางเอกมั้ยนะชาตินี้ แต่ตอนสารภาพรักก็คือเอ่ออ่านิดหน่อยอยู่นะ แบบรู้สึกตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอ
ส่วนที่รู้สึกว่าแปลกๆ นิดหน่อยคือ เรื่องพลังของจูเหยียน เหมือนจนถึงตอนนี้จะยังไม่ได้เล่าเลยมั้งว่าทำไมนางเอกถึงมีพลังวิเศษเบอร์นั้น แบบเก่งขนาดต้าซือมิ่งและอิ่งบอกว่า ตอนอายุเท่านี้ก็ยังทำไม่ได้ขนาดนี้ อิ่งที่เรียนอาคมมาตั้งแต่อายุห้าขวบตอนนี้เหมือนพลังเทียบเท่าจูเหยียนที่เรียนจริงจังกับอิ่งแค่ 5 ปี ที่เหลือคือฝึกเองล้วนๆ จากหนังสือที่อิ่งให้ จะบอกว่าเพราะอาศัยความโกรธความอะไรเลยระเบีดพลังงี้เหรอ มาดูกันว่าจะมีเล่าในจุดนี้ต่อมั้ย
October 12, 2023
รีวิวรวม 3 เล่มแบบไม่สปอยล์นะคะ
นางเอกเป็นองค์หญิงของเผ่าที่สำคัญ 1 ใน 6 เผ่าแห่งคงซาง เป็นบุตรสาวคนเดียวของผู้นำเผ่า จึงถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจจนเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด จะคิดทำอะไรจึงมักใช้ใจเป็นใหญ่ แถมยังใจร้อน และคิดน้อย (นี่คือนางเอกจริง ๆ นะ) นางถูกส่งให้ไปเป็นศิษย์ของพระเอกที่เป็นนักพรตตั้งแต่ยังเล็ก ทำให้ได้เรียนรู้วิชาอาคมที่พระเอกถ่ายทอดให้ แต่ด้วยความเป็นเด็กสปอยล์ ก็จะไม่ค่อยใส่ใจการเรียนเท่าไหร่ อาศัยว่าเป็นเด็กสาวร่าเริงและเปิดเผยจริงใจ จึงทำให้พระเอกที่อยู่กับความโดดเดี่ยวมาทั้งชีวิตตกหลุมรักเข้าจนได้ แต่นางเอกในวัยแรกรักกลับหลงรักเงือกหนุ่มที่เป็นทาสในเรือน เมื่อเรื่องราวบานปลาย พ่อนางเอกขับไล่ทาสเงือกตนนั้นออกไปจากเมือง นางเอกจึงเศร้าเสียใจและยังเฝ้าตามหาเขามาตลอด ในขณะที่พระเอกผู้เป็นนักพรตผู้เก่งกาจก็ทุ่มสุดตัวในการไล่ฆ่าเผ่าพันธุ์เงือก เพราะมองเห็นชะตาของเมืองผ่านดวงดาวว่าเมืองจะล่มสลายเพราะเผ่าพันธุ์เงือก นางเอกจึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระเอกแบบสู้สุดใจ
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วขัดใจบุคลิกนางเอกมาก เป็นเด็กสปอยล์ขนานแท้ที่ทำทุกอย่างตามอารมณ์และไม่เคยสนใจผลลัพธ์ที่ตามมา แต่ก็ด้วยความที่ทำอะไรก็ทุ่มสุดตัวสุดใจ เลยมองเห็นความจริงใจได้อยู่ ส่วนพระเอกก็เป็นคนเก่งที่รักบ้านเมืองมาก ยอมเอาชีวิตและความรักของตัวเองแลกกับชะตาบ้านเมืองได้ และในเมื่อจุดประสงค์ของคู่พระนางอยู่ในจุดตรงกันข้าม เนื้อเรื่องเกินครึ่งจึงเป็นเรื่องความไม่ลงรอยกันของคู่พระนาง อีกทั้งยังมีความเป็นศิษย์อาจารย์ค้ำคอ นางเอกที่กลัวพระเอกจนหงอ กับพระเอกที่ต้องเก๊กรับบทอาจารย์ผู้เคร่งขรึม เลยหาเคมีระหว่างคู่พระนางแทบไม่เจอเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วช่วงบทที่เขาหวานกันก็มีอยู่นะคะ แต่น้อยมากแหละ
จักรวาลในเรื่องก็กว้างใหญ่มาก ทั้งเผ่าเงือก เผ่าน้ำแข็ง ชนเผ่า 6 เผ่า และเมืองหลวงที่มากับตำนานแห่งบรรพบุรุษผู้สร้างเมือง การใช้ศัพท์ในเรื่องก็ใช้คำทับศัพท์เยอะมาก ทำให้เวลาอ่านต้องตั้งสติและใช้สมาธิพอสมควร พอเจอความรักคู่พระนางที่ส่วนตัวอ่านแล้วไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เลยรู้สึกว่าอ่านได้ช้ามาก ๆ แต่จริง ๆ เรื่องราวของพล็อตและความยิ่งใหญ่ของจักรวาลนี้มันดูน่าสนใจมากอยู่นะคะ
ที่คำนำของเรื่องบอกไว้ว่าเรื่องนี้เป็นปฐมบทของนิยายมหภาค 6 เล่มจบชุดจิ้ง ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นซีรีส์เรื่องกระจกสองนครา คิดว่าจริง ๆ แล้วหากได้อ่านนิยายมหภาคชุดนั้น (ที่น่าจะยังไม่มีใครเอามาแปล) หรือได้ดูซีรี่ส์ อาจจะทำให้อินกับปฐมบทเรื่องนี้มากกว่านี้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ
นางเอกเป็นองค์หญิงของเผ่าที่สำคัญ 1 ใน 6 เผ่าแห่งคงซาง เป็นบุตรสาวคนเดียวของผู้นำเผ่า จึงถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจจนเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด จะคิดทำอะไรจึงมักใช้ใจเป็นใหญ่ แถมยังใจร้อน และคิดน้อย (นี่คือนางเอกจริง ๆ นะ) นางถูกส่งให้ไปเป็นศิษย์ของพระเอกที่เป็นนักพรตตั้งแต่ยังเล็ก ทำให้ได้เรียนรู้วิชาอาคมที่พระเอกถ่ายทอดให้ แต่ด้วยความเป็นเด็กสปอยล์ ก็จะไม่ค่อยใส่ใจการเรียนเท่าไหร่ อาศัยว่าเป็นเด็กสาวร่าเริงและเปิดเผยจริงใจ จึงทำให้พระเอกที่อยู่กับความโดดเดี่ยวมาทั้งชีวิตตกหลุมรักเข้าจนได้ แต่นางเอกในวัยแรกรักกลับหลงรักเงือกหนุ่มที่เป็นทาสในเรือน เมื่อเรื่องราวบานปลาย พ่อนางเอกขับไล่ทาสเงือกตนนั้นออกไปจากเมือง นางเอกจึงเศร้าเสียใจและยังเฝ้าตามหาเขามาตลอด ในขณะที่พระเอกผู้เป็นนักพรตผู้เก่งกาจก็ทุ่มสุดตัวในการไล่ฆ่าเผ่าพันธุ์เงือก เพราะมองเห็นชะตาของเมืองผ่านดวงดาวว่าเมืองจะล่มสลายเพราะเผ่าพันธุ์เงือก นางเอกจึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระเอกแบบสู้สุดใจ
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วขัดใจบุคลิกนางเอกมาก เป็นเด็กสปอยล์ขนานแท้ที่ทำทุกอย่างตามอารมณ์และไม่เคยสนใจผลลัพธ์ที่ตามมา แต่ก็ด้วยความที่ทำอะไรก็ทุ่มสุดตัวสุดใจ เลยมองเห็นความจริงใจได้อยู่ ส่วนพระเอกก็เป็นคนเก่งที่รักบ้านเมืองมาก ยอมเอาชีวิตและความรักของตัวเองแลกกับชะตาบ้านเมืองได้ และในเมื่อจุดประสงค์ของคู่พระนางอยู่ในจุดตรงกันข้าม เนื้อเรื่องเกินครึ่งจึงเป็นเรื่องความไม่ลงรอยกันของคู่พระนาง อีกทั้งยังมีความเป็นศิษย์อาจารย์ค้ำคอ นางเอกที่กลัวพระเอกจนหงอ กับพระเอกที่ต้องเก๊กรับบทอาจารย์ผู้เคร่งขรึม เลยหาเคมีระหว่างคู่พระนางแทบไม่เจอเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วช่วงบทที่เขาหวานกันก็มีอยู่นะคะ แต่น้อยมากแหละ
จักรวาลในเรื่องก็กว้างใหญ่มาก ทั้งเผ่าเงือก เผ่าน้ำแข็ง ชนเผ่า 6 เผ่า และเมืองหลวงที่มากับตำนานแห่งบรรพบุรุษผู้สร้างเมือง การใช้ศัพท์ในเรื่องก็ใช้คำทับศัพท์เยอะมาก ทำให้เวลาอ่านต้องตั้งสติและใช้สมาธิพอสมควร พอเจอความรักคู่พระนางที่ส่วนตัวอ่านแล้วไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เลยรู้สึกว่าอ่านได้ช้ามาก ๆ แต่จริง ๆ เรื่องราวของพล็อตและความยิ่งใหญ่ของจักรวาลนี้มันดูน่าสนใจมากอยู่นะคะ
ที่คำนำของเรื่องบอกไว้ว่าเรื่องนี้เป็นปฐมบทของนิยายมหภาค 6 เล่มจบชุดจิ้ง ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นซีรีส์เรื่องกระจกสองนครา คิดว่าจริง ๆ แล้วหากได้อ่านนิยายมหภาคชุดนั้น (ที่น่าจะยังไม่มีใครเอามาแปล) หรือได้ดูซีรี่ส์ อาจจะทำให้อินกับปฐมบทเรื่องนี้มากกว่านี้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ
Read
September 4, 2023# จูเหยียน ลำนำกระดูกหยก (เล่ม 1-3)
เปิดอ่านบทแรก รู้สึกคุ้นชื่อเมือง ชื่ออะไรต่าง ๆ จึงนึกได้ถึงซีรี่ส์กระจกสองนคราที่เคยดู ใช่ค่ะ...จูเหยียนเป็นเรื่องราวก่อนหน้ากระจกสองนครา ซึ่งมีเรื่องราวยาวนานเป็นมหากาพย์แฟนตาซีหลายภาค แต่เข้าใจว่ายังไม่มีแปลเป็นหนังสือนิยาย หรืออาจมีแต่เราไม่รู้
การดูกระจกสองนครามาก่อน แม้จะสปอยล์จูเหยียนบางจุด แต่มีข้อดีเยอะกว่า คือช่วยให้เราเห็นภาพฉากหลังของเรื่องชัดเจน เข้าใจสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ชนชั้น และการปกครองของอาณาจักรสมมตินี้ได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกัน ข้อมูลที่เก็บเกี่ยวได้จากจูเหยียน ก็ช่วยเติมเต็มความเข้าใจในบางฉากที่ปรากฏในซีรี่ส์กระจกสองนคราให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ในส่วนของนิยายจูเหยียน ส่วนตัวอ่านได้สนุกมาก มีหลากรสทั้งสุข หน่วง เศร้า ลุ้น ตื่นเต้น ตัวละครมีมิติ ไม่แบน ทุกคนมีหน้าที่ มีทางเลือก มีข้อจำกัด จนน่าเห็นใจไปหมด ผู้แปลแปลได้เข้าใจไม่ยาก ทั้งที่เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
จุดติดขัดหลักใหญ่อยู่ที่นิสัยนางเอก ในช่วงแรก ๆ ไม่ตรงจริตอย่างแรง ดีที่เรื่องราวแวดล้อมอื่น ๆ มีความน่าสนใจ แม้เรื่องจะมีวน ๆ อยู่บ้าง แต่สารที่สื่อออกมาแข็งแรง ดึงดูดใจให้อ่านต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม คิดว่าไม่น่าเหมาะกับนักอ่านที่ไม่ชอบลงรายละเอียด และคำศัพท์ไม่คุ้น เพราะมีอยู่เยอะจริง ๆ
มาพูดถึงซีรี่ส์จูเหยียนที่เพิ่งจบไปไม่นานกันบ้าง ส่วนตัวคิดว่าทำได้ในขั้นดี โดยเฉพาะการปรับบทนางเอกให้เป็นนางเอก และมีฉากดึงอารมณ์ร่วมหลายฉาก แต่หากเทียบกับนิยายแล้ว มีหลายจุดที่ต่างออกไป โดยเฉพาะตอนจบแบบอิหยังวะ ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมของซีรี่ส์แนวนี้ จบให้สงสัย จบให้ค้างคา บทสรุปของนิยายจึงกระจ่างแจ้งกว่า และเหมือนว่าเนื้อหาในเล่มสามของนิยายจะถูกตัดไปซะเยอะ แต่รวม ๆ แล้วก็ยังจัดว่าอ่านก็สนุก ดูก็สนุกค่ะ :)
เปิดอ่านบทแรก รู้สึกคุ้นชื่อเมือง ชื่ออะไรต่าง ๆ จึงนึกได้ถึงซีรี่ส์กระจกสองนคราที่เคยดู ใช่ค่ะ...จูเหยียนเป็นเรื่องราวก่อนหน้ากระจกสองนครา ซึ่งมีเรื่องราวยาวนานเป็นมหากาพย์แฟนตาซีหลายภาค แต่เข้าใจว่ายังไม่มีแปลเป็นหนังสือนิยาย หรืออาจมีแต่เราไม่รู้
การดูกระจกสองนครามาก่อน แม้จะสปอยล์จูเหยียนบางจุด แต่มีข้อดีเยอะกว่า คือช่วยให้เราเห็นภาพฉากหลังของเรื่องชัดเจน เข้าใจสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ชนชั้น และการปกครองของอาณาจักรสมมตินี้ได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกัน ข้อมูลที่เก็บเกี่ยวได้จากจูเหยียน ก็ช่วยเติมเต็มความเข้าใจในบางฉากที่ปรากฏในซีรี่ส์กระจกสองนคราให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ในส่วนของนิยายจูเหยียน ส่วนตัวอ่านได้สนุกมาก มีหลากรสทั้งสุข หน่วง เศร้า ลุ้น ตื่นเต้น ตัวละครมีมิติ ไม่แบน ทุกคนมีหน้าที่ มีทางเลือก มีข้อจำกัด จนน่าเห็นใจไปหมด ผู้แปลแปลได้เข้าใจไม่ยาก ทั้งที่เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
จุดติดขัดหลักใหญ่อยู่ที่นิสัยนางเอก ในช่วงแรก ๆ ไม่ตรงจริตอย่างแรง ดีที่เรื่องราวแวดล้อมอื่น ๆ มีความน่าสนใจ แม้เรื่องจะมีวน ๆ อยู่บ้าง แต่สารที่สื่อออกมาแข็งแรง ดึงดูดใจให้อ่านต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม คิดว่าไม่น่าเหมาะกับนักอ่านที่ไม่ชอบลงรายละเอียด และคำศัพท์ไม่คุ้น เพราะมีอยู่เยอะจริง ๆ
มาพูดถึงซีรี่ส์จูเหยียนที่เพิ่งจบไปไม่นานกันบ้าง ส่วนตัวคิดว่าทำได้ในขั้นดี โดยเฉพาะการปรับบทนางเอกให้เป็นนางเอก และมีฉากดึงอารมณ์ร่วมหลายฉาก แต่หากเทียบกับนิยายแล้ว มีหลายจุดที่ต่างออกไป โดยเฉพาะตอนจบแบบอิหยังวะ ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมของซีรี่ส์แนวนี้ จบให้สงสัย จบให้ค้างคา บทสรุปของนิยายจึงกระจ่างแจ้งกว่า และเหมือนว่าเนื้อหาในเล่มสามของนิยายจะถูกตัดไปซะเยอะ แต่รวม ๆ แล้วก็ยังจัดว่าอ่านก็สนุก ดูก็สนุกค่ะ :)
September 11, 2024
นี่คือกลับมาอ่านรอบสองนะ รอบแรกอ่านจบก็ทัชใจเรามากแล้ว เป็นอีกเรื่องที่อยู่ในใจมาตลอด วันนี้มาอ่านอีกรอบ สงสัยตัวเองอยู่ ว่าเรทติ้งทำไมไม่หวือหวา แต่เรียกได้ว่าเราถูกจริตกับเรืองนี้จริง ๆ เล่มนี้การใช้ภาษา..คือละเอียดอ่อนมากกกก ตอนอ่านเล่ม 1 ก็ไปไวมาก ฉากสงครามคือลุ้นมาก สนุกมากนะ เผลอแป็บเดียวเราก็อ่านจะจบเล่มแล้ว พอมาเล่มนี้ ก็อ่านไวเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือฉากดราม่ามาเต็มมมม เราชอบการบรรยายความรู้สึกของจูเหยียน มันทัชใจเรามาก "ถ่ายทอดความคิดถึงใต้ตะเกียง จึ่งรู้ว่าเศษเสี้ยวความยินดีที่ได้พบ มิอาจลบความระทมเหลือแสน" อ่านจบประโยคนี้คือแบบ น้ำตาเราไหลเลยนะ หัวใจที่แหลกสลายที่เป็นคนทำให้อาจารย์ตาย ทำให้นางมีแรงมุ่งมั่นที่จะใช้พันธะโลหิตวิญญาณดาวเพื่อทำให้อาจารย์กลับมามีชีวิตอีกครั้ง 32 วันแห่งการทุ่มเททั้งกายใจ สุดท้ายอาจารย์ก็ฟื้นขึ้นมา แต่นางก็ต้องจากไปอีกเพราะคำสัญญาที่ให้ไว้กับต้าซือมิ่ง เจ็บปวด บอกเลย เล่มนี้เจ็บปวดมาก ตั้งแต่ยวนตาย เราก็ได้ร้องไห้ไม่พักเลย
May 5, 2022
นางเอกโตขึ้น เริ่มไม่ปากไวละ หงุดหงิดน้อยลง
ช่วงที่สืออิ่งต้องออกจากตำแหน่งต้าเสินกวนน่าสงสารมาก คงคิดเหมือนเสินกวนคนอื่นว่าคนแบบนี้ก็บาดเจ็บได้นะ
ช่วงท้ายๆที่เริ่มรู้ใจตัวเอง แต่ดันมีเหตุที่ทำให้อยู่ข้างกันไม่ได้ เหมือนทำร้ายกันและกันโดยความจำเป็น ก็น้ำตาซึม
อ่านได้เพลินๆ สเกลเรื่องกลางๆค่อนใหญ่ ไม่ได้ลงรายละเอียดมาก แต่อ่านได้ย่อยง่าย ไม่ได้ซับซ้อนอะไรค่ะ
ช่วงที่สืออิ่งต้องออกจากตำแหน่งต้าเสินกวนน่าสงสารมาก คงคิดเหมือนเสินกวนคนอื่นว่าคนแบบนี้ก็บาดเจ็บได้นะ
ช่วงท้ายๆที่เริ่มรู้ใจตัวเอง แต่ดันมีเหตุที่ทำให้อยู่ข้างกันไม่ได้ เหมือนทำร้ายกันและกันโดยความจำเป็น ก็น้ำตาซึม
อ่านได้เพลินๆ สเกลเรื่องกลางๆค่อนใหญ่ ไม่ได้ลงรายละเอียดมาก แต่อ่านได้ย่อยง่าย ไม่ได้ซับซ้อนอะไรค่ะ
This entire review has been hidden because of spoilers.
Displaying 1 - 6 of 6 reviews